Share

Chapter 34.  เขารู้จักคำนี้จริงๆ หรือ?

            คนตัวสูงรั้งร่างบอบบางเข้ามากอด

“ผมอยากกลับไปห้องของเราจัง”

            “อย่าดื้อค่ะ”

            โจวเจียอีเงยหน้าหัวเราะแล้วยกมือสองมือประคองใบหน้าหวานสบตากับดวงตาหลังแว่นตาแสนเชย แต่ภายใต้ดวงตาใสกระจ่างคือความอ่อนโยนอย่างที่เขาไม่เคยได้รับจากใครมาก่อน

            “คราวนี้คุณเชื่อใจผมได้หรือยัง ผมไม่เคยมีใครและไม่เคยซุกเมียเก็บไว้”

            แน่นอนว่าเขาไม่อยากเป็นเหมือนพ่อ  และไม่อยากเห็นคนที่เขารักต้องทุกข์ใจเช่นที่แม่เขาต้องเผชิญ

            รัก...เขารู้จักคำนี้จริงๆหรือ?

            “จะรับไว้พิจารณานะคะ”

            “โธ่ หมิว...” เขาครางอย่างอ่อนใจ

            “เอาไว้หมิวหาเวลาเรียนภาษาจีนก่อน เวลาคุณพูดอะไร หมิวจะได้ฟังออกว่าคุณไม่ได้ปิดบังอะไรอีก”

            “ได้ ผมสอนให้เอง”

“ค่าสอนแพงไหมคะ ระดับประธานโจวมาสอนเอง หมิว จะจ่ายไม่ไหวเอานะสิ”

“อื้ม...ผมคิดเป็นอย่างอื่นก็แล้วกัน”

สายตากรุ้มกริ่มของเขาทำให้หญิงสาวเขินหน้าแดง เธอทุบอกเขาแก้เขินแล้วหมุนตัวเดินกลับเข้ามาในห้องพักผู้ป่วย วันนี้เกิดเรื่องมากมาย แต่มันก็คุ้มค่าที่ได้รู้ว่าเขาไม่ได้มีใครอื่นซุกซ่อนไว้จริงๆ.

            ….

            ไม่น่าเชื่อเลยว่า ระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือนจะเกิดเรื่องมากมายกับชีวิตของธีรยาขนาดนี้  หากเป็นก่อนหน้านี้ เธอเดินเข้าแผนกฉุกเฉินอย่างไม่ลังเล โผล่หน้าไปเพื่อเจอรอยยิ้มของหมอก้องภพ แต่เวลาเธอนี้กลับยืนยังลังเลไม่กล้าเข้าไป

            “อ้าว! หมอหมิวไม่เข้าไปรึคะ” พยาบาลคนหนึ่งเอ่ยทักด้วยความคุ้นเคย

            “รอเพื่อนอยู่ค่ะ”

            “เพื่อนหมอหมิวเข้าห้องฉุกเฉินเหรอคะ”  คราวนี้คุณพยาบาลถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง “มีคนเจ็บศีรษะแตกเย็บสิบสองเข็มอยู่ข้างใน”

            “ค่ะ น่าจะเป็นคนนั้น”

            “เข้าไปได้นะคะ ตอนนี้เย็บแผลเสร็จแล้ว” 

            “ค่ะ..ขอบคุณค่ะ”

            ธีรยาสูดลมหายใจลึกๆ แล้วก้าวเข้าไปในห้องฉุกเฉิน   บ่ายนี้ไม่วุ่นวายอย่างที่เคยเห็นบ่อยๆ ในห้องนอกจากหมอประจำแผนกแล้วก็มีพยาบาลเดินไปเดินมา คนตัวสูงที่นั่งอยู่มองข้ามไหล่คุณหมอเห็นเจ้าของร่างเล็กเดินเข้ามาใกล้ก็ผงกศีรษะเล็กน้อย แต่ทำให้คุณหมอที่ดูแลอยู่รู้ตัวว่ามีคนอื่นเข้ามาทำให้เขาเอี้ยวตัวไปมองเล็กน้อย

            ไม่เห็นหน้ากันแค่ครึ่งเดือน  ทำไมรู้สึกยาวนานเป็นชาติขนาดนี้

            ก้องภพได้แต่ระบายลมหายใจเบาๆ แล้วทำเป็นไม่สนใจธีรยา

            “มาแล้วเหรอ”   ปกป้องเอ่ยทักแล้วย้ายสายตามองเจ้าบอดี้การ์ดตัวโตแล้วกระตุกมุมปากยิ้มเยาะ

            ธีรยามองเจสันกับปกป้องสลับกันไปมาอย่างงุนงง

            “ทำไมสองคนนี้มาเจอกันได้ล่ะ”

            “ไม่มีครับ อุบัติเหตุนิดหน่อย” เจสันร้อนตัวรีบพูดออกไป “ความจริงแผลนิดเดียวเองครับ”

            “บาดแผลเกิดจากของไม่มีคมกระแทกศีรษะ เย็บสิบสองเข็ม”  ก้องภพพูดลอยๆ ขึ้นมา “แต่ถ้าคุณยืนยันว่าศีรษะไปกระแทกกับขอบตู้เอง ผมก็จะลงรายงานไว้ตามนั้น”

            “ขอบคุณครับ” เจสันผงกศีรษะให้คุณหมอเล็กน้อย

            “มีเรื่องอะไรกันแน่”  ธีรยาถามด้วยความสงสัย สองคนนี้ไม่น่าจะโคจรมาเจอกันได้

            “ถ้าจะคุยกันก็เชิญข้างนอกนะครับ” ก้องภพพูดพลางถอดถุงมือออก

            ทั้งสามมองหน้ากันเล็กน้อย ท่าทางเหมือนเด็กโดนคุณครูดุเอาจนต้องก้มหน้าพากันเดินออกมาด้านนอก  พยาบาลที่สนิทกันแอบหัวเราะ แต่หมอก้องภพก็ยังมองเห็น เขาถอนหายใจเฮือกหนึ่งก่อนส่ายหน้าไปมา เขาเองก็เห็นปกป้องกับธีรยามานาน อีกคนซุกซนตามประสาผู้ชาย ส่วนอีกคนก็เรียบร้อยแต่แอบดื้อเงียบ  และที่สำคัญที่สุดเรื่องทั้งหมดมันเป็นความผิดของเขาที่ไม่รู้ใจตัวเองและยังพูดจาว่าร้ายธีรยาขนาดนั้น

            “เล่ามา”  ธีรยาขยับแว่นสายตาแล้วจ้องหน้าชายหนุ่มทั้งสอง เพราะความสูงของเธอแค่ 155 เซนติเมตรทำให้ต้องแหงนหน้าขึ้นเล็กน้อย “ห้ามปิดบัง”

            “คือ...” เจสันอึกอัก “เรื่องเข้าใจผิดนิดหน่อยครับ”

            “ไอ้หมอนี่แอบตามเราไง”  ปกป้องชิงพูดขึ้น

            “คุณต่างหากที่แอบตามผม”  เจสันแย้ง

            “ก็ผมไปสืบราชการ”

            “เรื่องที่คุณสืบคือเรื่องของเจ้านายผม!”

            “ก็เจ้านายคุณมัน...”

            “เดี๋ยวก่อน พูดแบบนี้เมื่อไหร่หมิวจะเข้าใจล่ะ” ธีรยายกมือห้ามแล้วหันไปสั่งปกป้อง “นายป้องไปรับยาให้เจสัน”

            “อ้าว! ทำไมเป็นเราล่ะ”

            “ป้องจะให้หมิวไปเอาเอง?”  เธอเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม “หรือให้คนเจ็บเสื้อเปื้อนเลือดไปเอา”

            “ได้...รอนี่แหละ เดี๋ยวเราไปรับยาให้เอง”

            ปกป้องเบ้ปากแล้วเดินไปที่จุดรอรับยา เดินได้สองก้าวก็นึกขึ้นได้หันมาถาม “นายชื่ออะไรนะ ชื่อตามพาสปอร์ต”

            “ผมแซ่ไป๋ชื่อห่าวอู๋ครับ”

            “ไป๋-ห่าว-อู๋ เรียกยากจริงๆ”  ปกป้องโคลงศีรษะไปมาแล้วเดินไปรอรับยาให้บอดี้การ์ดตัวโต

            ธีรยาถอนหายใจแล้วหันมาดูอาการของเจสัน เพราะตัวเตี้ยเป็นเหตุเลยต้องเขย่งปลายเท้าขึ้น “ระวังอย่าให้แผลโดนน้ำนะ”

            “ครับผม แค่นี้เล็กน้อยครับ” แผลหนักกว่านี้เขาก็เคยเจอมาแล้ว

            “รู้ว่าทนได้”  เธอถอนหายใจอีกรอบ “ตกลงเกิดเรื่องอะไรขึ้น”

            “เกิดการเข้าใจผิดกันครับ บอสโดนใส่ร้ายว่าไปพัวพันกับธุรกิจมืดพวกกลุ่มคอลเซนเตอร์ ผมเองกำลังตามสืบเรื่องนี้อยู่ บังเอิญคุณปกป้องก็ตามสืบเรื่องเดียวกัน แต่คิดว่าบอสเป็นคนอยู่เบื้องหลัง...”

            “ซับซ้อนจริงๆ แต่อีริคไม่เกี่ยวใช่ไหม”

            “ครับ” เจสันตอบรับหนักแน่น “การทำงานของบอสคือตรงไปตรงมา ยอมหักไม่ยอมงอ เด็ดขาดและรวดเร็ว บอสของเราจึงมักถูกนินทาลับหลังว่าเป็นมาเฟีย”

            “ก็บอสของเจสันเป็นมาเฟียจริงๆนั้นแหละ จอมบงการ เผด็จการ”

            เจสันหัวเราะเบาๆ “ขอบคุณที่เชื่อใจบอสครับ คุณธีรยาเป็นผู้หญิงคนแรกที่บอสให้อยู่ใกล้ชิดมากขนาดนี้”

            “พูดเหมือนอีริคไม่เคยมีแฟน” เธอเบ้ปาก “ช่างเถอะ แล้วทำไมถึงได้แผลที่ศีรษะล่ะ นายป้องทำเหรอ”

            “หูย! นี่เราแค่เดินไปรับยาให้ไม่กี่นาทีนี่ก็ยังนินทาเลยเหรอ”  ปกป้องได้ยินแล้วก็ยัดถุงยาใส่มืออีกฝ่าย

            “คุณปกป้องไม่ได้ทำจริงๆครับ” เจสันยืนยัน  “มันเป็นอุบัติเหตุ เกิดตอนชุลมุน ผมถูกอีกฝ่ายเล่นงานเอาครับ”

            “คงต้องเก่งมากสินะถึงทำให้เจสันเจ็บได้”

            เพราะรู้จักกันมาหลายเดือน เจสันไม่ได้มีหน้าที่คอยตามเธอต้อยๆ เขายังดูแลความปลอดภัยให้เธอด้วย

            “ก็...” เจสันปรายมองไปทางปกป้อง อีกฝ่ายเบือนหน้าหนี คงยอมรับไม่ได้ว่าที่เขาบาดเจ็บเพราะเอาตัวเข้าบังนายปกป้อง ช่างเถอะ ถือว่าเป็นเพื่อนของคุณธีรยาก็แล้วกัน  เขาจึงได้แต่จำใจยอมรับเสียเอง

“มันเป็นอุบัติเหตุครับ”

            “โอเค. เชื่อก็ได้”  ธีรยายักไหล่แล้วจ้องไปทางปกป้อง “ที่เรียกหมิวมาก็เพื่อให้รู้ว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นใช่ไหม”

            “เฮ้ย! ยัยหมิว!เธอมันหัวอ่อน เราก็แค่อยากให้หมิวรู้ว่าผู้ชายที่หมิวคบเป็นคนอันตรายมากแค่ไหน”

            “เรื่องนั้นเรารู้”  เธอพยักหน้ารับ ช่วงนี้โจวเจียอีมีเรื่องหนักหนามากพออยู่แล้ว เรื่องคุณกานดาเธอก็ต้องแวะไปเยี่ยมที่บ้านบ่อยๆ ค่อยๆ พูดให้คุณกานดายอมรับน้องชายของโจวเจียอี เธอไม่อยากให้เขาต้องแบกภาระไว้เพียงลำพัง ที่ทำได้ก็คือเป็นกำลังใจให้เขา

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status