Share

2/2 สวมรอย

last update Last Updated: 2024-12-18 15:51:20

ฉู่ซีเย่คล้ายคิดคำนวณไว้อย่างดี ไม่ให้จุดคลายก่อนโจรจะมา

เหยาอี้เหยาหลับตาแสร้งว่าหมดสติไปแล้ว ปล่อยให้คนมัดมือนางแล้วโยนใส่รถม้า พวกโจรดูเบิกบานใจเมื่อคิดว่าสามารถจับตัวองค์หญิงแห่งต้าหย่งได้ โดยไม่รู้เลยว่านางคือตัวปลอมเท่านั้น

เส้นทางที่ไม่คุ้นเคยและขรุขระทำนางเนื้อเขียว เหยาอี้เหยาไม่ส่งเสียงจนนางถูกหิ้วไปทิ้งไว้ในห้องขัง เครื่องประดับนางถูกริบไปหมด แม้แต่ปิ่นเงินของท่านแม่

ห้องขังเย็นชื้นนัก เหยาอี้เหยานอนบนพื้นโคลนเหม็นฉุน นางลืมตาเมื่อเสียงคนย่ำเท้าเดินห่างออกไปแล้ว

เวลานั้นฟ้าสาง ความสว่างเผยให้เห็นห้องสี่เหลี่ยม ซึ่งมีคนอยู่ด้วย เป็นหญิงสาวจากเมืองชงและเมืองอื่นๆ ที่ถูกจับมาเช่นกัน

พวกนางดูหวาดกลัวและหิวโหย เกาะกลุ่มกันอยู่ที่มุมห้อง พร้อมจ้องมองชุดของเหยาอี้เหยาด้วยอาการสั่นเทา

“หนาวรึ”

พวกนางพยักหน้า ผ้าบนตัวไม่สามารถที่จะเรียกได้ว่าชุด เหยาอี้เหยาจึงถอดเสื้อคลุมซึ่งฉู่ซื่อจื่อเป็นคนซื้อให้ แบ่งให้กับพวกนาง รวมทั้งยังยินดีที่จะถอดเสื้อตัวนอกอีกชั้นให้พวกนางสวม ตอนนี้นางจึงเหลือเพียงชั้นในและเสื้อนอกอีกชั้นที่ไม่ค่อยกันหนาวนัก

“อันนี้ให้เจ้า” เสื่อผุพังชิ้นหนึ่งถูกหยิบยื่นมาให้เหยาอี้เหยา นางไม่รังเกียจและรับมาด้วยความซาบซึ้งใจ ก่อนจะนอนหลับบนไปบนเสื่อ ไม่กี่ชั่วยามต่อมา ยามเฝ้าคุกก็มาเคาะประตู ต้อนให้พวกนางทั้งหมดห้าคน เดินทางไปยังทางมืดๆ

“เดินให้มันเร็วๆ หน่อย!”

พวกนางถูกมัดติดกัน เหยาอี้เหยาอยู่ในลำดับแรก นางพึ่งสังเกตว่าตนเองไม่ได้สวมรองเท้า ไม่รู้หายไปตอนไหน ครั้นเหยียบย่างเท้าไปบนพื้นเย็นๆ นางจึงรู้สึกชาไปหมด

คบไฟที่จุดไว้ข้างผนังสั่นไหว เส้นทางราวกับไม่มีที่สิ้นสุดจนกระทั่งพวกนางถูกนำมายังห้องโถงขนาดใหญ่ เสาค้ำสลักทองคำ ข้าวของเครื่องใช้ภายในหรูหราราวกับเขาคือราชา เหยาอี้เหยาถูกบังคับให้คุกเข่า ห้ามเงยหน้ามองคนเบื้องหน้าซึ่งเหล่าโจรเรียกเขาว่า ‘จี๋เฉวียน’

บรรยากาศภายในครึกครื้นอย่างอึมครึม นางรำซึ่งร่ายรำราวกับเทพธิดาไร้อารมณ์สนุกสนาน พวกนางเพียงร่ายรำเพื่อไม่ให้จี๋เฉวียนสั่งฆ่าพวกนางเท่านั้น

“พอแล้ว”

จี๋เฉวียนบอกให้พอ ทั้งนางรำและนักดนตรีจึงหยุดในทันที เหล่าพี่น้องในหุบเขาโจรของเขานั่งชันขาอยู่บนโต๊ะ จ้องมองเด็กสาวในชุดที่ดูก็รู้ว่าแบ่งไปจากองค์หญิงแห่งต้าหย่ง ก่อนจะเลื่อนสายตามามองเหยาอี้เหยา

ในบรรดาพวกนาง เหยาอี้เหยามีรูปร่างที่เล็กบอบบางที่สุด นางสามเสื้อสีอ่อนลายดอกไม้ ผมที่เกลาขึ้นปล่อยปอยให้เคลียใบหน้ายิ่งเสริมให้นางดูคล้ายตุ๊กตาดินเผา

ชาติกำเนิดของนางทำให้นางโดดเด่นงดงามแม้จะอยู่ในวัยที่ยังเยาว์และใบหน้าสกปรกมอมแมม

“ให้เดา ดูเหมือนเจ้าจะเป็นองค์หญิงแห่งต้าหย่งสินะ เหตุใดจึงเด็กปานนี้” จี๋เฉวียนลงแรงไปมากเพื่อให้ได้ตัวองค์หญิงแห่งต้าหย่งมาเป็นเมียเพื่อแก้แค้นฉู่ซีเย่ แต่นางเด็กนัก ทว่าไม่เป็นไร เอามาเลี้ยงให้โตก่อนก็ได้

เหยาอี้เหยาไม่ตอบ นางคิดว่าพูดให้น้อยที่สุดจะดีกว่า

“องค์หญิง มีมารยาทหรือไม่ ข้าถาม เหตุใดท่านไม่ตอบเล่า หรือถือตัวว่าเป็นองค์หญิง ไม่สนทนาพาทีกับโจรเช่นข้า”

“ท่านเข้าใจผิดแล้ว ข้าน้อยเพียงแต่เกรงกลัวท่านจนพูดไม่ออก” นางไม่ได้โป้ปดเลย จี๋เฉวียนเป็นคนโฉดโดยแท้จริง เขามีรูปร่างสูงใหญ่เฉกเช่นชาวแดนเหนือมองโกล ใบหน้าซึ่งแบนใหญ่มีร่องรอยบาดแผลตรงแก้มเสริมให้ดูน่าเกรงขาม

“โอ้ เช่นนั้นหรอกรึ” จี๋เฉวียนหัวเราะ เหล่าพี่น้องจึงหัวเราะตาม “องค์หญิง ท่านมีนามว่าอะไร”

เหยาอี้เหยารู้เพียงว่านางต้องสวมรอยเป็นองค์หญิง

“หย่งเยี่ยน แล้วท่านเล่า มีนามว่าอะไร” แม้ไม่อยากสวมรอยเป็นองค์หญิง แต่ฉู่ซีเย่พูดถูก นางต้องทำให้พวกโจรรู้คิดว่านางคือองค์หญิง ถึงจะมีชีวิตรอดได้

“จี๋เฉวียน” เขาตอบ ปกติคนทั่วไปไม่กล้าสบตาเขาเท่าใดหรอก แต่เหยาอี้เหยากล้าสบตาและตอบโต้เขาด้วยท่าทีธรรมชาติ ไม่ได้ดูหยิ่งยโสหรือหวาดกลัวใดๆ

น่าสนใจนัก…

“องค์หญิง คืนนี้เรามาเล่นเกมอะไรหน่อยดีหรือไม่” จี๋เฉวียนลุกจากที่นั่ง เท้าของเขามีกลิ่นเหม็นรุนแรงราวกับเนื้อเน่า จนหญิงสาวทุกคนต้องทำหน้าพะอืดพะอม เรื่องนี้จี๋เฉวียนรู้ดี เขาจึงจงใจเดินเข้ามาใกล้ให้พวกนางได้กลิ่นอย่างชัดเจน

“เกมอะไรรึ” เหยาอี้เหยาได้กลิ่นเน่าที่ชวนให้วิงเวียนและอยากอาเจียน แต่นางเก็บอาการและสีหน้าเอาไว้ เพราะจี๋เฉวียนฆ่านางแน่ หากแสดงสีหน้าออกไป

ความเฉลียวฉลาดนางทำจี๋เฉวียนพึงใจอย่างมาก

“เกมของข้าง่ายมาก หากพวกเจ้าตอบได้ดี ข้าจะละเว้นชีวิตให้ แต่ถ้าตอบไม่ดี ข้าจะฆ่าทิ้ง”

จี๋เฉวียนออกปล้นในแถบแดนเหนือและนอกด่าน เขามีร่างกายใหญ่โตและไม่เคยพ่ายศึก แต่ครึ่งปีก่อนเขาออกปล้นแล้วปะทะกับฉู่ซีเย่ เป็นครั้งแรกที่เขาพ่ายแพ้และต้องเสียที

ท่ามกลางหิมะเย็นเยียบ จี๋เฉวียนต้องสูญเสียนิ้วเท้าทั้งหมดจากการกัดของหิมะและเกิดอาการติดเชื้อทำให้เท้าของเขามีแผลเน่าเหวอะหวะ จนถึงตอนนี้ก็รักษาไม่หายดี เท้าของเขาจึงส่งกลิ่นเหม็นเน่าราวกับศพออกมาตลอด

“เชิญถาม”

จี๋เฉวียนบอกให้เหยาอี้เหยารอก่อน เขาจะถามนางเป็นคนสุดท้าย เพราะจะจัดการกับเหล่าหญิงสาวที่เป็นไส้ศึกให้คนอื่นจนกองโจรต้องพบความพ่ายแพ้ “เจ้า ตอบมาสิว่าเท้าของข้ามีกลิ่นเหม็นหรือไม่”

หญิงสาวคนแรกที่ถูกถามโกหก “มะ…ไม่เหม็นเจ้าค่ะ”

จี๋เฉวียนสั่ง “ฆ่า ข้าไม่ชอบคนโกหก”

เหยาอี้เหยาหลับตา เสียงกรีดร้องดังขึ้นชั่วครู่หนึ่งก่อนที่เสียงจะเงียบลง จี๋เฉวียนถามหญิงสาวคนต่อไป นางคงได้บทเรียนจากคนแรกจึงตอบด้วยความสัตย์จริง

“มะ…เหม็นเจ้าค่ะ”

“ฆ่า”

เหยาอี้เหยาหลับตา ไม่กล้ามอง

“เจ้าเล่า”

หญิงสาวคนต่อมาช็อกจนพูดไม่ออก จี๋เฉวียนสั่งฆ่าเพราะนางไม่ตอบ ส่วนหญิงสาวอีกคนพยายามหนีจึงถูกฆ่าเลือดสาดกระเซ็นมาถูกตัวเหยาอี้เหยาจนชุ่ม ภายในชั่วครู่สั้น รอบกายของเหยาอี้เหยาก็มีแต่ศพและเลือดเหม็นคลุ้ง

จี๋เฉวียนเดินมาหยุดลงตรงหน้านาง เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเหี้ยม

“องค์หญิง เท้าของข้ามีกลิ่นหรือไม่”

เหยาอี้เหยากำมือแน่นเพื่อระงับอาการสั่นเทา นางฉลาดพอที่จะรู้ว่าจี๋เฉวียนไม่ได้ต้องการคำตอบ เขาเพียงอยากหาเหตุผลเพื่อฆ่าคนเท่านั้น

ไม่ว่าจะตอบอะไร ก็ต้องถูกฆ่า…

ทางเดียวที่นางจะรอดคือตอบเหมือนไม่ได้ตอบ เพื่อยืดเวลาออกไป

“ข้าไม่สบายจึงไม่ค่อยได้กลิ่นนัก ท่านรออีกสองสามวันให้ข้าหายดีก่อน ค่อยถามข้าได้หรือไม่” เหยาอี้เหยาตัวแข็งทื่อ เมื่อลายนิ้วสากกร้านกุมลำคอนางไว้ นางคิดว่านางคงถูกบีบคอจนตายแน่ แต่จี๋เฉวียนปล่อยนางในที่สุด

“สมกับเป็นองค์หญิง คำตอบของเจ้าถูกใจข้ายิ่งนัก” จี๋เฉวียนตัดเชือก “เอาองค์หญิงไปขัง ดูแลให้นางกินอิ่มนอนหลับ รอให้นางหายดีแล้ว ข้าจะถามนางใหม่ด้วยตัวเอง”

เหยาอี้เหยากลับมาอยู่ที่ห้องขัง ครู่ต่อมานางอาเจียนจนหมดไส้หมดพุง

กิ่งไม้ไหวเมื่อลู่หมิงโดดข้ามกำแพงลงมาบนพื้นหิมะ ร่างสูงเคลื่อนไหวอยู่ข้างซอกกำแพงในยามรุ่งสาง ซ่างเจวี๋ยชักกระบี่ออกมา เสื้อคลุมตัวยาวสะบัดไปด้านหลัง ลู่หมิงเบี่ยงกายหลบ อาการบาดเจ็บยังผลให้เขาถูกซ่างเจวี๋ยควบคุมได้โดยง่าย

“แม่ทัพซ่าง ท่านเกลียดชังข้าหรือไร”

ปลายกระบี่คมวาววางพาดอยู่บนลำคอ สายตาซ่างเจวี๋ยหวานแต่เฉียบคมนัก เขามองเห็นรอยหมึกที่เปื้อนนิ้วมือของราชทูตลู่เป็นอันดับแรก บ่งบอกว่าคนผู้นี้พึ่งเขียนจดหมายและส่งจดหมายให้ใครบางคน

ซ่างเจวี๋ย “มีอะไรที่เจ้าปิดบังข้าอยู่ใช่หรือไม่”

“เจ้าแอบสอดแนมข้ารึ” ลู่หมิงเอ่ยถาม ไม่ได้หวั่นเกรงต่อความเย็นที่อาจบั่นคอเขาได้ในชั่วพริบตา

“คงคล้ายกับที่เจ้าสอดแนมแม่ทัพกงจิ้งกระมัง” เดิมลู่หมิงบาดเจ็บจากเมื่อครู่อย่างมาก ทว่าเขาเพียงรักษาตัวลวกๆ แล้วมาเตร็ดเตร่ในซอกกำแพงเช่นนี้ ซ่างเจวี๋ยไม่สงสัยเขาได้หรือ “บอกข้ามาว่าเจ้ามาทำอันใดที่นี้ มิเช่นนั้นข้าคงต้องลงมือหนักแล้ว”

“เจ้าอยากรู้ว่าข้ามาทำอันใดตรงนี้ ข้าเองก็อยากรู้เช่นกันว่าเจ้ามาทำอันใดที่นี่” ลู่หมิงใช้ปลายนิ้วดันปลายกระบี่ออกไป เป็นเวลาเดียวกันกับที่แม่ทัพกงจิ้งควบม้าผ่านไป ซ่างเจวี๋ยที่อยู่สูงกว่ามองเห็นได้ในทันที เนื่องจากเขาตามแม่ทัพกงจิ้งมาตลอดทาง

แปลกยิ่ง แม่ทัพกงทิ้งคำสั่งห้ามเคลื่อนไหวส่งเดชแล้วบอกจะไปเมืองเสินหยางเพื่อขอความช่วยเหลือจากไท่จื่อ แต่ที่ซ่างเจวี๋ยเห็น คือแม่ทัพกงกำลังไปจิงหลิง

“ลู่หมิง เจ้ารู้อันใดกันแน่ บอกข้ามา”

“องค์หญิงหายไป”

“ข้ารู้ ถูกพวกโจรจับไปพร้อมอี้เหยาอย่างไรล่ะ ข้าละอยากเอากองทัพไปถล่มพวกโจรให้สิ้น”

ลู่หมิงส่ายหน้าว่าไม่ได้ “ไม่ได้ ถ้าเจ้าทำเช่นนี้ องค์หญิงจะเสื่อมเสียเกียรติยศ”

“ไม่จริง องค์หญิงจะเสื่อมเสียแน่หากเรายังไม่ทำอันใดสักอย่าง ข้าไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเหตุใดต้องรอ ในเมื่อเราไปช่วยองค์หญิงและอี้เหยาได้ทันที”

“ไม่มีองค์หญิงให้เจ้าช่วย”

“เจ้าว่าอะไรนะ”

“พระองค์หายตัวไปนานแล้ว”

“เจ้ารู้ได้อย่างไร ลู่หมิง เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น หากเจ้าพูดส่งเดช ระวังหัวจะหลุดจากบ่า”

“ซ่างเจวี๋ย ข้าจะเปิดใจคุยกับเจ้า ความจริงข้าเป็นสายของไท่จื่อ พระองค์ทรงทราบว่าองค์หญิงเจ็ดจะทรงสร้างปัญหาแน่ จึงส่งข้ามา แต่องค์หญิงร้ายกาจนัก ทรงหนีไปเองคนเดียวในระหว่างทาง เพราะมั่นใจว่ากงจิ้งกับฉู่ซื่อจื่อต้องไม่กล้าปริปาก ข้าเองก็ต้องปิดปากเงียบไว้ เกรงว่าถ้าความจริงถูกเปิดเผย จะฉีกหน้าราชวงศ์เป็นชิ้นๆ รวมทั้งการเจริญสัมพันธไมตรีในครานี้ คงจบสิ้นแน่”

“เหลวไหล ยิ่งเป็นเช่นนี้ยิ่งเหลวไหล เจ้ากำลังบอกว่าเราต้องปล่อยให้อี้เหยารับเคราะห์เพื่อปกป้องเกียรติขององค์หญิงงั้นรึ!”

“จะมีคนตายเรือนหมื่นซ่างเจวี๋ย เจ้าเข้าใจไหมว่าเรื่องนี้เป็นเหตุก่อสงครามระหว่างราชวงศ์กับชาวแดนเหนือได้”

จิงหลิงอยู่ห่างจากเมืองโจวอี้นับพันลี้ ต้องใช้เวลาเดินทางเป็นสัปดาห์ หากควบม้าเร็วโดยไม่หยุดพักจะถึงภายในสองสามวันแต่นั้นนานเกินไป กงจิ้งจึงทิ้งม้าเมื่อมาถึงทะเลสาบ เขาจะล่องแพไปเมืองจิงหลิงเพื่อพาองค์หญิงหย่งเยี่ยนกลับมา

แต่กงจิ้งพบคนผู้หนึ่งที่นั้น

ร่างสูงในชุดสีอ่อนยืนอยู่บนแพ กงจิ้งคุกเข่าปลดดาบออกมาวางข้างหน้า สำนึกดีในความผิดที่ตนได้ทำและปกปิด

“คารวะไท่จื่อ! กระหม่อมไม่ได้ความ ตายหมื่นครั้งก็ไม่พอชดใช้ ขอพระองค์ทรงโปรดลงโทษ!”

หย่งสวินเก็บจดหมายหลังเข้าใจเรื่องราวทุกอย่าง ก่อนจะเอ่ยให้แม่ทัพกงลุกขึ้น “แม่ทัพกง ความผิดของเจ้าที่ปล่อยให้อาเยี่ยนหายไปค่อยสะสาง ตอนนี้เจ้าบอกข้ามาก่อนว่านางอยู่ที่ใด”

“เรียนไท่จื่อ ฉู่ซื่อจื่อสืบได้ความว่าองค์หญิงเจ็ดทรงอยู่ที่เมืองจิงหลิงพ่ะย่ะค่ะ”

“เช่นนั้นไปตามนางกลับมา”

Related chapters

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   2/3 สวมรอย

    ห้องขังสำหรับเหยาอี้เหยาเป็นเรือนหลังหนึ่งที่ปิดตาย นางได้รับเสื้อผ้าชาวเผ่าที่กันหนาวได้ดีและอาหารหนึ่งสำรับรสชาติของอาหารสมกับการเป็นอาหารแห้ง เนื้อวัวเหนียวจนกัดไม่ขาด ทั้งยังเหม็นหืนจนกินไม่ลง หญิงรับใช้นอกด้านนามว่าอามู่ จึงไปแอบตุ๋นน้ำแกงมาให้นางหนึ่งชามน้ำแกงอุ่นๆ รสชาติกลมกล่อมทำให้เหยาอี้เหยาพอจะคลายความตื่นกลัวและอบอุ่นขึ้นมาบ้างอามู่แม้จะพูดภาษาฮั่นไม่ได้ แต่นางดูแลเหยาอี้เหยาอย่างดี เห็นนางเครียดก็จุดกำยานกลิ่นหอม ทั้งยังเฝ้าอยู่ไม่ห่างพร้อมฮัมเพลงกล่อมเด็ก ความจริงใจของอามู่ทำให้นางผ่อนคลายและหลับไปได้บ้างทว่ากลางคืนเหยาอี้เหยาฝันร้าย นางเห็นภาพคนตายรายล้อม นางจึงวิ่ง ด้านหลังได้ยินเสียงอึกทึก ครั้นหันกลับไปมองก็เห็นจี๋เฉวียนที่ใบหน้าบิดเบี้ยวกำลังไล่หลังมา นางตกใจจนสะดุดล้ม มีดเล่มยาวที่จี๋เฉวียนยกขึ้นฟาดลงมาบนตัว แล้วนางก็ตื่นขึ้นบนเตียง“ไม่นะ!”เหยาอี้เหยารู้ตัวว่าเมื่อครู่เป็นแค่ฝันร้าย แต่นางกลัว หัวใจเต้นแรงและเหงื่อผุดพราวเต็มใบหน้า ยิ่งปิ่นของท่านแม่ไม่อยู่กับนาง นางก็ไม่รู้จะสงบใจได้อย่างไร“อามู่!” เหยาอี้เหยาร้องคำเดียว อามู่ที่นอนอยู่ด้านนอกรีบผลักประตูเป

    Last Updated : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   3/1 เข้าหา

    “ท่านแน่ใจหรือ องค์หญิงทรงสิ้นพระชนม์แล้ว” สีหน้าท่าทางของจี๋เฉวียนบ่งบอกว่าเขาแน่ใจ องค์หญิงเจ็ดทรงสิ้นพระชนม์ที่เมืองจิงหลิง ส่วนสาเหตุยังไม่เป็นที่เปิดเผย“สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง” ต้องเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นเป็นแน่“ไท่จื่อแห่งต้าหย่งกำลังมา ชาวเมืองข้างเคียงส่งข่าวขบวนรถม้ามาหลายวันแล้ว ธงที่โบกสะบัดเป็นขององค์รัชทายาทไม่ผิดแน่”“ฉู่อ๋องมีท่าทีอย่างไรบ้าง จะยกทัพกลับมาหรือไม่” รัฐหลู่มีกองทัพเป็นของตนเองเพื่อปกป้องเมือง ทว่าเพื่อกันเสียงคนครหากบฏจึงตั้งทัพอยู่รอบชายแดน ไม่ยกเข้ามาในเมือง“ฉู่อ๋องไม่กลับจากแนวหน้า ทว่ามีการรายงานความเคลื่อนไหวของทัพเหนือของคุณชายฉู่” การเคลื่อนกำลังพลของกองทัพแห่งรัฐหลู่อึมครึม แนวคุ้มกันทอดยาวรักษาการณ์จรดแนวหน้าของด่านนอกเมือง“จะเกิดสงครามหรือ” การสิ้นพระชนม์ขององค์หญิงที่เมืองจิงหลิงมีน้ำหนักมากพอให้เกิดสงคราม ราชวงศ์ต้าหย่งย่อมต้องการคำตอบจากแดนเหนือว่าเหตุใดองค์หญิงถึงสิ้นพระชนม์ คิดแล้วเรื่องนี้ก็พลอยให้เหยาอี้เหยาคิดถึงเรื่องเมื่อสามปีก่อน ตอนนั้นราชวงศ์ต้องหาคำตอบให้ชาวเมืองโจวอี้ที่ต้องเสียเจ้าเมืองไป แต่หาคำอธิบายอันใดไม่ได้ ชดใช้อย่างไร

    Last Updated : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   3/2 เข้าหา

    วันนี้อากาศหนาวแต่ไร้หิมะโปรยปรายฉู่ซีเย่ผู้คุ้นชินกับอากาศเป็นอย่างดีจึงไม่ได้สวมใส่อาภรณ์กันหนาว สวมเพียงเสื้อตัวนอกสีครามลายเมฆา เกลาผมด้วยปิ่นหยกร่างสูงแม้ยังอยู่ในวัยเยาว์กลับให้กลิ่นอายองอาจเหนือสามัญ นัยน์ตาคมที่หลุบลงดูสงบท่ามกลางหุบเขาที่กิ่งก้านโรยราในยามจำศีล ฉู่ซีเย่คล้ายหลับใหลไปในห้วงเวลาเหล่านั้นกระทั่งการมาถึงของชายผู้หนึ่ง ดาบคมวาวแหวกผ่านอากาศคล้ายอยากทักทาย ฉู่ซีเย่ขยับตัวอย่างเกียจคร้าน กระบวนท่าเข้มแข็งแต่ไร้จิตสังหาร เขาพลิกกายหลบพร้อมลืมตาขึ้นมาเอ่ยปาก“ท่านจงใจลอบสังหารข้าหรือ?”“มิกล้าๆ ข้าไหนเลยจะกล้าทำเรื่องเช่นนั้นกัน” ‘ฉู่ซีห่าว’ แย้มยิ้ม เสือกส่งดาบราวกับอยากทักทายลูกพี่ลูกน้องคนสนิทอย่างแนบชิด แล้วหยุดมือเมื่อเล่นพอประมาณแล้ว “ฝีมือเจ้าก้าวหน้าขึ้นมาก กลับไปข้าจะไปเรียนท่านปู่ แต่ยังไงเจ้าก็ยังเตี้ยกว่าข้าอยู่ดี”“ท่านปู่สบายดีหรือไม่” ฉู่ซีเย่ยืนใกล้ผาศิลา เวลานี้เขาสูงน้อยกว่าฉู่ซีห่าวหนึ่งช่วงศีรษะ รูปร่างแบบบางกว่าสักหน่อยเมื่อเทียบกับแม่ทัพหนุ่มซึ่งบึกบึนสมชายชาตรี“มีข้าอยู่ ท่านปู่ย่อมสบายที่สุด เจ้าวางใจเถิดอิ่นจื่อ ข้าไม่มีทางปล่อยให้ท่านปู่

    Last Updated : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   3/3 เข้าหา

    เหยาอี้เหยาพยายามรักษาสีหน้าสงบเอาไว้เมื่อกงจิ้งกับจางลี่กลับมาแล้ว“ฉู่ซื่อจื่อพูดอันใดกับเจ้าบ้าง”“เขาอนุญาตให้ข้าอยู่ที่จวนได้ ทั้งยังกล่าวยินดีต้อนรับ”“ง่ายเช่นนี้เลย” คนอย่างฉู่ซีเย่ ใช่ว่าใครก็สั่งได้“ก็ไม่ง่ายนัก เขาคงมีแผนรับมือแล้วเป็นแน่” ไม่มีทางที่ฉู่ซีเย่จะไม่รู้ว่านางคือสายของไท่จื่อ สายตาของเขาบอกนางว่าเขารู้ดี แต่เกียจคร้านที่จะปฏิเสธจึงเล่นตามบทไปเท่านั้น“ฉู่ซื่อจื่อสติปัญญาเหนือสามัญ เขาย่อมรู้แน่อยู่แล้ว”“แล้วแผนนี้จะได้ผลหรือ ข้าว่า…” เหยาอี้เหยากำลังจะเสนอแผนการอื่นที่นางไม่ต้องเสี่ยงตาย แต่เวลานั้นเอง เสียงม้าด้านนอกจวนพลันดังขึ้น นางฟังจากเสียงบดของล้อกับพื้นหินแล้ว ไม่ได้มาคันเดียวเสียด้วยจวนสกุลฉู่ ไม่ใช่สถานที่ซึ่งคนทั่วไปจะแวะเวียนมาเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ แต่เป็นสถานที่และอาณาเขตปกครองส่วนบุคคล แล้วต้องเป็นผู้ใด ถึงได้มาเยือนในเวลาเช่นนี้“ใครมากัน”เหยาอี้เหยาปีนขึ้นโต๊ะเพื่อดูขอบกำแพง เรือนหลังนี้อยู่ห่างจากกำแพงไม่มาก จึงพอมองเห็นความเป็นไปด้านนอกกำแพง นางยืดตัวขึ้นเห็นหลังคารถม้าที่คุ้นตาตั้งแต่เมื่อสามปีก่อน “รถม้าของเจ้าเมืองฉู่มาอยู่ที่นี้ได้ยังไง”

    Last Updated : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   4/1 ข้าจะควักเครื่องในเจ้า

    ฉู่ซีเย่ยิ้ม พูดจาเสแสร้งกันไปหลายสิบตลบ ในที่สุดหย่งสวินก็พูดในสิ่งที่ต้องการออกมาแล้ว ทุกอย่างเป็นเหมือนที่เขาคาดการณ์เอาไว้ตั้งแต่ต้น หย่งสวินต้องการครอบครองเมืองโจวอี้ผ่านทางฉู่กวงเยี่ยน หลังจากแผนส่งองค์หญิงเจ็ดมาเป็นทองแผ่นเดียวกันล่ม“ไท่จื่อทรงคิดรอบคอบ ขนาดเรื่องของเมืองโจวอี้ของเรา ท่านก็คิดไว้แล้วว่าต้องจัดการอย่างไร เป็นข้าเสียอีก ที่นึกไม่ถึงเรื่องนี้”หย่งสวินฟังออกว่ากำลังถูกแดกดัน แต่เขายังยิ้มแย้ม “เจ้าอาจฟังแล้วรู้สึกว่าข้าก้าวก่ายมากไป แต่ฉู่ซื่อจื่อ บ้านเมืองไร้ผู้ปกครองยากจะเจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคง วันหนึ่งวันใดหาถูกพวกนอกด่านไร้อารยะบุกโจมตี ใครเล่าจะปกป้องราษฎร ที่ข้าพูดเมื่อครู่เป็นเพราะหวังดีทั้งนั้น อีกอย่างข้าไม่ได้คิดตั้งตัวเป็นผู้ปกครองเอง แต่ให้คนในสกุลเจ้ามาช่วยเหลือ ทุกอย่างยังเป็นของสกุลฉู่ รอวันหน้าทุกอย่างเรียบร้อย ย่อมส่งคืนตำแหน่งให้ผู้สืบทอดตัวจริง”ฉู่ซีเย่ถาม ใบหน้าแสดงอารมณ์เท่าที่จำเป็น “พูดมาถึงตรงนี้ ในใจท่านคงมีคนที่เหมาะสมแล้วกระมัง”ตั้งแต่จัดการองค์หญิงเจ็ดที่ใช้งานไม่ได้ ไปจนถึงรวมกองทัพมากดดันฉู่ซีเย่ หย่งสวินปลุกระดมปั่นป่วนทุกอย่างเพ

    Last Updated : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   4/2 ข้าจะควักเครื่องในเจ้า

    “ดื่มซะ ไม่เช่นนั้นข้าจะควักเครื่องในเจ้ามาตุ๋นน้ำแกงกิน”ฉู่ซีเย่พูดอย่างเย็นยะเยือก ไม่มีวี่เเววล้อเล่น“ข้าดื่มแล้วเจ้าค่ะ กินบัดเดี๋ยวนี้” เหยาอี้เหยายกจอกเหล้าขึ้นจรดริมฝีปาก กลิ่นเฉพาะของสุรารสเลิศแทรกผ่านอากาศเข้าสู่จมูก ทว่าในตอนนั้นเอง นางกลับพึ่งนึกขึ้นมาได้ว่ายาพิษที่ไท่จื่อหย่งสวินให้นางกินนั้น ต้องหลีกเลี่ยงสุราช่วงระยะแรก ไม่เช่นนั้นอาการจะกำเริบขึ้นมาได้จนตาย“เหตุใดไม่กิน” ฉู่ซีเย่ถามเสียงเรียบ “หรือเจ้าแอบใส่ยาพิษให้ข้าจริงๆ”เหยาอี้เหยาคุกเข่าโดยพลัน นางสั่นสะท้านทั้งจากความหนาวเย็นและสายตาของฉู่ซีเย่ที่ทิ่มแทงยิ่ง “ไม่มีทางเจ้าค่ะ ข้าน้อยไม่มีความกล้าที่จะทำเช่นนั้นกับท่านแน่นอน เพียงแต่ข้าน้อยไม่เคยดื่มสุรา อีกทั้งสุราของท่านยังเป็นสุราชั้นเลิศ ข้าน้อยเลยไม่กล้าแตะต้อง”ไท่จื่อหย่งสวินให้นางกินยาพิษเพื่อป้องกันนางหลบหนีหรือหักหลังพระองค์ในภายหลัง ยาพิษนั้นเป็นแมลงคุณไสยที่มีชีวิต พระองค์จึงสั่งไว้ว่าในช่วงระยะแรกของการย้ายแมลงเข้ามาในตัวนาง นางต้องหลีกเลี่ยงอาหารบางจำพวกและสุรา ไม่เช่นนั้นยาระงับแมลงคุณไสยจะไม่ได้ผล เนื่องจากตัวแมลงไม่คุ้นชินกับร่างใหม่รอจนพ้นเดือ

    Last Updated : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   4/3 ข้าจะควักเครื่องในเจ้า

    เหยาอี้เหยาฟื้นจากพิษไข้ในวันถัดไป ซึ่งเป็นวันกำหนดการเดินทางของฉู่ซีเย่พอดี นางร้อนใจเพราะก่อนหน้านี้ไท่จื่อหย่งสวินบอกนางไว้ว่าให้นางติดตามฉู่ซีเย่ ทำให้เขาโปรดปรานนางให้ได้ แต่ถ้าหากฉู่ซีเย่ลงใต้ไปเมืองหลวง นางก็จะเสียโอกาสในการใกล้ชิดเขานางจึงรีบลุกขึ้นจากเตียงนอนแต่รุ่งสาง แต่งตัวแล้วรีบไปพบเขาแม้จะยังไม่หายดีเรือนของฉู่ซีเย่แยกตัวห่างจากทุกเรือน นางใช้เวลาพักใหญ่กว่าจะเดินถึงเรือนบูรพา แจ้งเจตนากับจินเฟยว่านางต้องการพบฉู่ซีเย่ จินเฟยบอกให้นางรออยู่ด้านนอกก่อน เขาจะไปเรียนนายท่านเหยาอี้เหยารอ นางรู้สึกยังอ่อนล้าอยู่บ้างจึงนั่งลงบนพื้นหิมะ ลานโดยรอบของเรือนฉู่ซีเย่ขาวโพลน ต้นไม้ซึ่งนางเดาไม่ออกว่าคือต้นอะไรยืนไร้ใบอยู่กลางลาน ภายในไม่มีสาวรับใช้ประจำเรือน จะว่าไปนางก็ไม่เคยเห็นสาวรับใช้ของฉู่ซีเย่ หรือเขาไม่มีกันนะ“คุณหนูเหยา ซื่อจื่ออนุญาตให้ท่านเข้าพบได้”“ขอบคุณเจ้าค่ะ”จินเฟยเปิดประตูให้นางเข้าไป เขารอจนนางข้ามธรณีประตูไปแล้วจึงปิดบานประตู ส่วนตนเองเฝ้าอยู่ด้านนอก ขณะนั้นฟ้ายังไม่สว่างดี ทุกอย่างยังขมุกขมัวไม่สดใสเหยาอี้เหยาเดินเข้าไปในเรือนผ่านประตูโค้งพระจันทร์ ทางเดินย

    Last Updated : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   5/1 คนลับๆ ของฉู่ซื่อจื่อ

    ท้องฟ้าด้านนอกมืดสนิทเมื่อเหยาอี้เหยาตื่นขึ้นมา ความเจ็บปวดทุกข์ทรมานที่นางเผชิญได้หายไปแล้ว ตอนนี้นางรู้สึกอ่อนล้าและกระหายน้ำ นอกจากนั้นร่างกายก็ไม่ได้เจ็บปวดที่ตรงไหนอีกจางลี่คล้ายจะได้ยินเสียงเคลื่อนไหว จึงยกศีรษะขึ้นมาจากที่นอนบนพื้นแล้วมองหา ก่อนจะพบว่าเหยาอี้เหยากำลังลุกจากตั่งเตียงด้วยความทุลักทุเลจึงเข้าประคอง“คุณหนูเหยา ท่านตื่นแล้วหรือ” หลายวันมานี้จางลี่ถูกกงจิ้งคาดโทษไว้ ฐานที่ไม่ดูแลคุณหนูเหยาให้ได้ดี นางกลัวจะถูกลงโทษส่งตัวกลับบ้านเกิด จึงได้เริ่มทำตัวเหมือนสาวใช้มากขึ้น“อืม ข้าหิวน้ำ” เหยาอี้เหยานั่งหอบ นางรู้สึกราวกับได้สูญเสียกำลังจำนวนมากไป“รอสักครู่เจ้าค่ะ ข้าน้อยจะไปต้มน้ำชามาให้ท่าน”“ไม่เอาน้ำชา ข้าอยากได้น้ำเย็นๆ” เหยาอี้เหยาไม่รู้สึกอยากน้ำชา หรือของร้อน อาจจะเพราะร่างกายภายในยังรู้สึกร้อนผ่าวนางอยากดื่มน้ำเย็นเพื่อดับกระหาย จางลี่จึงไปรินน้ำมาให้นางดื่ม สีหน้าของนางจึงสดชื่นขึ้น“จางลี่ ช่วยเปิดหน้าต่างให้ข้าได้สูดอากาศหน่อย”“หนาวนะเจ้าคะ สองสามวันมานี้อากาศเย็นลงมาก”“ข้าหลับไปนานขนาดนั้นเลยหรือ” เหยาอี้เหยามองออกไปยังหน้าต่าง ละอองหิมะปลิดปลิวเข้ามาจาก

    Last Updated : 2024-12-18

Latest chapter

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   23/2 ความรักที่สุกงอม

    ฤดูใบไม้ผลิของแดนเหนืออบอุ่นและงดงาม ต้นไม้ที่หลับใหลในฤดูเหมันต์ผลิใบอ่อน แสงแดดลอดเงาผ่านช่องว่างต้นถั่วแดงเข้ามาเป็นลำแสง ต้นถั่วแดงหงฉู่โตวเป็นไม้ยืนต้นที่ใช้เวลาหลับใหลในฤดูหนาวเช่นกัน แต่เพราะมันเติบโตในแดนใต้ที่อากาศอุ่น ก่อนจะถูกขุดล้อมแล้วย้ายขึ้นมาที่เมืองโจวอี้ ต้นถั่วแดงจึงเจริญเติบโตขึ้นมาก เหยาอี้เหยามักจะมารดน้ำต้นถั่วด้วยตนเอง นางจำได้ว่าช่วงสามปีแรก ต้นถั่วโตช้ายิ่ง จนกระถางเล็กๆ ยังโตไม่เต็ม ครั้นลงดินที่อำเภอซานถง เพียงไม่นานก็สูงเอาๆ แต่พอมาคิดดู เหยาอี้เหยาคิดว่าสาเหตุที่ต้นถั่วโตช้าตอนอยู่ในกระถาง เพราะพื้นที่ไม่พอ สารอาหารขาดแคลน พอได้รับแสงแดด สายลม พื้นที่เหมาะสม พริบตาเดียวก็สูงขึ้นจนต้องแหนหน้ามองแล้ว ร่มเงาของกิ่งก้านที่แผ่ขยายออกเป็นพุ่มงาม ใบไม้เสียดสีเบาๆ ราวกับกำลังอวยพรให้นาง เหยาอี้เหยาพนมมือรับพรด้วยน้ำตา แต่คำอวยพรบางอย่างก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้... “อยู่นี่เอง” ฉู่ซีเย่เดินเข้ามาบริเวณสวนดอกไม้ ตรงกลางมีต้นถั่วยืนต้นโดดเด่น ใต้ร่มเงามีหญิงงามในชุดผ้าคลุมตัวยาว ช่วงนี้อากาศเริ่มร้อนแล้ว กระนั้นเหยาอี้เหยาก็ยังสวมชุดฤดูหนาว “ท่านหาข้าอยู่หรือ” เ

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   23/1 ความรักที่สุกงอม

    เดินทางจากอำเภอซานถงถึงแดนเหนือใช้เวลาสองสัปดาห์ เหยาอี้เหยาตกลงใจใช้ชีวิตอยู่กับฉู่ซีเย่ บางวันหวานชื่น บางวันรักร้อนแรง หรือทะเลาะกันบ้าง เพราะนางอยากออกไปทำงานสำรวจสำมโนครัวแบบเมื่อก่อน เพราะอยู่เฉยๆ เบื่อเกินไปฉู่ซีเย่คัดค้านหัวชนฝา เขาไม่อยากให้นางออกไปทำงานข้างนอก กลัวว่าจะมีคนมาชมชอบนาง ก็นางงามขนาดนี้ มีแต่คนตาบอดเท่านั้นที่ไม่มอง“แน่ใจนะว่าท่านไม่อนุญาต”“แน่นอน”“งั้นคืนนี้ท่านไปนอนที่อื่น”ฉู่ซีเย่ลุกพรึ่บ “ไม่ได้”“ได้ ก็นี่ห้องข้า เสียก็แต่ว่าท่านจะยึดคืน” เหยาอี้เหยาลุกขึ้น นางคว้าหมอนและผ้าห่มของฉู่ซีเย่ออกไปทิ้งด้านนอกห้อง“อี้เหยา” ฉู่ซีเย่ตามไปเก็บแล้ววางที่เดิม ก่อนจะประกาศก้อง “คืนนี้ข้าจะนอนที่นี้”“ท่านอ๋อง ท่านไม่สิทธิ์รุกล้ำพื้นที่นะ ยิ่งเจ้าของไม่อนุญาต ยิ่งไม่ได้”“แล้วไง ใครสน” ฉู่ซีเย่นั่งลงบนเตียง เขาเอนนอนเอาแขนชันศีรษะ “ข้าพอใจจะนอนที่นี้”“ก็ได้ งั้นข้าจะไปนอนที่อื่น” เหยาอี้เหยาเดินไปที่ประตู ฉู่ซีเย่ดีดตัวลุกขึ้นมาขวาง เขายืนขวางประตู ก่อนจะถอนหายใจ เขายอมถอยให้นาง“เอาล่ะ พอก่อน มาคุยกันดีๆ เถอะ”“ก็ได้” เหยาอี้เหยาเห็นเขายอมถอย นางก็ถอยหนึ่งก้าว “

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   22/2 แก้แค้นสิบปีก็ไม่สาย

    “เจ้าต้องเข้าใจว่าข้าไม่อาจสบายใจได้ ตราบใดที่มีเจ้า” หย่งสวินกล่าวอย่างลำบากใจ แต่ดวงตากลับเฝ้ารอ ในใจคงจินตนาการวันที่ได้ฆ่าฉู่ซีเย่มานับครั้งไม่ถ้วน“คนที่คิดจะฆ่าข้า ไม่ตายดีสักคน” ฉู่ซีเย่ไม่กลัวว่าหย่งสวินจะเอาดาบแทงตน เพราะคนเหลี่ยมจัดอย่างหย่งสวิน ไม่เล่นในเกมที่ตกเป็นรอง“เจ้าต้องมีชีวิตอยู่นานๆ หน่อย จะได้รู้ว่าข้าจะได้ตายดีหรือไม่ แต่น่าเสียดาย คงไม่มีวันนั้นแล้ว” หย่งสวินยกดาบขึ้น ก่อนจะฟันใส่แขนขวาจนขาด เขาส่งเสียงร้องโหยหวน“ช่วยข้าด้วย! ต้าเป่ยอ๋องจะสังหารข้า!”ประตูท้องพระโรงเปิดออกในยามรุ่งสาง ฉู่ซีเย่ถูกคุมตัวออกมามุ่งหน้าไปยังลานประหารในโทษฐานลอบทำร้ายประมุขของประเทศ ความรีบร้อนในการประหารเขาทันที เป็นความต้องการของหย่งสวินคลื่นลมในวังเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างมั่นใจแน่แล้วว่าหย่งสวินจะได้เป็นฮ่องเต้องค์ต่อไป ด้วยไท่จื่อก็สิ้นแล้ว หย่งมู่ที่กลัวตายก็รีบหอบผ้าหนีเอาตัวรอด ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้ากังขาหรือคัดค้านแม้เพียงนิดที่หย่งสวินคิดจะสังหารฉู่ซีเย่อย่างไรก็ตาม การประหารใช่จะทำได้เลยในทันที เพราะความวุ่นวายจากทางฝั่งของคนสนับสนุนไท่จื่อก็ไม่ยินยอมเช่นกัน

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   22/1 แก้แค้นสิบปีก็ไม่สาย

    “เจ้าไม่เป็นห่วงชายผู้นั้นของเจ้าหรือ”ชายผู้นั้นของกงจิ้ง ย่อมหมายถึงฉู่ซีเย่ “ได้ยินว่าทางวังกำลังเผชิญหน้ากับพายุใหญ่ ไม่แน่ว่าชายผู้นั้นของเจ้า อาจพบอันตรายร้ายแรง”“ก็อาจจะพบอันตราย แต่ข้าไม่ห่วงมากเท่าไหร่” นางล้างผัก ท่าทีผ่อนคลายกงจิ้งทำหน้าประหลาด เหยาอี้เหยาดูไม่ร้อนใจเท่าที่ควร“สามปี” เหยาอี้เหยาพูดขณะมองตรงไปหน้าผืนนา “เขาใช้เวลาสามปีวางแผนแก้แค้น ดังนั้นข้าจึงเชื่อมั่นว่าเขาจะไม่เป็นอะไร ต่อให้ถูกใครคิดปองร้าย ทุกอย่างก็อยู่ในการคาดเดาของเขา”กงจิ้งมองนาง “เป็นเจ้าที่เข้าใจเขาอย่างลึกซึ้ง”“ความจริงข้าไม่เข้าใจเขาหรอก ใครจะกล้าพูดว่าเข้าใจเขาได้”กงจิ้งเห็นด้วย “ข้าแปลกใจเสมอที่รู้ว่าเขาไม่อยากเป็นหนึ่งในผู้ชิงบัลลังก์"“ข้าไม่แปลกใจ”“เพราะอะไร” ขอเพียงมีใจนึกอยาก ไม่ใช่ว่าจะชิงมาไม่ได้“เขาเป็นคนเจ้าเล่ห์และยโสโอหังมาก แต่ก็เป็นคนที่รักษาคำสัตย์ยิ่งชีพมากเช่นกัน อะไรที่รับปากคนอื่นไว้แล้ว ต่อให้ดินถล่มฟ้าแหวกออก เขาก็จะทำให้ได้ ในงานพิธีรับตำแหน่งต้าเป่ยอ๋อง เขาชัดเจนแล้วว่าเลือกแดนเหนือ”“เข้าใจแล้ว”ฉู่ซีเย่ไม่ได้ให้คำสัตย์ว่าจะไม่ชิงบัลลังก์ แต่เขาให้คำสัตย์ว่าจะตา

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   21/2 ความรักที่งอกงาม

    ต้าหย่ง...ชายเสื้อปักดิ้นทองเคลื่อนไหวเพียงบางเบา แต่สามารถทำให้ตะเกียงบนโต๊ะด้านหน้าสั่นไหว เงาใหญ่ยักษ์ที่ทอดลงหลังฉากพระที่นั่งวิจิตรงดงาม แลดูแปลกตา ยิ่งเมื่อขยับเคลื่อนไหว เงาสีดำยิ่งชวนให้รู้สึกขนกายลุกพองหย่งฉียังคงทรงงานแม้จะค่อนคืนเข้าไปแล้ว พระขนงมีมีร่องรอยยับย่น หมึกเปื้อนพระหัตถ์เป็นปื้นสีดำทั้งสองข้าง ลามไปถึงชายแขนเสื้อที่ถูกหมึกสีดำทำลายความประณีตลงหลายเท่าตัวหลังตั้งตรงเริ่มตกลู่ หย่งฉีในปีนี้อายุเพียงสี่สิบกว่าปี ทว่าความเคร่งเครียดและการตรากตรำอยู่ในตำแหน่งมายาวนานกว่าสามสิบปี ทำให้ใบหน้านั้นแก่ชรา ริ้วรอยแห่งวัยทอดแนวอยู่บนหน้าพระพักตร์หมองคล้ำ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความวิตกกังวลครั้นมองลงมาภายในโถงพระที่นั่งอันหนาวเหน็บและช่างว่างเปล่า หย่งฉีคล้ายจะยิ้มเย้ยให้ตนเองอย่างสมเพชข้าวของมากมายหล่นเกลื้อนกลาดแทบเท้า ทุกสิ่งทุกอย่างพังไม่เป็นชิ้นดี กระนั้นท้องพระโรงที่เละเทะเช่นนี้ ก็ยังเทียบไม่ได้กับภายในจิตใจของเขาหย่งฉีทิ้งพู่กันในมือ เขาส่งเสียงออกมาอย่างเหนื่อยล้าราวกับแทบขาดใจ“ขันทีโม่...”โม่หานยืนก้มหน้าตามระเบียบประเพณี ในมือมีพวงแส้ม้านุ่มสลวย ทองคำซึ่งหลอมอยู

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   21/1 ความรักที่งอกงาม

    เหยาอี้เหยา “ก่อนจะให้ท่านพูดอธิบาย อยากจะขอรบกวนให้ท่านอาบน้ำล้างตัวเสียหน่อย” กลิ่นสาบจากตัวเขาทำให้ภายในบ้านถูกกลิ่นบูดรมควัน ดังนั้นนางจึงนำเสื้อผ้าที่เขาทิ้งไว้คราวก่อนออกมาให้เขา พร้อมชี้ทางว่าสามารถไปอาบน้ำที่ลำธารใกล้กับแปลงผักจี๋ฉายได้ ทั้งยังรุนหลัง ให้เขาไปไวๆ ฉู่ซีเย่ไม่อิดออด เขาก็เริ่มได้กลิ่นจากตัวเองเช่นกัน “ได้ ข้าจะไปอาบน้ำก่อนแล้วกัน หลังจากนั้นค่อยสนทนาเรื่องที่เข้าใจผิด” ถึงอย่างงั้นในใจของเขาก็มีความน้อยใจเล็กๆ ที่นางดูราวกับไม่ใส่ใจเขาเลย จะถามไถ่สักคำว่าเดินทางมาเหน็ดเหนื่อยหรือเปล่าก็ไม่มี ยังมีตบของนางอีก แม้แรงนางจะไม่ระคายผิวหนังหนาด้านของเขา แต่จิตใจบอบช้ำยิ่ง “ท่านอ๋อง” เหยาอี้เหยากล่าวรั้ง ใบหน้าคมกระหยิ่มยิ้มย่อง แต่เมื่อหันหน้ามาก็กลบเกลื่อนให้หมดสิ้น “ว่าอย่างไรรึ” ใบหน้าของฉู่ซีเย่ในตอนนี้สามารถพูดได้คำเดียวว่าเขาสำนึกผิดแล้ว “เมื่อครู่ข้าขอโทษที่ตบท่าน ท่านเจ็บมากหรือไม่” การตบตีเขาไม่เคยอยู่ในสมองนางมาก่อน แต่พอเห็นเขามายืนอยู่ตรงหน้า แรงอารมณ์ที่ถูกกดไว้ตลอดทั้งเดือนก็ปะทุ รู้ตัวอีกทีก็ตบเขาเสียฉาดใหญ่ “แรงเท่ามดของเจ้าจะทำอะไรข้าได้กัน”

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   20/3 เป็นแค่นางอุ่นเตียง

    การมาเยือนขององค์หญิงสิบเอ็ดเปลี่ยนบรรยากาศในบ้านไปในฉับพลัน มื้ออาหารที่ควรจะผ่อนคลายมีแต่ความเงียบงัน กงจิ้งลอบมองใบหน้าเหยาอี้เหยาด้วยความเห็นใจ แต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรเช่นกันกงจิ้งจำใบหน้าซีดเผือกของนางเมื่อเขากลับมาถึงบ้านได้ รวมทั้งสีหน้าสะอกสะใจขององค์หญิง ที่ได้เหยียมหยามนาง ทำเอากงจิ้งอยากไล่ตะเพิดไปไกลๆ“...” ลุงกู่เห็นเหยาอี้เหยาเศร้า ก็ตักน้ำแกงผักให้ชามใหญ่ เขาเอ็นดูนางมาก ไม่อยากเห็นนางเป็นทุกข์ใดๆเวลานั้นเอง เหยาอี้เหยาที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามกลับหัวเราะออกมา เสียงหัวเราะของนางใสกังวาน รอยยิ้มที่เผยกว้างบ่งบอกว่านางไม่ได้เสแสร้ง แต่นางกำลังหัวเราะอย่างจริงใจ“เจ้าหัวเราะอะไร”หรือเสียใจจนเสียสติไปแล้ว?“ข้าเปล่านะ ข้าปกติดี” เหยาอี้เหยายกชามน้ำแกงดื่มจนหมดรวดเดียวก่อนจะยิ้มอีกรอบ “ข้าแค่ดีใจนะ ที่วันนี้แสดงละครได้ดี”กงจิ้งและลุงกู่พากันขมวดคิ้วเหยาอี้เหยาเฉลย “ข้ารู้เรื่องนางอยู่แล้ว แต่คิดว่าถ้าทำเป็นรู้อยู่แล้ว นางคงไม่พอใจเท่าไหร่ จนอาจจะลงไม้ลงมือกับข้าก็ได้”กงจิ้ง “แสดงว่าเมื่อครู่เจ้าแสดงละคร”“ก็ไม่ทั้งหมดนะเจ้าคะ ความจริงก็เจ็บอยู่” แรกทีเดียวนางก็แสดงละคร แต่หลั

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   20/2 เป็นแค่นางอุ่นเตียง

    “อดทนเพื่อข้าได้หรือไม่…” ฉู่ซีเย่จูบไซ้กลีบปากบางที่สั่นระริก ปลายจมูกคลอเคลียปลอบโยน เขาอดทนเพื่อให้นางเปิดใจ ต่อให้ร่างกายใกล้จะระเบิดเต็มที“งั้น…งั้นช้าๆ นะ” นางเห็นเม็ดเหงื่อผุดพราวทั่วใบหน้าเขา รวมทั้งสันกรามที่ถูกขบกัดจนนูน บ่งบอกว่าเขาเองก็ต้องอดทนมากเช่นกัน“แน่นอน…” ฉู่ซีเย่ไม่บุ่มบ่าม เขาค่อยๆ กดตัวตนเข้าไปหานางอย่างละมุนละม่อน ถึงยังงั้นเอวบางก็ขยับหนีตามสัญชาตญาณ เขาจึงรั้งเรียวขานางไว้แรงเสียดทานจากท่อนกายอันเข้มแข็งทำให้ความอ่อนนุ่มต้องเผชิญกับความท้าทายอันใหญ่หลวงความเจ็บร้าวที่แผ่ซ่านคลี่คลุมจนตัวชา ถึงอย่างนั้นจุมพิตขอโทษจากเขาก็ทำให้นางอดทน พร้อมโอบรับความแข็งแกร่งของเขาทั้งหมดสองมือเรียวเกาะไหล่หนา สองขาเรียวอยู่ระห่างเอวสอบที่กำลังเคลื่อนไหว“ท่าน…อื้อ!”“อีกนิดนะ…” เสียงเขาแหบพร่า ริมฝีปากงับไล่ติ่งหูสะอาด เขาโอบรัดคลุกเคล้ากับร่างกายนางทุกตารางนิ้ว“ได้…” นางสัมผัสได้ถึงความใส่ใจของเขา จึงเปิดเปลือยทุกความกังวลลง รองรับแก่นกายใหญ่โตเข้ามา“อี้เหยา…” แรงตอดรัดจากนางทำฉู่ซีเย่กลืนน้ำลายครั้งแล้วครั้งเล่า เขารวบเอวนางให้กดต่ำ สอดตัวเข้าไปหานาง…ไม่รุนแรง แต่นางห

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   20/1 เป็นแค่นางอุ่นเตียง

    “ซ่างเจวี๋ยไม่เป็นอะไรแล้ว “ฉู่ซีเย่พูด ถอนเข็มที่ปักอยู่ทั่วร่างออก เว้นเข็มบริเวณหน้าผาก เพื่อให้หลับต่อไป “แต่ก็อย่างที่เห็น ตอนนี้นางไม่สามารถใช้ชีวิตเร่ร่อนแล้วฝากยาไว้กับสำนักคุ้มภัยอีกแล้ว แบบนั้นไม่ปลอดภัย ดังนั้นเพื่อผลประโยชน์ของนางเอง ข้าแนะนำให้ส่งนางขึ้นเหนือ”กงจิ้งตอบ “ข้าเห็นด้วย แบบนั้นคงปลอดภัยกว่า”“แต่ทางเหนือหนาวเกินไป แม่ทัพซ่างจะไม่เป็นอะไรหรือ” ในฐานะที่เหยาอี้เหยามีประสบการณ์ตอนพิษกำเริบมาก่อน นางรู้ซึ้งดีเลยว่า อากาศหนาวของเเดนเหนือ ทำให้ทุกข์ทรมานเพิ่มอีกหลายเท่าแล้วพิษแมลงคุณไสยก็ยิ่งไม่ถูกกับอากาศหนาวอย่างยิ่ง นี่จึงอาจเป็นเหตุผลที่ซ่างเจวี๋ยเร่ร่อนไปทั่วทางใต้เพื่อลี้ภัยอากาศหนาว“เป็นแน่ แต่ไม่ตายหรอก” ฉู่ซีเย่ย้ำให้เห็นความจริง "นางจะตายถ้ายังเร่ร่อนอยู่ที่นี่มากกว่า"“ท่านอ๋อง ท่านยังไม่พบวิธีแก้พิษแมลงคุณไสยหรือ ข้าไม่อยากเห็นแม่ทัพซ่างบาดเจ็บอีกแล้ว”“เงื่อนไขของนางไม่เหมือนของเจ้า” ฉู่ซีเย่มองนาง “แต่เจ้าวางใจเถอะ แมลงในตัวซ่างเจวี๋ยว่าง่ายกว่าตอนอยู่ในตัวเจ้า ตราบใดที่กินยาเสมอไม่ขาด จะไม่ส่งผลร้ายใดๆ”เมื่อพูดถึงเรื่องกินยาอย่างสม่ำเสมอแล้ว ดูเหม

DMCA.com Protection Status