แชร์

22/2 แก้แค้นสิบปีก็ไม่สาย

ผู้เขียน: แอปเปิลโซดา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-18 16:28:29

“เจ้าต้องเข้าใจว่าข้าไม่อาจสบายใจได้ ตราบใดที่มีเจ้า” หย่งสวินกล่าวอย่างลำบากใจ แต่ดวงตากลับเฝ้ารอ ในใจคงจินตนาการวันที่ได้ฆ่าฉู่ซีเย่มานับครั้งไม่ถ้วน

“คนที่คิดจะฆ่าข้า ไม่ตายดีสักคน” ฉู่ซีเย่ไม่กลัวว่าหย่งสวินจะเอาดาบแทงตน เพราะคนเหลี่ยมจัดอย่างหย่งสวิน ไม่เล่นในเกมที่ตกเป็นรอง

“เจ้าต้องมีชีวิตอยู่นานๆ หน่อย จะได้รู้ว่าข้าจะได้ตายดีหรือไม่ แต่น่าเสียดาย คงไม่มีวันนั้นแล้ว” หย่งสวินยกดาบขึ้น ก่อนจะฟันใส่แขนขวาจนขาด เขาส่งเสียงร้องโหยหวน

“ช่วยข้าด้วย! ต้าเป่ยอ๋องจะสังหารข้า!”

ประตูท้องพระโรงเปิดออกในยามรุ่งสาง ฉู่ซีเย่ถูกคุมตัวออกมามุ่งหน้าไปยังลานประหารในโทษฐานลอบทำร้ายประมุขของประเทศ ความรีบร้อนในการประหารเขาทันที เป็นความต้องการของหย่งสวิน

คลื่นลมในวังเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างมั่นใจแน่แล้วว่าหย่งสวินจะได้เป็นฮ่องเต้องค์ต่อไป ด้วยไท่จื่อก็สิ้นแล้ว หย่งมู่ที่กลัวตายก็รีบหอบผ้าหนีเอาตัวรอด ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้ากังขาหรือคัดค้านแม้เพียงนิดที่หย่งสวินคิดจะสังหารฉู่ซีเย่

อย่างไรก็ตาม การประหารใช่จะทำได้เลยในทันที เพราะความวุ่นวายจากทางฝั่งของคนสนับสนุนไท่จื่อก็ไม่ยินยอมเช่นกัน เพราะพวกเขากำลังจะถูกคิดบัญชีในภายหลัง จึงดิ้นรนสุดชีวิตครั้งสุดท้ายเพื่อพลิกเกม

และการพยายามขัดขวางไม่ให้หย่งสวินสังหารฉู่ซีเย่ เป็นทางเลือกหนีตายที่มาได้จังหวะพอดิบพอดี

นอกจากนี้ คนสนับสนุนฝ่ายองค์ชายหย่งมู่ก็มารวมวงด้วย ดังนั้นในลานประหารจึงเต็มไปด้วยผู้คนเรือนหมื่น จนการประหารเต็มไปด้วยความทุลักทุเล สุดท้ายต้องพาฉู่ซีเย่เข้ามาขังไว้ในคุกก่อน

ถึงยังงั้นหย่งสวินก็ยังดันทุรังที่จะฆ่าฉู่ซีเย่ให้ได้

“หาวิธีจัดการคนพวกนั้นให้ได้ ข้าให้เวลาครึ่งชั่วยาม”

“ฝ่าบาท ก็แค่สังหารต้าเป่ยอ๋องก็พอไม่ใช่หรือ ส่งนักฆ่าไปก็สิ้นเรื่อง”

“ไม่ได้ มันต้องตายในลานประหาร”

ไม่ว่ายังไง หย่งสวินอยากจะประหารฉู่ซีเย่ในลานเท่านั้น เพราะหากเขาทำในที่ลับตาคน คนจะครหาว่าเขาลอบฆ่าฉู่ซีเย่ รวมทั้งทางเหนือคงจะไม่พอใจและยกทัพลงมารบรา ดังนั้นเขาถึงได้ต้องสละแขนขวาเพื่อเป็นข้ออ้างขนาดนี้

“รีบไปจัดการคนพวกนั้นซะ!” หย่งสวินตะโกนไล่ เขาดื่มสุราเพื่อระงับอาการปวดของบาดแผล มือสั่นจับกาสุรากรอกใส่ปากแล้วขว้างทิ้ง

เขาข่มกลั้นความเจ็บจนใบหน้าเหยเก ดวงตาแดงก่ำราวกับปีศาจ

เวลานั้นขันทีหน้าห้องรายงานว่าหมอหลวงที่ให้ไปตามมาดูแผลแล้ว เขาจึงลูบหน้าลูบตา แล้วคงความเยือกเย็นของใบหน้าไว้

“ข้าปวดแผล ให้ยาลดปวดที”

หมอหลวงกล่าว “แต่ยาแก้ปวดให้มากๆ อาจเกิดภาพหลอนได้นะพ่ะย่ะค่ะ”

หย่งสวินตะคอก “เอามาให้ข้า!”

“พ่ะย่ะค่ะ!” หมอหลวงรีบเอายาออกมาให้หย่งสวินกิน ครั้นได้ยามาแล้วก็รีบกรอกใส่ปาก หนึ่งเค่อต่อมาเขาไม่รู้สึกปวดแล้ว แต่ร่างกายคล้ายไม่ใช่ร่างกายของเขา ด้วยรู้สึกว่าบางเบายิ่ง

กระนั้นต่อให้ง่วงนอนเพียงใด หย่งสวินก็ไม่ขึ้นเตียงไปนอน เขายังคงนั้นอยู่ที่โต๊ะ เฝ้ามองความเพดานด้านบนราวกับโง่งม แต่แล้วเขากลับเห็นภาพของหย่งหยวนหยวนอันแสนน่าสยดสยองจนต้องลนลานตกจากโต๊ะ

ครั้นลงมาถึง เขาถึงได้รับรู้ว่าที่แท้เป็นแค่ภาพหลอน

“ไม่มีอะไร ไม่มีอะไรทั้งนั้น” หย่งสวินกลืนน้ำลาย เขาพยายามต่อสู้กับตนเอง ก่อนจะกระเสือกกระสนขึ้นไปนั่งที่เดิม แต่ครู่ต่อมาเขาก็เห็นหย่งหยวนหยวนอีก ทั้งยังตามหลอกหลอนจนเขานั่งไม่ติดที่ วิ่งพล่านไปทั่วห้องพร้อมตะโกนเรียกขันที

“ใครก็ได้เข้ามาหาข้าที!”

“ฝ่าบาท เกิดอันใดขึ้น”

“ตรงนั้น! ตรงนั้นมีหย่งหยวนหยวน รีบพามันไปฆ่าทิ้ง!”

ขันทีมองเห็นเพียงความว่างเปล่า “ฝ่าบาท ไม่มีผู้ใดทั้งนั้นน่ะพ่ะย่ะค่ะ”

“บัดซบ! ตาบอดหรือย่างไร ดี ดี ข้าจะฆ่าให้หมด!”

“ฝ่าบาท!” ขันทีผวาเฮือก เมื่อหย่งสวินคว้าดาบขึ้นมาฟันมั่วไปทั่วห้อง พร้อมไล่กวดหลังฆ่าคนโดยไม่เลือกหน้า

“ฝ่าบาทเสียสติแล้ว!”

ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้หย่งสวินอีก เขานอนพิงบันไดขึ้นเตียงด้วยสภาพที่น่าอเนจอนาถ ลมหายใจขึ้นลงดังแรง หย่งสวินกำด้ามดาบไว้แน่น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์ยาแก้ปวดหรือไม่ แต่ตอนนี้เขาขยับตัวไม่ได้ ลมหายใจก็ติดขัดยิ่ง

“ขันที...” เขาส่งเสียงเรียก แต่ไม่มีใครเข้ามาสักคน หย่งสวินคลานไปบนพื้น เขาเริ่มหายใจไม่ออกจึงดีดดิ้นจนหน้าตาแดงคล้ำ

“ช่วย...”

หย่งสวินเห็นคนเปิดประตูเข้ามา ชายกระโปรดประณีตพร้อมรองเท้าปักลายผีเสื้อราวกับมีชีวิตจริง

“อาเยี่ยน...”

“เสด็จพี่” หย่งเยี่ยนเข้ามาคุกเข่าข้างหย่งสวิน นางก้มหน้าลงเพื่อฟังเขาพูด

“ช่วยข้าด้วยอาเยี่ยน...”

“เสด็จพี่ ท่านลืมแล้วหรือว่าเมื่อสิบปีก่อนเคยทำอะไรไว้กับข้า” ภาพเก่าหวนกลับมา หย่งเยี่ยนเคยนอนบนพื้นแล้วร้องขอความช่วยเหลือจากหย่งสวินมาก่อน “ตอนนั้นท่านสะบัดมือทิ้งอย่างไม่ไยดี”

“อะ...อาเยี่ยน...ขอโทษ”

“สายไปแล้วเสด็จพี่ ลูกของข้าไม่กลับคืนมาเพราะคำขอโทษเพียงคำเดียว ดังนั้นท่านจงชดใช้ด้วยความตายเถอะ”

หย่งเยี่ยนลุกขึ้น รอยยิ้มอันงดงามของนางแตะแต้มบนใบหน้า การแก้แค้นนี้ใช้เวลาสิบปี

หย่งเยี่ยนเร่งรีบเดินทางไปเพื่อพาต้าเป่ยอ๋องออกมา ใบหน้านางเคร่งเครียดมากที่ทำแผนการล่าช้าจนทำให้ผู้มีพระคุณต้องอยู่ในคุกนานหนึ่งชั่วยาม

ตั้งแต่ครั้งนั้นที่ฉู่ซีเย่ช่วยชีวิตนางไว้ที่จิงหลิงทั้งๆ ที่ไม่มีผู้ใดเหลียวแล หย่งเยี่ยนได้ภักดีต่อฉู่ซีเย่มาตลอด ไม่ว่าเขาต้องการให้นางทำอะไร นางไม่เคยปฏิเสธ ดังนั้นสามปีมานี้ สามารถพูดได้ตลอดว่านางทำงานให้ฉู่ซีเย่มาตลอด

แรกทีเดียวฉู่ซีเย่คล้ายอยากจะกำจัดหย่งฉีเพื่อล้างแค้นเท่านั้น แต่เขาได้พบกับความเน่าเฟะของระบบบริหาร ซึ่งหากไม่จัดการให้ดี คนรับเคราะห์ต่อไป ต้องเป็นชาวบ้านตาดำๆ

ฉู่ซีเย่แล้วอยากทุบโครงสร้างล้างระบอบเก่า

เขาแก้แค้นไปด้วย กำจัดอำนาจเดิมและจัดระบบระเบียบสังคมใหม่

ในตอนนั้นเอง ไท่จื่อซึ่งคิดว่าฉู่ซีเย่จับมือกับหย่งสวินเพื่อมาโค่นล้มตนก็ไม่อาจอยู่เฉย ตัดสินใจสังหารหย่งฉีเพื่อขึ้นครองราชย์ แต่เคราะห์ไม่ดี ถูกหย่งสวินจัดการเสียก่อน

วินาทีนั้นหย่งสวินคงนึกว่าได้ทุกอย่างมาครองแล้ว แต่หย่งเยี่ยนรอคอยมาสิบปีเช่นกัน

และนางแก้แค้นหย่งสวินได้สำเร็จ

“ต้าเป่ยอ๋อง ขออภัยที่ทำให้ท่านได้รับความลำบาก” หย่งเยี่ยนจะคุกเข่าขอโทษในความชักช้าของนาง แต่ฉู่ซีเย่ห้ามไว้

“ลุกขึ้นเถอะ ข้าจะกล้าให้จักรพรรดินีเช่นเจ้ามาคุกเข่าได้อย่างไร”

“ต้าเป่ยอ๋อง ท่านพูดเช่นนี้ได้อย่างไร” นางหน้าซีด ไม่กล้ารับ

“ข้าไม่ได้พูด โหรหลวงได้ทำนายแล้วไม่ใช่หรือว่าผู้สืบทอดคนต่อไปของต้าหย่งจะเป็นจักรพรรดินี”

“ต้าเป่ยอ๋อง ข้า...”

“ข้าแก้แค้นคนที่ต้องการหมดแล้ว ได้เวลากลับไปหาอี้เหยาแล้ว หย่งเยี่ยน อนาคตต้าหย่งขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว ข้ามั่นใจในตัวเจ้า”

นัยน์ตาหย่งเยี่ยนมั่นคงยิ่ง นางคุกเข่าลงคำนับเขาด้วยความศรัทธา “ต้าเป่ยอ๋อง ข้าหย่งเยี่ยนให้คำมั่นสัญญา จะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง”

“ไม่ทำให้ราษฎรผิดหวังก็พอ”

ยามอิ๋น (ตี 3 - ตี5) หมู่บ้านชาวนาเริ่มทำงานกันแล้ว แต่วันนี้ไม่ใช่งานในนาข้าวเรือกสวน ทว่าเป็นงานแต่งงานของหนุ่มสาวด้านล่างเขา

ช่วงเกือบครึ่งปีที่มาอาศัยในอำเภอซานถง เหยาอี้เหยาได้ผูกมิตรกับท่านลุงท่านป้าชาวนาไม่น้อย วันนี้ทางฝั่งบ้านอาอี้ได้ฤกษ์งามยามดี จะตบแต่งสะใภ้เข้ามาในสกุล นางเลยลงไปช่วยเตรียมงานแต่เช้ามืด

เหยาอี้เหยาสวมชุดสีเรียบๆ ทรงผมถูกถักแล้วปล่อยมาพาดไหล่ นางพูดคุยสนุกสนานกับกลุ่มอาอี้ ก่อนจะอาสาไปเก็บไช่โป้วหน้าบ้านมาตุ๋นน้ำแกงไก่ เนื่องจากบ้านอาอี้ไม่ได้ปลูกไว้ ครั้นจะให้คนไปซื้อมาจากตลาดตอนนี้ก็เกรงจะไม่ทันการ

ทว่าเมื่อเดินขึ้นเขามาได้ไม่นาน นางก็รู้สึกได้ว่ามีคนเดินตามหลังมา จังหวะการเดินของเขาช่างคุ้นเคยจนนางต้องหันกลับไปมอง

ครั้นเห็นว่าเป็นฉู่ซีเย่ นางก็ทิ้งตะกร้าแล้ววิ่งเข้าสู่อ้อมกอดของเขา

"ข้ากลับมาแล้ว"

นางกอดเขาแน่น "ยินดีต้อนรับกลับบ้านเจ้าค่ะ"

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   23/1 ความรักที่สุกงอม

    เดินทางจากอำเภอซานถงถึงแดนเหนือใช้เวลาสองสัปดาห์ เหยาอี้เหยาตกลงใจใช้ชีวิตอยู่กับฉู่ซีเย่ บางวันหวานชื่น บางวันรักร้อนแรง หรือทะเลาะกันบ้าง เพราะนางอยากออกไปทำงานสำรวจสำมโนครัวแบบเมื่อก่อน เพราะอยู่เฉยๆ เบื่อเกินไปฉู่ซีเย่คัดค้านหัวชนฝา เขาไม่อยากให้นางออกไปทำงานข้างนอก กลัวว่าจะมีคนมาชมชอบนาง ก็นางงามขนาดนี้ มีแต่คนตาบอดเท่านั้นที่ไม่มอง“แน่ใจนะว่าท่านไม่อนุญาต”“แน่นอน”“งั้นคืนนี้ท่านไปนอนที่อื่น”ฉู่ซีเย่ลุกพรึ่บ “ไม่ได้”“ได้ ก็นี่ห้องข้า เสียก็แต่ว่าท่านจะยึดคืน” เหยาอี้เหยาลุกขึ้น นางคว้าหมอนและผ้าห่มของฉู่ซีเย่ออกไปทิ้งด้านนอกห้อง“อี้เหยา” ฉู่ซีเย่ตามไปเก็บแล้ววางที่เดิม ก่อนจะประกาศก้อง “คืนนี้ข้าจะนอนที่นี้”“ท่านอ๋อง ท่านไม่สิทธิ์รุกล้ำพื้นที่นะ ยิ่งเจ้าของไม่อนุญาต ยิ่งไม่ได้”“แล้วไง ใครสน” ฉู่ซีเย่นั่งลงบนเตียง เขาเอนนอนเอาแขนชันศีรษะ “ข้าพอใจจะนอนที่นี้”“ก็ได้ งั้นข้าจะไปนอนที่อื่น” เหยาอี้เหยาเดินไปที่ประตู ฉู่ซีเย่ดีดตัวลุกขึ้นมาขวาง เขายืนขวางประตู ก่อนจะถอนหายใจ เขายอมถอยให้นาง“เอาล่ะ พอก่อน มาคุยกันดีๆ เถอะ”“ก็ได้” เหยาอี้เหยาเห็นเขายอมถอย นางก็ถอยหนึ่งก้าว “

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   23/2 ความรักที่สุกงอม

    ฤดูใบไม้ผลิของแดนเหนืออบอุ่นและงดงาม ต้นไม้ที่หลับใหลในฤดูเหมันต์ผลิใบอ่อน แสงแดดลอดเงาผ่านช่องว่างต้นถั่วแดงเข้ามาเป็นลำแสง ต้นถั่วแดงหงฉู่โตวเป็นไม้ยืนต้นที่ใช้เวลาหลับใหลในฤดูหนาวเช่นกัน แต่เพราะมันเติบโตในแดนใต้ที่อากาศอุ่น ก่อนจะถูกขุดล้อมแล้วย้ายขึ้นมาที่เมืองโจวอี้ ต้นถั่วแดงจึงเจริญเติบโตขึ้นมาก เหยาอี้เหยามักจะมารดน้ำต้นถั่วด้วยตนเอง นางจำได้ว่าช่วงสามปีแรก ต้นถั่วโตช้ายิ่ง จนกระถางเล็กๆ ยังโตไม่เต็ม ครั้นลงดินที่อำเภอซานถง เพียงไม่นานก็สูงเอาๆ แต่พอมาคิดดู เหยาอี้เหยาคิดว่าสาเหตุที่ต้นถั่วโตช้าตอนอยู่ในกระถาง เพราะพื้นที่ไม่พอ สารอาหารขาดแคลน พอได้รับแสงแดด สายลม พื้นที่เหมาะสม พริบตาเดียวก็สูงขึ้นจนต้องแหนหน้ามองแล้ว ร่มเงาของกิ่งก้านที่แผ่ขยายออกเป็นพุ่มงาม ใบไม้เสียดสีเบาๆ ราวกับกำลังอวยพรให้นาง เหยาอี้เหยาพนมมือรับพรด้วยน้ำตา แต่คำอวยพรบางอย่างก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้... “อยู่นี่เอง” ฉู่ซีเย่เดินเข้ามาบริเวณสวนดอกไม้ ตรงกลางมีต้นถั่วยืนต้นโดดเด่น ใต้ร่มเงามีหญิงงามในชุดผ้าคลุมตัวยาว ช่วงนี้อากาศเริ่มร้อนแล้ว กระนั้นเหยาอี้เหยาก็ยังสวมชุดฤดูหนาว “ท่านหาข้าอยู่หรือ” เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   1/1 ท่านหญิงแห่งต้าหย่ง

    “ขอให้ฝ่าบาททรงอายุยืนหมื่นปี หมื่นๆ ปี”สิ้นเสียงกล่าว ม้าเร็วพร้อมกงกงผู้เดินทางมามอบราชโองการแต่งตั้ง ‘ท่านหญิงแห่งต้าหย่ง’ ถึงหน้าสกุลเหยาก็จากไปอย่างเร็ว ฮูหยินผู้เฒ่าหยัดกายลุกขึ้นมาอย่างเหนื่อยล้า ต้องพึ่งแรงพยุงจากบุตรชายของนาง แต่นางก็ยังทรงตัวไม่ได้เนื่องจากจิตใจได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงฮูหยินผู้เฒ่าสูดลมหายใจเคล้าความเย็นเข้าปอด ราชโองการแต่งตั้งหลานสาวอยู่ในมืออันเหี่ยวย่น แม้ตลอดเวลาที่ผ่านมาหญิงชราจะไม่โปรดปรานเหยาอี้เหยา แต่ก็ไม่เคยคิดจะส่งหลานสาวให้ไปเผชิญชะตากรรมอันโหดร้าย อย่างไรเหยาอี้เหยาก็ได้ชื่อว่าเป็นคนสกุลเหยาแต่ทำอย่างไรได้ ราชโองการจากฝ่าบาทอยู่ในมือแล้ว หากฮูหยินผู้เฒ่าไม่ตัดสินให้รอบคอบรัดกุม สกุลเหยาคงจะประสบเคราะห์ร้ายอย่างไม่ต้องสงสัย“ท่านแม่ ท่านไหวหรือไม่”“ข้าไหว” ฮูหยินผู้เฒ่าคว้ามือบุตรชายไว้ สมองที่ยังแหลมคมอยู่ครุ่นคิดหาทางออกที่ดีที่สุด นางไม่สนใจจะมองผู้ใดที่นั่งคุกเข่าอยู่กลางโถง “พาข้ากลับไปที่เรือน”เมื่อถึงเรือนแล้ว ฮูหยินผู้เฒ่ารับชาจากสาวใช้คนสนิทมาจิบคำหนึ่ง ดวงตาสีจางหลุบต่ำมองม้วนอักษรวิจิตรสีทองซึ่งเสียดแทงใจนางยิ่งนัก การแ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   1/2 ท่านหญิงแห่งต้าหย่ง

    เหยาอี้เหยามีอายุน้อยที่สุดในคณะราชทูตแห่งต้าหย่งซึ่งประกอบไปด้วยองค์หญิงหย่งเยี่ยน แม่ทัพกงจิ้ง บุตรชายของแม่ทัพใหญ่ซ่าง ซ่างเจวี๋ย และราชทูตลู่หมิงทั้งหมดคือคณะราชทูตเพื่อส่งเสริมสัมพันธไมตรี ลดทอนความบาดหมางที่เคยเกิดขึ้นเมื่อสามปีก่อน ทั้งหมดจึงต้องเดินทางไปยังเมืองโจวอี้ รัฐหลู่ปกติด้วยฐานะของเหยาอี้เหยา นางไม่มีทางได้เป็นหนึ่งในคณะทูต แต่ด้วยความหลังในอดีต ทำให้ฮ่องเต้ต้องการแสดงความจริงใจ ด้วยการส่งตัวคนที่สร้างรอยร้าวในความสัมพันธ์ไปเจริญสัมพันธไมตรีเพื่อบอกว่าทางราชสำนักไม่มีเจตนาให้เกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้น และหากมีอะไรที่จะสามารถชดเชยให้ชาวแดนเหนือ ทางราชสำนักจะพิจารณาให้เป็นอันดับแรกดังนั้นนางจะทำเรื่องพังไม่ได้เด็ดขาด ต่อให้จะต้องตาย นางก็ต้องตายโดยไม่ให้กระทบกระเทือนต่อสกุลของนางหรือคนรอบข้างด้วยความกระชั้นชิดของเวลาทำให้การเดินทางเร่งเท้าทั้งวันทั้งคืน นางนั่งอยู่ภายในรถม้าขนาดกลางถัดจากรถม้าอีกสี่คันบนตักมีปิ่นปักผมของท่านแม่ ซึ่งถือเป็นสมบัติชิ้นเดียวที่ท่านย่าอนุญาตให้นางพกติดตัวมา ตัวปิ่นเงินเกลี้ยงเกลาเหมือนสายใยอันอบอุ่น นางมักจะพกติดตัวไว้เสมอ ทำเช่นนี้ นางก็ไม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   1/3 ท่านหญิงแห่งต้าหย่ง

    กงจิ้งกลับมาตอนเย็น เหยาอี้เหยาทานข้าวกับแม่ทัพกงเป็นมื้อแรกนับตั้งแต่เริ่มเดินทาง ส่วนองค์หญิงไม่รับอาหารเย็น แม่ทัพซ่างกับลู่หมิงฝึกวิชายุทธ์หลังเขา ระหว่างมื้ออาหารเหยาอี้เหยาไม่พูดอะไรมากนัก จนมองไปนอกหน้าต่างแล้วเห็นหญิงสาวที่คอกม้าจึงเอ่ยถามไป“แม่ทัพกง หญิงสาวที่ถูกมัดอยู่ที่คอกม้าทำอันใดผิดไปหรือ”กงจิ้งตอบ “ไม่ใช่เรื่องของเจ้า”“อากาศหนาวเช่นนี้ นางน่าสงสารเหลือเกิน”กงจิ้งพูดสั้นๆ “ใช้ปากกินข้าว ไม่ต้องพูด”“เจ้าค่ะ”หลังจากนั้นไร้บทสนทนาใดๆ อีก เหยาอี้เหยาพักผ่อน นางหลับไปด้วยความเหนื่อยล้าจนถึงยามซวี ก่อนจะตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกหนาวอย่างสุดขั้ว ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเลย เพราะเตาอุ่นในห้องไม่ได้เติมถ่านอย่างที่ควรเหยาอี้เหยารีบลุกไปที่หน้าต่าง เห็นหิมะสีเงินโปรยปรายลงมา ซึ่งหากเป็นที่เมืองหลวง ยามนี้คงไม่มีหิมะ แต่ทางเหนือไม่เหมือนกัน ยิ่งใกล้เมืองโจวอี้ อากาศจะยิ่งหนาว และจะเห็นหิมะบ่อยขึ้นเหยาอี้เหยาสวมเสื้อคลุมเพิ่มอีก ตอนที่มือกำลังรัดเชือกเข้าด้วยกันเพื่อกันความหนาว ก็นึกถึงทาสที่เห็นตอนมาถึงโรงเตี๊ยม นางถูกมัดอยู่ที่คอกม้าด้วยสภาพน่าสงสาร เมื่อเย็นเหยาอี้เหยาจึงเอ่ยถามเส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   2/1 สวมรอย

    เรื่องที่องค์หญิงเป็นฉู่ซีเย่นั้นไม่ใช่เรื่องที่สำคัญนัก เพราะตอนนี้อยู่ในระหว่างการถูกลักพาตัว โจรชุดดำควบรถม้าหนี ก่อนจะพุ่งลงเหวทิ้งตัวไปยังพื้นเนินเตี้ยๆ เหยาอี้เหยาเกาะพื้นแน่น แต่สุดท้ายก็กระแทกกับผนังจนมึนงงไปชั่วขณะ กระทั่งรถม้าหยุดลง นางถึงตั้งตัวได้สถานการณ์คับขัน เหยาอี้เหยาลุกขึ้นมาเห็นแสงสว่างวาบที่ท้องฟ้า คนร้ายพุ่งมาเปิดประตู"ซื่อจื่อ! เป็นท่านได้อย่างไร!” เพียงเห็นหน้าฉู่ซีเย่ คนร้ายก็พลันหน้าซีด ด้วยคิดจะมาปล้นรถม้าองค์หญิงจากเมืองหลวงไม่ใช่ฉู่ซื่อจื่อ!“เคราะห์ร้ายของเจ้าแล้ว” ฉู่ซีเย่ยิ้มนิดๆ มีดสั้นพุ่งออกไปปักใส่หลังคนร้ายที่วิ่งหนี ล้มหงายกลิ้งตกเขาไปในที่สุด ส่วนอีกสองคนรับใช้วิชาซ่อนเงาหนีไปเหยาอี้เหยาหยัดตัวลุกขึ้นจากพื้น ตอนนี้มั่นใจมากว่าเขาคือฉู่ซีเย่!“คุณหนูเหยา ดูเหมือนข้าจะไม่ต้องเสียเวลาแนะนำตัวแล้ว เจ้ารู้ว่าข้าเป็นใครใช่หรือไม่”“ซื่อจื่อ ท่านคือฉู่ซีเย่” เหยาอี้เหยามองเขาแวบเดียว ฉู่ซีเย่ไม่เหมือนผู้อื่นที่นางเคยพบเจอ เขาไม่ได้ดูน่ากลัว แต่เป็นคนที่ทำให้รู้สึกต้องเจียมตัว บนร่างของเขามีกลิ่นอายและความน่ายำเกรงที่ยากจะล่วงเกิน นางจึงไม่กล้าพูดหรื

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   2/2 สวมรอย

    ฉู่ซีเย่คล้ายคิดคำนวณไว้อย่างดี ไม่ให้จุดคลายก่อนโจรจะมาเหยาอี้เหยาหลับตาแสร้งว่าหมดสติไปแล้ว ปล่อยให้คนมัดมือนางแล้วโยนใส่รถม้า พวกโจรดูเบิกบานใจเมื่อคิดว่าสามารถจับตัวองค์หญิงแห่งต้าหย่งได้ โดยไม่รู้เลยว่านางคือตัวปลอมเท่านั้นเส้นทางที่ไม่คุ้นเคยและขรุขระทำนางเนื้อเขียว เหยาอี้เหยาไม่ส่งเสียงจนนางถูกหิ้วไปทิ้งไว้ในห้องขัง เครื่องประดับนางถูกริบไปหมด แม้แต่ปิ่นเงินของท่านแม่ห้องขังเย็นชื้นนัก เหยาอี้เหยานอนบนพื้นโคลนเหม็นฉุน นางลืมตาเมื่อเสียงคนย่ำเท้าเดินห่างออกไปแล้วเวลานั้นฟ้าสาง ความสว่างเผยให้เห็นห้องสี่เหลี่ยม ซึ่งมีคนอยู่ด้วย เป็นหญิงสาวจากเมืองชงและเมืองอื่นๆ ที่ถูกจับมาเช่นกันพวกนางดูหวาดกลัวและหิวโหย เกาะกลุ่มกันอยู่ที่มุมห้อง พร้อมจ้องมองชุดของเหยาอี้เหยาด้วยอาการสั่นเทา“หนาวรึ”พวกนางพยักหน้า ผ้าบนตัวไม่สามารถที่จะเรียกได้ว่าชุด เหยาอี้เหยาจึงถอดเสื้อคลุมซึ่งฉู่ซื่อจื่อเป็นคนซื้อให้ แบ่งให้กับพวกนาง รวมทั้งยังยินดีที่จะถอดเสื้อตัวนอกอีกชั้นให้พวกนางสวม ตอนนี้นางจึงเหลือเพียงชั้นในและเสื้อนอกอีกชั้นที่ไม่ค่อยกันหนาวนัก“อันนี้ให้เจ้า” เสื่อผุพังชิ้นหนึ่งถูกหยิบยื่นมา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   2/3 สวมรอย

    ห้องขังสำหรับเหยาอี้เหยาเป็นเรือนหลังหนึ่งที่ปิดตาย นางได้รับเสื้อผ้าชาวเผ่าที่กันหนาวได้ดีและอาหารหนึ่งสำรับรสชาติของอาหารสมกับการเป็นอาหารแห้ง เนื้อวัวเหนียวจนกัดไม่ขาด ทั้งยังเหม็นหืนจนกินไม่ลง หญิงรับใช้นอกด้านนามว่าอามู่ จึงไปแอบตุ๋นน้ำแกงมาให้นางหนึ่งชามน้ำแกงอุ่นๆ รสชาติกลมกล่อมทำให้เหยาอี้เหยาพอจะคลายความตื่นกลัวและอบอุ่นขึ้นมาบ้างอามู่แม้จะพูดภาษาฮั่นไม่ได้ แต่นางดูแลเหยาอี้เหยาอย่างดี เห็นนางเครียดก็จุดกำยานกลิ่นหอม ทั้งยังเฝ้าอยู่ไม่ห่างพร้อมฮัมเพลงกล่อมเด็ก ความจริงใจของอามู่ทำให้นางผ่อนคลายและหลับไปได้บ้างทว่ากลางคืนเหยาอี้เหยาฝันร้าย นางเห็นภาพคนตายรายล้อม นางจึงวิ่ง ด้านหลังได้ยินเสียงอึกทึก ครั้นหันกลับไปมองก็เห็นจี๋เฉวียนที่ใบหน้าบิดเบี้ยวกำลังไล่หลังมา นางตกใจจนสะดุดล้ม มีดเล่มยาวที่จี๋เฉวียนยกขึ้นฟาดลงมาบนตัว แล้วนางก็ตื่นขึ้นบนเตียง“ไม่นะ!”เหยาอี้เหยารู้ตัวว่าเมื่อครู่เป็นแค่ฝันร้าย แต่นางกลัว หัวใจเต้นแรงและเหงื่อผุดพราวเต็มใบหน้า ยิ่งปิ่นของท่านแม่ไม่อยู่กับนาง นางก็ไม่รู้จะสงบใจได้อย่างไร“อามู่!” เหยาอี้เหยาร้องคำเดียว อามู่ที่นอนอยู่ด้านนอกรีบผลักประตูเป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18

บทล่าสุด

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   23/2 ความรักที่สุกงอม

    ฤดูใบไม้ผลิของแดนเหนืออบอุ่นและงดงาม ต้นไม้ที่หลับใหลในฤดูเหมันต์ผลิใบอ่อน แสงแดดลอดเงาผ่านช่องว่างต้นถั่วแดงเข้ามาเป็นลำแสง ต้นถั่วแดงหงฉู่โตวเป็นไม้ยืนต้นที่ใช้เวลาหลับใหลในฤดูหนาวเช่นกัน แต่เพราะมันเติบโตในแดนใต้ที่อากาศอุ่น ก่อนจะถูกขุดล้อมแล้วย้ายขึ้นมาที่เมืองโจวอี้ ต้นถั่วแดงจึงเจริญเติบโตขึ้นมาก เหยาอี้เหยามักจะมารดน้ำต้นถั่วด้วยตนเอง นางจำได้ว่าช่วงสามปีแรก ต้นถั่วโตช้ายิ่ง จนกระถางเล็กๆ ยังโตไม่เต็ม ครั้นลงดินที่อำเภอซานถง เพียงไม่นานก็สูงเอาๆ แต่พอมาคิดดู เหยาอี้เหยาคิดว่าสาเหตุที่ต้นถั่วโตช้าตอนอยู่ในกระถาง เพราะพื้นที่ไม่พอ สารอาหารขาดแคลน พอได้รับแสงแดด สายลม พื้นที่เหมาะสม พริบตาเดียวก็สูงขึ้นจนต้องแหนหน้ามองแล้ว ร่มเงาของกิ่งก้านที่แผ่ขยายออกเป็นพุ่มงาม ใบไม้เสียดสีเบาๆ ราวกับกำลังอวยพรให้นาง เหยาอี้เหยาพนมมือรับพรด้วยน้ำตา แต่คำอวยพรบางอย่างก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้... “อยู่นี่เอง” ฉู่ซีเย่เดินเข้ามาบริเวณสวนดอกไม้ ตรงกลางมีต้นถั่วยืนต้นโดดเด่น ใต้ร่มเงามีหญิงงามในชุดผ้าคลุมตัวยาว ช่วงนี้อากาศเริ่มร้อนแล้ว กระนั้นเหยาอี้เหยาก็ยังสวมชุดฤดูหนาว “ท่านหาข้าอยู่หรือ” เ

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   23/1 ความรักที่สุกงอม

    เดินทางจากอำเภอซานถงถึงแดนเหนือใช้เวลาสองสัปดาห์ เหยาอี้เหยาตกลงใจใช้ชีวิตอยู่กับฉู่ซีเย่ บางวันหวานชื่น บางวันรักร้อนแรง หรือทะเลาะกันบ้าง เพราะนางอยากออกไปทำงานสำรวจสำมโนครัวแบบเมื่อก่อน เพราะอยู่เฉยๆ เบื่อเกินไปฉู่ซีเย่คัดค้านหัวชนฝา เขาไม่อยากให้นางออกไปทำงานข้างนอก กลัวว่าจะมีคนมาชมชอบนาง ก็นางงามขนาดนี้ มีแต่คนตาบอดเท่านั้นที่ไม่มอง“แน่ใจนะว่าท่านไม่อนุญาต”“แน่นอน”“งั้นคืนนี้ท่านไปนอนที่อื่น”ฉู่ซีเย่ลุกพรึ่บ “ไม่ได้”“ได้ ก็นี่ห้องข้า เสียก็แต่ว่าท่านจะยึดคืน” เหยาอี้เหยาลุกขึ้น นางคว้าหมอนและผ้าห่มของฉู่ซีเย่ออกไปทิ้งด้านนอกห้อง“อี้เหยา” ฉู่ซีเย่ตามไปเก็บแล้ววางที่เดิม ก่อนจะประกาศก้อง “คืนนี้ข้าจะนอนที่นี้”“ท่านอ๋อง ท่านไม่สิทธิ์รุกล้ำพื้นที่นะ ยิ่งเจ้าของไม่อนุญาต ยิ่งไม่ได้”“แล้วไง ใครสน” ฉู่ซีเย่นั่งลงบนเตียง เขาเอนนอนเอาแขนชันศีรษะ “ข้าพอใจจะนอนที่นี้”“ก็ได้ งั้นข้าจะไปนอนที่อื่น” เหยาอี้เหยาเดินไปที่ประตู ฉู่ซีเย่ดีดตัวลุกขึ้นมาขวาง เขายืนขวางประตู ก่อนจะถอนหายใจ เขายอมถอยให้นาง“เอาล่ะ พอก่อน มาคุยกันดีๆ เถอะ”“ก็ได้” เหยาอี้เหยาเห็นเขายอมถอย นางก็ถอยหนึ่งก้าว “

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   22/2 แก้แค้นสิบปีก็ไม่สาย

    “เจ้าต้องเข้าใจว่าข้าไม่อาจสบายใจได้ ตราบใดที่มีเจ้า” หย่งสวินกล่าวอย่างลำบากใจ แต่ดวงตากลับเฝ้ารอ ในใจคงจินตนาการวันที่ได้ฆ่าฉู่ซีเย่มานับครั้งไม่ถ้วน“คนที่คิดจะฆ่าข้า ไม่ตายดีสักคน” ฉู่ซีเย่ไม่กลัวว่าหย่งสวินจะเอาดาบแทงตน เพราะคนเหลี่ยมจัดอย่างหย่งสวิน ไม่เล่นในเกมที่ตกเป็นรอง“เจ้าต้องมีชีวิตอยู่นานๆ หน่อย จะได้รู้ว่าข้าจะได้ตายดีหรือไม่ แต่น่าเสียดาย คงไม่มีวันนั้นแล้ว” หย่งสวินยกดาบขึ้น ก่อนจะฟันใส่แขนขวาจนขาด เขาส่งเสียงร้องโหยหวน“ช่วยข้าด้วย! ต้าเป่ยอ๋องจะสังหารข้า!”ประตูท้องพระโรงเปิดออกในยามรุ่งสาง ฉู่ซีเย่ถูกคุมตัวออกมามุ่งหน้าไปยังลานประหารในโทษฐานลอบทำร้ายประมุขของประเทศ ความรีบร้อนในการประหารเขาทันที เป็นความต้องการของหย่งสวินคลื่นลมในวังเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างมั่นใจแน่แล้วว่าหย่งสวินจะได้เป็นฮ่องเต้องค์ต่อไป ด้วยไท่จื่อก็สิ้นแล้ว หย่งมู่ที่กลัวตายก็รีบหอบผ้าหนีเอาตัวรอด ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้ากังขาหรือคัดค้านแม้เพียงนิดที่หย่งสวินคิดจะสังหารฉู่ซีเย่อย่างไรก็ตาม การประหารใช่จะทำได้เลยในทันที เพราะความวุ่นวายจากทางฝั่งของคนสนับสนุนไท่จื่อก็ไม่ยินยอมเช่นกัน

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   22/1 แก้แค้นสิบปีก็ไม่สาย

    “เจ้าไม่เป็นห่วงชายผู้นั้นของเจ้าหรือ”ชายผู้นั้นของกงจิ้ง ย่อมหมายถึงฉู่ซีเย่ “ได้ยินว่าทางวังกำลังเผชิญหน้ากับพายุใหญ่ ไม่แน่ว่าชายผู้นั้นของเจ้า อาจพบอันตรายร้ายแรง”“ก็อาจจะพบอันตราย แต่ข้าไม่ห่วงมากเท่าไหร่” นางล้างผัก ท่าทีผ่อนคลายกงจิ้งทำหน้าประหลาด เหยาอี้เหยาดูไม่ร้อนใจเท่าที่ควร“สามปี” เหยาอี้เหยาพูดขณะมองตรงไปหน้าผืนนา “เขาใช้เวลาสามปีวางแผนแก้แค้น ดังนั้นข้าจึงเชื่อมั่นว่าเขาจะไม่เป็นอะไร ต่อให้ถูกใครคิดปองร้าย ทุกอย่างก็อยู่ในการคาดเดาของเขา”กงจิ้งมองนาง “เป็นเจ้าที่เข้าใจเขาอย่างลึกซึ้ง”“ความจริงข้าไม่เข้าใจเขาหรอก ใครจะกล้าพูดว่าเข้าใจเขาได้”กงจิ้งเห็นด้วย “ข้าแปลกใจเสมอที่รู้ว่าเขาไม่อยากเป็นหนึ่งในผู้ชิงบัลลังก์"“ข้าไม่แปลกใจ”“เพราะอะไร” ขอเพียงมีใจนึกอยาก ไม่ใช่ว่าจะชิงมาไม่ได้“เขาเป็นคนเจ้าเล่ห์และยโสโอหังมาก แต่ก็เป็นคนที่รักษาคำสัตย์ยิ่งชีพมากเช่นกัน อะไรที่รับปากคนอื่นไว้แล้ว ต่อให้ดินถล่มฟ้าแหวกออก เขาก็จะทำให้ได้ ในงานพิธีรับตำแหน่งต้าเป่ยอ๋อง เขาชัดเจนแล้วว่าเลือกแดนเหนือ”“เข้าใจแล้ว”ฉู่ซีเย่ไม่ได้ให้คำสัตย์ว่าจะไม่ชิงบัลลังก์ แต่เขาให้คำสัตย์ว่าจะตา

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   21/2 ความรักที่งอกงาม

    ต้าหย่ง...ชายเสื้อปักดิ้นทองเคลื่อนไหวเพียงบางเบา แต่สามารถทำให้ตะเกียงบนโต๊ะด้านหน้าสั่นไหว เงาใหญ่ยักษ์ที่ทอดลงหลังฉากพระที่นั่งวิจิตรงดงาม แลดูแปลกตา ยิ่งเมื่อขยับเคลื่อนไหว เงาสีดำยิ่งชวนให้รู้สึกขนกายลุกพองหย่งฉียังคงทรงงานแม้จะค่อนคืนเข้าไปแล้ว พระขนงมีมีร่องรอยยับย่น หมึกเปื้อนพระหัตถ์เป็นปื้นสีดำทั้งสองข้าง ลามไปถึงชายแขนเสื้อที่ถูกหมึกสีดำทำลายความประณีตลงหลายเท่าตัวหลังตั้งตรงเริ่มตกลู่ หย่งฉีในปีนี้อายุเพียงสี่สิบกว่าปี ทว่าความเคร่งเครียดและการตรากตรำอยู่ในตำแหน่งมายาวนานกว่าสามสิบปี ทำให้ใบหน้านั้นแก่ชรา ริ้วรอยแห่งวัยทอดแนวอยู่บนหน้าพระพักตร์หมองคล้ำ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความวิตกกังวลครั้นมองลงมาภายในโถงพระที่นั่งอันหนาวเหน็บและช่างว่างเปล่า หย่งฉีคล้ายจะยิ้มเย้ยให้ตนเองอย่างสมเพชข้าวของมากมายหล่นเกลื้อนกลาดแทบเท้า ทุกสิ่งทุกอย่างพังไม่เป็นชิ้นดี กระนั้นท้องพระโรงที่เละเทะเช่นนี้ ก็ยังเทียบไม่ได้กับภายในจิตใจของเขาหย่งฉีทิ้งพู่กันในมือ เขาส่งเสียงออกมาอย่างเหนื่อยล้าราวกับแทบขาดใจ“ขันทีโม่...”โม่หานยืนก้มหน้าตามระเบียบประเพณี ในมือมีพวงแส้ม้านุ่มสลวย ทองคำซึ่งหลอมอยู

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   21/1 ความรักที่งอกงาม

    เหยาอี้เหยา “ก่อนจะให้ท่านพูดอธิบาย อยากจะขอรบกวนให้ท่านอาบน้ำล้างตัวเสียหน่อย” กลิ่นสาบจากตัวเขาทำให้ภายในบ้านถูกกลิ่นบูดรมควัน ดังนั้นนางจึงนำเสื้อผ้าที่เขาทิ้งไว้คราวก่อนออกมาให้เขา พร้อมชี้ทางว่าสามารถไปอาบน้ำที่ลำธารใกล้กับแปลงผักจี๋ฉายได้ ทั้งยังรุนหลัง ให้เขาไปไวๆ ฉู่ซีเย่ไม่อิดออด เขาก็เริ่มได้กลิ่นจากตัวเองเช่นกัน “ได้ ข้าจะไปอาบน้ำก่อนแล้วกัน หลังจากนั้นค่อยสนทนาเรื่องที่เข้าใจผิด” ถึงอย่างงั้นในใจของเขาก็มีความน้อยใจเล็กๆ ที่นางดูราวกับไม่ใส่ใจเขาเลย จะถามไถ่สักคำว่าเดินทางมาเหน็ดเหนื่อยหรือเปล่าก็ไม่มี ยังมีตบของนางอีก แม้แรงนางจะไม่ระคายผิวหนังหนาด้านของเขา แต่จิตใจบอบช้ำยิ่ง “ท่านอ๋อง” เหยาอี้เหยากล่าวรั้ง ใบหน้าคมกระหยิ่มยิ้มย่อง แต่เมื่อหันหน้ามาก็กลบเกลื่อนให้หมดสิ้น “ว่าอย่างไรรึ” ใบหน้าของฉู่ซีเย่ในตอนนี้สามารถพูดได้คำเดียวว่าเขาสำนึกผิดแล้ว “เมื่อครู่ข้าขอโทษที่ตบท่าน ท่านเจ็บมากหรือไม่” การตบตีเขาไม่เคยอยู่ในสมองนางมาก่อน แต่พอเห็นเขามายืนอยู่ตรงหน้า แรงอารมณ์ที่ถูกกดไว้ตลอดทั้งเดือนก็ปะทุ รู้ตัวอีกทีก็ตบเขาเสียฉาดใหญ่ “แรงเท่ามดของเจ้าจะทำอะไรข้าได้กัน”

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   20/3 เป็นแค่นางอุ่นเตียง

    การมาเยือนขององค์หญิงสิบเอ็ดเปลี่ยนบรรยากาศในบ้านไปในฉับพลัน มื้ออาหารที่ควรจะผ่อนคลายมีแต่ความเงียบงัน กงจิ้งลอบมองใบหน้าเหยาอี้เหยาด้วยความเห็นใจ แต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรเช่นกันกงจิ้งจำใบหน้าซีดเผือกของนางเมื่อเขากลับมาถึงบ้านได้ รวมทั้งสีหน้าสะอกสะใจขององค์หญิง ที่ได้เหยียมหยามนาง ทำเอากงจิ้งอยากไล่ตะเพิดไปไกลๆ“...” ลุงกู่เห็นเหยาอี้เหยาเศร้า ก็ตักน้ำแกงผักให้ชามใหญ่ เขาเอ็นดูนางมาก ไม่อยากเห็นนางเป็นทุกข์ใดๆเวลานั้นเอง เหยาอี้เหยาที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามกลับหัวเราะออกมา เสียงหัวเราะของนางใสกังวาน รอยยิ้มที่เผยกว้างบ่งบอกว่านางไม่ได้เสแสร้ง แต่นางกำลังหัวเราะอย่างจริงใจ“เจ้าหัวเราะอะไร”หรือเสียใจจนเสียสติไปแล้ว?“ข้าเปล่านะ ข้าปกติดี” เหยาอี้เหยายกชามน้ำแกงดื่มจนหมดรวดเดียวก่อนจะยิ้มอีกรอบ “ข้าแค่ดีใจนะ ที่วันนี้แสดงละครได้ดี”กงจิ้งและลุงกู่พากันขมวดคิ้วเหยาอี้เหยาเฉลย “ข้ารู้เรื่องนางอยู่แล้ว แต่คิดว่าถ้าทำเป็นรู้อยู่แล้ว นางคงไม่พอใจเท่าไหร่ จนอาจจะลงไม้ลงมือกับข้าก็ได้”กงจิ้ง “แสดงว่าเมื่อครู่เจ้าแสดงละคร”“ก็ไม่ทั้งหมดนะเจ้าคะ ความจริงก็เจ็บอยู่” แรกทีเดียวนางก็แสดงละคร แต่หลั

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   20/2 เป็นแค่นางอุ่นเตียง

    “อดทนเพื่อข้าได้หรือไม่…” ฉู่ซีเย่จูบไซ้กลีบปากบางที่สั่นระริก ปลายจมูกคลอเคลียปลอบโยน เขาอดทนเพื่อให้นางเปิดใจ ต่อให้ร่างกายใกล้จะระเบิดเต็มที“งั้น…งั้นช้าๆ นะ” นางเห็นเม็ดเหงื่อผุดพราวทั่วใบหน้าเขา รวมทั้งสันกรามที่ถูกขบกัดจนนูน บ่งบอกว่าเขาเองก็ต้องอดทนมากเช่นกัน“แน่นอน…” ฉู่ซีเย่ไม่บุ่มบ่าม เขาค่อยๆ กดตัวตนเข้าไปหานางอย่างละมุนละม่อน ถึงยังงั้นเอวบางก็ขยับหนีตามสัญชาตญาณ เขาจึงรั้งเรียวขานางไว้แรงเสียดทานจากท่อนกายอันเข้มแข็งทำให้ความอ่อนนุ่มต้องเผชิญกับความท้าทายอันใหญ่หลวงความเจ็บร้าวที่แผ่ซ่านคลี่คลุมจนตัวชา ถึงอย่างนั้นจุมพิตขอโทษจากเขาก็ทำให้นางอดทน พร้อมโอบรับความแข็งแกร่งของเขาทั้งหมดสองมือเรียวเกาะไหล่หนา สองขาเรียวอยู่ระห่างเอวสอบที่กำลังเคลื่อนไหว“ท่าน…อื้อ!”“อีกนิดนะ…” เสียงเขาแหบพร่า ริมฝีปากงับไล่ติ่งหูสะอาด เขาโอบรัดคลุกเคล้ากับร่างกายนางทุกตารางนิ้ว“ได้…” นางสัมผัสได้ถึงความใส่ใจของเขา จึงเปิดเปลือยทุกความกังวลลง รองรับแก่นกายใหญ่โตเข้ามา“อี้เหยา…” แรงตอดรัดจากนางทำฉู่ซีเย่กลืนน้ำลายครั้งแล้วครั้งเล่า เขารวบเอวนางให้กดต่ำ สอดตัวเข้าไปหานาง…ไม่รุนแรง แต่นางห

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   20/1 เป็นแค่นางอุ่นเตียง

    “ซ่างเจวี๋ยไม่เป็นอะไรแล้ว “ฉู่ซีเย่พูด ถอนเข็มที่ปักอยู่ทั่วร่างออก เว้นเข็มบริเวณหน้าผาก เพื่อให้หลับต่อไป “แต่ก็อย่างที่เห็น ตอนนี้นางไม่สามารถใช้ชีวิตเร่ร่อนแล้วฝากยาไว้กับสำนักคุ้มภัยอีกแล้ว แบบนั้นไม่ปลอดภัย ดังนั้นเพื่อผลประโยชน์ของนางเอง ข้าแนะนำให้ส่งนางขึ้นเหนือ”กงจิ้งตอบ “ข้าเห็นด้วย แบบนั้นคงปลอดภัยกว่า”“แต่ทางเหนือหนาวเกินไป แม่ทัพซ่างจะไม่เป็นอะไรหรือ” ในฐานะที่เหยาอี้เหยามีประสบการณ์ตอนพิษกำเริบมาก่อน นางรู้ซึ้งดีเลยว่า อากาศหนาวของเเดนเหนือ ทำให้ทุกข์ทรมานเพิ่มอีกหลายเท่าแล้วพิษแมลงคุณไสยก็ยิ่งไม่ถูกกับอากาศหนาวอย่างยิ่ง นี่จึงอาจเป็นเหตุผลที่ซ่างเจวี๋ยเร่ร่อนไปทั่วทางใต้เพื่อลี้ภัยอากาศหนาว“เป็นแน่ แต่ไม่ตายหรอก” ฉู่ซีเย่ย้ำให้เห็นความจริง "นางจะตายถ้ายังเร่ร่อนอยู่ที่นี่มากกว่า"“ท่านอ๋อง ท่านยังไม่พบวิธีแก้พิษแมลงคุณไสยหรือ ข้าไม่อยากเห็นแม่ทัพซ่างบาดเจ็บอีกแล้ว”“เงื่อนไขของนางไม่เหมือนของเจ้า” ฉู่ซีเย่มองนาง “แต่เจ้าวางใจเถอะ แมลงในตัวซ่างเจวี๋ยว่าง่ายกว่าตอนอยู่ในตัวเจ้า ตราบใดที่กินยาเสมอไม่ขาด จะไม่ส่งผลร้ายใดๆ”เมื่อพูดถึงเรื่องกินยาอย่างสม่ำเสมอแล้ว ดูเหม

DMCA.com Protection Status