"พวกมันเป็นใครคะ"
เฌอริตาถามชาวีเสียงสั่นเครือเล็กน้อย
"ไม่รู้เหมือนกันครับ"
ตอนนี้ชาวีเองก็เดาไม่ออกว่าเป็นพวกไหนที่มาดักทำร้ายเขากันแน่เพราะนับจากศรัตรูของชนะพลพ่อบุญธรรมของเขาก็หลายคนอยู่เหมือนกัน
ปั้งๆๆ
"ว้ายย..อือ.."
เฌอริตายังตัวสั่นกับเสียงปืนด้านนอกอยู่ตลอดจนชาวีต้องกระชับกอดเธอใก้แน่นขึ้นกว่าเดิม
"ไม่ต้องกลัวครับตราบใดที่เรายังอยู่บนรถมันก็ทำอะไรเราไม่ได้และผมก็จะไม่ยอมให้คุณกับลูกเป็นอะไรเด็ดขาด"
"อือ.."
ปั้งงๆๆๆ
ตุ้บ..ปั้กก...พลั้กกกกก..ตุ้บตั้บบบ...ปั้งงงๆๆ
ไม่นานคนของชาวีก็มาช่วยพร้อมแดนเทพที่ส่งสัญญาณใก้เขาขับรถกลับเข้าบ้านไปก่อน
เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดในที่สาธารณะและเป็นเขตที่มีผู้คนพลุกพล่านชาวีคิดว่าไม่วันนี้ก็พรุ่งนี้ก็ต้องมีข่าวนี้ออกไปอย่างแน่นอนหากเขารีบเข้าไปในบ้านก่อนผู้คนจะเห็นว่าคนในรถนี้เป็นใครจะดีกว่า
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
"รู้รึยังว่ามันเป็นคนของใคร"
ชาวีนั่งคุยกับแดนเทพและเหล่าบอดี้การ์ดที่ไปช่วยเขาจากเหตุการณ์ก่อนหน้าอยู่ในห้องโถงใหญ่ภายในบ้าน
"เอ่อ...มันบอกว่าคุณภพส่งมาครับ"
บอดี้การ์ดชุดดำพูดด้วยน้ำเสียงที่อึกอักเล็กน้อย
"อืม...ให้มันได้อย่างนี้สิ.."
ชาวีใช้สิงมือกุมหัวลูบหน้าตัวเองอย่างเหนื่อยใจ
แดนเทพเองก็รู้สึกกระอักกระอ่วนไม่ต่างไปจากชาวี
"เอายังไงต่อครับคุณวี"
"ปล่อยพวกมันไป"
"ครับ"
ชาวีจะทำอะไรได้เพราะชนะภพเป็นลูกของชนะพลหากเขาจะเอาเรื่องก็คงต้องหมางใจกับคนเป็นพ่ออยู่ดี
"นี่เล่นกันถึงตายเลยเหรอครับเรื่องนี้คุณวีจะบอกให้คุณพลรู้ไหมครับ"
แดนเทพเห็นว่าชาวีไม่เอาเรื่องชนะภพก็จริงแต่เขาอยากรู้ว่าเรื่องนี้ชาวีจะบอกให้ชนะพลรู้หรือไม่
"บอกไปก็เท่านั้นจากนี้ผมก็คงต้องดูแลตัวเองเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวแล้วเพลินเป็นยังไงบ้าง"
ชาวีเห็นว่าเรื่องนี้บอกหรือไม่บอกผลลัพธ์มันก็ออกมาไม่ต่างกันดังนั้นเขาก็ควรจะระวังตัวเองให้มากขึ้นกว่าเดิมที่ทำได้ก็เพียงเท่านี้ทั้งเปลี่ยนเรื่องคุยไปถามถึงอาการของหญิงสาวจากแดนเทพว่าเธอเป็นอย่างไรบ้าง
"ถึงเธอจะไม่ออกอาการกลัวเท่าไรแต่ผมว่ายังขวัญเสียอยู่มากเลยครับมือไม้และเสียงของเธอยังสั่นอยู่อย่างเห็นได้ชัด"
แดนเทพนับถือหัวใจหญิงสาวพอตัวเพราะเธอพูดคุยได้เป็นปกติและไม่แสดงสีหน้าตื่นกลัวอะไรเลยแต่คนอย่างเขาก็รับรู้ได้ว่าเธอยังมีความกลัวอยู่มากแต่ไม่ยอมเผยออกมาเท่านั้น
"อืม...เดี๋ยวผมขอไปดูเธอสักหน่อย"
ชาวีรู้ดังนั้นจึงขอตัวจากแดนเทพไปดูอาการเธอสักหน่อย
ก๊อกๆๆ
"คืนนี้คุณนอนอยู่ที่นี่ก่อนก็แล้วกันผมไม่รู้ว่าข้างนอกจะมีอันตรายอะไรอีกหรือเปล่า"
ชาวีเคาะประตูและเปิดเข้ามาในห้องที่มีหญิงสาวและเด็กหญิงอยู่กันด้านในโดยในตอนนี้คนเป็นลูกยังหลับปุ๋ยอย่างสบายใจอยู่แต่ดูท่าคนเป็นแม่จะนั่งทำหน้ากังวลอยู่ไม่หาย
"ค่ะ"
"ยังกลัวมากเลยใช่ไหม...ผมขอโทษที่ทำให้คุณต้องมาเสี่ยงตายกับผม"
ชาวีนั่งลงข้างๆหญิงสาวที่ขอบเตียงนุ่มทั้งจับบ่าของเธอเบาๆรู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุทำให้เธอต้องมาเจอเรื่องร้ายๆกับเขาด้วย
"ตัวฉันเองฉันไม่ห่วงสักนิดห่วงก็แค่ลูกเท่านั้น"
เฌอริตาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเล็กๆ
"แต่ดูคนที่ถูกห่วงสิหลับปุ๋ยเหมือนไม่มีิอะไรเกิดขึ้นเลย"
ชาวีพยายามพูดให้บรรยากาศความกลัวในใจของหญิงสาวเปลี่ยนไปและให้เธอรู้ว่าเธอได้ผ่านเหตุการณ์นั้นอย่างปลอดภัยมาแล้วและไม่ควรคิดอะไรถึงมันอีก
"ค่ะ...ถ้าวันไหนเล่นจนเหนื่อยก็จะหลับลึกแบบนี้แหละค่ะ"
"คุณหิวไหมผมจะให้คนทำอาหารมาให้"
"ไม่ค่ะ..."
หญิงสาวส่ายหัวเบาๆตอนนี้เธอไม่นึกอยากกินอะไรทั้งนั้น
"งั้นผมไม่กวนคุณแล้วขอตัวนะ"
"ค่ะ"
เฌอริตามองตามหลังชาวีด้วยสายตาหดหู่นึกถึงตอนที่เขากอดเธอเพื่อปลอบโยนมันทำให้เธอคิดถึงภัสกรขึ้นมาจับใจนี่เป็นเหตุผลที่ทำไมเธอถึงไม่อยากจะใกล้กับเขาเพราะเมื่อใกล้แล้วมันทำให้หัวใจของเธอว้าวุ่นอย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้แถมประดังประเดผสมกับความกลัวจึงทำให้ใจเธอหม่นหมองยากที่จะขจัดความรู้สึกนี้ออกไปได้
หลายวันต่อมา
หลังจากเหตุการณ์วันนั้นทุกอย่างก็เป็นข่าวจริงแต่เรื่องก็เงียบไปด้วยอิทธิพลของใครชาวีและเฌอริตาเดาได้ไม่ยากคนเป็นพ่อก็ต้องเข้าข้างลูกเสมอ
บริษัทxxx
ลานจอดรถ
"ขอบคุณสำกรับข้อมูลนะคะคุณภากรส่วนเรื่องเงินฉันจะรีบจัดงานส่วนที่เหลือให้ค่ะ"
"โอเคครับ"
เฌอริตาและภากรนัดเจอกันที่ลานจอดรถในที่ลับตาคนเพื่อยื่นซองเอกสารอะไรกันบางอย่าง
และครั้งนี้เฌอริตาก็ได้สิ่งสำคัญที่จะทำลายบริษัทของชนะพลได้แล้ว
14.00น.
“คนในชุมชนให้ข่าวกับนักข่าวว่าสงสัยพวกเรามากที่สุดในการวางเพลิงครับ"
ชายแดนเปิดข่าวในipadให้ชาวีดูหลายวันที่ผ่านมานี้ที่ชุมชนเกิดเรื่องมากมายจนนักข่าวไปทำข่าวสอบถามชาวบ้านว่าเกิดเหตุขึ้นเพราะอะไรชาวบ้านในชุมชนต่างตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าคนของบริษัทxxxเป็นคนทำกันเสียงเดียว
"อืม.."
ชาวีมองข่าวนั้นอย่างไม่ได้ใส่ใจเพราะเขารู้ว่าที่คนในชุมชนพูดมันก็ไม่ผิดและเขาก็จะไม่แก้ตัวออกหน้าให้ชนะพลอีกแล้วด้วย
"จากนี้จะเอาไงต่อครับ"
"ผมจะไม่แก้ข่าวอะไรทั้งนั้น"
แดนเทพไม่ค่อยเข้าใจความหมายของชาวีเท่าไรเพราะพักหลังๆมานี้ดูชายหนุ่มจะไม่ค่อยสนใจที่จะแก้ต่างออกหน้าแทนชนะพลเท่าไร
เย็นของวัน"คุณจะกลับแล้วเหรอ"ชาวีเดินออกมาหาเฌอริตาในตอนเลิกงาน"ค่ะ""ผมขอไปหาน้องเฌอได้ไหม""ไปทำอะไรคะ"หญิงสาวขมวดคิ้วสงสัย"ผมแค่อยากเจอกับลูกคุณก็เท่านั้นขอเวลาไม่นานหรอกนะ"ชายหนุ่มพูดกับหญิงสาวตรงหน้าด้วยสีหน้าหดหู่เล็กน้อย"ก็ได้ค่ะ"เฌอริตาเห็นว่าวันนี้ชายหนุ่มซึมแปลกๆเธอจึงไม่อยากขัดอะไรเขาวันนี้ที่ชาวีต้องการจะไปหาเฌอริมาเพราะเขารู้สึกว่าเขาต้องการกำลังใจและอีกอย่างเขาก็มีเรื่องที่จะคุยกับหญิงสาวเป็นการส่วนตัวด้วยบ้านxxxก่อนที่เฌอริตาจะกลับถึงบ้านเธอก็ได้กำชับกับวาดจันทร์เอาไว้แล้วว่าใครจะมาที่บ้านและเธอก็จะต้องชื่อเพลินไม่ใช่ริตาซึ่งวาดจันทร์เองก็เข้าใจได้เป็นอย่างดี"คุณลุง"เฌอริมาเห็นชาวีเข้ามาในบ้านพร้อมกับแม่ของเจ้าตัวก็รีบวิ่งเข้ามาทักทายเกาะขาชาวีทำหน้าแป้นแล้นยิ้มแฉ่งใส่ทันทีทำเอาชาวีต้องรีบอุ้มหนูน้อยขึ้นมาอย่างเอ็นดู"วันนี้คุณลุงมีของมาฝากน้องเฌอด้วยนะคะ"ชาวีชูถุงกระดาษให้กับหนูน้อยได้เปิดดู"ว้าว...ชอบค่ะ"เมื่อเฌอริมาเห็นว่าข้างในเป็นกล่องตุ๊กตาเจ้าหญิงซินเดอเรล่าก็ถูกอกถูกใจใหญ่"...."เฌอริตาไม่ยักรู้ว่าชายหนุ่มจะเลือกของเล่นมาเอาใจเด็กผู้หญิงเป็นด้ว
"ฉันคิดผิดสินะที่ชุบเลี้ยงคนอย่างแก""...คุณพ่อจะทำอะไรกับผมก็เชิญเลยครับ..."ชาวีคุกเข่าลงต่อหน้าชนะพลอย่างยอมรับในสิ่งที่มันจะเกิด"หึ่..."ปั้งงงง.."อ้าสสส.. "ชนะพลชักปืนออกมาพร้อมยิงไปที่ไหล่ขวาของชาวีเขาไม่ต้องการให้ชายหนุ่มเสียชีวิตในทันทีเพราะคนที่มันไม่ฟังคำสั่งของเขามันต้องได้รับความเจ็บปวดอย่างทรมานก่อนที่มันจะตาย"ซ้อมมัน"ทั้งสั่งให้บอดี้การ์ดนับสิบรุมซ้อมชาวีอย่างทารุน"ครับนาย"ชายหนุ่มยินยอมรับความเจ็บปวดจนตอนนี้ร่างกายของเขามันเริ่มชาไปหมดและหมดสติลงไปในไม่ช้าเหล่าบอดี้การ์ดเห็นเช่นนั้นก็รู้ว่าพวกเขาจะต้องทำอย่างไรต่อจึงพากันเอาร่างที่หมดสติของชาวีขึ้นรถไปทิ้งที่บึงน้ำแห่งหนึ่งหมายจะให้ชายหนุ่มตายอย่างช้าๆในที่เป็นที่ประจำในการอำพรางศพชั่วโมงต่อมา"จัดการเอามันไปทิ้งเรียบร้อยใช่ไหม""ครับ"ชนะพลดูจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับการฆาตกรรมคนทั้งคนครั้งนี้เลยสักนิดเพราะเขาก็เคยเห็นเรื่องพวกนี้จนชินตาและไม่ได้รู้สึกเสียดายชาวีเลยเพราะที่เขาชุบเลี้ยงชาวีมาก็ไม่ใช่เพราะเอ็นดูแค่ให้เป็นหัวโขนรับหน้าความผิดที่เขากระทำเท่านั้น22.00 น.Rrrrrrr"ค่ะ...คุณหมอ...อะไรนะคะ"เฌอริตาได้ยิน
"เห็นคนอื่นเป็นเครื่องมือให้ตัวเองหมดเลยสินะ"เฌอริตากำมือแน่นกัดฟันกรอดกับความชั่วของชนะพลที่เธอได้ยินมาจากแดนเทพ"แล้วทำไมหมอแดนถึงเลือกที่จะช่วยคุณวีล่ะคะ""ผมไม่อยากทำผิดกับชีวิตใครไปมากกว่านี้แล้วอีกอย่างตอนนี้ผมก็เหลือตัวคนเดียวหากผมตายก็ไม่ห่วงอะไรแล้วถือซะว่าชดใช้ความผิดที่ผมทำลงไปในหลายๆเรื่อง""แล้วต่อจากนี้คุณวีจะเป็นยังไงคะ"เฌอริตาอยากรู้ว่าหากชาวีหยุดยาที่ต้องฉีดเป็นประจำอาการของเขาจะเป็นเช่นไร"ผมไม่แน่ใจถ้าผมไม่ให้ยาคุณวีแล้วอาการข้างเคียงของเขาจะเป็นอย่างไร...แต่ผมคิดว่ามันน่าจะรุนแรง"เรื่องนี้ทำให้เขาเครียดอย่างมากเพราะไม่รู้ว่าชาวีถูกยาที่เขาคอยฉีดให้ทำลายระบบประสาทส่วนไหนไปบ้างและหากไม่ฉีดต่อจะมีอาการข้างเคียงเช่นไรแต่ที่เขารู้แน่ๆคืออาการข้างเคียงไม่ว่าจะปวดหัวหรืออะไรก็แล้วแต่มันจะหนักมากๆเลยทีเดียว"เอ่อ..ร..รุนแรงยังไงคะ"เฌอริตาถึงกับหน้าเสียเพราะเป็นห่วงคนที่นอนเป็นผักอยู่ในห้อง"ผมยังให้คำตอบตอนนี้ไม่ได้ต้องรอดูอีกทีครับ...เอ่อจริงสิแล้วทำไมคุณเพลินถึงรู้จักชื่อจริงๆของคุณวีล่ะครับ"ตอนนี้แดนเทพเองก็ให้คำตอบหญิงสาวไม่ได้จริงๆเพราะแม้แต่เขาเองก็ยังเดาไม่ออกแ
"มีอะไรเหรอลิน"คนที่ดูจะตกใจที่สุดเห็นจะเป็นเฌอริตาที่รีบปาดน้พตาลุกขึ้นหน้าตาตื่น"แกเข้ามานี่"ลัลลลิลไม่อยากอธิบายเธอรีบเรียกให้เฌอริตาเข้ามาดูอาการภัสกรในห้องเองจะดีกว่า"ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะลิน"เมื่อเฌอริตาเดินเข้าห้องมาได้ไม่กี่ก้าวภาพตรงหน้าก็ทำให้เธอนั้นแทบเข่าทรุดเพราะภัสกรที่นอนแน่นิ่งอยู่นั้นกำลังมีเลือดออกทางจมูกและหูของเขาอยู่เรื่อยๆ"ใจเย็นๆตอนนี้ฉันก็หาสาเหตุไม่ได้เหมือนกัน"ลัลลลิลรีบประคองร่างที่กำลังจะล้มของเฌอริตามานั่งข้างๆเตียงของภัสกร"เค้าจะรอดใช่ไหมลิน...พี่ภัสจะรอดใช่ไหม"เฌอริตากุมมือลัลลลิลน้ำตาไหลพรากอย่างสุดจะกลั้น"แกสบายใจได้ฉันจะช่วยเค้าให้สุดฝีมือ"ลัลลลิลให้คำมั่นว่ายังไงเธอก็จะไม่ปล่อยให้ภัสกรเป็นอะไรไปเด็ดขาด"..อืม.."เฌอริตาได้ยินเช่นนั้นเธอจึงค่อยๆผ่อนลมหายใจของเธอสงบสติอารมณ์ลงและรอรัชตะมาอย่างใจจดใจจ่ออาทิตย์ต่อมาภัสกรนอนเป็นผักอยู่บนเตียงไปจนเป็นอาทิตย์โดยมีหมอรัชตะมาคอยดูเป็นระยะๆเปลี่ยนบ้านเป็นสถานพยาบาลชั่วคราวจนอาการค่อยๆดีขึ้นและมีเฌอริตามาเฝ้าอยู่ทุกวัน"อือ..""พี่ภัส.."เฌอริตารีบละมือจากการปอกผลไม้มานั่งข้างๆเตียงภัสกรเมื่อเห็นว่าเขา
"ใช่จะ""ทำไมวันนั้นเป็นคุณลุง"เฌอริมาขมวดคิ้วเป็นปมอีกรอบเพราะจำได้ว่าวันนั้นเธอยังเรียกคนตรงหน้่ว่าคุณลุงอยู่เลย"อืม...วันนั้นคุณแม่จำคุณพ่อไม่ได้ไงคะ"เฌอริตามีทางออกสำหรับการพูดให้ลูกเธอเชื่อเสมอ"วันนี้จำได้แล้วเหรอคะ""ค่ะ""เรียกคุณพ่อสิคะ""คุณพ่อขา...คุณพ่อ...ทำไมไม่ตื่น"เด็กหญิงเอื้อมมือเล็กไปแตะแขนคนเป็นพ่อเบาๆครู่หนึ่ง"คุณพ่อกำลังไม่สบายก็เลยต้องพักผ่อนเยอะๆค่ะ""ค่ะ"เฌอริตาดีใจที่ลูกเธอเป็นคนเข้าใจในสิ่งที่เธอบอกอย่างง่ายดาย"อืม..เอ่อ..คุณ"ภัสกรรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพราะเมื่อครู่รู้สึกว่ามีคนมาจับแขนของเขาจึงรีบเขยิบตัวพิงกับหัวเตียง"ตื่นแล้วเหรอคะค่อยๆค่ะ"เฌอริตารีบพยุงช่วยชายหนุ่มให้เขานั่งได้ถนัด"คุณพ่อตื่นแล้ว.."เด็กหญิงเห็นคนบนเตียงตื่นขึ้นมาจึงยิ้มหน้าบานดีใจที่คนเป็นพ่อตื่นมาคุยกับเธอได้แล้ว"คุณพ่อ!!"ภัสกรถึงกับมองหน้าหญิงสาวตรงหน้าเธอด้วยความสงสัยว่าใครเป็นคนสอนให้เฌอริมาเรียกเขาแบบนี้"เอ่อ.."เฌอริตาต้องพาลูกสาวของเธอออกไปให้วาดจันทร์ดูก่อนเพื่อที่เธอจะอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้เขาได้ฟังครู่ต่อมา"พร้อมที่จะฟังเรื่องราวทุกอย่างแล้วใช่ไหมคะ""ครับ""..
อาทิตย์ต่อมาบริษัทXXX"ไหนคุณบอกว่าข่าวจะไม่รั่วไง..ทำไมมันเป็นแบบนี้"อนุชิตนักธุรกิจรุ่นใหญ่เข้าม โวยวายกับชนะพลชุดใหญ่เพราะข่าวในอินเทอร์เน็ตออกไปว่าเขาเป็นหนึ่งในนั้นในคนที่ชนะพลซื้อตัวไปทำให้บริษัทของฉัตรภพต้องล้มละลาย"ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องทุกอย่างมันเป็นแบบนี้ได้ยังไงผมรับปากว่าจะรีบแก้ข่าวทั้งหมดให้เร็วที่สุด"ชนะพลเองก็ไม่รู้ว่าความลับของบริษัทเขานั้นมันรั่วไหลออกไปได้อย่างไรแต่เขาจะปิดข่าวเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด"ผมหวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้นในเร็วๆนี้นะครับ"อนุชิตยื่นคำขาดกับชนะพลและเดินออกไปอย่างหัวเสีย"คุณจัดการเรียกนักข่าวมาที่บริษัทเย็นนี้ด้วยผมจะแก้ข่าวทั้งหมดเอง"ชนะพลสั่งธีราทรให้เรียกนักข่าวจากสำนักข่าวหลายสำนักให้มารวมกันที่บริษัทในตอนเย็นเพราะเขาจะแถลงแก้ข่าวในเย็นนี้เพื่อที่บริษัทจะได้ไม่เสียชื่อเสียงมากไปกว่านี้"ครับนาย"บ้านxxxRrrrrRrrrr"ว่าไงปลาย...อืม...โอเคฉันจะรอดู"เฌอริตารับสายจากปลายฝนที่เพื่อนเธอโทรมาแจ้งข่าวเรื่องที่ชนะพลจะมีการแถลงข่าวในเย็นนี้ให้เพื่อนเท่านั้นรอดูว่าชนะพลนั้นจะแก้ตัวกับสังคมอย่างไร"มีอะไรเหรอครับ"ภัสกรเดินมานั่งข้างๆเฌอริต
"พี่ภัส.."หญิงสาวเรียกชื่อคนที่กำลังเจ็บปวดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือทั้งยังมือไม้สั่นทำอะไรไม่ถูก"โอ้ยย..อืมม..."ภัสกรยังคงปวดหัวหนักขึ้นอยู่เรื่อยๆอย่างไม่มีผ่อน"พี่หมอคะตอนนี้พี่ภัสอาการไม่ดีเลยค่ะ"เฌอริตารีบวิ่งเข้าไปที่มือถือของเธอในห้องแล้วโทรหาหมอรัชตะทันที"โอ้ยยย..""พี่ภัส...เลือด...พี่ภัสคะ...อึก..อดทนหน่อยนะคะ...พี่ภัสต้องไม่เป็นอะไรนะคะ..ฮือ..ๆๆๆ.."เฌอริตาเข่าแทบทรุดเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มกำลังมีเลือดออกจากจมูกและรีบเข้าไปหาผ้าชุบน้ำมาค่อยๆเช็ดให้เขาอย่างเบามือทั้งสะอึกสะอื้นสงสารคนที่กำลังทุรนทุรายอยู่ตรงหน้ายิ่งร้องให้เจ็บใจนะที่เธอนั้นช่วยอะไรเขาไม่ได้เลยครึ่งชั่วโมงต่อมา"คุณภัส"รัชตะรีบขับรถมาที่บ้านของเฌอริตาตาเมื่อเปิดประตูเข้ามาเห็นสภาพของภัสกรก็ถึงกับหน้าถอดสีและรีบเข้ามาดูอาการเขาอย่างรวดเร็ว"ฮือๆ..อึก..พี่หมอช่วยพี่ภัสด้วยค่ะ"เฌอริตานั่งดูอาการของภัสกรด้วยน้ำตา"เดี๋ยวผมจะฉีดยาระงับอาการปวดให้คุณภัสก่อนนะครับ"รัชตะเร่งมือฉีดยาให้ชายหนุ่มก่อนในตอนนี้เพื่อให้เขาได้หายจากอาการเจ็บปวดและตรวจดูอาการอีกทีว่าอาการปวดหัวนี้เกิดขึ้นจากอะไรกันแน่"ค่ะ.."สิบนาทีต่อมา
"อืม..ก็เครียดอยู่พอสมควร..ขนาดหมอชาร์ลเองยังตกใจกับส่วนผสมที่ฉีดให้คุณภัสเลย"รัชตะออกมานั่งคุยกับลัลลลิลด้วยน้ำเสียงที่เบาที่สุดเท่าที่จะเบาได้เพราะไม่อยากให้เฌอริตาได้มาได้ยินเพราะจะพาเธอเครียดไปกันใหญ่"มันร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอคะ"ลัลลลิลหน้าเสียเล็กน้อยเมื่อเห็นว่ารัชตะเองยังเป็นกังวลกับเรื่องนี้มากๆ"อืม..""ลินถามจริงๆนะคะ..โอกาสที่คุณภัสจะเป็นปกติเหมือนเดิมร้อยเปอร์เซ็นนี่เป็นไปได้ไหมคะ""ปาฏิหารย์แบบนั้นที่พี่คิดตอนนี้นะดูเหมือนจะมีแค่ไม่กี่เปอร์เซ็นเท่านั้น"รัชตะยังไม่เห็นทางแต่อาการดีขึ้นคงดีขึ้นแน่นอนหากจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมร้อยเปอร์เซนนั้นเขาก็พูดยาก"หา..แย่จัง"ลัลลลิลรู้สึกสงสารทั้งเพื่อนเธอและภัสกรจับใจ"แต่พี่เชื่อมือหมอชาร์ลขนาดปลายฝนบาดเจ็บรุนแรงขนาดนั้นยังเดินได้ปร๋อภายในเวลาไม่เท่าไรเลย"รัชตะพูดเรียกกำลังใจให้ตัวเองคิดในแง่ดีอีกรอบว่าถ้าหากปลายฝนเคยถูกรักษาโดยหมอชาร์ลหายอย่างรวดเร็วได้ทั้งที่อาการสาหัสยังไงเคสของภัสกรเขาก็ขอให้เป็นไปในทิศทางที่ดีที่สุดก็แล้วกัน"ลินก็เชื่อค่ะ"ลัลลลิลเองก็ภาวนาในใจและเชื่อมั่นว่ามันจะต้องเป็นแบบนั้นเช่นกันเย็นของวัน"ฉันกับ