Share

บทที่ 14

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
กินอาหารง่าย ๆ เสร็จ เฉินฝานกับฉินเย่ว์เจียวก็เตรียมตัวจะไปขายไก่ป่ากับกระต่ายในเมือง

ฉินเย่ว์โหรวร่างกายอ่อนแอจึงอยู่เฝ้าเรือนแทน

หมู่บ้านซานเหออยู่ในเมืองที่มีชื่อว่าเมืองหลีผิง จากหมู่บ้านซานเหอไปยังตลาดในเมืองเพียงสิบกว่าลี้ ระยะห่างไม่ไกลมากนัก

คนชนบทเป็นคนตื่นเช้า เมื่อเฉินฝานกับฉินเย่ว์เจียวเดินมาถึง ในตลาดก็เต็มไปด้วยเสียงเรียกขายของต่าง ๆ ดังไม่ขาดสาย

สำหรับฉินเย่ว์เจียวแล้ว การขายไก่ป่ากับกระต่ายเป็นสิ่งที่นางคุ้นเป็นอย่างดี

“น้องเย่ว์เจียวมาแล้วหรือ วันนี้ล่าได้สัตว์อะไรมาล่ะ”

สตรีวัยกลางคนขายไช้กัวอยู่ข้าง ๆ ถามขึ้นอย่างดีใจเมื่อเห็นฉินเย่ว์เจียว

แต่เมื่อสตรีวัยกลางคนเห็นเฉินฝานที่ยืนอยู่ข้างหลังฉินเย่ว์เจียวแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าก็หายไปทันใด ตามมาด้วยการมองเฉินฝานด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจ

เมื่อก่อนเฉินฝานตามมาเอาเงินทั้งนั้น เมื่อได้เงินแล้วก็เอาไปเล่นพนันทันที คนที่นี่จึงไม่ต้อนรับเขามากนัก

ฉินเย่ว์เจียวยกไก่ป่าขึ้นมา “ท่านป้า วันนี้ข้าจับไก่ป่าได้เจ้าค่ะ!”

สตรีวัยกลางคนก้มศีรษะลงและมอง “โอ้โห ไก่ป่าตัวนี้ช่างอ้วนท้วนเหลือเกิน วันนี้น้องเย่ว์เจียวจะรวยแล้วล่ะสิ ไก่ป่าดีขนาดนี้คงขายได้ราคาดีแน่ เจ้าไปจับมันมาจากที่ไหนหรือ!”

สตรีวัยกลางคนพูดไปพลางกลอกตาให้กับเฉินฝาน

นางทำได้เพียงถอนหายใจอยู่ข้างใน หญิงสาวดีขนาดนี้ น่าเสียดายที่ถูกจัดสรรให้กับผู้ชายขี้เกียจตัวเป็นขนเช่นนี้

“ท่านป้า วันนี้ข้าไม่เพียงมีแต่ไก่ป่า ข้ายังมีกระต่ายด้วย นายท่านข้าจับได้ที่ภูเขาหัวเสือน่ะ”

ฉินเย่ว์เจียวแต่งงานกับเฉินฝานมานานมาก นี่เป็นครั้งแรกที่นางพูดคำสามคำว่า ‘นายท่านข้า’ อย่างภาคภูมิใจ

“นายท่านของเจ้าเป็นคนล่ามาได้รึ!” สตรีวัยกลางคนแสดงสีหน้าไม่เชื่อ

สตรีวัยกลางคนพูดไม่ออกทันทีที่เฉินฝานหยิบไก่ป่ากับกระต่ายออกมาจากตะกร้าที่หลัง

เห็นผีเข้าแล้ว คนเสเพลกลับตัวใหม่?

……

หลังจากพวกเฉินฝานออกไป ฉินเย่ว์โหรวเก็บกวาดห้องเสร็จนางพลางเดินไปที่เล้าไก่

ในนั้นยังมีไก่ป่าอีกหนึ่งตัว เฉินฝานบอกแล้วว่าไม่ขายตัวนี้ เก็บไว้ให้มันออกไข่และให้นางกินบำรุง

แววตาและน้ำเสียงของเขาตอนพูดช่างอ่อนโยนเหลือเกิน

เมื่อนางบำรุงร่างกายดี ก็จะมีเนื้อมีนวลมากขึ้น และนางก็จะผลิดอกออกผล คลอดเจ้าตัวจ้ำม่ำให้เขาได้

ฉินเย่ว์โหรวปิดหน้าตัวเองอย่างเขินอาย

“หน้าไม่อายเลยจริง ๆ ในสมองคิดแต่เรื่องเช่นนี้อยู่ได้”

มีเสียงเท้าดังขึ้นจากข้างหลัง

ฉินเย่ว์โหรวหันกลับไปอย่างดีใจ “นายท่าน พี่สาม พวกท่าน……”

“แม่หญิงฉิน ข้าไม่ใช่นายท่านของเจ้า ข้าคือพี่จูของเจ้า!”

ใบหน้าอัปลักษณ์ของจูต้าอันปรากฏขึ้นตรงหน้าฉินเย่ว์โหรว

เขาฉีกยิ้มและเผยให้เห็นฟันเหลืองที่มีอยู่เต็มปากพร้อมใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความชั่วร้าย

เมื่อได้รู้ว่าฉินเย่ว์โหรวยังเป็นหญิงบริสุทธิ์ ในสมองของจูต้าอันก็เต็มไปด้วยฉินเย่ว์โหรว

เขาชอบแม่หญิงเช่นนี้ที่ทั้งเนื้อหอมและบริสุทธิ์

จูต้าอันใช้มือปิดประตูเรือนแล้วเดินเข้าไปใกล้ฉินเย่ว์โหรวทีละก้าว “แม่หญิงหน้าแดงเช่นนี้ กำลังคิดถึงผู้ชายของเจ้าอยู่ล่ะสิ!”

ฉินเย่ว์โหรวมองหน้าจูต้าอันพร้อมถอยหลัง ดวงตาที่โหญ่โตเท่าดวงดาวคู่นั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและกังวลใจ

“ไอ้เฉินฝานมันเป็นคนขี้ขลาดตาขาว เจ้าเข้ามาอยู่ตั้งนานแต่ยังไม่เคยทำอะไรเจ้า ช่วงเวลานี้แม่หญิงคงจะเปล่าเปลี่ยวแน่เลยใช่หรือไม่!”

“ไม่ต้องกลัวนะ พี่ชายจะช่วยเจ้าเอง!”

ปากกล่าวหยอกล้อ จูต้าอันตื่นเต้นพลันพุ่งเข้าหาฉินเย่ว์โหรวและกดนางลงกับพื้นกลางลานสวน

“ปล่อยข้านะ ไอ้เศษสวะ!”

ฉินเย่ว์โหรวดิ้นรนสุดชีวิตจนจูต้าอันเกือบคุมนางไม่อยู่ไปชั่วขณะ

เขาจึงตบหน้าฉินเย่ว์โหรวและกล่าวอย่างดุร้าย “นังโสเภณี! ที่ข้าทำอะไรเจ้าเพราะข้าสงสาร อย่าทำตัวไว้หน้าแล้วแต่ไม่รู้จักรับนะ!”

ใบหน้าฉินเย่ว์โหรวแดงขึ้นทันใด เลือดพลางไหลลงจากมุมปาก

ในดวงตานางเต็มไปด้วยความโกรธอันเดือดดาล นางใช้กำลังทั้งหมดออกแรงข่วน

จูต้าอันคว้ามือนางแล้วมัดด้วยเข็มขัด จากนั้นหยิบห่อยาออกมากรอกปากนาง

ผงยาละลายทันทีที่เข้าปาก เพียงครู่เดียวฉินเย่ว์โหรวก็รู้สึกร่างกายอ่อนระทวยทันทีจนแทบไม่เหลือแรงสู้

จูต้าอันเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้แล้วก็ยิ้มขึ้นอย่างหื่นกาม “ข้าใช้เงินตั้งมากมายเพื่อซื้อของดีอันนี้!”

ฉินเย่ว์โหรวยกมือเท้าขึ้นทั้งตีและเตะ ลำคอส่งเสียงสะอึ้นอย่างควบคุมไม่อยู่เหมือนสัตว์ตัวเล็ก

ร่างกายนางรู้สึกลุ่มร้อนเป็นพัก ๆ น้ำตาแห่งความอัปยศไหลอาบแก้มฉินเย่ว์โหรว

เมื่อรู้สึกแล้วว่ามือเท้าไม่อยู่ในการควบคุมแล้ว ฉินเย่ว์โหรวพลันตัดสินใจอย่างเด็ดขาดว่าจะฆ่าตัวตายด้วยการกัดลิ้น!

จูต้าอันเดาออกแต่ทีแรกจึงยัดมือข้างหนึ่งเข้าไปในปากของฉินเย่ว์โหรว

“นังชั้นต่ำ คิดจะฆ่าตัวตายงั้นเรอะ!”

จูต้าอันกระชากผมฉินเย่ว์โหรวขึ้นอย่างรุนแรงและโหดเหี้ยม และยังตบหน้าลงไปอีกหลายที

“ข้ารอมานานขนาดนี้ อยากตายงั้นเรอะ อย่าได้หวัง!”

เขาเริ่มกระชากเสื้อผ้าของฉินเย่ว์โหรว เมื่อผิวขาวนวลผ่องเผยออกมา แววตาพลันเต็มไปด้วยความหื่นกาม

แววตาของฉินเย่ว์โหรวเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

ทำไม ทำไมสวรรค์ถึงทำกับนางเช่นนี้

เฝ้ารอมาตั้งนาน รอจนในที่สุดนายท่านก็เปลี่ยนไป ผลสุดท้ายตนเองมีมลทินเพราะไอ้หื่นกามคนนี้!

ดวงตาที่หวาดกลัวและอับอายของฉินเย่ว์โหรวทำให้จูต้าอันตื่นเต้นมาก

“ฮ่า ๆๆ แม่หญิงอย่ากลัวเลยนะ!”

เขาลุกขึ้นถอดกางเกงออก กำลังจะโน้มตัวลงไป

และในวินาทีนั้น……

“ปึก!”

เสียงแตกกระจายดังสนั่น ประตูเรือนแตกออกเป็นชิ้น ๆ นับไม่ถ้วน

ลูกธนูดอกหนึ่งพุ่งตรงมาจากด้านนอกประตูเสียบเข้าฝ่ามือของจูต้าอันโดยตรง

เสียงสวบดังพร้อมกับเลือดที่สาดกระเด็นไปทั่ว

“อ๊าก!!!” จูต้าอันร้องตะโกนอย่างโหยหวนไปทั่วเรือน

ในดวงตาที่หวาดกลัวอย่างยิ่งของเขา มีชายอาฆาตแค้นถือคันธนูเดินเข้ามาจากนอกบ้าน เฉินฟานนี่!

จูต้าอันมองเขาพร้อมดุด่า “เฉินฝานไอ้คนชั่ว……”

“สวบ!”

ทันใดนั้นมือข้างหนึ่งบีบเข้าที่คอจนทำให้เสียงร้องของเขาหยุดลงทันที!

จูต้าอันจะดึงมือเฉินฝานออก แต่ไม่ว่าจะออกแรงเท่าไหร่มือของเฉินฝานก็ไม่ขยับแม้แต่น้อย!

เฉินฝานรู้สึกโกรธจัด!

เขาจับจูต้าอันเอาไว้แล้วลากไปอีกฝั่งเหมือนลากหมาที่ตาย

จากนั้น เขาต่อยหมัดลงไปครั้งแล้วครั้งเล่า เสียงทุ้มของหมัดมือดังสนั่นไปทั่วเรือนน้อยหลังนี้……

จนกระทั่งจูต้าอันหมดสติถึงยอมปล่อยมือ!

จากนั้นเฉินฝานรีบหันไปอุ้มฉินเย่ว์โหรวขึ้นมาและพาเข้าไปข้างในพร้อมกับปิดประตู เขาวางนางลงเตียงอย่างทะนุถนอม

ฉินเย่ว์โหรวดึงกระชากเสื้อตนเองอยู่อย่างนั้นและเอาแต่พูดว่าร้อน

เฉินฝานมองฉินเย่ว์โหรวที่มีรอยฝ่ามือตรงแก้มและร้องว่าร้อนไม่หยุด มันทำให้หัวใจของเขาทั้งรู้สึกเจ็บและสงสารจับใจ

เขาประมาทเช่นนี้ได้อย่างไร ปล่อยให้ฉินเย่ว์โหรวอยู่คนเดียว!

หากไม่ใช่เพราะเขาไตร่ตรองไม่ถี่ถ้วน ฉินเย่ว์โหรวก็ไม่ต้องประสบเหตุการณ์แบบนี้

“เย่ว์โหรว ๆ !”

เฉินฝานขานเรียกอย่างอ่อนโยน ฉินเย่ว์โหรวพยายามลืมตาขึ้น เมื่อเห็นแววตาเป็นห่วงของเฉินฝาน ทันใดนั้นน้ำตาก็ไหลไม่หยุด

นางยื่นมือโผกอดคอของเฉินฝานราวกับเป็นแมวเหมียวตัวน้อย นางกล่าวเสียงสะอื้นอย่างน่าสงสาร “นายท่าน……เย่ว์โหรวรู้สึกไม่ดีมาก……”

“ข้ารู้ เดี๋ยวก็ดีขึ้นแล้วนะ”

เฉินฝานลูบหัวนางอย่างสงสาร ฝ่ามืออันใหญ่จับหน้าฉินเย่ว์โหรวขึ้นมาแล้วจุมพิตลงที่ริมฝีปากอมชมพูของนาง

ริมฝีปากนุ่มนวลราวกับเต้าหู้ที่ละลายทันทีเมื่อถูกสัมผัส

ฉินเย่ว์โหรวโน้มตัวเข้าใกล้เฉินฟานมากขึ้น ดวงตาที่สวยงามของนางเต็มไปด้วยความชุ่มชื้น นางเริ่มกอดเฉินฟานและมอบจูบให้เขา

กลิ่นหอมบางเบาจากร่างกายของนางลอยเข้าไปในจมูกของเฉินฝาน

เฉินฝานตื่นตัวในทันใด

เขาจับคอฉินเย่ว์โหรวแล้ววางนางลงไป

มือสอดเข้าไปข้างในเสือของฉินเย่ว์โหรวอย่างควบคุมไม่อยู่

แม้ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก แต่ผิวเนื้อของฉินเย่ว์โหรวกลับเรียบเนียนละเอียดอ่อน

ราวกับหยกขาวเนื้อดี ให้ความรู้สึกแทบไม่อยากปล่อยมือ

เฉินฝานรอไม่ไหวจึงจูบลงที่ริมฝีปาก เขาบีบคางของฉินเย่ว์โหรวโดยลืมความสงสารไปแล้วจดหมดสิ้น

จูบที่รุนแรงพร้อมปล่อยความบ้าคลั่งอย่างตามใจทำให้ฉินเย่ว์โหรวหายใจลำบากเล็กน้อย

เสื้อขาวตัวเล็กร่วงหล่นลงไปเงียบ ๆ

นัยน์ตาเต็มไปด้วยความสดใส แสงสว่างและเลือดที่พลุ่งพล่าน!

เมื่อเห็นร่างกายของฉินเย่ว์โหรวเป็นสีแดงเต็มไปหมด อีกทั้งยังขดตัวอย่างเขินอายและอ่อนปวกเปียก

เฉินฝานสูญเสียสติโน้มตัวลงไปทันที ฝ่ามืออันใหญ่กระชากผ้าชิ้นสุดท้ายบนตัวฉินเย่ว์โหรวออก…….
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (3)
goodnovel comment avatar
ไมตรี ไมตรี
ทางลัดไปหน้าที่อ่านสุดท้ายมีใหมเลื่อนแล้วเมื้อย
goodnovel comment avatar
sabading.dingda
ขอเตือนเรื่องเติมเงิน คนที่ยังไม่เติมเงินน่ะดีแล้วนะ มันอัพเดทวันละตอน นี่เลิกอ่านละ คุณเก็บเหรียญฟรีเอาดีกว่า เติมเงินไปก็ไม่ได้อ่าน ตัองรอมันอัพวันละตอน จะรำคาญหงุดหงิดเปล่าๆ เราเลิกอ่านละ รอเบื่อ จนลืมเรื่องราวเดิมละ ไม่ต่อเนื่อง ถ้าไม่พร้อมก็ไม่ควรเอามาขายนะ เสร็จซัก 80%ขึ้นไปค่อยเอามาข่ยดีกว่า
goodnovel comment avatar
Chainiwat
สนุกๆสนุกสนุก
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 15

    ฉินเย่ว์โหรวไม่ได้สติมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อกลิ่นผู้ชายของเฉินฝานเข้าใกล้มาก ๆ ยิ่งรู้สึกอยากแนบชิดสองแขนโอบล้อมคอเฉินฝานและกดลงมาปกติเขินอายไร้เดียงสาเหมือนเจ้ากระต่ายน้อย แต่เวลานี้กลับเร่าร้อนดั่งเปลวไฟ“นายท่าน นายท่าน……”เสียงออดอ้อนเว้าวอนดังออกมาจากริมฝีปากแดงอมชมพูของนางเฉินฝานอดกลั้นอย่างทรมาน เมื่อฉินเย่ว์โหรวใจร้อนถึงเพียงนี้ เช่นนั้นเขาก็จะไม่เป็นสุภาพบุรุษอีกต่อไปเมื่อทุกอย่างกำลังจะสุกงอม……ทันใดนั้น……สีแดงพราวเป็นแผ่นขยายวงกว้างต่อหน้าเฉินฝานช้า ๆมาพร้อมด้วยเสียงร้องปวดจากฉินเย่ว์โหรว เสียงหายใจถี่หายไปและปรับเปลี่ยนเป็นเสียงสะอื้นน่าสงสารในดวงตาเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา นางมองเฉินฝานด้วยแววตาตัดพ้อ: “นายท่าน ท่าน……อ่อนโยนหน่อยไม่ได้หรือเจ้าคะ!”เวลานี้ฉินเย่ว์โหรวรู้สึกเพียงแต่มวนท้อง โดยเฉพาะท้องน้อยที่เจ็บจี๊ดเหมือนโดนมีดบาดเฉินฝานเข้าใจคำตำหนิทันทีราวกับแววตาของฉินเย่ว์โหรวพูดได้แต่ตอนนี้เขารู้สึกจนใจและน้อยใจมากกว่านี่ไม่ใช่ความเจ็บที่เกิดอาการฉีกขาด!เขาอยากทำอะไรสักอย่าง แต่เขายังไม่ทันได้เริ่มเลย!เพราะประจำเดือนของฉินเย่ว์โหรวมาพอดีต่างหาก!นาง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 16

    ฉินเย่ว์เจียวดึงคันธนูแล้วเดินไปหยุดอยู่ด้านหน้าฉินเย่ว์โหรวใบหน้าของหลี่ซานเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “พานางออกไป ข้าไม่เชื่อว่านางจะกล้าลงมือ!”ชายทั้งสองยังคงเดินหน้าต่อไป ฉินเย่ว์เจียวถูกบีบให้ล่าถอยไปทีละก้าว สายตาเห็นว่าจะโจมตีฉินเย่ว์โหรว“ใครก็ตามที่กล้าพาน้องสี่ของข้าไป ข้าจะยิงพวกเจ้าให้ตายด้วยลูกธนูดอกเดียว!” ฉินเย่ว์เจียวตะโกนลั่น พร้อมดึงสายธนูในมือให้โค้งได้มากที่สุด“พี่สาม อย่าเลย!”ฉินเย่ว์โหรวกอดฉินเย่ว์เจียว “ให้เรื่องจบเท่านี้เถิด ข้าจะไปกับพวกเขาเอง ท่านไม่จำเป็นต้องเสี่ยงชีวิตอีก”ฉินเย่ว์โหรวหลับตาอย่างยอมแพ้ ยังคิดด้วยซ้ำว่าหลีกเลี่ยงจูต้าอันก็พอแล้วแต่ทำไมนางถึงลืมเรื่องที่นางถูกขายให้กับหอนางโลมอี๋ชุนย่วนไปอีกแล้ว“เจ้าพูดเหลวไหลอะไรน่ะ! มาเลย!” ดวงตาของฉินเย่ว์เจียวเป็นสีแดงเข้ม นางกัดฟันและตะโกนเสียงดัง “ถ้าอย่างนั้นเราก็มาตายด้วยกัน!”“จะตายอะไร จะรอดอะไรน่ะ!” เฉินฝานคว้าด้ามธนูจากมือของฉินเย่ว์เจียว “ข้าบอกเจ้าแล้วไม่ใช่หรือ เจ้าเป็นเด็กผู้หญิง อย่าเอาแต่ต่อสู้ฆ่าฟันทั้งวัน เจ้าไม่ฟังคำของข้าเลยหรือไร”“เฉินฝาน ท่านปล่อยข้า!”ความจริงที่ว่าฉินเย่ว์

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 17

    “จริงสิ ข้าเตือนไว้เสียหน่อย เมื่อครู่ที่ตีคือใบหน้า แต่ครั้งนี้จะไม่ใช่ และมันเป็น…”สายตาของเฉินฝานจับจ้องไปที่ดวงตาของหลี่ซานหลี่ซานปกป้องดวงตาของตนตามสัญชาตญาณ และพูดขึ้นอย่างร้อนตัว “เจ้าหนู เจ้ากำลังขู่ใครอยู่?"เฉินฝานพูดไม่ยี่หระ “ถ้าเจ้าลอง...ก็จะได้รู้เอง”ก่อนจะทะลุมิติมา เฉินฝานเพิ่งปลดประจำการจากทีมปฏิบัติการพิเศษในประเทศหนึ่งหากไม่ใช่เพราะร่างกายนี้ขาดการออกกำลังกาย ท่อนไม้ที่เพิ่งพุ่งเข้าไปที่ใบหน้าของหลี่ซานจะไม่เพียงแต่ทำให้หลี่ซานเจ็บเท่านั้น ครั้นจะเห็นเลือดออกมาเสียด้วยซ้ำหลี่ซานอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย เฉินฝานที่อยู่ตรงหน้า เห็นได้ชัดว่าเป็นคนธรรมดาที่ยากจนคำพูดและดวงตาของเขาก็ประจักษ์แจ้งได้ว่าดูไม่จริงจัง กระนั้นไม่รู้ว่าทำไมยังทำให้เขาหวาดกลัวเพื่อนชั่วช้าของจูต้าอัน ในเวลานี้ได้ปลุกจูต้าอันให้ฟื้นขึ้นมาแล้วเขาถูกเฉินฝานทุบตีจนหยุดหายใจไปชั่วคราว แม้เฉินฝานจะเคลื่อนไหวรุนแรง ตีจนทำให้จูต้าอันเจ็บเกือบตายแต่เป็นการลงมืออย่างพอดี เพื่อป้องกันไม่ให้จูต้าอันตายจริงและก่อให้เกิดคดีความเกี่ยวกับชีวิตคนเมื่อจูต้าอันตื่นขึ้นมา ดวงตาของเขาก็เปลี่ยนไปอย่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 18

    หลี่ซานมองลูกธนูที่พุ่งตรงเข้าไปในดวงตาของนักเลง บนหน้าผากมีเหงื่อเย็นเป็นชั้นบาง ๆ โชคดีที่เขาไม่ใช่คนที่เฉินฝานยิง ไม่เช่นนั้นดวงตาของเขา...เฉินฝานหยิบลูกธนูอีกดอกออกมาจากกระบอกใส่ธนูของฉินเย่ว์เจียว มองพวกนักเลงอย่างเย็นชาเขายังไม่ทันได้ส่งเสียงอะไรออกไป พวกนักเลงก็ก้าวถอยหลังไปทีละคน“เจ้าพวกขี้ขลาด ถอยทำไม ไปสิ!”“ข้าบอกให้ไป!”ไม่ว่าหลี่ซานจะตะโกนอย่างไร ก็ไม่มีนักเลงคนใดกล้าโจมตี ซ้ำยังถอยห่างออกไปเรื่อย ๆไม่มีทาง ใครเล่าจะไม่กังวลเรื่องดวงตาของตน“เฉินฝาน เจ้าคิดว่าเจ้าเก่งกาจมากนักหรือ? เจ้าเก่งกาจมากกว่ากฎหมายของต้าชิ่งหรือ? ข้าจะฟ้องทางการ ฟ้องทางการ!”ท้ายที่สุดแล้ว หลี่ซานคือนายน้อยแห่งหอนางโลมอี๋ชุนย่วน เขาไม่เคยโกรธขนาดนี้มาก่อนที่เขาจะได้พบกับเฉินฝาน เขาตะโกนดังลั่นด้วยความโกรธ“ข้าไม่ได้บอกว่าจะไม่คืนเงิน ฟ้องทางการ เจ้ามีเหตุผลอะไร”“เหตุผลอะไร!”“ฮ่า ๆๆ อย่าหาว่าข้าไม่เตือนเจ้านะ หนึ่งร้อยเท่าของหนึ่งร้อยอีแปะเป็นเงินสิบตำลึง เจ้าต้องชดใช้คืนภายในสามวัน ครบไปแล้วหนึ่งวัน ตอนนี้เจ้ามีเวลาเพียงแค่สองวันเท่านั้น คนจนเช่นเจ้า...จ่ายไหวหรือ”หลี่ซานแสดงท่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 19

    เฉินฝานปาดเหงื่อที่ยังคงไหลอาบหน้า หันกลับไปดูว่าสองพี่น้องฉินเป็นอย่างไรบ้าง แต่พบว่าสองพี่น้องทะเลาะกันอีกแล้ว“น้องสี่ ถ้าเจ้าอยากไป ข้าจะเป็นคนไปเอง ร่างกายของข้าก็ดีกว่าของเจ้า”“พี่สาม ในสัญญาเป็นชื่อของข้า ก็ต้องเป็นข้าที่ไปสิเจ้าคะ”“ไม่ได้ ร่างกายของเจ้า...”เฉินฝานส่ายหัวจนใจ เด็กหญิงสองคนนี้แสร้งทำเป็นว่าเขาไม่มีตัวตนอีกต่อไป“หยุดเถียงได้แล้วน่า! พวกเจ้าไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ไปทั้งนั้น ข้าจะหาเงินเอง ข้าจะแก้ปัญหาเอง”ฉินเย่ว์เจียวตอบคำพูดของเฉินฝานด้วยความโกรธ “ท่านรู้แน่ชัดแล้วใช่หรือไม่ว่ามันเป็นเงินสิบตำลึง ไม่ใช่หนึ่งร้อยอีแปะ”“ข้าไม่ได้ตาบอดหูหนวก ข้ารู้ว่ามันเป็นเงินสิบตำลึง”“ดีเจ้าค่ะ เช่นนั้นก็บอกข้าหน่อยสิ ภายในสองวันท่านจะหาเงินสิบตำลึงได้ที่ใด”“ข้าขอคิดดูก่อน ต้องมีทางแก้ไขมากกว่าปัญหาอยู่แล้ว”“มีทางแก้ไขมากกว่าปัญหา? ฮ่า!” ความโกรธบนใบหน้าของฉินเย่ว์เจียวค่อย ๆ ลดลง และในที่สุดก็กลายเป็นไร้ความรู้สึก ไร้ความรู้สึกหลังจากโกรธและผิดหวังอย่างมากนางหยิบธนูและลูกธนูขึ้นมาก่อนจะดินออกไปฉินเย่ว์โหรวคว้าแขนเสื้อของฉินเย่ว์เจียวไว้ทันที “พี่สาม ท่านจะ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 20

    นางไม่รู้จริง ๆ ว่าต้องทำอย่างไรหรือนางจะต้องดูน้องสาวของตนจากไปอีกครั้งหรือไม่ตั้งแต่ครั้งแรกที่นางพบกับฉินเย่ว์เจียว ไม่ว่าจะพบเจออะไรก็ตาม ฉินเย่ว์เจียวก็เป็นเหมือนพริกเม็ดเล็ก ทั้งดุร้ายและหยิ่งยโส กระทั่งมีหนามบนร่างกายตอนนี้เป็นครั้งแรกที่เฉินฝานได้เห็นท่าทางไร้ชีวิตชีวาเช่นนี้รู้สึกสงสารและรักใคร่ในใจ“เด็กโง่งม!” เฉินฝานยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของฉินเย่ว์เจียว “สบายใจได้ ได้ไหม พวกเจ้ามีข้านะ”“ข-ข้าไม่ได้โง่งม!”ฉินเย่ว์เจียวหันมาอย่างรวดเร็วแม้ว่านางจะแต่งงานกับเฉินฝานมานานกว่าหนึ่งปีแล้ว แต่ในอดีต เฉินฝานมักจะทุบตีและด่าทอนาง ให้นางออกไปทำงานหาเงินไม่ได้หยุดพักนางไม่เคยรู้สึกถึงความรักและความเสน่หาจากชายผู้นี้เลย เมื่อมือของเฉินฝานสัมผัสใบหน้าของนาง ก็พบว่าเขาอบอุ่นมากและหัวใจก็เต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้ใบหน้ารู้สึกร้อนยิ่งขึ้น ใบหน้าที่เมื่อครู่เพิ่งถูกเฉินฝานสัมผัสกลายเป็นสีแดงก่ำสะท้อนน้ำตาบนใบหน้าแพรวพราว ราวกับดอกกุหลาบที่กำลังเบ่งบาน ซึ่งดูสดใสและทำให้ผู้คนหวั่นไหวเฉินฝานมองเห็นมันแล้วก็สูญเสียสติไปคิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าฉินเย่ว์เจียวซึ่งปกติแล้วจะ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 21

    “ย่อม……ย่อมได้อยู่แล้ว!”เฉินฝานกินคำใหญ่เพราะเขารู้สึกประหลาดใจมากแม้สองวันที่ผ่านมา เขาพูดกับฉินเย่ว์โหรวตลอดเวลาว่าต่อจากนี้ไปจะไม่ทุบตีนางอีกแต่เวลาฉินเย่ว์โหรวเจอหน้าเขา นางยังกลัวเขาเหมือนเวลาหนูเจอแมวเหมือนเดิมยิ่งไม่ต้องพูดถึงการสัมผัสทางร่างกายตอนนี้จู่ ๆ ก็เสนอว่าจะนอนข้างตนผิดปกติเล็กน้อย!ฉินเย่ว์เจียวก็รู้สึกเหมือนกันว่าฉินเย่ว์โหรวไม่ปกติ แต่ก็พูดไม่ออกว่าเพราะอะไรฉินเย่ว์โหรวกลับไปนอนที่เมื่อคืน นางอุ้มผ้าห่มขาดรุ่งริ่งและบางผืนนั้นกลับไปข้าง ๆ เฉินฝานและนอนตามเฉินฝานนางนอนลงแล้วเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าพวกนางสองพี่น้องมีผ้าห่มเพียงผืนเดียว จึงลุกขึ้นนั่งแล้วกวักมือเรียกฉินเย่ว์เจียว“พี่สาม พี่มาตรงนี้ด้วยเถอะ”“……”เฉินฝานพูดไม่ออกไปชั่วขณะ ทั้งสามคนจึงนอนเรียงกัน……แฮ่ะ ๆคนโบราณสมัยนี้ปล่อยตามอำเภอใจเพียงนี้เชียวรึ!แต่ทว่าเขาชอบ!หมอกจะหนาในยามดึก ผ้าห่มของสองพี่น้องบางเกินไปจริง ๆ เฉินฝานอยากแลกกับ... แต่สองพี่น้องไม่ยอมถ้าพวกนางห่มผืนดี ให้เฉินฝานห่มผืนขาดรุ่งริ่ง พวกนางจะถูกผู้อื่นด่าว่าเป็นคนไม่ดีไม่มีศีลธรรมเมื่อเถียงสองพี่น้องไม่สำเร็จ เฉ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 22

    “อื้อ……”คางเล็กกะทัดรัดของฉินเย่ว์โหรวถูกเฉินฝานกดทับครอบครองไว้อย่างแน่นหนาลมหายใจสั่นเล็ก ๆ ความจั๊กกะจี้และชาที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน วาบขึ้นตั้งแต่ใบหูไปจนถึงกระดูกไขสันหลังริมฝีปากที่นุ่มลุ่มลื่นกับร่างกายที่อ่อนปวกเปียกราวกับไร้กระดูกประกอบกับกลิ่นหอมที่ลอยอยู่ทั่วตัว กำลังโจมตีเขตป้อมปราการของเฉินฝานทีละน้อยไม่ ไม่ได้นะไม่ใช่เวลาตอนนี้ สุขภาพนางไม่ได้เฉินฝานปล่อยฉินเย่ว์โหรวอย่างแรงโดยมีมือข้างหนึ่งชันกำแพง“ยังจะหนีอีกหรือไม่”เขาพยามยามควบคุมถึงขีดสุดแล้ว แต่เสียงของเฉินฝานยังคงฟังออกว่ามีลมหายใจไม่คงที่ดวงตาลุกวาวดังดวงดาวของฉินเย่ว์โหรวหมุนเป็นพันรอบหมื่นรอบ มีความอ่อนโยนแต่มีความโกรธมากกว่า“ปึก!”ฉินเย่ว์โหรวซุกอ้อมอกของเฉินฝานอย่างแรง หมัดเล็ก ๆ ต่อยเฉินฝานไม่หยุดน้ำตาไหลรินลงที่เสื้อของเฉินฝานพร้อมกับคำหนิคำแล้วคำเล่า“ทำไม ทำไม ข้ารอท่านมาหนึ่งปีกว่า ทำไมท่านถึงไม่เปลี่ยนเร็วกว่านี้ ทำไมต้องถึงคราวที่แก้ไขไม่ได้แล้วค่อยเปลี่ยน!”“มันแก้ไขไม่ได้อย่างไร ข้าพูดแล้วไม่ใช่หรือว่าข้ามีวิธี!”ฉินเย่ว์โหรวร้องไห้ต่อราวกับไม่ได้ยินที่เฉินฝานกล่าวนางรู้สึกว่

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status