อัจจิมา...คือคนที่โลกใบนี้ไม่เคยใจดีด้วย ในชีวิตท่องจำแค่คำว่า 'งานคือเงิน' และบางครั้งเงิน…ก็ต้องมาก่อน 'ศักดิ์ศรี' พิธา…ศัลยแพทย์ผู้หลงใหลในเซ็กซ์พอๆกับการผ่าตัด สำหรับเขา 'ความสุข' ซื้อได้ด้วยเงิน
View Moreหลายวันมานี้อัจจิมาออกไปสมัครงานเอาไว้หลายแห่ง แต่ก็ยังไม่มีที่ไหนตอบรับ ใครบอกว่าใบปริญญาฯช่วยให้หางานง่าย ได้เงินเดือนสูงเธอขอเถียงขาดใจ ทุกวันนี้อาศัยแค่ประสบการณ์เพียงอย่างเดียวเห็นทีจะไม่พอ ถ้าไร้เส้นสายทะเล่อทะล่าเข้าไปกรอกใบสมัครแบบเธอ ก็แทบจะไม่มีบริษัทไหนมองเห็นความสามารถยังถือว่าโลกไม่ได้ใจร้ายเกินไป ระหว่างรอเรียกสัมภาษณ์อัจจิมาก็ได้งานที่ร้านอาหารของคนรู้จักในตำแหน่งแคชเชียร์ ซึ่งก่อนหน้านี้มีพนักงานเพิ่งจะลาออกไป ในช่วงที่ลูกค้าแน่นร้านเธอเลยต้องช่วยเสิร์ฟด้วย“เหนื่อยหน่อยนะจี๊ด”“ไม่เป็นไรหรอกพี่ แค่นี้เองจี๊ดทำได้”“พี่รู้ว่าจี๊ดทำได้ แต่ยังไงพี่ก็เกรงใจเราอยู่ดี” ทั้งสองคนรู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย มีอะไรก็คอยช่วยเหลือกันตลอด อย่างคราวนี้ พอนุชจรีรู้ว่าอัจจิมาถูกไล่ออกก็ชวนมาทำงานที่ร้านทันที แถมยังจ่ายค่าจ้างล่วงหน้าเพราะรู้ว่าอัจจิมาจำเป็นต้องใช้เงินสองวันก่อนมีคนบุกไปที่บ้านของเธอเหตุเพราะเพ็ญพักตร์เป็นหนี้ไม่ยอมจ่าย ทั้งที่เธอเพิ่งจะใช้หนี้ให้ไปหยก ๆ ประสิทธิ์โมโหให้ภรรยาที่คอยแต่สร้างหนี้สินไม่หยุดไม่หย่อน แต่ถ้าเพ็ญพักตร์ไม่นำเงินสี่หมื่นไปให้ภายในสา
อีกด้านภายในห้องทำงานของบุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ถูกความเงียบปกคลุมสักพักใหญ่ชายหนุ่มสวมเครื่องแบบสะอาดตานั่งจ้องตำราเล่มหนาอยู่บนโต๊ะเรียบ ใกล้ ๆ กันนั้นมีแฟ้มเอกสารกองโตวางอย่างไม่ได้เป็นระเบียบมากนักเนื่องจากเพิ่งผ่านการใช้งานมา สายตาคมจดจ่ออยู่กับข้อมูลของโรคชนิดหนึ่งที่เขาต้องเข้าผ่าตัดในบ่ายวันนี้แต่แล้วความสงบเงียบเหมาะแก่การศึกษาความรู้ก็ถูกเพื่อนร่วมวิชาชีพทำลายลง ประตูห้องดีไซน์สวยเปิดออกโดยชายหนุ่มสวมเครื่องแบบหมออีกคน“เมื่อคืนนี้หนักไปเหรอวะถึงมาทำงานสายได้” เขาคนนี้ชื่อ ธนา เป็นหมอศัลยกรรมทรวงอกและโรคหัวใจทำงานอยู่แผนกเดียวกันกับเจ้าของห้อง ทั้งสองคนรู้จักกันสมัยเรียนมหาลัยฯ แต่เริ่มสนิทกันตอนเป็นแพทย์ฝึกหัด“มาตั้งนานแล้วแต่ไปกินกาแฟอยู่” คนถูกแซะรีบออกตัวก่อนจะยกหลักฐานขึ้นมาจิบด้วยท่าทางสบายใจ ถึงจะชอบเที่ยวกลางคืน แต่เจ้าตัวก็แยกเรื่องงานกับเรื่องเที่ยวออกจากกันอย่างชัดเจน“อย่าบอกนะว่ามึงไปดื่มกาแฟกับคุณหมอมัดมา” ไม่ตอบหากแต่ก็ไม่ปฏิเสธ แต่การที่เขาให้ความเงียบตอบแทนก็ยิ่งทำให้คุณหมอมาดเจ้าชู้รู้สึกเจ็บใจเข้าไปใหญ่ “มึงพาหมอมัดของกูไปกินไส้กรอกมาแล้ว
“งั้นคงต้องแสดงฝีมือแล้วล่ะเพราะผมไม่ชอบพวกเก่งแต่ปาก”น้ำเสียงทุ้มเอ่ยที่ข้างหูเธอ สายตาคมกริบจ้องมองร่างบางอย่างคนดูแคลน เกลี่ยนิ้วหัวแม่มือลงกับกลีบปากเนียนนุ่ม หยาดน้ำเย็นๆ เคลือบอยู่บนปลายนิ้วของเขาทำให้คนที่ลำคอแห้งผากงับปลายนิ้วของชายหนุ่มแล้ว ดูดเลียอย่างคนกระหาย“คุณเป็นคนร้องขอเองนะ” แววตาคมกริบพลันมืดมน ริมฝีปากนุ่มอุ่นที่กำลังลิ้มเลียปลายนิ้วกระตุ้นเร้าอารมณ์ดำมืดในตัวของเขาขึ้นมาอัจจิมากวาดสายตาหวานเยิ้มลากมองเรื่อยต่ำจนไปหยุดอยู่ที่ส่วนนั้นของอีกฝ่ายแล้วคุกเข่าลง มือเล็กไม่รีรอที่จะสัมผัสกับแก่นกายชาย กอบกำมันด้วยมือน้อยๆ ของเธอกระทั่งมันขยายขนาดเต็มที่อีกครั้งชายหนุ่มหลับตาลง ใบหน้าหล่อเหลาเงยเชิดขึ้นหาเพดานสูง เสียงคำรามอย่างสุขสมเล็ดลอดออกมาจากไรฟันเพียงแค่อัจจิมาใช้ลิ้นลากเลียส่วนหัวเบาๆ ด้วยความใจเย็นก่อนจะอ้าปากให้กว้างที่สุดเพื่อจะกลืนของใหญ่เข้าไปเขาแทบคลั่งเมื่อเธอเริ่มรุนแรงกับความเป็นชายด้วยลิ้นเล็ก ๆ ขณะมือน้อยยังคงโอบรอบลำยาวคอยชักรูดหนังบางเป็นจังหวะช้าเร็วสลับกันทว่าจู่ ๆ ความหฤหรรษ์ที่จะทำให้เขาจะได้ปลดปล่อยน้ำแห่งความสุขก็หยุดลงดื้อๆ แต่เขาก็เข้าใจในว
อัจจิมาส่ายหน้าไปมาทั้งที่ร่างกายกำลังตอบสนองอีกฝ่าย ยิ่งถูกอีกฝ่ายกระแทกกระทั้น ความต้องการตามสัญชาตญาณมนุษย์ของเธอก็ยิ่งทวีคูณ ร่างกายร้อนรุ่มไม่ต่างจากอยู่ในเปลวไฟร่างหนาโน้มลงไปโอบคนตัวเล็ก แผงอกแข็งแรงเบียดอยู่กับแผ่นหลังบาง ฝ่ามือหนาเลื่อนขึ้นไปนวดเฟ้นหน้าอกเต่งตึงทั้งสองข้างโดยไม่ลืมจะใช้ปลายนิ้วนวดคลึงเม็ดทับทิมไปด้วยริมฝีปากหนาประกบเข้าหาริมฝีปากนุ่มชื้นเพื่อตักตวงเอาความหวานที่เขาติดใจตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ในขณะเดียวกันนั้นเขาก็ยังกระแทกตัวตนเข้าหาเธออย่างไม่ออมแรง“อ๊า” ทันทีที่เขาปล่อยให้ลิ้นเป็นอิสระอัจจิมาก็ครางออกมาเสียงดังลั่นห้อง ท่อนเอ็นร้อนเสียดสีอยู่กับช่องทางรัก ความเสียวซ่านเสียดแทงเธอไปทั่วทั้งร่างกายความเร่าร้อนที่อีกฝ่ายกำลังปรนเปรอได้เผาไหม้ความคิดก่อนหน้าจนไม่เหลือเศษซาก ดวงตาพร่ามัวจ้องตัวเองในกระจก เหมือนกันกับเขาที่กำลังมองดูเธอด้วยความสุขสม“ใส่เข้ามาเลย ฉันอยากได้แรงๆ แรงกว่านี้ อ๊ะ อ๊า” อัจจิมาเพิ่งรู้ว่าตนเองเป็นคนมีความต้องการมากมายขนาดนี้ และแปลกที่ดูเหมือนว่าเขากับเธอจะเข้ากันได้ดีทีเดียว“โอ่ววว” เสียงทุ้มเล็ดลอดออกมาจากไรฟันในตอนที่ร่างหนากระแทก
“อยากได้ลิ้นหรือตรงนั้นเลย” ในระหว่างที่สติอันน้อยนิดกระเจิดกระเจิงไปไกล สติเหล่านั้นก็กลับมาได้เพียงเพราะคำถามสั้น ๆ จากเขาเมื่อสายตาสองคู่ประสานกันเธอก็รู้ได้ทันทีว่าเขาเองก็มีความต้องการไม่น้อยไปกว่า เพราะเธอรับรู้ได้ว่าร่างกายสูงใหญ่ของเขาเกร็งเครียดจนเห็นเส้นเลือดปูดโปน ผิวกายขาวดูสะอาดเปลี่ยนเป็นสีแดง ความเป็นชายขยายใหญ่จนแทบจะล้นมือเธอ ทว่าเขากลับดูใจเย็น แต่ก็เสียดายที่ในเวลานี้เธอไม่มีสติพอจะให้คิดอะไร“คิดว่าไงล่ะ” อัจจิมาแทบจะไม่หลงเหลือความเขินอาย ปริมาณของแอลกอฮอล์คงจะทำให้เธอในเวลานี้กล้าพูดอะไรออกมาตรงๆ“คุณคงอยากได้อย่างอื่น ที่ไม่ใช่นิ้ว” เขารั้งสะโพกเธอเข้าหาจนส่วนนั้นของเธอเสียดสีกับความแข็งขืนดุดัน พร้อมกันนั้นก็จัดการถอดเสื้อผ้าของตนเองออก นิ้วเรียวยาวลูบไล้จากเรียวขาขึ้นไปที่เอวเล็กก่อนจะหยุดกอบกุมหน้าอกอวบขาวขณะที่กำลังใช้ปากฉีกซองขนาดเล็ก ซึ่งไม่แปลกถ้าผู้ชายรักสนุกอย่างเขาจะพกถุงยางอนามัยติดตัวเอาไว้“อ๊า” อัจจิมาครวญครางออกมาในจังหวัดที่เขาดุนดันแก่นกายใหญ่ยาวเข้าไปในช่องทางรักของเธอ แม้จะเข้าไปยังไม่ลึกแต่ก็ทำให้คนเมาถึงกับสะดุ้งเฮือกจนต้องผวาเกาะไหล่กว้างเ
แววตาของชายหนุ่มเข้มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทางของอีกฝ่าย มองออกว่าไอ้อาการที่อัจจิมาเป็นอยู่ตอนนี้เพราะมี ‘ยาปลุกเซ็กซ์’ ไหลเวียนอยู่ในร่างกาย“ทำไมรถคุณร้อนจัง” เธอคู้ตัวเข้าหากันหวังเพียงว่าความรู้สึกทุรนทุรายเหมือนมีเปลวไฟแผดเผาเนื้อหนังจะบรรเทาลง ต้นขาเรียวเบียดเสียดสีต้องการขจัดความรู้สึกคับข้องตรงพื้นที่ระหว่างกึ่งกลางลำตัว“ร้อน?” เขาแกล้งถามออกไปแล้วจัดการเร่งแอร์ให้เธอ “หายร้อนหรือยัง”คนถูกถามส่ายหน้าไปมา ก่อนจะทำการปลดสายเดี่ยวเส้นเล็กของตัวเองลงไปกองกับข้อศอก เนินเนื้ออิ่มนูนปรากฏต่อสายตาของคนข้างๆ ชายหนุ่มบังคับสายตาไปมองถนนทันที แต่ไม่เกี่ยวกับความเป็นสุภาพบุรุษ เขาก็แค่กลัวว่าถ้าปล่อยให้สายตาอยู่กับสิ่งสวยงามนานกว่านี้อาจจะเกิดอุบัติเหตุเอาได้ อีกอย่างเขาก็ไม่ได้ขาดแคลนถึงขนาดจะต้องฉวยโอกาสมองหน้าอกผู้หญิงที่แทบไม่มีสติหลงเหลืออยู่“ฉันไม่ไหวแล้ว ร้อน…ร้อน…” ใช่ว่าจะไม่รู้ตัวเพียงแต่อัจจิมาไม่สามารถควบคุมร่างกายตัวเองได้ เธอวางมือลงที่ขาของอีกฝ่าย ลูบไล้ขึ้นลงด้วยความทรมานกายก่อนที่มือซุกซนของเธอจะเฉียดเข้าไปใกล้เป้ากางเกง“ใจเย็นสิ” เขาตะครุบมือเลื้อยเหมือนเถาวัลย์เอา
“ผู้ชายคนนั้นต่างหากที่โง่” แม้จะมีจุดประสงค์ในการจะเข้าหาแต่เขาก็ตอบโดยไม่ลังเล“ใช่ไหมล๊า…เขามันโง่ โง่ที่สุด” วิสกี้รสชาติร้อนแรงหมดในคราวเดียว มาถึงตอนนี้อะไรก็ไม่สามารถหยุดการฉลองความโสดในรอบสามปีของเธอได้อัจจิมาไม่สนว่าผู้ชายที่นั่งข้าง ๆ เป็นใคร จะเข้าหาเธอเพราะอยากมีเพื่อนคุยหรือมากกว่านั้น และเธอก็ไม่ได้คิดจะดื่มอย่างไร้สติเพราะผู้ชายเลวทรามพรรค์นั้นชีวิตมันเป็นของเธอ ดังนั้นเธอจะทำอะไรกับใคร มันก็เป็นสิทธิ์ของเธอ เพราะขนาดว่าเธอเลือกดีแล้ว สุดท้ายมันก็ยังเป็นแค่ความรักที่เฮงซวยทั้งคู่นั่งดื่มต่อพักใหญ่ปริมาณแอลกอฮอล์ก็ทำให้อัจจิมาอยากไปเข้าห้องน้ำ ร่างบางในชุดเดรสรัดรูปพยุงตัวเองมาถึงห้องน้ำได้สำเร็จ ทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยเธอก็กลับออกมา แต่เพราะดื่มไปเยอะทำให้ตอนนี้เธอแทบจะประคองตัวไม่อยู่ทว่าสายตาที่เริ่มจะพร่ามัวก็หันไปเห็นคนที่เข้ามานั่งกับเธอ รูปร่างสูงโปร่งราวกับดาราแถบเอเชีย องค์ประกอบทุกอย่างบนใบหน้าของชายหนุ่มดูดีทุกกระเบียดนิ้ว ประจวบกับค็อกเทลที่เธอดื่มเข้าไปเริ่มจะออกฤทธิ์“คืนนี้คุณมีคนออกไปต่อที่อื่นด้วยรึยัง” ปกติสายตาของอัจจิมาก็ดึงดูดให้ผู้ชายเข้าหาอยู่แล
“คุณไม่ได้ซื้อตรงนี้ไว้ไม่ใช่เหรอ” แม้จะอยู่ในอาการมึนศีรษะแต่อัจจิมาก็มีสติพอรู้ว่าอีกฝ่ายตั้งใจจะกวนประสาทเธอ ก่อนจะหันไปสั่งเครื่องดื่มกับบาร์เทนเดอร์ เหมือนประโยคที่เธอเพิ่งพูดได้เข้าหูซ้ายทะลุออกหูขวาเรียบร้อย“ตอนนี้ฉันไม่สะดวกจะทำความรู้จักใคร” เธอพยายามพูดกับเขาดี ๆ ทำไมวันนี้เธอถึงเจอแต่ผู้ชายแย่ ๆ ก็ไม่รู้“ผมพูดตอนไหนว่าอยากรู้จักคุณ” สีหน้าของชายหนุ่มเรียบเฉยและเยือกเย็นเกินกว่าจะบอกว่าเข้ามาจีบเธอ และคนอย่างเขาก็ไม่จำเป็นต้องเข้าหาผู้หญิงเพราะแค่อยากทำความรู้จัก แต่ถ้าเป็นเรื่องอื่น มันก็ไม่แน่“งั้นก็ช่วยอยู่เงียบๆ โอเค๊!” เธอบอกกับเขาด้วยสายตาไม่เป็นมิตร ทว่าน้ำเสียงยานยาวเป็นขบวนรถไฟก็ไม่ได้ทำให้เขาคิดจะทำตาม ก่อนจะหยิบยกบทความอะไรสักอย่างมาร่ายยาว“เหตุผลในการดื่มของคนเราแตกต่างกันออกไป บางคนดื่มเพราะตกงาน บางคนดื่มเพราะมีปัญหากับที่บ้าน บางคนดื่มเพราะชีวิตไม่ได้เป็นอย่างที่หวัง ซึ่งเหตุผลพวกนี้ยังพอเข้าใจได้ แต่คนที่ใช้เหล้าแก้ปัญหาแค่เพราะตัวเองไม่ใช่คนที่ถูกเลือก มันไม่เป็นการดูถูกตัวเองเหรอ” นาทีนั้นชายหนุ่มหันมามองใบหน้าของอัจจิมานิ่งทว่าทุกประโยคจากคนแปลกหน้า เ
ต่อให้เธอจะทำตัวเข้มแข็งยังไง แต่เมื่อหันหลังออกมาน้ำตาก็ไหลรื้นเป็นทางอย่างห้ามไม่ได้ อัจจิมาอยากจะร้องไห้โฮให้กับความโง่งมของตัวเอง แต่ผู้ชายเลว ๆ พรรค์นั้นไม่มีค่าพอให้เธอเสียน้ำตาให้หลังมือเล็กปาดคราบน้ำตาออกอย่างลวก ๆ เพราะเธอไม่มีเวลาให้มานั่งฟูมฟาย จัดการเติมหน้าทาปากปกปิดความเรียบร้อยก็พร้อมจะกลับไปทำงาน แต่ไปถึงเธอก็พบว่าอรรถนพลูกค้าหนุ่มกลับไปแล้วปกติเธอคงจะรู้สึกโล่งใจเหมือนได้ทำงานลุล่วงไปแล้วครึ่งทาง ทว่าหัวใจมันกลับหนักอึ้งราวกับมีก้อนหินขนาดใหญ่กดทับอยู่ อัจจิมาพยายามจะไม่คิดถึงเรื่องของนิรุท พยายามจะไม่คิดถึงความรักเฮงซวยที่ตายจากไปแล้ว แต่มองไปทางไหนก็เจอแต่คำว่าเสียใจเต็มไปหมด“วันนี้เป็นอะไรรึเปล่าดูสีหน้าไม่ค่อยดี” รุ้งรวีสังเกตเห็นความผิดปกติจากใบหน้าของลูกน้อง แต่เธอไม่ได้ตอบคำถาม หันไปสั่งเครื่องดื่มกับบาร์เทนเดอร์หนุ่ม“เอาแรงๆ มาแก้วนึงพี่วันนี้จี๊ดจะเมา”“นึกยังไงถึงอยากดื่ม แล้วไม่ต้องรีบกลับเหรอ พรุ่งนี้ต้องตื่นไปทำงานไม่ใช่เหรอ” แค่ที่ลูกค้าให้ดื่มเป็นเพื่อนเธอก็แทบจะไม่ไหวอยู่แล้ว อีกอย่าง…รุ้งรวีก็ไม่เคยเห็นเธอจะมานั่งดื่มแบบนี้“ถูกไล่ออกแล้วน่ะค่ะ” ย
บทนำเธอ…คนที่โลกใบนี้ไม่เคยใจดีด้วย ในชีวิตท่องจำแค่คำว่า “งานคือเงิน” และบางครั้งเงิน…ก็ต้องมาก่อนศักดิ์ศรีเขา…ศัลยแพทย์ผู้หลงใหลในเซ็กซ์พอๆกับการผ่าตัด สำหรับเขา 'ความสุข' ซื้อได้ด้วยเงิน“ถอดออก ผมจะดูที่เหลือเอง” มือน้อย ๆ กอบกำเข้าหากันแน่น สายตาที่มองมาเหมือนกำลังเปลื้องผ้าเธอออกทีละชิ้น ๆ ร่างกายหญิงสาวร้อนผ่าวเหมือนถอดออกไปทุกชิ้นแล้วทั้งที่ยังอยู่ครบ“ถอดสิ หรือว่าจะให้ผมเป็นคนถอด?” คุณหมอผู้วางสีหน้าเรียบนิ่งในวันที่เธอพาประสิทธิ์ไปโรงพยาบาลเห็นได้ชัดว่าตอนนี้เป็นคนละคน แม้ยังวางตัวได้เป็นอย่างดีแต่ก็ไม่ต่างจากราชสีห์ที่พร้อมตะครุบเหยื่อทุกเมื่อ“ไม่ต้อง” ยกมือขึ้นห้ามอย่างไว อัจจิมาสูดหายใจเข้าลึก ความปรารถนาที่คุกรุ่นของศัลยแพทย์หนุ่มทำลายความเหนียมอายลงไปหลายส่วน หลังจากลอบกลืนน้ำลายเหนียวลงคอ เธอก็จัดการถอดเดรสสั้น แก้มเนียนขาวเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อเนื้อตัวเย็นเฉียบเหมือนมีน้ำแข็งเกาะกุม ไม่คิดว่าในชีวิตเธอต้องมาทำอะไรแบบนี้“สองชิ้นนั้นด้วย” น้ำเสียงดุจพญามัจจุราชสั่งให้อัจจิมาขยับร่างกาย ส่งมือไปด้านหลังเพื่อจัดการปลดตะขอบราเซีย บางส่วนของเรือนผมนุ่มสลวยหล่นลงบดบังป...
Comments