แชร์

บทที่ 12

ผู้เขียน: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-05-08 13:23:16
เฉินฝานสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่ามือของฉินเย่ว์เจียวมีอาการสั่นเล็กน้อย

เมื่อหันกลับก็พบว่ามีเหงื่อเต็มหน้าผากฉินเย่ว์เจียว

ฉินเย่ว์เจียวแสดงสีหน้าท่าทางเป็นความกล้าหาญทันทีที่เห็นเฉินฝานหันกลับมา

ท่าทางดื้อรั้นของฉินเย่ว์เจียวทำให้เฉินฝานหัวเราะ

“นั่นมันเสือ จะกลัวขายหน้าทำไม ข้าก็กลัวเหมือนกัน”

เฉินฝานกุมมือฉินเย่ว์เจียวแน่น “อยู่ใกล้ข้าไว้ ไม่จำเป็นต้องฝืน พวกเราไม่ต้องเข้าไปลึกมาก แค่มองรอบ ๆ ว่ามีพวกกระต่ายป่าหรือนกป่าหรือไม่ก็พอ จับสักตัวสองตัวพวกเราก็กลับ ห้ามโลภเด็ดขาด”

ภูเขาหัวเสือเพราะว่ามีเสือ คนจึงขึ้นมาน้อย พวกเฉินฝานจับไก่ป่าได้สามตัวกับกระต่ายหนึ่งตัวได้อย่างรวดเร็ว

“สวบ!”

ฝีมือการยิงธนูของฉินเย่ว์เจียวไม่เลวจริง ๆ นางยิงกระต่ายได้อีกหนึ่งตัว

“ยิงโดนแล้ว ข้ายิงโดนอีกแล้ว!” ฉินเย่ว์เจียววิ่งไปเก็บกระต่ายอย่างดีใจ

“เย่ว์เจียว กลับมา……”

“โฮก!”

เสียงของเฉินฝานถูกเสียงโฮกของเสือกลบ

ตรงหน้ามีเสือกระโจนออกมากะทะหันตัวหนึ่ง มันจ้องเฉินฝานกับฉินเย่ว์เจียวไม่ขยับ

ฉินเย่ว์เจียวชูคันธนูขึ้นตามสัญชาตญาณ

“อย่าขยับ!” เฉินฝานตะโกนห้ามฉินเย่ว์เจียว

พุ่มหญ้าด้านหลังเสือมีความเคลื่อนไหว

นอกจากตัวที่พวกเขาเห็นตอนนี้แล้ว ยังมีเสืออย่างน้อยสองตัวอยู่ข้างหน้าพวกเขา

“ไม่ต้องกลัวและไม่ต้องขยับ” เฉินฝานพูดปลอบใจฉินเย่ว์เจียวพร้อมสังเกตท่าทางของเสืออย่างตั้งใจ

เขากับฉินเย่ว์เจียวขึ้นมาบนภูเขาหัวเสือครั้งแรกทั้งคู่ ไม่คุ้นเคยกับสถานการณ์แถวนี้ จากที่เห็นเวลานี้ พวกเขาน่าจะบุกรุกพื้นที่ล่าอาหารของเสือ

โชคดีที่โชคของพวกเขาไม่ได้แย่ถึงที่สุด เพระท้องของเสือตัวนี้มีความป่องเล็กน้อย ไม่ใช่เสือหิวอาหารแต่น่าจะเป็นเสือที่เพิ่งกินอาหารเข้าไป

ที่มันแสดงตัวตอนนี้เพียงแค่แสดงสัญชาตญาณของสัตว์ในการป้องกันเท่านั้น

“เย่ว์เจียว ทำตามที่ข้าพูดนะ” เฉินฝานพยายามกดเสียงให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อป้องกันไม่ให้มันเคือง “เจ้าวางมือลง อย่าสบตากับมันแล้วถอยมาหาข้าช้า ๆ”

เมื่อรอดพ้นจากปากเสือแล้ว เฉินฝานจึงพาฉินเย่ว์เจียวออกจากภูเขาหัวเสือด้วยความรวดเร็วทันที

แม้ว่าบนภูเขาแห่งนี้มีสัตว์จำนวนมาก อาหารก็มีมาก แต่ชีวิตก็สำคัญกว่า

“ไม่มีสัตว์ล่าก็แลกข้าวสารในเมืองไม่ได้ ถึงเวลานั้นท่านก็จะ……”

ฉินเย่ว์เจียวพูดถึงตรงนี้แล้วชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็กล่าวต่อ “หรือไม่ ข้าน้อยไปที่ภูเขาหัวเสือคนเดียว ข้าน้อยไปคนเดียวฝีเท้าเบากว่า เสือพวกนั้นไม่น่าสังเกตเห็นข้าน้อย”

“กลับมา!” เฉินฝานดึงฉินเย่ว์เจียว “ข้าไม่ต้องการให้ภรรยาตายไปคนหนึ่งโดยที่ข้าเพิ่งจะทะลุมิติมาที่นี่หรอกนะ”

“ทะลุมิติ? ภรรยาตาย? ภรรยาคือใคร?” ฉินเย่ว์เจียวมองเฉินฝานด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม

“ภรรยาก็คือเจ้าไงล่ะ ทะลุมิติก็คือ……หน่า! อธิบายไปเจ้าก็ไม่เข้าใจ เรื่องอาหารให้ข้าเป็นคนจัดการนะ”

เฉินฝานกับฉินเย่ว์โหรเดินไปยังภูเขาลูกอื่นพักหนึ่ง ยังไม่พูดถึงสัตว์ แม้แต่พรรณพืชก็แทบจะไม่มี

สัตว์ถูกฆ่าไปเกือบหมด ต้นไม้ขนาดใหญ่หน่อยก็ถูกคนตัดทำฟืนไปขายตามหมู่บ้านหรือในเมือง

เมื่อวานกินข้าวน้อย เช้านี้ก็เดินทางเป็นเวลานาน เวลานี้ไม่เพียงแค่รู้สึกหิวแต่ยังกระหายน้ำด้วย

“ดื่มน้ำสักหน่อยเถอะ!” ฉินเย่ว์เจียวยื่นน้ำให้เฉินฝาน

“ขอบใจนะ!” เฉินฝานรับน้ำแล้วค้างไว้กลางอากาศ

“ข้าน้อยยังไม่เคยดื่มน้ำนี้เจ้าค่ะ” ฉินเย่ว์เจียวนึกว่าเฉินฝานรังเกียจน้ำลายของนาง

เฉินฝานไม่ตอบฉินเย่ว์เจียวแต่กล่าวขึ้นอย่างตื่นเต้นดีใจ “เห้ย! น้ำ มีน้ำก็ต้องมีปลาสิ พวกเราจับปลากินได้ ทำไมข้าถึงคิดไม่ได้นะ! เย่ว์เจียว ที่ใดมีแม่น้ำหรือธารน้ำเล็ก ๆ หรือไม่!”

เจ้าของร่างเดิมไม่เคยทำงานใช้แรงงานตั้งแต่เด็กจนโต ที่ไหนมีธารน้ำหรือแม่น้ำหรือไม่เขาไม่เคยรู้

“มีแอ่งน้ำอยู่ใกล้ ๆ เจ้าค่ะ เพียงแต่ว่า ข้างในนั้นหนาวเหน็บ แอ่งน้ำคงก่อตัวเป็นน้ำแข็งแล้วเจ้าค่ะ” ฉินเย่ว์เจียวกล่าว

“เป็นน้ำแข็ง เป็นน้ำแข็งสิดี!” ไม่ใช่น้ำแข็ง จับปลายากกว่าอีก

“อยู่ตรงไหน พาข้าไปเร็วเข้า!”

“อยู่……” ฉินเย่ว์เจียวชะงัก “ท่าน กินปลาด้วย?”

ยังไม่พูดถึงเจ้าของร่างเดิมไม่กินปลา แม้แต่ฉินเย่ว์เจียวพวกนางก็ไม่ชอบกิน ทั้งราชสำนักต้าชิ่ง นอกจากพ่อค้าร่ำรวยกับผู้มีอำนาจเหล่านั้นชอบกิน ชาวบ้านทั่วไปไม่มีใครชอบกิน

ยุคสมัยนี้ ขาดแคลนน้ำมันและเกลือ ไม่สามารถทอดด้วยน้ำมันได้ ส่วนใหญ่จึงใช้น้ำเปล่าต้มแต่รสชาติทั้งขมและคาวและยังมีกระดูกเยอะ ทุกคนจึงยอมกินผักป่ามากกว่ากินปลา

“กินสิ ปลาอร่อยขนาดนั้น ทำไมถึงจะไม่กิน!”

มีวิธีทำปลาสิบกว่าอย่างในความคิดของเขา

“…….” ฉินเย่ว์เจียวสงสัยอย่างรุนแรงว่าสองวันนี้หูของนางจะต้องมีปัญหาแน่ ไม่เช่นนั้น เหตุใดนางถึงได้ยินคำพูดแปลกประหลาดจากปากของเฉินฝานบ่อยขนาดนี้

เฉินฝานเดินตามฉินเย่ว์เจียวมาถึงแอ่งน้ำ

คนที่นี่ไม่ชอบกินปลา ในน้ำมีปลาอยู่ไม่น้อย เฉินฝานทุบผิวน้ำแข็งจนเป็นช่องโหว่ เขาไม่ใช้อุปกรณ์ใด ๆ เพียงยื่นมือเข้าไปก็จับได้ทันที

เฉินฝานจับขึ้นมาสิบกว่าตัว หากไม่ใช่เพราะถือไม่ไหว เขายังอยากจับมากกว่านี้

เมื่อจับปลาเสร็จแล้ว เฉินฝานหาหญ้าชิงเฮาที่อยู่ใกล้ ๆ มาหนึ่งกำมือ เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่น้ำมันกับเกลือมีน้อยและยังไม่มีขิง หญ้าชิงเฮาก็คือวัตถุดิบปรุงปลาที่ดีที่สุด

ตอนที่หาหญ้าชิงเฮา เฉินฝานยังพบมันสำปะหลังป่า หรือมันสำปะหลังแกนเหลืองที่สามารถกินได้ ไม่มีพิษ

ที่แห่งนี้ส่วนใหญ่เป็นสำปะหลังแกนขาว มีพิษ คนที่นี่ถึงไม่กินมัน

มันสำปะหลังที่กินได้มีแป้งปริมาณมาก และยังมีโปรตีน กรดอะมิโน วิตามิน และน้ำตาล ถือเป็นวัตถุดิบใช้ทำอาหารหลักได้

……

เฉินฝานกับฉินเย่ว์เจียวอยู่ห่างจากเรือนค่อนข้างไกล แต่ฉินเย่ว์โหรวก็เดินกะเผลกพุ่งเข้ามา

เขาพุ่งมาทางเฉินฝาน แต่เมื่อห่างจากเฉินฝานเพียงสองสามเมตร นางกลับเปลี่ยนทิศไปหาฉินเย่ว์เจียวแทน

นางอยากมุดเข้าไปในอ้อมกอดของเฉินฝานจริง ๆ แต่นางไม่กล้าและทำไม่ได้

การเปลี่ยนแปลงและความอ่อนโยนของเฉินฝานคือสิ่งที่นางวาดฝันเสมอมา แต่นางกลัวว่าจะสูญเปล่าในตอนท้าย

“พี่สาม พวกท่านไปที่ไหนมา ไปที่ไหนมา”

ฉินเย่ว์โหรวกอดฉินเย่ว์เจียวแน่น น้ำตาไหลลงมาพราก ๆ นางทั้งโกรธและโมโห

ฟ้ารู้ดีว่าตอนที่นางตื่นขึ้นมาแล้วไม่พบเฉินฝานกับฉินเย่ว์เจียว นางรู้สึกเหมือนฟ้าถล่มลงมาแล้ว เฉินฝานไม่มีวันตื่นก่อนนาง นางกลัวมาก กลัวว่าฉินเย่ว์เจียวจะลงมือฆ่าเขาตั้งแต่เมื่อคืนและเวลานี้กำลังแอบนำศพไปฝัง

เฉินฝานย่อมไม่รู้ว่าฉินเย่ว์โหรวคิดอย่างไรในเวลานี้ เขานึกว่าฉินเย่ว์โหรวร้องไห้เพียงเพราะกลัวว่าเขาจะรังแกฉินเย่ว์เจียว

“เย่ว์โหรวอย่าร้องไห้ พี่สามเจ้ายังสบายดี นอกจากจับมือนางตอนไปภูเขาหัวเสือแล้ว ข้าไม่ได้ทำอะไรนางเลยนะ”

มุมมองการมองปัญหาของผู้หญิงไม่เคยเหมือนผู้ชาย ฉินเย่ว์โหรวได้ยินแค่เฉินฝานจับมือฉินเย่ว์เจียว

“พี่สาม! นายท่านจับมือพี่ตลอดทางหรือเจ้าคะ” ฉินเย่ว์เจียวถามอย่างประหลาดใจ

นิสัยดุร้าย แสดงตนเป็นผู้หญิงแกร่งต่อหน้าทุกคนเสมอมาอย่างฉินเย่ว์เจียวพลันหน้าแดงราวกับดอกกุหลาบ นางกล่าวพึมพำ

“ที่ภูเขาหัวเสืออันตรายมาก ข้าไม่วางใจก็เลยจับมือนางไว้ ใช่หรือไม่เย่ว์เจียว”

“ใคร ใครให้ท่านปกป้องข้ากัน” ฉินเย่ว์เจียวเอามือปิดหน้าแล้ววิ่งเข้าเรือนไปราวกับหนีตาย

เฉินฝานหัวเราะ “ดูสิ พี่สามเจ้าหน้าบางเหลือเกิน”

เมื่อกลับมาถึงเรือน เฉินฝานนำกระต่ายกับไก่ป่าไปขัง สองสิ่งนี้กินไม่ได้ เพราะจะเอาไปขายที่หมู่บ้านเพื่อเอาเงิน

เมื่อขังกระต่ายกับไก่ป่าเสร็จ เฉินฝานก็ยุ่งขึ้นมาทันที

เขาสั่งฉินเย่ว์โหรวให้ไปหยิบเขียง มีดในห้องครัว จากนั้นให้ยกอ่างน้ำมาอีกหนึ่งใบ

เมื่อรับน้ำจากฉินเย่ว์โหรวมาแล้ว เฉินฝานก็นั่งลงไปและจัดการทันที

เขาเปิดท้องปลา หยิบถุงน้ำดีออก ขูดเกล็ดปลา ล้างทำความสะอาด จากนั้นยัดหญ้าชิงเฮาเข้าไปที่ท้องปลาแล้วเผาฟืนที่เพิ่งเอากลับมา เพียงรวดเดียวก็ได้ปลาเผาแล้ว

สองพี่น้องตระกูลฉินมองอยู่ข้าง ๆ อ้าปากตาค้าง

คิดไม่ถึงว่าเฉินฝานจะฆ่าปลาเป็นและยังดูช่ำชองยิ่งนัก

นี่คือ……เฉินฝานคนที่ไม่เคยใช้งานมือเท้า ไม่เอาการเอางานคนนั้นจริง ๆ หรือ!
ความคิดเห็น (3)
goodnovel comment avatar
sabading.dingda
ขอเตือนเรื่องเติมเงิน คนที่ยังไม่เติมเงินน่ะดีแล้วนะ มันอัพเดทวันละตอน นี่เลิกอ่านละ คุณเก็บเหรียญฟรีเอาดีกว่า เติมเงินไปก็ไม่ได้อ่าน ตัองรอมันอัพวันละตอน จะรำคาญหงุดหงิดเปล่าๆ เราเลิกอ่านละ รอเบื่อ จนลืมเรื่องราวเดิมละ ไม่ต่อเนื่อง ถ้าไม่พร้อมก็ไม่ควรเอามาขายนะ เสร็จซัก 80%ขึ้นไปค่อยเอามาข่ยดีกว่า
goodnovel comment avatar
tom Promphibal
ดีจังได้อ่านนิยายดีๆชื่นชอบมากครับ
goodnovel comment avatar
Chainiwat
สนุกสนุกสนุก
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 13

    “พี่สาม สิ่งที่นายท่านยัดเข้าไปในท้องปลาคือหญ้าเซียนนู๋หรือไม่ หญ้านั่นกินได้ด้วยหรือ!”ฉินเย่ว์เจียวส่ายหัวว่าไม่รู้เหมือนกัน อย่างไรเสีย นางไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าหญ้าเซียนนู๋กินได้“พี่สาม!” ฉินเย่ว์โหรวชี้ไปที่กองมันสำปะหลังในลานสวน “นั่นคืออะไรเจ้าคะ!”“ข้าไม่รู้” ฉินเย่ว์เจียวส่ายหัว“เหมือนท่อนไม้เลย ใช้เป็นฟืนรึ!”“ไม่ใช่!” ฉินเย่ว์เจียวส่ายหัวอีก “นายท่านบอกว่าเป็นของกิน”“ของกิน! ท่อนไม้กินได้ด้วยหรือเจ้าคะ!”“กินได้สิ! มันไม่ได้เรียกว่าท่อนไม้ มันชื่อว่ามันสำปะหลัง” เฉินฝานยืนขึ้นแล้วไปหยิบมันสำปะหลังสามอันยาวยี่สิบกว่าเซนติเมตรมา “มา พวกเจ้ามานี่แล้วเอามันสำปะหลังสามอันนี้ไปขูดเปลือกออกซะ จากนั้นนำไปต้มนะ”มันสำปะหลังในหม้อต้มสุกอย่างรวดเร็ว ปลาเผาบนถ่านก็ส่งกลิ่นหอมอบอวล เฉินฝานโรสเกลือลงไปเล็กน้อย กลิ่นหอมของปลาเผาลอยออกอบอวลไปทั่วเรือนในทันใด“หอมจัง!”แม้ว่าฉินเย่ว์โหรวออกเรือนเป็นภรรยาคนแล้ว แต่นางยังเด็กมาก นางจ้องปลาเผาที่อยู่บนฝืนไม่ขยับพลางกลืนน้ำลายอย่างควบคุมไม่ได้ฉินเย่ว์เจียวโตกว่าเล็กน้อย จึงไม่ได้แสดงออกชัดเจนเท่าฉินเย่ว์โหรว แต่นางแอบกลืนน้ำลายไปหล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-08
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 14

    กินอาหารง่าย ๆ เสร็จ เฉินฝานกับฉินเย่ว์เจียวก็เตรียมตัวจะไปขายไก่ป่ากับกระต่ายในเมืองฉินเย่ว์โหรวร่างกายอ่อนแอจึงอยู่เฝ้าเรือนแทนหมู่บ้านซานเหออยู่ในเมืองที่มีชื่อว่าเมืองหลีผิง จากหมู่บ้านซานเหอไปยังตลาดในเมืองเพียงสิบกว่าลี้ ระยะห่างไม่ไกลมากนักคนชนบทเป็นคนตื่นเช้า เมื่อเฉินฝานกับฉินเย่ว์เจียวเดินมาถึง ในตลาดก็เต็มไปด้วยเสียงเรียกขายของต่าง ๆ ดังไม่ขาดสายสำหรับฉินเย่ว์เจียวแล้ว การขายไก่ป่ากับกระต่ายเป็นสิ่งที่นางคุ้นเป็นอย่างดี“น้องเย่ว์เจียวมาแล้วหรือ วันนี้ล่าได้สัตว์อะไรมาล่ะ”สตรีวัยกลางคนขายไช้กัวอยู่ข้าง ๆ ถามขึ้นอย่างดีใจเมื่อเห็นฉินเย่ว์เจียวแต่เมื่อสตรีวัยกลางคนเห็นเฉินฝานที่ยืนอยู่ข้างหลังฉินเย่ว์เจียวแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าก็หายไปทันใด ตามมาด้วยการมองเฉินฝานด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจเมื่อก่อนเฉินฝานตามมาเอาเงินทั้งนั้น เมื่อได้เงินแล้วก็เอาไปเล่นพนันทันที คนที่นี่จึงไม่ต้อนรับเขามากนักฉินเย่ว์เจียวยกไก่ป่าขึ้นมา “ท่านป้า วันนี้ข้าจับไก่ป่าได้เจ้าค่ะ!”สตรีวัยกลางคนก้มศีรษะลงและมอง “โอ้โห ไก่ป่าตัวนี้ช่างอ้วนท้วนเหลือเกิน วันนี้น้องเย่ว์เจียวจะรวยแล้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-08
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 15

    ฉินเย่ว์โหรวไม่ได้สติมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อกลิ่นผู้ชายของเฉินฝานเข้าใกล้มาก ๆ ยิ่งรู้สึกอยากแนบชิดสองแขนโอบล้อมคอเฉินฝานและกดลงมาปกติเขินอายไร้เดียงสาเหมือนเจ้ากระต่ายน้อย แต่เวลานี้กลับเร่าร้อนดั่งเปลวไฟ“นายท่าน นายท่าน……”เสียงออดอ้อนเว้าวอนดังออกมาจากริมฝีปากแดงอมชมพูของนางเฉินฝานอดกลั้นอย่างทรมาน เมื่อฉินเย่ว์โหรวใจร้อนถึงเพียงนี้ เช่นนั้นเขาก็จะไม่เป็นสุภาพบุรุษอีกต่อไปเมื่อทุกอย่างกำลังจะสุกงอม……ทันใดนั้น……สีแดงพราวเป็นแผ่นขยายวงกว้างต่อหน้าเฉินฝานช้า ๆมาพร้อมด้วยเสียงร้องปวดจากฉินเย่ว์โหรว เสียงหายใจถี่หายไปและปรับเปลี่ยนเป็นเสียงสะอื้นน่าสงสารในดวงตาเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา นางมองเฉินฝานด้วยแววตาตัดพ้อ: “นายท่าน ท่าน……อ่อนโยนหน่อยไม่ได้หรือเจ้าคะ!”เวลานี้ฉินเย่ว์โหรวรู้สึกเพียงแต่มวนท้อง โดยเฉพาะท้องน้อยที่เจ็บจี๊ดเหมือนโดนมีดบาดเฉินฝานเข้าใจคำตำหนิทันทีราวกับแววตาของฉินเย่ว์โหรวพูดได้แต่ตอนนี้เขารู้สึกจนใจและน้อยใจมากกว่านี่ไม่ใช่ความเจ็บที่เกิดอาการฉีกขาด!เขาอยากทำอะไรสักอย่าง แต่เขายังไม่ทันได้เริ่มเลย!เพราะประจำเดือนของฉินเย่ว์โหรวมาพอดีต่างหาก!นาง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-08
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 16

    ฉินเย่ว์เจียวดึงคันธนูแล้วเดินไปหยุดอยู่ด้านหน้าฉินเย่ว์โหรวใบหน้าของหลี่ซานเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “พานางออกไป ข้าไม่เชื่อว่านางจะกล้าลงมือ!”ชายทั้งสองยังคงเดินหน้าต่อไป ฉินเย่ว์เจียวถูกบีบให้ล่าถอยไปทีละก้าว สายตาเห็นว่าจะโจมตีฉินเย่ว์โหรว“ใครก็ตามที่กล้าพาน้องสี่ของข้าไป ข้าจะยิงพวกเจ้าให้ตายด้วยลูกธนูดอกเดียว!” ฉินเย่ว์เจียวตะโกนลั่น พร้อมดึงสายธนูในมือให้โค้งได้มากที่สุด“พี่สาม อย่าเลย!”ฉินเย่ว์โหรวกอดฉินเย่ว์เจียว “ให้เรื่องจบเท่านี้เถิด ข้าจะไปกับพวกเขาเอง ท่านไม่จำเป็นต้องเสี่ยงชีวิตอีก”ฉินเย่ว์โหรวหลับตาอย่างยอมแพ้ ยังคิดด้วยซ้ำว่าหลีกเลี่ยงจูต้าอันก็พอแล้วแต่ทำไมนางถึงลืมเรื่องที่นางถูกขายให้กับหอนางโลมอี๋ชุนย่วนไปอีกแล้ว“เจ้าพูดเหลวไหลอะไรน่ะ! มาเลย!” ดวงตาของฉินเย่ว์เจียวเป็นสีแดงเข้ม นางกัดฟันและตะโกนเสียงดัง “ถ้าอย่างนั้นเราก็มาตายด้วยกัน!”“จะตายอะไร จะรอดอะไรน่ะ!” เฉินฝานคว้าด้ามธนูจากมือของฉินเย่ว์เจียว “ข้าบอกเจ้าแล้วไม่ใช่หรือ เจ้าเป็นเด็กผู้หญิง อย่าเอาแต่ต่อสู้ฆ่าฟันทั้งวัน เจ้าไม่ฟังคำของข้าเลยหรือไร”“เฉินฝาน ท่านปล่อยข้า!”ความจริงที่ว่าฉินเย่ว์

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-08
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 17

    “จริงสิ ข้าเตือนไว้เสียหน่อย เมื่อครู่ที่ตีคือใบหน้า แต่ครั้งนี้จะไม่ใช่ และมันเป็น…”สายตาของเฉินฝานจับจ้องไปที่ดวงตาของหลี่ซานหลี่ซานปกป้องดวงตาของตนตามสัญชาตญาณ และพูดขึ้นอย่างร้อนตัว “เจ้าหนู เจ้ากำลังขู่ใครอยู่?"เฉินฝานพูดไม่ยี่หระ “ถ้าเจ้าลอง...ก็จะได้รู้เอง”ก่อนจะทะลุมิติมา เฉินฝานเพิ่งปลดประจำการจากทีมปฏิบัติการพิเศษในประเทศหนึ่งหากไม่ใช่เพราะร่างกายนี้ขาดการออกกำลังกาย ท่อนไม้ที่เพิ่งพุ่งเข้าไปที่ใบหน้าของหลี่ซานจะไม่เพียงแต่ทำให้หลี่ซานเจ็บเท่านั้น ครั้นจะเห็นเลือดออกมาเสียด้วยซ้ำหลี่ซานอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย เฉินฝานที่อยู่ตรงหน้า เห็นได้ชัดว่าเป็นคนธรรมดาที่ยากจนคำพูดและดวงตาของเขาก็ประจักษ์แจ้งได้ว่าดูไม่จริงจัง กระนั้นไม่รู้ว่าทำไมยังทำให้เขาหวาดกลัวเพื่อนชั่วช้าของจูต้าอัน ในเวลานี้ได้ปลุกจูต้าอันให้ฟื้นขึ้นมาแล้วเขาถูกเฉินฝานทุบตีจนหยุดหายใจไปชั่วคราว แม้เฉินฝานจะเคลื่อนไหวรุนแรง ตีจนทำให้จูต้าอันเจ็บเกือบตายแต่เป็นการลงมืออย่างพอดี เพื่อป้องกันไม่ให้จูต้าอันตายจริงและก่อให้เกิดคดีความเกี่ยวกับชีวิตคนเมื่อจูต้าอันตื่นขึ้นมา ดวงตาของเขาก็เปลี่ยนไปอย่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-08
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 18

    หลี่ซานมองลูกธนูที่พุ่งตรงเข้าไปในดวงตาของนักเลง บนหน้าผากมีเหงื่อเย็นเป็นชั้นบาง ๆ โชคดีที่เขาไม่ใช่คนที่เฉินฝานยิง ไม่เช่นนั้นดวงตาของเขา...เฉินฝานหยิบลูกธนูอีกดอกออกมาจากกระบอกใส่ธนูของฉินเย่ว์เจียว มองพวกนักเลงอย่างเย็นชาเขายังไม่ทันได้ส่งเสียงอะไรออกไป พวกนักเลงก็ก้าวถอยหลังไปทีละคน“เจ้าพวกขี้ขลาด ถอยทำไม ไปสิ!”“ข้าบอกให้ไป!”ไม่ว่าหลี่ซานจะตะโกนอย่างไร ก็ไม่มีนักเลงคนใดกล้าโจมตี ซ้ำยังถอยห่างออกไปเรื่อย ๆไม่มีทาง ใครเล่าจะไม่กังวลเรื่องดวงตาของตน“เฉินฝาน เจ้าคิดว่าเจ้าเก่งกาจมากนักหรือ? เจ้าเก่งกาจมากกว่ากฎหมายของต้าชิ่งหรือ? ข้าจะฟ้องทางการ ฟ้องทางการ!”ท้ายที่สุดแล้ว หลี่ซานคือนายน้อยแห่งหอนางโลมอี๋ชุนย่วน เขาไม่เคยโกรธขนาดนี้มาก่อนที่เขาจะได้พบกับเฉินฝาน เขาตะโกนดังลั่นด้วยความโกรธ“ข้าไม่ได้บอกว่าจะไม่คืนเงิน ฟ้องทางการ เจ้ามีเหตุผลอะไร”“เหตุผลอะไร!”“ฮ่า ๆๆ อย่าหาว่าข้าไม่เตือนเจ้านะ หนึ่งร้อยเท่าของหนึ่งร้อยอีแปะเป็นเงินสิบตำลึง เจ้าต้องชดใช้คืนภายในสามวัน ครบไปแล้วหนึ่งวัน ตอนนี้เจ้ามีเวลาเพียงแค่สองวันเท่านั้น คนจนเช่นเจ้า...จ่ายไหวหรือ”หลี่ซานแสดงท่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-08
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 19

    เฉินฝานปาดเหงื่อที่ยังคงไหลอาบหน้า หันกลับไปดูว่าสองพี่น้องฉินเป็นอย่างไรบ้าง แต่พบว่าสองพี่น้องทะเลาะกันอีกแล้ว“น้องสี่ ถ้าเจ้าอยากไป ข้าจะเป็นคนไปเอง ร่างกายของข้าก็ดีกว่าของเจ้า”“พี่สาม ในสัญญาเป็นชื่อของข้า ก็ต้องเป็นข้าที่ไปสิเจ้าคะ”“ไม่ได้ ร่างกายของเจ้า...”เฉินฝานส่ายหัวจนใจ เด็กหญิงสองคนนี้แสร้งทำเป็นว่าเขาไม่มีตัวตนอีกต่อไป“หยุดเถียงได้แล้วน่า! พวกเจ้าไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ไปทั้งนั้น ข้าจะหาเงินเอง ข้าจะแก้ปัญหาเอง”ฉินเย่ว์เจียวตอบคำพูดของเฉินฝานด้วยความโกรธ “ท่านรู้แน่ชัดแล้วใช่หรือไม่ว่ามันเป็นเงินสิบตำลึง ไม่ใช่หนึ่งร้อยอีแปะ”“ข้าไม่ได้ตาบอดหูหนวก ข้ารู้ว่ามันเป็นเงินสิบตำลึง”“ดีเจ้าค่ะ เช่นนั้นก็บอกข้าหน่อยสิ ภายในสองวันท่านจะหาเงินสิบตำลึงได้ที่ใด”“ข้าขอคิดดูก่อน ต้องมีทางแก้ไขมากกว่าปัญหาอยู่แล้ว”“มีทางแก้ไขมากกว่าปัญหา? ฮ่า!” ความโกรธบนใบหน้าของฉินเย่ว์เจียวค่อย ๆ ลดลง และในที่สุดก็กลายเป็นไร้ความรู้สึก ไร้ความรู้สึกหลังจากโกรธและผิดหวังอย่างมากนางหยิบธนูและลูกธนูขึ้นมาก่อนจะดินออกไปฉินเย่ว์โหรวคว้าแขนเสื้อของฉินเย่ว์เจียวไว้ทันที “พี่สาม ท่านจะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-08
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 20

    นางไม่รู้จริง ๆ ว่าต้องทำอย่างไรหรือนางจะต้องดูน้องสาวของตนจากไปอีกครั้งหรือไม่ตั้งแต่ครั้งแรกที่นางพบกับฉินเย่ว์เจียว ไม่ว่าจะพบเจออะไรก็ตาม ฉินเย่ว์เจียวก็เป็นเหมือนพริกเม็ดเล็ก ทั้งดุร้ายและหยิ่งยโส กระทั่งมีหนามบนร่างกายตอนนี้เป็นครั้งแรกที่เฉินฝานได้เห็นท่าทางไร้ชีวิตชีวาเช่นนี้รู้สึกสงสารและรักใคร่ในใจ“เด็กโง่งม!” เฉินฝานยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของฉินเย่ว์เจียว “สบายใจได้ ได้ไหม พวกเจ้ามีข้านะ”“ข-ข้าไม่ได้โง่งม!”ฉินเย่ว์เจียวหันมาอย่างรวดเร็วแม้ว่านางจะแต่งงานกับเฉินฝานมานานกว่าหนึ่งปีแล้ว แต่ในอดีต เฉินฝานมักจะทุบตีและด่าทอนาง ให้นางออกไปทำงานหาเงินไม่ได้หยุดพักนางไม่เคยรู้สึกถึงความรักและความเสน่หาจากชายผู้นี้เลย เมื่อมือของเฉินฝานสัมผัสใบหน้าของนาง ก็พบว่าเขาอบอุ่นมากและหัวใจก็เต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้ใบหน้ารู้สึกร้อนยิ่งขึ้น ใบหน้าที่เมื่อครู่เพิ่งถูกเฉินฝานสัมผัสกลายเป็นสีแดงก่ำสะท้อนน้ำตาบนใบหน้าแพรวพราว ราวกับดอกกุหลาบที่กำลังเบ่งบาน ซึ่งดูสดใสและทำให้ผู้คนหวั่นไหวเฉินฝานมองเห็นมันแล้วก็สูญเสียสติไปคิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าฉินเย่ว์เจียวซึ่งปกติแล้วจะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-08

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 846

    เมื่อมีคนเปิดประเด็นแล้วคนอื่นก็พากันทำตาม คนกลุ่มใหญ่จำนวนมหาศาลคุกเข่าต่อหน้าเฉินฝานเฉินฝานมิได้กล่าวอันใด เมี่ยวอวี่ที่อยู่ด้านข้างชิงพูดก่อน“เหอะ!” เมี่ยวอวี่เยาะเย้ยออกมาทันที กล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ช่างเป็นชายที่ใจดำอำมหิตเสียจริง คิดว่าตนเองมีผู้มากฝีมือที่เก่งกาจอยู่ข้างกาย ก็สามารถมิสนใจชีวิตของผู้คนรอบตัว แม้กระทั่งเด็กและคนชราก็ยังมิยอมช่วย”เมี่ยวอวี่จงใจกล่าวเช่นนี้จงใจที่พัดความโมโหของฝูงชนให้ลุกฮือดังคาด...“เขาใจดำอำมหิตเพียงนั้น แม้กระทั่งเด็กน้อยคนแก่ก็ยังมิยอมให้อาหารกินแม้แต่น้อย เช่นนั้นเรายังต้องกลัวสิ่งใดอีก?”เมื่อมีคนเริ่มก็มีคนตาม“ถูกต้อง อย่างไรเสียก็ถูกขังจนตายอยู่ที่นี้อยู่ดี ก่อนที่จะจากโลกนี้ไป ทุกคนต้องได้กินให้อิ่มท้อง!”“พวกเรามิต้องมาอ้อนวอนอยู่ตรงนี้และ ไปสืบเสาะ ไปค้นหา กระท่อมหิมะอาจจะใหญ่ไปเสียหน่อย แต่พวกเรามีจำนวนคนเยอะจะหาที่ซ่อนของเสบียงอาหารมิได้เชียวหรือ?”กลุ่มคนจำนวนมหาศาลในกระท่อมแต่เดิม รีบออกไปอย่างรวดเร็วราวกับกระแสน้ำลงของมหาสมุทร“เจี้ยนฮวง!” เฉินฝานกล่าวเกรงว่าเซียนเจี้ยนหวงจะเข้าใจผิด เฉินฝานจึงพูดเสริมอีกห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 845

    เซียนเจี้ยนหวงมิลงมือทำร้ายสามัญชน ชายรอยบาดแผลคิดว่าชื่อเสียงของเซียนเจี้ยนหวงเป็นสิ่งจอมปลอม และเขาคิดว่าตนเองมีจำนวนมากมาย ต่อให้เซียนเจี้ยนหวงจะเก่งกาจเพียงใดก็มิสามารถลุยเดี่ยวกับคนหนึ่งร้อยคนได้และเฉินฝานก็ดูจะเป็นคนสุภาพเรียบร้อย ดังนั้นชายรอยบาดแผลมิได้รู้สึกเกรงกลัวอันใด ท่าทียโสโอหังยิ่งเขาต้องการเสบียงอาหารในกระท่อมหิมะทั้งหมด และประสงค์ที่จะคุมชะตาคนหลายคนไว้ในกำมือ ในขณะเดียวกันก็สามารถช่วยเมี่ยวอวี่ให้หลุดพ้นได้ด้วยอำนาจ สาวงาม เสบียงอาหารเขาต้องการทั้งหมดเฉินฝานเงยหน้าขึ้น เหลือบมองชายรอยบาดแผลอย่างเรียบนิ่ง “ดูเจ้าพูดเข้าสิ เจ้าเก่งกาจมากสินะ”“เยี่ยนหลิ่งผู้ยิ่งใหญ่!” ชายรอยบาดแผลวางท่าทีใหญ่โต“ว้าว!” เฉินฝานยกนิ้วโป้ง “ชื่อนี้ช่างน่าเกรงขามเสียจริง!”สุดยอด!เซียนเจี้ยนหวงต้องเก็บอาการอยู่ด้านข้างนี่คงจะเป็นความสนุกเพียงอย่างเดียวตอนที่ถูกกักขังอยู่ที่แห่งนี้ดูคนโง่ ที่จริงแล้วก็เป็นเรื่องที่น่าสนุก“เพียงแต่...” เฉินฝานเปลี่ยนเรื่องทันที “มิทราบว่าชื่อที่น่าเกรงขามเช่นนี้ จะชำนาญในการต่อสู้หรือไม่?”ระหว่างที่พูด เฉินฝานหันไปด้านข้างเล็กน้อย “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 844

    “ตุ้บ ๆ ๆ ๆ!”เสียงทุบประตูหน้าต่างด้านนอกดังขึ้นเรื่อย ๆ เซียนเจี้ยนหวงฝึกวรยุทธ์จนชำนาญแล้ว สถานการณ์ฝั่งเขานั้นค่อนข้างไปในทิศทางที่ดีฝั่งฉินเย่ว์เจียวและเย่ว์หนูนี้ค่อนข้างลำบาก“เย่ว์หนู เจ้ากันไว้ก่อน ข้าจะไปย้ายเตียงมากันไว้!”“มิจำเป็นหรอก!” เฉินฝานโบกมือเล็กน้อย เขาให้ฉินเย่ว์เจียวและเย่ว์หนูเปิดประตูออก“เปิดประตูงั้นหรือ?” ฉินเย่ว์เจียวส่ายหน้าทันที “ไม่ได้เจ้าค่ะ นายท่าน”คนด้านนอกทุกคนล้วนโกรธเฉินฝานจนกัดฟันกรอด ตะโกนอย่างดุเดือดเพื่อให้ต้องการพวกเขาผ่านเข้าไป เฉินฝานเสี่ยงอันตรายเกินไปแล้ว“พวกเจ้าสามารถกันไว้ได้หนึ่งชั่วยาม จะสามารถกันได้ถึงสองชั่วยามงั้นหรือ?”เมื่อคนตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงตาย มิว่าสิ่งใดก็สามารถทำได้ความเลวทรามของมนุษย์ เป็นสิ่งที่น่าหวาดกลัวที่สุดในโลกใบนี้“นายท่าน ขอเพียงข้ายังอยู่ ข้าก็จะยังคงกันต่อไปเรื่อย ๆ จะมิยอมให้คนด้านนอกเหล่านั้นทำร้ายท่านแม้แต่ปลายเล็บ”ฉินเย่ว์เจียวกำหมัดไว้แน่นขนัดเฉินฝานมองท่าทีที่เศร้าสลดทว่าเข้มแข็งของฉินเย่ว์เจียว รู้สึกซาบซึ้งและหงุดหงิด“นายท่าน บ่าวก็เช่นกันเจ้าค่ะ”เย่ว์หนูเพิ่มแรงในการกันประต

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 843

    ฉินเย่ว์เจียวง้างมือขึ้นทันที เดิมทีต้องการจะตบหน้าเมี่ยวอวี่เป็นครั้งที่สองพลันยั้งมือกะทันหันกลั้นหายใจ รอฟังคำตอบของเมี่ยวอวี่ด้วยความกังวลเฉินฝานก็อดมิได้ที่จะเงี่ยหูฟังจะรู้ร่องรอยของเย่ว์ฉินแล้ว รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย“หยกห้อยเอวชิ้นนี้...”“ตุ้บ!”อยู่ ๆ ก็มีก้อนหิมะลอยก้อนหนึ่งลอยทะลุหน้าต่างเข้ามา“โอ๊ย!”เมี่ยวอวี่อยู่ใกล้หน้าต่างอย่างมาก ก้อนหิมะขว้างโดนหัวหน้า ทำให้นางตกใจจึงร้องออกมาทันที“ตุ้บ”ครั้งนี้สิ่งที่ขว้างมาคือก้อนหิน“ระวัง!”เมี่ยวอวี่รู้สึกเพียงว่าร่างกายทรงตัวมิอยู่ ตัวไปชนกับอ้อมอกที่ล่ำสันหัวสมองว่างเปล่าราวกับถูกจี้จุด เมี่ยวอวี่มองเฉินฝานด้วยความมึนงงดวงตากลมโตที่เปล่งประกายแวววับดังดวงดารา สภาพอารมณ์แปรเปลี่ยนอย่างรวดเร็วหาคำตอบมิได้ มิเชื่อ มิเข้าใจ“เจ้า...” เมี่ยวอวี่กลอกตาไปมา “ไยเจ้าจึงช่วยข้า?”หากมิใช่เฉินฝานดึงนางหลบได้ทัน ตอนนี้นางก็คงหัวแตกเลือดไหลนองไปนานแล้วเฉินฝานผลักเมี่ยวอวี่ในอ้อมอกออก เขาที่พลังภายในยังฟื้นฟูมิสมบูรณ์เอนตัวล้มพิงเรือนร่างของฉินเย่ว์เจียว น้ำเสียงเยือกเย็น “อย่าคิดเข้าตัวเอง ข้าทำไปตามสัญชาตญาณเท

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 842

    ถึงแม้ในทุกวันนางมักจะรับคำเยินยอจากบุรุษเพศอยู่แล้ว ทว่าท่าทางที่รักใคร่หวานยิ่งกว่าน้ำผึ้งราวภาพวาดนี้ นางมิเคยพบเห็นมาก่อนเมี่ยวอวี่ที่สงสัยว่าตัวเองมองผิดไป จึงตั้งใจหันกลับไปดูอีกครั้งภาพที่เฉินฝานช่วยปัดไรผมบนหน้าผากของฉินเย่ว์เจียวออก และฉินเย่ว์เจียวยิ้มตอบกลับให้เฉินฝานอย่างหวานหยาดเยิ้ม เมี่ยวอวี่เหลือบไปเห็นพอดีไม่จริงหรอก!เมี่ยวอวี่รีบหันหน้ากลับไปด้วยความรวดเร็ว ตีหน้าอกตนเองเบา ๆสองสามทีคาดมิถึงว่าจะเป็นเรื่องจริงใต้หล้านี้มีสามีภรรยาที่รักใคร่กันเช่นนี้จริงหรือ ? เป็นเรื่องจริงหรือว่าผู้ชายจะอ่อนโยนกับภรรยาตนเองได้เพียงนั้น?เฉินฝานเป็นชายที่เลวทรามต่ำช้ามิใช่หรือ?เย่ว์หนูชะเง้อมองมาจากทางเข้าเห็นว่าเฉินฝานตื่นแล้ว รีบวิ่งกลับไปที่ในห้อง ยกโจ๊กครึ่งชามที่วางไว้ในห้องไปอุ่นที่ห้องครัว หลังจากที่อุ่นจนร้อนแล้วก็วิ่งกลับมา“โจ๊กมาแล้วเจ้าค่ะ”“เอามาให้ข้า!” ฉินเย่ว์เจียวรับโจ๊กในมือเย่ว์หนูมาทันที“ลำบากเจ้าแล้ว” เฉินฝานหันไปพยักหน้ากับเย่ว์หนู“บ่าวมิลำบากเลยเจ้าค่ะ ขอเพียงนายท่านหายดีก็เพียงพอแล้ว” เย่ว์หนูหน้าแดง ส่ายหน้าอย่างแรงกล่าวว่าตนเองมิลำ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 841

    “สัตว์เดรัจฉานเพศผู้ก็ยังเป็นสัตว์เดรัจฉานเพศผู้อยู่วันยันค่ำ คิดจะเอาตัวรอดแต่เพียงผู้เดียว” เมี่ยวอวี่พ่นลมจากจมูกกล่าววาจาเย้ยหยันคำพูดที่หนักแน่นของเฉินฝาน“เสี่ยวฝาน ด้านนอกมีเด็กเล็กจริงๆ หิวโหยมาหนึ่งวันแล้ว หากแบ่งปันอย่างเหมาะสมก็คงจะมิเป็นอะไรหรอกกระมัง”เซียนเจี้ยนหวงก็คิดว่าวิธีการของเฉินฝานมิเหมาะสมเช่นกันเฉินฝานมิได้ตอบกลับคำพูดของเซียนเจี้ยนหวงทันที เขาส่งสัญญาณให้ฉินเย่ว์เจียวไปพยุงเขาให้ลุกขึ้น“เช่นนั้นก็แบ่งมิได้!”เฉินฝานที่เอนตัวพิงอ้อมอกของฉินเย่ว์เจียว ยังคงยืนกรานในคำพูดของตนเองก่อนที่เขาจะหมดสติไปเมื่อวาน เขาได้ยินพวกฉินเย่ว์เจียวพูดกันว่าด้านนอกหิมะถล่มลงมาแล้วโรงเตี๊ยมที่สูงสามชั้นเป็นเรือนไม้ เรือนเซียนผาสุกห้าชั้น ก็พื้นที่กว้างใหญ่เช่นกัน พังทลายลงมาในเวลาเดียวกัน ยุคโบราณที่ไม่มีเครื่องมือขุดเหมือนกับยุคปัจจุบัน มิรู้ว่าอีกนานเพียงใดจะได้ความช่วยเหลือจากคนด้านนอก ผ่านไปอีกนาน ก็คงจะมิผู้ใดเหลือรอดเป็นแน่ตอนนี้หิมะก็ถล่มลงมาอีก การช่วยเหลือก็ทวีความยากลำบากขึ้นไปอีกสถานการณ์ด้านนอกยังมิชัดเจน ซื่อต้าเผิงได้รับบาดเจ็บหรือไม่ ท่าทีในการช่วยเห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 840

    “เย่ว์หนู นายท่านเลือดออกมากมายเพียงนั้น ตอนนี้ร่างกายอ่อนแอ เจ้ารีบไปทำอาหารมาให้กินหน่อยเถอะ”ฉินเย่ว์เจียวออกคำสั่งกับเย่ว์หนู“เจ้าค่ะ ท่านหญิง!”เย่ว์หนูถือระเบิดเดินออกไปด้านนอกด้วย นางต้องการจะหาอาหารจากในห้องครัว หากเหล่านักฆ่าหญิงเหล่านั้นคิดที่จะขัดขวางนาง นางก็จะระเบิดสมองทิ้งทันทีมิรู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นหลังจากที่เย่ว์หนูออกไปหาอาหาร เมี่ยวอวี่ก็กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที นางลุกขึ้นมาจากพื้น“ถอยไป!”ดาบในมือของเจี้ยวฮวงเซียนจ่อไปที่เมี่ยวอวี่ทันที“ข้ามิได้จะออกไปเสียหน่อย!”ภายใต้ผ้าคลุมหน้า ดวงตากลมโตงดงามคู่นั้นกลับมามีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้งทว่า ดูแล้วรู้สึกความแปลกประหลาดที่แฝงอยู่เมี่ยวอวี่นั่งอยู่บนเก้าอี้กล่าวอย่างเนิบนาบ “เมื่อครู่เจ้ามิได้ยินหรือกระไร? เฉินฝานต้องรับประทานอาหาร ข้าคนนี้หนะนะ... ”เมี่ยวอวี่หยุดไปชั่วขณะดวงตาที่งดงาม ตาใสแจ๋วดังสายวารี ใบหน้าสวยงามพริ้มเพราเดินสำรวจไปมองหญิงงามที่งามที่สุดในใต้หล้ามา เซียนเจี้ยนหวงคิดว่าดวงตาคู่นั้นของเมี่ยวอวี่เป็นเลิศล้ำที่สุดในโลกช่างเป็นสตรีที่งดงามเสียจริงน่าเสียดาย...ที่เป็นสาวงามที่มีพ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 839

    เฉินฝานเข้าใจความตื่นตกใจของพวกฉินเย่ว์เจียว ทว่าตอนนี้เขามิมีเรี่ยวแรงที่จะอธิบายแล้ว“หลังจากที่ก้อนน้ำแข็งละลายเป็นน้ำแล้ว ค่อยเปลี่ยนอันใหม่ มิต้องกลัวว่าข้าจะหนาว เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ จนกลัวปากแผลจะมิมีเลือดไหลออกมาแล้ว”กล่าวคำพูดต่อเนื่องมากมายเพียงนั้น เฉินฝานรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างยิ่ง อยากที่ปิดตาหลับไปอย่างมากทว่า...เฉินฝานกัดฟันฝืนทนเขายังหลับมิได้“ต่อให้ข้าหลับไปมิรู้สึกตัวแล้ว ก็ต้องนำน้ำต้มเดือดที่ละลายจากน้ำแข็งจากเย่ว์หนูให้ข้าดื่ม ทว่าทุกครั้งอย่าให้เกินสองช้อน และต้องป้อนทุกครึ่งก้านธูป”การที่เสียเลือดมากเกินไป ก็จะทำร่างกายช็อกได้ง่าย ต้องทดแทนของเหลวให้ทันท่วงทีทว่าก็มิสามารถดื่มน้ำจำนวนมาก เพราะการดื่มน้ำจำนวนมาก ปริมาณเลือดในร่างกายจะลดฮวบอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ร่างกายของกำลังในสภาวะอ่อนแออย่างสุดขีด ปริมาณน้ำจำนวนมากทำให้สมดุลน้ำและอิเล็กโทรไลต์เสียสมดุลได้ง่าย จากนั้นจะทำให้เลือดไหลพุ่งมากกว่าเดิมหลังจากที่มอบหน้าที่ให้สองสาวเรียบร้อยแล้ว เฉินฝานหันหน้าไปมองเซียนเจี้ยนหวง“พี่ชาย ชีวิตของข้าและเมียข้า ฝากเจ้าด้วยนะ...”หากเซียนเจี้ยนหวงมิได้ฝึกพล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 838

    “เจ้า...”เฉินฝานมองไปทางเมี่ยวอวี่ ร่าวกายอิดโรยยิ่งนัก เขาหยุดไปเป็นเวลานาน จึงกล่าวต่อ “มั่นใจหรือว่าข้าจะไม่รอด?”“แล้วเจ้าคิดว่าตนเองจะมีชีวิตรอดหรือกระไร?”เสียงของเมี่ยวอวี่ช่างไพเราะเสียจริง เฉินฝานที่นอนอยู่เตียงปรากฏรอยยิ้มจางๆน้ำเสียงไพเราะเช่นนี้ กลับกล่าวพูดเย็นชาทิ่มแทงเช่นนี้ออกมาได้ช่างเร้าใจ!จะพูดอันใดเขาก็มิยอมตายมิได้“หากข้ามิตาย เจ้า...” เฉินฝานหยุดไปนาน จึงพูดต่อ “บอกข้ามา ตกลงแล้วหยกที่ห้อยเอวเจ้าใช่ของเจ้าหรือไม่?”“รอให้เจ้ามีชีวิตรอดค่อยว่ากัน เมี่ยวอวี่กล่าวด้วยเสียงเรียบนิ่งเฉินฝานปรับลมหายใจเป็นเวลานานอีกครั้ง ชี้ไปที่ลำคอของตนเอง “ขอบคุณมาก”คำพูดนี้เขาพูดกับเซียนเจี้ยนหวงเซียนเจี้ยนหวงเพียรพยายามปิดปากแผลให้เขามาโดยตลอด ลดปริมาณเลือดที่ไหลอกมา มิเช่นนั้นตอนนี้ถึงแม้เขาจะมิตาย อาการก็คงจะสาหัสจนคุมสติมิอยู่แล้ว“มิต้องขอบคุณหรอก!” เซียนเจี้ยนหวงเบ้ปากเล็กน้อย เขาไม่เคยชินกับการที่ผู้อื่นกล่าวขอบคุณเขาจริงๆ“ทว่านี้ ทนได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น ออกไปมิได้ ห้ามเลือดมิได้ ไม่ช้าก็เร็วเจ้าก็ต้องตายงั้นหรือ?” ความหดหู่จางๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเซี

DMCA.com Protection Status