“ผู้ชายคนนั้นต่างหากที่โง่” แม้จะมีจุดประสงค์ในการจะเข้าหาแต่เขาก็ตอบโดยไม่ลังเล
“ใช่ไหมล๊า…เขามันโง่ โง่ที่สุด” วิสกี้รสชาติร้อนแรงหมดในคราวเดียว มาถึงตอนนี้อะไรก็ไม่สามารถหยุดการฉลองความโสดในรอบสามปีของเธอได้
อัจจิมาไม่สนว่าผู้ชายที่นั่งข้าง ๆ เป็นใคร จะเข้าหาเธอเพราะอยากมีเพื่อนคุยหรือมากกว่านั้น และเธอก็ไม่ได้คิดจะดื่มอย่างไร้สติเพราะผู้ชายเลวทรามพรรค์นั้น
ชีวิตมันเป็นของเธอ ดังนั้นเธอจะทำอะไรกับใคร มันก็เป็นสิทธิ์ของเธอ เพราะขนาดว่าเธอเลือกดีแล้ว สุดท้ายมันก็ยังเป็นแค่ความรักที่เฮงซวย
ทั้งคู่นั่งดื่มต่อพักใหญ่ปริมาณแอลกอฮอล์ก็ทำให้อัจจิมาอยากไปเข้าห้องน้ำ ร่างบางในชุดเดรสรัดรูปพยุงตัวเองมาถึงห้องน้ำได้สำเร็จ ทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยเธอก็กลับออกมา แต่เพราะดื่มไปเยอะทำให้ตอนนี้เธอแทบจะประคองตัวไม่อยู่
ทว่าสายตาที่เริ่มจะพร่ามัวก็หันไปเห็นคนที่เข้ามานั่งกับเธอ รูปร่างสูงโปร่งราวกับดาราแถบเอเชีย องค์ประกอบทุกอย่างบนใบหน้าของชายหนุ่มดูดีทุกกระเบียดนิ้ว ประจวบกับค็อกเทลที่เธอดื่มเข้าไปเริ่มจะออกฤทธิ์
“คืนนี้คุณมีคนออกไปต่อที่อื่นด้วยรึยัง” ปกติสายตาของอัจจิมาก็ดึงดูดให้ผู้ชายเข้าหาอยู่แล้ว ยิ่งมีแอลกอฮอล์ไหลเวียนอยู่ทั่วร่างกายมันก็ยิ่งหนุนให้สายตาของเธอมีเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้าม
“ถ้าผมบอกว่ายังไม่มีล่ะ” มุมปากอวบอิ่มปรากฏรอยยิ้มพอใจขึ้นทว่าเจ้าของร่างสูงกลับไม่ได้มีทีท่าอะไรตอบกลับมา
“งั้นก็ดีเลยสิ พอดีคืนนี้ฉันก็ยังไม่ถูกใจใครเหมือนกัน” นิ้วเรียวเล็กลากไล้จากไหปลาร้าเรื่อยลงไปจนถึงแผงอกกว้างผ่านเชิ้ตเนื้อดีด้วยท่าทางยั่วยวน สายตาคมกริบอันเต็มไปด้วยเสน่ห์มหาศาลจ้องมองการกระทำของเธออย่างไม่ละสายตา
“ถูกใจผมเหรอ?” ขมวดคิ้วจ้องหน้า
“จะว่าอย่างนั้นก็ได้” ฝ่ามือบางนุ่มวางทาบลงไปกับแผงอกแข็งแรง เหมือนในตอนที่ทำให้ลูกค้าของเธอพึงพอใจ ดวงตาคู่สวยแพรวพราว ยั่วยวน อัจจิมาในตอนนี้ไม่ต่างจากผู้หญิงรักสนุกทั่วไป
แต่ถ้าไม่ใช่เพราะนิรุท…ถ้าไม่ใช่เพราะความรักเฮงซวย เธอก็คงจะไม่ดื่มจนขาดสติแบบนี้
อัจจิมาเคยเชื่อในความรัก เคยเชื่อว่าความซื่อสัตย์เป็นสิ่งที่ทำให้ความรักยืนยาว แต่มันก็พิสูจน์แล้วว่า ความซื่อสัตย์และไว้ใจเป็นแค่เรื่องงมงายทั้งเพ
แล้วจะผิดอะไรถ้าเธอจะปล่อยกายปล่อยใจกับใครสักคน
ตราบใดที่เธอและอีกฝ่ายเต็มใจด้วยกันทั้งคู่ One night stand ก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดไม่ใช่หรือไง
“คุณไม่มีแฟนใช่ไหม” แม้จะตกอยู่ในอาการมึนเมาแต่จิตใต้สำนึกของอัจจิมาก็ยังให้ความสำคัญกับเรื่องนี้
“ไม่มี” น้ำเสียงราบเรียบมาพร้อมสายตาแพรวพราวไล่มองเรือนร่างของหญิงสาวอย่างจาบจ้วง สัดส่วนที่วัดขนาดจากระดับสายตาของคนเป็นหมอจัดว่าอยู่ในสเปคของผู้ชายหลายคน รวมถึงเขาด้วย
“งั้นคืนนี้สนใจออกไปต่อกับฉันไหม” อัจจิมายืนเบียดชิดกับร่างหนาขยับใบหน้าเข้าไปใกล้ชายหนุ่ม แนบชิดจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นชื้นของอีกฝ่าย หน้าอกเต่งตึงสัมผัสเข้ากับแผงอกกว้างอย่างตั้งใจ
ดวงตาของทั้งคู่สบประสานกันอย่างมีความหมายซ่อนอยู่ หัวใจอัจจิมาเต้นโครมครามแม้ในตอนที่มีแอลกอฮอล์อยู่ในร่างกาย เธอกำลังชวนผู้ชายไปมีอะไรกันซึ่งเป็นเรื่องที่เกินกว่าเธอจะควบคุมตัวเองได้
ทว่าเขาก็ทำให้เธอผิดหวัง
“ผมไม่ชอบมีอะไรกับคนเมา” แม้คำตอบจะชัดเจนว่าเธอถูกอีกฝ่ายปฏิเสธแต่สายตาคมคู่นั้นยังจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของเธอ
“ฉันไม่ได้เมาสักหน่อย แต่ถึงฉันจะเมา ฉันก็ทำให้เราสนุกได้ไม่ใช่เหรอ” มุมปากหยักหนาปรากฏรอยยิ้ม ก่อนที่เขาจะก้มลงไปกระซิบข้างหูเธอด้วยน้ำเสียงชวนวาบหวามว่า “สนุกน่ะรู้ แต่จะถูกใจหรือเปล่า ของแบบนี้มันต้องพิสูจน์”
จบประโยคนี้อัจจิมาก็ถูกชายหนุ่มที่ไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อพาออกมาจากไนต์คลับ ไม่น่าเชื่อว่าการที่เธอผิดหวังในความรักบวกกับเหล้าที่ดื่มเข้าไปจะทำให้เธอขาดสติ บ้าถึงขั้นกำลังจะไปมีอะไรกับผู้ชายที่เพิ่งจะรู้จักกัน
แต่ก็ช่างเถอะ คนอกหักจะใช้ชีวิตให้สนุกสุดเหวี่ยงหรือจะเหลวแหลกสักวัน จะเป็นไรไป
ระหว่างทางอัจจิมารู้สึกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ร่างกายร้อนรุ่มไปทั้งเนื้อตัว ทั้งที่ในรถเปิดแอร์เย็นฉ่ำ
“คุณเป็นอะไรหรือเปล่า” เขารู้ว่าเธอดื่มไปเยอะแต่อาการที่แสดงออกมาตอนนี้ไม่ใช่แค่เมาธรรมดาแน่
“ไม่รู้เหมือนกัน” เสียงผะแผ่วแหบพร่าฟังดูน่าสงสารและเย้ายวนในเวลาเดียวกัน ผิวกายนวลเนียนนอกร่มผ้าเปลี่ยนเป็นสีชมพูเรื่อ ริมฝีปากอวบอิ่มแดงจัดราวกับคนจับไข้ ดวงตาเรียวรีฉ่ำเยิ้มขึ้นเหมือนมีม่านหมอกจางๆ ปกคลุม
เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง แต่เขา…รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับเธอ
แววตาของชายหนุ่มเข้มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทางของอีกฝ่าย มองออกว่าไอ้อาการที่อัจจิมาเป็นอยู่ตอนนี้เพราะมี ‘ยาปลุกเซ็กซ์’ ไหลเวียนอยู่ในร่างกาย“ทำไมรถคุณร้อนจัง” เธอคู้ตัวเข้าหากันหวังเพียงว่าความรู้สึกทุรนทุรายเหมือนมีเปลวไฟแผดเผาเนื้อหนังจะบรรเทาลง ต้นขาเรียวเบียดเสียดสีต้องการขจัดความรู้สึกคับข้องตรงพื้นที่ระหว่างกึ่งกลางลำตัว“ร้อน?” เขาแกล้งถามออกไปแล้วจัดการเร่งแอร์ให้เธอ “หายร้อนหรือยัง”คนถูกถามส่ายหน้าไปมา ก่อนจะทำการปลดสายเดี่ยวเส้นเล็กของตัวเองลงไปกองกับข้อศอก เนินเนื้ออิ่มนูนปรากฏต่อสายตาของคนข้างๆ ชายหนุ่มบังคับสายตาไปมองถนนทันที แต่ไม่เกี่ยวกับความเป็นสุภาพบุรุษ เขาก็แค่กลัวว่าถ้าปล่อยให้สายตาอยู่กับสิ่งสวยงามนานกว่านี้อาจจะเกิดอุบัติเหตุเอาได้ อีกอย่างเขาก็ไม่ได้ขาดแคลนถึงขนาดจะต้องฉวยโอกาสมองหน้าอกผู้หญิงที่แทบไม่มีสติหลงเหลืออยู่“ฉันไม่ไหวแล้ว ร้อน…ร้อน…” ใช่ว่าจะไม่รู้ตัวเพียงแต่อัจจิมาไม่สามารถควบคุมร่างกายตัวเองได้ เธอวางมือลงที่ขาของอีกฝ่าย ลูบไล้ขึ้นลงด้วยความทรมานกายก่อนที่มือซุกซนของเธอจะเฉียดเข้าไปใกล้เป้ากางเกง“ใจเย็นสิ” เขาตะครุบมือเลื้อยเหมือนเถาวัลย์เอา
“อยากได้ลิ้นหรือตรงนั้นเลย” ในระหว่างที่สติอันน้อยนิดกระเจิดกระเจิงไปไกล สติเหล่านั้นก็กลับมาได้เพียงเพราะคำถามสั้น ๆ จากเขาเมื่อสายตาสองคู่ประสานกันเธอก็รู้ได้ทันทีว่าเขาเองก็มีความต้องการไม่น้อยไปกว่า เพราะเธอรับรู้ได้ว่าร่างกายสูงใหญ่ของเขาเกร็งเครียดจนเห็นเส้นเลือดปูดโปน ผิวกายขาวดูสะอาดเปลี่ยนเป็นสีแดง ความเป็นชายขยายใหญ่จนแทบจะล้นมือเธอ ทว่าเขากลับดูใจเย็น แต่ก็เสียดายที่ในเวลานี้เธอไม่มีสติพอจะให้คิดอะไร“คิดว่าไงล่ะ” อัจจิมาแทบจะไม่หลงเหลือความเขินอาย ปริมาณของแอลกอฮอล์คงจะทำให้เธอในเวลานี้กล้าพูดอะไรออกมาตรงๆ“คุณคงอยากได้อย่างอื่น ที่ไม่ใช่นิ้ว” เขารั้งสะโพกเธอเข้าหาจนส่วนนั้นของเธอเสียดสีกับความแข็งขืนดุดัน พร้อมกันนั้นก็จัดการถอดเสื้อผ้าของตนเองออก นิ้วเรียวยาวลูบไล้จากเรียวขาขึ้นไปที่เอวเล็กก่อนจะหยุดกอบกุมหน้าอกอวบขาวขณะที่กำลังใช้ปากฉีกซองขนาดเล็ก ซึ่งไม่แปลกถ้าผู้ชายรักสนุกอย่างเขาจะพกถุงยางอนามัยติดตัวเอาไว้“อ๊า” อัจจิมาครวญครางออกมาในจังหวัดที่เขาดุนดันแก่นกายใหญ่ยาวเข้าไปในช่องทางรักของเธอ แม้จะเข้าไปยังไม่ลึกแต่ก็ทำให้คนเมาถึงกับสะดุ้งเฮือกจนต้องผวาเกาะไหล่กว้างเ
อัจจิมาส่ายหน้าไปมาทั้งที่ร่างกายกำลังตอบสนองอีกฝ่าย ยิ่งถูกอีกฝ่ายกระแทกกระทั้น ความต้องการตามสัญชาตญาณมนุษย์ของเธอก็ยิ่งทวีคูณ ร่างกายร้อนรุ่มไม่ต่างจากอยู่ในเปลวไฟร่างหนาโน้มลงไปโอบคนตัวเล็ก แผงอกแข็งแรงเบียดอยู่กับแผ่นหลังบาง ฝ่ามือหนาเลื่อนขึ้นไปนวดเฟ้นหน้าอกเต่งตึงทั้งสองข้างโดยไม่ลืมจะใช้ปลายนิ้วนวดคลึงเม็ดทับทิมไปด้วยริมฝีปากหนาประกบเข้าหาริมฝีปากนุ่มชื้นเพื่อตักตวงเอาความหวานที่เขาติดใจตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ในขณะเดียวกันนั้นเขาก็ยังกระแทกตัวตนเข้าหาเธออย่างไม่ออมแรง“อ๊า” ทันทีที่เขาปล่อยให้ลิ้นเป็นอิสระอัจจิมาก็ครางออกมาเสียงดังลั่นห้อง ท่อนเอ็นร้อนเสียดสีอยู่กับช่องทางรัก ความเสียวซ่านเสียดแทงเธอไปทั่วทั้งร่างกายความเร่าร้อนที่อีกฝ่ายกำลังปรนเปรอได้เผาไหม้ความคิดก่อนหน้าจนไม่เหลือเศษซาก ดวงตาพร่ามัวจ้องตัวเองในกระจก เหมือนกันกับเขาที่กำลังมองดูเธอด้วยความสุขสม“ใส่เข้ามาเลย ฉันอยากได้แรงๆ แรงกว่านี้ อ๊ะ อ๊า” อัจจิมาเพิ่งรู้ว่าตนเองเป็นคนมีความต้องการมากมายขนาดนี้ และแปลกที่ดูเหมือนว่าเขากับเธอจะเข้ากันได้ดีทีเดียว“โอ่ววว” เสียงทุ้มเล็ดลอดออกมาจากไรฟันในตอนที่ร่างหนากระแทก
“งั้นคงต้องแสดงฝีมือแล้วล่ะเพราะผมไม่ชอบพวกเก่งแต่ปาก”น้ำเสียงทุ้มเอ่ยที่ข้างหูเธอ สายตาคมกริบจ้องมองร่างบางอย่างคนดูแคลน เกลี่ยนิ้วหัวแม่มือลงกับกลีบปากเนียนนุ่ม หยาดน้ำเย็นๆ เคลือบอยู่บนปลายนิ้วของเขาทำให้คนที่ลำคอแห้งผากงับปลายนิ้วของชายหนุ่มแล้ว ดูดเลียอย่างคนกระหาย“คุณเป็นคนร้องขอเองนะ” แววตาคมกริบพลันมืดมน ริมฝีปากนุ่มอุ่นที่กำลังลิ้มเลียปลายนิ้วกระตุ้นเร้าอารมณ์ดำมืดในตัวของเขาขึ้นมาอัจจิมากวาดสายตาหวานเยิ้มลากมองเรื่อยต่ำจนไปหยุดอยู่ที่ส่วนนั้นของอีกฝ่ายแล้วคุกเข่าลง มือเล็กไม่รีรอที่จะสัมผัสกับแก่นกายชาย กอบกำมันด้วยมือน้อยๆ ของเธอกระทั่งมันขยายขนาดเต็มที่อีกครั้งชายหนุ่มหลับตาลง ใบหน้าหล่อเหลาเงยเชิดขึ้นหาเพดานสูง เสียงคำรามอย่างสุขสมเล็ดลอดออกมาจากไรฟันเพียงแค่อัจจิมาใช้ลิ้นลากเลียส่วนหัวเบาๆ ด้วยความใจเย็นก่อนจะอ้าปากให้กว้างที่สุดเพื่อจะกลืนของใหญ่เข้าไปเขาแทบคลั่งเมื่อเธอเริ่มรุนแรงกับความเป็นชายด้วยลิ้นเล็ก ๆ ขณะมือน้อยยังคงโอบรอบลำยาวคอยชักรูดหนังบางเป็นจังหวะช้าเร็วสลับกันทว่าจู่ ๆ ความหฤหรรษ์ที่จะทำให้เขาจะได้ปลดปล่อยน้ำแห่งความสุขก็หยุดลงดื้อๆ แต่เขาก็เข้าใจในว
อีกด้านภายในห้องทำงานของบุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ถูกความเงียบปกคลุมสักพักใหญ่ชายหนุ่มสวมเครื่องแบบสะอาดตานั่งจ้องตำราเล่มหนาอยู่บนโต๊ะเรียบ ใกล้ ๆ กันนั้นมีแฟ้มเอกสารกองโตวางอย่างไม่ได้เป็นระเบียบมากนักเนื่องจากเพิ่งผ่านการใช้งานมา สายตาคมจดจ่ออยู่กับข้อมูลของโรคชนิดหนึ่งที่เขาต้องเข้าผ่าตัดในบ่ายวันนี้แต่แล้วความสงบเงียบเหมาะแก่การศึกษาความรู้ก็ถูกเพื่อนร่วมวิชาชีพทำลายลง ประตูห้องดีไซน์สวยเปิดออกโดยชายหนุ่มสวมเครื่องแบบหมออีกคน“เมื่อคืนนี้หนักไปเหรอวะถึงมาทำงานสายได้” เขาคนนี้ชื่อ ธนา เป็นหมอศัลยกรรมทรวงอกและโรคหัวใจทำงานอยู่แผนกเดียวกันกับเจ้าของห้อง ทั้งสองคนรู้จักกันสมัยเรียนมหาลัยฯ แต่เริ่มสนิทกันตอนเป็นแพทย์ฝึกหัด“มาตั้งนานแล้วแต่ไปกินกาแฟอยู่” คนถูกแซะรีบออกตัวก่อนจะยกหลักฐานขึ้นมาจิบด้วยท่าทางสบายใจ ถึงจะชอบเที่ยวกลางคืน แต่เจ้าตัวก็แยกเรื่องงานกับเรื่องเที่ยวออกจากกันอย่างชัดเจน“อย่าบอกนะว่ามึงไปดื่มกาแฟกับคุณหมอมัดมา” ไม่ตอบหากแต่ก็ไม่ปฏิเสธ แต่การที่เขาให้ความเงียบตอบแทนก็ยิ่งทำให้คุณหมอมาดเจ้าชู้รู้สึกเจ็บใจเข้าไปใหญ่ “มึงพาหมอมัดของกูไปกินไส้กรอกมาแล้ว
หลายวันมานี้อัจจิมาออกไปสมัครงานเอาไว้หลายแห่ง แต่ก็ยังไม่มีที่ไหนตอบรับ ใครบอกว่าใบปริญญาฯช่วยให้หางานง่าย ได้เงินเดือนสูงเธอขอเถียงขาดใจ ทุกวันนี้อาศัยแค่ประสบการณ์เพียงอย่างเดียวเห็นทีจะไม่พอ ถ้าไร้เส้นสายทะเล่อทะล่าเข้าไปกรอกใบสมัครแบบเธอ ก็แทบจะไม่มีบริษัทไหนมองเห็นความสามารถยังถือว่าโลกไม่ได้ใจร้ายเกินไป ระหว่างรอเรียกสัมภาษณ์อัจจิมาก็ได้งานที่ร้านอาหารของคนรู้จักในตำแหน่งแคชเชียร์ ซึ่งก่อนหน้านี้มีพนักงานเพิ่งจะลาออกไป ในช่วงที่ลูกค้าแน่นร้านเธอเลยต้องช่วยเสิร์ฟด้วย“เหนื่อยหน่อยนะจี๊ด”“ไม่เป็นไรหรอกพี่ แค่นี้เองจี๊ดทำได้”“พี่รู้ว่าจี๊ดทำได้ แต่ยังไงพี่ก็เกรงใจเราอยู่ดี” ทั้งสองคนรู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย มีอะไรก็คอยช่วยเหลือกันตลอด อย่างคราวนี้ พอนุชจรีรู้ว่าอัจจิมาถูกไล่ออกก็ชวนมาทำงานที่ร้านทันที แถมยังจ่ายค่าจ้างล่วงหน้าเพราะรู้ว่าอัจจิมาจำเป็นต้องใช้เงินสองวันก่อนมีคนบุกไปที่บ้านของเธอเหตุเพราะเพ็ญพักตร์เป็นหนี้ไม่ยอมจ่าย ทั้งที่เธอเพิ่งจะใช้หนี้ให้ไปหยก ๆ ประสิทธิ์โมโหให้ภรรยาที่คอยแต่สร้างหนี้สินไม่หยุดไม่หย่อน แต่ถ้าเพ็ญพักตร์ไม่นำเงินสี่หมื่นไปให้ภายในสา
“ผมขอคุยกับญาติคนไข้ตามลำพัง”นางพยาบาลรับคำสั่งในทันที บรรยากาศในห้องตรวจถูกความอึดอัดเข้าปกคลุมเล็กน้อย เมื่อญาติคนไข้กับคุณหมออยู่ด้วยกันสองคนไม่สิ เมื่อเธอรู้แจ่มแจ้งว่าศัลยแพทย์หนุ่มตรงหน้าคือผู้ชายที่ตัวเองเคยวันไนท์สแตนด์ด้วยต่างหาก“คุณพ่อของฉันเป็นยังไงบ้างคะคุณหมอ” ก่อนจะเปิดเผยอะไรผ่านสีหน้าไปมากกว่านี้อัจจิมาก็ตัดสินใจถามถึงอาการของบิดา ทว่าเสี้ยววินาทีสั้น ๆ หญิงสาวรู้สึกได้ว่าถูกสายตาคมกล้าจ้องมอง“อาการแย่กว่าตอนที่มาตรวจคราวที่แล้ว ไม่ทราบว่าช่วงนี้คนไข้มีเรื่องอะไรให้เครียดหรือเปล่าครับ”“ช่วงนี้ที่บ้านมีปัญหานิดหน่อยค่ะ” ความกังวลปรากฏบนใบหน้าของอัจจิมา เธอไม่ได้คาดหวังว่าเพ็ญพักตร์จะดูแลประสิทธิ์ดีได้เท่าแม่ของเธอ แต่ก็ไม่คิดว่าเพ็ญพักตร์จะถูกผีพนันเข้าสิงจนเธอกับประสิทธิ์ต้องมานั่งใช้หนี้สินแทนครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วก็คงจะเป็นเรื่องนี้เองที่กระทบจิตใจจนพ่อของเธอไม่ได้ออกไปขับแท็กซี่หลายวัน“ตอนนี้อาการโดยรวมยังไม่ได้น่าเป็นห่วงมากแต่ก่อนจะทำบอลลูนครั้งหน้าต้องระวังไม่ให้มีเรื่องอะไรมากระทบจิตใจ ไม่งั้นอาการอาจจะแย่กว่านี้ หมอแนะนำให้ดูแลคนไข้อย่างใกล้ชิดและพยายามอ
เขาจำเธอได้หนำซ้ำยังจำรายละเอียดบนร่างกายเธอได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วยเอาแล้วไงนังจี๊ดหญิงสาวนั่งตัวเกร็งแทบจะลืมหายใจออกมา เมื่อรู้ว่าตัวเองคงจะประเมินหน่วยความจำของคุณหมอผิดพลาดไป พลาดอย่างรุนแรงเลยด้วยเพราะความเป็นหมอเลยความจำดีเลิศ หรือเพราะนิสัยส่วนตัว เขาถึงได้เห็นและจำได้แม้กระทั่งเม็ดไฝเล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่ใต้หลืบราวนมของเธอ“ขอโทษนะคะ คืนนั้นฉันเมามากจำอะไรไม่ได้เลย” หญิงสาวยิ้มแหยง ๆ เล่นบทจำความเสื่อมต่อ ขนาดโจรผู้ร้ายตำรวจยังต้องซักแล้วซักอีก นับประสาอะไรกับคนปากแข็งไม่มีความผิดอย่างเธอล๊าาา“แล้ว?” ชายหนุ่มยกคิ้วขึ้นสูง เขาไม่เห็นด้วยที่เธอเอาความเมามาใช้เป็นข้ออ้าง“ก็หมายความว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเพราะว่าฉันเมา ดังนั้น…ทุกอย่างให้ถือว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเราสองคน” อัจจิมาอธิบายด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ต่อให้เธอจะเป็นฝ่ายเริ่มก่อน แต่จะเอาอะไรกับคนเมาไม่ได้สติ“ไหนว่าจำอะไรไม่ได้?” ศัลยแพทย์หนุ่มจ้องญาติของคนไข้ในระยะประชิด น้ำลายเหนียวอึกใหญ่กลืนลงไปในลำคออีกครั้ง เมื่อเธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกนายตำรวจยศสูงสอบปากคำอย่างหนักแต่เขามีสิทธิ์อะไรมาเค้นคำตอบจา
“ถ้าฉันท้องล่ะคะจะเกิดอะไรขึ้น” ก่อนหน้านี้เขาเคยขอเธอเรื่องที่จะไม่ใช้ถุงยางอนามัยเวลาที่มีอะไรกัน แถมยังสั่งไม่ให้เธอกินยาคุมกำเนิด แต่ที่เธอถามออกไปแบบนี้ เพราะเธอยังไม่ได้รับการยอมรับจากคุณนิพนธ์ จึงกลัวว่าถ้าเกิดตั้งท้องขึ้นมาอาจจะเพิ่มปัญหาให้เขา“ผมก็พาคุณไปฝากครรภ์ไง”“ไม่ใช่เรื่องนั้นสักหน่อย” เธอมองค้อนที่เหมือนเขาเห็นเรื่องตั้งครรภ์เป็นเรื่องเล็ก ทั้งที่มันเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับลูกผู้หญิง“คุณกลัวผมจะไม่รับผิดชอบเหรอ” สายตาคมเข้มจริงจังขึ้นมาทันทีเธอหลุบสายตามองต่ำ ถ้าบอกว่าเธอไม่ได้เป็นกังวลเรื่องนี้ก็ดูจะเป็นการโกหก ถ้าเธอต้องปล่อยให้ตัวเองท้องเธอก็ต้องแน่ใจในอะไรหลายๆ อย่าง หนึ่งในนั้นก็คือเขาเธออยากรู้ว่าเขาพร้อมจะเป็นหัวหน้าครอบครัวแล้วเหรอ เพราะการจะเป็นพ่อคน ไม่ใช่ต้องการแค่เงินทอง แต่ยังต้องมีความรับผิดชอบสูง พร้อมเสียสละเวลาส่วนตัว และพร้อมที่จะดูแลอีกหนึ่งชีวิตด้วยหัวใจ“คุณฟังผมนะ ผมไม่ใช่เด็กแล้ว แล้วผมก็ไม่ใช่คนไม่มีความรับผิดชอบ ที่ผมบอกว่าอยากมีลูกก็แปลว่าผมพร้อม แน่นอนว่าไม่ใช่แค่เรื่องเงินทอง แต่ผมพร้อมจะเป็นพ่อคนแล้วจริงๆ ผมอยากมีเด็กวิ่งเล่นอยู่ในบ้าน อ
“ผมชอบที่คุณพูดแบบนี้ ฟังแล้วมันได้อารมณ์” เสียงของชายหนุ่มต่ำพร่าลง นัยน์ตาวาววับแต่ไม่ได้เยือกเย็นเหมือนเมื่อก่อนก้มลงลิ้มเลียยอดถันข้างที่เหลือ บีบคลำเต้าทรวงผ่องในอุ้งมืออย่างคนตะกละตะกลามอัจจิมาครางไม่เป็นภาษาอยู่บนโต๊ะทานข้าวตัวหรู ท่อนขาเรียวงามโอบรัดสะโพกอีกฝ่าย ก่อนจะแอ่นเอวเข้าหาร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่เบื้องหน้า เสียดสีกึ่งกลางลำตัวกับหน้าขากำยำท่อนเนื้อที่บดเบียดกับเนินนุ่มของหญิงสาวผ่านกางเกงเนื้อดีเริ่มแข็งขึงขึ้นมา ไม่รู้เป็นเพราะท่าทางยั่วยวนของเธอหรือเป็นเพราะอารมณ์ดิบในตัวของเขาเอง ที่ทำให้อารมณ์ใคร่ปรารถนาของเขาพลุ่งพล่านอย่างรวดเร็วเมื่อก่อนในโลกนี้สำหรับเขาสำคัญอยู่แค่สองเรื่อง นั่นคือเซ็กซ์กับมีดผ่าตัดแต่ตอนนี้ไม่ใช่อีกต่อไป แม้ว่าการมีเซ็กซ์จะยังจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของเขา แต่หากเขาไม่มีเธออยู่ข้างกาย ชีวิตต่อจากนี้ของเขาก็ไม่ต่างจากสิ่งของไร้ค่าชายหนุ่มขยับออกมายืนข้างโต๊ะทานข้าวเรียบหรู ปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกอย่างใจเย็นแล้วรวบเอวดึงร่างขาวผ่องของหญิงสาวคนรักให้ขยับมาที่ขอบโต๊ะ เลื่อนมือไปลูบไล้กลีบอิ่มนูน หยาดน้ำที่เอ่อล้นออกมาฉ่ำเยิ้มจนมองเห็นความเปียกชุ่ม
อัจจิมารู้สึกตัวเพราะแสงแดดที่สาดส่องเข้ามากระทบเปลือกตาในช่วงสาย ศีรษะและร่างกายของเธอหนักอึ้งเหมือนถูกถ่วงทับด้วยภูเขาหิน ลำคอแห้งผาก กว่าจะขยับตัวได้ก็ใช้เวลาอยู่ครู่หนึ่งพอลืมตาสิ่งแรกที่เห็นคือปลายคางแข็งแรงมองเห็นเป็นปื้นสีเขียวจางของศัลยแพทย์หนุ่ม ซึ่งเธอกำลังนอนแนบชิดซบอยู่ที่อกอุ่น ท่อนแขนข้างหนึ่งของเขาโอบเอวเธอไว้หลวม ๆ มือใหญ่วางอยู่บนบั้นท้ายเปลือยเปล่าจากการร่วมรักกันเมื่อคืนนี้ทุกคนที่บริษัทเข้าใจว่าเมื่อวานนี้เธอได้หยุดพักผ่อนหนึ่งวันเต็ม ๆ แต่หารู้ไม่ว่าเป็นวันลาพักผ่อนที่สูบเอาเรี่ยวแรงของเธอไปจนแทบจะไม่หลงเหลือถ้าเธอรู้ว่าเขาจะเป็นคนกระหายในรักได้ทั้งวันทั้งคืนแบบนี้ เธอคงจะไม่หลวมตัวคบคุณหมอ ‘เซ็กซ์จัด’ เป็นแฟนอย่างแน่นอนคิดมาถึงตรงนี้ริมฝีปากได้รูปก็ปรากฏรอยยิ้มน้อย ๆ เป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข เมื่อย้อนนึกถึงเรื่องราวที่รุ้งรวีเล่าให้ฟังไม่กี่วันมานี้‘พิธาพึงพอใจในตัวเธอมานานแล้ว’ นี่คือประโยคแรกที่รุ้งรวีบอกเล่า สิ่งที่เขาทำให้เธอก็คงเป็นอย่างที่ใครหลายคนอาจเรียกว่า ‘ปิดทองหลังพระ’ เป็นเครื่องพิสูจน์ได้ว่า ครั้งนี้หัวใจเธอเลือกรักคนไม่ผิดอัจจิมาไม่ได้
“ออกไประเบียงดีกว่า ตรงนี้ผมจับคุณฉีดยาไม่ถนัด” เหมือนเธอจะฟังไม่ชัดเจนระเบียงเนี่ยนะไม่ทันที่เธอจะทำความเข้าใจกับคำพูดนั้น พิธาก็ถอนแก่นกายออกมาด้วยความรวดเร็ว ช้อนเธอให้อยู่ในอ้อมอก ก้าวเท้ายาว ๆ ออกไปข้างนอก ถึงแม้ว่าจะอยู่ในสภาพล่อแหลมแต่ร่างกายของเธอก็ยังมีชุดนอนตัวบางปกปิด ส่วนเขาก็ยังสวมใส่เสื้อผ้าครบทุกชิ้น“ดะ เดี๋ยวก่อนค่ะ เราจะทำกันตรงนั้นจริงๆ เหรอ” เขาเคยบอกว่าความพิเศษของระเบียงที่เหมือนยกห้องนั่งเล่นกลางแจ้งขึ้นมาไว้บนชั้นสูงเฉียดฟ้าสร้างความตื่นเต้นให้เธอกับเขาได้ในยามที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ แต่ตอนนั้นเธอไม่คิดว่าเขาจะเอาจริงถึงมันจะมีความเป็นส่วนตัวด้วยมีกระจกที่สั่งทำขึ้นพิเศษเป็นกำแพงรอบด้าน แต่เธอก็อดรู้สึกแปลก ๆ ไม่ได้อยู่ดี ต่อให้ไม่มีคนมองมาเห็น ก็อาจมีมดมีแมลงสักตัวเห็นก็ได้“วันนี้ผมอยากเอาคุณที่ระเบียง” ใบหน้าของอัจจิมาร้อนผะผ่าว เขาก้าวขายาวๆ ออกไปยังพื้นที่ด้านนอกของเพนท์เฮาส์ในทันทีตอนนี้พายุหน้าฝนสงบลงแล้วแต่พื้นส่วนหนึ่งที่ไม่มีหลังคาปกคลุมยังชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำฝนเขาค่อยๆ วางเธอลงบนพื้น ใกล้กับกระจกสูงเท่าสองตัวคนยืนต่อกันเห็นจะได้“กระจกนี้ผมสั่งทำพิเศ
“คุณหมายถึงเรื่องอะไร” เสียงทุ้มดังขึ้นทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ก่อนที่ลิ้นสากจะกวัดรัดรึงยอดทรวงชูชันของเธออีกครั้ง“อ๊ะ! กะ…ก็ที่คุณไม่ระ…รับข้อเสนอของพ่อคุณงะ…งายคะ ซี้ดด” ลิ้นที่ตวัดยอดปทุมถันของเธอไม่หยุดสร้างความซ่านเสียวจนอัจจิมาแทบจะพูดออกมาไม่เป็นคำเรื่องที่พิธาปฏิเสธการแต่งงานกับลูกสาวรัฐมนตรีเกรียงไกรต่อหน้าแขกเหรื่อมากมายกลายเป็นประเด็นใหญ่ในวงการแพทย์ตลอดหลายวันมานี้ทั้งสองตระกูลหมายมั่นจะเป็นทองแผ่นเดียวกันเพราะเหตุผลทางธุรกิจ แต่ทุกอย่างก็ต้องถูกยกเลิกเพราะการกระทำของพิธาบนเวทีในวันนั้น ผู้ใหญ่ทั้งสองครอบครัวหมางใจกันจนเป็นเหตุให้คุณนิพนธ์เรียกให้พิธาไปพบในวันต่อมาวันนั้นเขาพาเธอไปด้วย เพราะอยากแนะนำเธอให้คุณนิพนธ์รู้จักอย่างเป็นทางการ เธอยังจดจำสายตาที่คุณนิพนธ์มองเธอได้ดีท่านมองเธอตั้งแต่ศีรษะลงไป แม้จะไม่ใช่สายตารังเกียจเดียดฉันท์แต่เธอก็แน่ใจว่าอีกฝ่ายไม่ได้มองมาด้วยความเอ็นดูบรรยากาศภายในห้องทำงานของผู้อำนวยการโรงพยาบาลขณะนั้นเต็มไปด้วยมวลอากาศแห่งความอึดอัดกระจายอยู่เต็มห้อง ตึงเครียดตั้งแต่บทสนทนาแรกเริ่มขึ้น“ฉันจำได้ว่าไม่ได้บอกให้แกพาคนอื่นมาด้วย” คุณนิพนธ์ปรายต
อัจจิมาลืมตาขึ้นมาในเพนท์เฮาส์หรูในวันที่ฝนโปรยปรายลงมาแต่เช้ามืด เมื่อคืนนี้เธอตั้งใจว่าจะกลับไปนอนที่บ้านแต่เป็นพิธาที่ไม่ยอมปล่อยให้เธอกลับ ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะไม่ได้ออกคำสั่งกับเธอแล้วแต่ความเอาแต่ใจของเขาก็ไม่ได้ลดน้อยถอยลง แต่กลับเพิ่มขึ้นทุกวัน“คุณภิม อยู่ไหนคะ” อัจจิมาไม่เห็นชายหนุ่มนอนอยู่บนเตียงจึงเดินออกมาดูข้างนอก ไม่รู้ว่าคนเป็นหมอเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนถึงนอนตื่นแต่เช้าได้ ทั้งที่เมื่อคืนนี้กว่าจะกลับมาจากโรงพยาบาลก็ดึกดื่น แถมกลับมาถึงเขายังแสดงความรักต่อเธอจนทั้งเธอและเขาต่างก็เสียน้ำกันหลายรอบเห็นพิธานั่งอยู่บนโต๊ะทำงานตัวใหญ่ เบื้องหน้ามีเอกสารวางอยู่ แต่สีหน้าดูไม่ค่อยดีนัก“ทำไมรีบตื่นจังเลยล่ะคะ น่าจะนอนต่ออีกหน่อย”“ผมนอนพอแล้ว คุณเถอะ ทำไมรีบตื่นน่าจะนอนต่ออีกหน่อย”“ฉันถามคุณนะคะไม่ใช่ให้คุณมาย้อนถาม” อัจจิมาแกล้งทำหน้างอน เห็นเธอเป็นแบบนี้เขาจึงดึงคนตัวเล็กลงมานั่งที่ตักก่อนจะหาเรื่องรังแกเธอแต่เช้า“โทษฐานที่ผมทำให้คุณโกรธแต่เช้า งั้นวันนี้ผมจะอยู่กับคุณทั้งวันเลยดีไหม”“วันนี้ฉันต้องไปทำงาน”“ไม่ต้องไป ผมลางานให้คุณเรียบร้อยแล้ว” ยิ้มกรุ้มกริ่ม“ลางาน ลาทำไมค
หรือว่าลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลที่ทุกคนพูดถึง ก็คือพิธา“ผมมีความยินดีที่จะแจ้งให้ทุกท่านทราบโดยพร้อมเพรียงกันว่า ลูกชายของผมกับหนูอรจีราลูกสาวของคุณเกรียงไกรกำลังจะเข้าพิธีวิวาห์ในอีกสองเดือนข้างหน้านี้ครับ” ทุกคนต่างปรบมมือร่วมแสดงความยินดีกับทั้งสองครอบครัวที่กำลังจะเป็นทองแผ่นเดียวกัน คงมีเพียงแค่อัจจิมาที่ต่างไปจากทุกคนเรื่องที่เพิ่งได้ยินส่งผลให้สมองของอัจจิมาหยุดการทำงานชั่วขณะ เขากำลังจะแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น!ตอนตกลงรับงานนี้เธอรู้เพียงว่าตัวเองต้องมาเป็นพิธีกรในงานประชุมสัมมนาที่จัดขึ้นโดยรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข รายละเอียดปลีกย่อยนอกเหนือจากนี้แอมมี่เพิ่งจะแจ้งเธอตอนที่มาถึงหน้างานแต่ข้อมูลที่แอมมี่บอกให้เธอรู้ตอนบรีพงานก็ไม่ได้ลงลึกว่าในงานมีใครมาบ้าง เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจ้าของโรงพยาบาลที่ทุกคนพูดถึงคือคุณนิพนธ์แม้แต่ตอนที่เธอได้ยินว่าจะมีงานวิวาห์ ระหว่างบุตรสาวของรัฐมนตรีกับลูกชายเจ้าของโรงพยาบาล เธอก็ไม่ได้เอะใจสักนิดว่าทายาทคนนั้นจะเป็นพิธา เพราะตอนที่เธอบอกเขาว่ารับเป็นพิธีกรในงาน ชายหนุ่มก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา และยังบอกอีกว่าเขาไม่ได้ถูกเชิญให้มางานนี้แปลว่าเขาจงใจป
ภายในห้องรับรองโรงแรมแห่งหนึ่ง อดีตนายแพทย์นิพนธ์ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาล ‘วิวัฒเวช’ นั่งจิบกาแฟก่อนจะรับฟังรายงานจากเลขาคนสนิท"จากที่ท่านให้ผมไปสืบ ตอนนี้คุณพิธากำลังคบหาอยู่กับผู้หญิงคนนึงครับ ชื่อจี๊ด อายุยี่สิบเจ็ดปี เรียนจบคณะบัญชีมหาฯลัยXX เคยเป็นพนักงานในบริษัทของคุณปกรณ์แต่ถูกไล่ออกเมื่อสองเดือนที่แล้วเพราะคุณปานวาดเข้าใจว่าเธอเป็นเมียน้อยคุณปกรณ์ แต่ความจริงเมียน้อยคุณปกรณ์คือน้องสาวต่างแม่ ตอนนี้เธอทำงานอยู่ที่บริษัทโฆษณาของเพื่อนคุณพิธาครับ กลางคืนเธอทำงานที่ฟลาวเวอร์ไนต์คลับในตำแหน่งรับแขกวีไอพีครับ”“มีอะไรอีกก็ว่ามา” คุณนิพนธ์สังเกตเห็นว่าเลขาคนสนิทยังรายงานเรื่องที่รู้มาไม่หมด“ผู้หญิงคนนี้เป็นลูกสาวของคนไข้โรคหัวใจที่รักษาอยู่ที่โรงพยาบาลของเราครับ ชื่อประสิทธิ์ยุห้าสิบหกปี คนไข้รายนี้คุณพิธาออกค่าใช้จ่ายให้ห้าสิบเปอร์เซนต์ของค่ารักษาในแต่ละครั้ง แต่คุณพิธาปกปิดเรื่องนี้กับผู้หญิงและครอบครัวของผู้หญิงครับ ส่วนนี่เป็นข้อมูลของคนไข้รายนั้นครับ” คุณนิพนธ์เปิดดูข้อมูลส่วนตัวของอัจจิมารวมทั้งรูปถ่ายประกอบการรายงานจากเลขาไปด้วย ก่อนจะหยิบประวัติการรักษาของ
“ผมไม่ได้ยุ่งเรื่องของสองคนนั้น คนที่ผมยุ่งด้วยคือคุณต่างหาก”สายตาของชายหนุ่มจริงจังขึ้นมาก่อนจะพูดต่ออีกว่า “ผมจะยอมให้คุณถูกคนอื่นรังแกได้ยังไง” จ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยหวังให้เธอมองเห็นความจริงใจที่เขามีให้“คุณชอบฉันอะไรในตัวฉันเหรอคะ” คราวนี้เป็นอัจจิมาที่จ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่คมบ้าง สายตาของเธอจริงจังไม่ต่างกัน“การที่เราจะรักใครสักคนมันต้องมีเหตุผลด้วยเหรอ” เขาถามในสิ่งที่เฝ้าถามตัวเองมาตลอด แต่ก็ไม่เคยได้รับคำตอบ“ก็ต้องมีสิคะ”“เหรอ งั้นคุณล่ะ ชอบอะไรในตัวผม” อัจจิมาอึ้งไปอีกครั้งเพราะไม่คิดว่าจะถูกเขาย้อนถามเธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าชอบอะไรในตัวเขา เขาเข้ามาอยู่ในหัวใจของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาชัดเจนกับสถานะคู่นอนระหว่างเธอกับเขามาโดยตลอด แต่หัวใจเธอก็เต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกครั้งที่ได้ใกล้ชิด“ว่าไง” เขาจ้องเธอก่อนจะไล่ต้อนให้จนมุมว่า “คุณตอบไม่ได้ใช่ไหม”“ตอบได้สิ ข้อแรกเลย ฉันชอบที่คุณรวยมาก ชอบที่คุณเป็นหมอ แล้วก็ชอบหน้าหล่อๆ ของคุณ ชอบร่างกายแน่นๆ ของคุณด้วย” อัจจิมาแค่อยากเอาชนะ ไม่คิดว่าพิธาจะตอบกลับมาอย่างหน้าตาเฉยว่า“งั้นผมคงต้องภูมิใจสินะ เพรา