Share

Chapter 14.  ทบทวนว่าเราเป็นอะไรกัน

“ได้ ถ้าคุณลืม ผมจะทบทวนว่าเราเป็นอะไรกัน”

คนตัวเล็กขยับตัวดิ้นรนทำให้กระโปรงร่นขึ้นเห็นเรียวขาขาวผ่อง โจวเจียอีใช้มือเพียงข้างเดียวก็รวบข้อมือสองข้างของเธอกดไว้เหนือศีรษะแล้วโน้มหน้าลงจูบกลีบปากที่พูดจาแทงใจเขาเหลือเกิน ไอร้อนจากกายเขาผสานกับกลิ่นน้ำหอมเกิดเป็นกลิ่นกายเฉพาะตัว คล้ายปลุกเร้าความทรงจำในค่ำคืนนั้นให้หวนกลับมาอีกครั้ง  หญิงสาวหน้าตาแตกตื่น  คราวนี้เธอกลัวเขาขึ้นมาจริงๆ ร่างกายของเธอแข็งเกร็งขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้   โจวเจียอีรับรู้ได้ว่า  การกระทำของตนทำให้เธอตกใจ  จึงจำใจผละจากริมฝีปากที่บวมเจ่อเล็กน้อยแล้วถอนหายใจหนักหน่วงก่อนจะทิ้งตัวลงนอนข้างๆ   แต่เพราะเตียงเล็กทำให้เขาต้องดึงเธอมากอดไว้

“ขอโทษ...”

“คะ?”

“คุณกลัวสินะ”

“หมิวตกใจค่ะ”  เธอสารภาพ “เรา...เราค่อยเป็นค่อยไปได้ไหม”

“อื้ม...”  เขากอดเธอแน่นขึ้น “ถึงยังไงตอนนี้ผมก็มีอะไรกับคุณไม่ได้”

“คะ?”  เธอผงกศีรษะขึ้นมองใบหน้าชายหนุ่ม “คุณไม่สบายเหรอ เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”

โจวเจียอีหัวเราะ ก่อนจูบหน้าผากเธอเบาๆ

“เปล่า ผมแต่ไม่ได้เตรียมตัวมามีเซ็กส์กับคุณ”

“คุณ...พูดตรงไปหรือเปล่า”  คราวนี้เธอหน้าแดงขึ้นมาอีกรอบ

“ผมเป็นคนตรงไปตรงมาแบบนี้แหละ” เขายืนยัน “ผมไม่เตรียมถุงยางอนามัยมาด้วย ของผมมันขนาดพิเศษ ร้านสะดวกซื้อไม่มีขาย”

คราวนี้ธีรยาอ้าปากค้าง ผู้ชายคนนี้ช่างพูดเรื่องน่าอายได้หน้าตายจริงๆ

“แต่ถ้าคุณต้องการ ผมโทรสั่งเจสันให้เอามาส่งที่นี่ได้นะ” เขายิ้มกริ่ม “หรือถ้าคุณไม่รังเกียจ ผมไม่ใส่ก็ได้ แน่นอนว่าผมพร้อมรับผิดชอบคุณอยู่แล้ว”

“ไม่ต้อง!”  เธอทุบแผ่นอกเขาแก้เก้อ “ทำแบบนี้บ่อยเหรอคะ”

“แบบไหน?”

“ใช้เจสันไปเอาถุงยางมาให้เนี้ย”

“ผมพูดความจริงแล้วคุณจะรับได้ไหมล่ะ”

เธอนิ่งงันไปเล็กน้อย มันก็จริงนะ มันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา เธอไม่ควรถามอะไรแบบนี้เลย

“ถือว่าไม่ได้ถามแล้วกันค่ะ”

“ผมจองคิวดินเนอร์เย็นวันศุกร์ คืนวันศุกร์ถึงวันเสาร์คุณอยู่กับผมทั้งวัน วันอาทิตย์คุณจะได้พักผ่อน วันจันทร์ไปทำงานได้ปกติ”

“เอ่อ...คุณวางแผนไว้แล้วเหรอ”

“ผมกลัวคุณเหนื่อยเพราะผมตั้งใจกินคุณอยู่แล้ว” เขายิ้ม ดวงตาเปิดเผยความต้องการอย่างเต็มเปี่ยม

“แล้วคุณไม่เหนื่อยหรือไง”  เธอขมวดคิ้ว “งานคุณก็ยุ่งไม่ใช่เหรอ”

“เป็นห่วงผมเหรอ”

“ก็...”

“ดีจังที่คุณใส่ใจผม”

“หลงตัวเอง”

“ผมอยากให้คุณหลงผมมากกว่า”

เสียงหัวเราะและร่างกายที่ผ่อนคลายลงทำให้โจวเจียอีแอบโล่งอก เขาไม่อยากให้กระต่ายน้อยกลัวเขาเหมือนที่ผู้หญิงคนอื่นเป็นกัน เขาชอบช่วงเวลาที่เธอเป็นตัวของตัวเองและไม่ได้สนใจว่าเขาคือโจวเจียอี- ผู้ชายที่หลายคนหวาดกลัว

“วันศุกร์รับนัดได้ค่ะ”  เธอพยักหน้ากับแผ่นอกของเขา เมื่อครู่เธอกลัวเขาจริงๆ แต่เวลานี้เธอผ่อนคลายลงมากแล้ว “แต่เดือนหน้าจะทำตัวเถลไถลไม่ได้แล้วนะคะ หมิวจะทำงานพิเศษหลังเลิกงานค่ะ”

“ทำงานพิเศษ?”

“หมิวสมัครทำงานห้องแล็บเอกชนค่ะ ไม่ผิดกฎของที่ทำงานปัจจุบัน สามารถไปทำงานเอกชนนอกเวลาราชการได้”

“คุณต้องใช้เงินเหรอ มีอะไรก็บอกผมมาได้”  เขาถามน้ำเสียงเจือความกังวล “ที่ทำงานใหม่จ่ายคุณเท่าไหร่ ผมจ่ายให้สองเท่าหรือสามเท่าก็ได้ แต่คุณไม่ต้องไปทำงานที่นั้น”

“แล้วให้ไปทำงานกับคุณแทนเหรอ คุณจะให้หมิวทำอะไร” 

“ก็อยู่กับผม ตามใจผม”

‘ทำไมฟังแล้วเหมือนถูกเขาผูกปิ่นโตยังไงไม่รู้’

ธีรยาขมวดคิ้ว คุยกับคนมีเงินนี่ก็คุยลำบากเหมือนกันนะ

“หมิวต้องใช้เงินก็จริง แต่เงินนั้นก็ต้องได้มาจากความสามารถของตัวเองด้วย หมิวไม่รู้เรื่องธุรกิจและทำอย่างอื่นไม่เป็น โลกของหมิวคือการตรวจชิ้นเนื้อ เลือด รวมทั้งสารคัดหลั่ง แม้แต่ปัสสาวะก็ต้องทำ นอกจากงานในห้องแล็บแล้วก็ทำอย่างอื่นไม่เป็น”

“ผมไม่ได้ดูถูกคุณ แต่ผมเป็นห่วงไม่อยากเห็นคุณเหนื่อยเกินไป”

“เอาเป็นว่าหมิวรับความหวังดีของคุณไว้ก็แล้วกัน”  เธอพูดแล้วยันตัวลุกขึ้นนั่ง เตียงเธอมันเล็กเกินกว่าคนสองคนจะนอนเบียดกันจริงๆ

โจวเจียอียันกายขึ้นมานั่ง เขายกมือลูบแก้มเธอเบาๆ ผู้หญิงคนนี้ดูเปราะบางแต่ภายในเข้มแข็งไม่น้อย เธอจะรู้ไหมนะว่าเธอทำให้เขาชอบมากขึ้นอีกแล้ว

“คืนนี้ผมจะปล่อยคุณไปก่อน วันศุกร์ผมจะไปรับที่ทำงาน”

“ไม่ต้องไปรับที่ทำงานไม่ได้เหรอ”  เธอแอบเขินเพื่อนร่วมงานอยู่เหมือนกัน เพราะทุกคนอยากเห็นเจ้าของช่อดอกไม้และขนมของกินมากมายที่เขาส่งมาทุกวัน

“ไม่ได้ ผมกลัวคนอื่นมาแซงคิว” เขายิ้มแล้วยื่นหน้าไปจูบริมฝีปากสวยอีกครั้ง “ไม่ต้องไปส่งผมหรอก ผมออกไปแล้วคุณก็พักผ่อนได้เลย”

“ไม่ต้องมาสั่ง”  เธอเบือนหน้าหลบสายตาของเขา

ชายหนุ่มหัวเราะพอใจ ทั้งสองพูดคุยกันเล็กน้อย ธีรยาเดินมาส่งเขาที่ประตูเมื่อล็อกประตูเรียบร้อยแล้วก็เดินไปทิ้งตัวลงนอน  กลิ่นอายของเขายังคงอบอวลในห้อง ลึกๆแล้ว เธอก็ปรารถนาจะแตะต้องตัวเขาอยู่เหมือนกัน

คืนนั้นเพราะแอลกอฮอร์ล้วนๆ ทำให้เธอบ้าบิ่นขึ้นเตียงเขาได้  หญิงสาวดีดตัวลุกขึ้นนั่งตั้งใจจะไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่เห็นเสื้อสูทของโจวจีเอียพาดที่เก้าอี้ เธอรีบหยิบโทรศัพท์มือถือโทรหาเขาทันที

“อีริค คุณลืมเสื้อสูทไว้ที่ห้องฉันนะคะ”

“ผมไม่ได้ลืม ผมตั้งใจไว้ที่นั้น”

“อ้าว...”

“ก็เผื่อคุณพาใครมาที่ห้องจะได้รู้ไงว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียว”  เขาหัวเราะในลำคอ “อีกอย่าง เผื่อคุณคิดถึงผม จะได้นอนกอดเสื้อผมไง”

“บ้า!”

หญิงสาวกดปิดโทรศัพท์แล้วนั่งมองเสื้อสูทเรียบหรูของเขา ครู่หนึ่งเธอก็หัวเราะออกมา ไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตเรียบง่ายที่ห่วงแหนจะมาเจอเรื่องวุ่นวายหัวใจแบบนี้.

...

ก้องภพเดินเร็วๆ มาหาธีรยา หญิงสาวสะพายกระเป๋าเดินออกมาจากแผนกของตนพอดี รอยยิ้มกว้างปรากฏขึ้นเมื่อเห็น ‘พี่ชาย’ มาหา แต่เมื่อเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของเขาแล้ว รอยยิ้มก็จางลงไปทันที

            “พี่หมอก้อง...”

            “ทำไมทำอะไรไม่ปรึกษาพี่”

            “คะ?”   ธีรยางุนงงกับถ้อยคำที่ได้ยิน “พี่หมอก้องพูดเรื่องอะไรคะ?”

            “ก็เรื่องหมิวไปทำงานที่แล็บเอกชนไง”

เขาหายใจแรงเพราะกึ่งวิ่งกึ่งเดินมาหา ทันทีที่ได้ยินจากปากผู้หลักผู้ใหญ่ว่าธีรยาจะไปทำงานที่แล็บเอกชนแห่งหนึ่ง

            “อ้อ...หมิวไปทำงานนอกเวลาราชการค่ะ ไม่กระทบงานประจำแน่นอน ที่สำคัญหมิวก็แจ้งหัวหน้าแล้ว ท่านก็รับทราบและอนุญาตเรียบร้อยค่ะ”

            “ปกติเรามีอะไรปรึกษาพี่ก่อนไม่ใช่เหรอ”  เขายกมือขึ้นเสยผมอย่างหงุดหงิด

            “ก็...”  ธีรยาไม่เข้าใจสีหน้าและน้ำเสียงไม่พอใจของก้องภพ  “ก็หมิวเคยปรึกษาแล้วนี่คะ พี่หมอก้องยังบอกว่าหมิวโตแล้ว ตัดสินใจเองได้ไม่ต้องปรึกษาพี่ทุกเรื่อง”

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status