ไม่ใช่ความจริงใช่ไหม!เหม่อลอยเพียงครู่เดียว ฉินเย่ว์เจียวก็ขยับมาอยู่ข้างเขาแล้ว นางเปิดผ้าห่มครึ่งหนึ่งแล้วห่มไว้บนตัวเฉินฝานอบอุ่นและมีกลิ่นหอมกลิ่นหอมจากตัวฉินเย่ว์เจียวพอ ๆ กับนิสัยดุดันของนางเข้มข้น เร่าร้อน!เฉินฝานถึงกระทั่งอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจผู้ชายแผ่นดินนี้ช่างมีความสุขจริงๆ !ช่วงเวลาที่เฉินฝานประทับใจ ข้างกายของเขาพลันว่างเปล่า……รู้สึกตัวอีกที ฉินเย่ว์เจียวลงจากเตียงเตาไปแล้วเวลาผ่านไปหลายวินาทีกว่าเฉินฝานจะรู้สึกตัว เมื่อครู่นี้ฉินเย่ว์เจียวเพียงแค่ช่วยให้ความอบอุ่นกับผ้าห่มเท่านั้นเขาคิดว่า……พูดตามตรง เขารู้สึกผิดหวังอยู่ข้างในเล็กน้อย“แค่ก ๆ !”“ยังอุ่นไม่พอรึ” ฉินเย่ว์เจียวหันกลับมาถาม“พอแล้ว ๆ!” เฉินฝานรีบตอบพูดจบ ความจริงแล้วข้างในรู้สึกเสียดายเล็กน้อยเฉินฝาน กลัวอะไรวะ ต้องพูดว่าไม่พอสิเตียงเตาใหญ่มาก สองพี่น้องตระกูลฉินคงจะนอนอีกฝั่ง แต่เวลาผ่านไปพักใหญ่ เฉินฝานก็ไม่เห็นสองเงาของพี่น้องตระกูลฉินพลันมีเสียงแซก ๆ ดังมาจากพื้น เฉินฝานชะโงกหัวตามที่มาของเสียงสองพี่น้องตระกูลฉินปูหญ้าอยู่ตรงมุมที่ใกล้เขาที่สุด พวกนางม้วนตัวอยู่บนเตียงหญ้
เฉินฝานสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่ามือของฉินเย่ว์เจียวมีอาการสั่นเล็กน้อยเมื่อหันกลับก็พบว่ามีเหงื่อเต็มหน้าผากฉินเย่ว์เจียวฉินเย่ว์เจียวแสดงสีหน้าท่าทางเป็นความกล้าหาญทันทีที่เห็นเฉินฝานหันกลับมาท่าทางดื้อรั้นของฉินเย่ว์เจียวทำให้เฉินฝานหัวเราะ“นั่นมันเสือ จะกลัวขายหน้าทำไม ข้าก็กลัวเหมือนกัน”เฉินฝานกุมมือฉินเย่ว์เจียวแน่น “อยู่ใกล้ข้าไว้ ไม่จำเป็นต้องฝืน พวกเราไม่ต้องเข้าไปลึกมาก แค่มองรอบ ๆ ว่ามีพวกกระต่ายป่าหรือนกป่าหรือไม่ก็พอ จับสักตัวสองตัวพวกเราก็กลับ ห้ามโลภเด็ดขาด”ภูเขาหัวเสือเพราะว่ามีเสือ คนจึงขึ้นมาน้อย พวกเฉินฝานจับไก่ป่าได้สามตัวกับกระต่ายหนึ่งตัวได้อย่างรวดเร็ว“สวบ!”ฝีมือการยิงธนูของฉินเย่ว์เจียวไม่เลวจริง ๆ นางยิงกระต่ายได้อีกหนึ่งตัว“ยิงโดนแล้ว ข้ายิงโดนอีกแล้ว!” ฉินเย่ว์เจียววิ่งไปเก็บกระต่ายอย่างดีใจ“เย่ว์เจียว กลับมา……”“โฮก!”เสียงของเฉินฝานถูกเสียงโฮกของเสือกลบตรงหน้ามีเสือกระโจนออกมากะทะหันตัวหนึ่ง มันจ้องเฉินฝานกับฉินเย่ว์เจียวไม่ขยับฉินเย่ว์เจียวชูคันธนูขึ้นตามสัญชาตญาณ“อย่าขยับ!” เฉินฝานตะโกนห้ามฉินเย่ว์เจียวพุ่มหญ้าด้านหลังเสือมีความ
“พี่สาม สิ่งที่นายท่านยัดเข้าไปในท้องปลาคือหญ้าเซียนนู๋หรือไม่ หญ้านั่นกินได้ด้วยหรือ!”ฉินเย่ว์เจียวส่ายหัวว่าไม่รู้เหมือนกัน อย่างไรเสีย นางไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าหญ้าเซียนนู๋กินได้“พี่สาม!” ฉินเย่ว์โหรวชี้ไปที่กองมันสำปะหลังในลานสวน “นั่นคืออะไรเจ้าคะ!”“ข้าไม่รู้” ฉินเย่ว์เจียวส่ายหัว“เหมือนท่อนไม้เลย ใช้เป็นฟืนรึ!”“ไม่ใช่!” ฉินเย่ว์เจียวส่ายหัวอีก “นายท่านบอกว่าเป็นของกิน”“ของกิน! ท่อนไม้กินได้ด้วยหรือเจ้าคะ!”“กินได้สิ! มันไม่ได้เรียกว่าท่อนไม้ มันชื่อว่ามันสำปะหลัง” เฉินฝานยืนขึ้นแล้วไปหยิบมันสำปะหลังสามอันยาวยี่สิบกว่าเซนติเมตรมา “มา พวกเจ้ามานี่แล้วเอามันสำปะหลังสามอันนี้ไปขูดเปลือกออกซะ จากนั้นนำไปต้มนะ”มันสำปะหลังในหม้อต้มสุกอย่างรวดเร็ว ปลาเผาบนถ่านก็ส่งกลิ่นหอมอบอวล เฉินฝานโรสเกลือลงไปเล็กน้อย กลิ่นหอมของปลาเผาลอยออกอบอวลไปทั่วเรือนในทันใด“หอมจัง!”แม้ว่าฉินเย่ว์โหรวออกเรือนเป็นภรรยาคนแล้ว แต่นางยังเด็กมาก นางจ้องปลาเผาที่อยู่บนฝืนไม่ขยับพลางกลืนน้ำลายอย่างควบคุมไม่ได้ฉินเย่ว์เจียวโตกว่าเล็กน้อย จึงไม่ได้แสดงออกชัดเจนเท่าฉินเย่ว์โหรว แต่นางแอบกลืนน้ำลายไปหล
กินอาหารง่าย ๆ เสร็จ เฉินฝานกับฉินเย่ว์เจียวก็เตรียมตัวจะไปขายไก่ป่ากับกระต่ายในเมืองฉินเย่ว์โหรวร่างกายอ่อนแอจึงอยู่เฝ้าเรือนแทนหมู่บ้านซานเหออยู่ในเมืองที่มีชื่อว่าเมืองหลีผิง จากหมู่บ้านซานเหอไปยังตลาดในเมืองเพียงสิบกว่าลี้ ระยะห่างไม่ไกลมากนักคนชนบทเป็นคนตื่นเช้า เมื่อเฉินฝานกับฉินเย่ว์เจียวเดินมาถึง ในตลาดก็เต็มไปด้วยเสียงเรียกขายของต่าง ๆ ดังไม่ขาดสายสำหรับฉินเย่ว์เจียวแล้ว การขายไก่ป่ากับกระต่ายเป็นสิ่งที่นางคุ้นเป็นอย่างดี“น้องเย่ว์เจียวมาแล้วหรือ วันนี้ล่าได้สัตว์อะไรมาล่ะ”สตรีวัยกลางคนขายไช้กัวอยู่ข้าง ๆ ถามขึ้นอย่างดีใจเมื่อเห็นฉินเย่ว์เจียวแต่เมื่อสตรีวัยกลางคนเห็นเฉินฝานที่ยืนอยู่ข้างหลังฉินเย่ว์เจียวแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าก็หายไปทันใด ตามมาด้วยการมองเฉินฝานด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจเมื่อก่อนเฉินฝานตามมาเอาเงินทั้งนั้น เมื่อได้เงินแล้วก็เอาไปเล่นพนันทันที คนที่นี่จึงไม่ต้อนรับเขามากนักฉินเย่ว์เจียวยกไก่ป่าขึ้นมา “ท่านป้า วันนี้ข้าจับไก่ป่าได้เจ้าค่ะ!”สตรีวัยกลางคนก้มศีรษะลงและมอง “โอ้โห ไก่ป่าตัวนี้ช่างอ้วนท้วนเหลือเกิน วันนี้น้องเย่ว์เจียวจะรวยแล้
ฉินเย่ว์โหรวไม่ได้สติมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อกลิ่นผู้ชายของเฉินฝานเข้าใกล้มาก ๆ ยิ่งรู้สึกอยากแนบชิดสองแขนโอบล้อมคอเฉินฝานและกดลงมาปกติเขินอายไร้เดียงสาเหมือนเจ้ากระต่ายน้อย แต่เวลานี้กลับเร่าร้อนดั่งเปลวไฟ“นายท่าน นายท่าน……”เสียงออดอ้อนเว้าวอนดังออกมาจากริมฝีปากแดงอมชมพูของนางเฉินฝานอดกลั้นอย่างทรมาน เมื่อฉินเย่ว์โหรวใจร้อนถึงเพียงนี้ เช่นนั้นเขาก็จะไม่เป็นสุภาพบุรุษอีกต่อไปเมื่อทุกอย่างกำลังจะสุกงอม……ทันใดนั้น……สีแดงพราวเป็นแผ่นขยายวงกว้างต่อหน้าเฉินฝานช้า ๆมาพร้อมด้วยเสียงร้องปวดจากฉินเย่ว์โหรว เสียงหายใจถี่หายไปและปรับเปลี่ยนเป็นเสียงสะอื้นน่าสงสารในดวงตาเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา นางมองเฉินฝานด้วยแววตาตัดพ้อ: “นายท่าน ท่าน……อ่อนโยนหน่อยไม่ได้หรือเจ้าคะ!”เวลานี้ฉินเย่ว์โหรวรู้สึกเพียงแต่มวนท้อง โดยเฉพาะท้องน้อยที่เจ็บจี๊ดเหมือนโดนมีดบาดเฉินฝานเข้าใจคำตำหนิทันทีราวกับแววตาของฉินเย่ว์โหรวพูดได้แต่ตอนนี้เขารู้สึกจนใจและน้อยใจมากกว่านี่ไม่ใช่ความเจ็บที่เกิดอาการฉีกขาด!เขาอยากทำอะไรสักอย่าง แต่เขายังไม่ทันได้เริ่มเลย!เพราะประจำเดือนของฉินเย่ว์โหรวมาพอดีต่างหาก!นาง
ฉินเย่ว์เจียวดึงคันธนูแล้วเดินไปหยุดอยู่ด้านหน้าฉินเย่ว์โหรวใบหน้าของหลี่ซานเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “พานางออกไป ข้าไม่เชื่อว่านางจะกล้าลงมือ!”ชายทั้งสองยังคงเดินหน้าต่อไป ฉินเย่ว์เจียวถูกบีบให้ล่าถอยไปทีละก้าว สายตาเห็นว่าจะโจมตีฉินเย่ว์โหรว“ใครก็ตามที่กล้าพาน้องสี่ของข้าไป ข้าจะยิงพวกเจ้าให้ตายด้วยลูกธนูดอกเดียว!” ฉินเย่ว์เจียวตะโกนลั่น พร้อมดึงสายธนูในมือให้โค้งได้มากที่สุด“พี่สาม อย่าเลย!”ฉินเย่ว์โหรวกอดฉินเย่ว์เจียว “ให้เรื่องจบเท่านี้เถิด ข้าจะไปกับพวกเขาเอง ท่านไม่จำเป็นต้องเสี่ยงชีวิตอีก”ฉินเย่ว์โหรวหลับตาอย่างยอมแพ้ ยังคิดด้วยซ้ำว่าหลีกเลี่ยงจูต้าอันก็พอแล้วแต่ทำไมนางถึงลืมเรื่องที่นางถูกขายให้กับหอนางโลมอี๋ชุนย่วนไปอีกแล้ว“เจ้าพูดเหลวไหลอะไรน่ะ! มาเลย!” ดวงตาของฉินเย่ว์เจียวเป็นสีแดงเข้ม นางกัดฟันและตะโกนเสียงดัง “ถ้าอย่างนั้นเราก็มาตายด้วยกัน!”“จะตายอะไร จะรอดอะไรน่ะ!” เฉินฝานคว้าด้ามธนูจากมือของฉินเย่ว์เจียว “ข้าบอกเจ้าแล้วไม่ใช่หรือ เจ้าเป็นเด็กผู้หญิง อย่าเอาแต่ต่อสู้ฆ่าฟันทั้งวัน เจ้าไม่ฟังคำของข้าเลยหรือไร”“เฉินฝาน ท่านปล่อยข้า!”ความจริงที่ว่าฉินเย่ว์
“จริงสิ ข้าเตือนไว้เสียหน่อย เมื่อครู่ที่ตีคือใบหน้า แต่ครั้งนี้จะไม่ใช่ และมันเป็น…”สายตาของเฉินฝานจับจ้องไปที่ดวงตาของหลี่ซานหลี่ซานปกป้องดวงตาของตนตามสัญชาตญาณ และพูดขึ้นอย่างร้อนตัว “เจ้าหนู เจ้ากำลังขู่ใครอยู่?"เฉินฝานพูดไม่ยี่หระ “ถ้าเจ้าลอง...ก็จะได้รู้เอง”ก่อนจะทะลุมิติมา เฉินฝานเพิ่งปลดประจำการจากทีมปฏิบัติการพิเศษในประเทศหนึ่งหากไม่ใช่เพราะร่างกายนี้ขาดการออกกำลังกาย ท่อนไม้ที่เพิ่งพุ่งเข้าไปที่ใบหน้าของหลี่ซานจะไม่เพียงแต่ทำให้หลี่ซานเจ็บเท่านั้น ครั้นจะเห็นเลือดออกมาเสียด้วยซ้ำหลี่ซานอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย เฉินฝานที่อยู่ตรงหน้า เห็นได้ชัดว่าเป็นคนธรรมดาที่ยากจนคำพูดและดวงตาของเขาก็ประจักษ์แจ้งได้ว่าดูไม่จริงจัง กระนั้นไม่รู้ว่าทำไมยังทำให้เขาหวาดกลัวเพื่อนชั่วช้าของจูต้าอัน ในเวลานี้ได้ปลุกจูต้าอันให้ฟื้นขึ้นมาแล้วเขาถูกเฉินฝานทุบตีจนหยุดหายใจไปชั่วคราว แม้เฉินฝานจะเคลื่อนไหวรุนแรง ตีจนทำให้จูต้าอันเจ็บเกือบตายแต่เป็นการลงมืออย่างพอดี เพื่อป้องกันไม่ให้จูต้าอันตายจริงและก่อให้เกิดคดีความเกี่ยวกับชีวิตคนเมื่อจูต้าอันตื่นขึ้นมา ดวงตาของเขาก็เปลี่ยนไปอย่
หลี่ซานมองลูกธนูที่พุ่งตรงเข้าไปในดวงตาของนักเลง บนหน้าผากมีเหงื่อเย็นเป็นชั้นบาง ๆ โชคดีที่เขาไม่ใช่คนที่เฉินฝานยิง ไม่เช่นนั้นดวงตาของเขา...เฉินฝานหยิบลูกธนูอีกดอกออกมาจากกระบอกใส่ธนูของฉินเย่ว์เจียว มองพวกนักเลงอย่างเย็นชาเขายังไม่ทันได้ส่งเสียงอะไรออกไป พวกนักเลงก็ก้าวถอยหลังไปทีละคน“เจ้าพวกขี้ขลาด ถอยทำไม ไปสิ!”“ข้าบอกให้ไป!”ไม่ว่าหลี่ซานจะตะโกนอย่างไร ก็ไม่มีนักเลงคนใดกล้าโจมตี ซ้ำยังถอยห่างออกไปเรื่อย ๆไม่มีทาง ใครเล่าจะไม่กังวลเรื่องดวงตาของตน“เฉินฝาน เจ้าคิดว่าเจ้าเก่งกาจมากนักหรือ? เจ้าเก่งกาจมากกว่ากฎหมายของต้าชิ่งหรือ? ข้าจะฟ้องทางการ ฟ้องทางการ!”ท้ายที่สุดแล้ว หลี่ซานคือนายน้อยแห่งหอนางโลมอี๋ชุนย่วน เขาไม่เคยโกรธขนาดนี้มาก่อนที่เขาจะได้พบกับเฉินฝาน เขาตะโกนดังลั่นด้วยความโกรธ“ข้าไม่ได้บอกว่าจะไม่คืนเงิน ฟ้องทางการ เจ้ามีเหตุผลอะไร”“เหตุผลอะไร!”“ฮ่า ๆๆ อย่าหาว่าข้าไม่เตือนเจ้านะ หนึ่งร้อยเท่าของหนึ่งร้อยอีแปะเป็นเงินสิบตำลึง เจ้าต้องชดใช้คืนภายในสามวัน ครบไปแล้วหนึ่งวัน ตอนนี้เจ้ามีเวลาเพียงแค่สองวันเท่านั้น คนจนเช่นเจ้า...จ่ายไหวหรือ”หลี่ซานแสดงท่
เฉินฝานเป่าปืนในมือ พูดกับหญิงชุดสีน้ำเงินต่อ“แม่นางคิดอยากจะสังหารข้า เรื่องนั้นเป็นไปไม่ได้ อีกอย่าง ข้าคิดว่าเจ้าคงถูกตาเฒ่าหวงโถวหลอกแล้วแน่ๆ ข้ากับเขาไม่เคยสัญญาหมั้นหมายใดๆ กันมาก่อน”“เจ้าในตอนนั้นเป็นแค่เด็ก ย่อมไม่ได้ทำสัญญาหมั้นหมายกับเจ้า” หญิงชุดสีน้ำเงินพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด“ไม่ได้ทำกับเจ้าพ่อและเจ้าแม่ของข้าด้วย” เฉินฝานตอบด้วยความมั่นใจเช่นเดียวกันพ่อแม่เจ้าของร่างเดิม เป็นเพียงคู่สามีภรรยาธรรมดาทั่วไป พวกเขาไม่มีทางรู้จักเซียนเจี้ยนหวงที่เป็นถึงผู้มีชื่อเสียงของบู๊ลิ้ม“พ่อกับแม่เจ้าไม่ได้ทำสัญญา ทว่าพ่อบุญธรรมของเจ้าทำ”“พ่อบุญธรรม?”เฉินฝานถึงกับพูดไม่ออก เขามีพ่อบุญธรรมตั้งแต่เมื่อใด เหตุใดเขาจึงไม่รู้ฟังคำพูดของเฉินฝาน หญิงชุดสีน้ำเงินขมวดคิ้วเล็กน้อย “ดูเหมือนเจ้าเองก็ไม่อยากแต่งงานกับข้า เช่นนั้นก็ดีเหมือนกัน ขอเพียงเจ้าฉีกสัญญาหมั้นหมายต่อหน้าข้า เช่นนั้นการหมั้นหมายระหว่างเรา ถือว่าจบสิ้น”“สัญญาหมั้นหมาย? ข้าไม่เคยพบเจอมาก่อน” เฉินฝานตกตะลึงเล็กน้อย หญิงชุดสีน้ำเงินเป็นเพียงเด็กสาววัยสิบเจ็ดที่วางตัวเป็นผู้ใหญ่เท่านั้น นางไม่ได้เจ้าเล่ห์เพทุบาย ส
ถึงอย่างไรหญิงชุดสีน้ำเงินก็เป็นคนมีฝีมือ นางหลุดออกจากพันธนาการของเฉินฝานอย่างรวดเร็ว“ข้าจะสังหารท่าน!” หญิงสาวตะโกนขึ้น เหาะขึ้นกลางอากาศพุ่งตัวไปยังดาบที่ถูกเฉินฝานยิงทิ้งเมื่อครู่ จากนั้นเก็บดาบขึ้นมาแล้วพุ่งตัวไปหาเฉินฝานการจู่โจมครั้งนี้ของหญิงชุดสีน้ำเงิน รวดเร็วกว่าครั้งก่อนหน้า เพียงชั่วพริบตา นางก็ปรากฏตัวตรงหน้าเฉินฝานแล้วหากเฉินฝานไม่มีดาบในมือ เกรงว่าจะกลายเป็นวิญญาณภายใต้ดาบของหญิงสาวไปนานแล้ว“ปั้ง!”หญิงสาวถอยหลังอีกครั้งเพราะถูกเฉินฝานยิงหญิงสาวที่ถูกเฉินฝานโต้กลับ ตีลังกากลับหลังกลางอากาศสามตลบ สุดท้ายร่อนลงพื้นอย่างแผ่วเบาหญิงสาวชุดสีน้ำเงินที่ยืนอยู่บนพื้นดิน แขนเสื้อของนางยังคงพลิ้วไหวไปตามแรงลม“แม่นางช่างตัวเบาจริงๆ” เฉินฝานอดไม่ได้ที่จะพูดแต่คล้ายหญิงสาวไม่ได้ยินคำชมของเขาอย่างไรอย่างนั้น นางที่มือถือดาบ แววตาสงสัยระคนตกใจ จับจ้องปืนขนาดเล็กในมือเฉินฝาน “อาวุธของท่านคืออะไร?”ครั้งแรกที่เฉินฝานยิง นางไม่ได้ใส่ใจเท่าใดนัก นางคิดว่าตนประมาทเกินไป นางยังคงคิดว่าสำหรับตนแล้วการสังหารเฉินฝาน เป็นเพียงเรื่องขี้ประติ๋วนางไม่ได้โอหัง แต่นางเป็นคนเก่งจร
“ท่านคิดว่าพูดเช่นนี้แล้ว ข้าจะไม่สังหารท่านหรือ?”หญิงชุดสีน้ำเงินเสียงอ่อนหวาน แม้จะพูดจาข่มขู่ แต่กลับไม่น่ากลัวเลยสักนิด“แม่นาง แม้เจ้าจะทำตัวเหมือนผู้ใหญ่ แต่เจ้าก็เป็นแค่เด็กน้อยคนหนึ่ง!” เฉินฝานพูดด้วยรอยยิ้ม“ผู้ใดเป็นเด็ก!”ปลายดาบขยับลึกไปด้านหน้าอีกเล็กน้อย เสื้อตัวนอกของเฉินฝานถูกดาบของหญิงชุดสีน้ำเงินแทงทะลุแล้ว คำพูดของเฉินฝานทำให้นางโมโหยิ่งนัก “ปีนี้ข้าอายุสิบเจ็ดแล้ว ข้าไม่ใช่เด็กแล้ว”“อื้ม!” เฉินฝานพยักหน้า “อายุสิบเจ็ดไม่เด็กเท่าไรแล้ว หญิงสาวหลายคนอายุสิบเจ็ดก็มีลูกแล้ว แม่นาง หญิงสาวเช่นเจ้าตีรันฟันแทงไปเพื่อการใด กลับไปมีลูกกับสามีไม่ดีกว่าหรือ”“คนขายแคว้นค้าชาติเช่นท่าน ปล่อยให้ยาพิษของแคว้นหลู่มาทำลายแคว้นต้าชิ่ง ต่อให้เรามีสัญญาหมั้นหมายกัน ข้าก็ไม่มีวันแต่งงานกับท่าน!”“...หมั้นหมาย?” เฉินฝานชะงัก “ข้าเคยหมั้นหมายกับเจ้าเมื่อใดกัน? เจ้าเป็นใคร?”“วันนี้ข้าจะสังหารท่าน!”สตรีชุดสีน้ำเงินไม่ตอบคำถาม ร้องตะโกนเสียงดัง มือขาวดั่งหยกจับดาบแน่นแล้วพุ่งมาด้านหน้า...“ติ้ง!”“ตึ้ง !”ดาบของหญิงชุดสีน้ำเงินถูกปืนของเฉินฝานยิงจนร่วงหล่น“ปั้ง!”เสียงปืน
“ใต้เท้า ท่านอ๋อง พวกท่านอย่าเข้าไปในแคว้นต้าชิ่งสุ่มสี่สุ่มห้า อันตรายเจ้าค่ะ!” หงอิงไล่ตามไปเวลาเพียงหนึ่งจิบน้ำชา หงอิงก็ไล่ตามพวกเฉินฝานทันกล่าวให้ถูกต้องคือ หงอิงไม่ได้ไล่ตามทัน แต่เฉินฝานและอ๋องตวนยืนนิ่งไม่ยอมเดินมองเฉินฝานและอ๋องตวนที่ยืนอยู่ไม่ไกล หงอิงถอนหายใจเบาๆโชคดี เฉินฝานยังฟังที่นางห้ามปราม ทุกคนในเมืองลู่ตูกำลังรอเขาด้วยไอสังหาร หากพรวดพราดเข้าไปในเวลานี้ อันตรายมากจริงๆ“ใต้เท้า ท่านอ๋อง พวกท่านรอข้าที่นี่ก่อน ข้าจะเข้าไปปูทางให้พวกท่านเรียบร้อยเสียก่อน พวกท่านค่อยเข้ามา” หงอิงขี่ม้าผ่านหน้าเฉินฝานและอ๋องตวนไป“หงอิง เจ้าคิดว่าพวกข้าไม่อยากไปหรือ? มีคนขวางทางพวกเราอยู่” เสียงดังฟังชัดราวกับฟ้าคำรามของอ๋องตวนดังขึ้น“ฮุยเอ๋อร์ ฮุยเอ๋อร์”สิ้นเสียงอ๋องตวนไม่นาน ด้านหน้าก็มีเสียงร้องของลาดังขึ้นเวลานี้ หงอิงเพิ่งพบว่าทางด้านหน้า มีลาตัวหนึ่งยืนอยู่ บนหลังลามีสตรีชุดน้ำเงินนั่งอยู่มองจากรูปร่างของสตรีคนนั้น เป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง อายุไม่มากนัก อย่างมากก็แค่สิบหกถึงสิบเจ็ดปีเท่านั้น หญิงสาวในชุดเสื้อคลุมสีน้ำเงิน สวมหมวกปีกกว้างบดบังใบหน้า หมวกปีกกว้างของ
เฉินฝานเปิดผ้าม่านมองหงอิงด้านหน้าด้วยความสงสัย ตลอดทางมานี้ คนที่รีบร้อนที่สุดก็คือนาง ไฉนเมื่อเข้าใกล้เมืองลู่ตูแล้ว นางกลับไม่ให้เขาเข้าไป“ใต้เท้า!”หงอิงขี่ม้าไปด้านข้างเฉินฝาน อธิบายสถานการณ์ตอนนี้ที่ต้าชิ่งมองว่าเขาเป็นศัตรู“ใต้เท้า ฝ่าบาทยังรับสั่งอีกว่า รอให้ฝ่าบาทจัดการความโกลาหลในต้าชิ่ง มั่นใจว่าท่านจะปลอดภัยให้ได้ก่อน ข้าน้อยจึงจะสามารถพาท่านกลับต้าชิ่งได้”“เจ้าพูดอันใดของเจ้า เจ้ากล้าขวางทางพวกเรางั้นรึ?”อ๋องตวนยกขาถีบขาคู่ ง้างหมัดพุ่งไปทางหงอิง หงอิงกระโดดลงหลังม้าอย่างคล่องแคล่ว เพื่อหลบหมัดของอ๋องตวนหงอิงยังไม่ทันทรงตัวได้ดี อ๋องตวนก็ง้างหมัดออกไปอีกรอบ...“ปึก!”“โอ้ย!”อ๋องตวนถูกสวนกลับ ม้าที่เขาขี่ตกใจจนวิ่งพล่านไปทั่ว โชคดีที่อ๋องตวนมีทักษะการขี่ม้าขั้นสูง มิเช่นนั้นตอนนี้เขาคงจะถูกสะบัดตกหลังม้าไปแล้วคนที่สวนกลับอ๋องตวนไม่ใช่หงอิงแต่เป็นเฉินฝาน“เสี่ยวฝานเจ้า...”อ๋องตวนมองเฉินฝานด้วยสีหน้าตื่นตกใจ เขารู้ว่าเฉินฝานใช้ปืนได้เก่งกาจ มิคิดว่าทักษะทางร่างกายก็เก่งกาจปานนั้นเช่นกันเขามีพลังเทพมาตั้งแต่กำเนิด การโจมตีของเขา คนอื่นทำได้เพียงหลบเลี่ยง
แต่งงานถูกคนแล้ว ได้รับการยอมรับจากราษฎรทั้งแคว้น โอวหยางน่าหลันรู้สึกโชคดีหาสิ่งใดเปรียบเทียบมิได้แน่นอนว่า คนที่ตื่นเต้นดีใจที่สุดคืออ๋องตวน เขายืนลูบเคราตนเองภาคภูมิใจกับผลงงานตนเองเขามิได้มีความสามารถอันใด ทว่าเขาเลือกลูกเขยได้ดี ฮ่า ๆ ๆ ๆ !ตอนที่ขึ้นรถม้า เฉินฝานก็เตรียมใจปลอบประโลมโอวหยางน่าหลันไว้แล้ว ดูจากภายนอกแล้วนางที่คนที่เข้มแข็งตรงไปตรงมา แต่ความจริงในบรรดาภรรยาของเฉินฝานนางเป็นคนที่ติดสามีที่สุดคนหนึ่ง ติดยิ่งกว่าฉินเย่ว์โหรวเสียอีก“เอ๋?”หลังจากที่ขึ้นรถม้าไปแล้ว เฉินฝานมองโอวหยางน่าหลันที่ปล่อยมือและยืนอยู่ด้านนอกรถม้าอย่างว่าง่ายด้วยความประหลาดใจอย่างมากเฉินฝานกำลังจะถามหยอกล้อนางว่าเบื่อเขาแล้วหรือกระไร ทว่าโอวหยางน่าหลันก็ชิงพูดก่อน“ท่านพี่ฝาน พี่รีบกลับไปเถอะ ราษฎรต้าชิ่งต้องการพี่ ยิ่งไปกว่าพี่น้องตระกูลฉินก็ต้องการพี่เช่นกัน”น้ำเสียงของโอวหยางน่าหลันอบอุ่นเกินคาด“รีบไปเถอะ!”ระหว่างที่พูด โอวหยางน่าหลันก็หยิบแส้ของคนขับรถม้าฟาดลงไปที่ตัวม้าอย่างรุนแรงทันที“ฮี่ ๆ!”ม้าที่ถูกแส้ม้าตี ร้องเสียงดังวิ่งไปด้านหน้าจึงทำให้รถม้าที่เฉินฝานนั่งเคลื่อนท
เฉินฝานมิยอมให้โอวหยางน่าหลันไปต้าชิ่งกับเขา ทว่าก็ยังยืนกรานจะไปส่งออกจากวังหลวงช่วงเวลาที่ประตูวังเปิดออก...“ลูกเขยที่แสนดีของข้า!”อ๋องตวนตะโกนเสียงดังเป็นคนแรกด้านนอกวังหลวงมีราษฎรคุกเข่าอยู่ด้านนอกมากมายสุดลุกหูลูกตาเมื่อเฉินฝานออกมา ก็มีเสียงเกรียวกราวดังขึ้นทันที่“ส่งเสด็จใต้เท้าขอรับ!”“รอคอยให้ใต้เท้ากลับมาแคว้นหลู่โดยเร็ว!”เรื่องที่เฉินฝานจะกลับต้าชิ่งไปแพร่กระจายไปเหล่าราษฎรแล้ว เมื่อเหล่าราษฎรได้ยินว่าเฉินฝานจะกลับต้าชิ่ง ก็รีบหยุดทำงานตรงหน้า รีบมาส่งเสด็จที่ด้านนอกประตูวังตลอดระยะเวลาที่เฉินฝานมาอยู่ที่นี้ แคว้นหลู่ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ไฟไหม้ใหญ่ครั้งนั้นเผาทำลายป่าไม้แคว้นหลู่เกินกว่าแปดในสิบ ทำลายหนทางทำมาหากินของราษฎรแคว้นหลู่ส่วนใหญ่ ตอนที่ทั้งแคว้นหลู่เข้าสู่สภาวะสิ้นหวัง เฉินฝานก็ปรากฏตัวขึ้นมิใช่ทุกคนที่เชื่อว่าเทพเจ้าพิโรธ ทว่าคนที่สิ้นหวังส่วนใหญ่ล้วนเอาความเดือดดาลไปลงที่เฉินฝานเฉินฝานกลับไม่กลัดกลุ้มไม่โมโห เขาแบกรับความกดดันอันใหญ่หลวง ภายใต้สายตาความแค้นเคืองของเหล่าราษฎร เดินเท้าไปดับไฟในแค้วนหลู่เมืองแล้วเมืองเล่า และเขามิ
“เจ้าไปบอกองค์หญิงให้ข้า วันนี้ข้าไม่เข้าท้องพระโรงแล้ว จำเป็นต้องกลับต้าชิ่งทันที!”เฉินฝานถอดชุดขุนนางด้วยความรวดเร็ว ในขณะเดียวก็ออกคำสั่งกับผู้ดูแลวังต้าชิ่งเกิดเรื่องใหญ่หลวงจริง ๆ ข่าวที่หงอิงมาบอกทำให้รู้สึกหวาดกลัวสิบวันก่อน สายน้ำที่ไหลจากแคว้นหลู่ไปที่ต้าชิ่งให้เหล่าราษฎรต้าชิ่งอุปโภคบริโภคอย่างเป็นทางการ มิคิดว่าหลังจากที่ดื่มน้ำจากแคว้นหลู่ไปแล้ว ราษฎรต้าชิ่งส่วนใหญ่ล้วนเจ็บป่วยไม่สบาย รุนแรงถึงขั้นมีบางคนเสียชีวิตตอนนี้ราษฎรของต้าชิ่งทั้งหวาดกลัวและกลัดกลุ้ม ข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วว่า แคว้นหลู่จงใจใส่ยาพิษลงไปในแหล่งน้ำเพื่อที่จะทำลายล้างต้าชิ่งให้สิ้นซากเมื่อข่าวลือกระจายออกไปเรื่อย ๆ เฉินฝานก็ตกเป็นเป้าในการกล่าวโทษอีกครั้งกล่าวว่าเฉินฝานจงใจ ตอนนี้เขาเป็นอัครเสนาบดีแคว้นหลู่และยังเป็นพระราชบุตรเขยของโอวหยางน่าหลัน เขาร่วมมือกับโอวหยางน่าหลันเพื่อที่จะสังหารราษฎรส่วนใหญ่ของต้าชิ่งเปิดทางให้แคว้นหลู่ยึดดินแดนต้าชิ่งเมื่อแคว้นหลู่ยึดเขตแดนต้าชิ่งได้แล้ว เฉินฝานก็จะฉวยโอกาสขึ้นเป็นจักรพรรดิทันทีข่าวลือนี้เกินความเป็นจริงไปเรื่อย ๆ มินานนักก็กระจายไปทั่วต้าชิ
คนแก่คนนี้คือฝูป๋อ คนที่เคยช่วยเฉินฝานดับไฟที่เมืองตงเจียวในตอนแรก เดิมทีเขาไปที่เมืองตงเจียวเพื่อจะไปหาลูกชายคนเล็ก เพิ่งกลับมาเมื่อวาน มิคิดว่าเมื่อเข้าเขตวังหลวงก็พบว่าพวกเหมียวเหลียงจื้อกำลังจะกระโดดหน้าผาและได้ยินมาว่าเฉินฝานจะเดินทางมาจัดการ เขาจึงให้หลานคนโตพาเขามาที่นี้ทันที“ดี ๆ!” ฝูป๋อพยักหน้าหงึก ๆ “โชคดีของข้าที่ได้เจอใต้เท้า ตอนนี้ข้าสบายดีเป็นอย่างมาก!”เฉินฝานกำลังจะพูด ทว่าก็ถูกฝูป๋อชิงพูดตัดบทไปอีกแล้ว“พวกเด็กเปรต ช่างมิรู้จักผิดชอบชั่วดีเสียจริง!” ฝูป๋อยกไม้เท้าชี้ไปที่ฝูงชนด้านหน้าเขาฝูป๋อค่อนข้างมีอำนาจในกลุ่มฝูงเหล่านี้ ฝูป๋อตีพวกเขาก็ยังไม่มีใครกล้าต่อต้าน“มีความรู้อันน้อยนิด ก็กล้าพูดช่วยพวกเดียวกันเองแล้วรึ? พวกเจ้ารู้หรือว่าสิ่งใดเรียกว่าช่วยพวกเดียวกันเอง?”“ขุนนางเหล่านั้นตายไปแล้ว นอกจากทำให้พวกเจ้าคลายความเคียดแค้นลงไปได้เล็กน้อย แล้วมันทำให้ชีวิตต่อจากนี้ของพวกเจ้าดีขึ้นงั้นรึ? ก็ยังคงจะต้องใช้ชีวิตอดมื้อกินมื้อด้วยความยากลำบากทุกวันมิใช่หรือกระไร?”“ตอนนี้ใต้เท้าให้ขุนนางเหล่านั้นสร้างความชอบชดเชยความผิด พวกเขาจะทุ่มเทแรงกายคิดหาทุกวิธีทางให้พว