Share

Chapter 35. ขอโทษ

            “ถ้าไม่มีอะไร เราต้องกลับไปทำงานต่อ” 

            “ยัยหมิว!”

            “จะเรียกทำไม”  เธอขึงตาใส่แล้วพูดอย่างเพิ่งนึกได้ “นายทำเจสันเจ็บ คราวนี้ดูแลเขาด้วย”

            “อ้าว ทำไมต้องเป็นเราล่ะ”

            “ได้ ถ้าอย่างนั้นหมิวไปดูแลเอง”

            “โอ๊ย! ถ้างั้นหมิวไม่ต้องไป เราไปเอง!”

            เจสันกลั้นยิ้มขำ จะบอกว่าไม่ต้องดูแลเขาก็ได้ ขนาดถูกยิงกระสุนทะลุท้อง เขายังนอนพักฟื้นคนเดียว แต่แค่คิดอยากแกล้งเพื่อนของคุณธีรยาจึงไม่ปฏิเสธข้อเสนอนี้

            “คุณธีรยาใกล้เลิกงานแล้ว ผมรอส่งคุณธีรยาก่อนดีกว่าครับ”

            “ไม่ต้อง วันนี้หมิวจะไปบ้านคุณแม่”

            “คุณแม่?”  ปกป้องถามอย่างงุนงง

            “หมายถึงแม่ของอีริคนะ” คราวนี้หญิงสาวหน้าแดงขึ้นมา

            “นี่ถึงขั้นไปเจอญาติผู้ใหญ่กันแล้วเหรอ”   ปกป้องทำหน้ายุ่งแต่ในใจแอบเจ็บอยู่ไม่น้อย ความหวังให้เธอเป็น ‘แฟน’ ของเขา

            “ก็...เกี่ยวอะไรกับนายด้วยเล่า เอาล่ะๆ หมิวไปทำงานต่อแล้ว เจสันกลับไปพักผ่อนเถอะ ประเดี๋ยวแผลจะอักเสบเอา”

            “ครับ ถ้าอย่างนั้นผมให้บอดี้การ์ดคนอื่นมาดูแลคุณธีรยานะครับ”

            “ตามใจ” เธอรู้ว่าปฏิเสธไปก็เท่านั้น พวกเขาทำตามหน้าที่ แต่ละคนมีหน้าที่ของตัวเอง เธอส่งยิ้มให้ปกป้องแล้วหมุนตัวเดินกลับไปที่ห้องแล็บ

            “นี่ต้องเรียกยัยหมิวว่าคุณธีรยาทุกคำเลยเหรอ” ปกป้องถามแล้วยื่นมือไปฉวยถุงยามาถือเอง

            “ครับ ผู้หญิงของเจ้านายเรียกชื่อเล่นไม่สะดวกปากครับ” 

            “วุ่นวายจริงๆ” ปกป้องเบ้ปาก “ไปรถผมแล้วกัน บ้านอยู่ทางไหนจะได้ไปส่งถูก”

            เจสันกลั้นยิ้มแล้วบอกตำแหน่งที่พักของตัวเอง  จะว่าไปเพื่อนของคุณธีรยาก็นิสัยไม่เลวเลยทีเดียว เขาหยิบสมาร์ทโฟนมาโทรเรียกบอดี้การ์ดคนอื่นมารับคุณธีรยาหลังเลิกงาน

            หญิงสาวขยับแว่นสายตาเล็กน้อย สองเท้าชะงักไปทันที่เห็นหมอก้องภพยืนรออยู่ไม่ไกลนัก เธอไม่แน่ใจว่าเขารอเธอหรือเปล่า แต่เมื่อเธอทำท่าจะเดินผ่านเลยไป เขาก็ส่งเสียงเรียกเธอไว้ก่อน

            “หมอหมิว”

            “คะ?”  ธีรยาหันกลับมา  แต่ยังคงรักษาระยะห่างไว้ไม่ใกล้ชิดเล่นหัวเช่นที่เคยเป็นมา สถานะของเธอกับเขาตอนนี้เป็นเพียงเพื่อนร่วมงานเท่านั้น

            ก้องภพเห็นการแสดงออกชัดเจนธีรยา เขาได้แต่ถอนหายก่อนคลี่ยิ้มเศร้าๆ ออกมา

            “เดี๋ยวนี้แค่ทักทายก็ทำไม่ได้เหรอ” 

            “ก็...”  เธอไม่รู้ว่าควรตอบเขายังไง ตั้งแต่เหตุการณ์วันนั้น ความรู้สึกที่เธอมีต่อเขามันเปลี่ยนไปหมดแล้ว

            “พี่ขอโทษ”

            “คะ?”

            “พี่ขอโทษ” เขาพูดจากใจจริง “พี่ทำเรื่องไม่ควรทำ พูดในสิ่งไม่ควรพูด หมิวไม่ได้ผิดอะไรเลย พี่เองที่ผิดทุกอย่าง”

            หญิงสาวกัดริมฝีปาก เธอไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไรในเวลานี้ ใจเธอยังไม่สามารถให้อภัยเขาได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์

            “พี่เข้าใจ ไม่ต้องยกโทษให้พี่ตอนนี้หรอก แค่ให้รู้ว่าพี่เสียใจและจะไม่เกิดเรื่องนั้นอีก” เขายิ้มแล้วสาวเท้าเข้าไปใกล้ ยกมือวางบนศีรษะของเธอเหมือนที่เคยทำมาหลายปี “หมิวโตแล้วจริงๆ และพี่ก็ควรเป็นพี่ชายที่ดูแลน้องสาวให้ดี ควรยินดีที่น้องสาวมีคนรักและเป็นคนที่ดีด้วย”

            “พี่หมอก้อง”  เธอพูดได้แค่นั้นเหมือนน้ำตาจะไหลออกมา ความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวลที่เคยมีมันสลายกลายเป็นน้ำตาไปหมดแล้ว

            “ดูแลตัวเองดีๆนะ พี่ไม่สามารถดูแลหมิวได้แล้วเพราะพี่มีคนที่ต้องดูแลแล้ว”

            “ขอบคุณค่ะ”

            ธีรยายิ้มออกมา อย่างน้อยเธอก็มองหน้าเขาได้ไม่ต้องรู้สึกแย่ที่ต้องเจอกันอีก

            “ไปทำงานไป!” 

ก้องภพผลักเธอเบาๆ หญิงสาวหัวเราะน้อยๆ แล้วเดินกลับไปที่ห้องแล็บที่ตนทำงานอยู่  ชายหนุ่มยิ้มเหงาๆ แล้วหมุนตัวเดินไปที่แผนกของตน

ต่างคนต่างมีทางเดินของตัวเอง

            ทว่าภาพที่เขมิกาเห็นนั้นมันบาดใจเหลือเกิน  เขาแต่งงานกับเธอแล้วยังหยอกล้อผู้หญิงคนอื่นอีก ซ้ำยังเป็นผู้หญิงที่เธอเกลียดขี้หน้าด้วย

            เสี้ยนหนามหัวใจมันเป็นแบบนี้เองสินะ.

            ...        

            หญิงสาวขยับแว่นตาด้วยความเคยชินขณะกวาดสายตามองหาคนที่นัดหมาย ไม่กี่วินาทีธีรยาก็พบเขมิกานั่งจิบกาแฟรออยู่ที่มุมหนึ่งของร้าน  เธอคลี่ยิ้มน้อยๆ แม้ประหลาดใจกับการนัดหมายพบเจอครั้งนี้อยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีเหตุผลให้ต้องปฏิเสธที่จะพบเจอ

            “พี่เข็ม รอนานไหมคะ”

            “ไม่ค่ะ กาแฟเพิ่งมาเสิร์ฟ น้องหมิวอยากกินอะไรสั่งได้เลยนะคะ มื้อนี้พี่เลี้ยงเอง เค้กร้านนี้อร่อยทุกเมนูเลยค่ะ”

            เมื่อเห็นอีกฝ่ายแสดงความเป็นกันเอง สาวแว่นก็เบาใจลง เธอสั่งลาเต้เย็นกับเค้กน่ากินอีกหนึ่งชิ้นแล้วหันมาส่งยิ้มให้เข็มมิกา

            “พี่เข็มเป็นยังไงบ้างคะ วางแผนไปฮันนีมูนที่ไหน”

ทีแรกเธอยังคิดว่าก้องภพแต่งงานแล้วก็คงจะลาหยุดไปฮันนีมูน แต่เขายังกลับมาทำงานปกติไม่เหมือนคนเพิ่งแต่งงาน จะว่าไปเธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคู่อื่นเป็นยังไงและเธอเองก็ไม่เคยแต่งงานด้วย

            “ก็วางแผนกันอยู่ค่ะ พี่อยากไปต่างประเทศ แต่พี่ก้องต้องลางานล่วงหน้าแถมหยุดยาวเป็นสัปดาห์ ก็เลยยังหาวันหยุดลงตัวไม่ได้เสียที”

เขมิกายิ้มแล้วจิบกาแฟร้อน ไม่นานเครื่องดื่มและเค้กของธีรยาก็ถูกยกมาเสิร์ฟ เมื่อก่อนจะกินจะดื่มอะไรแต่ละอย่าง ธีรยาจะคิดแล้วคิดอีกเพราะติดนิสัยเสียดายเงิน แต่ตอนนี้เธอสามารถกินดื่มได้ตามใจ ไม่ใช่เพราะมีคนรักเป็นมหาเศรษฐี แต่เพราะเธอมีรายได้เพิ่มจากการไปทำงานที่แล็บเอกชน

“ดีจัง กินไม่กลัวอ้วนเลย”

“กินแค่นี้ไม่อ้วนหรอกค่ะ”   ธีรยาหัวเราะเสียงใส “พี่เข็มมีเรื่องอะไรให้หมิวช่วยหรือเปล่าคะ”

หมอแล็บถามเข้าประเด็น  เธอรู้ว่าไม่มีทางที่จู่ๆ เขมิกาจะนัดเธอมานั่งจิบกาแฟพูดคุยหยอกล้อแน่ๆ  แต่เธอก็บริสุทธิ์ใจเรื่องของเธอกับก้องภพเป็นเรื่องที่จบไปตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มต้น

“น้องหมิวพูดตรงแบบนี้ พี่ก็จะไม่อ้อมค้อมนะคะ” 

เขมิกาวางแก้วกาแฟแล้วยิ้มบางๆ

“พี่อยากให้น้องหมิวช่วยรักษาระยะห่างกับพี่ก้องด้วยค่ะ”

“คะ?”  ธีรยาทำหน้างุนงง “พี่เข็มพูดว่าอะไรนะคะ”

เสียงถอนหายใจดังขึ้นก่อนจะพูดซ้ำออกมา

“พี่ไม่อยากเห็นน้องหมิวสนิทกับพี่ก้องค่ะ ก่อนหน้านี้พี่ก้องยังไม่แต่งงาน น้องหมิวจะทำยังไงก็ได้ แต่ตอนนี้พี่ก้องแต่งงานแล้ว น้องหมิวก็ควรวางตัวให้ถูกไม่ใช่ใกล้ชิดกันเกินไป คนอื่นจะมองว่ามีเรื่องชู้สาวในที่ทำงานได้นะคะ”

“แต่หมิวกับพี่หมอก้องเป็นแค่รุ่นพี่รุ่นน้องและเพื่อนร่วมงานกัน ไม่มีเรื่องเกินเลยจริงๆ ค่ะ”

“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น้องหมิวกับพี่หมอก้องรู้กันแค่สองคน แต่สิ่งที่ทำมันทำให้คนอื่นคิดค่ะ แล้วช่วยคิดถึงความรู้สึกพี่ด้วยว่าจะรู้สึกยังไง”

“หมิว...หมิวขอโทษค่ะ หมิวจะระวังไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก”

แม้ในใจอยากเถียงว่าไม่ใช่ความผิดของเธอ แต่คนอย่างธีรยาเคยอ้าปากเถียงใครเป็นด้วยเหรอ แต่ไหนแต่ไรเวลามีเรื่องอะไร เธอก็มักใช้วิธีปิดปากให้สนิทแล้วหลบไปนั่งเช็ดน้ำตาคนเดียว 

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status