แชร์

6/2 เจ้าเมืองโจวอี้

ผู้เขียน: แอปเปิลโซดา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-18 15:59:11

เจ้าเมืองจะมีจวนของตนเอง เขาจึงพักอยู่ที่นั่น โดยแวะเวียนกลับมาหาน้องชายอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่เด็ก ดังนั้นทันทีที่กลับเข้าเมืองมา สิ่งแรกที่ฉู่ซีห่าวทำคือกลับมาหาน้องชาย

ทั้งสองไม่ได้พบหน้ากันนานจึงชวนร่ำสุราด้วยกัน ฉู่ซีเย่นำสุราชั้นดีที่บ่มไว้ออกมาฉลองล่วงหน้าให้กับฉู่ซีห่าว พูดคุยรำลึกความหลังหนเก่า จนพูดมาถึงเหตุการณ์สำคัญเมื่อสามปีก่อน ในฤดูหนาวที่จะถึงในเดือนหน้า

ใกล้จะถึงวันล่วงลับของเจ้าเมืองฉู่คนก่อนแล้ว...

“อิ่นจื่อ เรื่องเมื่อสามปีก่อนเจ้าได้บอกนางหรือเปล่า” นางในความหมายของฉู่ซีห่าวคือเหยาอี้เหยา ส่วนเรื่องเมื่อสามปีก่อน คือเรื่องเหตุการณ์ลอบสังหารที่ทำให้ฉู่หลินเสียชีวิต เขาในตอนนั้นอยู่ชายแดนกับท่านปู่ กว่าจะกลับมาได้ ท่านพ่อก็ไม่อยู่แล้ว

“ต้องบอกด้วยหรือ”

“วันนี้นางมองข้าด้วยความรู้สึกผิด” เมื่อครู่ฉู่ซีห่าวพบนางที่ตรอกในเมือง “ทั้งๆ ที่คนที่ควรรู้สึกผิดต่อนางควรเป็นพวกเรา”

“ชาวฮั่นเป็นคนลงมือ ชาวฮั่นเป็นคนสร้างข่าวลือกลบความจริง เช่นนี้ย่อมต้องให้ชาวฮั่นรับผิดชอบ” เพราะเหตุการณ์ในอดีตทำให้สกุลเหยาต้องแบกรับความผิด ถูกตัดขาดจากสังคมและกีดกัน ทว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับฉู่ซีเย่ เขาไม่สนใจว่าสกุลเหยาที่บริสุทธิ์ว่าต้องประสบพบเจอกับอะไร

“ร่างแม่ทัพหลินยังถูกฝั่งอยู่นอกด่าน เป็นเพียงศพไร้ญาติ แม้ว่าข้าจะทำให้วีรชนได้กลับคืนสู่ดินแดนอย่างสมเกียรติไม่ได้ แต่ความจริงของเรื่องนี้สามารถบอกให้หลานสาวอย่างนางรู้ได้”

ฉู่ซีเย่รินสุรา ก่อนจะกระดกทีเดียว “ข้าไม่อยากให้นางรู้”

“อิ่นจื่อ เจ้าอย่าได้ลืมว่าแม่ทัพหลินช่วยเจ้าอย่างไรบ้าง”

“ข้าไม่เคยลืม”

“เช่นนั้นเจ้าดีกับนางหน่อย” ฉู่ซีห่าวพยายามพูดหยุดยั้งแผนการอำมหิตของฉู่ซีเย่ที่มีต่อนาง “อย่าฆ่านาง ถึงนางจะเป็นสายของไท่จื่อก็ตาม”

ฉู่ซีเย่ไม่ตอบอะไร เขาลิ้มรสชาติสุราอุ่นๆ ท่ามกลางสายลมโชยอันหนาวเหน็บ

“อิ่นจื่อ รับปากข้าสักคำได้หรือไม่”

ไร้เสียงตอบกลับใดๆ จากฉู่ซีเย่

การประชุมก่อนหน้านี้เพื่อแต่งตั้งเจ้าเมืองโจวอี้ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว ผู้ที่ได้รับการสนับสนุนจากชาวเมืองให้ขึ้นเป็นเจ้าเมืองคือแม่ทัพฉู่ ฉู่ซีห่าว การแต่งตั้งอย่างเป็นทางการมีขึ้นในอีกไม่กี่วันเพื่อให้ทันงานฤดูหนาวประจำปีในเดือนหน้า

เหยาอี้เหยาจากกรมสำรวจสำมโนครัวตรอกซ้ายได้รับหน้าที่สำคัญในการรวบรวมรายชื่อของประชาชนเพื่อจัดระเบียบสำมโนครัว หลังจากที่ไม่ได้ลงทะเบียนกันอย่างเป็นทางการมาเกือบสี่ปีแล้ว นับตั้งแต่เจ้าเมืองโจวอี้คนก่อนเสียชีวิต

การรวบรวมรายชื่อไม่ง่ายนัก โดยเฉพาะตรอกซ้ายที่มีคนอาศัยกันหลากหลาย บางส่วนเดินทางเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายด้วย ทำให้ไม่กล้าเข้ามาลงทะเบียนรายงานตัว เหยาอี้เหยากับผู้ดูแลจิ่งจึงส่งรายชื่อล่าช้ากว่ากำหนด ทั้งสองจึงทำงานอย่างหนัก แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะสำรวจรายชื่อของประชาชนในตรอกซ้ายได้ครบ

วันนี้เป็นสุดท้ายก่อนกำหนดการส่งรายชื่อ ทว่างานก็ยังไม่เสร็จ แต่ทางส่วนกลางให้คนมารับรายงานแล้ว ทำให้ต้องส่งไปอย่างนั้น

เหยาอี้เหยานั่งรถม้ากลับจวนกับจางลี่ ด้วยความเหน็ดเหนื่อยสะสมนับสิบวันทำให้นางเผลอหลับทันทีที่ขึ้นรถม้า จวบจนถึงสกุลฉู่ จางลี่จึงปลุกนาง

“คุณหนูเหยา ถึงจวนแล้วเจ้าค่ะ”

“อืม” นางลืมตาขึ้นมา ขยับหมวกที่เอียงให้ตรงเพื่อลงจากรถม้า อากาศหนาวด้านนอกทำให้นางต้องกระชับเสื้อกันลมเข้าไว้ด้วยกัน ก่อนจะเร่งฝีเท้าเพื่อรีบกลับเรือน แต่จินเฟย องครักษ์ของสกุลฉู่ถือโคมไฟรอนางอยู่ที่ข้างกำแพง ท่าทางมีธุระกับนางอย่างเห็นได้ชัด

“คุณหนูเหยา ซื่อจื่อให้มาเรียกท่านไปพบ”

ตั้งแต่วันที่แม่ทัพฉู่กลับมา ฉู่ซีเย่ไม่เคยเรียกพบนางเป็นการส่วนตัวเช่นนี้ ทำให้นางคาดเดาไม่ถูกว่าเขามีเรื่องสำคัญใดจึงอยากพบนาง

“ที่ใดเจ้าคะ”

“ที่เรือนขอรับ”

“ได้เจ้าค่ะ ข้าน้อยจะไปเดี๋ยวนี้”

“คุณหนูเหยา ข้าน้อยขอเสียมารยาท ท่านควรล้างมือล้างไม้สักหน่อยก่อนพบซื่อจื่อ” จินเฟยกล่าว

“จริงด้วย ถ้าเช่นนั้นอีกครึ่งชั่วยามข้าจะไปพบเขา” นางยังอยู่ในชุดทำงานที่ไม่ได้อาบน้ำมาสองวันแล้ว เนื้อตัวหรือนิ้วมือมีแต่หมึกดำ สภาพเช่นนี้ไม่เรียบร้อยอย่างยิ่ง

“ขอรับ” จินเฟยล่าถอยไป เหยาอี้เหยาเร่งฝีเท้าเพื่อกลับเรือน นางต้องรีบเพื่อให้ทันเวลา

“จางลี่ เตรียมชุดให้ข้าที ข้าจะไปอาบน้ำก่อน” นางปลดเข็มขัด แขวนเสื้อคลุมไว้ที่ไม้แขวน

“ไม่รอน้ำร้อนหรือเจ้าคะ”

“ไม่มีเวลาแล้ว” น้ำเย็นจากถังถูกเทลงไป นางตักราดใส่ตัวพร้อมกับกลั้นใจไปด้วย หลังชำระร่างกายให้สะอาดแล้ว นางก็รีบเช็ดตัวสวมใส่เสื้อผ้าโดยลืมดูไปว่าวันนี้จางลี่เตรียมชุดให้นางงดงามเกินไป แต่จะเปลี่ยนชุดก็ไม่ทันเสียแล้ว

“วันหลังไม่เอาชุดแบบนี้แล้วนะ” นางอยากสวมชุดเรียบๆ ไปพบฉู่ซีเย่มากกว่า เขาจะได้ไม่คิดว่านางพยายามเข้าหาเข้าในแง่นั้น

“ทำไมละเจ้าคะ” จางลี่ช่วยนายตนเองเช็ดผมให้แห้งหมาดๆ “แต่งกายเช่นนี้ท่านจะได้น่ารักน่าเอ็นดูขึ้น”

“ข้าไม่ต้องการดูน่ารักน่าเอ็นดู” เหยาอี้เหยาปฏิเสธการใส่เครื่องหอมบนผม “เท่านี้พอแล้ว ไม่ต้องใส่เครื่องหอมให้ข้า”

“ได้เจ้าค่ะ” จางลี่เก็บน้ำมันเครื่องหอมตามที่เหยาอี้เหยาต้องการ ก่อนจะจุดโคมเพื่อนำทางนายของตนไปยังเรือนของฉู่ซื่อจื่อ

เรือนของฉู่ซีเย่อีกอีกด้านของจวน ตัวเรือนใหญ่รองลงมาจากเรือนของฉู่อ๋อง จินเฟยยืนอยู่หน้าจวนคอยต้อนรับนาง

“เจ้าคอยอยู่ข้างนอกก่อนนะ เดี๋ยวเสร็จธุระแล้วข้าจะออกมา” เหยาอี้เหยาบอกจางลี่ นางยกชายผ้าขึ้นขณะก้าวข้ามธรณีประตูเข้าไปยังเรือนของฉู่ซีเย่ รอยเท้าของนางทิ้งร่องรอยไว้บนพื้น

เรือนด้านในของฉู่ซีเย่จุดเตาไฟให้ความอบอุ่นน้อยกว่าเรือนของนาง แต่อุณหภูมิโดยรอบกลับอุ่นอย่างยิ่ง เหยาอี้เหยารู้ว่าฉู่ซีเย่อยู่ห่างไม่มากแล้ว เมื่อสัมผัสได้ถึงกระแสอุ่นๆ ที่นางเคยรู้สึกเมื่อตอนอยู่ใกล้เขา นางหยุดเท้าเมื่อถึงประตู

“ซื่อจื่อ ข้าน้อยมาแล้วเจ้าค่ะ”

เสียงของฉู่ซีเย่ดังออกมาจากด้านใน “เข้ามา”

“เจ้าค่ะ” เหยาอี้เหยาเปิดประตูเข้าไป ฉู่ซีเย่นั่งอยู่บนตั่งนุ่ม เบื้องหน้าของเขามีเตาไฟที่กำลังมอด สุราอุ่นอยู่ในกาสีเทา จอกเหล้าสองจอดบ่งบอกว่าเมื่อครู่ฉู่ซีเย่ได้นั่งดื่มกับคนผู้หนึ่ง

“พี่ชายข้า” ฉู่ซีเย่บอก ก่อนหน้านี่เขาได้นั่งดื่มสุราอยู่กับฉู่ซีห่าว แต่กลับไปแล้ว

“อ่อ เจ้าค่ะ” นางเอ่ยถามถึงธุระที่เขาเรียกนางมาพบ “จินเฟยบอกว่าท่านมีธุระจึงอยากพบข้าน้อย”

“ไม่ใช่เรื่องสำคัญอันใด เพียงแต่มีจดหมายมาถึงเจ้า” ฉู่ซีเย่นำจดหมายออกมา ทั้งช่วงก่อนหน้านี้หรือตอนนี้ เขาให้คนคอยรับจดหมายแทนนางมาตลอด เผื่อว่าหย่งสวินอาจจะส่งจดหมายโดยตรงถึงนาง แต่อีกฝ่ายน่าจะคาดเดาได้ว่าฉู่ซีเย่ให้คนดักจดหมาย จึงไม่เคยส่งมา หากมีเรื่องใดๆ จะผ่านลู่หมิงตลอด

“ขอบคุณเจ้าค่ะ” เหยาอี้เหยารับจดหมายจากพี่ชายมา นางค่อนข้างมั่นใจว่าฉู่ซีเย่ได้อ่านจดหมายก่อนแล้ว หลังเห็นว่าไม่มีเรื่องใดๆ จึงมอบต่อให้นาง

“ไม่อ่านหน่อยรึ”

“ข้าน้อยจะกลับไปอ่านที่เรือนเจ้าค่ะ” นางเตรียมตัวกลับแล้ว “หากท่านไม่มีเรื่องใดแล้ว เช่นนั้นข้าน้อยขอตัวก่อน”

“ข้ามีอีกเรื่อง” ฉู่ซีเย่รินสุรา สายตามองนางที่สวมชุดสีชมพูอ่อน กลิ่นหอมหลังอาบน้ำใหม่ๆ ของนางให้ความรู้สึกผ่อนคลายจนเขาประหลาดใจ “เหยาอี้ร่างเขียนมาว่าใกล้จะได้เลื่อนตำแหน่งเป็นแม่ทัพแล้ว คาดว่าเป็นฝีมือของไท่จื่อเพื่อส่งสัญญาณถึงเจ้า”

เหยาอี้เหยาคิดไม่ผิด ฉู่ซีเย่อ่านจดหมายก่อนนางแล้วจริงๆ

“ความจริงท่านพี่ควรจะได้เลื่อนตำแหน่งนานแล้ว หากไม่ติดว่าต้องรับเคราะห์แทนข้า” เพื่อไม่ให้ชาวแดนเหนือขุ่นข้องหมองใจ สามสี่ปีมานี้สกุลเหยาได้รับการปฏิบัติไม่เป็นธรรมมาตลอด

“ข้าไม่สนเรื่องนั้น สิ่งที่ข้าสนใจคือหลังจากนี้” ฉู่ซีเย่ดื่มสุรา “อีกไม่กี่วันพี่ชายข้าจะขึ้นรับตำแหน่งแล้ว แน่นอนว่าด้วยนิสัยของไท่จื่อแล้วคงไม่ยอมอยู่เฉย ไม่พรุ่งนี้ก็มะรืนนี้ เขาต้องมอบหมายงานให้เจ้าทำแน่”

“ไท่จื่อกำลังจับตาข้าน้อยอยู่ ข้าน้อยเกรงว่าครั้งนี้อาจจะทำตามสิ่งที่ท่านต้องการไม่ได้” นับตั้งแต่เดือนก่อนที่นางขัดคำสั่งไท่จื่อ ลู่หมิงก็สอดแนมนางบ่อยขึ้น อีกทั้งการมอบยศเลื่อนตำแหน่งให้ท่านพี่ในครั้งนี้ คือการออกปากเตือนกลายๆ ว่าถ้านางไม่ทำตามในสิ่งที่ไท่จื่อสั่ง คนที่ต้องรับเคราะห์คือเหยาอี้ร่าง

พี่ชายดีกับนางเหลือเกิน นางไม่อยากทำให้เขาต้องมารับเคราะห์ในเรื่องนี้

“เจ้าจะทำยังไงก็ได้ แต่...พี่ชายข้าต้องได้ขึ้นเป็นเจ้าเมือง”

“แล้วถ้าหากสิ่งที่ไท่จื่อต้องการคือการขัดขวางแม่ทัพฉู่ขึ้นเป็นเจ้าเมืองเล่า” ย่อมต้องเป็นเรื่องนี้ไม่ผิดแน่ ไม่เช่นนั้นฉู่ซีเย่คงไม่เรียกนางมาขู่

“เจ้ากล้าขัดขวางหรือ” คำถามนั้นเรียบๆ แต่สายตาของฉู่ซีเย่เย็นชา

“ท่านอยากให้แม่ทัพฉู่ได้เป็นเจ้าเมือง ข้าน้อยก็อยากให้ท่านพี่ได้เป็นแม่ทัพ” นางพูดออกไปด้วยน้ำเสียงไม่มั่นคง ด้วยรู้ตัวดีว่าสถานะและสถานการณ์ตอนนี้ นางไม่สามารถเลือกได้

“เจ้ามีสิทธิคิดหรือต้องการเช่นนั้น แต่ปล่อยให้มันเป็นเพียงความคิดเพ้อฝันเถอะ ไม่เช่นนั้นมันอาจจะทำร้ายเจ้าได้” กระแสอำมหิตสายหนึ่งจากนัยน์ตาฉู่ซีเย่ส่งถึงนาง

เหยาอี้เหยาเม้มปาก ไม่สามารถตอบโต้หรือทำอันใดได้ นอกจากทำตามคำสั่งของฉู่ซีเย่ไปก่อน

การคาดเดาของฉู่ซีเย่ไม่ผิดพลาด วันต่อมาลู่หมิงมาบอกนางว่าไท่จื่อหย่งสวินต้องการพบนาง แต่ยามนี้คนของฉู่ซีเย่อยู่รายล้อมตัวนาง นางจึงไม่สามารถไปพบพระองค์ได้ จึงได้สื่อสารกันผ่านจดหมาย คำสั่งง่ายๆ เพียงหนึ่งบรรทัด

‘ขัดขวางฉู่ซีห่าว’

คืนนั้นเหยาอี้เหยานอนไม่หลับ นางลุกขึ้นมาอ่านจดหมายของพี่ชายอีกรอบ เนื้อความในจดหมายของพี่ชายเต็มไปด้วยความเป็นห่วงนาง พร้อมทั้งถามไถ่ว่านางเป็นอย่างไรบ้าง ส่วนการเลื่อนตำแหน่งเขาพูดถึงเพราะต้องการบอกนางว่าอีกไม่นานเขาจะมีอำนาจมากพอเพื่อปกป้องนางแล้ว อีกทั้งท่าทีของสกุลหลิวเมื่อทราบว่าเขาจะได้เลื่อนตำแหน่งก็มีท่าทีดีขึ้น ไม่ยกเลิกการหมั้นหมายแล้ว

แต่ถ้านางขัดขวางฉู่ซีห่าวไม่สำเร็จ ท่านพี่นางไม่มีทางได้เลื่อนตำแหน่งหรือแต่งงานแน่ นอนจากนี้นางยังขาดยาไม่ได้ แล้วอีกสองวันนางต้องกินยาแล้ว แต่ไท่จื่อคงไม่มอบให้หากนางทำงานไม่สำเร็จ

เหยาอี้เหยาคิดไม่ตก นางรู้ว่าตอนนี้กำลังถูกต้อนจนมุมแล้ว นางไม่กล้าที่จะขัดคำสั่งฉู่ซีเย่และไม่มีความสามารถมากพอที่จะขัดขวางไม่ให้ฉู่ซีห่าวรับตำแหน่ง

นางพึ่งจะเก้าขวบ นางจะทำถึงขั้นนั้นได้อย่างไรกัน

เป็นครั้งแรกในชีวิตที่นางรู้สึกว่าตนเองมืดแปดด้าน ไม่สามารถคิดหาหนทางใดๆ ต่อไปได้อีก ในตอนที่นางกำลังเคร่งเครียด องค์หญิงหย่งเยี่ยนที่นางคอยดูแลส่งมอบของใช้และอาหารการกินก่อนหน้านี้ได้ให้คนส่งจดหมายลับๆ มาที่กรมสำมโนครัว นางเปิดอ่านด้วยความสงสัยว่าจดหมายฉบับนี้ผ่านฉู่ซีเย่มาได้อย่างไร

‘มาหาข้าหน่อย ข้าอยากเจอเจ้า’

เหยาอี้เหยาเหมือนได้ค้นพบแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ นางไม่รอช้ารีบออกไปจากด้านหลังกรมเพื่อมุ่งหน้าไปยังตรอกขวา นางไม่รู้ว่าองค์หญิงเรียกนางทำไม แต่พระองค์คือไพ่ในมือที่ฉู่ซีเย่ไม่อยากให้ใครรู้ว่ามีอยู่

“จางลี่ ถ้าลู่หมิงมารู้นะว่าต้องทำยังไง” จางลี่รับคำ หลังๆ มานี่นางต้องเอาตัวรอดเช่นกัน และการอยู่กับเหยาอี้เหยาคือทางเลือกที่ดีที่สุดทางหนึ่ง

ตรอกขวาเป็นเช่นที่เคยเป็น ยังคงเต็มไปด้วยเรื่องราวด้านมืดที่ไม่น่าเข้าใกล้ จนเหยาอี้เหยาเองก็ไม่ค่อยรู้สึกไม่อยากมา แล้วองค์หญิงที่อาศัยหลบซ่อนอยู่ในตรอกมานับเดือนเช่นนี้ จะทนได้อย่างไร

“องค์หญิง ทรงเรียกข้าน้อยมามีอะไรจะรับสั่งหรือเพคะ”

“นั่งก่อนสิ ข้ามีเรื่องจะขอให้เจ้าช่วย”

หย่งเยี่ยนพักฟื้นมานับปีจนร่างกายเกือบหายดีแล้ว ก่อนหน้านี้พระองค์เป็นองค์หญิงที่เย่อหยิ่งและดื้อรั้น ครั้นถูกฝ่าบาทสั่งให้มาสมรสกับฉู่ซีเย่นางก็ไม่ต้องการ จึงทำตัวเหลวแหลกสารพัดกับซานตี๋จนตั้งครรภ์ ทว่าถึงขั้นนั้นฝ่าบาทก็ยังส่งนางมาสมรสกับฉู่ซีเย่อยู่ดี นางจึงหลบหนี แล้วกลับไปหาเขาที่นางรักที่สุด

แต่ความจริงไม่สวยงามอย่างที่คิด นางลำบากลำบนอยู่ในเรือนผุพังกับซานตี๋ที่คิดว่ารักนาง ในตอนนั้นเองที่เสด็จพี่อย่างหย่งสวินมาพบนาง เพื่อพากลับมาสมรสกับฉู่ซีเย่ ซึ่งไม่รู้ว่าผีตนใดเข้าสิงนาง ทำให้นางปฏิเสธที่จะสมรสกับซื่อจื่อแดนเหนือ เสด็จพี่จึงให้คนกรอกยาพิษให้นางกิน ส่วนบุรุษที่บอกว่ารักนางนักหนา กลับหนีเอาตัวรอดอย่างรวดเร็ว...

หย่งเยี่ยนคิดว่าจะตายเสียแล้ว แต่คนของฉู่ซีเย่มาช่วยนางก่อน วิชาแพทย์ของสกุลฉู่ยอดเยี่ยมเหนือสามัญ นางจึงรอดพ้นความตายมาได้โดยสูญเสียทารกในครรภ์ไป

วินาทีที่นางฟื้นขึ้นมาแล้วพบว่าฉู่ซีเย่มีรูปโฉมเหนือกว่าคนทั้งหมดที่นางเคยพานพบมา นางถึงกลับอยากจะกลับไปตบหน้าตนเองเพื่อเรียกสติว่ากล้าดียังไงถึงได้ปฏิเสธการสมรสกับคนเช่นเขา แต่อนาคตยังมีอยู่ นางต้องทะนุถนอมชีวิตใหม่ให้ดี

ใครที่ช่วยเหลือนางไว้ นางจะตอบแทนอย่างดีที่สุด...

“ข้าอยากให้เจ้าส่งจดหมายให้เสด็จพ่อหน่อย แบบนั้นข้าคงพอจะช่วยเจ้าได้”

“องค์หญิง ข้าน้อยเกรงว่าด้วยความสามารถของข้าน้อย คงไม่สามารถทำเช่นนั้นได้” การลักลอบส่งจดหมายขององค์หญิงไม่ได้เสี่ยงแค่จะทำให้ฉู่ซีเย่เกิดโทสะ แต่ยังเสี่ยงจะกระตุ้นให้ไท่จื่ออยากฆ่านางเร็วขึ้นเพื่อปิดปาก

“เจ้าไม่มีแผนการอะไรเลยรึ ไหนว่าต้องขัดขวางไม่ให้แม่ทัพฉู่ขึ้นรับตำแหน่ง”

“ที่จริงก็มีอยู่” เหยาอี้เหยาคิดและพูดอย่างระมัดระวัง “องค์หญิง อีกสองวันจะเป็นวันแต่งตั้งเจ้าเมืองโจวอี้ ท่านกล้าเสี่ยงปรากฏตัวต่อสาธารณชนในวันนั้นหรือไม่เจ้าคะ ข้าน้อยรับรองว่าไม่ว่าจะเป็นฉู่ซื่อจื่อหรือไท่จื่อ ก็ไม่มีใครกล้าแตะต้องท่านอีกแน่”

เหยาอี้เหยาได้เลือกแล้วว่านางจะขัดขวางการขึ้นรับตำแหน่งของฉู่ซีห่าว เพื่อให้พี่ชายได้รับตำแหน่งแม่ทัพ ส่วนนางจะเป็นอย่างไรต่อจากนั้น ค่อยคิดก็แล้วกัน

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   6/3 เจ้าเมืองโจวอี้

    แผนการทุกอย่างได้ตระเตรียมไว้แล้ว เหยาอี้เหยาระมัดระวังทุกฝีก้าวเพื่อไม่ให้ใครจับได้ โชคดีที่เมื่อวานมีคนก่อความวุ่นวายจึงทำให้ฉู่ซีเย่หันเหความสนใจไปจากนาง นางจึงฉวยโอกาสในเวลานั้นเพื่อหาทางติดต่อกับจี๋เฉวียน เพื่อขอความช่วยเหลือฝ่ายจี๋เฉวียนหลบเลี่ยงทหารตระเวนเมืองจนมาพบนางได้ที่ท้ายตรอก เขาไม่เอ่ยถามว่าใครกันคือคนที่นางต้องการให้อารักขาไปยังจวนว่าการประจำเมืองในวันแต่งตั้งของฉู่ซีห่าวหรือนางต้องการทำอันใด เพราะเขาเคยบอกแล้ว ไม่ว่าเรื่องใด ขอแค่นางขอร้อง เขาจะทำให้ยามอิ๋นท้องฟ้ายังมืดสนิท เหยาอี้เหยาลุกจากเตียงนอนก่อนจางลี่ นางผลัดเปลี่ยนชุดพิธีการตามที่ได้รับมอบมา ก่อนจะออกเดินทางไปสมทบกับคณะราชทูต นางนั่งบีบมือตนเองเพื่อระงับความตื่นเต้น แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถสงบใจลงได้จิตใจนางหวั่นกลัว ยิ่งใกล้จวนว่าการเจ้าเมืองเท่าไหร่ นางก็ยิ่งกลัวขบวนของนางไปถึงจวนว่าการในลำดับแรกๆ ที่นั่งของนางอยู่ฝั่งตรงข้ามของลานที่ประดับประดาไว้ด้วยธงปลิวไสว ตรงกลางมียกพื้นสำหรับวางกลองประจำเมือง ผู้คนคลาคล่ำมากมายอยู่ภายในบริเวณงาน นอกจากนี้ บริเวณกำแพงด้านนอกยังเต็มไปด้วยชาวบ้านที่มารอสนับสนุนแม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   7/1 หอโคมเขียว

    หิมะตกหนักจนทั่วทุกแห่งหนขาวโพลนอาณาเขตกางกั้นระหว่างรัฐหลู่และนอกด่านมีกำแพงขวางกั้นสองชั้น แบ่งเป็นชั้นนอกและชั้นใน จินเฟยจอดรถม้าเมื่อถึงที่หมาย เขาห่อตัวเหยาอี้เหยาเอาไว้ในเสื่อเก่าๆ จึงดูไม่ต่างอะไรกับศพ อีกทั้งร่างกายของนางยังแผ่พลังหยินอันมหาศาล จนคนทั่วไปรู้สึกได้สิ่งที่อยู่ในห่อผ้าให้อารมณ์เฉกเช่นศพผู้อาวุโสฉู่ยืนอยู่หลังกำแพงชั้นใน หลุบตามองม้วนเสื่อเก่าๆ อย่างเงียบๆ เขาได้รับจดหมายจากฉู่ซีเย่ว่าวันนี้จะนำตัวสายของไท่จื่อหย่งสวินมาฝากไว้ ในความหมายเหมือนจะบอกให้เขาคุมขังนางไว้ในนอกด่านตลอดชีวิตนางทว่าด้วยสภาพของนางในตอนนี้ อาจจะไม่ใช้เวลานานก็เป็นไป ไม่แน่วันนี้มะรืนนี้ นางอาจจะจากไป เพราะพลังหยินของนางไม่สมดุล สายตาของผู้อาวุโสเฉียบคม วิชาแพทย์ขั้นสูงของเขาทำให้มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่านางถูกพิษแมลงคุณไสย ซึ่งไม่มียาถอนชีวิตนางคงอยู่ไม่ถึงหนึ่งถ้วยชา“เรียนผู้อาวุโสฉู่ ซื่อจื่อให้บอกท่านว่านางเป็นของท่านแล้ว ท่านจะทำอย่างไรกับนางก็ถือเป็นสิทธิ์ขาดของท่าน ขอเพียงไม่ให้นางออกนอกด่านอีกเป็นพอขอรับ”“นางเป็นลูกหลานสกุลใด” อย่างน้อย หากนางตายไป เขาจะได้เขียนป้ายให้สักคำ“สกุ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   7/2 หอโคมเขียว

    หอสราญรมย์มีแขกผู้ไม่คาดฝันมาเยือนในยามวิกาล เจ้าของหอรีบลงมาต้อนรับโดยทันที ไม่กล้าชักช้า"หากผู้น้อยต้อนรับผิดพลาดประการใด ขอซื่อจื่อโปรดอภัย"หอสราญรมย์ขึ้นชื่อเรื่องอาหารและที่พัก แขกของหอเป็นคนชั้นสูงมีเงิน แต่ฉู่ซีเย่คือระดับสูงกว่านั้น จนทำให้หอเลื่องชื่อเป็นเพียงที่พักดาษดื่นเถ้าแก่ถึงกลับต้องตบหน้าตนเองสามครั้ง ถึงจะเชื่อว่าไม่ได้ฝันไป"ซื่อจื่อขอรับ ไม่ทราบว่าท่านต้องการห้องแบบใด ผู้น้อยจะจัดการหาให้ท่านโดยทันที"ฉู่ซีเย่กล่าวยิ้มๆ ไม่อยากให้ทำเป็นเรื่องใหญ่ "ขอทุกห้องที่ว่าง"รถม้าเคลื่อนที่ไปบนถนนหินของเมือง ผ่านร้านรวงสองข้างทาง จนออกมานอกงานเทศกาลฤดูหนาวอันครึกครื้นในเวลาต่อมากระแสอำมหิตที่นางเคยรู้สึกหายไปแล้ว จึงเตรียมตัวที่จะหลบหนีไปจากตรงนี้เหยาอี้เหยาแก้เชือกที่มัดมืออย่างรวดเร็ว ก่อนจะรั้งเชือกเอาไว้ในมือ ผูกเป็นปมให้คล้ายนางยังถูกมัดอยู่ แต่กระตุกนิดเดียวก็หลุดคนของแม่เล้าควบคุมรถม้าอยู่หนึ่งคน ส่วนที่เหลือขนาบข้างซ้ายขวา ดื่มสุราในขวดน้ำเต้าพร้อมพูดคุยอย่างออกรสชาติ มึนเมาพอสมควรถนนเส้นนี้เป็นถนนสายรอง ยามปกติก็ไม่ค่อยมีคน ยิ่งยามนี้มีงานเทศกาลฤดูหนาวพอดี จึ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   7/3 หอโคมเขียว

    “ใครให้เจ้าไป”สองเท้าของเหยาอี้เหยาหยุดโดยพลัน แต่ครั้นจะหันกลับมาอีกก็กลัวเหลือเกินว่าจะถูกเขาจับได้ นางกลัดกลุ้ม ไม่รู้ควรทำอย่างไร“รินสุราให้ข้า” เขาสั่งภายในห้องมีกาสุราอยู่ใกล้อ่างไม้ ขอเพียงฉู่ซีเย่เอื้อมมือไปหยิบเท่านั้น ทว่าเขาเหมือนเกียจคร้านเกินกว่าที่จะทำเอง“ไม่ได้ยินรึ ข้าสั่งเจ้าให้รินสุรา” น้ำเสียงเขาเริ่มเข้มขึ้น นางจึงต้องค้อมตัวอ้อมหลังเขาไปรินสุราให้อย่างระมัดระวัง พยายามก้มหน้าก้มหน้าไม่เปิดเผยพิรุธเมื่อรินสุราให้แล้ว นางก็ค่อมกายคารวะถอยห่างออกไปยืนข้างๆ ฉากกั้น ใช้สมองคิดว่าควรจะทำเช่นไรเพื่อหลบออกไปจากสถานการณ์ในตอนนี้ โดยไม่รู้เลยว่านางตกอยู่ในสายตาของฉู่ซีเย่ผ่านกระจกทองเหลืองนัยน์ตาเขามองนางอย่างจับจ้องทุกสัดส่วน ขณะใช้นิ้วเรียวจับจอกสุรา มองวิเคราะห์ใบหน้าเล็กเท่าฝ่ามือตั้งแต่หัวคิ้วลงมาถึงริมฝีปาก หกปีก่อนนางเป็นเพียงเด็กหญิง ทว่าบัดนี้เริ่มเผยเค้าโครงของหญิงสาวในคราบเด็กหนุ่มหน้าดำฉู่ซีเย่ยอมรับว่านางไม่เหมือนเดิม พูดให้ถูกคือเขาคงจำนางไม่ได้หากพบกันตามถนนหนทาง แต่บนร่างนางมีพลังหยินเย็นยะเยือก เขารู้สึกถึงนาง ก่อนที่นางจะปรากฏตัวขึ้นเสียอีกเหยาอี้เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   8/1 ไม่ตอบสนอง

    ท้องฟ้าด้านนอกขมุกขมัว อากาศเย็นทำให้เหยาอี้เหยาต้องพกเตาอุ่นสองตัว นางเดินกับเมียนเมี่ยนไปบนทางสายหนึ่งเพื่อมุ่งหน้าไปยังโรงน้ำชาป้าจางนางเข้าใจในสิ่งที่ผู้อาวุโสฉู่กล่าว ทั้งยังเชื่อในสิ่งที่เขาพูดทุกคำ ทว่านางได้นัดหมายไว้แล้ว อีกทั้งท่านไป๋เซียนหลางเป็นผู้แตกฉานในเรื่องพิษยิ่งกว่าผู้ใดจากเจียงหนาน ชาตินี้นางอาจจะไม่มีโอกาสได้พบเขาอีกเลยก็ได้ ดังนั้นแม้นางจะรู้แล้วว่าพบท่านไป๋เซียนหลางก็อาจจะไม่สามารถหายาถอนพิษได้ แต่นางอาจจะได้เรียนรู้เรื่องดีๆ จากเขาก็ได้เหยาอี้เหยาคิดว่าการขอร้องให้ฉู่ซีเย่นอนข้างนางเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากยิ่ง นางจึงอยากลองหาวิธีอื่นๆ เผื่อไว้ในกรณีฉุกเฉินผู้อาวุโสฉู่ไม่ได้ห้ามนางมาพบท่านไป๋เซียนหลาง เขาเพียงบอกว่าให้นางรีบกลับไปในวันสองวันนี้ เขาจะได้ฝากนางกลับเข้าไปในจวนสกุลฉู่หิมะตกหนาหลายชุ่นปกคลุมอยู่เหนือหลังคาทรงสูง บริเวณชั้นสองของระเบียงที่ยื่นออกมามีชายผู้หนึ่งนั่งดื่มน้ำชาอยู่บนนั้น ใบหน้าซ่อนอยู่ใต้หมวกสีขาว สีเดียวกับชุดที่สวมอยู่บนร่าง ท่วงท่าสง่างามเรียบง่ายของเขาทำให้ผู้พบเห็นไม่อยากเสียมารยาทด้วย“ผู้นั้นแหละ ไป๋เซียนหลาง เขาไม่อนุญาตให้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   8/2 ไม่ตอบสนอง

    บทสนทนาทุกอย่างที่เกิดขึ้นในห้องรับรองอยู่ในการรับรู้ของเหยาอี้เหยา กระนั้นนางก็ไม่เข้าใจแม้แต่น้อยว่าผู้อาวุโสกับฉู่ซีเย่พูดเรื่องอันใดกันอยู่ฉู่เซียนเซิงบอกว่าข้าไม่เข้าใจรึ?ไม่สิ นางเข้าใจในสิ่งที่ผู้อาวุโสฉู่พูดแน่นอน การนอนกับซื่อจื่อ ก็คือการร่วมเตียงนอนหลับด้วยกันมิใช่หรือ?หรือว่านางจะฟังผิดไปกันแน่ บางที อาจจะไม่ง่ายเช่นนั้นก็ได้ คิดได้อย่างนั้นนางจึงแนบหูฟังอย่างจดจ่อ จะได้ไม่ตีความอันใดผิด ระหว่างนี้นางก็คิดทบทวน เมื่อครู่ตอนผู้อาวุโสขอร้องให้นาง ฉู่ซีเย่ไม่ได้ปฏิเสธอันใดนี่แสดงว่าซื่อจื่อรับนางกลับไปแล้วใช่หรือไม่?แต่ในห้องไม่พูดอันใดแล้ว ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ อีก นางรออยู่ประมาณครึ่งถ้วยชา ถึงได้ยินฉู่ซีเย่กล่าวลาผู้อาวุโสฉู่“ข้างนอกอากาศเย็น ข้าจะให้จินเฟยไปส่งท่าน”เขาจะไปแล้วรึ?นางเล่า?เท้าของนางรวดเร็วกว่าสมองอยู่บ้าง เมื่อได้ยิน เส้นชีพจรเท้าก็รีบออกเดินไปก่อน แม้นางจะเตรียมตัวเตรียมใจมาบ้างว่าคงต้องอยู่กับฉู่ซีเย่ แต่ผู้อาวุโสฉู่จะทิ้งนางได้อย่างไรกันอย่างน้อยนางก็อยากจะให้เขาอยู่กับนางด้วย ระหว่างที่ต้องนอนหลับกับฉู่ซีเย่ แต่จะว่าไปนางก็ไม่ได้ถามผู้อาวุโสเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   8/3 ไม่ตอบสนอง

    เมื่อถึงนอกด่าน เหยาอี้เหยารีบจัดเก็บเสื้อผ้าของใช้ของตนเอง รวมทั้งขอให้ผู้ดูแลจิ่ง จากกรมสำรวจสำมโนครัวตรอกซ้ายโอนย้ายชื่อของนางกลับเข้าเมือง ตามที่ฉู่ซีเย่ได้อนุญาตเป็นรายลักษณ์อักษร เหยาอี้เหยาบอกลาฟั่นฟั่นแล้วจึงเดินทางไปอยู่กับเมียนเมี่ยน จี๋เฉวียน และอามู่อีกหนึ่งวัน เมื่อได้ร่ำลาทุกคนแล้ว นางจึงเดินทางเข้าเมือง โดยมีผู้อาวุโสฉู่ไปส่งที่ประตูเมือง ใช้เวลาเตรียมตัวทั้งหมดสามวัน “ฉู่เซียนเซิง ข้าน้อยขออนุญาตจอดรถม้าตรงนี้สักครู่ได้หรือไม่เจ้าคะ “วันนี้เป็นวันครบรอบวันเสียชีวิตของท่านตา นางจึงตั้งใจนำสุรามาเซ่นไหว้ แต่นางมีพลังหยินมาก ทำให้เข้าใกล้สุสานซึ่งมีแต่พลังหยินของศพไร้ญาติไม่ได้ ตลอดหกปีมานี้ จึงไม่ได้มาเลย “ข้าน้อยไม่เข้าใกล้หรอกเจ้าค่ะ แค่อยากอยู่ตรงนี้สักครู่” “จอด” ฉู่ซวิ่นส่งเสียงขึ้นโดยที่ไม่ลืมตา “ใช้เวลาตามสบายเถิด” “ขอบคุณเจ้าค่ะ” เหยาอี้เหยาลงจากรถม้า เหนือเนินเขาอันขาวโพลนมีกิ่งก้านต้นไม้แห้งแล้งยืนต้นอย่างเดียวดาย ส่วนอีกฟากมีที่รกร้างสำหรับฝังศพอนาถาและนักโทษ… สายลมหนาวพัดโชยจนเสื้อคลุมปลิว เตาอุ่นในมือดับลง กระนั้นเหยาอี้เหยาก็ยังเดินต่อไป จนแรงต้านของพล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   9/1 คืนแรก

    เมืองหลวง ต้าหย่งปีนี้ฮูหยินผู้เฒ่ามีอายุเจ็ดสิบปีทางด้านบุตรชายคนโตอย่างเหยาซือหม่าจึงตั้งใจจัดงานฉลองวันคล้ายวันเกิดให้มารดา แม้จะไม่ใช่งานใหญ่โต แต่ก็มีหน้าตาในระดับหนึ่งหลายปีมานี้สกุลเหยาได้รับการพระราชทานตำแหน่งจากฝ่าบาทจนมีหน้ามีตาขึ้น เช่น หลานสาวคนที่ห้า ได้เป็นถึงท่านหญิงแห่งต้าหย่ง หรือหลานชายคนรองซึ่งได้รับการเลื่อนขั้นเป็นแม่ทัพจากผลงานการปราบจลาจลที่ท่าเรือสินค้า และคุณหนูสามยังได้ออกเรือนไปกับคุณชายกง ทำให้เวลานี้ สกุลเหยา นับว่าสามารถกู้ชื่อเสียงในอดีตได้บ้างบรรดาแขกเหรื่อที่มาร่วมงานจึงมีแขกระดับสูง ห้าสกุลใหญ่แห่งเจียงหนานยังเดินทางมาร่วมงานด้วย พร้อมทั้งมีการทาบทามเพื่อเจรจาเรื่องหมั้นหมายของคุณหนูสี่ที่ยังไม่ออกเรือนคุณหนูสี่ เหยาหลิงหว่าน อายุสิบหกปี เป็นสาวงามผุดผาดที่สะพรั่งพร้อม ในเมืองหลวงแห่งนี้ ชื่อเสียงความงดงามของนางเลื่องลือยิ่ง อีกทั้งนางยังบรรเลงเพลงพิณได้ไร้ที่ติ ความสามารถยิ่งเสริมความงามของนางให้เจิดจรัสฮูหยินผู้เฒ่าจึงเชิดหน้าได้อย่างเต็มภาคภูมิเวลาคนเอ่ยชมหลานสาวคนนี้ของนางไหนจะมีคุณชายรองอย่างแม่ทัพเหยาอี้ร่างอีก คืนนี้ฮูหยินผู้เฒ่ายิ้มแย้ม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18

บทล่าสุด

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   23/2 ความรักที่สุกงอม

    ฤดูใบไม้ผลิของแดนเหนืออบอุ่นและงดงาม ต้นไม้ที่หลับใหลในฤดูเหมันต์ผลิใบอ่อน แสงแดดลอดเงาผ่านช่องว่างต้นถั่วแดงเข้ามาเป็นลำแสง ต้นถั่วแดงหงฉู่โตวเป็นไม้ยืนต้นที่ใช้เวลาหลับใหลในฤดูหนาวเช่นกัน แต่เพราะมันเติบโตในแดนใต้ที่อากาศอุ่น ก่อนจะถูกขุดล้อมแล้วย้ายขึ้นมาที่เมืองโจวอี้ ต้นถั่วแดงจึงเจริญเติบโตขึ้นมาก เหยาอี้เหยามักจะมารดน้ำต้นถั่วด้วยตนเอง นางจำได้ว่าช่วงสามปีแรก ต้นถั่วโตช้ายิ่ง จนกระถางเล็กๆ ยังโตไม่เต็ม ครั้นลงดินที่อำเภอซานถง เพียงไม่นานก็สูงเอาๆ แต่พอมาคิดดู เหยาอี้เหยาคิดว่าสาเหตุที่ต้นถั่วโตช้าตอนอยู่ในกระถาง เพราะพื้นที่ไม่พอ สารอาหารขาดแคลน พอได้รับแสงแดด สายลม พื้นที่เหมาะสม พริบตาเดียวก็สูงขึ้นจนต้องแหนหน้ามองแล้ว ร่มเงาของกิ่งก้านที่แผ่ขยายออกเป็นพุ่มงาม ใบไม้เสียดสีเบาๆ ราวกับกำลังอวยพรให้นาง เหยาอี้เหยาพนมมือรับพรด้วยน้ำตา แต่คำอวยพรบางอย่างก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้... “อยู่นี่เอง” ฉู่ซีเย่เดินเข้ามาบริเวณสวนดอกไม้ ตรงกลางมีต้นถั่วยืนต้นโดดเด่น ใต้ร่มเงามีหญิงงามในชุดผ้าคลุมตัวยาว ช่วงนี้อากาศเริ่มร้อนแล้ว กระนั้นเหยาอี้เหยาก็ยังสวมชุดฤดูหนาว “ท่านหาข้าอยู่หรือ” เ

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   23/1 ความรักที่สุกงอม

    เดินทางจากอำเภอซานถงถึงแดนเหนือใช้เวลาสองสัปดาห์ เหยาอี้เหยาตกลงใจใช้ชีวิตอยู่กับฉู่ซีเย่ บางวันหวานชื่น บางวันรักร้อนแรง หรือทะเลาะกันบ้าง เพราะนางอยากออกไปทำงานสำรวจสำมโนครัวแบบเมื่อก่อน เพราะอยู่เฉยๆ เบื่อเกินไปฉู่ซีเย่คัดค้านหัวชนฝา เขาไม่อยากให้นางออกไปทำงานข้างนอก กลัวว่าจะมีคนมาชมชอบนาง ก็นางงามขนาดนี้ มีแต่คนตาบอดเท่านั้นที่ไม่มอง“แน่ใจนะว่าท่านไม่อนุญาต”“แน่นอน”“งั้นคืนนี้ท่านไปนอนที่อื่น”ฉู่ซีเย่ลุกพรึ่บ “ไม่ได้”“ได้ ก็นี่ห้องข้า เสียก็แต่ว่าท่านจะยึดคืน” เหยาอี้เหยาลุกขึ้น นางคว้าหมอนและผ้าห่มของฉู่ซีเย่ออกไปทิ้งด้านนอกห้อง“อี้เหยา” ฉู่ซีเย่ตามไปเก็บแล้ววางที่เดิม ก่อนจะประกาศก้อง “คืนนี้ข้าจะนอนที่นี้”“ท่านอ๋อง ท่านไม่สิทธิ์รุกล้ำพื้นที่นะ ยิ่งเจ้าของไม่อนุญาต ยิ่งไม่ได้”“แล้วไง ใครสน” ฉู่ซีเย่นั่งลงบนเตียง เขาเอนนอนเอาแขนชันศีรษะ “ข้าพอใจจะนอนที่นี้”“ก็ได้ งั้นข้าจะไปนอนที่อื่น” เหยาอี้เหยาเดินไปที่ประตู ฉู่ซีเย่ดีดตัวลุกขึ้นมาขวาง เขายืนขวางประตู ก่อนจะถอนหายใจ เขายอมถอยให้นาง“เอาล่ะ พอก่อน มาคุยกันดีๆ เถอะ”“ก็ได้” เหยาอี้เหยาเห็นเขายอมถอย นางก็ถอยหนึ่งก้าว “

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   22/2 แก้แค้นสิบปีก็ไม่สาย

    “เจ้าต้องเข้าใจว่าข้าไม่อาจสบายใจได้ ตราบใดที่มีเจ้า” หย่งสวินกล่าวอย่างลำบากใจ แต่ดวงตากลับเฝ้ารอ ในใจคงจินตนาการวันที่ได้ฆ่าฉู่ซีเย่มานับครั้งไม่ถ้วน“คนที่คิดจะฆ่าข้า ไม่ตายดีสักคน” ฉู่ซีเย่ไม่กลัวว่าหย่งสวินจะเอาดาบแทงตน เพราะคนเหลี่ยมจัดอย่างหย่งสวิน ไม่เล่นในเกมที่ตกเป็นรอง“เจ้าต้องมีชีวิตอยู่นานๆ หน่อย จะได้รู้ว่าข้าจะได้ตายดีหรือไม่ แต่น่าเสียดาย คงไม่มีวันนั้นแล้ว” หย่งสวินยกดาบขึ้น ก่อนจะฟันใส่แขนขวาจนขาด เขาส่งเสียงร้องโหยหวน“ช่วยข้าด้วย! ต้าเป่ยอ๋องจะสังหารข้า!”ประตูท้องพระโรงเปิดออกในยามรุ่งสาง ฉู่ซีเย่ถูกคุมตัวออกมามุ่งหน้าไปยังลานประหารในโทษฐานลอบทำร้ายประมุขของประเทศ ความรีบร้อนในการประหารเขาทันที เป็นความต้องการของหย่งสวินคลื่นลมในวังเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างมั่นใจแน่แล้วว่าหย่งสวินจะได้เป็นฮ่องเต้องค์ต่อไป ด้วยไท่จื่อก็สิ้นแล้ว หย่งมู่ที่กลัวตายก็รีบหอบผ้าหนีเอาตัวรอด ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้ากังขาหรือคัดค้านแม้เพียงนิดที่หย่งสวินคิดจะสังหารฉู่ซีเย่อย่างไรก็ตาม การประหารใช่จะทำได้เลยในทันที เพราะความวุ่นวายจากทางฝั่งของคนสนับสนุนไท่จื่อก็ไม่ยินยอมเช่นกัน

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   22/1 แก้แค้นสิบปีก็ไม่สาย

    “เจ้าไม่เป็นห่วงชายผู้นั้นของเจ้าหรือ”ชายผู้นั้นของกงจิ้ง ย่อมหมายถึงฉู่ซีเย่ “ได้ยินว่าทางวังกำลังเผชิญหน้ากับพายุใหญ่ ไม่แน่ว่าชายผู้นั้นของเจ้า อาจพบอันตรายร้ายแรง”“ก็อาจจะพบอันตราย แต่ข้าไม่ห่วงมากเท่าไหร่” นางล้างผัก ท่าทีผ่อนคลายกงจิ้งทำหน้าประหลาด เหยาอี้เหยาดูไม่ร้อนใจเท่าที่ควร“สามปี” เหยาอี้เหยาพูดขณะมองตรงไปหน้าผืนนา “เขาใช้เวลาสามปีวางแผนแก้แค้น ดังนั้นข้าจึงเชื่อมั่นว่าเขาจะไม่เป็นอะไร ต่อให้ถูกใครคิดปองร้าย ทุกอย่างก็อยู่ในการคาดเดาของเขา”กงจิ้งมองนาง “เป็นเจ้าที่เข้าใจเขาอย่างลึกซึ้ง”“ความจริงข้าไม่เข้าใจเขาหรอก ใครจะกล้าพูดว่าเข้าใจเขาได้”กงจิ้งเห็นด้วย “ข้าแปลกใจเสมอที่รู้ว่าเขาไม่อยากเป็นหนึ่งในผู้ชิงบัลลังก์"“ข้าไม่แปลกใจ”“เพราะอะไร” ขอเพียงมีใจนึกอยาก ไม่ใช่ว่าจะชิงมาไม่ได้“เขาเป็นคนเจ้าเล่ห์และยโสโอหังมาก แต่ก็เป็นคนที่รักษาคำสัตย์ยิ่งชีพมากเช่นกัน อะไรที่รับปากคนอื่นไว้แล้ว ต่อให้ดินถล่มฟ้าแหวกออก เขาก็จะทำให้ได้ ในงานพิธีรับตำแหน่งต้าเป่ยอ๋อง เขาชัดเจนแล้วว่าเลือกแดนเหนือ”“เข้าใจแล้ว”ฉู่ซีเย่ไม่ได้ให้คำสัตย์ว่าจะไม่ชิงบัลลังก์ แต่เขาให้คำสัตย์ว่าจะตา

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   21/2 ความรักที่งอกงาม

    ต้าหย่ง...ชายเสื้อปักดิ้นทองเคลื่อนไหวเพียงบางเบา แต่สามารถทำให้ตะเกียงบนโต๊ะด้านหน้าสั่นไหว เงาใหญ่ยักษ์ที่ทอดลงหลังฉากพระที่นั่งวิจิตรงดงาม แลดูแปลกตา ยิ่งเมื่อขยับเคลื่อนไหว เงาสีดำยิ่งชวนให้รู้สึกขนกายลุกพองหย่งฉียังคงทรงงานแม้จะค่อนคืนเข้าไปแล้ว พระขนงมีมีร่องรอยยับย่น หมึกเปื้อนพระหัตถ์เป็นปื้นสีดำทั้งสองข้าง ลามไปถึงชายแขนเสื้อที่ถูกหมึกสีดำทำลายความประณีตลงหลายเท่าตัวหลังตั้งตรงเริ่มตกลู่ หย่งฉีในปีนี้อายุเพียงสี่สิบกว่าปี ทว่าความเคร่งเครียดและการตรากตรำอยู่ในตำแหน่งมายาวนานกว่าสามสิบปี ทำให้ใบหน้านั้นแก่ชรา ริ้วรอยแห่งวัยทอดแนวอยู่บนหน้าพระพักตร์หมองคล้ำ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความวิตกกังวลครั้นมองลงมาภายในโถงพระที่นั่งอันหนาวเหน็บและช่างว่างเปล่า หย่งฉีคล้ายจะยิ้มเย้ยให้ตนเองอย่างสมเพชข้าวของมากมายหล่นเกลื้อนกลาดแทบเท้า ทุกสิ่งทุกอย่างพังไม่เป็นชิ้นดี กระนั้นท้องพระโรงที่เละเทะเช่นนี้ ก็ยังเทียบไม่ได้กับภายในจิตใจของเขาหย่งฉีทิ้งพู่กันในมือ เขาส่งเสียงออกมาอย่างเหนื่อยล้าราวกับแทบขาดใจ“ขันทีโม่...”โม่หานยืนก้มหน้าตามระเบียบประเพณี ในมือมีพวงแส้ม้านุ่มสลวย ทองคำซึ่งหลอมอยู

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   21/1 ความรักที่งอกงาม

    เหยาอี้เหยา “ก่อนจะให้ท่านพูดอธิบาย อยากจะขอรบกวนให้ท่านอาบน้ำล้างตัวเสียหน่อย” กลิ่นสาบจากตัวเขาทำให้ภายในบ้านถูกกลิ่นบูดรมควัน ดังนั้นนางจึงนำเสื้อผ้าที่เขาทิ้งไว้คราวก่อนออกมาให้เขา พร้อมชี้ทางว่าสามารถไปอาบน้ำที่ลำธารใกล้กับแปลงผักจี๋ฉายได้ ทั้งยังรุนหลัง ให้เขาไปไวๆ ฉู่ซีเย่ไม่อิดออด เขาก็เริ่มได้กลิ่นจากตัวเองเช่นกัน “ได้ ข้าจะไปอาบน้ำก่อนแล้วกัน หลังจากนั้นค่อยสนทนาเรื่องที่เข้าใจผิด” ถึงอย่างงั้นในใจของเขาก็มีความน้อยใจเล็กๆ ที่นางดูราวกับไม่ใส่ใจเขาเลย จะถามไถ่สักคำว่าเดินทางมาเหน็ดเหนื่อยหรือเปล่าก็ไม่มี ยังมีตบของนางอีก แม้แรงนางจะไม่ระคายผิวหนังหนาด้านของเขา แต่จิตใจบอบช้ำยิ่ง “ท่านอ๋อง” เหยาอี้เหยากล่าวรั้ง ใบหน้าคมกระหยิ่มยิ้มย่อง แต่เมื่อหันหน้ามาก็กลบเกลื่อนให้หมดสิ้น “ว่าอย่างไรรึ” ใบหน้าของฉู่ซีเย่ในตอนนี้สามารถพูดได้คำเดียวว่าเขาสำนึกผิดแล้ว “เมื่อครู่ข้าขอโทษที่ตบท่าน ท่านเจ็บมากหรือไม่” การตบตีเขาไม่เคยอยู่ในสมองนางมาก่อน แต่พอเห็นเขามายืนอยู่ตรงหน้า แรงอารมณ์ที่ถูกกดไว้ตลอดทั้งเดือนก็ปะทุ รู้ตัวอีกทีก็ตบเขาเสียฉาดใหญ่ “แรงเท่ามดของเจ้าจะทำอะไรข้าได้กัน”

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   20/3 เป็นแค่นางอุ่นเตียง

    การมาเยือนขององค์หญิงสิบเอ็ดเปลี่ยนบรรยากาศในบ้านไปในฉับพลัน มื้ออาหารที่ควรจะผ่อนคลายมีแต่ความเงียบงัน กงจิ้งลอบมองใบหน้าเหยาอี้เหยาด้วยความเห็นใจ แต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรเช่นกันกงจิ้งจำใบหน้าซีดเผือกของนางเมื่อเขากลับมาถึงบ้านได้ รวมทั้งสีหน้าสะอกสะใจขององค์หญิง ที่ได้เหยียมหยามนาง ทำเอากงจิ้งอยากไล่ตะเพิดไปไกลๆ“...” ลุงกู่เห็นเหยาอี้เหยาเศร้า ก็ตักน้ำแกงผักให้ชามใหญ่ เขาเอ็นดูนางมาก ไม่อยากเห็นนางเป็นทุกข์ใดๆเวลานั้นเอง เหยาอี้เหยาที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามกลับหัวเราะออกมา เสียงหัวเราะของนางใสกังวาน รอยยิ้มที่เผยกว้างบ่งบอกว่านางไม่ได้เสแสร้ง แต่นางกำลังหัวเราะอย่างจริงใจ“เจ้าหัวเราะอะไร”หรือเสียใจจนเสียสติไปแล้ว?“ข้าเปล่านะ ข้าปกติดี” เหยาอี้เหยายกชามน้ำแกงดื่มจนหมดรวดเดียวก่อนจะยิ้มอีกรอบ “ข้าแค่ดีใจนะ ที่วันนี้แสดงละครได้ดี”กงจิ้งและลุงกู่พากันขมวดคิ้วเหยาอี้เหยาเฉลย “ข้ารู้เรื่องนางอยู่แล้ว แต่คิดว่าถ้าทำเป็นรู้อยู่แล้ว นางคงไม่พอใจเท่าไหร่ จนอาจจะลงไม้ลงมือกับข้าก็ได้”กงจิ้ง “แสดงว่าเมื่อครู่เจ้าแสดงละคร”“ก็ไม่ทั้งหมดนะเจ้าคะ ความจริงก็เจ็บอยู่” แรกทีเดียวนางก็แสดงละคร แต่หลั

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   20/2 เป็นแค่นางอุ่นเตียง

    “อดทนเพื่อข้าได้หรือไม่…” ฉู่ซีเย่จูบไซ้กลีบปากบางที่สั่นระริก ปลายจมูกคลอเคลียปลอบโยน เขาอดทนเพื่อให้นางเปิดใจ ต่อให้ร่างกายใกล้จะระเบิดเต็มที“งั้น…งั้นช้าๆ นะ” นางเห็นเม็ดเหงื่อผุดพราวทั่วใบหน้าเขา รวมทั้งสันกรามที่ถูกขบกัดจนนูน บ่งบอกว่าเขาเองก็ต้องอดทนมากเช่นกัน“แน่นอน…” ฉู่ซีเย่ไม่บุ่มบ่าม เขาค่อยๆ กดตัวตนเข้าไปหานางอย่างละมุนละม่อน ถึงยังงั้นเอวบางก็ขยับหนีตามสัญชาตญาณ เขาจึงรั้งเรียวขานางไว้แรงเสียดทานจากท่อนกายอันเข้มแข็งทำให้ความอ่อนนุ่มต้องเผชิญกับความท้าทายอันใหญ่หลวงความเจ็บร้าวที่แผ่ซ่านคลี่คลุมจนตัวชา ถึงอย่างนั้นจุมพิตขอโทษจากเขาก็ทำให้นางอดทน พร้อมโอบรับความแข็งแกร่งของเขาทั้งหมดสองมือเรียวเกาะไหล่หนา สองขาเรียวอยู่ระห่างเอวสอบที่กำลังเคลื่อนไหว“ท่าน…อื้อ!”“อีกนิดนะ…” เสียงเขาแหบพร่า ริมฝีปากงับไล่ติ่งหูสะอาด เขาโอบรัดคลุกเคล้ากับร่างกายนางทุกตารางนิ้ว“ได้…” นางสัมผัสได้ถึงความใส่ใจของเขา จึงเปิดเปลือยทุกความกังวลลง รองรับแก่นกายใหญ่โตเข้ามา“อี้เหยา…” แรงตอดรัดจากนางทำฉู่ซีเย่กลืนน้ำลายครั้งแล้วครั้งเล่า เขารวบเอวนางให้กดต่ำ สอดตัวเข้าไปหานาง…ไม่รุนแรง แต่นางห

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   20/1 เป็นแค่นางอุ่นเตียง

    “ซ่างเจวี๋ยไม่เป็นอะไรแล้ว “ฉู่ซีเย่พูด ถอนเข็มที่ปักอยู่ทั่วร่างออก เว้นเข็มบริเวณหน้าผาก เพื่อให้หลับต่อไป “แต่ก็อย่างที่เห็น ตอนนี้นางไม่สามารถใช้ชีวิตเร่ร่อนแล้วฝากยาไว้กับสำนักคุ้มภัยอีกแล้ว แบบนั้นไม่ปลอดภัย ดังนั้นเพื่อผลประโยชน์ของนางเอง ข้าแนะนำให้ส่งนางขึ้นเหนือ”กงจิ้งตอบ “ข้าเห็นด้วย แบบนั้นคงปลอดภัยกว่า”“แต่ทางเหนือหนาวเกินไป แม่ทัพซ่างจะไม่เป็นอะไรหรือ” ในฐานะที่เหยาอี้เหยามีประสบการณ์ตอนพิษกำเริบมาก่อน นางรู้ซึ้งดีเลยว่า อากาศหนาวของเเดนเหนือ ทำให้ทุกข์ทรมานเพิ่มอีกหลายเท่าแล้วพิษแมลงคุณไสยก็ยิ่งไม่ถูกกับอากาศหนาวอย่างยิ่ง นี่จึงอาจเป็นเหตุผลที่ซ่างเจวี๋ยเร่ร่อนไปทั่วทางใต้เพื่อลี้ภัยอากาศหนาว“เป็นแน่ แต่ไม่ตายหรอก” ฉู่ซีเย่ย้ำให้เห็นความจริง "นางจะตายถ้ายังเร่ร่อนอยู่ที่นี่มากกว่า"“ท่านอ๋อง ท่านยังไม่พบวิธีแก้พิษแมลงคุณไสยหรือ ข้าไม่อยากเห็นแม่ทัพซ่างบาดเจ็บอีกแล้ว”“เงื่อนไขของนางไม่เหมือนของเจ้า” ฉู่ซีเย่มองนาง “แต่เจ้าวางใจเถอะ แมลงในตัวซ่างเจวี๋ยว่าง่ายกว่าตอนอยู่ในตัวเจ้า ตราบใดที่กินยาเสมอไม่ขาด จะไม่ส่งผลร้ายใดๆ”เมื่อพูดถึงเรื่องกินยาอย่างสม่ำเสมอแล้ว ดูเหม

DMCA.com Protection Status