เฉินฝาน ผู้ชายขึ้นคานในยุคปัจจุบันซึ่งทะลุมิติไปยังยุคโบราณ ในขณะที่ราชวงศ์กำลังขาดแคลนผู้ชายอย่างรุนแรง ไร้คนปกป้องบ้านเมือง สู้ศึกสงคราม กระทั่งทำไร่ไถนา เพื่อบรรเทาความทุกข์ยากของประชาชนที่มิอาจอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข ราชสำนักจึงได้จัดสรรการแต่งงานขึ้น ผู้ที่ยินดีรับภรรยามากกว่าสามคน รับรางวัล! ผู้ที่ให้กำเนิดลูกชาย รับรางวัลเพิ่มขึ้นอีก! เฉินฝานได้รับภรรยาแสนงดงามถึงสี่คน ซึ่งภรรยาแต่ละคนมีข้อดีต่างกันไป ปีต่อมาภรรยาให้กำเนิดลูกแฝดสี่ และทุกคนเป็นเด็กผู้ชาย ครั้นข่าวนี้กระจายออกมา ทั่วทั้งราชสำนักต่างตกใจ!
View Moreเฉินฝานเปิดผ้าม่านมองหงอิงด้านหน้าด้วยความสงสัย ตลอดทางมานี้ คนที่รีบร้อนที่สุดก็คือนาง ไฉนเมื่อเข้าใกล้เมืองลู่ตูแล้ว นางกลับไม่ให้เขาเข้าไป“ใต้เท้า!”หงอิงขี่ม้าไปด้านข้างเฉินฝาน อธิบายสถานการณ์ตอนนี้ที่ต้าชิ่งมองว่าเขาเป็นศัตรู“ใต้เท้า ฝ่าบาทยังรับสั่งอีกว่า รอให้ฝ่าบาทจัดการความโกลาหลในต้าชิ่ง มั่นใจว่าท่านจะปลอดภัยให้ได้ก่อน ข้าน้อยจึงจะสามารถพาท่านกลับต้าชิ่งได้”“เจ้าพูดอันใดของเจ้า เจ้ากล้าขวางทางพวกเรางั้นรึ?”อ๋องตวนยกขาถีบขาคู่ ง้างหมัดพุ่งไปทางหงอิง หงอิงกระโดดลงหลังม้าอย่างคล่องแคล่ว เพื่อหลบหมัดของอ๋องตวนหงอิงยังไม่ทันทรงตัวได้ดี อ๋องตวนก็ง้างหมัดออกไปอีกรอบ...“ปึก!”“โอ้ย!”อ๋องตวนถูกสวนกลับ ม้าที่เขาขี่ตกใจจนวิ่งพล่านไปทั่ว โชคดีที่อ๋องตวนมีทักษะการขี่ม้าขั้นสูง มิเช่นนั้นตอนนี้เขาคงจะถูกสะบัดตกหลังม้าไปแล้วคนที่สวนกลับอ๋องตวนไม่ใช่หงอิงแต่เป็นเฉินฝาน“เสี่ยวฝานเจ้า...”อ๋องตวนมองเฉินฝานด้วยสีหน้าตื่นตกใจ เขารู้ว่าเฉินฝานใช้ปืนได้เก่งกาจ มิคิดว่าทักษะทางร่างกายก็เก่งกาจปานนั้นเช่นกันเขามีพลังเทพมาตั้งแต่กำเนิด การโจมตีของเขา คนอื่นทำได้เพียงหลบเลี่ยง
แต่งงานถูกคนแล้ว ได้รับการยอมรับจากราษฎรทั้งแคว้น โอวหยางน่าหลันรู้สึกโชคดีหาสิ่งใดเปรียบเทียบมิได้แน่นอนว่า คนที่ตื่นเต้นดีใจที่สุดคืออ๋องตวน เขายืนลูบเคราตนเองภาคภูมิใจกับผลงงานตนเองเขามิได้มีความสามารถอันใด ทว่าเขาเลือกลูกเขยได้ดี ฮ่า ๆ ๆ ๆ !ตอนที่ขึ้นรถม้า เฉินฝานก็เตรียมใจปลอบประโลมโอวหยางน่าหลันไว้แล้ว ดูจากภายนอกแล้วนางที่คนที่เข้มแข็งตรงไปตรงมา แต่ความจริงในบรรดาภรรยาของเฉินฝานนางเป็นคนที่ติดสามีที่สุดคนหนึ่ง ติดยิ่งกว่าฉินเย่ว์โหรวเสียอีก“เอ๋?”หลังจากที่ขึ้นรถม้าไปแล้ว เฉินฝานมองโอวหยางน่าหลันที่ปล่อยมือและยืนอยู่ด้านนอกรถม้าอย่างว่าง่ายด้วยความประหลาดใจอย่างมากเฉินฝานกำลังจะถามหยอกล้อนางว่าเบื่อเขาแล้วหรือกระไร ทว่าโอวหยางน่าหลันก็ชิงพูดก่อน“ท่านพี่ฝาน พี่รีบกลับไปเถอะ ราษฎรต้าชิ่งต้องการพี่ ยิ่งไปกว่าพี่น้องตระกูลฉินก็ต้องการพี่เช่นกัน”น้ำเสียงของโอวหยางน่าหลันอบอุ่นเกินคาด“รีบไปเถอะ!”ระหว่างที่พูด โอวหยางน่าหลันก็หยิบแส้ของคนขับรถม้าฟาดลงไปที่ตัวม้าอย่างรุนแรงทันที“ฮี่ ๆ!”ม้าที่ถูกแส้ม้าตี ร้องเสียงดังวิ่งไปด้านหน้าจึงทำให้รถม้าที่เฉินฝานนั่งเคลื่อนท
เฉินฝานมิยอมให้โอวหยางน่าหลันไปต้าชิ่งกับเขา ทว่าก็ยังยืนกรานจะไปส่งออกจากวังหลวงช่วงเวลาที่ประตูวังเปิดออก...“ลูกเขยที่แสนดีของข้า!”อ๋องตวนตะโกนเสียงดังเป็นคนแรกด้านนอกวังหลวงมีราษฎรคุกเข่าอยู่ด้านนอกมากมายสุดลุกหูลูกตาเมื่อเฉินฝานออกมา ก็มีเสียงเกรียวกราวดังขึ้นทันที่“ส่งเสด็จใต้เท้าขอรับ!”“รอคอยให้ใต้เท้ากลับมาแคว้นหลู่โดยเร็ว!”เรื่องที่เฉินฝานจะกลับต้าชิ่งไปแพร่กระจายไปเหล่าราษฎรแล้ว เมื่อเหล่าราษฎรได้ยินว่าเฉินฝานจะกลับต้าชิ่ง ก็รีบหยุดทำงานตรงหน้า รีบมาส่งเสด็จที่ด้านนอกประตูวังตลอดระยะเวลาที่เฉินฝานมาอยู่ที่นี้ แคว้นหลู่ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ไฟไหม้ใหญ่ครั้งนั้นเผาทำลายป่าไม้แคว้นหลู่เกินกว่าแปดในสิบ ทำลายหนทางทำมาหากินของราษฎรแคว้นหลู่ส่วนใหญ่ ตอนที่ทั้งแคว้นหลู่เข้าสู่สภาวะสิ้นหวัง เฉินฝานก็ปรากฏตัวขึ้นมิใช่ทุกคนที่เชื่อว่าเทพเจ้าพิโรธ ทว่าคนที่สิ้นหวังส่วนใหญ่ล้วนเอาความเดือดดาลไปลงที่เฉินฝานเฉินฝานกลับไม่กลัดกลุ้มไม่โมโห เขาแบกรับความกดดันอันใหญ่หลวง ภายใต้สายตาความแค้นเคืองของเหล่าราษฎร เดินเท้าไปดับไฟในแค้วนหลู่เมืองแล้วเมืองเล่า และเขามิ
“เจ้าไปบอกองค์หญิงให้ข้า วันนี้ข้าไม่เข้าท้องพระโรงแล้ว จำเป็นต้องกลับต้าชิ่งทันที!”เฉินฝานถอดชุดขุนนางด้วยความรวดเร็ว ในขณะเดียวก็ออกคำสั่งกับผู้ดูแลวังต้าชิ่งเกิดเรื่องใหญ่หลวงจริง ๆ ข่าวที่หงอิงมาบอกทำให้รู้สึกหวาดกลัวสิบวันก่อน สายน้ำที่ไหลจากแคว้นหลู่ไปที่ต้าชิ่งให้เหล่าราษฎรต้าชิ่งอุปโภคบริโภคอย่างเป็นทางการ มิคิดว่าหลังจากที่ดื่มน้ำจากแคว้นหลู่ไปแล้ว ราษฎรต้าชิ่งส่วนใหญ่ล้วนเจ็บป่วยไม่สบาย รุนแรงถึงขั้นมีบางคนเสียชีวิตตอนนี้ราษฎรของต้าชิ่งทั้งหวาดกลัวและกลัดกลุ้ม ข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วว่า แคว้นหลู่จงใจใส่ยาพิษลงไปในแหล่งน้ำเพื่อที่จะทำลายล้างต้าชิ่งให้สิ้นซากเมื่อข่าวลือกระจายออกไปเรื่อย ๆ เฉินฝานก็ตกเป็นเป้าในการกล่าวโทษอีกครั้งกล่าวว่าเฉินฝานจงใจ ตอนนี้เขาเป็นอัครเสนาบดีแคว้นหลู่และยังเป็นพระราชบุตรเขยของโอวหยางน่าหลัน เขาร่วมมือกับโอวหยางน่าหลันเพื่อที่จะสังหารราษฎรส่วนใหญ่ของต้าชิ่งเปิดทางให้แคว้นหลู่ยึดดินแดนต้าชิ่งเมื่อแคว้นหลู่ยึดเขตแดนต้าชิ่งได้แล้ว เฉินฝานก็จะฉวยโอกาสขึ้นเป็นจักรพรรดิทันทีข่าวลือนี้เกินความเป็นจริงไปเรื่อย ๆ มินานนักก็กระจายไปทั่วต้าชิ
คนแก่คนนี้คือฝูป๋อ คนที่เคยช่วยเฉินฝานดับไฟที่เมืองตงเจียวในตอนแรก เดิมทีเขาไปที่เมืองตงเจียวเพื่อจะไปหาลูกชายคนเล็ก เพิ่งกลับมาเมื่อวาน มิคิดว่าเมื่อเข้าเขตวังหลวงก็พบว่าพวกเหมียวเหลียงจื้อกำลังจะกระโดดหน้าผาและได้ยินมาว่าเฉินฝานจะเดินทางมาจัดการ เขาจึงให้หลานคนโตพาเขามาที่นี้ทันที“ดี ๆ!” ฝูป๋อพยักหน้าหงึก ๆ “โชคดีของข้าที่ได้เจอใต้เท้า ตอนนี้ข้าสบายดีเป็นอย่างมาก!”เฉินฝานกำลังจะพูด ทว่าก็ถูกฝูป๋อชิงพูดตัดบทไปอีกแล้ว“พวกเด็กเปรต ช่างมิรู้จักผิดชอบชั่วดีเสียจริง!” ฝูป๋อยกไม้เท้าชี้ไปที่ฝูงชนด้านหน้าเขาฝูป๋อค่อนข้างมีอำนาจในกลุ่มฝูงเหล่านี้ ฝูป๋อตีพวกเขาก็ยังไม่มีใครกล้าต่อต้าน“มีความรู้อันน้อยนิด ก็กล้าพูดช่วยพวกเดียวกันเองแล้วรึ? พวกเจ้ารู้หรือว่าสิ่งใดเรียกว่าช่วยพวกเดียวกันเอง?”“ขุนนางเหล่านั้นตายไปแล้ว นอกจากทำให้พวกเจ้าคลายความเคียดแค้นลงไปได้เล็กน้อย แล้วมันทำให้ชีวิตต่อจากนี้ของพวกเจ้าดีขึ้นงั้นรึ? ก็ยังคงจะต้องใช้ชีวิตอดมื้อกินมื้อด้วยความยากลำบากทุกวันมิใช่หรือกระไร?”“ตอนนี้ใต้เท้าให้ขุนนางเหล่านั้นสร้างความชอบชดเชยความผิด พวกเขาจะทุ่มเทแรงกายคิดหาทุกวิธีทางให้พว
“เฉินฝานมองข้ามเหมียวเหลียงจื้อไปที่เหล่าเสนาบดีด้านหลังเขาแทน “พวกเจ้าก็ด้วย ยังมิรีบไปหาสถานที่พัฒนาเศรษฐกิจอีก!”“พัฒนาเศรษฐกิจงั้นรึ?”เหล่าขุนนางเงยหน้าเล็กน้อยมองเฉินฝานด้วยความสงสัย“โอ้ ถ้าพูดในแบบพวกเจ้าก็คือคิดหาวิธีที่ทำให้ราษฎรหาเงินได้ดีขึ้น หากราษฎรมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดี ก็จะจ่ายภาษีได้มากขึ้น เงินในท้องพระคลังจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย”หลังจากที่ขุนนางเหล่านั้นพยักหน้าเข้าใจแล้ว น้ำเสียงของเฉินฝานก็เปลี่ยนเป็นดุดันทันที “อย่าหาว่าข้ามิเตือน หลังจากนี้ห้าปีหากเหมียวเหลียงจื้อทำเป้าหมายที่ข้าพูดเมื่อครู่มิได้ พวกเจ้าทุกคนจะถูกตัดหัวเหมือนกับเหมียวเหลียงจื้อ”เฉินฝานเพิ่งกล่าวจบก็มีขุนนางพูดโพล่งขึ้นมาทันที“ใต้เท้า ข้าน้อยขอกราบลาขอรับ”คนแรกทูลลาเสร็จ ก็มีคนที่สองตามมาทันที“ใต้เท้า ข้าน้อยขอกราบลาเช่นกันขอรับ”ขุนนางเหล่านี้ทยอยกันทูลลาจากไป ในใจพวกเขาคิดเพียงแค่ว่าอยากออกไปโดยเร็วเพื่อไปแย่งชิงเมืองที่ดีในการพัฒนาเศรษฐกิจเฉินฝานผายมือกว้าง “ไปเถอะ!”“ขอบคุณท่านอัครเสนาบดี!”เพิ่งจะได้รับการอนุญาตจากเฉินฝานได้มินาน ขุนนางเหล่านั้นรีบวิ่งแข่งกกันเพื่อไปเขตพระราช
“ข้าถามพวกเจ้าหน่อย มิรู้สึกผิดอันใดบ้างรึ?”“เหล่าราษฎรมากมายปานนั้นต้องเสียชีวิตอยู่ในกองเพลิงครั้งนี้ พวกเจ้ามีสามัญสำนึกอยู่หรือไม่ พวกเจ้ามิกลัวว่ากลางดึกพวกเขาจะเอาวิญญาณของพวกเจ้าไปงั้นรึ?”“แปะ!”“แปะ ๆ ๆ ๆ!”เฉินฝานเพิ่งพูดจบ ทั่วบริเวณเกิดเสียงดังขึ้นเกรียวกราวราษฎรที่มามุงดูปรบมือจนเจ็บมือ ทว่าก็ยังคงปรบมือต่อไป“พูดได้ดีมาก!”“ท่านอัครเสนาบดีพูดได้ดีมาก!”เหล่าราษฎรล้วนน้ำตาไหลทุกคนเฉินฝานได้พูดความเกลียดชังและความคับแค้นใจของพวกเขาออกไปแล้วขุนนางที่อยู่บนพื้น มีบางส่วนที่สอบขุนนางได้จากหมูบ้านเล็ก ๆ ตอนที่พวกเขายังเด็กก็มีชีวิตที่ยากลำบากเช่นกันท่ามกลางเสียงกล่าวถามของเฉินฝานและเสียงเชียร์ของเหล่าราษฎร ไม่นานนักพวกเขาก็กลั้นน้ำตาไว้มิอยู่สีหน้าพลันปรากฎความเศร้าสลด“เพียะๆ!”มีขุนนางจำนวนหนึ่งเริ่มตบหน้าตัวเอง“หลงผิด ตอนนั้นข้าถลำตัวหลงผิดเกินไปแล้ว!”ขุนนางที่ตบหน้าตนเองเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนท้ายที่สุดเหลือเพียงเหมียวเหลียงจื้อ เขาสีหน้าไร้อารมณ์ ทำเพียงก้มหน้าคุกเข่าอยู่ตรงนั้นเฉินฝานยกมือขึ้นเล็กน้อย“ทุกคนจงหยุดเถอะ!” อวิ๋นเต๋อออกคำสั่งให้ขุนนางเ
เมื่อถึงหุบเขาซื่อสัตย์แล้ว เฉินฝานก็เปิดม่านลงรถม้าทันทีในขณะที่เขารีบสาวเท้ารุดหน้าขึ้นไป ก็ยื่นมือไปทางองครักษ์ข้างกาย “กระบี่!”เมื่อได้ยินดังนั้น องครักษ์รีบนำกระบี่ประจำกายส่งให้เฉินฝานทันที เฉินฝานรับกระบี่มา มิพูดพร่ำทําเพลงขว้างกระบี่ออกไปอย่างสุดแรงทันที“ปึก!”กระบี่ที่เฉินฝานขว้างลอย ปักเข้ากับเรือนร่างเหมียวเหลียงจื้อที่กำลังจะกระโดดหน้าผาพอดี“เอื้อ...”เหมียวเหลียงจื้อกรีดร้องเพียงเล็กน้อยก็ล้มลงไปทันทีกระบี่ของเฉินฝานพุ่งเข้าหาเหมียวเหลียงจื้อจากทางด้านหน้า ดังนั้นจึงทำให้เขาล้มหงายหลังลงไปเหมียวเหลียงจื้อลุกขึ้นมาอย่างทุลักทุเล เมื่อเห็นเฉินฝานแล้วก็จะกระโดดหน้าผาทันที ขุนนางคนอื่นจึงพากันทำตาม“ขวางพวกเขาไว้!”ในขณะที่เฉินฝานตะโกนลั่น ก็ขว้างกระบี่ออกไปอีกสองเล่มองครักษาพระองค์ที่ติดตามเฉินฝานมาด้วย รีบรุดหน้าเข้าไปลากเหล่าเหมียวเหลียงปิงจากหน้าผาเข้ามาทันทีคำสั่งของเฉินฝานเด็ดขาดมากพอ เหล่าพลทหารก็ลงมือทำได้อย่างรวดเร็วทันท่วงทีเช่นกัน ทว่าก็มีสองสามาที่กระโดดลงหน้าผาได้สำเร็จ“อ้าก!”เสียงกรีดร้องดังขึ้นมาด้านล่างหุบเขาเฉินฝานส่ายหน้าคนที่อยาก
“ข้าอยากไปเดินเล่นข้างนอกได้หรือไม่?”กลัวว่าเฉินฝานจะไม่อนุญาต นางจึงรีบพูดเสริมทันที “ ขืนยังนอนต่ออีก ข้าก็จะอ้วนกว่าเดิมแล้ว”“เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าไม่ได้ชอบสตรีที่ผอมบางร่างน้อยเสียหน่อย”คำพูดของเฉินฝานทำให้โอวหยางน่าหลันหยุดชะงักไปทันที“โอ้!”โอวหยางน่าหลันนั่งกลัดกลุ้มอยู่บนเตียง ผิดหวังอย่างมากที่ช่วงนี้เฉินฝานไม่ให้นางลงจากเตียงช่วงแรกนางก็ดีใจอย่างมาก เพราะความเป็นห่วงและความใส่ใจของเฉินฝาน ต่อมานางก็ไม่ดีใจแล้ว เพราะนอนอยู่บนเตียงตลอดช่างทรมานเหลือเกิน“เด็กโง่!”เฉินฝานยื่นมือไปหยิกจมูกโอวหยางน่าหลันเบาๆ จับมือของนางไว้ “ไปกันเถอะ!”ช่วงก่อนที่เขาไม่ยอมให้โอวหยางน่าหลันลงจากเตียง เพราะนางมีความเสี่ยงที่จะแท้งบุตร ดังนั้นจึงไม่ให้นางลงจากเตียง ที่ไม่ได้บอกเหตุผลกับนางเพราะกลัวว่านางจะกังวลเกินเหตุเมื่อครู่หมอหลวงบอกเขาว่าตอนนี้เด็กในครรภ์ของโอวหยางน่าหลันปลอดภัยแล้ว“อะไรนะ?”โอวหยางน่าหลันมองเฉินฝานด้วยสายตาเหลือเชื่อ“งงอันใดอีกเล่า เมื่อครู่โวยวายอยากจะออกไปมิใช่รึ? หรือว่าตอนนี้ไม่อยากออกไปแล้ว?”“ไปสิ ข้าอยากออกไป!”โอวหยางน่าหลันกระโดดลงเตียง
“ฝ่าบาท ในรัชสมัยนี้ขาดแคลนชายหนุ่มอย่างหนักพ่ะย่ะค่ะ!”“ร้ายแรงถึงขั้นไหน”“ในหนึ่งร้อยคน มีชายหนุ่มไม่ถึงยี่สิบคน หลายปีมานี้ มีหญิงสาววัยเหมาะสมจำนวนมากจบชีวิตตนเองเพราะไม่มีใครแต่งงานด้วย หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่ารากฐานของแผ่นดินอาจสั่นคลอนได้พ่ะย่ะค่ะ”“จงประกาศราชโองการลงไป ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทุกเขตการปกครอง เมืองที่อยู่ภายใต้การปกครองให้ดำเนินการจัดสรรการแต่งงาน ผู้ใดยินดีรับมากกว่าสามคน มอบรางวัล!”“ผู้ใดให้กำเนิดบุตรชาย มอบรางวัลใหญ่!”“ภายในสามปี ต้องพลิกปรากฏการณ์หญิงมากชายน้อยของแผ่นดินให้จงได้!”-เฉินฝานตื่นขึ้นด้วยเสียงร้องไห้รบกวนเมื่อลืมตาขึ้นก็พบว่าตนเองอยู่ในห้องที่ตนไม่รู้จักมีหญิงสาวนั่งปิดหน้าร้องไห้เสียงเบานั่งอยู่ข้างกาย“หยุดร้องได้แล้ว ข้ารำคาญ!”เมื่อได้ยินเสียงของเฉินฝาน หญิงสาวปาดน้ำตาและมองเขาทันที “นายท่าน ตื่นแล้วหรือเจ้าคะ!”เฉินฝากเงยหน้ามองหญิงสาว……ผมเผ้าดำเงาวับ ผิวขาวนวลผุดผ่องดังหยก ดวงตาคู่งามแลมองหมุนรอบเป็นพันครั้ง ทุกการขมวดคิ้วคือการตีความคำว่าสง่างามน่าประทับใจผ้าดิบหยาบกระด้าง ก็ไม่อาจปกปิดรูปร่างน่าเอ็นดูของนางเฮ้ย...
Comments