"ฉันคิดผิดสินะที่ชุบเลี้ยงคนอย่างแก"
"...คุณพ่อจะทำอะไรกับผมก็เชิญเลยครับ..."
ชาวีคุกเข่าลงต่อหน้าชนะพลอย่างยอมรับในสิ่งที่มันจะเกิด
"หึ่..."
ปั้งงงง..
"อ้าสสส.. "
ชนะพลชักปืนออกมาพร้อมยิงไปที่ไหล่ขวาของชาวีเขาไม่ต้องการให้ชายหนุ่มเสียชีวิตในทันทีเพราะคนที่มันไม่ฟังคำสั่งของเขามันต้องได้รับความเจ็บปวดอย่างทรมานก่อนที่มันจะตาย
"ซ้อมมัน"
ทั้งสั่งให้บอดี้การ์ดนับสิบรุมซ้อมชาวีอย่างทารุน
"ครับนาย"
ชายหนุ่มยินยอมรับความเจ็บปวดจนตอนนี้ร่างกายของเขามันเริ่มชาไปหมดและหมดสติลงไปในไม่ช้าเหล่าบอดี้การ์ดเห็นเช่นนั้นก็รู้ว่าพวกเขาจะต้องทำอย่างไรต่อจึงพากันเอาร่างที่หมดสติของชาวีขึ้นรถไปทิ้งที่บึงน้ำแห่งหนึ่งหมายจะให้ชายหนุ่มตายอย่างช้าๆในที่เป็นที่ประจำในการอำพรางศพ
ชั่วโมงต่อมา
"จัดการเอามันไปทิ้งเรียบร้อยใช่ไหม"
"ครับ"
ชนะพลดูจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับการฆาตกรรมคนทั้งคนครั้งนี้เลยสักนิดเพราะเขาก็เคยเห็นเรื่องพวกนี้จนชินตาและไม่ได้รู้สึกเสียดายชาวีเลยเพราะที่เขาชุบเลี้ยงชาวีมาก็ไม่ใช่เพราะเอ็นดูแค่ให้เป็นหัวโขนรับหน้าความผิดที่เขากระทำเท่านั้น
22.00 น.
Rrrrrrr
"ค่ะ...คุณหมอ...อะไรนะคะ"
เฌอริตาได้ยินเสียงมือถือของเธอในตอนดึกจึงหยิบขึ้นมาดูเห็นว่าเป็นเบอร์ของแดนเทพเลยแปลกใจเล็กน้อยว่าหมอแดนเทพนั้นโทรหาเธอทำไมในเวลานี้เมื่อกดรับก็ถึงกับใจแทบหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มและรีบขับรถออกไปหาแดนเทพในที่ที่เขาบอกทันที
23.00 น.
เฌอริตาขับรถไปรับแดนเทพกับชาวีที่ป่าข้างทางนอกตัวเมืองนิดหน่อยแล้วจึงรีบพาทั้งคู่มาที่บ้านพักของเธออีกหลังที่อยู่ห่างจากความเจริญค่อนข้างมากและน่าจะปลอดภัยสำหรับคนที่กำลังหนีตายอย่างทั้งสอง
"ทำไมท่านประธานมีสภาพเป็นแบบนี้ล่ะคะ"
เฌอริตาไม่ค่อยอยากจะมองสภาพชาวีตอนนี้เท่าไรนักเพราะเนื้อตัวของเขาเปียกโชกไปด้วยทั้งน้ำทั้งเลือดสะบักสะบอมหน้าตาปูดบวมช้ำจนดูไม่เหมือนคนเดิม
เธอรู้แค่ว่าชาวีถูกทำร้ายเกือบตายและหมอแดนเทพก็ไปช่วยเอาไว้แต่ไม่รู้ว่าคนๆนั้นเป็นใครที่เลือดเย็นได้ขนาดนี้
"คุณวีมีปัญหากับคุณพลครับเลยโดนสั่งเก็บ"
แดนเทพกำลังผ่าตัดเอากระสุนออกให้ชาวีอย่างเร่งรีบเพราะไม่อยากให้ชายหนุ่มเสียเลือดมากไปกว่านี้ดีที่เขาไม่ลืมที่จะพกอุปกรณ์ทำแผลและยาชามาด้วยไม่อย่างนั้นหากพาชายหนุ่มไปรักษาตามคลีนิคหรือโรงพยาบาลให้มีประวัติชาวีและเขาคงไม่รอดแน่เพราะเขาเล่นประกาศตนเป็นศรัตรูเพราะไปช่วยชาวีทำร้ายลูกน้องชนะพลบาดเจ็บไปหลายคนขนาดนั้นทั้งยังรู้ความลับอันเลวร้ายของชนะพลหลายอย่างอีกด้วย
"อะไรนะคะ"
เฌอริตาไม่อยากตะเชื่อว่าชนะพลจะเลวร้ายได้ขนาดนี้กระทั่งลูกบุญธรรมตัวเองก็ไม่มีเว้น
ชั่วโมงต่อมา
"ผมขอให้คุณวีพักรักษาตัวที่นี่ก่อนได้ไหมครับถือว่าผมขอร้อง"
แดนเทพจัดการกับแผลชาวีเรียบร้อยแล้วจึงเดินออกมาคุยกับเฌอริตาที่เธอกำลังนั่งทำสีหน้าเคร่งเครียดอยู่ที่โซฟาด้านนอกเขาคุกเข่าขอร้องเธออย่างไม่ยึดติดศักดิ์ศรีเพราะเขาต้องการช่วยชาวีไถ่บาปที่เขานั้นต้องทำร้ายชาวีมาโดยตลอด
"เอ่อคุณหมอลุกขึ้นเถอะค่ะเรื่องนี้ฉันไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว..แต่ฉันขอถามอะไรคุณหมออย่างนึงได้ไหมคะ"
เฌอริตารีบประคองหมอหนุ่มลุกขึ้นเธอไม่ได้มีปัญหาเรื่องที่อยู่ที่นี่อยู่แล้วแต่มีบางเรื่องที่เธออยากจะขอให้แดนเทพให้ความกระจ่างกับเธอสักนิด
"ว่ามาเลยครับ"
แดนเทพมองหน้าหญิงสาวอย่างสงสัยว่าหญิงสาวอยากจะถามอะไรกับเขา
"คุณชาวีมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับภัสกรหรือเปล่าคะ"
"คุณเพลินรู้จักภัสกรด้วยเหรอครับ"
แดนเทพถึงกับหน้าชาชื่อนี้เขาไม่ได้ยินมานานมากแล้วและไม่คิดว่าหญิงสาวจะรู้จักชื่อนี้อีกด้วยทำให้เขานั่งครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ว่าจะอธิบายเรื่องราวที่ผ่านมาให้หญิงสาวฟังหรือไม่และก็ได้ข้อสรุปว่าเขาไม่จำเป็นต้องปิดเรื่องนี้อีกต่อไป
ครู่ต่อมา
"เฮ้อ...เหตุการณ์นี้มันเกือบจะสี่ปีได้แล้วมั้งครับวันนั้นคุณชนะพลพาคุณชาวีที่สะบักสะบอมได้รับการกระทบกระเทือนที่หัวอย่างรุนแรงมาที่โรงพยาบาลที่ผมทำงานอยู่ให้รักษาอาการของเค้า...คุณชาวีนอนพักรักษาอาการร่วมเดือนกว่าจนกว่าจะฟื้นพอฟื้นขึ้นมาก็จำอะไรไม่ได้"
"..หา.."
เฌอริตาลำดับเหตุการณ์ดูเท่ากับว่าช่วงนั้นที่ชายหนุ่มหายไปจากเธอก็คือตอนที่เขาได้รับบาดเจ็บนั่นเองเธอจึงนิ่งงันเล็กน้อยและยังคงฟังแดนเทพพูดต่อ
"ตอนนั้นคุณวีความจำเสื่อมผมไม่รู้ว่าคุณพลคิดอะไรอยู่ถึงบอกกับคุณลงวีว่าเขาเป็นลูกบุญธรรมทั้งที่ก็พึ่งเจอกันแต่พอมาตอนนี้ผมรู้แล้วว่าคุณพลแค่ต้องการใช้คุณวีเป็นเครื่องมือออกหน้าแทนทุกเรื่องเท่านั้น"
"ความจำเสื่อม.."
"ครับคุณวีความจำเสื่อมแต่มันมีทางรักษาได้แต่คุณพลไม่ทำอย่างนั้นเค้าจ้างหมอจากต่างประเทศที่เก่งๆผสมตัวยาให้ผมฉีดให้คุณวีเพื่อคงสภาพความจำอยู่แค่เวลาที่ฟื้นขึ้นมาเท่านั้นก่อนหน้านั้นคุณวีจำอะไรไม่ได้เลยและผมก็ไม่รู้ว่าก่อนหน้านั้นคุณวีเป็นใครแค่รู้ว่าชื่อภัสกรเท่านั้น"
แดนเทพพูดทุกคำออกมาด้วยสีหน้ากังวลเพราะเขารู้สึกผิดอย่างมาก
"แล้วเพราะเหตุผลอะไรหมอแดนถึงต้องทำตามคำสั่งชนะพลทุกอย่างล่ะคะ"
เฌอริตาอยากรู็ว่าเหตุใดแดนเทพถึงต้องยอมทำผิดเพื่อชนะพลได้ขนาดนั้น
"ครอบครัวผมรอดจากการล้มละลายมาได้ก็เพราะเค้าและผมก็ได้เรียนหมอจากเงินของเค้าเช่นกัน"
เรื่องทั้งหมดที่เขาทำให้ชนะพลเพราะชนะพลมีบุญคุณกับครอบครัวของเขาและชนะพลก็จะใช้ข้อนี้อ้างกับเขาเสมอเมื่อต้องการให้เขาช่วยอะไรแต่ตอนนี้เขาเหลือตัวคนเดียวแล้วและคิดว่าบุญคุณของชนะพลเขาเองก็ได้ตอบแทนมาเยอะแล้วเช่นกันจึงไม่เข้าข้างชนะพลอีก
"เห็นคนอื่นเป็นเครื่องมือให้ตัวเองหมดเลยสินะ"เฌอริตากำมือแน่นกัดฟันกรอดกับความชั่วของชนะพลที่เธอได้ยินมาจากแดนเทพ"แล้วทำไมหมอแดนถึงเลือกที่จะช่วยคุณวีล่ะคะ""ผมไม่อยากทำผิดกับชีวิตใครไปมากกว่านี้แล้วอีกอย่างตอนนี้ผมก็เหลือตัวคนเดียวหากผมตายก็ไม่ห่วงอะไรแล้วถือซะว่าชดใช้ความผิดที่ผมทำลงไปในหลายๆเรื่อง""แล้วต่อจากนี้คุณวีจะเป็นยังไงคะ"เฌอริตาอยากรู้ว่าหากชาวีหยุดยาที่ต้องฉีดเป็นประจำอาการของเขาจะเป็นเช่นไร"ผมไม่แน่ใจถ้าผมไม่ให้ยาคุณวีแล้วอาการข้างเคียงของเขาจะเป็นอย่างไร...แต่ผมคิดว่ามันน่าจะรุนแรง"เรื่องนี้ทำให้เขาเครียดอย่างมากเพราะไม่รู้ว่าชาวีถูกยาที่เขาคอยฉีดให้ทำลายระบบประสาทส่วนไหนไปบ้างและหากไม่ฉีดต่อจะมีอาการข้างเคียงเช่นไรแต่ที่เขารู้แน่ๆคืออาการข้างเคียงไม่ว่าจะปวดหัวหรืออะไรก็แล้วแต่มันจะหนักมากๆเลยทีเดียว"เอ่อ..ร..รุนแรงยังไงคะ"เฌอริตาถึงกับหน้าเสียเพราะเป็นห่วงคนที่นอนเป็นผักอยู่ในห้อง"ผมยังให้คำตอบตอนนี้ไม่ได้ต้องรอดูอีกทีครับ...เอ่อจริงสิแล้วทำไมคุณเพลินถึงรู้จักชื่อจริงๆของคุณวีล่ะครับ"ตอนนี้แดนเทพเองก็ให้คำตอบหญิงสาวไม่ได้จริงๆเพราะแม้แต่เขาเองก็ยังเดาไม่ออกแ
"มีอะไรเหรอลิน"คนที่ดูจะตกใจที่สุดเห็นจะเป็นเฌอริตาที่รีบปาดน้พตาลุกขึ้นหน้าตาตื่น"แกเข้ามานี่"ลัลลลิลไม่อยากอธิบายเธอรีบเรียกให้เฌอริตาเข้ามาดูอาการภัสกรในห้องเองจะดีกว่า"ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะลิน"เมื่อเฌอริตาเดินเข้าห้องมาได้ไม่กี่ก้าวภาพตรงหน้าก็ทำให้เธอนั้นแทบเข่าทรุดเพราะภัสกรที่นอนแน่นิ่งอยู่นั้นกำลังมีเลือดออกทางจมูกและหูของเขาอยู่เรื่อยๆ"ใจเย็นๆตอนนี้ฉันก็หาสาเหตุไม่ได้เหมือนกัน"ลัลลลิลรีบประคองร่างที่กำลังจะล้มของเฌอริตามานั่งข้างๆเตียงของภัสกร"เค้าจะรอดใช่ไหมลิน...พี่ภัสจะรอดใช่ไหม"เฌอริตากุมมือลัลลลิลน้ำตาไหลพรากอย่างสุดจะกลั้น"แกสบายใจได้ฉันจะช่วยเค้าให้สุดฝีมือ"ลัลลลิลให้คำมั่นว่ายังไงเธอก็จะไม่ปล่อยให้ภัสกรเป็นอะไรไปเด็ดขาด"..อืม.."เฌอริตาได้ยินเช่นนั้นเธอจึงค่อยๆผ่อนลมหายใจของเธอสงบสติอารมณ์ลงและรอรัชตะมาอย่างใจจดใจจ่ออาทิตย์ต่อมาภัสกรนอนเป็นผักอยู่บนเตียงไปจนเป็นอาทิตย์โดยมีหมอรัชตะมาคอยดูเป็นระยะๆเปลี่ยนบ้านเป็นสถานพยาบาลชั่วคราวจนอาการค่อยๆดีขึ้นและมีเฌอริตามาเฝ้าอยู่ทุกวัน"อือ..""พี่ภัส.."เฌอริตารีบละมือจากการปอกผลไม้มานั่งข้างๆเตียงภัสกรเมื่อเห็นว่าเขา
"ใช่จะ""ทำไมวันนั้นเป็นคุณลุง"เฌอริมาขมวดคิ้วเป็นปมอีกรอบเพราะจำได้ว่าวันนั้นเธอยังเรียกคนตรงหน้่ว่าคุณลุงอยู่เลย"อืม...วันนั้นคุณแม่จำคุณพ่อไม่ได้ไงคะ"เฌอริตามีทางออกสำหรับการพูดให้ลูกเธอเชื่อเสมอ"วันนี้จำได้แล้วเหรอคะ""ค่ะ""เรียกคุณพ่อสิคะ""คุณพ่อขา...คุณพ่อ...ทำไมไม่ตื่น"เด็กหญิงเอื้อมมือเล็กไปแตะแขนคนเป็นพ่อเบาๆครู่หนึ่ง"คุณพ่อกำลังไม่สบายก็เลยต้องพักผ่อนเยอะๆค่ะ""ค่ะ"เฌอริตาดีใจที่ลูกเธอเป็นคนเข้าใจในสิ่งที่เธอบอกอย่างง่ายดาย"อืม..เอ่อ..คุณ"ภัสกรรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพราะเมื่อครู่รู้สึกว่ามีคนมาจับแขนของเขาจึงรีบเขยิบตัวพิงกับหัวเตียง"ตื่นแล้วเหรอคะค่อยๆค่ะ"เฌอริตารีบพยุงช่วยชายหนุ่มให้เขานั่งได้ถนัด"คุณพ่อตื่นแล้ว.."เด็กหญิงเห็นคนบนเตียงตื่นขึ้นมาจึงยิ้มหน้าบานดีใจที่คนเป็นพ่อตื่นมาคุยกับเธอได้แล้ว"คุณพ่อ!!"ภัสกรถึงกับมองหน้าหญิงสาวตรงหน้าเธอด้วยความสงสัยว่าใครเป็นคนสอนให้เฌอริมาเรียกเขาแบบนี้"เอ่อ.."เฌอริตาต้องพาลูกสาวของเธอออกไปให้วาดจันทร์ดูก่อนเพื่อที่เธอจะอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้เขาได้ฟังครู่ต่อมา"พร้อมที่จะฟังเรื่องราวทุกอย่างแล้วใช่ไหมคะ""ครับ""..
อาทิตย์ต่อมาบริษัทXXX"ไหนคุณบอกว่าข่าวจะไม่รั่วไง..ทำไมมันเป็นแบบนี้"อนุชิตนักธุรกิจรุ่นใหญ่เข้าม โวยวายกับชนะพลชุดใหญ่เพราะข่าวในอินเทอร์เน็ตออกไปว่าเขาเป็นหนึ่งในนั้นในคนที่ชนะพลซื้อตัวไปทำให้บริษัทของฉัตรภพต้องล้มละลาย"ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องทุกอย่างมันเป็นแบบนี้ได้ยังไงผมรับปากว่าจะรีบแก้ข่าวทั้งหมดให้เร็วที่สุด"ชนะพลเองก็ไม่รู้ว่าความลับของบริษัทเขานั้นมันรั่วไหลออกไปได้อย่างไรแต่เขาจะปิดข่าวเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด"ผมหวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้นในเร็วๆนี้นะครับ"อนุชิตยื่นคำขาดกับชนะพลและเดินออกไปอย่างหัวเสีย"คุณจัดการเรียกนักข่าวมาที่บริษัทเย็นนี้ด้วยผมจะแก้ข่าวทั้งหมดเอง"ชนะพลสั่งธีราทรให้เรียกนักข่าวจากสำนักข่าวหลายสำนักให้มารวมกันที่บริษัทในตอนเย็นเพราะเขาจะแถลงแก้ข่าวในเย็นนี้เพื่อที่บริษัทจะได้ไม่เสียชื่อเสียงมากไปกว่านี้"ครับนาย"บ้านxxxRrrrrRrrrr"ว่าไงปลาย...อืม...โอเคฉันจะรอดู"เฌอริตารับสายจากปลายฝนที่เพื่อนเธอโทรมาแจ้งข่าวเรื่องที่ชนะพลจะมีการแถลงข่าวในเย็นนี้ให้เพื่อนเท่านั้นรอดูว่าชนะพลนั้นจะแก้ตัวกับสังคมอย่างไร"มีอะไรเหรอครับ"ภัสกรเดินมานั่งข้างๆเฌอริต
"พี่ภัส.."หญิงสาวเรียกชื่อคนที่กำลังเจ็บปวดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือทั้งยังมือไม้สั่นทำอะไรไม่ถูก"โอ้ยย..อืมม..."ภัสกรยังคงปวดหัวหนักขึ้นอยู่เรื่อยๆอย่างไม่มีผ่อน"พี่หมอคะตอนนี้พี่ภัสอาการไม่ดีเลยค่ะ"เฌอริตารีบวิ่งเข้าไปที่มือถือของเธอในห้องแล้วโทรหาหมอรัชตะทันที"โอ้ยยย..""พี่ภัส...เลือด...พี่ภัสคะ...อึก..อดทนหน่อยนะคะ...พี่ภัสต้องไม่เป็นอะไรนะคะ..ฮือ..ๆๆๆ.."เฌอริตาเข่าแทบทรุดเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มกำลังมีเลือดออกจากจมูกและรีบเข้าไปหาผ้าชุบน้ำมาค่อยๆเช็ดให้เขาอย่างเบามือทั้งสะอึกสะอื้นสงสารคนที่กำลังทุรนทุรายอยู่ตรงหน้ายิ่งร้องให้เจ็บใจนะที่เธอนั้นช่วยอะไรเขาไม่ได้เลยครึ่งชั่วโมงต่อมา"คุณภัส"รัชตะรีบขับรถมาที่บ้านของเฌอริตาตาเมื่อเปิดประตูเข้ามาเห็นสภาพของภัสกรก็ถึงกับหน้าถอดสีและรีบเข้ามาดูอาการเขาอย่างรวดเร็ว"ฮือๆ..อึก..พี่หมอช่วยพี่ภัสด้วยค่ะ"เฌอริตานั่งดูอาการของภัสกรด้วยน้ำตา"เดี๋ยวผมจะฉีดยาระงับอาการปวดให้คุณภัสก่อนนะครับ"รัชตะเร่งมือฉีดยาให้ชายหนุ่มก่อนในตอนนี้เพื่อให้เขาได้หายจากอาการเจ็บปวดและตรวจดูอาการอีกทีว่าอาการปวดหัวนี้เกิดขึ้นจากอะไรกันแน่"ค่ะ.."สิบนาทีต่อมา
"อืม..ก็เครียดอยู่พอสมควร..ขนาดหมอชาร์ลเองยังตกใจกับส่วนผสมที่ฉีดให้คุณภัสเลย"รัชตะออกมานั่งคุยกับลัลลลิลด้วยน้ำเสียงที่เบาที่สุดเท่าที่จะเบาได้เพราะไม่อยากให้เฌอริตาได้มาได้ยินเพราะจะพาเธอเครียดไปกันใหญ่"มันร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอคะ"ลัลลลิลหน้าเสียเล็กน้อยเมื่อเห็นว่ารัชตะเองยังเป็นกังวลกับเรื่องนี้มากๆ"อืม..""ลินถามจริงๆนะคะ..โอกาสที่คุณภัสจะเป็นปกติเหมือนเดิมร้อยเปอร์เซ็นนี่เป็นไปได้ไหมคะ""ปาฏิหารย์แบบนั้นที่พี่คิดตอนนี้นะดูเหมือนจะมีแค่ไม่กี่เปอร์เซ็นเท่านั้น"รัชตะยังไม่เห็นทางแต่อาการดีขึ้นคงดีขึ้นแน่นอนหากจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมร้อยเปอร์เซนนั้นเขาก็พูดยาก"หา..แย่จัง"ลัลลลิลรู้สึกสงสารทั้งเพื่อนเธอและภัสกรจับใจ"แต่พี่เชื่อมือหมอชาร์ลขนาดปลายฝนบาดเจ็บรุนแรงขนาดนั้นยังเดินได้ปร๋อภายในเวลาไม่เท่าไรเลย"รัชตะพูดเรียกกำลังใจให้ตัวเองคิดในแง่ดีอีกรอบว่าถ้าหากปลายฝนเคยถูกรักษาโดยหมอชาร์ลหายอย่างรวดเร็วได้ทั้งที่อาการสาหัสยังไงเคสของภัสกรเขาก็ขอให้เป็นไปในทิศทางที่ดีที่สุดก็แล้วกัน"ลินก็เชื่อค่ะ"ลัลลลิลเองก็ภาวนาในใจและเชื่อมั่นว่ามันจะต้องเป็นแบบนั้นเช่นกันเย็นของวัน"ฉันกับ
หลายวันต่อมาหลายวันก่อนหมอชาร์ลมาถึงก็รีบตรวจดูอาการของภัสกรอย่างเร่งด่วนและประเมินอาการว่าอยู่ระดับไหนเขาจึงใช้คลินิคหมอรัชตะเป็นที่ผสมตัวยาและนำมารักษากับภัสกรวันแรกๆที่เริ่มรักษาชายหนุ่มก็มีผลข้างเคียงเพราะร่างกายต่อต้านยาอยู่บ้างทำให้อารมณ์ของภัสกรแปรปรวนอยู่ไม่น้อยบางครั้งก็อารมณ์ร้ายจนทำลายข้าวของทุกอย่างรวมถึงทำร้ายตัวเองบางครั้งก็เฉื่อยชาไม่รับรู้เรื่องราวจากคนรอบข้างจนร่วมครึ่งเดือนมาแล้วอาการของเขาจึงดีขึ้นถึงแม้ว่าบางครั้งจะความรู้สึกช้าบ้างแต่ก็สามารถพูดคุยโต้ตอบได้ดีและช่วยเหลือตัวเองในชีวิตประจำวันได้เฌอริตาจึงพอใจในการรักษาของหมอชาร์ลอยู่มากและขอบคุณหมอหนุ่มจนนับครั้งไม่ถ้วนแล้วในตอนนี้08.30 น."ยาที่ต้องให้คุณภัสทานตลอดก็มีประมาณนี้ครับย้ำนะครับว่าต้องตรงเวลาและห้ามขาดเกินอาทิตย์เด็ดขาด"หมอชาร์ลเรียกเฌอริตาให้มาดูตัวยาที่เขาเตรียมเอาไว้ให้ภัสกรก่อนที่เขาจะบินกลับทั้งอธิยายกำชับเรื่องห้ามขาดยากับหญิงสาว"เข้าใจแล้วค่ะหมอชาร์ล"เฌอริตาฟังคำพูดของหมอชาร์ลอย่างตั้งใจ"ผมจะดูอาการคุณภัสอีกสักสองวันแล้วก็จะกลับแล้วล่ะครับ""แล้ว.. เอ่อถ้าเกิดอะไรขึ้นล่ะคะ"เฌอริตาเป็นกั
"รู้ไหมคะว่าริตาดีใจมากๆเลยที่พี่ภัสจำเรื่องราวของเราได้แล้ว"เฌอริตาหาเรื่องเปลี่ยนเรื่องคุยกับชายหนุ่มจะดีกว่าเพราะเธอไม่อยากให้บรรยากาศตอนนี้มีความกังวลเข้ามาทำลายความสุข"พี่ก็ดีใจเหมือนกันที่จะได้ไม่รู้สึกผิดที่จำคนรักของตัวเองไม่ได้""ต่อไปนี้พี่ภัสต้องกินข้าวกินยาให้ตรงเวลานะคะเพราะริตาอยากให้พี่ภัสกลับมาเป็นปกติเร็วๆ""อืม...พี่ก็หวังว่าสักวันจะไม่ต้องเป็นภาระของริตาพี่สัญญาว่าพี่จะปกป้องดูแลริตาทุกอย่างเอง"ภัสกรมองตาของคนด้านบนจริงจัง"ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอกค่ะแค่อย่าหายไปจากริตาอีกก็พอแล้ว"เฌอริตาไม่ได้ต้องการคนที่ปกป้องเธอตลอดเวลาเธอขอแค่คนที่อยู่ข้างๆเธอในทุกเวลาเท่านั้นไม่ว่าจะเวลาทุกข์หรือเวลาสุขก็อยากจะผ่านมันไปด้วยกันแค่นี้เธอก็พอใจแล้ว"ถ้าวันนึงพี่หายไปอีกริตาต้องสัญญากับพี่นะว่าจะไม่ลืมพี่"ภัสกรไม่รู้หรอกว่าอนาคตจะเป็นอย่างไรเมื่อเขาเลือกที่จะทำอะไรสักอย่างลงไป"ไม่สัญญาค่ะเพราะริตาจะไม่ให้พี่ภัสหายไปอีก"เฌอริตาส่ายหัวเล็กๆด้วยแววตาที่หดหู่เธอไม่ชอบคำพูดที่ดูเหมือนจะเป็นลางแบบนี้เลย"......"ภัสกรรวบตัวหญิงสาวมานอนกอดอยู่ที่ฟูกเล็กข้างล่างกับเขาความรู้สึกโหยหาหญ