Share

บทที่ 14

Penulis: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
กินอาหารง่าย ๆ เสร็จ เฉินฝานกับฉินเย่ว์เจียวก็เตรียมตัวจะไปขายไก่ป่ากับกระต่ายในเมือง

ฉินเย่ว์โหรวร่างกายอ่อนแอจึงอยู่เฝ้าเรือนแทน

หมู่บ้านซานเหออยู่ในเมืองที่มีชื่อว่าเมืองหลีผิง จากหมู่บ้านซานเหอไปยังตลาดในเมืองเพียงสิบกว่าลี้ ระยะห่างไม่ไกลมากนัก

คนชนบทเป็นคนตื่นเช้า เมื่อเฉินฝานกับฉินเย่ว์เจียวเดินมาถึง ในตลาดก็เต็มไปด้วยเสียงเรียกขายของต่าง ๆ ดังไม่ขาดสาย

สำหรับฉินเย่ว์เจียวแล้ว การขายไก่ป่ากับกระต่ายเป็นสิ่งที่นางคุ้นเป็นอย่างดี

“น้องเย่ว์เจียวมาแล้วหรือ วันนี้ล่าได้สัตว์อะไรมาล่ะ”

สตรีวัยกลางคนขายไช้กัวอยู่ข้าง ๆ ถามขึ้นอย่างดีใจเมื่อเห็นฉินเย่ว์เจียว

แต่เมื่อสตรีวัยกลางคนเห็นเฉินฝานที่ยืนอยู่ข้างหลังฉินเย่ว์เจียวแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าก็หายไปทันใด ตามมาด้วยการมองเฉินฝานด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจ

เมื่อก่อนเฉินฝานตามมาเอาเงินทั้งนั้น เมื่อได้เงินแล้วก็เอาไปเล่นพนันทันที คนที่นี่จึงไม่ต้อนรับเขามากนัก

ฉินเย่ว์เจียวยกไก่ป่าขึ้นมา “ท่านป้า วันนี้ข้าจับไก่ป่าได้เจ้าค่ะ!”

สตรีวัยกลางคนก้มศีรษะลงและมอง “โอ้โห ไก่ป่าตัวนี้ช่างอ้วนท้วนเหลือเกิน วันนี้น้องเย่ว์เจียวจะรวยแล้วล่ะสิ ไก่ป่าดีขนาดนี้คงขายได้ราคาดีแน่ เจ้าไปจับมันมาจากที่ไหนหรือ!”

สตรีวัยกลางคนพูดไปพลางกลอกตาให้กับเฉินฝาน

นางทำได้เพียงถอนหายใจอยู่ข้างใน หญิงสาวดีขนาดนี้ น่าเสียดายที่ถูกจัดสรรให้กับผู้ชายขี้เกียจตัวเป็นขนเช่นนี้

“ท่านป้า วันนี้ข้าไม่เพียงมีแต่ไก่ป่า ข้ายังมีกระต่ายด้วย นายท่านข้าจับได้ที่ภูเขาหัวเสือน่ะ”

ฉินเย่ว์เจียวแต่งงานกับเฉินฝานมานานมาก นี่เป็นครั้งแรกที่นางพูดคำสามคำว่า ‘นายท่านข้า’ อย่างภาคภูมิใจ

“นายท่านของเจ้าเป็นคนล่ามาได้รึ!” สตรีวัยกลางคนแสดงสีหน้าไม่เชื่อ

สตรีวัยกลางคนพูดไม่ออกทันทีที่เฉินฝานหยิบไก่ป่ากับกระต่ายออกมาจากตะกร้าที่หลัง

เห็นผีเข้าแล้ว คนเสเพลกลับตัวใหม่?

……

หลังจากพวกเฉินฝานออกไป ฉินเย่ว์โหรวเก็บกวาดห้องเสร็จนางพลางเดินไปที่เล้าไก่

ในนั้นยังมีไก่ป่าอีกหนึ่งตัว เฉินฝานบอกแล้วว่าไม่ขายตัวนี้ เก็บไว้ให้มันออกไข่และให้นางกินบำรุง

แววตาและน้ำเสียงของเขาตอนพูดช่างอ่อนโยนเหลือเกิน

เมื่อนางบำรุงร่างกายดี ก็จะมีเนื้อมีนวลมากขึ้น และนางก็จะผลิดอกออกผล คลอดเจ้าตัวจ้ำม่ำให้เขาได้

ฉินเย่ว์โหรวปิดหน้าตัวเองอย่างเขินอาย

“หน้าไม่อายเลยจริง ๆ ในสมองคิดแต่เรื่องเช่นนี้อยู่ได้”

มีเสียงเท้าดังขึ้นจากข้างหลัง

ฉินเย่ว์โหรวหันกลับไปอย่างดีใจ “นายท่าน พี่สาม พวกท่าน……”

“แม่หญิงฉิน ข้าไม่ใช่นายท่านของเจ้า ข้าคือพี่จูของเจ้า!”

ใบหน้าอัปลักษณ์ของจูต้าอันปรากฏขึ้นตรงหน้าฉินเย่ว์โหรว

เขาฉีกยิ้มและเผยให้เห็นฟันเหลืองที่มีอยู่เต็มปากพร้อมใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความชั่วร้าย

เมื่อได้รู้ว่าฉินเย่ว์โหรวยังเป็นหญิงบริสุทธิ์ ในสมองของจูต้าอันก็เต็มไปด้วยฉินเย่ว์โหรว

เขาชอบแม่หญิงเช่นนี้ที่ทั้งเนื้อหอมและบริสุทธิ์

จูต้าอันใช้มือปิดประตูเรือนแล้วเดินเข้าไปใกล้ฉินเย่ว์โหรวทีละก้าว “แม่หญิงหน้าแดงเช่นนี้ กำลังคิดถึงผู้ชายของเจ้าอยู่ล่ะสิ!”

ฉินเย่ว์โหรวมองหน้าจูต้าอันพร้อมถอยหลัง ดวงตาที่โหญ่โตเท่าดวงดาวคู่นั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและกังวลใจ

“ไอ้เฉินฝานมันเป็นคนขี้ขลาดตาขาว เจ้าเข้ามาอยู่ตั้งนานแต่ยังไม่เคยทำอะไรเจ้า ช่วงเวลานี้แม่หญิงคงจะเปล่าเปลี่ยวแน่เลยใช่หรือไม่!”

“ไม่ต้องกลัวนะ พี่ชายจะช่วยเจ้าเอง!”

ปากกล่าวหยอกล้อ จูต้าอันตื่นเต้นพลันพุ่งเข้าหาฉินเย่ว์โหรวและกดนางลงกับพื้นกลางลานสวน

“ปล่อยข้านะ ไอ้เศษสวะ!”

ฉินเย่ว์โหรวดิ้นรนสุดชีวิตจนจูต้าอันเกือบคุมนางไม่อยู่ไปชั่วขณะ

เขาจึงตบหน้าฉินเย่ว์โหรวและกล่าวอย่างดุร้าย “นังโสเภณี! ที่ข้าทำอะไรเจ้าเพราะข้าสงสาร อย่าทำตัวไว้หน้าแล้วแต่ไม่รู้จักรับนะ!”

ใบหน้าฉินเย่ว์โหรวแดงขึ้นทันใด เลือดพลางไหลลงจากมุมปาก

ในดวงตานางเต็มไปด้วยความโกรธอันเดือดดาล นางใช้กำลังทั้งหมดออกแรงข่วน

จูต้าอันคว้ามือนางแล้วมัดด้วยเข็มขัด จากนั้นหยิบห่อยาออกมากรอกปากนาง

ผงยาละลายทันทีที่เข้าปาก เพียงครู่เดียวฉินเย่ว์โหรวก็รู้สึกร่างกายอ่อนระทวยทันทีจนแทบไม่เหลือแรงสู้

จูต้าอันเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้แล้วก็ยิ้มขึ้นอย่างหื่นกาม “ข้าใช้เงินตั้งมากมายเพื่อซื้อของดีอันนี้!”

ฉินเย่ว์โหรวยกมือเท้าขึ้นทั้งตีและเตะ ลำคอส่งเสียงสะอึ้นอย่างควบคุมไม่อยู่เหมือนสัตว์ตัวเล็ก

ร่างกายนางรู้สึกลุ่มร้อนเป็นพัก ๆ น้ำตาแห่งความอัปยศไหลอาบแก้มฉินเย่ว์โหรว

เมื่อรู้สึกแล้วว่ามือเท้าไม่อยู่ในการควบคุมแล้ว ฉินเย่ว์โหรวพลันตัดสินใจอย่างเด็ดขาดว่าจะฆ่าตัวตายด้วยการกัดลิ้น!

จูต้าอันเดาออกแต่ทีแรกจึงยัดมือข้างหนึ่งเข้าไปในปากของฉินเย่ว์โหรว

“นังชั้นต่ำ คิดจะฆ่าตัวตายงั้นเรอะ!”

จูต้าอันกระชากผมฉินเย่ว์โหรวขึ้นอย่างรุนแรงและโหดเหี้ยม และยังตบหน้าลงไปอีกหลายที

“ข้ารอมานานขนาดนี้ อยากตายงั้นเรอะ อย่าได้หวัง!”

เขาเริ่มกระชากเสื้อผ้าของฉินเย่ว์โหรว เมื่อผิวขาวนวลผ่องเผยออกมา แววตาพลันเต็มไปด้วยความหื่นกาม

แววตาของฉินเย่ว์โหรวเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

ทำไม ทำไมสวรรค์ถึงทำกับนางเช่นนี้

เฝ้ารอมาตั้งนาน รอจนในที่สุดนายท่านก็เปลี่ยนไป ผลสุดท้ายตนเองมีมลทินเพราะไอ้หื่นกามคนนี้!

ดวงตาที่หวาดกลัวและอับอายของฉินเย่ว์โหรวทำให้จูต้าอันตื่นเต้นมาก

“ฮ่า ๆๆ แม่หญิงอย่ากลัวเลยนะ!”

เขาลุกขึ้นถอดกางเกงออก กำลังจะโน้มตัวลงไป

และในวินาทีนั้น……

“ปึก!”

เสียงแตกกระจายดังสนั่น ประตูเรือนแตกออกเป็นชิ้น ๆ นับไม่ถ้วน

ลูกธนูดอกหนึ่งพุ่งตรงมาจากด้านนอกประตูเสียบเข้าฝ่ามือของจูต้าอันโดยตรง

เสียงสวบดังพร้อมกับเลือดที่สาดกระเด็นไปทั่ว

“อ๊าก!!!” จูต้าอันร้องตะโกนอย่างโหยหวนไปทั่วเรือน

ในดวงตาที่หวาดกลัวอย่างยิ่งของเขา มีชายอาฆาตแค้นถือคันธนูเดินเข้ามาจากนอกบ้าน เฉินฟานนี่!

จูต้าอันมองเขาพร้อมดุด่า “เฉินฝานไอ้คนชั่ว……”

“สวบ!”

ทันใดนั้นมือข้างหนึ่งบีบเข้าที่คอจนทำให้เสียงร้องของเขาหยุดลงทันที!

จูต้าอันจะดึงมือเฉินฝานออก แต่ไม่ว่าจะออกแรงเท่าไหร่มือของเฉินฝานก็ไม่ขยับแม้แต่น้อย!

เฉินฝานรู้สึกโกรธจัด!

เขาจับจูต้าอันเอาไว้แล้วลากไปอีกฝั่งเหมือนลากหมาที่ตาย

จากนั้น เขาต่อยหมัดลงไปครั้งแล้วครั้งเล่า เสียงทุ้มของหมัดมือดังสนั่นไปทั่วเรือนน้อยหลังนี้……

จนกระทั่งจูต้าอันหมดสติถึงยอมปล่อยมือ!

จากนั้นเฉินฝานรีบหันไปอุ้มฉินเย่ว์โหรวขึ้นมาและพาเข้าไปข้างในพร้อมกับปิดประตู เขาวางนางลงเตียงอย่างทะนุถนอม

ฉินเย่ว์โหรวดึงกระชากเสื้อตนเองอยู่อย่างนั้นและเอาแต่พูดว่าร้อน

เฉินฝานมองฉินเย่ว์โหรวที่มีรอยฝ่ามือตรงแก้มและร้องว่าร้อนไม่หยุด มันทำให้หัวใจของเขาทั้งรู้สึกเจ็บและสงสารจับใจ

เขาประมาทเช่นนี้ได้อย่างไร ปล่อยให้ฉินเย่ว์โหรวอยู่คนเดียว!

หากไม่ใช่เพราะเขาไตร่ตรองไม่ถี่ถ้วน ฉินเย่ว์โหรวก็ไม่ต้องประสบเหตุการณ์แบบนี้

“เย่ว์โหรว ๆ !”

เฉินฝานขานเรียกอย่างอ่อนโยน ฉินเย่ว์โหรวพยายามลืมตาขึ้น เมื่อเห็นแววตาเป็นห่วงของเฉินฝาน ทันใดนั้นน้ำตาก็ไหลไม่หยุด

นางยื่นมือโผกอดคอของเฉินฝานราวกับเป็นแมวเหมียวตัวน้อย นางกล่าวเสียงสะอื้นอย่างน่าสงสาร “นายท่าน……เย่ว์โหรวรู้สึกไม่ดีมาก……”

“ข้ารู้ เดี๋ยวก็ดีขึ้นแล้วนะ”

เฉินฝานลูบหัวนางอย่างสงสาร ฝ่ามืออันใหญ่จับหน้าฉินเย่ว์โหรวขึ้นมาแล้วจุมพิตลงที่ริมฝีปากอมชมพูของนาง

ริมฝีปากนุ่มนวลราวกับเต้าหู้ที่ละลายทันทีเมื่อถูกสัมผัส

ฉินเย่ว์โหรวโน้มตัวเข้าใกล้เฉินฟานมากขึ้น ดวงตาที่สวยงามของนางเต็มไปด้วยความชุ่มชื้น นางเริ่มกอดเฉินฟานและมอบจูบให้เขา

กลิ่นหอมบางเบาจากร่างกายของนางลอยเข้าไปในจมูกของเฉินฝาน

เฉินฝานตื่นตัวในทันใด

เขาจับคอฉินเย่ว์โหรวแล้ววางนางลงไป

มือสอดเข้าไปข้างในเสือของฉินเย่ว์โหรวอย่างควบคุมไม่อยู่

แม้ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก แต่ผิวเนื้อของฉินเย่ว์โหรวกลับเรียบเนียนละเอียดอ่อน

ราวกับหยกขาวเนื้อดี ให้ความรู้สึกแทบไม่อยากปล่อยมือ

เฉินฝานรอไม่ไหวจึงจูบลงที่ริมฝีปาก เขาบีบคางของฉินเย่ว์โหรวโดยลืมความสงสารไปแล้วจดหมดสิ้น

จูบที่รุนแรงพร้อมปล่อยความบ้าคลั่งอย่างตามใจทำให้ฉินเย่ว์โหรวหายใจลำบากเล็กน้อย

เสื้อขาวตัวเล็กร่วงหล่นลงไปเงียบ ๆ

นัยน์ตาเต็มไปด้วยความสดใส แสงสว่างและเลือดที่พลุ่งพล่าน!

เมื่อเห็นร่างกายของฉินเย่ว์โหรวเป็นสีแดงเต็มไปหมด อีกทั้งยังขดตัวอย่างเขินอายและอ่อนปวกเปียก

เฉินฝานสูญเสียสติโน้มตัวลงไปทันที ฝ่ามืออันใหญ่กระชากผ้าชิ้นสุดท้ายบนตัวฉินเย่ว์โหรวออก…….
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Komen (3)
goodnovel comment avatar
ไมตรี ไมตรี
ทางลัดไปหน้าที่อ่านสุดท้ายมีใหมเลื่อนแล้วเมื้อย
goodnovel comment avatar
sabading.dingda
ขอเตือนเรื่องเติมเงิน คนที่ยังไม่เติมเงินน่ะดีแล้วนะ มันอัพเดทวันละตอน นี่เลิกอ่านละ คุณเก็บเหรียญฟรีเอาดีกว่า เติมเงินไปก็ไม่ได้อ่าน ตัองรอมันอัพวันละตอน จะรำคาญหงุดหงิดเปล่าๆ เราเลิกอ่านละ รอเบื่อ จนลืมเรื่องราวเดิมละ ไม่ต่อเนื่อง ถ้าไม่พร้อมก็ไม่ควรเอามาขายนะ เสร็จซัก 80%ขึ้นไปค่อยเอามาข่ยดีกว่า
goodnovel comment avatar
Chainiwat
สนุกๆสนุกสนุก
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terkait

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 15

    ฉินเย่ว์โหรวไม่ได้สติมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อกลิ่นผู้ชายของเฉินฝานเข้าใกล้มาก ๆ ยิ่งรู้สึกอยากแนบชิดสองแขนโอบล้อมคอเฉินฝานและกดลงมาปกติเขินอายไร้เดียงสาเหมือนเจ้ากระต่ายน้อย แต่เวลานี้กลับเร่าร้อนดั่งเปลวไฟ“นายท่าน นายท่าน……”เสียงออดอ้อนเว้าวอนดังออกมาจากริมฝีปากแดงอมชมพูของนางเฉินฝานอดกลั้นอย่างทรมาน เมื่อฉินเย่ว์โหรวใจร้อนถึงเพียงนี้ เช่นนั้นเขาก็จะไม่เป็นสุภาพบุรุษอีกต่อไปเมื่อทุกอย่างกำลังจะสุกงอม……ทันใดนั้น……สีแดงพราวเป็นแผ่นขยายวงกว้างต่อหน้าเฉินฝานช้า ๆมาพร้อมด้วยเสียงร้องปวดจากฉินเย่ว์โหรว เสียงหายใจถี่หายไปและปรับเปลี่ยนเป็นเสียงสะอื้นน่าสงสารในดวงตาเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา นางมองเฉินฝานด้วยแววตาตัดพ้อ: “นายท่าน ท่าน……อ่อนโยนหน่อยไม่ได้หรือเจ้าคะ!”เวลานี้ฉินเย่ว์โหรวรู้สึกเพียงแต่มวนท้อง โดยเฉพาะท้องน้อยที่เจ็บจี๊ดเหมือนโดนมีดบาดเฉินฝานเข้าใจคำตำหนิทันทีราวกับแววตาของฉินเย่ว์โหรวพูดได้แต่ตอนนี้เขารู้สึกจนใจและน้อยใจมากกว่านี่ไม่ใช่ความเจ็บที่เกิดอาการฉีกขาด!เขาอยากทำอะไรสักอย่าง แต่เขายังไม่ทันได้เริ่มเลย!เพราะประจำเดือนของฉินเย่ว์โหรวมาพอดีต่างหาก!นาง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 16

    ฉินเย่ว์เจียวดึงคันธนูแล้วเดินไปหยุดอยู่ด้านหน้าฉินเย่ว์โหรวใบหน้าของหลี่ซานเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “พานางออกไป ข้าไม่เชื่อว่านางจะกล้าลงมือ!”ชายทั้งสองยังคงเดินหน้าต่อไป ฉินเย่ว์เจียวถูกบีบให้ล่าถอยไปทีละก้าว สายตาเห็นว่าจะโจมตีฉินเย่ว์โหรว“ใครก็ตามที่กล้าพาน้องสี่ของข้าไป ข้าจะยิงพวกเจ้าให้ตายด้วยลูกธนูดอกเดียว!” ฉินเย่ว์เจียวตะโกนลั่น พร้อมดึงสายธนูในมือให้โค้งได้มากที่สุด“พี่สาม อย่าเลย!”ฉินเย่ว์โหรวกอดฉินเย่ว์เจียว “ให้เรื่องจบเท่านี้เถิด ข้าจะไปกับพวกเขาเอง ท่านไม่จำเป็นต้องเสี่ยงชีวิตอีก”ฉินเย่ว์โหรวหลับตาอย่างยอมแพ้ ยังคิดด้วยซ้ำว่าหลีกเลี่ยงจูต้าอันก็พอแล้วแต่ทำไมนางถึงลืมเรื่องที่นางถูกขายให้กับหอนางโลมอี๋ชุนย่วนไปอีกแล้ว“เจ้าพูดเหลวไหลอะไรน่ะ! มาเลย!” ดวงตาของฉินเย่ว์เจียวเป็นสีแดงเข้ม นางกัดฟันและตะโกนเสียงดัง “ถ้าอย่างนั้นเราก็มาตายด้วยกัน!”“จะตายอะไร จะรอดอะไรน่ะ!” เฉินฝานคว้าด้ามธนูจากมือของฉินเย่ว์เจียว “ข้าบอกเจ้าแล้วไม่ใช่หรือ เจ้าเป็นเด็กผู้หญิง อย่าเอาแต่ต่อสู้ฆ่าฟันทั้งวัน เจ้าไม่ฟังคำของข้าเลยหรือไร”“เฉินฝาน ท่านปล่อยข้า!”ความจริงที่ว่าฉินเย่ว์

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 17

    “จริงสิ ข้าเตือนไว้เสียหน่อย เมื่อครู่ที่ตีคือใบหน้า แต่ครั้งนี้จะไม่ใช่ และมันเป็น…”สายตาของเฉินฝานจับจ้องไปที่ดวงตาของหลี่ซานหลี่ซานปกป้องดวงตาของตนตามสัญชาตญาณ และพูดขึ้นอย่างร้อนตัว “เจ้าหนู เจ้ากำลังขู่ใครอยู่?"เฉินฝานพูดไม่ยี่หระ “ถ้าเจ้าลอง...ก็จะได้รู้เอง”ก่อนจะทะลุมิติมา เฉินฝานเพิ่งปลดประจำการจากทีมปฏิบัติการพิเศษในประเทศหนึ่งหากไม่ใช่เพราะร่างกายนี้ขาดการออกกำลังกาย ท่อนไม้ที่เพิ่งพุ่งเข้าไปที่ใบหน้าของหลี่ซานจะไม่เพียงแต่ทำให้หลี่ซานเจ็บเท่านั้น ครั้นจะเห็นเลือดออกมาเสียด้วยซ้ำหลี่ซานอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย เฉินฝานที่อยู่ตรงหน้า เห็นได้ชัดว่าเป็นคนธรรมดาที่ยากจนคำพูดและดวงตาของเขาก็ประจักษ์แจ้งได้ว่าดูไม่จริงจัง กระนั้นไม่รู้ว่าทำไมยังทำให้เขาหวาดกลัวเพื่อนชั่วช้าของจูต้าอัน ในเวลานี้ได้ปลุกจูต้าอันให้ฟื้นขึ้นมาแล้วเขาถูกเฉินฝานทุบตีจนหยุดหายใจไปชั่วคราว แม้เฉินฝานจะเคลื่อนไหวรุนแรง ตีจนทำให้จูต้าอันเจ็บเกือบตายแต่เป็นการลงมืออย่างพอดี เพื่อป้องกันไม่ให้จูต้าอันตายจริงและก่อให้เกิดคดีความเกี่ยวกับชีวิตคนเมื่อจูต้าอันตื่นขึ้นมา ดวงตาของเขาก็เปลี่ยนไปอย่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 18

    หลี่ซานมองลูกธนูที่พุ่งตรงเข้าไปในดวงตาของนักเลง บนหน้าผากมีเหงื่อเย็นเป็นชั้นบาง ๆ โชคดีที่เขาไม่ใช่คนที่เฉินฝานยิง ไม่เช่นนั้นดวงตาของเขา...เฉินฝานหยิบลูกธนูอีกดอกออกมาจากกระบอกใส่ธนูของฉินเย่ว์เจียว มองพวกนักเลงอย่างเย็นชาเขายังไม่ทันได้ส่งเสียงอะไรออกไป พวกนักเลงก็ก้าวถอยหลังไปทีละคน“เจ้าพวกขี้ขลาด ถอยทำไม ไปสิ!”“ข้าบอกให้ไป!”ไม่ว่าหลี่ซานจะตะโกนอย่างไร ก็ไม่มีนักเลงคนใดกล้าโจมตี ซ้ำยังถอยห่างออกไปเรื่อย ๆไม่มีทาง ใครเล่าจะไม่กังวลเรื่องดวงตาของตน“เฉินฝาน เจ้าคิดว่าเจ้าเก่งกาจมากนักหรือ? เจ้าเก่งกาจมากกว่ากฎหมายของต้าชิ่งหรือ? ข้าจะฟ้องทางการ ฟ้องทางการ!”ท้ายที่สุดแล้ว หลี่ซานคือนายน้อยแห่งหอนางโลมอี๋ชุนย่วน เขาไม่เคยโกรธขนาดนี้มาก่อนที่เขาจะได้พบกับเฉินฝาน เขาตะโกนดังลั่นด้วยความโกรธ“ข้าไม่ได้บอกว่าจะไม่คืนเงิน ฟ้องทางการ เจ้ามีเหตุผลอะไร”“เหตุผลอะไร!”“ฮ่า ๆๆ อย่าหาว่าข้าไม่เตือนเจ้านะ หนึ่งร้อยเท่าของหนึ่งร้อยอีแปะเป็นเงินสิบตำลึง เจ้าต้องชดใช้คืนภายในสามวัน ครบไปแล้วหนึ่งวัน ตอนนี้เจ้ามีเวลาเพียงแค่สองวันเท่านั้น คนจนเช่นเจ้า...จ่ายไหวหรือ”หลี่ซานแสดงท่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 19

    เฉินฝานปาดเหงื่อที่ยังคงไหลอาบหน้า หันกลับไปดูว่าสองพี่น้องฉินเป็นอย่างไรบ้าง แต่พบว่าสองพี่น้องทะเลาะกันอีกแล้ว“น้องสี่ ถ้าเจ้าอยากไป ข้าจะเป็นคนไปเอง ร่างกายของข้าก็ดีกว่าของเจ้า”“พี่สาม ในสัญญาเป็นชื่อของข้า ก็ต้องเป็นข้าที่ไปสิเจ้าคะ”“ไม่ได้ ร่างกายของเจ้า...”เฉินฝานส่ายหัวจนใจ เด็กหญิงสองคนนี้แสร้งทำเป็นว่าเขาไม่มีตัวตนอีกต่อไป“หยุดเถียงได้แล้วน่า! พวกเจ้าไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ไปทั้งนั้น ข้าจะหาเงินเอง ข้าจะแก้ปัญหาเอง”ฉินเย่ว์เจียวตอบคำพูดของเฉินฝานด้วยความโกรธ “ท่านรู้แน่ชัดแล้วใช่หรือไม่ว่ามันเป็นเงินสิบตำลึง ไม่ใช่หนึ่งร้อยอีแปะ”“ข้าไม่ได้ตาบอดหูหนวก ข้ารู้ว่ามันเป็นเงินสิบตำลึง”“ดีเจ้าค่ะ เช่นนั้นก็บอกข้าหน่อยสิ ภายในสองวันท่านจะหาเงินสิบตำลึงได้ที่ใด”“ข้าขอคิดดูก่อน ต้องมีทางแก้ไขมากกว่าปัญหาอยู่แล้ว”“มีทางแก้ไขมากกว่าปัญหา? ฮ่า!” ความโกรธบนใบหน้าของฉินเย่ว์เจียวค่อย ๆ ลดลง และในที่สุดก็กลายเป็นไร้ความรู้สึก ไร้ความรู้สึกหลังจากโกรธและผิดหวังอย่างมากนางหยิบธนูและลูกธนูขึ้นมาก่อนจะดินออกไปฉินเย่ว์โหรวคว้าแขนเสื้อของฉินเย่ว์เจียวไว้ทันที “พี่สาม ท่านจะ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 20

    นางไม่รู้จริง ๆ ว่าต้องทำอย่างไรหรือนางจะต้องดูน้องสาวของตนจากไปอีกครั้งหรือไม่ตั้งแต่ครั้งแรกที่นางพบกับฉินเย่ว์เจียว ไม่ว่าจะพบเจออะไรก็ตาม ฉินเย่ว์เจียวก็เป็นเหมือนพริกเม็ดเล็ก ทั้งดุร้ายและหยิ่งยโส กระทั่งมีหนามบนร่างกายตอนนี้เป็นครั้งแรกที่เฉินฝานได้เห็นท่าทางไร้ชีวิตชีวาเช่นนี้รู้สึกสงสารและรักใคร่ในใจ“เด็กโง่งม!” เฉินฝานยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของฉินเย่ว์เจียว “สบายใจได้ ได้ไหม พวกเจ้ามีข้านะ”“ข-ข้าไม่ได้โง่งม!”ฉินเย่ว์เจียวหันมาอย่างรวดเร็วแม้ว่านางจะแต่งงานกับเฉินฝานมานานกว่าหนึ่งปีแล้ว แต่ในอดีต เฉินฝานมักจะทุบตีและด่าทอนาง ให้นางออกไปทำงานหาเงินไม่ได้หยุดพักนางไม่เคยรู้สึกถึงความรักและความเสน่หาจากชายผู้นี้เลย เมื่อมือของเฉินฝานสัมผัสใบหน้าของนาง ก็พบว่าเขาอบอุ่นมากและหัวใจก็เต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้ใบหน้ารู้สึกร้อนยิ่งขึ้น ใบหน้าที่เมื่อครู่เพิ่งถูกเฉินฝานสัมผัสกลายเป็นสีแดงก่ำสะท้อนน้ำตาบนใบหน้าแพรวพราว ราวกับดอกกุหลาบที่กำลังเบ่งบาน ซึ่งดูสดใสและทำให้ผู้คนหวั่นไหวเฉินฝานมองเห็นมันแล้วก็สูญเสียสติไปคิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าฉินเย่ว์เจียวซึ่งปกติแล้วจะ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 21

    “ย่อม……ย่อมได้อยู่แล้ว!”เฉินฝานกินคำใหญ่เพราะเขารู้สึกประหลาดใจมากแม้สองวันที่ผ่านมา เขาพูดกับฉินเย่ว์โหรวตลอดเวลาว่าต่อจากนี้ไปจะไม่ทุบตีนางอีกแต่เวลาฉินเย่ว์โหรวเจอหน้าเขา นางยังกลัวเขาเหมือนเวลาหนูเจอแมวเหมือนเดิมยิ่งไม่ต้องพูดถึงการสัมผัสทางร่างกายตอนนี้จู่ ๆ ก็เสนอว่าจะนอนข้างตนผิดปกติเล็กน้อย!ฉินเย่ว์เจียวก็รู้สึกเหมือนกันว่าฉินเย่ว์โหรวไม่ปกติ แต่ก็พูดไม่ออกว่าเพราะอะไรฉินเย่ว์โหรวกลับไปนอนที่เมื่อคืน นางอุ้มผ้าห่มขาดรุ่งริ่งและบางผืนนั้นกลับไปข้าง ๆ เฉินฝานและนอนตามเฉินฝานนางนอนลงแล้วเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าพวกนางสองพี่น้องมีผ้าห่มเพียงผืนเดียว จึงลุกขึ้นนั่งแล้วกวักมือเรียกฉินเย่ว์เจียว“พี่สาม พี่มาตรงนี้ด้วยเถอะ”“……”เฉินฝานพูดไม่ออกไปชั่วขณะ ทั้งสามคนจึงนอนเรียงกัน……แฮ่ะ ๆคนโบราณสมัยนี้ปล่อยตามอำเภอใจเพียงนี้เชียวรึ!แต่ทว่าเขาชอบ!หมอกจะหนาในยามดึก ผ้าห่มของสองพี่น้องบางเกินไปจริง ๆ เฉินฝานอยากแลกกับ... แต่สองพี่น้องไม่ยอมถ้าพวกนางห่มผืนดี ให้เฉินฝานห่มผืนขาดรุ่งริ่ง พวกนางจะถูกผู้อื่นด่าว่าเป็นคนไม่ดีไม่มีศีลธรรมเมื่อเถียงสองพี่น้องไม่สำเร็จ เฉ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 22

    “อื้อ……”คางเล็กกะทัดรัดของฉินเย่ว์โหรวถูกเฉินฝานกดทับครอบครองไว้อย่างแน่นหนาลมหายใจสั่นเล็ก ๆ ความจั๊กกะจี้และชาที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน วาบขึ้นตั้งแต่ใบหูไปจนถึงกระดูกไขสันหลังริมฝีปากที่นุ่มลุ่มลื่นกับร่างกายที่อ่อนปวกเปียกราวกับไร้กระดูกประกอบกับกลิ่นหอมที่ลอยอยู่ทั่วตัว กำลังโจมตีเขตป้อมปราการของเฉินฝานทีละน้อยไม่ ไม่ได้นะไม่ใช่เวลาตอนนี้ สุขภาพนางไม่ได้เฉินฝานปล่อยฉินเย่ว์โหรวอย่างแรงโดยมีมือข้างหนึ่งชันกำแพง“ยังจะหนีอีกหรือไม่”เขาพยามยามควบคุมถึงขีดสุดแล้ว แต่เสียงของเฉินฝานยังคงฟังออกว่ามีลมหายใจไม่คงที่ดวงตาลุกวาวดังดวงดาวของฉินเย่ว์โหรวหมุนเป็นพันรอบหมื่นรอบ มีความอ่อนโยนแต่มีความโกรธมากกว่า“ปึก!”ฉินเย่ว์โหรวซุกอ้อมอกของเฉินฝานอย่างแรง หมัดเล็ก ๆ ต่อยเฉินฝานไม่หยุดน้ำตาไหลรินลงที่เสื้อของเฉินฝานพร้อมกับคำหนิคำแล้วคำเล่า“ทำไม ทำไม ข้ารอท่านมาหนึ่งปีกว่า ทำไมท่านถึงไม่เปลี่ยนเร็วกว่านี้ ทำไมต้องถึงคราวที่แก้ไขไม่ได้แล้วค่อยเปลี่ยน!”“มันแก้ไขไม่ได้อย่างไร ข้าพูดแล้วไม่ใช่หรือว่าข้ามีวิธี!”ฉินเย่ว์โหรวร้องไห้ต่อราวกับไม่ได้ยินที่เฉินฝานกล่าวนางรู้สึกว่

Bab terbaru

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1234

    “ใต้เท้า ท่านสบายดีหรือไม่?” หลูเฉิงกวงถูมือด้วยความตื่นเต้นอยู่นาน จึงพูดประโยคนี้ออกมาอย่างทุลักทุเล“ข้าสบายดี!” เมื่อเจอคนสนิท เฉินฝานก็ยินดีมากเช่นกันหลิงอวี้พากลุ่มแม่ชีสำนักชีชิงเมี่ยวมาคุกเข่าต่อหน้าเหล่าขุนนางเมืองหรงตูเฉินฝานเดิมอ้อมมา คนด้านข้างจึงยังไม่มีผู้ใดเห็นเขา“พี่หญิงใหญ่ ท่านดูสิ” ชิงผิงตาดี เพียงครู่เดียวก็สังเกตเห็นได้ว่าหลูเฉิงกวงวิ่งมาด้านหน้าเฉินฝานคงจิ้งมองตาม นางขมวดคิ้ว “นั้นคือนายกองหลูเฉิงกวงไม่ใช่รึ?”“คิดว่าใช่นะเจ้าคะ พี่หญิงใหญ่ นายกองเคารพนอบน้อมให้ชายผู้นั้นตลอด ชายผู้นั้นคงจะไม่ใช่สามัญชนแล้วกระมัง?”เมื่อฟังคำพูดของชิงผิงแล้ว ใจของคงจิ้งตึงเครียดทันทีชายผู้นี้ที่เถียนเสี่ยวอวี่พามา เป็นเสนาบดีใหญ่จริงหรือ?ทางเฉินฝาน“ใต้เท้า ข้าจะรายงานท่านเจ้าเมืองจางให้ทราบว่าท่านอยู่ที่นี้” หลูเฉิงกวงกำลังจะไปแจ้งข่าวเจ้าเมืองหรงตูด้วยความยินดี“ตอนนี้ยังไม่ต้อง!” เฉินฝานโบกมือ เขารีบก้าวเท้าฉับเดินไปทางมุมซ้ายของพระอุโบสถมีคนที่เขาอยากเจออย่างมากอยู่ที่นั่น“พี่ฝาน”เป็นต้ายาและสามีของนางโจวถง“ท่านพี่ เร็วเข้าสิ รีบมาคารวะใต้เท้า” ต้ายาท

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1233

    “เจ้าอาวาส เหล่าท่านผู้ว่าการมณฑลมาเจ้าค่ะ” คงจิ้งตอบกลับหลิงอวี้ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความภูไม่ใจและหยิ่งผยอง“ท่านผู้ว่าการมณฑลมางั้นรึ?” หลิงอวี้ตกตะลึงทันที ความหดหู่และความรังเกียจเกิดขึ้นเพียงชั่วขณะจากนั้นก็จางหายไป ฝีเท้าที่เร่งรีบเมื่อครู่จึงเริ่มผ่อนความเร็วลงหลิงอวี้ไม่ชอบผู้ว่าการมณฑลคนนี้อย่างมาก คงจิ้งอาศัยการที่อาของนางเป็นผู้ว่าการมณฑล มาโอ้อวดอำนาจตัวเองที่สำนักชี ทำให้บรรยากาศในสำนักชีชิงเมี่ยวอึมครึมยิ่งนักหลิงอวี้ป่วยหนักไร้ทางรักษาอยู่ก่อนแล้ว นางพยายามยื้อชีวิตไว้ เพราะไม่อยากให้ตัวเองจากไปเร็วนัก ไม่อยากให้สำนักชีชิงเมี่ยวตกไปเป็นของคงจิ้งเช่นนี้หลิงอวี้คิดว่าเรื่องที่ตนเองทำผิดมหันต์ที่สุดในชีวิตนี้คือการให้คงจิ้งเข้ามาในสำนักชีชิงเมี่ยวคงจิ้งหน้าตาสะสวย ภูไม่หลังครอบครัวดี กลับไม่มีผู้ใดมาสู่ขอ แม่ของนางกลับส่งนางมาที่สำนักชีชิงเมี่ยว แต่ไม่ได้ให้อยากให้คงจิ้งถือศีลกินเจแต่อย่างใด เป้าหมายที่แท้จริงคือ...เมื่อคิดถึงกลุ่มคนวิปริตเหล่านั้น แววตาที่เมตตาอ่อนโยนทอประกาย พลันปรากฏความเดือดดาลทันทีเพื่อจะเติมเต็มความต้องการที่เพิ่มขึ้นทุกวันไม่มีสิ้นสุดขอ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1232

    “ช่างเป็นพวกที่ชอบรนหาที่ตายเสียจริง!” เสียงเดือดดาลดังขึ้น ชิงหนิงผ่อนฝีเท้าลงเล็กน้อย นางทะยานตัวบินไปด้านนอกบ้าน ฝูงชนไม่ทันมีการตอบสนองใด นางก็บินกลับมาแล้ว ตอนที่กลับมา นางก็ถือแส้หนังหนึ่งเส้นมาด้วยชิงหนิงยกมือขึ้นสะบัดแส้หนังออกไป“เพียะ!”เสียงกังวานดังขึ้นจากพื้นที่ถูกแส้หนังฟาดลงไป“อ้าก!”คงจิ้งส่งเสียงแล้วจึงล้มลงไป นางจับหน้าตนเองกลิ้งไปกลิ้งมาบนพื้นด้วยความเจ็บปวด“โถ่เว้ย...”คงจิ้งยังคิดที่จะออกคำสั่งให้แม่ชีเหล่านั้นใช้กำลังบีบบังคับชิงหนิง ปรากฏว่านางเพิ่งจะปริปาก ก็มีเสียงฟาดแส้หนังลงมาอีกหลายครั้ง“อ้าก ๆ ๆ ๆ!”แม่ชีสิบกว่าคนส่งเสียงแล้วจึงล้มลงไป พวกนางล้มลงกลิ้งตัวไปมาด้วยความเจ็บปวดอยู่ข้าง ๆ คงจิ้ง ในที่สุดพวกเขาก็ตระหนักได้ว่า วรยุทธ์ของชิงหนิงไม่ธรรมดาหลังจากที่โกนหัวบวชชีแล้ว ชิงหนิงก็เชื่อฟังคำพูดเถียนเสี่ยวอวี่มาโดยตลอด ละทิ้งอาวุธ ละทิ้งความคิดฟุ้งซ่าน ละทิ้งความแค้น ตั้งใจศึกษาพระธรรมด้วยจิตใจแน่วแน่หากไม่ใช่เพราะคงจิ้งยั่วโมโหเช่นนี้ ทั้งชีวิตนี้ชิงหนิงคงไม่คิดจะแตะต้องแส้หนังของนางอีก“ชิงหยวน เจ้าจงรีบไปในเมืองเดี๋ยวนี้ ไปบอกท่านอาข้า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1231

    เฉินฝานสีหน้าถมึงทึงทันที ปกติแล้วหากเป็นเรื่องเล็กน้อยเขาย่อมไม่ถือสา ทว่าทำให้เสบียงอาหารได้รับเสียหาย เช่นนั้นก็...“เพียะๆ!”เฉินฝานกำลังเตรียมจะยกเท้าถีบออกไป ก็มีเสียงดังกังวานสองครั้งดังขึ้น“เจ้าคนไร้ประโยชน์!”ตามมาด้วยเสียงเดือดดาลของชิงหนิง ชิงผิงล้มลงต่อหน้านางด้วยความเร็วประดุจแสง“โอ๊ย!” ชิงผิงที่ล้มลงไปอย่างรุนแรง โอดครวญด้วยความเจ็บปวดทันที“ชิงหนิง!” ชิงผิงลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล ชี้นิ้วกัดฟันกรอดด่าทอชิงหนิง “เจ้ากล้าเตะข้ารึ ข้าจะไปฟ้องศิษย์พี่หญิงของเจ้า”ชิงหนิงกวาดสายตามองชิงผิง “ไปสิ เจ้าให้คงจิ้งมาด้วย ข้าจะได้จัดการพร้อมกันทีเดียว!”ชิงผิงตวาดด้วยความโมโห “เจ้ากล้างั้นรึ?”ชิงหนิงยกยิ้มมุมปาก “ไฉนข้าจะไม่กล้า? เจ้าไม่กล้าไปเรียกเองล่ะสิ หรือจะบอกว่านางไม่กล้ามาดีล่ะ?”“หึ ช่างปากดียิ่งนัก อยู่กับคนที่ไม่รู้ผิดชอบชั่วดีผู้นั้น จึงกลายเป็นคนไม่รู้ผิดชอบชั่วดีเหมือนกันไปแล้ว”คงจิ้งมาพร้อมกับแม่ชีสิบกว่าคนอย่างยิ่งใหญ่อลังการตอนที่เดินผ่านชิงผิง คงจิ้งหยุดฝีเท้ากล่าวถาม “เกิดเรื่องอันใดขึ้น?”“พี่หญิงใหญ่ พวกเขา...” ชิงผิงมองไปที่เฉินฝานและชิงหนิง ค

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1230

    “...แม่นางหวง?”เฉินฝานที่พลิกตัวลุกขึ้นมานั่ง มองไปยังข้างเตียงที่ว่างเปล่าไม่มีใครสักคนอย่างตะลึงงันถ้าไม่ใช่เพราะม่านประตูส่ายไหว เฉินฝานยังนึกว่าเมื่อครู่นี้เขาตาฝาดไปเฉินฝานเหลือบมองม่านประตูที่สั่นไหว แล้วแย้มยิ้ม “ก็แค่สาวน้อยปากแข็ง”ไม่สนนางแล้ว เฉินฝานดึงเสื้อผ้าท่อนล่างขึ้นมา แล้วล้มตัวลงไปนอนต่อนอนเร็วก็เลยตื่นเช้าฟ้าเพิ่งสว่าง เฉินฝานก็ตื่นแล้ว เมื่อเขาพลิกตัวขึ้นมา เฉินฝานรู้สึกว่าความเจ็บที่บั้นท้ายหายไปมากกว่าครึ่งแล้ว เฉินฝานพอใจมาก ยาสมุนไพรของสำนักชีชิงเมี่ยวนี้มีประสิทธิภาพมากเลย วันนี้ก็ออกเดินทางกลับเมืองหลวงเถิดหวงหวั่นเอ๋อร์รีบร้อนไปเมืองหลวง เขาเองก็รีบเช่นกันแคว้นต้าฉิ่งเป็นแคว้นที่บุรุษสูงส่งสตรีต่ำต้อยอย่างยิ่ง ยามนี้ฉินเย่ว์เหมยเพิ่งขึ้นเป็นฮ่องเต้หญิงอีกครั้ง ขุนนางเหล่านั้นจะต้องลอบกัดนางทั้งในที่ลับและที่แจ้งอย่างแน่นอนอย่างไรก็ตาม...แววตาของเฉินฝานดูลุ่มลึกเย็นชา เขาต้องจัดการเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อนที่จะจากไปขณะที่สวมเสื้อผ้า ก็มีเสียงคนเคาะประตูห้อง“เข้ามาสิ”“เสี่ยวอวี่เจ้ามาได้เวลาพอดี รีบมาช่วยข้าหน่อยเถิด” เฉินฝานเอ่ยกับค

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1229

    ตกกลางคืน เฉินฝานนอนคว่ำอยู่บนเตียงด้วยความเบื่อหน่ายเล็กน้อย เถียนเสี่ยวอวี่เพิ่งจะทายาตรงบั้นท้ายให้เขา ตอนนี้เขาไม่อาจเคลื่อนไหวมั่วซั่วชั่วคราว ยาที่เถียนเสี่ยวอวี่ทาไม่เพียงบรรเทาความเจ็บปวด ยังรู้สึกเย็นอีกด้วยผ่านไปไม่นานเฉินฝานที่เบื่อหน่ายก็เริ่มง่วงงุน ในเมื่อง่วงแล้ว เช่นนั้นก็หลับไปเลยดีกว่าเฉินฝานคิดในใจเช่นนี้ และทำเช่นนี้แล้ว เขาหลับดึงผ้าห่มข้างกายมาคลุมตัว??!!ผ้าห่มที่เฉินฝานเพิ่งจะคลุมตัวโดนแรงจากภายนอกกระชากออกอย่างป่าเถื่อน ความโกรธเกรี้ยวคืบคลานมาเต็มดวงหน้าของเฉินฝาน เขาลืมตา ลุกขึ้นมาอยากดูว่าใครช่างบังอาจถึงเพียงนี้ คิดไม่ถึงว่าเขาเพิ่ง จะยันตัวขึ้นมาก็โดนกดกลับไปอีกครั้ง “อย่าขยับ ให้ข้าดูแผลของเจ้าหน่อย”เสียงที่แฝงไปด้วยความชั่วร้ายแต่ว่าไพเราะอ่อนหวานดังมาจากด้านหลังเฉินฝานยิ้มอย่างจนปัญญา เขาคุ้นเคยกับเสียงหวานชั่วร้ายนี้มากเหลือเกินจริง ๆ“แม่นางหวง เหตุใดดึกขนาดนี้ยังไม่...”เฉินฝานยังไม่ทันเอ่ยคำว่านอนออกมาจากปาก หวงหวั่นเอ๋อร์ก็กดศีรษะของเฉินฝานลงไปอีกครั้ง “บอกว่าอย่าขยับ เจ้าขยับไปขยับมา ข้าจะดูบาดแผลของเจ้าได้อย่างไร?” หวงหวั่นเอ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1228

    เสียงหัวเราะเยาะของแม่ชีเหล่านั้นช่างกำเริบเสิบสาน แม้แต่เถียนเสี่ยวอวี่กับชิงหนิงที่อยู่ในเรือนก็ได้ยินกันหมด เถียนเสี่ยวอวี่ลุกพรวดขึ้นมา ไม่สนใจบาดแผลบนขาของตนเอง ก้าวเท้าพุ่งออกมาขวางทางคงจิ้งอย่างรวดเร็ว แล้วด่าทอทันทีว่า “ปากสกปรกเช่นนี้ เจ้าเพิ่งกินอุจจาระมาหรือไร?” “จะ เจ้า...” พอโดนเถียนเสี่ยวอวี่ด่า คงจิ้งไม่รู้ว่าจะโต้กลับอย่างไรไปชั่วขณะ เนื่องจากนางไม่เคยเห็นเถียนเสี่ยวอวี่เป็นเช่นนี้มาก่อน นางขี้ขลาดมากไม่ใช่หรือ? นางพูดจาไม่เก่งไม่ใช่หรือไร?ชิงหนิงเดินตามเถียนเสี่ยวอวี่ออกมา นางตั้งใจว่าเถียนเสี่ยวอวี่โดนรังแกแล้วนางจะเข้าไปช่วยพูด ผลคือคิดไม่ถึงว่าจะเป็นเช่นนี้การตอบโต้ของเถียนเสี่ยวอวี่ ชิงหนิงไม่ได้รู้สึกว่าไม่เหมาะสมเลย ตรงกันข้ามกลับรู้สึกชื่นชมว่าสมควรทำเช่นนี้ เฉินฝานมองอยู่ทางด้านข้าง และอดหัวเราะเบา ๆ ไม่ได้ เขารู้สึกขบขันกับท่าทางของเถียนเสี่ยวอวี่ เถียนเสี่ยวอวี่ที่กำหมัดน้อย ๆ แน่น ใบหน้าแดงก่ำไปหมด ทำท่าวางตนเหนือกว่านั้นดูน่ารักนิดหน่อยจริง ๆ “เจ้าบ้า หากไม่ ไสหัวไปอีก ข้าจะฉีกปากของเจ้าให้เละ” “บ้าไปแล้วหรือไร!” คงจิ้งโดนเถียนเสี่ย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1227

    “ศิษย์พี่ใหญ่ ทำเช่นนี้เกรงว่าจะไม่ค่อยดีกระมัง” ชิงหยวนที่ยืนอยู่ข้างคงจิ่งเอ่ยด้วยความกังวลเล็กน้อย“มีอันใดไม่ดี? นี่ก็ดีมากแล้ว ให้ข้าวกล้องนางก็นับว่าไม่เลวแล้ว”“เสบียงอาหารบางส่วนในห้องคลังนี้เป็นของที่ส่งมาจากอำเภอผิงอัน พวกนั้นล้วนเป็นของที่อยู่ภายใต้นามของคงอัน (เถียนเสี่ยวอวี่)” “อำเภอผิงอันส่งของมาเยอะกว่าตระกูลของข้าหรือ?” “ไม่ได้มากถึงเพียงนั้น”“เช่นนั้นก็พอแล้ว”“ศิษย์พี่ใหญ่ ข้าน้อยยังคิดว่า...” “คิดอันใดเล่า!” คงจิ้งทำหน้ารำคาญอย่างเต็มเปี่ยม ชิงหยวนรีบตอบว่า “ข้าเห็นคงอันเรียกบุรุษผู้นั้นว่าใต้เท้า ๆ ตลอด หากบุรุษผู้นั้นเป็นขุนนางใหญ่ราชสำนักจริง ๆ พวกเราจะเดือดร้อนได้นะ” “ฮ่า ๆ” เมื่อฟังคำพูดของชิงหยวนจบ คงจิ้งก็หัวเราะขึ้นมาทันที นางยกมุมปากยิ้มอย่างดูแคลนเต็มเปี่ยมบนใบหน้า “ฮึ บุตรสาวกำนันหมู่บ้านเล็ก ๆ อย่างคงอัน นางจะรู้จักขุนนางใหญ่อะไรได้? เกรงว่านายอำเภอขั้นเก้าก็เป็นขุนนางใหญ่สุดที่นางรู้จักได้แล้วกระมัง นอกจากนี้ข้ากล้ายืนยันได้เลยว่าใต้เท้าที่คงอันเรียกคงจะไม่ใช่นายอำเภอเลยด้วยซ้ำไป” นายอำเภอเดินทางออกจากบ้านจะมีสาวใช้ข้างกายแค่คนเดียว และไ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1226

    ในใจของชิงหนิง เถียนเสี่ยวอวี่คือผู้ดูแล และเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิต และเป็นญาติพี่น้องของนางอีกด้วยนางโดนเสิ่นหยวนเลี่ยงใช้อุบายชั่วร้ายเช่นนั้นทอดทิ้ง หากไม่มีเถียนเสี่ยวอวี่เยียวยาจิตใจให้นาง นางคงไม่อาจมีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้ได้เลย เถียนเสี่ยวอวี่ไม่เพียงเยียวยาจิตใจที่เหี่ยวเฉา นางยังมอบความรักความห่วงใยดั่งญาติพี่น้องให้ด้วย ชิงหนิงที่ถูกฝึกฝนให้เป็นนักฆ่าชั้นยอดมาตั้งแต่เด็ก ไม่เคยสัมผัสความรักความห่วงใยของญาติสนิทที่แท้จริงมาก่อนเฉินฝานที่อยู่ด้านนอกเรือนพักได้ยินก็อึ้งไปชั่วขณะ ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าเพราะเหตุใดเถียนเสี่ยวอวี่ถึงใช้เวลาหนึ่งชั่วยามครึ่ง (เทียบเท่ากับสามชั่วโมงในปัจจุบัน) ในการทำอาหารหนึ่งมื้อ ที่แท้เห็ดปลวกกับผักกูดเหล่านั้นเป็นของที่นางตั้งใจวิ่งออกไปเก็บมาเมื่อครู่นี้เถียนเสี่ยวอวี่ช่วยปรับหมวกแม่ชีบนศีรษะของชิงหนิงให้ตรงพลางเอ่ยด้วยรอยยิ้มบาง ๆ ว่า “ชิงหนิง เจ้าพูดเกินไปแล้วนะ ข้าแค่ไปเก็บเห็ดปลวก จะตายได้อย่างไรกัน?”เมื่อเห็นเถียนเสี่ยวอวี่มีท่าทางเช่นนี้ ชิงหนิงก็โกรธมากยิ่งขึ้น “จุดที่เจ้าเพิ่งล้มจนได้รับบาดเจ็บเมื่อครู่นี้ หากไปข้างหน้า

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status