แชร์

บทที่ 3

ผู้เขียน: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
เฉินฝานพลันตะโกนเสียงแข็ง จูต้าอันกับผู้ชายอีกสองคนถึงกับสะดุ้งตกใจ

ไอ้หมอนี่ กล้าพูดจาเสียงดังกับพวกเขา!

ภายในห้องเงียบสงบในทันใด

“เฉินฝาน!” จูต้าอันแสดงหน้าถมึงทึง “ตั้งแต่พวกเราเข้ามา เจ้าก็ทำกร่างตลอด เมื่อครู่นี้ข้าถือว่าเจ้าเพิ่งตกเขากลับมาร่างกายยังไม่หายดี แต่เจ้าอย่าทำตัวไว้หน้าแล้วไม่สนใจ ข้าขอพูดไว้ตรงนี้ ไม่ว่าเจ้าจะยอมหรือไม่ เมื่อเจ้ารับเงินไปแล้วก็ต้องทำตามที่ตกลงไว้”

ตอนที่จูต้าอันกำลังพูด ผู้ชายสองคนด้านหลังยืนขึ้นแล้ว

ผู้ชายสองคนนั้น ทั้งตัวสูงและบึกบึน

หากเกิดการปะทะขึ้นมาจริง ๆ เขาสามารถเอาตัวรอดได้ เพียงแต่ว่า……

เฉินฝานชำเลืองมองฉินเย่ว์โหรวที่ก้มหน้าก้มตาอยู่ด้านข้าง

“โหย ดูสมองข้าสิ!” เฉินฝานกุมหัวแสดงสีหน้าเหมือนเจ็บปวด “หลังจากตกเขาและฟื้นขึ้นมาข้าก็ไข้ขึ้นไม่หยุด จนป่านนี้หัวของข้าก็ยังเจ็บตื้อ ๆ ไม่หาย และลืมเรื่องต่าง ๆ ไปเยอะมาก ข้าขออภัยด้วย”

เมื่อเห็นสีหน้าของชายสามคนผ่อนคลายลง เฉินฝานพลางรีบเอ่ยถามจูต้าอัน “พี่จู ก่อนหน้านี้ข้าตกลงกับพี่เรื่องอะไรนะ!”

“หากเป็นเช่นนั้น……ก็ช่างเถอะ!” จูต้าอันส่งสัญญาณให้สองคนนั่งลง “ตกเขาฤดูหนาวแต่ไม่ถูกหมาป่าคาบไปก็นับว่าดวงแข็งมากแล้ว ข้าจะไม่เอาเรื่องเจ้าก็แล้วกัน นี่ก็ผ่านไปตั้งครึ่งค่อนวันแล้ว ข้าหิวแล้วล่ะ กินเสร็จแล้วค่อยว่ากัน”

“นี่เจ้า……” จูต้าอันเพิ่งจะนั่งลง เมื่อเห็นอาหารบนโต๊ะเล็กแล้วอารมณ์เสียขึ้นมาทันที “ทำอะไรของเจ้า!”

เฉินฝานมองกับข้าวสามอย่างตรงหน้า: หมูสามชั้นผัดพริก ยำแตงกวา เต้าหู้ทอด

แม้ไม่ใช่อาหารจานหลัก และครอบครัวนี้ก็ทุกข์ยากลำบากจนไม่อาจทำอาหารจานหลักออกมาได้ แต่นี่ก็ถือว่าเต็มไปด้วยสีสัน รสชาติและกลิ่นหอม โดยเฉพาะเต้าหู้ทอดที่ดูเหลืองกรอบ เห็นแล้วอยากอาหารขึ้นมาทันที

ความรู้สึกดีที่เฉินฝานมีต่อฉินเย่ว์โหรวมีมากขึ้นเรื่อย ๆ

รูปร่างหน้าตาก็สวย ฝีมือทำอาหารก็ยังดีขนาดนี้อีก

“กับข้าวสามอย่างนี้ข้าเป็นคนเอามา นังคนชั้นต่ำไม่มีความคิด กับข้าวสามอย่างจะพอพวกข้ากินได้อย่างไร ไข่ล่ะ ถั่วลิสงล่ะ!”

“พี่จู ที่เรือนข้าไม่มีของเหล่านี้” ฉินเย่ว์โหรวตอบเสียงสั่นและเบา นางตกใจเสียงของจูต้าอันจนไม่กล้าเงยหน้า

เดิมทีที่เรือนมีไก่ออกไข่ตัวเมียหนึ่งตัว แต่เมื่อหลายวันก่อนนายท่านบ่นว่าไม่มีเนื้อกินและบังคับให้นางฆ่าไก่กิน

“โถ ๆ” จูต้าอันส่ายหัวอย่างเหยียดหยาม “เฉินฝาน ข้าว่าเมียเจ้าใช้ไม่ได้สักคน มิสู้หาสักเหตุผลขายไปซะ จากนั้นค่อยไปรับคนที่ใช้งานได้กลับมาสักสองสามคน”

คำพูดของจูต้าอัน ทำให้ฉินเย่ว์โหรวถึงกับสะดุ้ง

เฉินฝานยังไม่ทันตอบจูต้าอัน นางก็คุกเข่าลงตรงหน้าเฉินฝานและกอดขาของเขาทันที

“นายท่านเจ้าคะ ข้าน้อยขอร้อง อย่าขายพวกเราเลยนะเจ้าคะ ข้ากับพี่ ๆ น้อง ๆ จะทำงานให้หนักและหาเงินให้มากขึ้น ให้นายท่านมีชีวิตที่สุขสบายเจ้าค่ะ”

“……”

เฉินฝานฟังเสียงร่ำไห้ขอร้องของฉินเย่ว์โหรวแล้วไม่รู้จะสรรหาคำใดมาอธิบายความรู้สึกในเวลานี้ของเขา

……ข้ากับพี่ ๆ น้อง ๆ จะทำงานให้หนักและหาเงินให้มากขึ้น ให้นายท่านมีชีวิตที่สุขสบาย!

เป็นคำพูดที่เพ้อฝันมาก

ที่นี่......ช่างเป็นเมืองที่ประหลาดมากจริง ๆ

“เจ้าร้องไห้ไปก็ไร้ประโยชน์ เฉินฝานขายเจ้าไปแล้ว” จูต้าอันชี้ไปที่ผู้ชายสองคนข้างหลัง “เห็นคนที่อยู่ข้างหลังข้าหรือไม่ พวกเขามาจากหอนางโลมอี๋ชุนย่วน ที่มาวันนี้ก็เพื่อมารับเจ้า!”

“พรึบ!”

ฉินเย่ว์โหรวทรุดลงกับพื้นในทันใด นัยน์ตาที่ลุกวาวในตอนแรก พลันเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา นางกัดริมฝีปากอย่างแผ่วเบาและไม่ยอมให้น้ำตาไหลลงมา

นางไม่ได้ร้องไห้และไม่ได้โวยวาย นางเงยหน้าขึ้นและนี่เป็นครั้งแรกที่นางกล้าสบตาเฉินฝานโดยตรง

ตามธรรมชาติของมนุษย์ เฉินฝานคิดว่าฉินเย่ว์โหรวจะทุบตีเขา ต่อให้ไม่ทุบตี อย่างน้อยก็จะเอ่ยถามอย่างเสียงดัง แต่ความเป็นจริง สิ่งเหล่านี้ไม่เกิดขึ้นเลยสักอย่าง

นางเพียงเอ่ยถามเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “นายท่าน นายท่านขายข้าน้อยแล้วจริง ๆ หรือเจ้าคะ”

“ข้า……”

เมื่อสบตากันกับแววตาไม่พอใจของฉินเย่ว์โหรวพร้อมกับฟังคำถามอันอ่อนโยนของนาง เฉินฝานถึงกระทั่งไม่รู้จะตอบกลับอย่างไร

อย่าว่าแต่ฉินเย่ว์โหรว เขาแทบอยากทะลุมิติกลับไปต่อยเจ้าของร่างเดิมหนัก ๆ สักตั้ง

ภรรยาสวยเหมือนนางฟ้า มีนิสัยอ่อนโยนนิ่งเหมือนน้ำ แต่เขากลับขายนาง หัวสมองถูกลาเตะแน่ ๆ

“เป็นเรื่องไม่จริงได้ด้วยรึ” จูต้าอันกล่าวอย่างเสียงดัง “เมื่อวันก่อน เขามาหาข้า ให้ข้าขายเจ้าให้กับหอนางโลมอี๋ชุนย่วนในราคาหนึ่งร้อยเหวิน”

“หนึ่งร้อยอีแปะไม่น่าแปลกใจเลย……”

ไม่น่าแปลกใจเลยที่เมื่อวานจู่ ๆ เขาก็มีเงินไปดื่มเหล้า แล้วยังเมาทรงตัวไม่ได้จนตกเขา

ทำไมสวรรค์ถึงไม่ทำให้เขาตกเขาจนตายไปเลย!

“นายท่าน” ฉินเย่ว์โหรวพลันนิ่งสงบจนทำให้รู้สึกตื่นตกใจ แววตาที่มองเฉินฝานก็กลายเป็นสายตาที่ว่างเปล่า คำพูดที่ลั่นออกจากปากของนางก็ดูไร้น้ำหนัก “ท่านลืมแล้วหรือ! เย่ว์โหรวยังบริสุทธิ์ หนึ่งร้อยอีแปะไม่คุ้มเสียเลย”

เฉินฝานพลันเบิกตากว้าง

บริ……สุทธิ์!!

แม้ว่าในความทรงจำจะวุ่นวายและมีไม่มาก แต่เจ้าของร่างเดิมแต่งงานกับฉินเย่ว์โหรวแล้วอย่างน้อยหนึ่งปีกว่า

หนึ่งปี ทำไมถึงยัง……

“ฮ่า ๆ คุ้มมาก!”

จูต้าอันพลันวิ่งเข้ามาและปัดเฉินฝานออกไปอย่างไม่เกรงใจ จากนั้นนั่งลงตรงหน้าฉินเย่ว์โหรว

“บริสุทธิ์รึ! ใช้ได้เลยว่ะเฉินฝาน พวกพ้องอี๋ชุนย่วน พวกเจ้าดูเอาเถอะ ฉินสามเป็นหญิงบริสุทธิ์ นางมีรูปหน้าสวย เวลาร้องไห้ก็ดูน่าสงสารจับใจ พวกแขกจะต้องชอบแน่ ไม่ได้ พวกเจ้าต้องเพิ่มเงิน เพิ่มเงิน!”

เขาพูดพร้อมกับยื่นมือจะเชยคางของฉินเย่ว์โหรว

“ปัง!”

เฉินฝานจับถ้วยบนโต๊ะขึ้นฟาดหัวของจูต้าอันอย่างแรง

ตอนนี้ร่างกายนี้เป็นของเขา และตอนนี้เขาก็เป็นเฉินฝานในกาลเวลานี้

กล้าลงมือกับผู้หญิงของเขา!

ก็จงไปตายซะ!

จูต้าอันกุมบาดแผลที่หัวพร้อมชี้หน้าเฉินฝานแยกเขี้ยวยิงฟัน “ไอ้หมอนี่ กล้าตีข้าเรอะ!”

ชายหอนางโลมอี๋ชุนย่วนสองคนยืนขึ้นพร้อมกับ

“ต้าอัน ไอ้หมอนี่เหิมเกริมเอาใหญ่ จัดการมันเถอะ!”

“ฮ่า ๆ เจ้าลองเดาว่าไอ้เฉินฝานจะร้องขอชีวิตกับต้าอันตอนไหน!”

“ถูกฟาดไปสองครั้ง!”

“ไม่ใช่ ข้าว่าครั้งเดียวก็ทนไม่ไหวแล้ว”

ชายหนุ่มสองคนยืดกอดอกเหมือนกำลังดูละครอย่างสนุกสนาน ถึงกระทั่งยืนเดากันว่าเฉินฝานจะขอความเมตตาเมื่อไหร่

จูต้าอันเดินมาตรงหน้าเฉินฝานด้วยก้าวเดียวพร้อมกล่าวอย่างหยิ่งผยอง “ไอ้หนุ่ม คุกเข่าขอร้องข้าซะ ข้าอาจพิจารณาเบามือกับเจ้า!”
ความคิดเห็น (7)
goodnovel comment avatar
Glo Thai
ชอบอยู่นะครับ
goodnovel comment avatar
Glo Thai
ก็น่าอ่านอยู่นะครับ
goodnovel comment avatar
sabading.dingda
ขอเตือนเรื่องเติมเงิน คนที่ยังไม่เติมเงินน่ะดีแล้วนะ มันอัพเดทวันละตอน นี่เลิกอ่านละ คุณเก็บเหรียญฟรีเอาดีกว่า เติมเงินไปก็ไม่ได้อ่าน ตัองรอมันอัพวันละตอน จะรำคาญหงุดหงิดเปล่าๆ เราเลิกอ่านละ รอเบื่อ จนลืมเรื่องราวเดิมละ ไม่ต่อเนื่อง ถ้าไม่พร้อมก็ไม่ควรเอามาขายนะ เสร็จซัก 80%ขึ้นไปค่อยเอามาข่ยดีกว่า
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 4

    “ขอร้องแม่เจ้าสิ!” เฉินฝานยกอีกถ้วยหนึ่งขึ้น“ปึก!”“ดูซิว่าข้าจะกล้าตีเจ้าหรือไม่ ?”“อ๊าก!” จูต้าอันที่ไม่ทันระวังตัวส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวด ต่อมาเขาพยายามจะลุกขึ้น แต่เฉินฝานไม่ให้โอกาสเขาเลย“ปึก!”“กล้าไหม!”“ปึก!”“กล้าไหม!”เขาพูดคำว่ากล้าไหมหนึ่งครั้ง ก็ฟาดจูต้าอันหนึ่งครั้งกำลังมือที่เฉินฝานฟาดลงไปหนักขึ้นทุกครั้งศีรษะของจูต้าอันกลายเป็นสีแดงอย่างรวดเร็ว เลือดไหลออกมามากขึ้นเรื่อย ๆ เขาปากแข็งในตอนเริ่มต้น แต่ภายหลังส่งเสียงร้องเจ็บปวดดังสนั่นและร้องขอความเมตตาไม่หยุดชายสองคนที่มาจากหอนางโลมอี๋ชุนย่วนวางมือลงและมองหน้ากัน ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยจูต้าอันสักคนไอ้เฉินฝานนี่ เหตุใดถึงไม่เหมือนอย่างที่รู้จักเฉินฝานที่พวกเขารู้จัก นอกจากผู้หญิงในเรือนตนเองแล้วก็สู้ใครไม่ได้เลย คำว่าอันธพาลของหมู่บ้านล้วนได้มาเพราะอยู่กับจูต้าอันและล้วนเพราะมีจูต้าอันคอยหนุนหลังทำไมตอนนี้กลับ……“ปึกๆๆ!” เฉินฝานยังทุบไม่หยุด“นายท่านเจ้าคะ นายท่าน!” ฉินเย่ว์โหรวนั่งลงข้างเฉินฝาน “หยุดตีได้แล้ว หยุดตีได้แล้ว ถ้ายังตีต่อไปเขาจะตายได้นะเจ้าคะ!”ครอบครัวไม่อาจไร้ผู้นำ หากเฉินฝานเข้า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 5

    “วืด”“ตุบ!” ธนูดอกหนึ่งเสียบตรงบานประตูเฉินฝานมองลูกธนูที่อยู่ห่างเขาไม่ถึงหนึ่งเซนติเมตรอย่างตาโต เขามีความรู้สึกเหมือนรอดพ้นเคราะห์กรรม หากธนูลูกนี้เฉียงอีกเพียงเล็กน้อย……ใคร!ใครสามหาวถึงเพียงนี้!คนสูงโปร่งรูปสวยคนหนึ่งพลันแสดงตัวขึ้นตรงหน้าเฉินฝาน“พี่สาม!”เฉินฝานยังไม่ทันได้ตอบโต้ ฉินเย่ว์โหรวก็วิ่งไปพี่สาม!ฉินเย่ว์เจียว?ในความทรงจำ ฉินเย่ว์เจียวเป็นพี่สาวแท้ ๆ ของฉินเย่ว์โหรว ภรรยาอีกคนของเขาเฉินฝานมองฉินเย่ว์โหรวอย่างละเอียดมองจากสายตาน่าจะสูงราว 170 เซนติเมตร ความสูงนี้ ในสมัยโบราณถือว่าสูงมากรูปหน้าคล้ายคลึงกับฉินเย่ว์โหรวแต่ก็มีความแตกต่างนางมีโครงหน้าชัดกว่า ร่างกายอวบอิ่มกว่าฉินเย่ว์โหรว สีผิวค่อนไปทางเหลืองข้าวสาลี ประกอบกับความสูงของนางแล้ว ช่างชวนให้รู้สึกมีความองอาจ เย้ายวนแทบทุกอิริยาบถอาจเป็นเพราะวิ่งเร็ว สีหน้าของฉินเย่ว์เจียวจึงแดงก่ำ มีเม็ดเหงื่อหยดลงจากหน้าผาก หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลง เสื้อผ้าก็เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ……เห้อ!เฉินฝานหันหน้าหนีอย่างเร็วหากพูดว่าฉินเย่ว์โหรวที่อ่อนแอแต่อ่อนโยนทำให้รู้สึกอยากปกป้อง ถ้าเช่นนั้นฉินเย่ว์เจียวท

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 6

    เมื่อมาถึงยามนี้ ฉินเย่ว์เจียวไม่สามารถพูดต่อไปได้อีก นางถอดด้ามธนูออกจากคันธนู กำไว้ในมือแน่น ขณะที่จ้องเฉินฝานถมึงทึงเฉินฝานยังรู้สึกโกรธเมื่อได้ยินคำพูดนี้ ไม่ต้องพูดถึงฉินเย่ว์เจียวเลย เขาฟังแล้วยังอยากบีบคอนายท่านคนเดิมให้ตายไปเสียฉินเย่ว์โหรวลดแขนที่กางออกลงอย่างช้า ๆ แสงในดวงตาหรี่ลงทีละน้อย ฉินเย่ว์เจียวพูดถูก ตั้งแต่เข้ามาในบ้านหลังนี้พวกนางไม่เคยได้ใช้ชีวิตอย่างสบาย ๆ เลยสักวันหลายครั้งที่นางเองก็สงสัย ความตายนั้นดีกว่าการมีชีวิตอยู่หรือไม่“น้องสี่ เจ้ามายืนข้างข้า” ฉินเย่ว์เจียวดันฉินเย่ว์โหรวไปด้านข้าง พลางชี้ด้ามธนูและคันธนูไปยังเฉินฝานอีกครั้ง“อา!” ฉินเย่ว์โหรวหลับตาไม่กล้ามองผ่านไปชั่วพริบตา“ท่าน......”ฉินเย่ว์เจียวจ้องมองเฉินฝานตรงหน้านางอย่างว่างเปล่า ในขณะนี้เฉินฝานกำลังจับมือของนางที่ถือคันธนูอยู่“เหตุใดท่านถึง ถึงได้...” ฉินเย่ว์เจียวเอ่ยขึ้นตะกุกตะกักเขาเข้ามาตรงหน้านางและจับมือนางได้รวดเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร เขาจะมีทักษะเช่นนี้ได้อย่างไรหากเขามีทักษะเช่นนี้ ฉินเย่ว์โหรวคงถูกขายไปนานแล้ว จะรอให้นางออกไปแล้วค่อยแอบขายฉินเย่ว์โหรวทำไมกัน“เย่ว์.

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 7

    หลังจากที่ฉินเย่ว์เจียวออกไปข้างนอก ฉินเย่ว์โหรวก็ยกอาหารที่เฉินฝานกินไปได้ครึ่งหนึ่งออกไปขึ้นโต๊ะ“นายท่าน ข้าน้อยอุ่นข้าวแล้ว ท่านทานเถอะเจ้าค่ะ!”พูดจบก็วางอาหารแล้วหมุนตัวจะออกไปหลังออกจากห้องหลัก ฉินเย่ว์โหรวเรียกฉินเย่ว์เจียวให้ไปกินข้าวเย็นสองพี่น้องไม่ได้เข้าไปกินอาหารในห้องหลัก พวกนางเดินเข้าไปในครัว หนึ่งคนถือหนึ่งชามกินอาหารเฉินฝานนั่งลง มองชามข้าวใบเล็กตรงหน้าเขาแล้วยิ้มอย่างจนใจ ชามข้าวนี้ของเขา กินแล้วช่างเต็มไปด้วยความพลิกผันเหลือแสนเสียจริง กินตั้งแต่เที่ยงถึงเย็นก็ยังกินไม่หมดเลยในขณะที่ยิ้มอย่างขมขื่น เฉินฝานก็เงยหน้าขึ้น อีกฟากหนึ่งของห้องครัว สีหน้าอันเจ็บปวดของสองพี่น้องฉินที่กลืนอาหารอย่างขมขื่นก็ตกอยู่ในสายตาของเขาเมื่อคิดว่าสิ่งที่อยู่ในชามของพวกนางไม่ใช่ข้าวขัดสีแต่คือผักป่า เขาก็กินไม่ลงเดิมทีเขาต้องการเรียกพวกนางมากินข้าวด้วยกัน แต่เมื่อมองดูชามข้าวขนาดเล็กบนโต๊ะแล้ว คิดอีกที ฉินเย่ว์โหรวคงกลัวว่าเขาจะ...“ตึง!”เฉินฝานกระแทกตะเกียบลงบนโต๊ะเป็นดังคาด ฉินเย่ว์โหรวที่อยู่อีกฟากของห้องครัวตกใจจนผุดลุกขึ้นยืน ฉินเย่ว์เจียวก็ยืนขึ้นตาม นางดึงฉินเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 8

    เฉินฝานย่อมฟังออกถึงความสงสัยของฉินเย่ว์โหรว เขายิ้มแล้วพูด "ไม่ต้องกังวล ข้าเป็นนายท่านของพวกเจ้านะ"ยุคปัจจุบันเขาเกิดในครอบครัวที่ยากจน จะมีงานบ้านใดที่ไม่เคยทำเล่าฉินเย่ว์โหรวยังคงไม่ขยับนายท่าน...เขา เขายิ้มให้นางจริง ๆนางกำลังฝันอยู่หรือเปล่า“เย่ว์โหรว เย่ว์โหรว เย่ว์โหรว”จนกระทั่งเฉินฝานเรียกนางเป็นครั้งที่สาม ฉินเย่ว์โหรวก็กลับมามีสติสัมปชัญญะอีกครั้ง“จะ จะจุดไฟทันทีเลยเจ้าค่ะ!” ฉินเย่ว์โหรวรีบ ใบหน้าของนางแดงเล็กน้อยเนื้อที่จูต้าอันนำมาด้วยในวันนี้ครึ่งหนึ่งมีไขมันในยุคนี้ เนื้อติดมันแพงกว่าเนื้อไม่ติดมันเฉินฝานหั่นเนื้อมันออกทีละน้อย แล้วใส่ลงในหม้อ ทอดจนออกน้ำมันกลิ่นหอมของน้ำมันผุดออกมาจากหม้อ ฉินเย่ว์โหรวก็แอบกลืนน้ำลายเต็มปากในขณะที่นางกำลังจุดไฟฉินเย่ว์เจียวซึ่งยืนอยู่ข้างกรอบประตูก็อดไม่ได้เช่นกันมันหอมมากหนึ่งปีแล้วที่ไม่เคยได้กินเนื้อสัตว์เลย สองพี่น้องรู้สึกหิวไขมันไม่เยอะ จึงกลั่นน้ำมันได้ไม่เยอะ แต่ก็ดีกว่าไม่มีเลยเฉินฝานเทเนื้อที่เหลือลงในหม้อพร้อมกับผักป่าทันทีที่ผักป่าถูกเทลงในหม้อ แสงในดวงตาของสองพี่น้องฉินทั้งก็หรี่ลงเฉินฝานไ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 9

    “นายท่าน ท่านทำของหล่นหรือ” ฉินเย่ว์โหรวเดินตามเฉินฝานแล้วถามเบา ๆ“ข้าหา...หาเจอแล้ว หาเจอแล้ว!”เฉินฝานหันกลับมาอย่างมีความสุข ในมือของเขามีของสีดำสนิทอยู่สองก้อนของสีดำนั้นก็คือ...มูล?มูล!มูลก้อนใหญ่สองก้อน มูลวัวทั้งดำและแห้งสองก้อน“เฉินฝาน” ฉินเย่ว์เจียวเรียกเฉินฝานด้วยชื่ออีกครั้ง นางปกป้องฉินเย่ว์โหรว “ท่านคิดจะทำอะไรอีก”มือของฉินเย่ว์โหรวจับชายเสื้อของฉินเย่ว์เจียวไว้แน่น ดวงตาราวกับดวงดาราของนางเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ลมหายใจสั่นเทาเมื่อเดือนที่แล้วเฉินฝานออกไปเล่นพนันและแพ้กลับมา ครั้นตื่นขึ้นมา กลางดึกเขาระบายความโกรธทั้งหมดใส่ฉินเย่ว์โหรว ด่านางที่แม้แต่อุ่นเตียงก็ทำไม่ได้ จากนั้นก็ลากนางไปที่ครัว ยัดขี้เถ้าเข้าปากนางตอนนี้เฉินฝานคงจะไม่ระบายความโกรธใส่นางอีกและยัดมูลวัวเข้าปากนางกระมัง...“เฉินฝาน ถ้าท่านทำร้ายน้องสี่ของข้าอีก ข้าจะฆ่าท่าน!”ฉินเย่ว์เจียวตะโกนด้วยความโกรธแค้นราวกับว่านางยอมตายโดยไม่ยี่หระใด ๆ ทั้งสิ้นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว นางจะไม่ปล่อยให้เกิดขึ้นได้อีกเฉินฝานส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ “เย่ว์เจียว เจ้าเป็นหญิงสาว อย่าคิดแต่เรื่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 10

    นี่มันอะไรกันเนี่ย?เฉินฝานขมวดคิ้วแน่นแล้วเอ่ยถาม “เย่ว์เจียว เจ้ากำลังพูดถึงเรื่องอะไร หรือว่าถ้าข้าหาบ ทางการจะมาจับกุมฉินเย่ว์โหรวหรือ”“หึ!” ฉินเย่ว์เจียวส่งเสียงไม่พอใจ “ทำไมถึงแสร้งโง่ สมองท่านพังไปแล้วจริง ๆ หรือไร”!!!เฉินฝานตกตะลึง หรือจะเป็นเรื่องจริงความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมมีจำกัด เขาจำเรื่องนี้ไม่ได้จริง ๆประเทศนี้มันแปลก ๆ ผู้ชายทำงานไม่ได้แล้วหรือไม่น่าแปลกใจเลยที่ผู้ชายมีน้อยเพียงนี้ในความเป็นจริง ผู้ชายในรัชสมัยต้าชิ่งสามารถทำงานได้ แล้วก็ยังถือว่าผู้ชายต้องแข็งแกร่งเพื่อความสวยงามอีกด้วยแต่ถ้าเฉินฝานเป็นฝ่ายเก็บมูลวัว ส่วนฉินเย่ว์โหรวกลับไปมือเปล่ามันคงจะผิดปกติผู้ชายในรัชสมัยต้าชิ่งมีสถานะสูงส่ง รู้สึกว่าผู้หญิงเกิดมาเพื่อรับใช้ผู้ชาย หากเฉินฝานหาบ ฉินเย่ว์โหรวเดินกลับมือเปล่า เช่นนั้นนางจะต้องถูกผู้อื่นสาปส่งนับไม่ถ้วน จากนั้นอาจถูกฟ้องไปยังทางการโดยผู้ชายในหมู่บ้าน ถึงยามนั้นจะต้องมีบทลงโทษกฎหมายอาญากว่ายี่สิบข้อหาด้วยร่างกายปัจจุบันของฉินเย่ว์โหรว ไม่มีทางที่จะสามารถต้านทานการลงโทษเจ้าหน้าที่ได้เฉินฝานไม่รู้อะไรเลย นอกจากกังวลว่าจะมีคนฟ้องท

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 11

    ไม่ใช่ความจริงใช่ไหม!เหม่อลอยเพียงครู่เดียว ฉินเย่ว์เจียวก็ขยับมาอยู่ข้างเขาแล้ว นางเปิดผ้าห่มครึ่งหนึ่งแล้วห่มไว้บนตัวเฉินฝานอบอุ่นและมีกลิ่นหอมกลิ่นหอมจากตัวฉินเย่ว์เจียวพอ ๆ กับนิสัยดุดันของนางเข้มข้น เร่าร้อน!เฉินฝานถึงกระทั่งอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจผู้ชายแผ่นดินนี้ช่างมีความสุขจริงๆ !ช่วงเวลาที่เฉินฝานประทับใจ ข้างกายของเขาพลันว่างเปล่า……รู้สึกตัวอีกที ฉินเย่ว์เจียวลงจากเตียงเตาไปแล้วเวลาผ่านไปหลายวินาทีกว่าเฉินฝานจะรู้สึกตัว เมื่อครู่นี้ฉินเย่ว์เจียวเพียงแค่ช่วยให้ความอบอุ่นกับผ้าห่มเท่านั้นเขาคิดว่า……พูดตามตรง เขารู้สึกผิดหวังอยู่ข้างในเล็กน้อย“แค่ก ๆ !”“ยังอุ่นไม่พอรึ” ฉินเย่ว์เจียวหันกลับมาถาม“พอแล้ว ๆ!” เฉินฝานรีบตอบพูดจบ ความจริงแล้วข้างในรู้สึกเสียดายเล็กน้อยเฉินฝาน กลัวอะไรวะ ต้องพูดว่าไม่พอสิเตียงเตาใหญ่มาก สองพี่น้องตระกูลฉินคงจะนอนอีกฝั่ง แต่เวลาผ่านไปพักใหญ่ เฉินฝานก็ไม่เห็นสองเงาของพี่น้องตระกูลฉินพลันมีเสียงแซก ๆ ดังมาจากพื้น เฉินฝานชะโงกหัวตามที่มาของเสียงสองพี่น้องตระกูลฉินปูหญ้าอยู่ตรงมุมที่ใกล้เขาที่สุด พวกนางม้วนตัวอยู่บนเตียงหญ้

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1094

    เฉินฝานเป่าปืนในมือ พูดกับหญิงชุดสีน้ำเงินต่อ“แม่นางคิดอยากจะสังหารข้า เรื่องนั้นเป็นไปไม่ได้ อีกอย่าง ข้าคิดว่าเจ้าคงถูกตาเฒ่าหวงโถวหลอกแล้วแน่ๆ ข้ากับเขาไม่เคยสัญญาหมั้นหมายใดๆ กันมาก่อน”“เจ้าในตอนนั้นเป็นแค่เด็ก ย่อมไม่ได้ทำสัญญาหมั้นหมายกับเจ้า” หญิงชุดสีน้ำเงินพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด“ไม่ได้ทำกับเจ้าพ่อและเจ้าแม่ของข้าด้วย” เฉินฝานตอบด้วยความมั่นใจเช่นเดียวกันพ่อแม่เจ้าของร่างเดิม เป็นเพียงคู่สามีภรรยาธรรมดาทั่วไป พวกเขาไม่มีทางรู้จักเซียนเจี้ยนหวงที่เป็นถึงผู้มีชื่อเสียงของบู๊ลิ้ม“พ่อกับแม่เจ้าไม่ได้ทำสัญญา ทว่าพ่อบุญธรรมของเจ้าทำ”“พ่อบุญธรรม?”เฉินฝานถึงกับพูดไม่ออก เขามีพ่อบุญธรรมตั้งแต่เมื่อใด เหตุใดเขาจึงไม่รู้ฟังคำพูดของเฉินฝาน หญิงชุดสีน้ำเงินขมวดคิ้วเล็กน้อย “ดูเหมือนเจ้าเองก็ไม่อยากแต่งงานกับข้า เช่นนั้นก็ดีเหมือนกัน ขอเพียงเจ้าฉีกสัญญาหมั้นหมายต่อหน้าข้า เช่นนั้นการหมั้นหมายระหว่างเรา ถือว่าจบสิ้น”“สัญญาหมั้นหมาย? ข้าไม่เคยพบเจอมาก่อน” เฉินฝานตกตะลึงเล็กน้อย หญิงชุดสีน้ำเงินเป็นเพียงเด็กสาววัยสิบเจ็ดที่วางตัวเป็นผู้ใหญ่เท่านั้น นางไม่ได้เจ้าเล่ห์เพทุบาย ส

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1093

    ถึงอย่างไรหญิงชุดสีน้ำเงินก็เป็นคนมีฝีมือ นางหลุดออกจากพันธนาการของเฉินฝานอย่างรวดเร็ว“ข้าจะสังหารท่าน!” หญิงสาวตะโกนขึ้น เหาะขึ้นกลางอากาศพุ่งตัวไปยังดาบที่ถูกเฉินฝานยิงทิ้งเมื่อครู่ จากนั้นเก็บดาบขึ้นมาแล้วพุ่งตัวไปหาเฉินฝานการจู่โจมครั้งนี้ของหญิงชุดสีน้ำเงิน รวดเร็วกว่าครั้งก่อนหน้า เพียงชั่วพริบตา นางก็ปรากฏตัวตรงหน้าเฉินฝานแล้วหากเฉินฝานไม่มีดาบในมือ เกรงว่าจะกลายเป็นวิญญาณภายใต้ดาบของหญิงสาวไปนานแล้ว“ปั้ง!”หญิงสาวถอยหลังอีกครั้งเพราะถูกเฉินฝานยิงหญิงสาวที่ถูกเฉินฝานโต้กลับ ตีลังกากลับหลังกลางอากาศสามตลบ สุดท้ายร่อนลงพื้นอย่างแผ่วเบาหญิงสาวชุดสีน้ำเงินที่ยืนอยู่บนพื้นดิน แขนเสื้อของนางยังคงพลิ้วไหวไปตามแรงลม“แม่นางช่างตัวเบาจริงๆ” เฉินฝานอดไม่ได้ที่จะพูดแต่คล้ายหญิงสาวไม่ได้ยินคำชมของเขาอย่างไรอย่างนั้น นางที่มือถือดาบ แววตาสงสัยระคนตกใจ จับจ้องปืนขนาดเล็กในมือเฉินฝาน “อาวุธของท่านคืออะไร?”ครั้งแรกที่เฉินฝานยิง นางไม่ได้ใส่ใจเท่าใดนัก นางคิดว่าตนประมาทเกินไป นางยังคงคิดว่าสำหรับตนแล้วการสังหารเฉินฝาน เป็นเพียงเรื่องขี้ประติ๋วนางไม่ได้โอหัง แต่นางเป็นคนเก่งจร

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1092

    “ท่านคิดว่าพูดเช่นนี้แล้ว ข้าจะไม่สังหารท่านหรือ?”หญิงชุดสีน้ำเงินเสียงอ่อนหวาน แม้จะพูดจาข่มขู่ แต่กลับไม่น่ากลัวเลยสักนิด“แม่นาง แม้เจ้าจะทำตัวเหมือนผู้ใหญ่ แต่เจ้าก็เป็นแค่เด็กน้อยคนหนึ่ง!” เฉินฝานพูดด้วยรอยยิ้ม“ผู้ใดเป็นเด็ก!”ปลายดาบขยับลึกไปด้านหน้าอีกเล็กน้อย เสื้อตัวนอกของเฉินฝานถูกดาบของหญิงชุดสีน้ำเงินแทงทะลุแล้ว คำพูดของเฉินฝานทำให้นางโมโหยิ่งนัก “ปีนี้ข้าอายุสิบเจ็ดแล้ว ข้าไม่ใช่เด็กแล้ว”“อื้ม!” เฉินฝานพยักหน้า “อายุสิบเจ็ดไม่เด็กเท่าไรแล้ว หญิงสาวหลายคนอายุสิบเจ็ดก็มีลูกแล้ว แม่นาง หญิงสาวเช่นเจ้าตีรันฟันแทงไปเพื่อการใด กลับไปมีลูกกับสามีไม่ดีกว่าหรือ”“คนขายแคว้นค้าชาติเช่นท่าน ปล่อยให้ยาพิษของแคว้นหลู่มาทำลายแคว้นต้าชิ่ง ต่อให้เรามีสัญญาหมั้นหมายกัน ข้าก็ไม่มีวันแต่งงานกับท่าน!”“...หมั้นหมาย?” เฉินฝานชะงัก “ข้าเคยหมั้นหมายกับเจ้าเมื่อใดกัน? เจ้าเป็นใคร?”“วันนี้ข้าจะสังหารท่าน!”สตรีชุดสีน้ำเงินไม่ตอบคำถาม ร้องตะโกนเสียงดัง มือขาวดั่งหยกจับดาบแน่นแล้วพุ่งมาด้านหน้า...“ติ้ง!”“ตึ้ง !”ดาบของหญิงชุดสีน้ำเงินถูกปืนของเฉินฝานยิงจนร่วงหล่น“ปั้ง!”เสียงปืน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1091

    “ใต้เท้า ท่านอ๋อง พวกท่านอย่าเข้าไปในแคว้นต้าชิ่งสุ่มสี่สุ่มห้า อันตรายเจ้าค่ะ!” หงอิงไล่ตามไปเวลาเพียงหนึ่งจิบน้ำชา หงอิงก็ไล่ตามพวกเฉินฝานทันกล่าวให้ถูกต้องคือ หงอิงไม่ได้ไล่ตามทัน แต่เฉินฝานและอ๋องตวนยืนนิ่งไม่ยอมเดินมองเฉินฝานและอ๋องตวนที่ยืนอยู่ไม่ไกล หงอิงถอนหายใจเบาๆโชคดี เฉินฝานยังฟังที่นางห้ามปราม ทุกคนในเมืองลู่ตูกำลังรอเขาด้วยไอสังหาร หากพรวดพราดเข้าไปในเวลานี้ อันตรายมากจริงๆ“ใต้เท้า ท่านอ๋อง พวกท่านรอข้าที่นี่ก่อน ข้าจะเข้าไปปูทางให้พวกท่านเรียบร้อยเสียก่อน พวกท่านค่อยเข้ามา” หงอิงขี่ม้าผ่านหน้าเฉินฝานและอ๋องตวนไป“หงอิง เจ้าคิดว่าพวกข้าไม่อยากไปหรือ? มีคนขวางทางพวกเราอยู่” เสียงดังฟังชัดราวกับฟ้าคำรามของอ๋องตวนดังขึ้น“ฮุยเอ๋อร์ ฮุยเอ๋อร์”สิ้นเสียงอ๋องตวนไม่นาน ด้านหน้าก็มีเสียงร้องของลาดังขึ้นเวลานี้ หงอิงเพิ่งพบว่าทางด้านหน้า มีลาตัวหนึ่งยืนอยู่ บนหลังลามีสตรีชุดน้ำเงินนั่งอยู่มองจากรูปร่างของสตรีคนนั้น เป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง อายุไม่มากนัก อย่างมากก็แค่สิบหกถึงสิบเจ็ดปีเท่านั้น หญิงสาวในชุดเสื้อคลุมสีน้ำเงิน สวมหมวกปีกกว้างบดบังใบหน้า หมวกปีกกว้างของ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1090

    เฉินฝานเปิดผ้าม่านมองหงอิงด้านหน้าด้วยความสงสัย ตลอดทางมานี้ คนที่รีบร้อนที่สุดก็คือนาง ไฉนเมื่อเข้าใกล้เมืองลู่ตูแล้ว นางกลับไม่ให้เขาเข้าไป“ใต้เท้า!”หงอิงขี่ม้าไปด้านข้างเฉินฝาน อธิบายสถานการณ์ตอนนี้ที่ต้าชิ่งมองว่าเขาเป็นศัตรู“ใต้เท้า ฝ่าบาทยังรับสั่งอีกว่า รอให้ฝ่าบาทจัดการความโกลาหลในต้าชิ่ง มั่นใจว่าท่านจะปลอดภัยให้ได้ก่อน ข้าน้อยจึงจะสามารถพาท่านกลับต้าชิ่งได้”“เจ้าพูดอันใดของเจ้า เจ้ากล้าขวางทางพวกเรางั้นรึ?”อ๋องตวนยกขาถีบขาคู่ ง้างหมัดพุ่งไปทางหงอิง หงอิงกระโดดลงหลังม้าอย่างคล่องแคล่ว เพื่อหลบหมัดของอ๋องตวนหงอิงยังไม่ทันทรงตัวได้ดี อ๋องตวนก็ง้างหมัดออกไปอีกรอบ...“ปึก!”“โอ้ย!”อ๋องตวนถูกสวนกลับ ม้าที่เขาขี่ตกใจจนวิ่งพล่านไปทั่ว โชคดีที่อ๋องตวนมีทักษะการขี่ม้าขั้นสูง มิเช่นนั้นตอนนี้เขาคงจะถูกสะบัดตกหลังม้าไปแล้วคนที่สวนกลับอ๋องตวนไม่ใช่หงอิงแต่เป็นเฉินฝาน“เสี่ยวฝานเจ้า...”อ๋องตวนมองเฉินฝานด้วยสีหน้าตื่นตกใจ เขารู้ว่าเฉินฝานใช้ปืนได้เก่งกาจ มิคิดว่าทักษะทางร่างกายก็เก่งกาจปานนั้นเช่นกันเขามีพลังเทพมาตั้งแต่กำเนิด การโจมตีของเขา คนอื่นทำได้เพียงหลบเลี่ยง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1089

    แต่งงานถูกคนแล้ว ได้รับการยอมรับจากราษฎรทั้งแคว้น โอวหยางน่าหลันรู้สึกโชคดีหาสิ่งใดเปรียบเทียบมิได้แน่นอนว่า คนที่ตื่นเต้นดีใจที่สุดคืออ๋องตวน เขายืนลูบเคราตนเองภาคภูมิใจกับผลงงานตนเองเขามิได้มีความสามารถอันใด ทว่าเขาเลือกลูกเขยได้ดี ฮ่า ๆ ๆ ๆ !ตอนที่ขึ้นรถม้า เฉินฝานก็เตรียมใจปลอบประโลมโอวหยางน่าหลันไว้แล้ว ดูจากภายนอกแล้วนางที่คนที่เข้มแข็งตรงไปตรงมา แต่ความจริงในบรรดาภรรยาของเฉินฝานนางเป็นคนที่ติดสามีที่สุดคนหนึ่ง ติดยิ่งกว่าฉินเย่ว์โหรวเสียอีก“เอ๋?”หลังจากที่ขึ้นรถม้าไปแล้ว เฉินฝานมองโอวหยางน่าหลันที่ปล่อยมือและยืนอยู่ด้านนอกรถม้าอย่างว่าง่ายด้วยความประหลาดใจอย่างมากเฉินฝานกำลังจะถามหยอกล้อนางว่าเบื่อเขาแล้วหรือกระไร ทว่าโอวหยางน่าหลันก็ชิงพูดก่อน“ท่านพี่ฝาน พี่รีบกลับไปเถอะ ราษฎรต้าชิ่งต้องการพี่ ยิ่งไปกว่าพี่น้องตระกูลฉินก็ต้องการพี่เช่นกัน”น้ำเสียงของโอวหยางน่าหลันอบอุ่นเกินคาด“รีบไปเถอะ!”ระหว่างที่พูด โอวหยางน่าหลันก็หยิบแส้ของคนขับรถม้าฟาดลงไปที่ตัวม้าอย่างรุนแรงทันที“ฮี่ ๆ!”ม้าที่ถูกแส้ม้าตี ร้องเสียงดังวิ่งไปด้านหน้าจึงทำให้รถม้าที่เฉินฝานนั่งเคลื่อนท

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1088

    เฉินฝานมิยอมให้โอวหยางน่าหลันไปต้าชิ่งกับเขา ทว่าก็ยังยืนกรานจะไปส่งออกจากวังหลวงช่วงเวลาที่ประตูวังเปิดออก...“ลูกเขยที่แสนดีของข้า!”อ๋องตวนตะโกนเสียงดังเป็นคนแรกด้านนอกวังหลวงมีราษฎรคุกเข่าอยู่ด้านนอกมากมายสุดลุกหูลูกตาเมื่อเฉินฝานออกมา ก็มีเสียงเกรียวกราวดังขึ้นทันที่“ส่งเสด็จใต้เท้าขอรับ!”“รอคอยให้ใต้เท้ากลับมาแคว้นหลู่โดยเร็ว!”เรื่องที่เฉินฝานจะกลับต้าชิ่งไปแพร่กระจายไปเหล่าราษฎรแล้ว เมื่อเหล่าราษฎรได้ยินว่าเฉินฝานจะกลับต้าชิ่ง ก็รีบหยุดทำงานตรงหน้า รีบมาส่งเสด็จที่ด้านนอกประตูวังตลอดระยะเวลาที่เฉินฝานมาอยู่ที่นี้ แคว้นหลู่ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ไฟไหม้ใหญ่ครั้งนั้นเผาทำลายป่าไม้แคว้นหลู่เกินกว่าแปดในสิบ ทำลายหนทางทำมาหากินของราษฎรแคว้นหลู่ส่วนใหญ่ ตอนที่ทั้งแคว้นหลู่เข้าสู่สภาวะสิ้นหวัง เฉินฝานก็ปรากฏตัวขึ้นมิใช่ทุกคนที่เชื่อว่าเทพเจ้าพิโรธ ทว่าคนที่สิ้นหวังส่วนใหญ่ล้วนเอาความเดือดดาลไปลงที่เฉินฝานเฉินฝานกลับไม่กลัดกลุ้มไม่โมโห เขาแบกรับความกดดันอันใหญ่หลวง ภายใต้สายตาความแค้นเคืองของเหล่าราษฎร เดินเท้าไปดับไฟในแค้วนหลู่เมืองแล้วเมืองเล่า และเขามิ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1087

    “เจ้าไปบอกองค์หญิงให้ข้า วันนี้ข้าไม่เข้าท้องพระโรงแล้ว จำเป็นต้องกลับต้าชิ่งทันที!”เฉินฝานถอดชุดขุนนางด้วยความรวดเร็ว ในขณะเดียวก็ออกคำสั่งกับผู้ดูแลวังต้าชิ่งเกิดเรื่องใหญ่หลวงจริง ๆ ข่าวที่หงอิงมาบอกทำให้รู้สึกหวาดกลัวสิบวันก่อน สายน้ำที่ไหลจากแคว้นหลู่ไปที่ต้าชิ่งให้เหล่าราษฎรต้าชิ่งอุปโภคบริโภคอย่างเป็นทางการ มิคิดว่าหลังจากที่ดื่มน้ำจากแคว้นหลู่ไปแล้ว ราษฎรต้าชิ่งส่วนใหญ่ล้วนเจ็บป่วยไม่สบาย รุนแรงถึงขั้นมีบางคนเสียชีวิตตอนนี้ราษฎรของต้าชิ่งทั้งหวาดกลัวและกลัดกลุ้ม ข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วว่า แคว้นหลู่จงใจใส่ยาพิษลงไปในแหล่งน้ำเพื่อที่จะทำลายล้างต้าชิ่งให้สิ้นซากเมื่อข่าวลือกระจายออกไปเรื่อย ๆ เฉินฝานก็ตกเป็นเป้าในการกล่าวโทษอีกครั้งกล่าวว่าเฉินฝานจงใจ ตอนนี้เขาเป็นอัครเสนาบดีแคว้นหลู่และยังเป็นพระราชบุตรเขยของโอวหยางน่าหลัน เขาร่วมมือกับโอวหยางน่าหลันเพื่อที่จะสังหารราษฎรส่วนใหญ่ของต้าชิ่งเปิดทางให้แคว้นหลู่ยึดดินแดนต้าชิ่งเมื่อแคว้นหลู่ยึดเขตแดนต้าชิ่งได้แล้ว เฉินฝานก็จะฉวยโอกาสขึ้นเป็นจักรพรรดิทันทีข่าวลือนี้เกินความเป็นจริงไปเรื่อย ๆ มินานนักก็กระจายไปทั่วต้าชิ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1086

    คนแก่คนนี้คือฝูป๋อ คนที่เคยช่วยเฉินฝานดับไฟที่เมืองตงเจียวในตอนแรก เดิมทีเขาไปที่เมืองตงเจียวเพื่อจะไปหาลูกชายคนเล็ก เพิ่งกลับมาเมื่อวาน มิคิดว่าเมื่อเข้าเขตวังหลวงก็พบว่าพวกเหมียวเหลียงจื้อกำลังจะกระโดดหน้าผาและได้ยินมาว่าเฉินฝานจะเดินทางมาจัดการ เขาจึงให้หลานคนโตพาเขามาที่นี้ทันที“ดี ๆ!” ฝูป๋อพยักหน้าหงึก ๆ “โชคดีของข้าที่ได้เจอใต้เท้า ตอนนี้ข้าสบายดีเป็นอย่างมาก!”เฉินฝานกำลังจะพูด ทว่าก็ถูกฝูป๋อชิงพูดตัดบทไปอีกแล้ว“พวกเด็กเปรต ช่างมิรู้จักผิดชอบชั่วดีเสียจริง!” ฝูป๋อยกไม้เท้าชี้ไปที่ฝูงชนด้านหน้าเขาฝูป๋อค่อนข้างมีอำนาจในกลุ่มฝูงเหล่านี้ ฝูป๋อตีพวกเขาก็ยังไม่มีใครกล้าต่อต้าน“มีความรู้อันน้อยนิด ก็กล้าพูดช่วยพวกเดียวกันเองแล้วรึ? พวกเจ้ารู้หรือว่าสิ่งใดเรียกว่าช่วยพวกเดียวกันเอง?”“ขุนนางเหล่านั้นตายไปแล้ว นอกจากทำให้พวกเจ้าคลายความเคียดแค้นลงไปได้เล็กน้อย แล้วมันทำให้ชีวิตต่อจากนี้ของพวกเจ้าดีขึ้นงั้นรึ? ก็ยังคงจะต้องใช้ชีวิตอดมื้อกินมื้อด้วยความยากลำบากทุกวันมิใช่หรือกระไร?”“ตอนนี้ใต้เท้าให้ขุนนางเหล่านั้นสร้างความชอบชดเชยความผิด พวกเขาจะทุ่มเทแรงกายคิดหาทุกวิธีทางให้พว

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status