เย็นของวัน
"คุณจะกลับแล้วเหรอ"
ชาวีเดินออกมาหาเฌอริตาในตอนเลิกงาน
"ค่ะ"
"ผมขอไปหาน้องเฌอได้ไหม"
"ไปทำอะไรคะ"
หญิงสาวขมวดคิ้วสงสัย
"ผมแค่อยากเจอกับลูกคุณก็เท่านั้นขอเวลาไม่นานหรอกนะ"
ชายหนุ่มพูดกับหญิงสาวตรงหน้าด้วยสีหน้าหดหู่เล็กน้อย
"ก็ได้ค่ะ"
เฌอริตาเห็นว่าวันนี้ชายหนุ่มซึมแปลกๆเธอจึงไม่อยากขัดอะไรเขา
วันนี้ที่ชาวีต้องการจะไปหาเฌอริมาเพราะเขารู้สึกว่าเขาต้องการกำลังใจและอีกอย่างเขาก็มีเรื่องที่จะคุยกับหญิงสาวเป็นการส่วนตัวด้วย
บ้านxxx
ก่อนที่เฌอริตาจะกลับถึงบ้านเธอก็ได้กำชับกับวาดจันทร์เอาไว้แล้วว่าใครจะมาที่บ้านและเธอก็จะต้องชื่อเพลินไม่ใช่ริตาซึ่งวาดจันทร์เองก็เข้าใจได้เป็นอย่างดี
"คุณลุง"
เฌอริมาเห็นชาวีเข้ามาในบ้านพร้อมกับแม่ของเจ้าตัวก็รีบวิ่งเข้ามาทักทายเกาะขาชาวีทำหน้าแป้นแล้นยิ้มแฉ่งใส่ทันทีทำเอาชาวีต้องรีบอุ้มหนูน้อยขึ้นมาอย่างเอ็นดู
"วันนี้คุณลุงมีของมาฝากน้องเฌอด้วยนะคะ"
ชาวีชูถุงกระดาษให้กับหนูน้อยได้เปิดดู
"ว้าว...ชอบค่ะ"
เมื่อเฌอริมาเห็นว่าข้างในเป็นกล่องตุ๊กตาเจ้าหญิงซินเดอเรล่าก็ถูกอกถูกใจใหญ่
"...."
เฌอริตาไม่ยักรู้ว่าชายหนุ่มจะเลือกของเล่นมาเอาใจเด็กผู้หญิงเป็นด้วย
"ฉันขอตัวพาคุณหนูไปอาบน้ำก่อนนะคะ"
"ได้ครับ"
ชาวีนั่งเล่นกับเฌอริมาพักใหญ่จนถึงเวลาอาบน้ำวาดจันทร์จึงต้องขอตัวพาคุณหนูเล็กของเธอไปอาบน้ำเสียก่อน
"คุณเพลิน.."
"คะ.."
"ในลาดจอดรถเมื่อเช้าคุณคุยอะไรกับคุณภากร"
ชาวีเปิดประเด็นถามหญิงสาวถึงเรื่องที่เขาอยากจะรู้ทันทีเพราะเมื่อเช้าเขายังไม่ทันได้ลงจากรถก็เห็นสองคนนั้นทำลับๆล่อๆยื่นอะไรบางอย่างให้กันก่อนซึ่งเขาแน่ใจว่าคงไม่ใช่งานของบริษัทแน่นอน
"เอ่อ..ก็ทักทายกันตามประสาเพื่อนร่วมงานนี่คะ"
เฌอริตาหน้าถอดสีเล็กน้อยแต่ก็ยังพยายามยิ้มแย้มทำตัวปกติ
"ผมว่ามันไม่ใช่แค่นั้น...คุณเข้ามาทำงานที่บริษัทต้องการอะไรกันแน่...อย่าคิดว่าผมไม่รู้ว่าคุณเข้าไปทำอะไรในห้องทำงานของผม"
ชาวีดูพฤติกรรมของเธอมาพักหนึ่งแล้วซึ่งพฤติกรรมที่แปลกๆของเธอจะให้เขาไม่สงสัยคงเป็นไปไม่ได้
"....."
เฌอริตาเริ่มยิ้มไม่ออก
"บอกผมมาเถอะ"
ชาวีจ้องหญิงสาวอย่างเอาจริงเอาจัง
"อืม...ในเมื่อคุณรู้แบบนี้ฉันก็จะบอกกับคุณก็ได้..ตามฉันมา"
เฌอริตาเห็นว่าตอนนี้เธอคงไม่มีอะไรที่จะต้องปิดบังแล้วเพราะเธอได้หลักฐานที่ต้องการมาแล้วนับจากนี้เธอก็จะได้ไม่ต้องไปเหยียบที่บริษัทนั่นอีก
ห้องทำงาน
"นี่พ่อฉัน..เค้าเคยเป็นนักธุรกิจส่งออกสินค้าเหมือนกับบริษัทของคุณ...ธุรกิจทุกอย่างกำลังไปได้สวยแต่จู่ๆหุ้นส่วนทุกคนก็ถูกชนะพลพ่อของคุณซื้อตัวไปอยู่กับบริษัทของคุณเสียอย่างนั้นทำให้บริษัทพ่อฉันล้มละลายจนท่านตรอมใจตาย"
เฌอริตาพาชายหนุ่มมาที่ห้องทำงานของเธอพร้อมทั้งสาธยายได้ยาวความชั่วของพ่อชายหนุ่มให้เขาได้ฟังว่าพ่อของชายหนุ่มนั้นทำอะไรกับพ่อของเขาไว้บ้างและพ่อของเขานั้นมีจุดจบเช่นไร
"คุณแน่ใจได้ยังไงว่าพ่อผมเป็นคนทำ"
ชาวีรู้สึกอึ้งไปเล็กน้อยแต่นั่นเขาก็ยังไม่อยากจะเชื่อเรื่องนี้อยู่ดี
"หลักฐานนี่ไง...ธุรกรรมการเงินที่โอนเข้าบัญชีหุ้นส่วนของพ่อฉันไง...จ่ายหนักไม่เบานี่ยอมเสียเงินก้อนโตมหาศาลเพื่อที่จะให้ตัวเองขึ้นเป็นอันดับหนึ่งโดยที่จะเหยียบหัวใครก็ไม่สน"
เรื่องนี้หญิงสาวไม่ได้มโนไปเองเพราะเธอมีหลักฐานหลักฐานอยู่ในมือครบถ้วนเธอยอมรับจริงๆว่าชนะพลใจถึงมากที่กล้าจ่ายเงินเยอะขนาดนั้นเพื่อที่จะทำให้ตัวเองขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในวงการธุรกิจสายนี้
ชาวีพูดอะไรไม่ออก
"ฉันจะเป็นคนเปิดโปงพฤติกรรมเลวๆของพ่อคุณเองรอดูข่าวหน้าหนึ่งเร็วๆนี้ได้เลย"
เฌอริตาท้าให้ชายหนุ่มรอดูความหายนะของพ่อตัวเองได้ในเร็วๆนี้ได้เลย
"อย่าทำแบบนั้น"
ชาวีห้ามหญิงสาวเสียงแข็ง
"หึ่...ฉันรู้ว่าคุณจะต้องพูดแบบนี้แต่อย่าหวังว่าฉันจะฟัง"
เฌอริตารู้ดีว่ายังไงชาวีก็ต้องเข้าข้างพวกของตัวเองอยู่แล้ว
"ที่ผมเตือนคุณเพราะกลัวว่าคุณจะเป็นอันตรายคนอย่างพ่อผมไม่ปล่อยคุณไปแน่"
ที่เขาเตือนเธอไม่ใช่เพราะกลัวว่าเธอจะทำร้ายพ่อเขาได้แต่กลัวว่าเธอจะเป็นอันตรายมากกว่าเพราะเขารู้ว่าพ่อของเขาไม่มีวันปล่อยเธอไว้แน่
"อย่ามาทำเป็นพูดดีกับฉันหน่อยเลยใจจริงคุณก็กลัวบริษัทพ่อคุณจะพัง"
"ช่วยฟังสิ่งที่ผมเตือนคุณหน่อยเถอะอย่าดื้อนักเลย"
"ออกไปจากบ้านฉันได้แล้ว"
เฌอริตาไล่ชายหนุ่มเสียงแข็ง
"....."
ชาวีจำต้องกลับไปก่อนเพราะดูท่าจะห้ามอะไรหญิงสาวตอนนี้เธอคงไม่ฟังเป็นแน่
สองชั่วโมงต่อมา
คฤหาสน์หรู
"แกจะเลิกทำงานให้ฉันอย่างนั้นเหรอมันไม่ง่ายไปหน่อยหรือไงลืมไปแล้วเหรอว่าใครชุบเลี้ยงแกมา"
ชนะพลหัวเสียอย่างมากทั้งยังตะคอกแผดเสียงใส่ชาวีที่มาบอกกับเขาตรงๆว่าไม่อยากให้เขาทำเรื่องที่ผิดและไม่ขอออกหน้าอะไรแทนอีกต่อไป
"ผมไม่ได้ลืมครับว่าใครให้ชีวิตผมแต่ผมทำผิดต่อคนอื่นอีกต่อไปไม่ได้จริงๆ"
ชาวีมาที่นี่เพื่อเตือนให้พ่อของเขารู้ว่าเขานั้นกำลังทำผิดในหลายๆเรื่องและรู้ว่าการที่เขาพูดแบบนี้เขาอาจจะเจออะไรที่ทำให้ถึงแก่ชีวิตก็เป็นได้แต่เขาก็ไม่ได้กลัวสิ่งนั้นเลยสักนิดเพราะสิ่งที่เขาเป็นอยู่ในตอนนี้มันก็เหมือนชีวิตของเขาไม่ได้เป็นชีวิตของตัวเองอยู่แล้ว
"ฉันคิดผิดสินะที่ชุบเลี้ยงคนอย่างแก""...คุณพ่อจะทำอะไรกับผมก็เชิญเลยครับ..."ชาวีคุกเข่าลงต่อหน้าชนะพลอย่างยอมรับในสิ่งที่มันจะเกิด"หึ่..."ปั้งงงง.."อ้าสสส.. "ชนะพลชักปืนออกมาพร้อมยิงไปที่ไหล่ขวาของชาวีเขาไม่ต้องการให้ชายหนุ่มเสียชีวิตในทันทีเพราะคนที่มันไม่ฟังคำสั่งของเขามันต้องได้รับความเจ็บปวดอย่างทรมานก่อนที่มันจะตาย"ซ้อมมัน"ทั้งสั่งให้บอดี้การ์ดนับสิบรุมซ้อมชาวีอย่างทารุน"ครับนาย"ชายหนุ่มยินยอมรับความเจ็บปวดจนตอนนี้ร่างกายของเขามันเริ่มชาไปหมดและหมดสติลงไปในไม่ช้าเหล่าบอดี้การ์ดเห็นเช่นนั้นก็รู้ว่าพวกเขาจะต้องทำอย่างไรต่อจึงพากันเอาร่างที่หมดสติของชาวีขึ้นรถไปทิ้งที่บึงน้ำแห่งหนึ่งหมายจะให้ชายหนุ่มตายอย่างช้าๆในที่เป็นที่ประจำในการอำพรางศพชั่วโมงต่อมา"จัดการเอามันไปทิ้งเรียบร้อยใช่ไหม""ครับ"ชนะพลดูจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับการฆาตกรรมคนทั้งคนครั้งนี้เลยสักนิดเพราะเขาก็เคยเห็นเรื่องพวกนี้จนชินตาและไม่ได้รู้สึกเสียดายชาวีเลยเพราะที่เขาชุบเลี้ยงชาวีมาก็ไม่ใช่เพราะเอ็นดูแค่ให้เป็นหัวโขนรับหน้าความผิดที่เขากระทำเท่านั้น22.00 น.Rrrrrrr"ค่ะ...คุณหมอ...อะไรนะคะ"เฌอริตาได้ยิน
"เห็นคนอื่นเป็นเครื่องมือให้ตัวเองหมดเลยสินะ"เฌอริตากำมือแน่นกัดฟันกรอดกับความชั่วของชนะพลที่เธอได้ยินมาจากแดนเทพ"แล้วทำไมหมอแดนถึงเลือกที่จะช่วยคุณวีล่ะคะ""ผมไม่อยากทำผิดกับชีวิตใครไปมากกว่านี้แล้วอีกอย่างตอนนี้ผมก็เหลือตัวคนเดียวหากผมตายก็ไม่ห่วงอะไรแล้วถือซะว่าชดใช้ความผิดที่ผมทำลงไปในหลายๆเรื่อง""แล้วต่อจากนี้คุณวีจะเป็นยังไงคะ"เฌอริตาอยากรู้ว่าหากชาวีหยุดยาที่ต้องฉีดเป็นประจำอาการของเขาจะเป็นเช่นไร"ผมไม่แน่ใจถ้าผมไม่ให้ยาคุณวีแล้วอาการข้างเคียงของเขาจะเป็นอย่างไร...แต่ผมคิดว่ามันน่าจะรุนแรง"เรื่องนี้ทำให้เขาเครียดอย่างมากเพราะไม่รู้ว่าชาวีถูกยาที่เขาคอยฉีดให้ทำลายระบบประสาทส่วนไหนไปบ้างและหากไม่ฉีดต่อจะมีอาการข้างเคียงเช่นไรแต่ที่เขารู้แน่ๆคืออาการข้างเคียงไม่ว่าจะปวดหัวหรืออะไรก็แล้วแต่มันจะหนักมากๆเลยทีเดียว"เอ่อ..ร..รุนแรงยังไงคะ"เฌอริตาถึงกับหน้าเสียเพราะเป็นห่วงคนที่นอนเป็นผักอยู่ในห้อง"ผมยังให้คำตอบตอนนี้ไม่ได้ต้องรอดูอีกทีครับ...เอ่อจริงสิแล้วทำไมคุณเพลินถึงรู้จักชื่อจริงๆของคุณวีล่ะครับ"ตอนนี้แดนเทพเองก็ให้คำตอบหญิงสาวไม่ได้จริงๆเพราะแม้แต่เขาเองก็ยังเดาไม่ออกแ
"มีอะไรเหรอลิน"คนที่ดูจะตกใจที่สุดเห็นจะเป็นเฌอริตาที่รีบปาดน้พตาลุกขึ้นหน้าตาตื่น"แกเข้ามานี่"ลัลลลิลไม่อยากอธิบายเธอรีบเรียกให้เฌอริตาเข้ามาดูอาการภัสกรในห้องเองจะดีกว่า"ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะลิน"เมื่อเฌอริตาเดินเข้าห้องมาได้ไม่กี่ก้าวภาพตรงหน้าก็ทำให้เธอนั้นแทบเข่าทรุดเพราะภัสกรที่นอนแน่นิ่งอยู่นั้นกำลังมีเลือดออกทางจมูกและหูของเขาอยู่เรื่อยๆ"ใจเย็นๆตอนนี้ฉันก็หาสาเหตุไม่ได้เหมือนกัน"ลัลลลิลรีบประคองร่างที่กำลังจะล้มของเฌอริตามานั่งข้างๆเตียงของภัสกร"เค้าจะรอดใช่ไหมลิน...พี่ภัสจะรอดใช่ไหม"เฌอริตากุมมือลัลลลิลน้ำตาไหลพรากอย่างสุดจะกลั้น"แกสบายใจได้ฉันจะช่วยเค้าให้สุดฝีมือ"ลัลลลิลให้คำมั่นว่ายังไงเธอก็จะไม่ปล่อยให้ภัสกรเป็นอะไรไปเด็ดขาด"..อืม.."เฌอริตาได้ยินเช่นนั้นเธอจึงค่อยๆผ่อนลมหายใจของเธอสงบสติอารมณ์ลงและรอรัชตะมาอย่างใจจดใจจ่ออาทิตย์ต่อมาภัสกรนอนเป็นผักอยู่บนเตียงไปจนเป็นอาทิตย์โดยมีหมอรัชตะมาคอยดูเป็นระยะๆเปลี่ยนบ้านเป็นสถานพยาบาลชั่วคราวจนอาการค่อยๆดีขึ้นและมีเฌอริตามาเฝ้าอยู่ทุกวัน"อือ..""พี่ภัส.."เฌอริตารีบละมือจากการปอกผลไม้มานั่งข้างๆเตียงภัสกรเมื่อเห็นว่าเขา
"ใช่จะ""ทำไมวันนั้นเป็นคุณลุง"เฌอริมาขมวดคิ้วเป็นปมอีกรอบเพราะจำได้ว่าวันนั้นเธอยังเรียกคนตรงหน้่ว่าคุณลุงอยู่เลย"อืม...วันนั้นคุณแม่จำคุณพ่อไม่ได้ไงคะ"เฌอริตามีทางออกสำหรับการพูดให้ลูกเธอเชื่อเสมอ"วันนี้จำได้แล้วเหรอคะ""ค่ะ""เรียกคุณพ่อสิคะ""คุณพ่อขา...คุณพ่อ...ทำไมไม่ตื่น"เด็กหญิงเอื้อมมือเล็กไปแตะแขนคนเป็นพ่อเบาๆครู่หนึ่ง"คุณพ่อกำลังไม่สบายก็เลยต้องพักผ่อนเยอะๆค่ะ""ค่ะ"เฌอริตาดีใจที่ลูกเธอเป็นคนเข้าใจในสิ่งที่เธอบอกอย่างง่ายดาย"อืม..เอ่อ..คุณ"ภัสกรรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพราะเมื่อครู่รู้สึกว่ามีคนมาจับแขนของเขาจึงรีบเขยิบตัวพิงกับหัวเตียง"ตื่นแล้วเหรอคะค่อยๆค่ะ"เฌอริตารีบพยุงช่วยชายหนุ่มให้เขานั่งได้ถนัด"คุณพ่อตื่นแล้ว.."เด็กหญิงเห็นคนบนเตียงตื่นขึ้นมาจึงยิ้มหน้าบานดีใจที่คนเป็นพ่อตื่นมาคุยกับเธอได้แล้ว"คุณพ่อ!!"ภัสกรถึงกับมองหน้าหญิงสาวตรงหน้าเธอด้วยความสงสัยว่าใครเป็นคนสอนให้เฌอริมาเรียกเขาแบบนี้"เอ่อ.."เฌอริตาต้องพาลูกสาวของเธอออกไปให้วาดจันทร์ดูก่อนเพื่อที่เธอจะอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้เขาได้ฟังครู่ต่อมา"พร้อมที่จะฟังเรื่องราวทุกอย่างแล้วใช่ไหมคะ""ครับ""..
อาทิตย์ต่อมาบริษัทXXX"ไหนคุณบอกว่าข่าวจะไม่รั่วไง..ทำไมมันเป็นแบบนี้"อนุชิตนักธุรกิจรุ่นใหญ่เข้าม โวยวายกับชนะพลชุดใหญ่เพราะข่าวในอินเทอร์เน็ตออกไปว่าเขาเป็นหนึ่งในนั้นในคนที่ชนะพลซื้อตัวไปทำให้บริษัทของฉัตรภพต้องล้มละลาย"ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องทุกอย่างมันเป็นแบบนี้ได้ยังไงผมรับปากว่าจะรีบแก้ข่าวทั้งหมดให้เร็วที่สุด"ชนะพลเองก็ไม่รู้ว่าความลับของบริษัทเขานั้นมันรั่วไหลออกไปได้อย่างไรแต่เขาจะปิดข่าวเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด"ผมหวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้นในเร็วๆนี้นะครับ"อนุชิตยื่นคำขาดกับชนะพลและเดินออกไปอย่างหัวเสีย"คุณจัดการเรียกนักข่าวมาที่บริษัทเย็นนี้ด้วยผมจะแก้ข่าวทั้งหมดเอง"ชนะพลสั่งธีราทรให้เรียกนักข่าวจากสำนักข่าวหลายสำนักให้มารวมกันที่บริษัทในตอนเย็นเพราะเขาจะแถลงแก้ข่าวในเย็นนี้เพื่อที่บริษัทจะได้ไม่เสียชื่อเสียงมากไปกว่านี้"ครับนาย"บ้านxxxRrrrrRrrrr"ว่าไงปลาย...อืม...โอเคฉันจะรอดู"เฌอริตารับสายจากปลายฝนที่เพื่อนเธอโทรมาแจ้งข่าวเรื่องที่ชนะพลจะมีการแถลงข่าวในเย็นนี้ให้เพื่อนเท่านั้นรอดูว่าชนะพลนั้นจะแก้ตัวกับสังคมอย่างไร"มีอะไรเหรอครับ"ภัสกรเดินมานั่งข้างๆเฌอริต
"พี่ภัส.."หญิงสาวเรียกชื่อคนที่กำลังเจ็บปวดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือทั้งยังมือไม้สั่นทำอะไรไม่ถูก"โอ้ยย..อืมม..."ภัสกรยังคงปวดหัวหนักขึ้นอยู่เรื่อยๆอย่างไม่มีผ่อน"พี่หมอคะตอนนี้พี่ภัสอาการไม่ดีเลยค่ะ"เฌอริตารีบวิ่งเข้าไปที่มือถือของเธอในห้องแล้วโทรหาหมอรัชตะทันที"โอ้ยยย..""พี่ภัส...เลือด...พี่ภัสคะ...อึก..อดทนหน่อยนะคะ...พี่ภัสต้องไม่เป็นอะไรนะคะ..ฮือ..ๆๆๆ.."เฌอริตาเข่าแทบทรุดเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มกำลังมีเลือดออกจากจมูกและรีบเข้าไปหาผ้าชุบน้ำมาค่อยๆเช็ดให้เขาอย่างเบามือทั้งสะอึกสะอื้นสงสารคนที่กำลังทุรนทุรายอยู่ตรงหน้ายิ่งร้องให้เจ็บใจนะที่เธอนั้นช่วยอะไรเขาไม่ได้เลยครึ่งชั่วโมงต่อมา"คุณภัส"รัชตะรีบขับรถมาที่บ้านของเฌอริตาตาเมื่อเปิดประตูเข้ามาเห็นสภาพของภัสกรก็ถึงกับหน้าถอดสีและรีบเข้ามาดูอาการเขาอย่างรวดเร็ว"ฮือๆ..อึก..พี่หมอช่วยพี่ภัสด้วยค่ะ"เฌอริตานั่งดูอาการของภัสกรด้วยน้ำตา"เดี๋ยวผมจะฉีดยาระงับอาการปวดให้คุณภัสก่อนนะครับ"รัชตะเร่งมือฉีดยาให้ชายหนุ่มก่อนในตอนนี้เพื่อให้เขาได้หายจากอาการเจ็บปวดและตรวจดูอาการอีกทีว่าอาการปวดหัวนี้เกิดขึ้นจากอะไรกันแน่"ค่ะ.."สิบนาทีต่อมา
"อืม..ก็เครียดอยู่พอสมควร..ขนาดหมอชาร์ลเองยังตกใจกับส่วนผสมที่ฉีดให้คุณภัสเลย"รัชตะออกมานั่งคุยกับลัลลลิลด้วยน้ำเสียงที่เบาที่สุดเท่าที่จะเบาได้เพราะไม่อยากให้เฌอริตาได้มาได้ยินเพราะจะพาเธอเครียดไปกันใหญ่"มันร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอคะ"ลัลลลิลหน้าเสียเล็กน้อยเมื่อเห็นว่ารัชตะเองยังเป็นกังวลกับเรื่องนี้มากๆ"อืม..""ลินถามจริงๆนะคะ..โอกาสที่คุณภัสจะเป็นปกติเหมือนเดิมร้อยเปอร์เซ็นนี่เป็นไปได้ไหมคะ""ปาฏิหารย์แบบนั้นที่พี่คิดตอนนี้นะดูเหมือนจะมีแค่ไม่กี่เปอร์เซ็นเท่านั้น"รัชตะยังไม่เห็นทางแต่อาการดีขึ้นคงดีขึ้นแน่นอนหากจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมร้อยเปอร์เซนนั้นเขาก็พูดยาก"หา..แย่จัง"ลัลลลิลรู้สึกสงสารทั้งเพื่อนเธอและภัสกรจับใจ"แต่พี่เชื่อมือหมอชาร์ลขนาดปลายฝนบาดเจ็บรุนแรงขนาดนั้นยังเดินได้ปร๋อภายในเวลาไม่เท่าไรเลย"รัชตะพูดเรียกกำลังใจให้ตัวเองคิดในแง่ดีอีกรอบว่าถ้าหากปลายฝนเคยถูกรักษาโดยหมอชาร์ลหายอย่างรวดเร็วได้ทั้งที่อาการสาหัสยังไงเคสของภัสกรเขาก็ขอให้เป็นไปในทิศทางที่ดีที่สุดก็แล้วกัน"ลินก็เชื่อค่ะ"ลัลลลิลเองก็ภาวนาในใจและเชื่อมั่นว่ามันจะต้องเป็นแบบนั้นเช่นกันเย็นของวัน"ฉันกับ
หลายวันต่อมาหลายวันก่อนหมอชาร์ลมาถึงก็รีบตรวจดูอาการของภัสกรอย่างเร่งด่วนและประเมินอาการว่าอยู่ระดับไหนเขาจึงใช้คลินิคหมอรัชตะเป็นที่ผสมตัวยาและนำมารักษากับภัสกรวันแรกๆที่เริ่มรักษาชายหนุ่มก็มีผลข้างเคียงเพราะร่างกายต่อต้านยาอยู่บ้างทำให้อารมณ์ของภัสกรแปรปรวนอยู่ไม่น้อยบางครั้งก็อารมณ์ร้ายจนทำลายข้าวของทุกอย่างรวมถึงทำร้ายตัวเองบางครั้งก็เฉื่อยชาไม่รับรู้เรื่องราวจากคนรอบข้างจนร่วมครึ่งเดือนมาแล้วอาการของเขาจึงดีขึ้นถึงแม้ว่าบางครั้งจะความรู้สึกช้าบ้างแต่ก็สามารถพูดคุยโต้ตอบได้ดีและช่วยเหลือตัวเองในชีวิตประจำวันได้เฌอริตาจึงพอใจในการรักษาของหมอชาร์ลอยู่มากและขอบคุณหมอหนุ่มจนนับครั้งไม่ถ้วนแล้วในตอนนี้08.30 น."ยาที่ต้องให้คุณภัสทานตลอดก็มีประมาณนี้ครับย้ำนะครับว่าต้องตรงเวลาและห้ามขาดเกินอาทิตย์เด็ดขาด"หมอชาร์ลเรียกเฌอริตาให้มาดูตัวยาที่เขาเตรียมเอาไว้ให้ภัสกรก่อนที่เขาจะบินกลับทั้งอธิยายกำชับเรื่องห้ามขาดยากับหญิงสาว"เข้าใจแล้วค่ะหมอชาร์ล"เฌอริตาฟังคำพูดของหมอชาร์ลอย่างตั้งใจ"ผมจะดูอาการคุณภัสอีกสักสองวันแล้วก็จะกลับแล้วล่ะครับ""แล้ว.. เอ่อถ้าเกิดอะไรขึ้นล่ะคะ"เฌอริตาเป็นกั