Home / All / ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน / 5/2 คนลับๆ ของฉู่ซื่อจื่อ

Share

5/2 คนลับๆ ของฉู่ซื่อจื่อ

last update Last Updated: 2024-12-18 15:57:03

เพื่อให้เหยาอี้เหยาได้มีเวลาส่วนตัว ฉู่ซีเย่จึงได้สั่งการกงซุนหลางเอาไว้ว่าให้มอบหมายงานให้คณะราชทูตจากต้าหย่งอย่างไรบ้าง โดยจัดให้กงจิ้งและลู่หมิงทำงานเอกสารอยู่ในกรมราชทูต ส่วนซ่างเจวี๋ยถูกย้ายให้ไปประจำที่กองทหารตระเวนเมือง

สำหรับเหยาอี้เหยา เพื่อให้นางสะดวกมากขึ้นในการทำงานต่างๆ ให้ฉู่ซีเย่ กงซุนหลางจึงออกหนังสือและป้ายประจำตัวให้นางเป็นราชทูตเพื่อดูงานด้านสำรวจในกรมสำรวจสำมโนครัว

รถม้าจอดลงเมื่อถึงทางเข้าตรอก ถนนคับแคบจึงไม่สามารถนำรถม้าเข้าไปได้ จากนี้จึงต้องเดินเท้าอย่างเดียว

เหยาอี้เหยาเดินไม่นานก็ถึงสำนักงานสำรวจสำมโนครัวของตรอกซ้าย ซึ่งเป็นหน่วยงานเล็กๆ มีเจ้าหน้าที่เพียงไม่กี่คน แต่ละคนเป็นคนขยันตั้งใจทำงาน

ทว่าเดือนก่อนเจ้าหน้าที่ประจำกรมสำรวจสำมโนครัวได้ลาออกไปคนหนึ่ง ทำให้ตำแหน่งงานของเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่หายไป กงซุนหลางเห็นว่าเหยาอี้เหยาต้องการอยู่ใกล้ตรอกขวาจึงให้นางมาลงงานในส่วนนี้ แม้จะอันตรายอยู่สักหน่อย

“เรียนเชิญขอรับ”

ผู้ดูแลจิ่งออกมาต้อนรับ เขาได้รับจดหมายจากกงซุนหลางแล้วว่านางจะมา จึงต้อนรับนางเข้าไปด้านในกรมสำรวจสำมโนครัวอย่างนอบน้อม ตระเตรียมห้องทำงานให้นางโดยไม่ได้ดูแคลนว่านางเป็นเด็กสาวอายุน้อย ทว่ามองนางเป็นเจ้าหน้าที่เหมือนตน

“ราชทูตเหยา ทางนี้เป็นห้องทำงานของท่านขอรับ” ผู้ดูแลจิ่งกล่าวอย่างเกรงอกเกรงใจ “ห้องอาจจะคับแคบทรุดโทรมไปสักหน่อย หวังว่าราชทูตเหยาจะพอรับได้”

“ห้องที่อยู่กับหนังสือดีที่สุดแล้วเจ้าค่ะ” เหยาอี้เหยาเดินตามไป นางกล่าวอย่างเป็นกันเองให้ผู้ดูแลจิ่ง “ขอบคุณนะเจ้าคะ ท่านคงลำบากไม่น้อยเพื่อเตรียมห้องให้”

ห้องทำงานของนางไม่ได้มีอะไรมาก มีเพียงโต๊ะและเก้าอี้ ส่วนอีกด้านเป็นม้วนหนังสือ ความจริงห้องนี้เป็นห้องเก็บหนังสือ แต่ถูกนำมาปรับปรุงเล็กน้อยให้มีที่ว่างพอให้เหยาอี้เหยาได้ใช้ทำงานในส่วนของนาง

“ไม่ลำบาก เชิญท่านตามสบาย หากมีเรื่องอันใด สามารถให้คนมาเรียนข้าน้อยได้ทันที”

“จากนี้คงมีเรื่องอีกมากให้รบกวนท่าน ผู้น้อยเหยาอี้เหยา ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะเจ้าคะ” เหยาอี้เหยาคำนับ ผู้ดูแลจิ่งโบกมือว่าไม่ต้องๆ

“เป็นเรื่องที่สมควรทำอยู่แล้วขอรับ”

“ผู้ดูแลจิ่ง วันนี้ข้าต้องออกสำรวจสำมโนครัวของตรอกซ้ายใช่หรือไม่”

“ขอรับ หลายสิบวันแล้วที่ไม่ได้ทำเพราะคนสำรวจก่อนหน้าออกไป”

“เช่นนั้นดีเลย งั้นข้าจะออกสำรวจให้” เหยาอี้เหยากระตือรือร้น

“ราชทูตเหยา ท่านเป็นคนนอกอาจไม่รู้กิตติศัพท์ของตรอกซ้าย…”

“เรียกข้าว่าเจ้าหน้าที่เหยาเถอะเจ้าค่ะ ราชทูตเหยาเป็นเพียงตำแหน่งเท่านั้น” นางย้ายมาที่นี่แล้ว ย่อมเป็นลูกน้องของผู้ดูแลจิ่ง “วันนี้ข้าจะออกสำรวจตรอกซ้าย มีตรงจุดไหนที่ข้าควรระมัดระวังหรือไม่เจ้าคะ”

“ท่านจะออกสำรวจเพียงคนเดียวเลยหรือ” ผู้ดูแลจิ่งหนักใจไม่น้อยถ้าจะให้นางออกสำรวจคนเดียว เพราะตรอกซ้ายเป็นตรอกมืดของเมือง ประชากรภายในตรอกไม่ใคร่ให้ความร่วมมือมากนัก เรื่องนี้เหยาอี้เหยารู้มาบ้าง นางจึงเตรียมรับมือไว้แล้ว

“ผู้ดูแลจิ่ง ท่านไม่ต้องห่วง ข้ามีคนมาด้วย ฝีมือเขายอดเยี่ยม” แน่นอนว่าเหยาอี้เหยาไม่ได้หมายถึงจางลี่หรือองครักษ์อย่างที่ผู้ดูแลจิ่งเข้าใจ แต่นางยังเปิดตัวเขาตอนนี้ไม่ได้

“เช่นนั้นหรือ ถ้าเช่นนั้นข้าน้อยก็วางใจ เจ้าหน้าที่เหยา ขอให้งานราบรื่น”

“คำอวยพรของท่านข้าน้อยรับไว้แล้วเจ้าค่ะ” เหยาอี้เหยากระชับกระเฉ่ง นางเปลี่ยนเสื้อคลุมเป็นชุดออกสำรวจ ติดป้ายให้ชัดเจนแล้วรวบหนังสือสำมโนครัวไว้ในกระเป๋า ความจริงงานสำรวจไม่ได้เป็นงานหนักอะไร ในหนึ่งเดือนออกสำรวจหนึ่งครั้งส่วนมากจะเป็นงานย้ายทะเบียนบ้านหรือแจ้งเกิดเเจ้งตาย แต่หลังจากนี้นางตั้งใจว่าจะออกสำรวจให้บ่อยขึ้น เพื่อไปดูแลคนลับๆ ของฉู่ซีเย่

แต่นางก็ยังมีเรื่องหนักใจอยู่หนึ่งเรื่อง คือจางลี่ไม่ยอมห่างนางเลย ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนหาไม่เคยเจอ

“จางลี่ เจ้ากลับจวนเถิด ข้าทำงานคนเดียวได้”

“คุณหนูเหยา ท่านคิดจะไล่ข้ากลับจวนหรือเจ้าคะ” จางลี่ได้รับคำสั่งลับๆ จากลู่หมิงให้มาจับตาดูนาง แลกกับเงินจำนวนหนึ่ง

“ข้าทำงานแล้ว หากให้เจ้าตามอยู่เช่นนี้ ใครจะเชื่อถือข้า” ความจริงนางที่ยังเด็กปานนี้ก็ไม่น่าจะมีใครเชื่อถือ

“แต่ข้าน้อยเป็นสาวรับใช้ของท่าน ไม่ให้ข้าน้อยตามท่านจะให้ข้าน้อยตามใคร”

เมื่อก่อนเจ้าไม่เคยตามรับใช้ข้าเลยนะ

“เจ้ายืนยันรึว่าจะตามข้า” เหยาอี้เหยากระชับกระเป๋า ก่อนจะมองออกไปด้านนอก เห็นจี๋เฉวียนยืนอยู่ด้านนอกพร้อมดาบคู่ใจ จางลี่เห็นจี๋เฉวียนถึงกับยืนตัวแข็งทื่อ เหตุการณ์ในเดือนก่อนยังติดตราตรึงใจ

“คุณหนูเหยา…ท่านไปรู้จักมักคุ้นกับคนเช่นนั้นได้อย่างไร”

“เขาเป็นเพื่อนข้า” เหยาอี้เหยาถามจางลี่ “ตกลงเจ้าจะไปด้วยไหม”

จางลี่อึกอัก เงินก็อยากได้ แต่นางกลัวคนของจี๋เฉวียน เหยาอี้เหยารู้ว่าจางลี่น่าจะถูกลู่หมิงซื้อตัวไปแล้ว จึงวางมือลงบนบ่านางพร้อมกับเสนอทางแก้ให้

“จางลี่ ถ้ามีคนถามเรื่องข้า เจ้าก็บอกเขาไปว่าข้าออกสำรวจสำมโนครัวทั้งวัน เท่านี้ก็ใช้ได้แล้วไม่ใช่หรือ”

จางลี่เป็นคนรู้ความ “เช่นนั้นข้าน้อยจะรอท่านอยู่ที่นี้ ถ้าหากราชทูตลู่มา ข้าน้อยจะส่งสัญญาณให้ท่าน”

เหยาอี้เหยายิ้ม แบบนี้สิเข้าท่า

ด้วยความร่วมแรงร่วมใจของจี๋เฉวียนที่มาเสริมบารมีให้นางจนไม่มีใครกล้าปฏิเสธการสำรวจ ทำให้งานสำรวจเสร็จอย่างรวดเร็วตั้งแต่ครึ่งเช้า แต่ตรอกซ้ายมีประชาชนที่ย้ายเข้าย้ายออกตลอด รวมทั้งมีคนไม่น้อยไม่ได้ลงทะเบียนหรือตกสำรวจเพราะหนีหาย ทำให้สำรวจยังไงก็ไม่น่าจะสิ้นสุด แต่อย่างไรวันนี้งานสำรวจก็ถือว่าผ่านไปด้วยดี

“คุณหนูเหยา ท่านคิดอย่างไรถึงจะไปตรอกขวา”

หากว่าตรอกซ้ายคือมุมมืดของเมือง งั้นตรอกขวาก็คงเป็นแหล่งรวมกากเดนของเมืองที่ไม่ควรย่างเท้าเข้าไปโดยเด็ดขาด

“ความลับ ไม่อาจเปิดเผยได้” เพื่อความปลอดภัยและกลมกลืน เหยาอี้เหยาได้เปลี่ยนชุดเป็นชุดป่านพร้อมทั้งปลอมตัวเป็นเด็กชาย

“ให้ข้าเข้าไปด้วยเถิด” จี๋เฉวียนไม่วางใจหากจะให้นางเข้าไปคนเดียว

“ไม่ได้ ท่านรออยู่ด้านนอก ครึ่งชั่วยามข้าจะออกมา” หากเรื่องนี้ถูกคนอื่นรู้เข้า นางแย่แน่

“คุณหนูเหยา ตรอกขวาไม่เหมือนตรอกซ้าย มันอันตรายยิ่ง”

“ไม่ต้องห่วง ข้ามีของดี” ฉู่ซีเย่ได้เตรียมป้ายคำสั่งเฉพาะให้นาง คนในตรอกขวาแม้จะอันตรายแต่เชื่อฟังกว่าคนตรอกซ้ายพวกเขาจะไม่ยุ่งกับคนที่ฉู่ซีเย่ได้มอบป้ายหยกชิ้นนี้ให้ เพราะนั้นหมายถึงว่าพวกเขาไม่อยากจะหายใจแล้ว

จี๋เฉวียนเคยบอกไว้แล้วว่าเขาจะเชื่อฟังนาง ดังนั้นจึงต้องเชื่อฟัง รอคอยอยู่ข้างนอก

กระโจมของฉู่ซีเย่ตั้งอยู่นอกเมืองใกล้แม่น้ำฮั่นซุย รอให้คนของฮ่องเต้หย่งฉีมาเชิญเข้าไปในเมืองด้วยตนเอง ไม่อย่างนั้นการเข้าเมืองหลวงของฉู่ซีเย่จะกลายเป็นความกระด้างกระเดื่องอย่างหนึ่ง

ฉู่ซีเย่ไม่ได้หลับ เขารู้ว่าค่ำคืนนี้จะเป็นค่ำคืนสุดท้ายที่หย่งสวินจะได้ลงมือตามแผนการ เขาจึงเตรียมรับมือไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ

กลางคืนลมโกรก ท้องฟ้ามืดสนิท กระโจมของฉู่ซีเย่ถูกโจมตี ลูกธนูไฟพุ่งโฉบเหนือท้องฟ้าราวกับดาวตก ฉู่ซีเย่สั่งให้คนของเขาถอย ปล่อยให้โลงศพได้มอดไหม้ลงท่ามกลางสายตาจากคนที่ฝ่าบาทส่งมา

“ปกป้องพระวรกายขององค์หญิง!”

ฉู่ซีเย่เหยียดยิ้ม ไม่มีพระวรกายขององค์หญิงให้ปกป้อง...เพราะนางยังมีชีวิตอยู่

คนในตรอกขวามีคุณภาพชีวิตย่ำแย่ ตามข้างทางมีคนสูบยาอยู่ตามรายทาง นอกจากนี้ยังมีโสเภณีนอนหลับอยู่หน้าบ้านในสภาพเมามาย

เหยาอี้เหยาห้อยป้ายหยก คนที่คิดจะเข้ามาทำร้ายนางหรือคิดจะมาปล้นพอมาใกล้จนเห็นป้ายหยกแล้วก็เดินหันหลังจากไปในทันที ก่อนจะส่งเสียงต่อๆ กันไปและถอยห่างราวกับนางติดโรคร้าย นางเดินไปทางไหน คนก็หลบให้

ป้ายหยกของฉู่ซีเย่ราวกับปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายได้

เรือนของคนลับๆ ของฉู่ซีเย่หาง่ายกว่าที่คิด เหยาอี้เหยาเดินมาไม่เท่าไหร่ก็ถึงแล้ว นางเคาะประตูพร้อมกับบอกชื่อแซ่และบอกเขาว่านางเป็นใคร

“ข้าเองเจ้าค่ะ ฉู่ซื่อจื่อส่งข้าน้อยมาหาท่าน” ประมาณครึ่งถ้วยชา ประตูที่ปิดสนิทก็แย้มออก เหยาอี้เหยายิ้มทักทาย นางคิดมาตลอดว่าคนที่ฉู่ซีเย่ให้นางมาดูแลเป็นบุรุษ แต่ไม่ใช่ คนที่เปิดประตูออกมาคือสตรี ทั้งยังเป็นองค์หญิง!

องค์หญิงหย่งเยี่ยน!

เหยาอี้เหยาคล้ายถูกของหนักทุบศีรษะ นางรู้สึกมึนงงจนต้องถอยหลังสองก้าว ก่อนจะสามารถเปล่งเสียงออกมาได้

“อะ…องค์หญิง”

“เข้ามาก่อนสิ”

สองเท้าของเหยาอี้เหยาเดินในจังหวะที่เนิบช้า นางรู้สึกว่าวิญญาณยังคงไม่ได้กลับมาสู่ร่าง จวบจนเดินออกมาจากตรอกขวาแล้ว นางก็ยังไม่รู้สึกตัว

ในหัวของนางมีแต่คำว่า องค์หญิงหย่งเยี่ยนยังทรงมีชีวิตอยู่…ได้อย่างไร

‘ฉู่ซื่อจื่อช่วยข้าไว้’ องค์หญิงบอกเช่นนั้น

เดือนก่อนไท่จื่อหย่งสวินพยายามสังหารหย่งเยี่ยน นางคงตายแน่ถ้าไม่ได้ฉู่ซีเย่ช่วยเอาไว้ เขาพานางมาอยู่ที่ตรอกขวาอย่างลับๆ แต่เพราะยาพิษที่ไท่จื่อใช้กับตนทำให้ทารกในครรภ์หลุดออกไป

นับตั้งแต่นั้น หย่งเยี่ยนก็พำนักอยู่ตรอกขวา รักษาชีวิตเงียบๆ

เหยาอี้เหยาคิดไปเดินไป นางไม่เข้าใจในสิ่งที่ฉู่ซีเย่ทำ รวมทั้งไม่เข้าใจด้วย ว่าเรื่องนี้เขากล้าให้นางรู้ได้อย่างไร

ในเมื่อจุดประสงค์ที่ฉู่ซีเย่ช่วยองค์หญิงมีเพียงข้อเดียว คือเพราะเห็นแก่ประโยชน์ ในอนาคตเขาสามารถใช้องค์หญิงมาเป็นเครื่องมือโค่นล่มไท่จื่อผู้ผยองขนคนนี้ได้

แต่ทำไมเขาให้นางรู้?

บททดสอบหรือ? ต้องใช่แน่ๆ เขากำลังชั่งใจว่าแท้จริงแล้ว นางเชื่อฟังเขามากแค่ไหน หากว่าเรื่องนี้ถึงหูไท่จื่อ ฉู่ซีเย่ก็มาเอาเรื่องนางได้ทันที เพราะมีเพียงนางที่รู้

เหยาอี้เหยารู้สึกหนาวเหน็บ ในใจแบกรับความลับสวรรค์ที่อาจถึงแก่ชีวิตได้

“เกิดอะไรขึ้น มีคนทำร้ายท่านรึ”

“เปล่า” นางตอบ “ข้าแค่ รู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย”

จี๋เฉวียนคล้ายไม่เชื่อแต่ก็ไม่ได้ซักไซ้

“ข้าจะกลับแล้ว จี๋เฉวียน วันนี้ขอบคุณท่านมาก ไว้วันหลังข้าจะเลี้ยงอาหารท่านเป็นการตอบแทน” เหยาอี้เหยากล่าวลานางกลับไปที่กรมสำรวจสำมะโนครัว ก่อนจะกลับจวนสกุลฉู่กับจางลี่ ตกกลางคืนสะดุ้งตื่นเพราะฝันว่าเผลอทำความลับรั่วไหลเป็นเหตุให้ฉู่ซีเย่ตามมาเอาชีวิตนาง

เบื้องหน้าของฉู่ซีเย่คือฝ่าบาท

ฮ่องเต้แห่งต้าหย่งสวมฉลองพระองค์สีทอง ลายมังกรปักดิ้นทองเสมือนมีชีวิต สายตาเฉียบแหลมมองเด็กหนุ่มจากทางเหนือเงียบๆ

กลิ่นอายของฉู่ซีเย่เหนือสามัญ นัยน์ตาเฉลียวฉลาดซ่อนคมใน ท่าทียโสไม่กริ่งเกรงต่อสิ่งใด หย่งฉีเข้าใจยิ่งที่ไท่จื่ออยากสังหารฉู่ซีเย่

พระองค์ก็ปรารถนาเช่นนั้น…

“ลุกขึ้นเถิด ไม่ต้องมากพิธีรีตอง”

“ขอบพระทัยฝ่าบาท” ฉู่ซีเย่ลุกขึ้น สองมือประสานไว้ด้านหน้า บนร่างมีบาดแผลจากธนู

“เจ้าไปเถิด เจิ้นอยากอยู่เพียงลำพังสักครู่” หย่งฉียังไม่คลายความเศร้า ยิ่งมาทราบว่าบุตรีที่รักยิ่ง กลับมาถึงต้าหย่งได้เพียงเถ้ากระดูก เนื่องจากถูกคนลอบโจมตีเผาร่าง

“ฝ่าบาท กระหม่อมมีเรื่องในใจอยากใคร่ขอความเมตตา ขอบังอาจกราบทูลขอพระราชทานอนุญาตจากพระองค์”

“เรื่องใด”

“หลังจากท่านอาเสียไป เมืองโจวอี้ไร้ผู้ปกครองเมืองมาสามปีแล้ว ผู้น้อยไม่อ้อมค้อม ยามนี้ถึงเวลาเรียกท่านพี่กลับมารับหน้าที่แล้ว ฝ่าบาทเห็นสมควรหรือไม่”

สามปีก่อนหย่งฉีอ้างความกตัญญูต่อบุพการีตามหลักคำสอนของท่านขงจื้อ ‘ไว้ทุกข์บุพการีสามปี’ ก่อนขึ้นรับตำแหน่งสืบทอด ทว่าตอนนี้ การไว้ทุกข์ได้สิ้นสุดแล้ว

“ซื่อจื่อ เจิ้นรู้ความคิดของเจ้าดี ทว่ายามนี้บุตรีอันเป็นที่รักยิ่งได้จากไป เจิ้นได้ประกาศแล้ว ปีนี้ไม่จัดงานมงคล” สักวันฉู่ซีห่าวย่อมต้องสืบทอดตำแหน่ง ทว่าหย่งฉีอยากยืดเวลาออกไปอีก

ฉู่ซีเย่ทูลต่อ “ฝ่าบาท พระองค์ทรงแน่ใจหรือว่าต้องการทำเช่นนี้”

“ความหมายของเจ้าคืออันใด”

“ไท่จื่อกำลังแทรกแซงทางเหนือ แม้กระทั่งกระหม่อมเอง ก็ต้องระเห็จออกมาถึงต้าหย่ง ฝ่าบาท ไท่จื่อทรงปรีชาสามารถจนกระหม่อมพ่ายแพ้อนาถยิ่ง วันหน้าไท่จื่อย่อมได้ครองแดนเหนือ”

“ซื่อจื่อ ความหมายของเจ้าคือไท่จื่อกำลังคิดสะสมอำนาจไว้ในมือ” หย่งฉีหรี่นัยน์ตา เรื่องนี้ทรงพอทราบมาบ้าง

ฉู่ซีเย่ปั้นหน้า คนที่อยู่สูงสุดมีอำนาจล้นมือ มองไกลๆ คล้ายแตะต้องมิได้ ทว่าคนที่อยู่บนยอดสูงเหนือทุกสิ่ง ย่อมอ่อนไหวแม้กระทั่งลมปาก คล้ายยอดไผ่ที่เอนไหวไปกับสายลมเพียงเล็กน้อย

ฉู่ซีเย่เพียงแต่ต้องใช้เวลา หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความคลางแคลงลงไป รอวันเติบโต

“ฝ่าบาท กระหม่อมไม่กล้าใส่ร้ายองค์ชายรัชทายาทแน่ หากพระองค์ไม่เชื่อ เช่นนั้นทรงทอดพระเนตรด้วยตนเอง อีกไม่นานฉู่กวงหลินจะได้ครองเมืองโจวอี้”

คนคอยชักใยฉู่กวงหลินคือไท่จื่อ ดังนั้นการยึดครองแดนเหนือจะสร้างความระแวงให้ฝ่าบาท คลางแคลงกับตัวองค์ชายรัชทายาทว่าในใจคิดจะกบฏหรือไม่

หรือเมื่อไหร่?

ในประวัติศาสตร์มีฮ่องเต้หลายพระองค์จบชีวิตในมือของบุตรตนเอง…

“เจิ้นจะแน่ใจได้อย่างไรว่าสิ่งที่เจ้าพูด เป็นความจริง”

“ฝ่าบาททรงปราดเปรื่อง กระหม่อมไหนเลยจะสามารถโป้ปดได้”

ฉู่ซีเย่รอได้ เขาไม่เดือดร้อนที่จะรอต่ออีกหน่อย

ช่วงหลายวันมานี้นางหลับไม่เต็มอิ่ม กินข้าวได้น้อยลง และยิ่งเคร่งเครียดมากขึ้นไปอีกเมื่อฉู่กวงหลินที่ได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าเมืองโจวอี้ชั่วคราว กำลังวางแผนหมายจะสถาปนาตนเองขึ้นเป็นเจ้าเมืองตัวจริง

หนึ่งเดือนให้หลังฉู่กวงหลินได้ยึดเมืองโจวอี้เป็นของตนเองโดยสมบูรณ์

สองเดือนให้หลังคณะราชทูตจากต้าหย่งถูกเชิญออกไปอยู่เรือนรับรองนอกเมือง เว้นไว้แต่เหยาอี้เหยาที่ได้อยู่ต่อ ภายใต้การควบคุมของฉู่กวงหลิน

เหยาอี้เหยาไม่รู้สถานการณ์ของฉู่ซีเย่ แต่ทางเหนือตอนนี้กำลังร้อนระอุ กงซุนหลางเรียนว่าแม่ทัพฉู่ถูกกองทัพนอกด่านลอบสังหาร บาดเจ็บสาหัสจนต้องกลับมารักษาตัวในเมือง

ทว่าฝ่าบาททรงมีรับสั่งมานานแล้ว ให้แม่ทัพฉู่ประจำอยู่ชายแดน ไม่มีราชโองการไม่ให้กลับมา

คำพูดนั้นไม่ต่างอะไรกับการบอกให้แม่ทัพหนุ่มตายอยู่ในสนามรบเสีย

ประตูเมืองปิดตาย คนส่งข่าวเข้าออกไม่ได้ ฉู่กวงหลินสั่งห้ามแม่ทัพฉู่กลับเข้าเมือง ทั้งยังไม่อนุญาตให้คนในรัฐขายยาให้กับกองทัพ

กงซุนหลางต่อต้าน เขาถูกจับติดคุกในข้อหากบฏ ส่วนฉู่ซีเย่ นางได้ข่าวแค่เพียงว่าเขาอาจจะไม่ได้กลับมาทางเหนืออีก…

เหยาอี้เหยาคิดไม่ตก แรกเริ่มนางคิดจะหนี แต่ด้วยยาพิษในตัวทำให้ไม่อาจทำเช่นนั้นได้

เวลานั้นเอง จดหมายฉบับหนึ่งของฉู่ซีเย่ก็มาถึงนาง เขาบอกที่ซ่อนกุญแจ ให้นางมอบยาให้กองทัพ

แม้นางไม่อยากเดือดร้อนหรือยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่นี้คือคำสั่งของฉู่ซีเย่ อีกทั้งคนในกองทัพทำให้นึกถึงท่านตา ย้ำเตือนให้คิดถึงทหารกล้าที่กำลังล้มตายเพราะขาดยา นางจึงขัดคำสั่งไท่จื่อ ขนยาจากห้องยาของสกุลฉู่ ลักลอบขนถ่าย ส่งให้คนจากกองทัพอย่างลับๆ

ครั้งแรกสำเร็จเพราะโชคดี ดังนั้นพอริอาจทำอีกครั้ง นางจึงถูกฉู่กวงหลินจับได้ เขาจับนางขังคุกที่หนาวเย็น ต่อให้กงจิ้งหรือซ่างเจวี๋ยขอร้องอย่างไรก็ไม่เป็นผล

ไท่จื่อหย่งสวินเมื่อทราบเรื่องจึงลงโทษนางเช่นกัน เดือนนั้นนางไม่ได้รับยาระงับแมลงคุณไสยจากลู่หมิง อาการจึงกำเริบหนัก

กินไม่ได้นอนไม่หลับ แมลงนับพันกำลังชอนไขอยู่ทั่วร่างกายจนเจ็บปวด เหมือนตายทั้งเป็น

“เจ็บ…เจ็บยิ่ง…”

เดือนสิบเอ็ด

ในยามเช้าวันนั้น บุรุษในชุดสีครามควบขี่อาชามาท่ามกลางหิมะถึงประตูเมืองที่ปิดสนิท

ครั้นเขาดึงหมวกลง ไม่มีคนแม้แต่คนเดียวที่กล้าปฏิเสธเขา

“เปิดประตูเมือง!”

“ซื่อจื่อ กลับมาแล้ว!”

ทหารสองฝั่งเข้าปะทะกัน ทว่าแต่เดิมเหล่าทหารก็เป็นคนของฉู่ซีเย่ เขาจึงสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วส่วนฉู่กวงหลินหลบหนีไปได้

เวลานั้นจางลี่ที่ถูกขังไว้กระเสือกกระสนออกมาร้องขอความเมตตา ขอให้ฉู่ซีเย่ช่วยเหยาอี้เหยา

“นางอยู่ไหน”

“คุกเย็นขอรับ”

ทว่าเมื่อฉู่ซีเย่ไปถึง นางก็ไม่อยู่แล้ว มีเพียงคนมารายงานว่าฉู่กวงหลินจับนางไปด้วย

Related chapters

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   5/3 คนลับๆ ของฉู่ซื่อจื่อ

    ท้องฟ้ามืดครึ้มคล้ายพายุหิมะกำลังก่อตัวอยู่อีกฟากของขอบฟ้านางรู้สึกตัวเพราะแรงกระแทก สิ่งที่เห็นเป็นอย่างแรกเมื่อลืมตา คือด้านหลังของม้าที่ฉู่กวงหลินกำลังควบขี่ ความหนาวเย็นเสียดกระดูกทำให้เหยาอี้เหยาไอ ตอนนี้นางอยู่ในกรงขังโลหะที่ลากไปบนพื้นด้วยความเร็วสมองของนางประมวลผลเชื่องช้าด้วยผลกระทบจากการขาดยาทำให้ร่างกายอ่อนแอลงอย่างฉับพลัน ถึงอย่างนั้นนางก็ยังจำได้ว่าตนเองถูกพาตัวออกมาจากคุกเพื่อเป็นตัวประกันฉากหลังของเส้นทางอันขรุขระคือกงจิ้ง เขากำลังไล่กวดฉู่กวงหลินมาในระยะกระชั้นชิด ส่วนซ่างเจวี๋ยแยกตัวไปขนาบข้าง พวกเขาไม่กล้ายิงธนูส่งเดช ด้วยกลัวจะถูกนางทว่าฉู่กวงหลินและคนของเขาไม่ใช่ ธนูนับสิบพุ่งเฉี่ยวร่างกายกงจิ้ง ซ่างเจวี๋ยรับมือกับคนของฉู่กวงหลินที่ดาหน้าเข้าใส่ในระยะประชิด“อี้เหยา! อดทนเอาไว้!”ซ่างเจวี๋ยส่งเสียงก้องกังวาน เนื้อตัวเปอะเปื้อนไปด้วยโลหิต พยายามทุ่มเทกำลังเพื่อช่วยนางเต็มที่ทว่าเหยาอี้เหยาอ่อนแอนัก ลมหายใจนางแผ่วลงเรื่อยๆ พร้อมกับลมหนาวที่พัดวูบเข้ามาในร่างไม่รู้เพราะเหตุใด แต่นางหนาวยิ่งหนาวจนเหมือนกำลังอยู่ในกองหิมะเย็นเฉียบ…“ไอ้พวกบัดซบ ฆ่าให้หมด!” ฉู่กวง

    Last Updated : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   6/1 เจ้าเมืองโจวอี้

    เมืองโจวอี้กลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติเมื่อฉู่ซีเย่กลับมา เขาปราบปรามคนของฉู่กวงหลินหมดสิ้นภายในคืนเดียว พร้อมส่งสองพี่น้องสกุลหยางกลับเมืองชงอีกทั้งประกาศออกหมายจับกบฏโทษตายของฉู่กวงหลินทำให้เจ้าเมืองชงต้องนั่งรถม้ามาขอร้องให้ฉู่ซีเย่อภัยพร้อมกับบอกเล่าเรื่องราวแผนการที่หย่งสวินสั่งให้ทำฉู่ซีเย่รู้ดีว่าทุกอย่างเป็นแผนการเพื่อโค่นอำนาจของไท่จื่อ ทำให้เขาต้องสูญเสียอำนาจในแดนเหนือ ลี้ภัยไปเมืองหลวง ทว่าแผนการของหย่งสวินไม่ได้สั่นคลอนฉู่ซีเย่อย่างที่คิด เขาสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาได้“ซื่อจื่อ อภัยให้บุตรชายของอาสักครั้งเถิด จากนี้ไปเขาไม่กล้าอีกแล้ว” ฉู่กวงเยี่ยนคุกเข่า ร้องขอความเมตตา“เจ้าเมืองชง พูดว่าไม่กล้าแล้วช่างง่ายดาย แต่การกระทำล้วนสวนทางเช่นนี้ ข้าคงให้อภัยได้ยาก” ฉู่ซีเย่มองอีกฝ่ายอย่างเรียบเฉย แม้จะมีสายเลือดส่วนหนึ่งจากบรรพบุรุษที่เหมือนกัน ทว่าเขาไม่รู้สึกถึงสายสัมพันธ์อันใดต่อญาติผู้นี้ ความจริงเขาอยากจะส่งคนไปลากตัวฉู่กวงหลินมาสั่งสอน แต่ทำอย่างไรได้ มารดาของอีกฝ่ายเป็นคนของราชวงศ์ ไม่ว่ายังไงก็ต้องไว้หน้าอยู่บ้าง“ถ้าหากลุงสัญญาว่าจะสนับสนุนให้แม่ทัพฉู่ขึ้นเป็นเจ้าเมื

    Last Updated : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   6/2 เจ้าเมืองโจวอี้

    เจ้าเมืองจะมีจวนของตนเอง เขาจึงพักอยู่ที่นั่น โดยแวะเวียนกลับมาหาน้องชายอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่เด็ก ดังนั้นทันทีที่กลับเข้าเมืองมา สิ่งแรกที่ฉู่ซีห่าวทำคือกลับมาหาน้องชายทั้งสองไม่ได้พบหน้ากันนานจึงชวนร่ำสุราด้วยกัน ฉู่ซีเย่นำสุราชั้นดีที่บ่มไว้ออกมาฉลองล่วงหน้าให้กับฉู่ซีห่าว พูดคุยรำลึกความหลังหนเก่า จนพูดมาถึงเหตุการณ์สำคัญเมื่อสามปีก่อน ในฤดูหนาวที่จะถึงในเดือนหน้าใกล้จะถึงวันล่วงลับของเจ้าเมืองฉู่คนก่อนแล้ว...“อิ่นจื่อ เรื่องเมื่อสามปีก่อนเจ้าได้บอกนางหรือเปล่า” นางในความหมายของฉู่ซีห่าวคือเหยาอี้เหยา ส่วนเรื่องเมื่อสามปีก่อน คือเรื่องเหตุการณ์ลอบสังหารที่ทำให้ฉู่หลินเสียชีวิต เขาในตอนนั้นอยู่ชายแดนกับท่านปู่ กว่าจะกลับมาได้ ท่านพ่อก็ไม่อยู่แล้ว“ต้องบอกด้วยหรือ”“วันนี้นางมองข้าด้วยความรู้สึกผิด” เมื่อครู่ฉู่ซีห่าวพบนางที่ตรอกในเมือง “ทั้งๆ ที่คนที่ควรรู้สึกผิดต่อนางควรเป็นพวกเรา”“ชาวฮั่นเป็นคนลงมือ ชาวฮั่นเป็นคนสร้างข่าวลือกลบความจริง เช่นนี้ย่อมต้องให้ชาวฮั่นรับผิดชอบ” เพราะเหตุการณ์ในอดีตทำให้สกุลเหยาต้องแบกรับความผิด ถูกตัดขาดจากสังคมและกีดกัน ทว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องก

    Last Updated : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   6/3 เจ้าเมืองโจวอี้

    แผนการทุกอย่างได้ตระเตรียมไว้แล้ว เหยาอี้เหยาระมัดระวังทุกฝีก้าวเพื่อไม่ให้ใครจับได้ โชคดีที่เมื่อวานมีคนก่อความวุ่นวายจึงทำให้ฉู่ซีเย่หันเหความสนใจไปจากนาง นางจึงฉวยโอกาสในเวลานั้นเพื่อหาทางติดต่อกับจี๋เฉวียน เพื่อขอความช่วยเหลือฝ่ายจี๋เฉวียนหลบเลี่ยงทหารตระเวนเมืองจนมาพบนางได้ที่ท้ายตรอก เขาไม่เอ่ยถามว่าใครกันคือคนที่นางต้องการให้อารักขาไปยังจวนว่าการประจำเมืองในวันแต่งตั้งของฉู่ซีห่าวหรือนางต้องการทำอันใด เพราะเขาเคยบอกแล้ว ไม่ว่าเรื่องใด ขอแค่นางขอร้อง เขาจะทำให้ยามอิ๋นท้องฟ้ายังมืดสนิท เหยาอี้เหยาลุกจากเตียงนอนก่อนจางลี่ นางผลัดเปลี่ยนชุดพิธีการตามที่ได้รับมอบมา ก่อนจะออกเดินทางไปสมทบกับคณะราชทูต นางนั่งบีบมือตนเองเพื่อระงับความตื่นเต้น แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถสงบใจลงได้จิตใจนางหวั่นกลัว ยิ่งใกล้จวนว่าการเจ้าเมืองเท่าไหร่ นางก็ยิ่งกลัวขบวนของนางไปถึงจวนว่าการในลำดับแรกๆ ที่นั่งของนางอยู่ฝั่งตรงข้ามของลานที่ประดับประดาไว้ด้วยธงปลิวไสว ตรงกลางมียกพื้นสำหรับวางกลองประจำเมือง ผู้คนคลาคล่ำมากมายอยู่ภายในบริเวณงาน นอกจากนี้ บริเวณกำแพงด้านนอกยังเต็มไปด้วยชาวบ้านที่มารอสนับสนุนแม

    Last Updated : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   7/1 หอโคมเขียว

    หิมะตกหนักจนทั่วทุกแห่งหนขาวโพลนอาณาเขตกางกั้นระหว่างรัฐหลู่และนอกด่านมีกำแพงขวางกั้นสองชั้น แบ่งเป็นชั้นนอกและชั้นใน จินเฟยจอดรถม้าเมื่อถึงที่หมาย เขาห่อตัวเหยาอี้เหยาเอาไว้ในเสื่อเก่าๆ จึงดูไม่ต่างอะไรกับศพ อีกทั้งร่างกายของนางยังแผ่พลังหยินอันมหาศาล จนคนทั่วไปรู้สึกได้สิ่งที่อยู่ในห่อผ้าให้อารมณ์เฉกเช่นศพผู้อาวุโสฉู่ยืนอยู่หลังกำแพงชั้นใน หลุบตามองม้วนเสื่อเก่าๆ อย่างเงียบๆ เขาได้รับจดหมายจากฉู่ซีเย่ว่าวันนี้จะนำตัวสายของไท่จื่อหย่งสวินมาฝากไว้ ในความหมายเหมือนจะบอกให้เขาคุมขังนางไว้ในนอกด่านตลอดชีวิตนางทว่าด้วยสภาพของนางในตอนนี้ อาจจะไม่ใช้เวลานานก็เป็นไป ไม่แน่วันนี้มะรืนนี้ นางอาจจะจากไป เพราะพลังหยินของนางไม่สมดุล สายตาของผู้อาวุโสเฉียบคม วิชาแพทย์ขั้นสูงของเขาทำให้มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่านางถูกพิษแมลงคุณไสย ซึ่งไม่มียาถอนชีวิตนางคงอยู่ไม่ถึงหนึ่งถ้วยชา“เรียนผู้อาวุโสฉู่ ซื่อจื่อให้บอกท่านว่านางเป็นของท่านแล้ว ท่านจะทำอย่างไรกับนางก็ถือเป็นสิทธิ์ขาดของท่าน ขอเพียงไม่ให้นางออกนอกด่านอีกเป็นพอขอรับ”“นางเป็นลูกหลานสกุลใด” อย่างน้อย หากนางตายไป เขาจะได้เขียนป้ายให้สักคำ“สกุ

    Last Updated : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   7/2 หอโคมเขียว

    หอสราญรมย์มีแขกผู้ไม่คาดฝันมาเยือนในยามวิกาล เจ้าของหอรีบลงมาต้อนรับโดยทันที ไม่กล้าชักช้า"หากผู้น้อยต้อนรับผิดพลาดประการใด ขอซื่อจื่อโปรดอภัย"หอสราญรมย์ขึ้นชื่อเรื่องอาหารและที่พัก แขกของหอเป็นคนชั้นสูงมีเงิน แต่ฉู่ซีเย่คือระดับสูงกว่านั้น จนทำให้หอเลื่องชื่อเป็นเพียงที่พักดาษดื่นเถ้าแก่ถึงกลับต้องตบหน้าตนเองสามครั้ง ถึงจะเชื่อว่าไม่ได้ฝันไป"ซื่อจื่อขอรับ ไม่ทราบว่าท่านต้องการห้องแบบใด ผู้น้อยจะจัดการหาให้ท่านโดยทันที"ฉู่ซีเย่กล่าวยิ้มๆ ไม่อยากให้ทำเป็นเรื่องใหญ่ "ขอทุกห้องที่ว่าง"รถม้าเคลื่อนที่ไปบนถนนหินของเมือง ผ่านร้านรวงสองข้างทาง จนออกมานอกงานเทศกาลฤดูหนาวอันครึกครื้นในเวลาต่อมากระแสอำมหิตที่นางเคยรู้สึกหายไปแล้ว จึงเตรียมตัวที่จะหลบหนีไปจากตรงนี้เหยาอี้เหยาแก้เชือกที่มัดมืออย่างรวดเร็ว ก่อนจะรั้งเชือกเอาไว้ในมือ ผูกเป็นปมให้คล้ายนางยังถูกมัดอยู่ แต่กระตุกนิดเดียวก็หลุดคนของแม่เล้าควบคุมรถม้าอยู่หนึ่งคน ส่วนที่เหลือขนาบข้างซ้ายขวา ดื่มสุราในขวดน้ำเต้าพร้อมพูดคุยอย่างออกรสชาติ มึนเมาพอสมควรถนนเส้นนี้เป็นถนนสายรอง ยามปกติก็ไม่ค่อยมีคน ยิ่งยามนี้มีงานเทศกาลฤดูหนาวพอดี จึ

    Last Updated : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   7/3 หอโคมเขียว

    “ใครให้เจ้าไป”สองเท้าของเหยาอี้เหยาหยุดโดยพลัน แต่ครั้นจะหันกลับมาอีกก็กลัวเหลือเกินว่าจะถูกเขาจับได้ นางกลัดกลุ้ม ไม่รู้ควรทำอย่างไร“รินสุราให้ข้า” เขาสั่งภายในห้องมีกาสุราอยู่ใกล้อ่างไม้ ขอเพียงฉู่ซีเย่เอื้อมมือไปหยิบเท่านั้น ทว่าเขาเหมือนเกียจคร้านเกินกว่าที่จะทำเอง“ไม่ได้ยินรึ ข้าสั่งเจ้าให้รินสุรา” น้ำเสียงเขาเริ่มเข้มขึ้น นางจึงต้องค้อมตัวอ้อมหลังเขาไปรินสุราให้อย่างระมัดระวัง พยายามก้มหน้าก้มหน้าไม่เปิดเผยพิรุธเมื่อรินสุราให้แล้ว นางก็ค่อมกายคารวะถอยห่างออกไปยืนข้างๆ ฉากกั้น ใช้สมองคิดว่าควรจะทำเช่นไรเพื่อหลบออกไปจากสถานการณ์ในตอนนี้ โดยไม่รู้เลยว่านางตกอยู่ในสายตาของฉู่ซีเย่ผ่านกระจกทองเหลืองนัยน์ตาเขามองนางอย่างจับจ้องทุกสัดส่วน ขณะใช้นิ้วเรียวจับจอกสุรา มองวิเคราะห์ใบหน้าเล็กเท่าฝ่ามือตั้งแต่หัวคิ้วลงมาถึงริมฝีปาก หกปีก่อนนางเป็นเพียงเด็กหญิง ทว่าบัดนี้เริ่มเผยเค้าโครงของหญิงสาวในคราบเด็กหนุ่มหน้าดำฉู่ซีเย่ยอมรับว่านางไม่เหมือนเดิม พูดให้ถูกคือเขาคงจำนางไม่ได้หากพบกันตามถนนหนทาง แต่บนร่างนางมีพลังหยินเย็นยะเยือก เขารู้สึกถึงนาง ก่อนที่นางจะปรากฏตัวขึ้นเสียอีกเหยาอี้เ

    Last Updated : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   8/1 ไม่ตอบสนอง

    ท้องฟ้าด้านนอกขมุกขมัว อากาศเย็นทำให้เหยาอี้เหยาต้องพกเตาอุ่นสองตัว นางเดินกับเมียนเมี่ยนไปบนทางสายหนึ่งเพื่อมุ่งหน้าไปยังโรงน้ำชาป้าจางนางเข้าใจในสิ่งที่ผู้อาวุโสฉู่กล่าว ทั้งยังเชื่อในสิ่งที่เขาพูดทุกคำ ทว่านางได้นัดหมายไว้แล้ว อีกทั้งท่านไป๋เซียนหลางเป็นผู้แตกฉานในเรื่องพิษยิ่งกว่าผู้ใดจากเจียงหนาน ชาตินี้นางอาจจะไม่มีโอกาสได้พบเขาอีกเลยก็ได้ ดังนั้นแม้นางจะรู้แล้วว่าพบท่านไป๋เซียนหลางก็อาจจะไม่สามารถหายาถอนพิษได้ แต่นางอาจจะได้เรียนรู้เรื่องดีๆ จากเขาก็ได้เหยาอี้เหยาคิดว่าการขอร้องให้ฉู่ซีเย่นอนข้างนางเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากยิ่ง นางจึงอยากลองหาวิธีอื่นๆ เผื่อไว้ในกรณีฉุกเฉินผู้อาวุโสฉู่ไม่ได้ห้ามนางมาพบท่านไป๋เซียนหลาง เขาเพียงบอกว่าให้นางรีบกลับไปในวันสองวันนี้ เขาจะได้ฝากนางกลับเข้าไปในจวนสกุลฉู่หิมะตกหนาหลายชุ่นปกคลุมอยู่เหนือหลังคาทรงสูง บริเวณชั้นสองของระเบียงที่ยื่นออกมามีชายผู้หนึ่งนั่งดื่มน้ำชาอยู่บนนั้น ใบหน้าซ่อนอยู่ใต้หมวกสีขาว สีเดียวกับชุดที่สวมอยู่บนร่าง ท่วงท่าสง่างามเรียบง่ายของเขาทำให้ผู้พบเห็นไม่อยากเสียมารยาทด้วย“ผู้นั้นแหละ ไป๋เซียนหลาง เขาไม่อนุญาตให้

    Last Updated : 2024-12-18

Latest chapter

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   23/2 ความรักที่สุกงอม

    ฤดูใบไม้ผลิของแดนเหนืออบอุ่นและงดงาม ต้นไม้ที่หลับใหลในฤดูเหมันต์ผลิใบอ่อน แสงแดดลอดเงาผ่านช่องว่างต้นถั่วแดงเข้ามาเป็นลำแสง ต้นถั่วแดงหงฉู่โตวเป็นไม้ยืนต้นที่ใช้เวลาหลับใหลในฤดูหนาวเช่นกัน แต่เพราะมันเติบโตในแดนใต้ที่อากาศอุ่น ก่อนจะถูกขุดล้อมแล้วย้ายขึ้นมาที่เมืองโจวอี้ ต้นถั่วแดงจึงเจริญเติบโตขึ้นมาก เหยาอี้เหยามักจะมารดน้ำต้นถั่วด้วยตนเอง นางจำได้ว่าช่วงสามปีแรก ต้นถั่วโตช้ายิ่ง จนกระถางเล็กๆ ยังโตไม่เต็ม ครั้นลงดินที่อำเภอซานถง เพียงไม่นานก็สูงเอาๆ แต่พอมาคิดดู เหยาอี้เหยาคิดว่าสาเหตุที่ต้นถั่วโตช้าตอนอยู่ในกระถาง เพราะพื้นที่ไม่พอ สารอาหารขาดแคลน พอได้รับแสงแดด สายลม พื้นที่เหมาะสม พริบตาเดียวก็สูงขึ้นจนต้องแหนหน้ามองแล้ว ร่มเงาของกิ่งก้านที่แผ่ขยายออกเป็นพุ่มงาม ใบไม้เสียดสีเบาๆ ราวกับกำลังอวยพรให้นาง เหยาอี้เหยาพนมมือรับพรด้วยน้ำตา แต่คำอวยพรบางอย่างก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้... “อยู่นี่เอง” ฉู่ซีเย่เดินเข้ามาบริเวณสวนดอกไม้ ตรงกลางมีต้นถั่วยืนต้นโดดเด่น ใต้ร่มเงามีหญิงงามในชุดผ้าคลุมตัวยาว ช่วงนี้อากาศเริ่มร้อนแล้ว กระนั้นเหยาอี้เหยาก็ยังสวมชุดฤดูหนาว “ท่านหาข้าอยู่หรือ” เ

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   23/1 ความรักที่สุกงอม

    เดินทางจากอำเภอซานถงถึงแดนเหนือใช้เวลาสองสัปดาห์ เหยาอี้เหยาตกลงใจใช้ชีวิตอยู่กับฉู่ซีเย่ บางวันหวานชื่น บางวันรักร้อนแรง หรือทะเลาะกันบ้าง เพราะนางอยากออกไปทำงานสำรวจสำมโนครัวแบบเมื่อก่อน เพราะอยู่เฉยๆ เบื่อเกินไปฉู่ซีเย่คัดค้านหัวชนฝา เขาไม่อยากให้นางออกไปทำงานข้างนอก กลัวว่าจะมีคนมาชมชอบนาง ก็นางงามขนาดนี้ มีแต่คนตาบอดเท่านั้นที่ไม่มอง“แน่ใจนะว่าท่านไม่อนุญาต”“แน่นอน”“งั้นคืนนี้ท่านไปนอนที่อื่น”ฉู่ซีเย่ลุกพรึ่บ “ไม่ได้”“ได้ ก็นี่ห้องข้า เสียก็แต่ว่าท่านจะยึดคืน” เหยาอี้เหยาลุกขึ้น นางคว้าหมอนและผ้าห่มของฉู่ซีเย่ออกไปทิ้งด้านนอกห้อง“อี้เหยา” ฉู่ซีเย่ตามไปเก็บแล้ววางที่เดิม ก่อนจะประกาศก้อง “คืนนี้ข้าจะนอนที่นี้”“ท่านอ๋อง ท่านไม่สิทธิ์รุกล้ำพื้นที่นะ ยิ่งเจ้าของไม่อนุญาต ยิ่งไม่ได้”“แล้วไง ใครสน” ฉู่ซีเย่นั่งลงบนเตียง เขาเอนนอนเอาแขนชันศีรษะ “ข้าพอใจจะนอนที่นี้”“ก็ได้ งั้นข้าจะไปนอนที่อื่น” เหยาอี้เหยาเดินไปที่ประตู ฉู่ซีเย่ดีดตัวลุกขึ้นมาขวาง เขายืนขวางประตู ก่อนจะถอนหายใจ เขายอมถอยให้นาง“เอาล่ะ พอก่อน มาคุยกันดีๆ เถอะ”“ก็ได้” เหยาอี้เหยาเห็นเขายอมถอย นางก็ถอยหนึ่งก้าว “

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   22/2 แก้แค้นสิบปีก็ไม่สาย

    “เจ้าต้องเข้าใจว่าข้าไม่อาจสบายใจได้ ตราบใดที่มีเจ้า” หย่งสวินกล่าวอย่างลำบากใจ แต่ดวงตากลับเฝ้ารอ ในใจคงจินตนาการวันที่ได้ฆ่าฉู่ซีเย่มานับครั้งไม่ถ้วน“คนที่คิดจะฆ่าข้า ไม่ตายดีสักคน” ฉู่ซีเย่ไม่กลัวว่าหย่งสวินจะเอาดาบแทงตน เพราะคนเหลี่ยมจัดอย่างหย่งสวิน ไม่เล่นในเกมที่ตกเป็นรอง“เจ้าต้องมีชีวิตอยู่นานๆ หน่อย จะได้รู้ว่าข้าจะได้ตายดีหรือไม่ แต่น่าเสียดาย คงไม่มีวันนั้นแล้ว” หย่งสวินยกดาบขึ้น ก่อนจะฟันใส่แขนขวาจนขาด เขาส่งเสียงร้องโหยหวน“ช่วยข้าด้วย! ต้าเป่ยอ๋องจะสังหารข้า!”ประตูท้องพระโรงเปิดออกในยามรุ่งสาง ฉู่ซีเย่ถูกคุมตัวออกมามุ่งหน้าไปยังลานประหารในโทษฐานลอบทำร้ายประมุขของประเทศ ความรีบร้อนในการประหารเขาทันที เป็นความต้องการของหย่งสวินคลื่นลมในวังเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างมั่นใจแน่แล้วว่าหย่งสวินจะได้เป็นฮ่องเต้องค์ต่อไป ด้วยไท่จื่อก็สิ้นแล้ว หย่งมู่ที่กลัวตายก็รีบหอบผ้าหนีเอาตัวรอด ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้ากังขาหรือคัดค้านแม้เพียงนิดที่หย่งสวินคิดจะสังหารฉู่ซีเย่อย่างไรก็ตาม การประหารใช่จะทำได้เลยในทันที เพราะความวุ่นวายจากทางฝั่งของคนสนับสนุนไท่จื่อก็ไม่ยินยอมเช่นกัน

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   22/1 แก้แค้นสิบปีก็ไม่สาย

    “เจ้าไม่เป็นห่วงชายผู้นั้นของเจ้าหรือ”ชายผู้นั้นของกงจิ้ง ย่อมหมายถึงฉู่ซีเย่ “ได้ยินว่าทางวังกำลังเผชิญหน้ากับพายุใหญ่ ไม่แน่ว่าชายผู้นั้นของเจ้า อาจพบอันตรายร้ายแรง”“ก็อาจจะพบอันตราย แต่ข้าไม่ห่วงมากเท่าไหร่” นางล้างผัก ท่าทีผ่อนคลายกงจิ้งทำหน้าประหลาด เหยาอี้เหยาดูไม่ร้อนใจเท่าที่ควร“สามปี” เหยาอี้เหยาพูดขณะมองตรงไปหน้าผืนนา “เขาใช้เวลาสามปีวางแผนแก้แค้น ดังนั้นข้าจึงเชื่อมั่นว่าเขาจะไม่เป็นอะไร ต่อให้ถูกใครคิดปองร้าย ทุกอย่างก็อยู่ในการคาดเดาของเขา”กงจิ้งมองนาง “เป็นเจ้าที่เข้าใจเขาอย่างลึกซึ้ง”“ความจริงข้าไม่เข้าใจเขาหรอก ใครจะกล้าพูดว่าเข้าใจเขาได้”กงจิ้งเห็นด้วย “ข้าแปลกใจเสมอที่รู้ว่าเขาไม่อยากเป็นหนึ่งในผู้ชิงบัลลังก์"“ข้าไม่แปลกใจ”“เพราะอะไร” ขอเพียงมีใจนึกอยาก ไม่ใช่ว่าจะชิงมาไม่ได้“เขาเป็นคนเจ้าเล่ห์และยโสโอหังมาก แต่ก็เป็นคนที่รักษาคำสัตย์ยิ่งชีพมากเช่นกัน อะไรที่รับปากคนอื่นไว้แล้ว ต่อให้ดินถล่มฟ้าแหวกออก เขาก็จะทำให้ได้ ในงานพิธีรับตำแหน่งต้าเป่ยอ๋อง เขาชัดเจนแล้วว่าเลือกแดนเหนือ”“เข้าใจแล้ว”ฉู่ซีเย่ไม่ได้ให้คำสัตย์ว่าจะไม่ชิงบัลลังก์ แต่เขาให้คำสัตย์ว่าจะตา

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   21/2 ความรักที่งอกงาม

    ต้าหย่ง...ชายเสื้อปักดิ้นทองเคลื่อนไหวเพียงบางเบา แต่สามารถทำให้ตะเกียงบนโต๊ะด้านหน้าสั่นไหว เงาใหญ่ยักษ์ที่ทอดลงหลังฉากพระที่นั่งวิจิตรงดงาม แลดูแปลกตา ยิ่งเมื่อขยับเคลื่อนไหว เงาสีดำยิ่งชวนให้รู้สึกขนกายลุกพองหย่งฉียังคงทรงงานแม้จะค่อนคืนเข้าไปแล้ว พระขนงมีมีร่องรอยยับย่น หมึกเปื้อนพระหัตถ์เป็นปื้นสีดำทั้งสองข้าง ลามไปถึงชายแขนเสื้อที่ถูกหมึกสีดำทำลายความประณีตลงหลายเท่าตัวหลังตั้งตรงเริ่มตกลู่ หย่งฉีในปีนี้อายุเพียงสี่สิบกว่าปี ทว่าความเคร่งเครียดและการตรากตรำอยู่ในตำแหน่งมายาวนานกว่าสามสิบปี ทำให้ใบหน้านั้นแก่ชรา ริ้วรอยแห่งวัยทอดแนวอยู่บนหน้าพระพักตร์หมองคล้ำ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความวิตกกังวลครั้นมองลงมาภายในโถงพระที่นั่งอันหนาวเหน็บและช่างว่างเปล่า หย่งฉีคล้ายจะยิ้มเย้ยให้ตนเองอย่างสมเพชข้าวของมากมายหล่นเกลื้อนกลาดแทบเท้า ทุกสิ่งทุกอย่างพังไม่เป็นชิ้นดี กระนั้นท้องพระโรงที่เละเทะเช่นนี้ ก็ยังเทียบไม่ได้กับภายในจิตใจของเขาหย่งฉีทิ้งพู่กันในมือ เขาส่งเสียงออกมาอย่างเหนื่อยล้าราวกับแทบขาดใจ“ขันทีโม่...”โม่หานยืนก้มหน้าตามระเบียบประเพณี ในมือมีพวงแส้ม้านุ่มสลวย ทองคำซึ่งหลอมอยู

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   21/1 ความรักที่งอกงาม

    เหยาอี้เหยา “ก่อนจะให้ท่านพูดอธิบาย อยากจะขอรบกวนให้ท่านอาบน้ำล้างตัวเสียหน่อย” กลิ่นสาบจากตัวเขาทำให้ภายในบ้านถูกกลิ่นบูดรมควัน ดังนั้นนางจึงนำเสื้อผ้าที่เขาทิ้งไว้คราวก่อนออกมาให้เขา พร้อมชี้ทางว่าสามารถไปอาบน้ำที่ลำธารใกล้กับแปลงผักจี๋ฉายได้ ทั้งยังรุนหลัง ให้เขาไปไวๆ ฉู่ซีเย่ไม่อิดออด เขาก็เริ่มได้กลิ่นจากตัวเองเช่นกัน “ได้ ข้าจะไปอาบน้ำก่อนแล้วกัน หลังจากนั้นค่อยสนทนาเรื่องที่เข้าใจผิด” ถึงอย่างงั้นในใจของเขาก็มีความน้อยใจเล็กๆ ที่นางดูราวกับไม่ใส่ใจเขาเลย จะถามไถ่สักคำว่าเดินทางมาเหน็ดเหนื่อยหรือเปล่าก็ไม่มี ยังมีตบของนางอีก แม้แรงนางจะไม่ระคายผิวหนังหนาด้านของเขา แต่จิตใจบอบช้ำยิ่ง “ท่านอ๋อง” เหยาอี้เหยากล่าวรั้ง ใบหน้าคมกระหยิ่มยิ้มย่อง แต่เมื่อหันหน้ามาก็กลบเกลื่อนให้หมดสิ้น “ว่าอย่างไรรึ” ใบหน้าของฉู่ซีเย่ในตอนนี้สามารถพูดได้คำเดียวว่าเขาสำนึกผิดแล้ว “เมื่อครู่ข้าขอโทษที่ตบท่าน ท่านเจ็บมากหรือไม่” การตบตีเขาไม่เคยอยู่ในสมองนางมาก่อน แต่พอเห็นเขามายืนอยู่ตรงหน้า แรงอารมณ์ที่ถูกกดไว้ตลอดทั้งเดือนก็ปะทุ รู้ตัวอีกทีก็ตบเขาเสียฉาดใหญ่ “แรงเท่ามดของเจ้าจะทำอะไรข้าได้กัน”

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   20/3 เป็นแค่นางอุ่นเตียง

    การมาเยือนขององค์หญิงสิบเอ็ดเปลี่ยนบรรยากาศในบ้านไปในฉับพลัน มื้ออาหารที่ควรจะผ่อนคลายมีแต่ความเงียบงัน กงจิ้งลอบมองใบหน้าเหยาอี้เหยาด้วยความเห็นใจ แต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรเช่นกันกงจิ้งจำใบหน้าซีดเผือกของนางเมื่อเขากลับมาถึงบ้านได้ รวมทั้งสีหน้าสะอกสะใจขององค์หญิง ที่ได้เหยียมหยามนาง ทำเอากงจิ้งอยากไล่ตะเพิดไปไกลๆ“...” ลุงกู่เห็นเหยาอี้เหยาเศร้า ก็ตักน้ำแกงผักให้ชามใหญ่ เขาเอ็นดูนางมาก ไม่อยากเห็นนางเป็นทุกข์ใดๆเวลานั้นเอง เหยาอี้เหยาที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามกลับหัวเราะออกมา เสียงหัวเราะของนางใสกังวาน รอยยิ้มที่เผยกว้างบ่งบอกว่านางไม่ได้เสแสร้ง แต่นางกำลังหัวเราะอย่างจริงใจ“เจ้าหัวเราะอะไร”หรือเสียใจจนเสียสติไปแล้ว?“ข้าเปล่านะ ข้าปกติดี” เหยาอี้เหยายกชามน้ำแกงดื่มจนหมดรวดเดียวก่อนจะยิ้มอีกรอบ “ข้าแค่ดีใจนะ ที่วันนี้แสดงละครได้ดี”กงจิ้งและลุงกู่พากันขมวดคิ้วเหยาอี้เหยาเฉลย “ข้ารู้เรื่องนางอยู่แล้ว แต่คิดว่าถ้าทำเป็นรู้อยู่แล้ว นางคงไม่พอใจเท่าไหร่ จนอาจจะลงไม้ลงมือกับข้าก็ได้”กงจิ้ง “แสดงว่าเมื่อครู่เจ้าแสดงละคร”“ก็ไม่ทั้งหมดนะเจ้าคะ ความจริงก็เจ็บอยู่” แรกทีเดียวนางก็แสดงละคร แต่หลั

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   20/2 เป็นแค่นางอุ่นเตียง

    “อดทนเพื่อข้าได้หรือไม่…” ฉู่ซีเย่จูบไซ้กลีบปากบางที่สั่นระริก ปลายจมูกคลอเคลียปลอบโยน เขาอดทนเพื่อให้นางเปิดใจ ต่อให้ร่างกายใกล้จะระเบิดเต็มที“งั้น…งั้นช้าๆ นะ” นางเห็นเม็ดเหงื่อผุดพราวทั่วใบหน้าเขา รวมทั้งสันกรามที่ถูกขบกัดจนนูน บ่งบอกว่าเขาเองก็ต้องอดทนมากเช่นกัน“แน่นอน…” ฉู่ซีเย่ไม่บุ่มบ่าม เขาค่อยๆ กดตัวตนเข้าไปหานางอย่างละมุนละม่อน ถึงยังงั้นเอวบางก็ขยับหนีตามสัญชาตญาณ เขาจึงรั้งเรียวขานางไว้แรงเสียดทานจากท่อนกายอันเข้มแข็งทำให้ความอ่อนนุ่มต้องเผชิญกับความท้าทายอันใหญ่หลวงความเจ็บร้าวที่แผ่ซ่านคลี่คลุมจนตัวชา ถึงอย่างนั้นจุมพิตขอโทษจากเขาก็ทำให้นางอดทน พร้อมโอบรับความแข็งแกร่งของเขาทั้งหมดสองมือเรียวเกาะไหล่หนา สองขาเรียวอยู่ระห่างเอวสอบที่กำลังเคลื่อนไหว“ท่าน…อื้อ!”“อีกนิดนะ…” เสียงเขาแหบพร่า ริมฝีปากงับไล่ติ่งหูสะอาด เขาโอบรัดคลุกเคล้ากับร่างกายนางทุกตารางนิ้ว“ได้…” นางสัมผัสได้ถึงความใส่ใจของเขา จึงเปิดเปลือยทุกความกังวลลง รองรับแก่นกายใหญ่โตเข้ามา“อี้เหยา…” แรงตอดรัดจากนางทำฉู่ซีเย่กลืนน้ำลายครั้งแล้วครั้งเล่า เขารวบเอวนางให้กดต่ำ สอดตัวเข้าไปหานาง…ไม่รุนแรง แต่นางห

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   20/1 เป็นแค่นางอุ่นเตียง

    “ซ่างเจวี๋ยไม่เป็นอะไรแล้ว “ฉู่ซีเย่พูด ถอนเข็มที่ปักอยู่ทั่วร่างออก เว้นเข็มบริเวณหน้าผาก เพื่อให้หลับต่อไป “แต่ก็อย่างที่เห็น ตอนนี้นางไม่สามารถใช้ชีวิตเร่ร่อนแล้วฝากยาไว้กับสำนักคุ้มภัยอีกแล้ว แบบนั้นไม่ปลอดภัย ดังนั้นเพื่อผลประโยชน์ของนางเอง ข้าแนะนำให้ส่งนางขึ้นเหนือ”กงจิ้งตอบ “ข้าเห็นด้วย แบบนั้นคงปลอดภัยกว่า”“แต่ทางเหนือหนาวเกินไป แม่ทัพซ่างจะไม่เป็นอะไรหรือ” ในฐานะที่เหยาอี้เหยามีประสบการณ์ตอนพิษกำเริบมาก่อน นางรู้ซึ้งดีเลยว่า อากาศหนาวของเเดนเหนือ ทำให้ทุกข์ทรมานเพิ่มอีกหลายเท่าแล้วพิษแมลงคุณไสยก็ยิ่งไม่ถูกกับอากาศหนาวอย่างยิ่ง นี่จึงอาจเป็นเหตุผลที่ซ่างเจวี๋ยเร่ร่อนไปทั่วทางใต้เพื่อลี้ภัยอากาศหนาว“เป็นแน่ แต่ไม่ตายหรอก” ฉู่ซีเย่ย้ำให้เห็นความจริง "นางจะตายถ้ายังเร่ร่อนอยู่ที่นี่มากกว่า"“ท่านอ๋อง ท่านยังไม่พบวิธีแก้พิษแมลงคุณไสยหรือ ข้าไม่อยากเห็นแม่ทัพซ่างบาดเจ็บอีกแล้ว”“เงื่อนไขของนางไม่เหมือนของเจ้า” ฉู่ซีเย่มองนาง “แต่เจ้าวางใจเถอะ แมลงในตัวซ่างเจวี๋ยว่าง่ายกว่าตอนอยู่ในตัวเจ้า ตราบใดที่กินยาเสมอไม่ขาด จะไม่ส่งผลร้ายใดๆ”เมื่อพูดถึงเรื่องกินยาอย่างสม่ำเสมอแล้ว ดูเหม

DMCA.com Protection Status