เฉินฝาน ผู้ชายขึ้นคานในยุคปัจจุบันซึ่งทะลุมิติไปยังยุคโบราณ ในขณะที่ราชวงศ์กำลังขาดแคลนผู้ชายอย่างรุนแรง ไร้คนปกป้องบ้านเมือง สู้ศึกสงคราม กระทั่งทำไร่ไถนา เพื่อบรรเทาความทุกข์ยากของประชาชนที่มิอาจอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข ราชสำนักจึงได้จัดสรรการแต่งงานขึ้น ผู้ที่ยินดีรับภรรยามากกว่าสามคน รับรางวัล! ผู้ที่ให้กำเนิดลูกชาย รับรางวัลเพิ่มขึ้นอีก! เฉินฝานได้รับภรรยาแสนงดงามถึงสี่คน ซึ่งภรรยาแต่ละคนมีข้อดีต่างกันไป ปีต่อมาภรรยาให้กำเนิดลูกแฝดสี่ และทุกคนเป็นเด็กผู้ชาย ครั้นข่าวนี้กระจายออกมา ทั่วทั้งราชสำนักต่างตกใจ!
View Moreถึงแม้ในทุกวันนางมักจะรับคำเยินยอจากบุรุษเพศอยู่แล้ว ทว่าท่าทางที่รักใคร่หวานยิ่งกว่าน้ำผึ้งราวภาพวาดนี้ นางมิเคยพบเห็นมาก่อนเมี่ยวอวี่ที่สงสัยว่าตัวเองมองผิดไป จึงตั้งใจหันกลับไปดูอีกครั้งภาพที่เฉินฝานช่วยปัดไรผมบนหน้าผากของฉินเย่ว์เจียวออก และฉินเย่ว์เจียวยิ้มตอบกลับให้เฉินฝานอย่างหวานหยาดเยิ้ม เมี่ยวอวี่เหลือบไปเห็นพอดีไม่จริงหรอก!เมี่ยวอวี่รีบหันหน้ากลับไปด้วยความรวดเร็ว ตีหน้าอกตนเองเบา ๆสองสามทีคาดมิถึงว่าจะเป็นเรื่องจริงใต้หล้านี้มีสามีภรรยาที่รักใคร่กันเช่นนี้จริงหรือ ? เป็นเรื่องจริงหรือว่าผู้ชายจะอ่อนโยนกับภรรยาตนเองได้เพียงนั้น?เฉินฝานเป็นชายที่เลวทรามต่ำช้ามิใช่หรือ?เย่ว์หนูชะเง้อมองมาจากทางเข้าเห็นว่าเฉินฝานตื่นแล้ว รีบวิ่งกลับไปที่ในห้อง ยกโจ๊กครึ่งชามที่วางไว้ในห้องไปอุ่นที่ห้องครัว หลังจากที่อุ่นจนร้อนแล้วก็วิ่งกลับมา“โจ๊กมาแล้วเจ้าค่ะ”“เอามาให้ข้า!” ฉินเย่ว์เจียวรับโจ๊กในมือเย่ว์หนูมาทันที“ลำบากเจ้าแล้ว” เฉินฝานหันไปพยักหน้ากับเย่ว์หนู“บ่าวมิลำบากเลยเจ้าค่ะ ขอเพียงนายท่านหายดีก็เพียงพอแล้ว” เย่ว์หนูหน้าแดง ส่ายหน้าอย่างแรงกล่าวว่าตนเองมิลำ
“สัตว์เดรัจฉานเพศผู้ก็ยังเป็นสัตว์เดรัจฉานเพศผู้อยู่วันยันค่ำ คิดจะเอาตัวรอดแต่เพียงผู้เดียว” เมี่ยวอวี่พ่นลมจากจมูกกล่าววาจาเย้ยหยันคำพูดที่หนักแน่นของเฉินฝาน“เสี่ยวฝาน ด้านนอกมีเด็กเล็กจริงๆ หิวโหยมาหนึ่งวันแล้ว หากแบ่งปันอย่างเหมาะสมก็คงจะมิเป็นอะไรหรอกกระมัง”เซียนเจี้ยนหวงก็คิดว่าวิธีการของเฉินฝานมิเหมาะสมเช่นกันเฉินฝานมิได้ตอบกลับคำพูดของเซียนเจี้ยนหวงทันที เขาส่งสัญญาณให้ฉินเย่ว์เจียวไปพยุงเขาให้ลุกขึ้น“เช่นนั้นก็แบ่งมิได้!”เฉินฝานที่เอนตัวพิงอ้อมอกของฉินเย่ว์เจียว ยังคงยืนกรานในคำพูดของตนเองก่อนที่เขาจะหมดสติไปเมื่อวาน เขาได้ยินพวกฉินเย่ว์เจียวพูดกันว่าด้านนอกหิมะถล่มลงมาแล้วโรงเตี๊ยมที่สูงสามชั้นเป็นเรือนไม้ เรือนเซียนผาสุกห้าชั้น ก็พื้นที่กว้างใหญ่เช่นกัน พังทลายลงมาในเวลาเดียวกัน ยุคโบราณที่ไม่มีเครื่องมือขุดเหมือนกับยุคปัจจุบัน มิรู้ว่าอีกนานเพียงใดจะได้ความช่วยเหลือจากคนด้านนอก ผ่านไปอีกนาน ก็คงจะมิผู้ใดเหลือรอดเป็นแน่ตอนนี้หิมะก็ถล่มลงมาอีก การช่วยเหลือก็ทวีความยากลำบากขึ้นไปอีกสถานการณ์ด้านนอกยังมิชัดเจน ซื่อต้าเผิงได้รับบาดเจ็บหรือไม่ ท่าทีในการช่วยเห
“เย่ว์หนู นายท่านเลือดออกมากมายเพียงนั้น ตอนนี้ร่างกายอ่อนแอ เจ้ารีบไปทำอาหารมาให้กินหน่อยเถอะ”ฉินเย่ว์เจียวออกคำสั่งกับเย่ว์หนู“เจ้าค่ะ ท่านหญิง!”เย่ว์หนูถือระเบิดเดินออกไปด้านนอกด้วย นางต้องการจะหาอาหารจากในห้องครัว หากเหล่านักฆ่าหญิงเหล่านั้นคิดที่จะขัดขวางนาง นางก็จะระเบิดสมองทิ้งทันทีมิรู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นหลังจากที่เย่ว์หนูออกไปหาอาหาร เมี่ยวอวี่ก็กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที นางลุกขึ้นมาจากพื้น“ถอยไป!”ดาบในมือของเจี้ยวฮวงเซียนจ่อไปที่เมี่ยวอวี่ทันที“ข้ามิได้จะออกไปเสียหน่อย!”ภายใต้ผ้าคลุมหน้า ดวงตากลมโตงดงามคู่นั้นกลับมามีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้งทว่า ดูแล้วรู้สึกความแปลกประหลาดที่แฝงอยู่เมี่ยวอวี่นั่งอยู่บนเก้าอี้กล่าวอย่างเนิบนาบ “เมื่อครู่เจ้ามิได้ยินหรือกระไร? เฉินฝานต้องรับประทานอาหาร ข้าคนนี้หนะนะ... ”เมี่ยวอวี่หยุดไปชั่วขณะดวงตาที่งดงาม ตาใสแจ๋วดังสายวารี ใบหน้าสวยงามพริ้มเพราเดินสำรวจไปมองหญิงงามที่งามที่สุดในใต้หล้ามา เซียนเจี้ยนหวงคิดว่าดวงตาคู่นั้นของเมี่ยวอวี่เป็นเลิศล้ำที่สุดในโลกช่างเป็นสตรีที่งดงามเสียจริงน่าเสียดาย...ที่เป็นสาวงามที่มีพ
เฉินฝานเข้าใจความตื่นตกใจของพวกฉินเย่ว์เจียว ทว่าตอนนี้เขามิมีเรี่ยวแรงที่จะอธิบายแล้ว“หลังจากที่ก้อนน้ำแข็งละลายเป็นน้ำแล้ว ค่อยเปลี่ยนอันใหม่ มิต้องกลัวว่าข้าจะหนาว เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ จนกลัวปากแผลจะมิมีเลือดไหลออกมาแล้ว”กล่าวคำพูดต่อเนื่องมากมายเพียงนั้น เฉินฝานรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างยิ่ง อยากที่ปิดตาหลับไปอย่างมากทว่า...เฉินฝานกัดฟันฝืนทนเขายังหลับมิได้“ต่อให้ข้าหลับไปมิรู้สึกตัวแล้ว ก็ต้องนำน้ำต้มเดือดที่ละลายจากน้ำแข็งจากเย่ว์หนูให้ข้าดื่ม ทว่าทุกครั้งอย่าให้เกินสองช้อน และต้องป้อนทุกครึ่งก้านธูป”การที่เสียเลือดมากเกินไป ก็จะทำร่างกายช็อกได้ง่าย ต้องทดแทนของเหลวให้ทันท่วงทีทว่าก็มิสามารถดื่มน้ำจำนวนมาก เพราะการดื่มน้ำจำนวนมาก ปริมาณเลือดในร่างกายจะลดฮวบอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ร่างกายของกำลังในสภาวะอ่อนแออย่างสุดขีด ปริมาณน้ำจำนวนมากทำให้สมดุลน้ำและอิเล็กโทรไลต์เสียสมดุลได้ง่าย จากนั้นจะทำให้เลือดไหลพุ่งมากกว่าเดิมหลังจากที่มอบหน้าที่ให้สองสาวเรียบร้อยแล้ว เฉินฝานหันหน้าไปมองเซียนเจี้ยนหวง“พี่ชาย ชีวิตของข้าและเมียข้า ฝากเจ้าด้วยนะ...”หากเซียนเจี้ยนหวงมิได้ฝึกพล
“เจ้า...”เฉินฝานมองไปทางเมี่ยวอวี่ ร่าวกายอิดโรยยิ่งนัก เขาหยุดไปเป็นเวลานาน จึงกล่าวต่อ “มั่นใจหรือว่าข้าจะไม่รอด?”“แล้วเจ้าคิดว่าตนเองจะมีชีวิตรอดหรือกระไร?”เสียงของเมี่ยวอวี่ช่างไพเราะเสียจริง เฉินฝานที่นอนอยู่เตียงปรากฏรอยยิ้มจางๆน้ำเสียงไพเราะเช่นนี้ กลับกล่าวพูดเย็นชาทิ่มแทงเช่นนี้ออกมาได้ช่างเร้าใจ!จะพูดอันใดเขาก็มิยอมตายมิได้“หากข้ามิตาย เจ้า...” เฉินฝานหยุดไปนาน จึงพูดต่อ “บอกข้ามา ตกลงแล้วหยกที่ห้อยเอวเจ้าใช่ของเจ้าหรือไม่?”“รอให้เจ้ามีชีวิตรอดค่อยว่ากัน เมี่ยวอวี่กล่าวด้วยเสียงเรียบนิ่งเฉินฝานปรับลมหายใจเป็นเวลานานอีกครั้ง ชี้ไปที่ลำคอของตนเอง “ขอบคุณมาก”คำพูดนี้เขาพูดกับเซียนเจี้ยนหวงเซียนเจี้ยนหวงเพียรพยายามปิดปากแผลให้เขามาโดยตลอด ลดปริมาณเลือดที่ไหลอกมา มิเช่นนั้นตอนนี้ถึงแม้เขาจะมิตาย อาการก็คงจะสาหัสจนคุมสติมิอยู่แล้ว“มิต้องขอบคุณหรอก!” เซียนเจี้ยนหวงเบ้ปากเล็กน้อย เขาไม่เคยชินกับการที่ผู้อื่นกล่าวขอบคุณเขาจริงๆ“ทว่านี้ ทนได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น ออกไปมิได้ ห้ามเลือดมิได้ ไม่ช้าก็เร็วเจ้าก็ต้องตายงั้นหรือ?” ความหดหู่จางๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเซี
เซียนเจี้ยนหวงมิได้ใส่ใจคำพูดของเมี่ยวอวี่ เขารีบสาวเท้าแบกเฉินฝานเข้าไป ลากเมี่ยวอวี่โยนทิ้งออกไปจากที่นอน“แม่นาง ๆ!” แม่เล้าหลี่พาหมัวมัวสองคนวิ่งเข้ามากอดรัดเมี่ยวอวี่ที่ถูกเซียนเจี้ยนหวงถูกโยนไปที่ประตูทางเข้า“ไอ้หยา รนหาที่ตายเสียจริง!” แม่เล้าหลี่ชี้หน้าด่าเซียนเจี้ยนหวงอย่างรุนแรง “มาใช้เตียงของแม่นางบ้านข้า และยังโยนแม่นางบ้านข้าออกไปอีก เจ้ามิเกรงกลัวเทพเจ้าลงโทษหรือกระไร?”เซียนเจี้ยนหวงขมวดคิ้วเล็กน้อยหญิงชราผู้นี้ ช่างพูดมากเสียจริง“แม่หลี่ ข้ามิเป็นไร นายท่านได้รับบาดเจ็บสาหัส เอาเตียงให้เขาใช้ก็เป็นเรื่องที่สมควรแล้ว”คำพูดของเมี่ยวอวี่ช่วยชีวิตแม่เล้าหลี่คนนั้นไว้เมี่ยวอวี่ที่นั่งตัวตรงอยู่บนเก้าอี้ อิริยาบถยังคงเหมือนเทพอัปสรที่สวยสง่าเหนือมนุษย์มองไปที่เซียนเจี้ยนหวงที่กำลังวุ่นวายกับการรักษาเฉินฝานที่ริมเตียง ดวงตากลมโตงดงามคู่นั้นแฝงการเยาะเย้ยอย่างรุนแรงทำไปเถอะทำไปก็เปล่าประโยชน์อยู่ดีมิมียาแล้วยังถูกกักขังออกไปไหนมิได้อีก ต่อให้เทพเจ้าต้าหลัวลงมาก็คงจะช่วยมิได้แล้ว“แม่สาวน้อย ยาผงที่เจ้าพกมาล่ะ?” เซียนเจี้ยนหวงกล่าวถามด้วยน้ำเสียงรีบร้อน“ไ
เรือนเซียนผาสุกสร้างในสถานที่ถูกภูเขาห้อมล้อมทั้งสี่ทิศ โครงสร้างไม้ที่ผุพังของเรือนเซียนผาสุกและโรงเตี๊ยม สามารถพังทลายลงมาอีกครั้งได้ทุกเมื่อ สถานที่ผู้คนสามารถถอยหนีได้เหลือเพียงกระท่อมหิมะที่เมี่ยวอวี่อาศัยอยู่แล้ว“โอ้แม่เจ้า!”คนจำนวนมากร่ำไห้ด้วยความสิ้นหวังหากจากไป ก็ได้ทำได้เพียงแต่ปล่อยญาติสนิทมิตรสหายจากไปโดยทำอะไรมิได้หากมิจากไป พวกเขาก็อาจจะถูกทับตายอยู่ในซากปรักหักพังนี้จากนั้นทุกคนก็จะจากโลกนี้ไปด้วยกัน“บ้าจริง ข้า ข้า...” เย่ว์หนูริมฝีปากสั่นเทาอย่างต่อเนื่อง อ้ำอึ้งพูดไม่ออกเป็นเวลานานแล้วนางคิดว่านางได้สร้างความหายนะอันใหญ่หลวงแล้วเป็นเพราะนางระเบิดประตูเหล็กของโรงเตี๊ยม ทำให้โรงเตี๊ยมพังถล่มลงมา จากนั้นผลพวงพ่วงไปถึงเรือนผาสุกด้วยเป็นนางที่ทำร้ายคนมากมายเพียงนั้น“เข้าไปข้างในมิได้!”เหล่าคนที่ชะตายังมิขาดเมื่อครู่พากันเดินมาทางกระท่อมหิมะ เหล่านักฆ่าหญิงรีบใช้ดาบไล่พวกเขาไปทันที“แม่นางทั้งหลาย ด้านนอกนี้หนาวเหน็บยิ่งนัก เจ้าให้พวกเราไปรับความอบอุ่นจากด้านในเสียหน่อยเถอะ”“พวกเราจะเข้าไปแค่ตรงที่ลานบ้าน มิไปรบกวนแม่นางเมี่ยวอวี่แน่นอน”เหล่านักฆ
“เจ้าดูนั่น” บุรุษชุดครามชี้ผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ด้านล่างอาคาร“นั่นคือผู้พิทักษ์หญิงของเฉินฝานไม่ใช่หรือ?”“ใช่ เจ้าไปล่อนางมาที่โรงเตี๊ยม”อาคารไม้สามชั้นที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของผู้ชายสองคน เป็นโรงเตี๊ยมในเมืองเซียนตูซื่อต้าเผิงจงใจสร้างไว้ข้าง ๆ เรือนเซียนผาสุก เพื่ออำนวยความสะดวกในการผูกมัดข้าราชการขุนนางหลากหลายตำแหน่งของเมืองหลวงที่มาดำเนินเรื่องตรวจสอบเย่ว์หนูไม่อนุญาตให้เข้ากระท่อมหิมะ นางยืนรอข้างนอก รอเป็นเวลานานไม่เห็นเฉินฝานออกมา จึงหาทางเข้ารอบ ๆ กระท่อมหิมะจากเรือนเซียนผาสุกเข้ากระท่อมหิมะนั้นยากเป็นอย่างยิ่ง นางจึงมายังโรงเตี๊ยมเพื่อมองว่ามีโอกาสหรือไม่เย่ว์หนูเพิ่งแอบเข้าโรงเตี๊ยม บุรุษชุดครามก็ออกคำสั่งทันที “ให้ทุกคนถอยออกไปและเปิดประตูทุกบานที่นำไปสู่ลานหลังบ้าน ยกเว้นประตูเหล็กที่กั้นกระท่อมหิมะ”“ท่านพี่ ผู้พิทักษ์หญิงผู้นั้นมีโถสุราระเบิดติดไว้ที่ตัว ประตูเหล็กไม่สามารถขัดขวางนางได้ด้วยซ้ำ”“ข้าต้องการให้นางระเบิดประตูเหล็กนั่นแหละ ประตูเหล็กไม่สามารถระเบิดออกได้ง่าย” บุรุษชุดครามแสดงรอยยิ้มประหลาดไว้บนหน้า“ท่านพี่!” ชายหนุ่มชุดม่วงตะลึงตกใจ “ท่านพี่คิด
ครั้นเสียงพิณผีพาดังขึ้น นักฆ่าหญิงยี่สิบคนนั้นราวกับกินยาคลุ้มคลั่งเข้าไป แต่ละคนดวงตาแดงก่ำ พลันพุ่งเข้าหากระบี่เซียนเจี้ยนหวงอย่างไม่ต้องการมีชีวิตแทง กัด ข่วน กอด ขวาง…มีเพียงสิ่งที่คิดไม่ถึง ไม่มีสิ่งที่ทำไม่ได้ตายแล้วหนึ่งคน คนที่สองตามมาทันทีจุดประสงค์ของพวกนาง คือทำให้เซียนเจี้ยนหวงไม่สามารถขยับตัวได้“ใช้ลูกเล่นเด็ก ๆ แบบนี้?”เซียนเจี้ยนหวงพลันตะโกนลั่น มือกำกระบี่หมุนตัวเร็วหนึ่งรอบ ทำนักฆ่าหญิงที่กอดเขา แขนถูกฟันขาดทุกคน จากนั้นถูกพลังกระบี่กระเด็นออกไป“ตึง ตึงตึง!”เมี่ยวอวี่ร่ายรำนิ้วมือ เสียงรีบเร่งของพิณชวนหวาดกลัวภายนอกศาลาพักร้อน เงาร่างของคนเห็นเป็นเลือนรางอีกครั้งมีนักฆ่าหญิงมาเพิ่มอีกหนึ่งชุดท่ามกลางเสียงพิณของเมี่ยวอวี่ พวกนางบ้าระห่ำยิ่งกว่า ไม่ต้องการชีวิตยิ่งกว่าเซียนเจี้ยนหวงกำจัดนักฆ่าหญิงสามกลุ่มติดต่อกันกระท่อมหิมะขนาดย่อม กองเต็มไปด้วยศพถึงแม้เซียนเจี้ยนหวงยังอยู่เหนือกว่า แต่นักฆ่าหญิงโผล่มาชุดแล้วชุดเล่า ทำให้สูญเสียเวลาไปค่อนข้างมากเฉินฝานผู้ไม่สามารถนอนพักบนเตียง ได้แต่พิงอยู่บนตัวฉินเย่ว์เจียว เลือดตรงลำคอไหลออกมามากขึ้นเรื่
“ฝ่าบาท ในรัชสมัยนี้ขาดแคลนชายหนุ่มอย่างหนักพ่ะย่ะค่ะ!”“ร้ายแรงถึงขั้นไหน”“ในหนึ่งร้อยคน มีชายหนุ่มไม่ถึงยี่สิบคน หลายปีมานี้ มีหญิงสาววัยเหมาะสมจำนวนมากจบชีวิตตนเองเพราะไม่มีใครแต่งงานด้วย หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่ารากฐานของแผ่นดินอาจสั่นคลอนได้พ่ะย่ะค่ะ”“จงประกาศราชโองการลงไป ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทุกเขตการปกครอง เมืองที่อยู่ภายใต้การปกครองให้ดำเนินการจัดสรรการแต่งงาน ผู้ใดยินดีรับมากกว่าสามคน มอบรางวัล!”“ผู้ใดให้กำเนิดบุตรชาย มอบรางวัลใหญ่!”“ภายในสามปี ต้องพลิกปรากฏการณ์หญิงมากชายน้อยของแผ่นดินให้จงได้!”-เฉินฝานตื่นขึ้นด้วยเสียงร้องไห้รบกวนเมื่อลืมตาขึ้นก็พบว่าตนเองอยู่ในห้องที่ตนไม่รู้จักมีหญิงสาวนั่งปิดหน้าร้องไห้เสียงเบานั่งอยู่ข้างกาย“หยุดร้องได้แล้ว ข้ารำคาญ!”เมื่อได้ยินเสียงของเฉินฝาน หญิงสาวปาดน้ำตาและมองเขาทันที “นายท่าน ตื่นแล้วหรือเจ้าคะ!”เฉินฝากเงยหน้ามองหญิงสาว……ผมเผ้าดำเงาวับ ผิวขาวนวลผุดผ่องดังหยก ดวงตาคู่งามแลมองหมุนรอบเป็นพันครั้ง ทุกการขมวดคิ้วคือการตีความคำว่าสง่างามน่าประทับใจผ้าดิบหยาบกระด้าง ก็ไม่อาจปกปิดรูปร่างน่าเอ็นดูของนางเฮ้ย...
Comments