แชร์

บทที่ 10

ผู้เขียน: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-05-08 13:23:16
นี่มันอะไรกันเนี่ย?

เฉินฝานขมวดคิ้วแน่นแล้วเอ่ยถาม “เย่ว์เจียว เจ้ากำลังพูดถึงเรื่องอะไร หรือว่าถ้าข้าหาบ ทางการจะมาจับกุมฉินเย่ว์โหรวหรือ”

“หึ!” ฉินเย่ว์เจียวส่งเสียงไม่พอใจ “ทำไมถึงแสร้งโง่ สมองท่านพังไปแล้วจริง ๆ หรือไร”

!!!

เฉินฝานตกตะลึง หรือจะเป็นเรื่องจริง

ความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมมีจำกัด เขาจำเรื่องนี้ไม่ได้จริง ๆ

ประเทศนี้มันแปลก ๆ ผู้ชายทำงานไม่ได้แล้วหรือ

ไม่น่าแปลกใจเลยที่ผู้ชายมีน้อยเพียงนี้

ในความเป็นจริง ผู้ชายในรัชสมัยต้าชิ่งสามารถทำงานได้ แล้วก็ยังถือว่าผู้ชายต้องแข็งแกร่งเพื่อความสวยงามอีกด้วย

แต่ถ้าเฉินฝานเป็นฝ่ายเก็บมูลวัว ส่วนฉินเย่ว์โหรวกลับไปมือเปล่ามันคงจะผิดปกติ

ผู้ชายในรัชสมัยต้าชิ่งมีสถานะสูงส่ง รู้สึกว่าผู้หญิงเกิดมาเพื่อรับใช้ผู้ชาย หากเฉินฝานหาบ ฉินเย่ว์โหรวเดินกลับมือเปล่า เช่นนั้นนางจะต้องถูกผู้อื่นสาปส่งนับไม่ถ้วน จากนั้นอาจถูกฟ้องไปยังทางการโดยผู้ชายในหมู่บ้าน ถึงยามนั้นจะต้องมีบทลงโทษกฎหมายอาญากว่ายี่สิบข้อหา

ด้วยร่างกายปัจจุบันของฉินเย่ว์โหรว ไม่มีทางที่จะสามารถต้านทานการลงโทษเจ้าหน้าที่ได้

เฉินฝานไม่รู้อะไรเลย นอกจากกังวลว่าจะมีคนฟ้องทางการแล้ว ฉินเย่ว์โหรวยังต้องการพิสูจน์ให้เขาเห็นว่าถึงแม้ขาของนางจะไม่ดี แต่ก็ยังหาบมูลวัวและทำงานได้

เมื่อเฉินฝานรู้สึกตัว พี่น้องฉินก็หาบของกลับบ้านแล้ว

“นี่ พวกเจ้ารอข้าด้วยสิ” เฉินฝานรีบหยิบพลั่วขึ้นมาแล้วเดินตามไป

เครื่องมือเหล็กเป็นของหายากในยุคนี้ จะถูกขโมยเอาได้หากไม่นำกลับไปด้วย

“นายท่าน ท่านจะทำอะไรกับมูลวัวทั้งหมดนี้กันแน่เจ้าคะ” หลังจากกลับบ้านและวางมูลวัวลง ฉินเย่ว์โหรวอดไม่ได้ที่จะถาม

"เผา!"

“เผาหรือ” มูลก็เผาได้ด้วย? ฉินเย่ว์โหรวเดินไปมารอบเตาทุกวัน แต่ไหนมาก็ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน

“เป่าอีกสิเจ้าคะ!” ฉินเย่ว์เจียวส่งเสียงหึ

“อืม” เฉินฝานยิ้มและพยักหน้า “รออีกหน่อยแล้วค่อยเป่า” การเป่าลมจะทำให้เผาไหม้ได้เร็วขึ้น

เมื่อเฉินฝานเผามูลวัวและอุ่นเตียงดินให้ร้อน สองพี่น้องฉินอ้าปากกว้างมาก การใส่ไข่ลงไปในนั้นได้ไม่ใช่เรื่องเกินจริง

“นายท่าน ท่านรู้ได้อย่างไรว่ามูลวัวสามารถเผาได้ เมื่อเผาแล้วจะไม่มีกลิ่นเหม็น” ฉินเย่ว์โหรวมองดูมูลวัวที่ลุกไหม้เป็นสีแดงใต้เตียงดินด้วยความประหลาดใจ

“เอ่อ...” เฉินฝานไม่รู้จะอธิบายอย่างไรจริง ๆ

ถ้าเขาบอกว่าทะลุมิติมา พวกนางคงไม่เข้าใจหรือเชื่อเขาอย่างแน่นอน

“ข้าเข้าใจแล้ว นายท่าน ท่านได้พบกับเทพภูเขาตอนที่ตกลงไปในหุบเขา เทพภูเขาได้บอกท่านใช่หรือไม่” ฉินเย่ว์โหรวพูดอย่างมีความสุขจนกระโดดเล็กน้อย

ฉินเย่ว์โหรวมีนิสัยเงียบสงบและอ่อนโยน เป็นเรื่องยากที่จะมีชีวิตชีวาขนาดนี้ ภายใต้แสงไฟ ใบหน้าได้รูปและละเอียดอ่อนของนางเปลี่ยนเป็นสีแดงเหมือนราวผลท้อที่เพิ่งสุก

“เอ่อ...” เฉินฝานแตะหัวแล้วยิ้ม “ใช่ ใช่ ข้าได้พบกับเทพภูเขาแล้ว”

ฉินเย่ว์โหรวเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย มองเฉินฝานแล้วก้มหน้าลงทันที

นายท่านไม่เคยยิ้มแบบนี้ให้นางเลย

ยามที่เขายิ้มนั้นดูหล่อเหลาเล็กน้อย

ในช่วงบ่ายหลังจากขับไล่จูต้าอันออกไป เฉินฝานก็อาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า เขาดูมีพลังมากขึ้นจริง ๆ

ฉินเย่ว์เจียวซึ่งยืนอยู่ข้างกัน มองการสนทนาระหว่างเฉินฝานและฉินเย่ว์โหรว แม้ว่าการแสดงออกของนางจะเบาลงบ้างแล้ว แต่ก็ยังเย็นชาอยู่

นางไม่ได้มีนิสัยเหมือนฉินเย่ว์โหรว ตั้งแต่ช่วงเวลาที่นางแต่งให้ชายคนนี้ เขาก็ขี้เกียจและต่ำช้ามาตลอด ตอนนี้แค่หกล้มไป จู่ ๆ เขาจะดีขึ้นได้หรือ

นางไม่เชื่อเลยสักนิด

ถ้าตอนนี้เขากล้าขายน้องสี่ นางจะยิงเขาตายด้วยธนูดอกเดียวอย่างแน่นอน

เฉินฝานอดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงการจ้องมองราวกริชของฉินเย่ว์เจียว

หลังจากที่เขาทะลุมิติมา ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องการชีวิตของเขาตลอดเวลา

การทะลุมิติของเขาไม่ใช่เรื่องปกติเลย

อุณหภูมิในตอนกลางคืนต่ำกว่าตอนกลางวันมาก เฉินฝานนั่งลงแล้วรีบเติมมูลวัวลงในเตาเตียง เขาต้องการให้เตียงร้อนขึ้น แล้วค่อยไปเก็บมูลวัวต่อ

“เอาล่ะ ไฟแรงพอแล้ว” เฉินฝานปรบมือและลุกขึ้นยืน

"หึหึ!"

ทันทีที่เฉินฝานยืนขึ้น ฉินเย่ว์โหรวก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะครั้นเห็นใบหน้าของเขา

“น้องสี่!” ฉินเย่ว์เจียวรีบคว้าฉินเย่ว์โหรว

“นายท่าน ข้าขอโทษ ข้าประพฤติตัวไม่เหมาะสม!” ฉินเย่ว์โหรวรีบก้มศีรษะลง

“นายท่าน น้องสี่ไม่ได้ตั้งใจ อย่าลงโทษนางเลย”

ฉินเย่ว์เจียวก็ก้มศีรษะลงเช่นกัน และร่างของสองพี่น้องก็สั่นเทาเล็กน้อย

“นี่ พวกเจ้าไม่ต้องกลัวข้าหรอก ข้าจะไม่ตีจริง ๆ …” เฉินฝานหยุดชะงัก ทำไมเด็กผู้หญิงสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขาถึงตัวสั่นแตกต่างจากปกติ ดูเหมือนไม่ได้กลัวเขานะ แต่เหมือน...

ทันใดนั้นเฉินฝานก็ย่อตัวลง จากนั้นเงยหน้าขึ้นเพื่อมองใบหน้าของพี่น้องฉิน

พวกนางกำลัง—— กลั้นหัวเราะ!

พวกนางกำลังหัวเราะ...

เฉินฝานเผลอยกมือเช็ดใบหน้า เป็นตามที่เขาคิด มือของเขาเป็นสีดำ

เมื่อครู่เขารีบร้อนในการเติมเชื้อเพลิงอย่างใจจดจ่อ คงเผลอลูบมัน และตอนนี้ใบหน้าของเขาคงเละเทะมาก

“ที่แท้พวกเจ้าก็…” เฉินฝานเปลี่ยนน้ำเสียง “ข้าว่าถ้าไม่ทุบตีเจ้าสักวัน ก็ไม่รู้ว่าจะก่อปัญหาอะไรสินะ”

น้ำเสียงเยียบเย็นของเฉินฝาน ทำให้พี่น้องฉินตกใจ การปฏิบัติอย่างอ่อนโยนของเฉินฝานตลอดทั้งวันทำให้พวกนางผ่อนคลายมากจริง ๆ ครั้นเห็นเฉินฝานมีรอยเปื้อนขี้เถ้าทั่วใบหน้า สองพี่น้องก็อดหัวเราะไม่ได้

ขณะที่พูด เฉินฝานก็ยื่นมือออกไปหาสองพี่น้อง

“ข้าหัวเราะเพียงคนเดียว ไม่เกี่ยวอะไรกับน้องสี่” ฉินเย่ว์เจียวก้าวไปข้างหน้าและหยุดอยู่ตรงหน้าฉินเย่ว์โหรว

“ข้าไม่สนใจว่าเป็นใครในพวกเจ้า หัวเราะเยาะข้าก็จะต้องถูกลงโทษ!” เฉินฝานยกมือขึ้นและฟาดลงบนใบหน้าของฉินเย่ว์เจียว

ฉินเย่ว์เจียวหลับตาลงโดยสัญชาตญาณ ใบหน้านวลเนียนงดงามของนางตึงเครียด รอให้เฉินฝานตบลงมา

"เพี๊ยะ!"

ฉินเย่ว์เจียวรู้สึกอย่างชัดเจนว่ามือของเฉินฝานตกลงบนใบหน้าของนาง

แต่......

ไม่เจ็บหรือ

ไม่เจ็บนี่!

ฉินเย่ว์เจียวลืมตาขึ้นทันที ดวงตาของนางก็สบกับเฉินฝาน

ดวงตาที่เต็มไปด้วยความรุนแรงในความทรงจำของนางตอนนี้เต็มไปด้วยแสงอันนุ่มนวล

“ยังจะหัวเราะอยู่หรือเปล่า ยังจะหัวเราะอยู่หรือ” มือของเฉินฝานกำลังหมุนวนอยู่บนใบหน้าของฉินเย่ว์เจียว ในไม่ช้า ใบหน้าของนางก็กลายเป็นใบหน้าที่ถูกทาสี สกปรกกว่าของเฉินฝานเสียอีก

“นายท่าน…” ฉินเย่ว์โหรวรีบวิ่งเข้ามา ตอนแรกนางคิดว่าเฉินฝานตีฉินเย่ว์เจียว แต่เมื่อนางเข้าไปใกล้มากขึ้น นางก็พบว่าเฉินฝานเคลื่อนไหวอย่างนุ่มนวล มีรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา

“เจ้าก็มีส่วนแบ่ง!” มือของเฉินฝานย้ายไปยังใบหน้าของฉินเย่ว์โหรว

เส้นประสาทของฉินเย่ว์โหรวค่อนข้างอ่อนไหว ทันทีที่มือของเฉินฝานสัมผัสใบหน้าของนาง ก็รู้สึกจั๊กจี้มากจนหัวเราะคิกคักไม่หยุด

เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวที่สนุกสนานของเฉินฝาน ได้ยินเสียงหัวเราะของฉินเย่ว์โหรว ฉินเย่ว์เจียวตกตะลึงเล็กน้อย

นานมากแล้วที่นางไม่ได้ยินเสียงหัวเราะของฉินเย่ว์โหรว

น้ำเสียงของฉินเย่ว์โหรวนั้นไพเราะ เสียงหัวเราะของนางก็น่าฟังมาก ราวกับเสียงนกจาบฝนบนภูเขา สดชื่นและไพเราะ

ทันใดนั้นฉินเย่ว์เจียวก็รู้สึกว่าดวงตาฝ้าฟาง เมื่อน้ำตาไหลจรดริมฝีปาก ฉินเย่ว์เจียวก็รู้สึกถึงความเค็ม

นางเองก็หัวเราะไปด้วย แม้จะไม่ใช่เสียงที่ดังก็ตาม

หวังว่านี่ไม่ใช่ความฝันของนาง

หวังว่าพรุ่งนี้เมื่อตื่นขึ้น เฉินฝานยังจะเป็นแบบนี้

...

เตียงก็ร้อน บ้านก็อุ่น และกลางคืนก็ดึกแล้ว

ฉินเย่ว์โหรวขึ้นไปบนเตียง กางผ้าปูที่นอนออก แล้วให้ฉินเย่ว์เจียวนอนห่มผ้า ฉินเย่ว์เจียวนอนไปได้สักพัก ฉินเย่ว์โหรวก็เรียกเฉินฝานอย่างอ่อนโยน “ท่านนาย มานอนเถอะเจ้าค่ะ!”

"..."

ที่ที่ฉินเย่ว์โหรวให้เขานอนคือในผ้าห่มของฉินเย่ว์เจียว

เฮ้อ!

เฉินฝานเกาผมตัวเอง

เขารู้สึกประหม่าเล็กน้อย

ตามปกติแล้ว หากนอนภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันกับเขา ตลอดทั้งคืนก็เขาไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้

โดยเฉพาะ......

จิตใจของเฉินฝานเต็มไปด้วยภาพลักษณ์ของฉินเย่ว์เจียวที่เพิ่งกลับมา

ในเวลานั้น เนื่องจากนางกำลังวิ่ง เหงื่อจึงโซมกาย และเสื้อผ้าของนางก็...

“นายท่าน นายท่าน!”

เมื่อเห็นว่าเฉินฝานไม่เดินไป ฉินเย่ว์โหรวจึงเรียกเขาอีกสองครั้ง

"มา มาแล้ว!"

เมื่อเขาขึ้นไปบนเตียง เฉินฝานพบว่าตนตัวสั่นเล็กน้อย ไม่รู้ว่ากังวลหรือตื่นเต้น

ในยุคปัจจุบัน เขายังไม่เคยมีประสบการณ์เช่นนั้นมาก่อน

หลังจากที่เฉินฝานขึ้นเตียงแล้ว ฉินเย่ว์โหรวก็ไม่ได้ออกจากเตียง แต่นางไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นอีก

เอ่อ...

การเคลื่อนไหวของฉินเย่ว์โหรวและฉินเย่ว์เจียวดูเคยชินมาก และเห็นได้จากการแสดงออกว่านี่คือสิ่งที่พวกนางคุ้นเคย

แต่งงานกันมานานขนาดนี้ เจ้าของร่างเดิม...หรือว่าไม่เคยแตะต้องพวกนางเลย!
ความคิดเห็น (4)
goodnovel comment avatar
sabading.dingda
ขอเตือนเรื่องเติมเงิน คนที่ยังไม่เติมเงินน่ะดีแล้วนะ มันอัพเดทวันละตอน นี่เลิกอ่านละ คุณเก็บเหรียญฟรีเอาดีกว่า เติมเงินไปก็ไม่ได้อ่าน ตัองรอมันอัพวันละตอน จะรำคาญหงุดหงิดเปล่าๆ เราเลิกอ่านละ รอเบื่อ จนลืมเรื่องราวเดิมละ ไม่ต่อเนื่อง ถ้าไม่พร้อมก็ไม่ควรเอามาขายนะ เสร็จซัก 80%ขึ้นไปค่อยเอามาข่ยดีกว่า
goodnovel comment avatar
tom Promphibal
ชื่นชอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
goodnovel comment avatar
Chainiwat
สนึกสนุกสนุก
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 11

    ไม่ใช่ความจริงใช่ไหม!เหม่อลอยเพียงครู่เดียว ฉินเย่ว์เจียวก็ขยับมาอยู่ข้างเขาแล้ว นางเปิดผ้าห่มครึ่งหนึ่งแล้วห่มไว้บนตัวเฉินฝานอบอุ่นและมีกลิ่นหอมกลิ่นหอมจากตัวฉินเย่ว์เจียวพอ ๆ กับนิสัยดุดันของนางเข้มข้น เร่าร้อน!เฉินฝานถึงกระทั่งอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจผู้ชายแผ่นดินนี้ช่างมีความสุขจริงๆ !ช่วงเวลาที่เฉินฝานประทับใจ ข้างกายของเขาพลันว่างเปล่า……รู้สึกตัวอีกที ฉินเย่ว์เจียวลงจากเตียงเตาไปแล้วเวลาผ่านไปหลายวินาทีกว่าเฉินฝานจะรู้สึกตัว เมื่อครู่นี้ฉินเย่ว์เจียวเพียงแค่ช่วยให้ความอบอุ่นกับผ้าห่มเท่านั้นเขาคิดว่า……พูดตามตรง เขารู้สึกผิดหวังอยู่ข้างในเล็กน้อย“แค่ก ๆ !”“ยังอุ่นไม่พอรึ” ฉินเย่ว์เจียวหันกลับมาถาม“พอแล้ว ๆ!” เฉินฝานรีบตอบพูดจบ ความจริงแล้วข้างในรู้สึกเสียดายเล็กน้อยเฉินฝาน กลัวอะไรวะ ต้องพูดว่าไม่พอสิเตียงเตาใหญ่มาก สองพี่น้องตระกูลฉินคงจะนอนอีกฝั่ง แต่เวลาผ่านไปพักใหญ่ เฉินฝานก็ไม่เห็นสองเงาของพี่น้องตระกูลฉินพลันมีเสียงแซก ๆ ดังมาจากพื้น เฉินฝานชะโงกหัวตามที่มาของเสียงสองพี่น้องตระกูลฉินปูหญ้าอยู่ตรงมุมที่ใกล้เขาที่สุด พวกนางม้วนตัวอยู่บนเตียงหญ้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-08
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 12

    เฉินฝานสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่ามือของฉินเย่ว์เจียวมีอาการสั่นเล็กน้อยเมื่อหันกลับก็พบว่ามีเหงื่อเต็มหน้าผากฉินเย่ว์เจียวฉินเย่ว์เจียวแสดงสีหน้าท่าทางเป็นความกล้าหาญทันทีที่เห็นเฉินฝานหันกลับมาท่าทางดื้อรั้นของฉินเย่ว์เจียวทำให้เฉินฝานหัวเราะ“นั่นมันเสือ จะกลัวขายหน้าทำไม ข้าก็กลัวเหมือนกัน”เฉินฝานกุมมือฉินเย่ว์เจียวแน่น “อยู่ใกล้ข้าไว้ ไม่จำเป็นต้องฝืน พวกเราไม่ต้องเข้าไปลึกมาก แค่มองรอบ ๆ ว่ามีพวกกระต่ายป่าหรือนกป่าหรือไม่ก็พอ จับสักตัวสองตัวพวกเราก็กลับ ห้ามโลภเด็ดขาด”ภูเขาหัวเสือเพราะว่ามีเสือ คนจึงขึ้นมาน้อย พวกเฉินฝานจับไก่ป่าได้สามตัวกับกระต่ายหนึ่งตัวได้อย่างรวดเร็ว“สวบ!”ฝีมือการยิงธนูของฉินเย่ว์เจียวไม่เลวจริง ๆ นางยิงกระต่ายได้อีกหนึ่งตัว“ยิงโดนแล้ว ข้ายิงโดนอีกแล้ว!” ฉินเย่ว์เจียววิ่งไปเก็บกระต่ายอย่างดีใจ“เย่ว์เจียว กลับมา……”“โฮก!”เสียงของเฉินฝานถูกเสียงโฮกของเสือกลบตรงหน้ามีเสือกระโจนออกมากะทะหันตัวหนึ่ง มันจ้องเฉินฝานกับฉินเย่ว์เจียวไม่ขยับฉินเย่ว์เจียวชูคันธนูขึ้นตามสัญชาตญาณ“อย่าขยับ!” เฉินฝานตะโกนห้ามฉินเย่ว์เจียวพุ่มหญ้าด้านหลังเสือมีความ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-08
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 13

    “พี่สาม สิ่งที่นายท่านยัดเข้าไปในท้องปลาคือหญ้าเซียนนู๋หรือไม่ หญ้านั่นกินได้ด้วยหรือ!”ฉินเย่ว์เจียวส่ายหัวว่าไม่รู้เหมือนกัน อย่างไรเสีย นางไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าหญ้าเซียนนู๋กินได้“พี่สาม!” ฉินเย่ว์โหรวชี้ไปที่กองมันสำปะหลังในลานสวน “นั่นคืออะไรเจ้าคะ!”“ข้าไม่รู้” ฉินเย่ว์เจียวส่ายหัว“เหมือนท่อนไม้เลย ใช้เป็นฟืนรึ!”“ไม่ใช่!” ฉินเย่ว์เจียวส่ายหัวอีก “นายท่านบอกว่าเป็นของกิน”“ของกิน! ท่อนไม้กินได้ด้วยหรือเจ้าคะ!”“กินได้สิ! มันไม่ได้เรียกว่าท่อนไม้ มันชื่อว่ามันสำปะหลัง” เฉินฝานยืนขึ้นแล้วไปหยิบมันสำปะหลังสามอันยาวยี่สิบกว่าเซนติเมตรมา “มา พวกเจ้ามานี่แล้วเอามันสำปะหลังสามอันนี้ไปขูดเปลือกออกซะ จากนั้นนำไปต้มนะ”มันสำปะหลังในหม้อต้มสุกอย่างรวดเร็ว ปลาเผาบนถ่านก็ส่งกลิ่นหอมอบอวล เฉินฝานโรสเกลือลงไปเล็กน้อย กลิ่นหอมของปลาเผาลอยออกอบอวลไปทั่วเรือนในทันใด“หอมจัง!”แม้ว่าฉินเย่ว์โหรวออกเรือนเป็นภรรยาคนแล้ว แต่นางยังเด็กมาก นางจ้องปลาเผาที่อยู่บนฝืนไม่ขยับพลางกลืนน้ำลายอย่างควบคุมไม่ได้ฉินเย่ว์เจียวโตกว่าเล็กน้อย จึงไม่ได้แสดงออกชัดเจนเท่าฉินเย่ว์โหรว แต่นางแอบกลืนน้ำลายไปหล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-08
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 14

    กินอาหารง่าย ๆ เสร็จ เฉินฝานกับฉินเย่ว์เจียวก็เตรียมตัวจะไปขายไก่ป่ากับกระต่ายในเมืองฉินเย่ว์โหรวร่างกายอ่อนแอจึงอยู่เฝ้าเรือนแทนหมู่บ้านซานเหออยู่ในเมืองที่มีชื่อว่าเมืองหลีผิง จากหมู่บ้านซานเหอไปยังตลาดในเมืองเพียงสิบกว่าลี้ ระยะห่างไม่ไกลมากนักคนชนบทเป็นคนตื่นเช้า เมื่อเฉินฝานกับฉินเย่ว์เจียวเดินมาถึง ในตลาดก็เต็มไปด้วยเสียงเรียกขายของต่าง ๆ ดังไม่ขาดสายสำหรับฉินเย่ว์เจียวแล้ว การขายไก่ป่ากับกระต่ายเป็นสิ่งที่นางคุ้นเป็นอย่างดี“น้องเย่ว์เจียวมาแล้วหรือ วันนี้ล่าได้สัตว์อะไรมาล่ะ”สตรีวัยกลางคนขายไช้กัวอยู่ข้าง ๆ ถามขึ้นอย่างดีใจเมื่อเห็นฉินเย่ว์เจียวแต่เมื่อสตรีวัยกลางคนเห็นเฉินฝานที่ยืนอยู่ข้างหลังฉินเย่ว์เจียวแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าก็หายไปทันใด ตามมาด้วยการมองเฉินฝานด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจเมื่อก่อนเฉินฝานตามมาเอาเงินทั้งนั้น เมื่อได้เงินแล้วก็เอาไปเล่นพนันทันที คนที่นี่จึงไม่ต้อนรับเขามากนักฉินเย่ว์เจียวยกไก่ป่าขึ้นมา “ท่านป้า วันนี้ข้าจับไก่ป่าได้เจ้าค่ะ!”สตรีวัยกลางคนก้มศีรษะลงและมอง “โอ้โห ไก่ป่าตัวนี้ช่างอ้วนท้วนเหลือเกิน วันนี้น้องเย่ว์เจียวจะรวยแล้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-08
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 15

    ฉินเย่ว์โหรวไม่ได้สติมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อกลิ่นผู้ชายของเฉินฝานเข้าใกล้มาก ๆ ยิ่งรู้สึกอยากแนบชิดสองแขนโอบล้อมคอเฉินฝานและกดลงมาปกติเขินอายไร้เดียงสาเหมือนเจ้ากระต่ายน้อย แต่เวลานี้กลับเร่าร้อนดั่งเปลวไฟ“นายท่าน นายท่าน……”เสียงออดอ้อนเว้าวอนดังออกมาจากริมฝีปากแดงอมชมพูของนางเฉินฝานอดกลั้นอย่างทรมาน เมื่อฉินเย่ว์โหรวใจร้อนถึงเพียงนี้ เช่นนั้นเขาก็จะไม่เป็นสุภาพบุรุษอีกต่อไปเมื่อทุกอย่างกำลังจะสุกงอม……ทันใดนั้น……สีแดงพราวเป็นแผ่นขยายวงกว้างต่อหน้าเฉินฝานช้า ๆมาพร้อมด้วยเสียงร้องปวดจากฉินเย่ว์โหรว เสียงหายใจถี่หายไปและปรับเปลี่ยนเป็นเสียงสะอื้นน่าสงสารในดวงตาเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา นางมองเฉินฝานด้วยแววตาตัดพ้อ: “นายท่าน ท่าน……อ่อนโยนหน่อยไม่ได้หรือเจ้าคะ!”เวลานี้ฉินเย่ว์โหรวรู้สึกเพียงแต่มวนท้อง โดยเฉพาะท้องน้อยที่เจ็บจี๊ดเหมือนโดนมีดบาดเฉินฝานเข้าใจคำตำหนิทันทีราวกับแววตาของฉินเย่ว์โหรวพูดได้แต่ตอนนี้เขารู้สึกจนใจและน้อยใจมากกว่านี่ไม่ใช่ความเจ็บที่เกิดอาการฉีกขาด!เขาอยากทำอะไรสักอย่าง แต่เขายังไม่ทันได้เริ่มเลย!เพราะประจำเดือนของฉินเย่ว์โหรวมาพอดีต่างหาก!นาง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-08
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 16

    ฉินเย่ว์เจียวดึงคันธนูแล้วเดินไปหยุดอยู่ด้านหน้าฉินเย่ว์โหรวใบหน้าของหลี่ซานเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “พานางออกไป ข้าไม่เชื่อว่านางจะกล้าลงมือ!”ชายทั้งสองยังคงเดินหน้าต่อไป ฉินเย่ว์เจียวถูกบีบให้ล่าถอยไปทีละก้าว สายตาเห็นว่าจะโจมตีฉินเย่ว์โหรว“ใครก็ตามที่กล้าพาน้องสี่ของข้าไป ข้าจะยิงพวกเจ้าให้ตายด้วยลูกธนูดอกเดียว!” ฉินเย่ว์เจียวตะโกนลั่น พร้อมดึงสายธนูในมือให้โค้งได้มากที่สุด“พี่สาม อย่าเลย!”ฉินเย่ว์โหรวกอดฉินเย่ว์เจียว “ให้เรื่องจบเท่านี้เถิด ข้าจะไปกับพวกเขาเอง ท่านไม่จำเป็นต้องเสี่ยงชีวิตอีก”ฉินเย่ว์โหรวหลับตาอย่างยอมแพ้ ยังคิดด้วยซ้ำว่าหลีกเลี่ยงจูต้าอันก็พอแล้วแต่ทำไมนางถึงลืมเรื่องที่นางถูกขายให้กับหอนางโลมอี๋ชุนย่วนไปอีกแล้ว“เจ้าพูดเหลวไหลอะไรน่ะ! มาเลย!” ดวงตาของฉินเย่ว์เจียวเป็นสีแดงเข้ม นางกัดฟันและตะโกนเสียงดัง “ถ้าอย่างนั้นเราก็มาตายด้วยกัน!”“จะตายอะไร จะรอดอะไรน่ะ!” เฉินฝานคว้าด้ามธนูจากมือของฉินเย่ว์เจียว “ข้าบอกเจ้าแล้วไม่ใช่หรือ เจ้าเป็นเด็กผู้หญิง อย่าเอาแต่ต่อสู้ฆ่าฟันทั้งวัน เจ้าไม่ฟังคำของข้าเลยหรือไร”“เฉินฝาน ท่านปล่อยข้า!”ความจริงที่ว่าฉินเย่ว์

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-08
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 17

    “จริงสิ ข้าเตือนไว้เสียหน่อย เมื่อครู่ที่ตีคือใบหน้า แต่ครั้งนี้จะไม่ใช่ และมันเป็น…”สายตาของเฉินฝานจับจ้องไปที่ดวงตาของหลี่ซานหลี่ซานปกป้องดวงตาของตนตามสัญชาตญาณ และพูดขึ้นอย่างร้อนตัว “เจ้าหนู เจ้ากำลังขู่ใครอยู่?"เฉินฝานพูดไม่ยี่หระ “ถ้าเจ้าลอง...ก็จะได้รู้เอง”ก่อนจะทะลุมิติมา เฉินฝานเพิ่งปลดประจำการจากทีมปฏิบัติการพิเศษในประเทศหนึ่งหากไม่ใช่เพราะร่างกายนี้ขาดการออกกำลังกาย ท่อนไม้ที่เพิ่งพุ่งเข้าไปที่ใบหน้าของหลี่ซานจะไม่เพียงแต่ทำให้หลี่ซานเจ็บเท่านั้น ครั้นจะเห็นเลือดออกมาเสียด้วยซ้ำหลี่ซานอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย เฉินฝานที่อยู่ตรงหน้า เห็นได้ชัดว่าเป็นคนธรรมดาที่ยากจนคำพูดและดวงตาของเขาก็ประจักษ์แจ้งได้ว่าดูไม่จริงจัง กระนั้นไม่รู้ว่าทำไมยังทำให้เขาหวาดกลัวเพื่อนชั่วช้าของจูต้าอัน ในเวลานี้ได้ปลุกจูต้าอันให้ฟื้นขึ้นมาแล้วเขาถูกเฉินฝานทุบตีจนหยุดหายใจไปชั่วคราว แม้เฉินฝานจะเคลื่อนไหวรุนแรง ตีจนทำให้จูต้าอันเจ็บเกือบตายแต่เป็นการลงมืออย่างพอดี เพื่อป้องกันไม่ให้จูต้าอันตายจริงและก่อให้เกิดคดีความเกี่ยวกับชีวิตคนเมื่อจูต้าอันตื่นขึ้นมา ดวงตาของเขาก็เปลี่ยนไปอย่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-08
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 18

    หลี่ซานมองลูกธนูที่พุ่งตรงเข้าไปในดวงตาของนักเลง บนหน้าผากมีเหงื่อเย็นเป็นชั้นบาง ๆ โชคดีที่เขาไม่ใช่คนที่เฉินฝานยิง ไม่เช่นนั้นดวงตาของเขา...เฉินฝานหยิบลูกธนูอีกดอกออกมาจากกระบอกใส่ธนูของฉินเย่ว์เจียว มองพวกนักเลงอย่างเย็นชาเขายังไม่ทันได้ส่งเสียงอะไรออกไป พวกนักเลงก็ก้าวถอยหลังไปทีละคน“เจ้าพวกขี้ขลาด ถอยทำไม ไปสิ!”“ข้าบอกให้ไป!”ไม่ว่าหลี่ซานจะตะโกนอย่างไร ก็ไม่มีนักเลงคนใดกล้าโจมตี ซ้ำยังถอยห่างออกไปเรื่อย ๆไม่มีทาง ใครเล่าจะไม่กังวลเรื่องดวงตาของตน“เฉินฝาน เจ้าคิดว่าเจ้าเก่งกาจมากนักหรือ? เจ้าเก่งกาจมากกว่ากฎหมายของต้าชิ่งหรือ? ข้าจะฟ้องทางการ ฟ้องทางการ!”ท้ายที่สุดแล้ว หลี่ซานคือนายน้อยแห่งหอนางโลมอี๋ชุนย่วน เขาไม่เคยโกรธขนาดนี้มาก่อนที่เขาจะได้พบกับเฉินฝาน เขาตะโกนดังลั่นด้วยความโกรธ“ข้าไม่ได้บอกว่าจะไม่คืนเงิน ฟ้องทางการ เจ้ามีเหตุผลอะไร”“เหตุผลอะไร!”“ฮ่า ๆๆ อย่าหาว่าข้าไม่เตือนเจ้านะ หนึ่งร้อยเท่าของหนึ่งร้อยอีแปะเป็นเงินสิบตำลึง เจ้าต้องชดใช้คืนภายในสามวัน ครบไปแล้วหนึ่งวัน ตอนนี้เจ้ามีเวลาเพียงแค่สองวันเท่านั้น คนจนเช่นเจ้า...จ่ายไหวหรือ”หลี่ซานแสดงท่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-08

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 846

    เมื่อมีคนเปิดประเด็นแล้วคนอื่นก็พากันทำตาม คนกลุ่มใหญ่จำนวนมหาศาลคุกเข่าต่อหน้าเฉินฝานเฉินฝานมิได้กล่าวอันใด เมี่ยวอวี่ที่อยู่ด้านข้างชิงพูดก่อน“เหอะ!” เมี่ยวอวี่เยาะเย้ยออกมาทันที กล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ช่างเป็นชายที่ใจดำอำมหิตเสียจริง คิดว่าตนเองมีผู้มากฝีมือที่เก่งกาจอยู่ข้างกาย ก็สามารถมิสนใจชีวิตของผู้คนรอบตัว แม้กระทั่งเด็กและคนชราก็ยังมิยอมช่วย”เมี่ยวอวี่จงใจกล่าวเช่นนี้จงใจที่พัดความโมโหของฝูงชนให้ลุกฮือดังคาด...“เขาใจดำอำมหิตเพียงนั้น แม้กระทั่งเด็กน้อยคนแก่ก็ยังมิยอมให้อาหารกินแม้แต่น้อย เช่นนั้นเรายังต้องกลัวสิ่งใดอีก?”เมื่อมีคนเริ่มก็มีคนตาม“ถูกต้อง อย่างไรเสียก็ถูกขังจนตายอยู่ที่นี้อยู่ดี ก่อนที่จะจากโลกนี้ไป ทุกคนต้องได้กินให้อิ่มท้อง!”“พวกเรามิต้องมาอ้อนวอนอยู่ตรงนี้และ ไปสืบเสาะ ไปค้นหา กระท่อมหิมะอาจจะใหญ่ไปเสียหน่อย แต่พวกเรามีจำนวนคนเยอะจะหาที่ซ่อนของเสบียงอาหารมิได้เชียวหรือ?”กลุ่มคนจำนวนมหาศาลในกระท่อมแต่เดิม รีบออกไปอย่างรวดเร็วราวกับกระแสน้ำลงของมหาสมุทร“เจี้ยนฮวง!” เฉินฝานกล่าวเกรงว่าเซียนเจี้ยนหวงจะเข้าใจผิด เฉินฝานจึงพูดเสริมอีกห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 845

    เซียนเจี้ยนหวงมิลงมือทำร้ายสามัญชน ชายรอยบาดแผลคิดว่าชื่อเสียงของเซียนเจี้ยนหวงเป็นสิ่งจอมปลอม และเขาคิดว่าตนเองมีจำนวนมากมาย ต่อให้เซียนเจี้ยนหวงจะเก่งกาจเพียงใดก็มิสามารถลุยเดี่ยวกับคนหนึ่งร้อยคนได้และเฉินฝานก็ดูจะเป็นคนสุภาพเรียบร้อย ดังนั้นชายรอยบาดแผลมิได้รู้สึกเกรงกลัวอันใด ท่าทียโสโอหังยิ่งเขาต้องการเสบียงอาหารในกระท่อมหิมะทั้งหมด และประสงค์ที่จะคุมชะตาคนหลายคนไว้ในกำมือ ในขณะเดียวกันก็สามารถช่วยเมี่ยวอวี่ให้หลุดพ้นได้ด้วยอำนาจ สาวงาม เสบียงอาหารเขาต้องการทั้งหมดเฉินฝานเงยหน้าขึ้น เหลือบมองชายรอยบาดแผลอย่างเรียบนิ่ง “ดูเจ้าพูดเข้าสิ เจ้าเก่งกาจมากสินะ”“เยี่ยนหลิ่งผู้ยิ่งใหญ่!” ชายรอยบาดแผลวางท่าทีใหญ่โต“ว้าว!” เฉินฝานยกนิ้วโป้ง “ชื่อนี้ช่างน่าเกรงขามเสียจริง!”สุดยอด!เซียนเจี้ยนหวงต้องเก็บอาการอยู่ด้านข้างนี่คงจะเป็นความสนุกเพียงอย่างเดียวตอนที่ถูกกักขังอยู่ที่แห่งนี้ดูคนโง่ ที่จริงแล้วก็เป็นเรื่องที่น่าสนุก“เพียงแต่...” เฉินฝานเปลี่ยนเรื่องทันที “มิทราบว่าชื่อที่น่าเกรงขามเช่นนี้ จะชำนาญในการต่อสู้หรือไม่?”ระหว่างที่พูด เฉินฝานหันไปด้านข้างเล็กน้อย “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 844

    “ตุ้บ ๆ ๆ ๆ!”เสียงทุบประตูหน้าต่างด้านนอกดังขึ้นเรื่อย ๆ เซียนเจี้ยนหวงฝึกวรยุทธ์จนชำนาญแล้ว สถานการณ์ฝั่งเขานั้นค่อนข้างไปในทิศทางที่ดีฝั่งฉินเย่ว์เจียวและเย่ว์หนูนี้ค่อนข้างลำบาก“เย่ว์หนู เจ้ากันไว้ก่อน ข้าจะไปย้ายเตียงมากันไว้!”“มิจำเป็นหรอก!” เฉินฝานโบกมือเล็กน้อย เขาให้ฉินเย่ว์เจียวและเย่ว์หนูเปิดประตูออก“เปิดประตูงั้นหรือ?” ฉินเย่ว์เจียวส่ายหน้าทันที “ไม่ได้เจ้าค่ะ นายท่าน”คนด้านนอกทุกคนล้วนโกรธเฉินฝานจนกัดฟันกรอด ตะโกนอย่างดุเดือดเพื่อให้ต้องการพวกเขาผ่านเข้าไป เฉินฝานเสี่ยงอันตรายเกินไปแล้ว“พวกเจ้าสามารถกันไว้ได้หนึ่งชั่วยาม จะสามารถกันได้ถึงสองชั่วยามงั้นหรือ?”เมื่อคนตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงตาย มิว่าสิ่งใดก็สามารถทำได้ความเลวทรามของมนุษย์ เป็นสิ่งที่น่าหวาดกลัวที่สุดในโลกใบนี้“นายท่าน ขอเพียงข้ายังอยู่ ข้าก็จะยังคงกันต่อไปเรื่อย ๆ จะมิยอมให้คนด้านนอกเหล่านั้นทำร้ายท่านแม้แต่ปลายเล็บ”ฉินเย่ว์เจียวกำหมัดไว้แน่นขนัดเฉินฝานมองท่าทีที่เศร้าสลดทว่าเข้มแข็งของฉินเย่ว์เจียว รู้สึกซาบซึ้งและหงุดหงิด“นายท่าน บ่าวก็เช่นกันเจ้าค่ะ”เย่ว์หนูเพิ่มแรงในการกันประต

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 843

    ฉินเย่ว์เจียวง้างมือขึ้นทันที เดิมทีต้องการจะตบหน้าเมี่ยวอวี่เป็นครั้งที่สองพลันยั้งมือกะทันหันกลั้นหายใจ รอฟังคำตอบของเมี่ยวอวี่ด้วยความกังวลเฉินฝานก็อดมิได้ที่จะเงี่ยหูฟังจะรู้ร่องรอยของเย่ว์ฉินแล้ว รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย“หยกห้อยเอวชิ้นนี้...”“ตุ้บ!”อยู่ ๆ ก็มีก้อนหิมะลอยก้อนหนึ่งลอยทะลุหน้าต่างเข้ามา“โอ๊ย!”เมี่ยวอวี่อยู่ใกล้หน้าต่างอย่างมาก ก้อนหิมะขว้างโดนหัวหน้า ทำให้นางตกใจจึงร้องออกมาทันที“ตุ้บ”ครั้งนี้สิ่งที่ขว้างมาคือก้อนหิน“ระวัง!”เมี่ยวอวี่รู้สึกเพียงว่าร่างกายทรงตัวมิอยู่ ตัวไปชนกับอ้อมอกที่ล่ำสันหัวสมองว่างเปล่าราวกับถูกจี้จุด เมี่ยวอวี่มองเฉินฝานด้วยความมึนงงดวงตากลมโตที่เปล่งประกายแวววับดังดวงดารา สภาพอารมณ์แปรเปลี่ยนอย่างรวดเร็วหาคำตอบมิได้ มิเชื่อ มิเข้าใจ“เจ้า...” เมี่ยวอวี่กลอกตาไปมา “ไยเจ้าจึงช่วยข้า?”หากมิใช่เฉินฝานดึงนางหลบได้ทัน ตอนนี้นางก็คงหัวแตกเลือดไหลนองไปนานแล้วเฉินฝานผลักเมี่ยวอวี่ในอ้อมอกออก เขาที่พลังภายในยังฟื้นฟูมิสมบูรณ์เอนตัวล้มพิงเรือนร่างของฉินเย่ว์เจียว น้ำเสียงเยือกเย็น “อย่าคิดเข้าตัวเอง ข้าทำไปตามสัญชาตญาณเท

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 842

    ถึงแม้ในทุกวันนางมักจะรับคำเยินยอจากบุรุษเพศอยู่แล้ว ทว่าท่าทางที่รักใคร่หวานยิ่งกว่าน้ำผึ้งราวภาพวาดนี้ นางมิเคยพบเห็นมาก่อนเมี่ยวอวี่ที่สงสัยว่าตัวเองมองผิดไป จึงตั้งใจหันกลับไปดูอีกครั้งภาพที่เฉินฝานช่วยปัดไรผมบนหน้าผากของฉินเย่ว์เจียวออก และฉินเย่ว์เจียวยิ้มตอบกลับให้เฉินฝานอย่างหวานหยาดเยิ้ม เมี่ยวอวี่เหลือบไปเห็นพอดีไม่จริงหรอก!เมี่ยวอวี่รีบหันหน้ากลับไปด้วยความรวดเร็ว ตีหน้าอกตนเองเบา ๆสองสามทีคาดมิถึงว่าจะเป็นเรื่องจริงใต้หล้านี้มีสามีภรรยาที่รักใคร่กันเช่นนี้จริงหรือ ? เป็นเรื่องจริงหรือว่าผู้ชายจะอ่อนโยนกับภรรยาตนเองได้เพียงนั้น?เฉินฝานเป็นชายที่เลวทรามต่ำช้ามิใช่หรือ?เย่ว์หนูชะเง้อมองมาจากทางเข้าเห็นว่าเฉินฝานตื่นแล้ว รีบวิ่งกลับไปที่ในห้อง ยกโจ๊กครึ่งชามที่วางไว้ในห้องไปอุ่นที่ห้องครัว หลังจากที่อุ่นจนร้อนแล้วก็วิ่งกลับมา“โจ๊กมาแล้วเจ้าค่ะ”“เอามาให้ข้า!” ฉินเย่ว์เจียวรับโจ๊กในมือเย่ว์หนูมาทันที“ลำบากเจ้าแล้ว” เฉินฝานหันไปพยักหน้ากับเย่ว์หนู“บ่าวมิลำบากเลยเจ้าค่ะ ขอเพียงนายท่านหายดีก็เพียงพอแล้ว” เย่ว์หนูหน้าแดง ส่ายหน้าอย่างแรงกล่าวว่าตนเองมิลำ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 841

    “สัตว์เดรัจฉานเพศผู้ก็ยังเป็นสัตว์เดรัจฉานเพศผู้อยู่วันยันค่ำ คิดจะเอาตัวรอดแต่เพียงผู้เดียว” เมี่ยวอวี่พ่นลมจากจมูกกล่าววาจาเย้ยหยันคำพูดที่หนักแน่นของเฉินฝาน“เสี่ยวฝาน ด้านนอกมีเด็กเล็กจริงๆ หิวโหยมาหนึ่งวันแล้ว หากแบ่งปันอย่างเหมาะสมก็คงจะมิเป็นอะไรหรอกกระมัง”เซียนเจี้ยนหวงก็คิดว่าวิธีการของเฉินฝานมิเหมาะสมเช่นกันเฉินฝานมิได้ตอบกลับคำพูดของเซียนเจี้ยนหวงทันที เขาส่งสัญญาณให้ฉินเย่ว์เจียวไปพยุงเขาให้ลุกขึ้น“เช่นนั้นก็แบ่งมิได้!”เฉินฝานที่เอนตัวพิงอ้อมอกของฉินเย่ว์เจียว ยังคงยืนกรานในคำพูดของตนเองก่อนที่เขาจะหมดสติไปเมื่อวาน เขาได้ยินพวกฉินเย่ว์เจียวพูดกันว่าด้านนอกหิมะถล่มลงมาแล้วโรงเตี๊ยมที่สูงสามชั้นเป็นเรือนไม้ เรือนเซียนผาสุกห้าชั้น ก็พื้นที่กว้างใหญ่เช่นกัน พังทลายลงมาในเวลาเดียวกัน ยุคโบราณที่ไม่มีเครื่องมือขุดเหมือนกับยุคปัจจุบัน มิรู้ว่าอีกนานเพียงใดจะได้ความช่วยเหลือจากคนด้านนอก ผ่านไปอีกนาน ก็คงจะมิผู้ใดเหลือรอดเป็นแน่ตอนนี้หิมะก็ถล่มลงมาอีก การช่วยเหลือก็ทวีความยากลำบากขึ้นไปอีกสถานการณ์ด้านนอกยังมิชัดเจน ซื่อต้าเผิงได้รับบาดเจ็บหรือไม่ ท่าทีในการช่วยเห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 840

    “เย่ว์หนู นายท่านเลือดออกมากมายเพียงนั้น ตอนนี้ร่างกายอ่อนแอ เจ้ารีบไปทำอาหารมาให้กินหน่อยเถอะ”ฉินเย่ว์เจียวออกคำสั่งกับเย่ว์หนู“เจ้าค่ะ ท่านหญิง!”เย่ว์หนูถือระเบิดเดินออกไปด้านนอกด้วย นางต้องการจะหาอาหารจากในห้องครัว หากเหล่านักฆ่าหญิงเหล่านั้นคิดที่จะขัดขวางนาง นางก็จะระเบิดสมองทิ้งทันทีมิรู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นหลังจากที่เย่ว์หนูออกไปหาอาหาร เมี่ยวอวี่ก็กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที นางลุกขึ้นมาจากพื้น“ถอยไป!”ดาบในมือของเจี้ยวฮวงเซียนจ่อไปที่เมี่ยวอวี่ทันที“ข้ามิได้จะออกไปเสียหน่อย!”ภายใต้ผ้าคลุมหน้า ดวงตากลมโตงดงามคู่นั้นกลับมามีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้งทว่า ดูแล้วรู้สึกความแปลกประหลาดที่แฝงอยู่เมี่ยวอวี่นั่งอยู่บนเก้าอี้กล่าวอย่างเนิบนาบ “เมื่อครู่เจ้ามิได้ยินหรือกระไร? เฉินฝานต้องรับประทานอาหาร ข้าคนนี้หนะนะ... ”เมี่ยวอวี่หยุดไปชั่วขณะดวงตาที่งดงาม ตาใสแจ๋วดังสายวารี ใบหน้าสวยงามพริ้มเพราเดินสำรวจไปมองหญิงงามที่งามที่สุดในใต้หล้ามา เซียนเจี้ยนหวงคิดว่าดวงตาคู่นั้นของเมี่ยวอวี่เป็นเลิศล้ำที่สุดในโลกช่างเป็นสตรีที่งดงามเสียจริงน่าเสียดาย...ที่เป็นสาวงามที่มีพ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 839

    เฉินฝานเข้าใจความตื่นตกใจของพวกฉินเย่ว์เจียว ทว่าตอนนี้เขามิมีเรี่ยวแรงที่จะอธิบายแล้ว“หลังจากที่ก้อนน้ำแข็งละลายเป็นน้ำแล้ว ค่อยเปลี่ยนอันใหม่ มิต้องกลัวว่าข้าจะหนาว เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ จนกลัวปากแผลจะมิมีเลือดไหลออกมาแล้ว”กล่าวคำพูดต่อเนื่องมากมายเพียงนั้น เฉินฝานรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างยิ่ง อยากที่ปิดตาหลับไปอย่างมากทว่า...เฉินฝานกัดฟันฝืนทนเขายังหลับมิได้“ต่อให้ข้าหลับไปมิรู้สึกตัวแล้ว ก็ต้องนำน้ำต้มเดือดที่ละลายจากน้ำแข็งจากเย่ว์หนูให้ข้าดื่ม ทว่าทุกครั้งอย่าให้เกินสองช้อน และต้องป้อนทุกครึ่งก้านธูป”การที่เสียเลือดมากเกินไป ก็จะทำร่างกายช็อกได้ง่าย ต้องทดแทนของเหลวให้ทันท่วงทีทว่าก็มิสามารถดื่มน้ำจำนวนมาก เพราะการดื่มน้ำจำนวนมาก ปริมาณเลือดในร่างกายจะลดฮวบอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ร่างกายของกำลังในสภาวะอ่อนแออย่างสุดขีด ปริมาณน้ำจำนวนมากทำให้สมดุลน้ำและอิเล็กโทรไลต์เสียสมดุลได้ง่าย จากนั้นจะทำให้เลือดไหลพุ่งมากกว่าเดิมหลังจากที่มอบหน้าที่ให้สองสาวเรียบร้อยแล้ว เฉินฝานหันหน้าไปมองเซียนเจี้ยนหวง“พี่ชาย ชีวิตของข้าและเมียข้า ฝากเจ้าด้วยนะ...”หากเซียนเจี้ยนหวงมิได้ฝึกพล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 838

    “เจ้า...”เฉินฝานมองไปทางเมี่ยวอวี่ ร่าวกายอิดโรยยิ่งนัก เขาหยุดไปเป็นเวลานาน จึงกล่าวต่อ “มั่นใจหรือว่าข้าจะไม่รอด?”“แล้วเจ้าคิดว่าตนเองจะมีชีวิตรอดหรือกระไร?”เสียงของเมี่ยวอวี่ช่างไพเราะเสียจริง เฉินฝานที่นอนอยู่เตียงปรากฏรอยยิ้มจางๆน้ำเสียงไพเราะเช่นนี้ กลับกล่าวพูดเย็นชาทิ่มแทงเช่นนี้ออกมาได้ช่างเร้าใจ!จะพูดอันใดเขาก็มิยอมตายมิได้“หากข้ามิตาย เจ้า...” เฉินฝานหยุดไปนาน จึงพูดต่อ “บอกข้ามา ตกลงแล้วหยกที่ห้อยเอวเจ้าใช่ของเจ้าหรือไม่?”“รอให้เจ้ามีชีวิตรอดค่อยว่ากัน เมี่ยวอวี่กล่าวด้วยเสียงเรียบนิ่งเฉินฝานปรับลมหายใจเป็นเวลานานอีกครั้ง ชี้ไปที่ลำคอของตนเอง “ขอบคุณมาก”คำพูดนี้เขาพูดกับเซียนเจี้ยนหวงเซียนเจี้ยนหวงเพียรพยายามปิดปากแผลให้เขามาโดยตลอด ลดปริมาณเลือดที่ไหลอกมา มิเช่นนั้นตอนนี้ถึงแม้เขาจะมิตาย อาการก็คงจะสาหัสจนคุมสติมิอยู่แล้ว“มิต้องขอบคุณหรอก!” เซียนเจี้ยนหวงเบ้ปากเล็กน้อย เขาไม่เคยชินกับการที่ผู้อื่นกล่าวขอบคุณเขาจริงๆ“ทว่านี้ ทนได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น ออกไปมิได้ ห้ามเลือดมิได้ ไม่ช้าก็เร็วเจ้าก็ต้องตายงั้นหรือ?” ความหดหู่จางๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเซี

DMCA.com Protection Status