Share

Chapter 2. เร่าร้อน

         โจวเจียอีหรือที่รู้จักกันอีกชื่อคืออีริค ชายหนุ่มลูกครึ่งจีน-ไทย  มารดาของเขาเป็นคนไทย หลังจากบิดาเสียชีวิตเขาคือผู้รับช่วงต่อกิจการทั้งหมด ส่วนมารดาที่ไม่มีญาติหรือเพื่อนสนิทที่จีนอยากกลับมาใช้ชีวิตที่เมืองไทย เขาก็ตามใจผู้เป็นแม่ จัดหาบ้านช่องห้องหับที่ปลอดภัยเพราะตัวเขาไม่ได้มาอยู่ที่นี่ด้วย แต่เทียวไปเทียวมาเพราะเรื่องธุรกิจและเป็นห่วงมารดา เช่นวันนี้เขามาเซ็นสัญญาทางธุรกิจและมีเลี้ยงต้อนรับ ตัวเขาไม่ชอบงานเลี้ยงนักแต่ก็ต้องอยู่จนจบงาน

ชายหนุ่มปลีกตัวออกมาและเดินลงมาว่าจะหาอะไรดื่มสักเล็กน้อยค่อยกลับขึ้นห้องไปนอนพัก และเตรียมตัวเดินทางกลับ แต่บังเอิญพบหญิงสาวคนหนึ่งเขา รู้สึกถูกชะตาตั้งแต่เธอเงยหน้าขึ้นสบตากับเขา อยู่มาจนอายุสามสิบปีเพิ่งเคยรู้สึกแบบนี้กับผู้หญิงเป็นครั้งแรก เห็นเพียงแวบเดียวก็รู้สึกอยากครอบครองขึ้นมาทันที เขาเห็นเธอต้องการหลบผู้ชายที่เดินตามมาอยู่จึงฉวยโอกาสพามาที่ห้องของเขา

           ชายหนุ่มโบกมือไล่บอดี้การ์ดที่ยืนเฝ้าอยู่ให้ถอยห่าง คนตัวเล็กซุกซบในอกกว้างเดินแทบไม่ไหว เมื่อเข้ามาในห้องแล้ว เธอก็เตะรองเท้าออกจากปลายเท้าแล้วเดินไปที่ริมระเบียงของห้องสวีทสุดหรูที่เขาพักอยู่

           “สวยจัง” เธอพูดเสียงอ้อแอ้ “ห้องฉันอยู่ชั้นล่าง มองเห็นวิวทะเลนะ แต่ไม่สวยเท่านี้”

           “นี่ห้องสวีทก็ต้องสวยกว่าอยู่แล้ว” เขาพูดพลางถอดเสื้อนอกออกตามด้วยเนคไท “ผมมีไวน์แดงปี1980อยู่ คุณดื่มได้ไหม หรืออยากดื่มอย่างอื่นผมจะสั่งให้”

           “เอาสิ ฉันไม่เคยลอง”

            เธอตอบแล้วหันมายิ้มจนดวงตาเป็นประกายก่อนจะเดินตัวเซมาทางเขา ชายหนุ่มส่ายหน้าแล้วจูงมือเธอมานั่งที่เก้าอี้ริมระเบียงแล้วเดินกลับไปรินไวน์สองแก้วของตัวเขาและคนแปลกหน้าของคืนนี้   มือเรียวเล็กยื่นไปรับแล้วประคองด้วยสองมือราวกับมันเป็นแก้วกาแฟ เธอจ้องมองอยู่ครู่หนึ่งก่อนเงยหน้าขึ้นเห็นเขายกแก้วไวน์ขึ้นดื่มด้วยท่าทีผ่อนคลาย เธอจึงยกแก้วขึ้นดื่มบ้าง

            “อ่า...รู้สึกฝาดๆ ลิ้นจัง”

            “ดื่มแบบนั้นจะไปรู้รสอะไร” เขาหัวเราะอารมณ์ดี ทั้งที่วันนี้เคร่งเครียดมาทั้งวัน เขาเติมไวน์ให้เธอและของตัวเองก่อนพูดต่อ 

            “หมุนวนแก้วไวน์ เพื่อให้ไวน์ขยายวงกว้างขึ้น ทำแบบนี้จะเพิ่มการสัมผัสกับอากาศของไวน์   ทำให้กลิ่นของไวน์เข้มข้นขึ้น ต้องหมุนไวน์โดยจับแก้วที่ฐานหรือก้าน”

เขาพูดพลางสาธิตให้เธอดู

“ดมไวน์ในขณะที่คุณหมุนวน เพื่อให้ได้กลิ่นหอม กลิ่นทั่วไปของไวน์ จะมีกลิ่นของผลไม้ เครื่องเทศ สมุนไพร และดอกไม้ต่างๆ    ไวน์จะดีที่สุดเมื่อจิบและลิ้มรส เมื่อเทียบกับการกลืนลงไป จิบไวน์ขนาดเล็กถึงปานกลาง และอมไว้ตรงกลางลิ้นก่อนกลืน วิธีนี้จะช่วยให้คุณได้ลิ้มลองรสชาติที่ซับซ้อนของไวน์...”

            “ยากจัง” เธอเบ้ปากก่อนยกดื่มรวดเดียวหมด “อ๊า! ไม่อร่อย”

            โจวเจียอีมองหญิงแลบลิ้นสีชมพูออกมา ท่าทางเหมือนแมวน้อยทำให้เขาหลุดหัวเราะอย่างไม่เคยทำมาก่อน  เสียงทุ่มต่ำของเขาทำให้เธอกำหมัดชกไปที่แผ่นอกอีกฝ่าย แต่เพราะมึนเมาอยู่จึงไม่แรงนัก  

ชายหนุ่มคว้าข้อมือเธอแล้วออกแรงเพียงเล็กน้อยก็ดึงเธอมานั่งบนตักได้อย่างง่ายดาย และก่อนที่หญิงสาวจะรู้ตัว เขาก็จัดการถอดแว่นตาของเธอออก  ฝ่ามือใหญ่ลูบแก้มเนียนเบาๆ แต่ธีรยาเห็นแววตาคู่นั้นเหมือนมีลูกไฟอยู่จึงผงะถอยหนี ทว่าเขาใช้มือเพียงข้างเดียวประคองท้ายทอยเธอไว้และใช้มืออีกข้างยกแก้วไวน์ที่เหลือดื่มแล้วประกบริมฝีปากที่เผยอขึ้นอยู่ก่อน

ไวน์แดงไหลเข้าปากของธีรยา ดวงตากลมเบิกกว้างราวกับต้องมนตร์จากดวงตาสีน้ำตาล ลิ้นของเขาเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นของเธอ มอบรสหวามที่เธอไม่เคยสัมผัส การจูบตอบแบบเงอะงะทำเอาชายหนุ่มเลิกคิ้วเล็กน้อย เขาผละจากริมฝีปากอิ่มสวยแล้วเอ่ยถาม

            “จูบแรก?”

            เหมือนจะสางเมาในทันที เธอไม่รู้จะตอบยังไงจึงได้แต่กัดริมฝีปากรู้สึกหน้าร้อนขึ้นมา ก็ชีวิตเธอมีแค่เรียนกับเรียน เรียนจบก็ทำงานและทำงาน คนที่แอบชอบก็เป็นแค่คนที่แอบชอบไม่เคยได้ใกล้ชิด อย่างมากก็แค่จับมือโอบไหล่แต่ก็เป็นแบบพี่น้อง  แต่นี่...ผู้ชายที่เจอกันไม่กี่นาที...

            เขายื่นนิ้วโป้งมาแตะริมฝีปากอิ่มสวย

            “อย่ากัด”

            “คะ?”

            คราวนี้เขายื่นหน้ามาใกล้ สบตากับดวงตาเหมือนกระต่ายของเธอก่อนกดริมฝีปากจูบเธออีกครั้ง แรงขบเม้มเบาๆ เรียกร้องให้เธอเปิดกลีบปากให้เขาแทรกเรียวลิ้นเข้าไปกวาดชิมความหวานในโพรงปากสาว ลมหายใจอุ่นร้อนเจือกลิ่นไวน์และ...เอ่อ...บุหรี่สินะ ร่างอ่อนนุ่มอ่อนระทวยไปกับสัมผัสที่เขามอบให้

            โจวเจียอีจำไม่ได้แล้วจูบผู้หญิงครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่กัน เขาไม่ขาดแคลนผู้หญิงบำเรอใคร่  แต่เขาไม่จูบกับผู้หญิงเหล่านั้น เขาอายุสามสิบแล้วแต่ยังไม่ได้แต่งงาน  ผู้หญิงที่คบหาก็เพราะเรื่องของธุรกิจเรียกว่าคนรักคงไม่ได้ เพราะเขาไม่เคยรู้สึกแบบนั้นกับใคร แต่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกต้องการผู้หญิงอย่างที่ไม่อาจควบคุมตัวเองได้ เป็นความปรารถนาอย่างรุนแรง

            กระโปรงร่นขึ้นมาเล็กน้อยเผยให้เห็นเรียวขาสวย ฝ่ามือเลื่อนไปลูบต้นขาขาวเนียนปลุกเร้าให้อีกฝ่ายตอบรับความต้องการเช่นเดียวกันเขา ร่างอ่อนนุ่มเอนตัวเข้าหาสองมือเปะปะไปบนแผ่นอกกำยำ เพียงปลายนิ้วแตะจุดอ่อนไหวแม้สัมผัสผ่านกางเกงชั้นในก็ทำให้เธอหลุดเสียงครางแม้ริมฝีปากจะถูกจูบดูดดื่มอยู่ก็ตาม นิ้วกร้านสัมผัสรอยเปียกชื้น เขาถอนริมฝีปากแล้วยิ้มร้ายที่มุมปาก

            “คุณเปียกแล้วนี่”

            จูบของเขาปล้นสติของเธอไปหมดสิ้น สมองมึนงงอยู่จนกระทั่งเขาช้อนตัวอุ้มร่างบอบบางมาวางบนเตียงแล้วจึงเพิ่งรู้สึกตัว  ดวงตากลมจ้องมองร่างสูงโปร่งที่กำลังปลดกระดุมเสื้อเชิ้ต สายตาของเขาจ้องมองลิ้นน้อยๆที่แลบออกมาเลียริมฝีปากของตน  เขาถอดเสื้อโยนลงพื้นตามด้วยปลดเข็มขัด คราวนี้เธอหลุบตาลงไม่กล้ามองอีก เสียงหัวเราะทุ่มต่ำในลำคอทำให้เธอลืมตาขึ้นอีกครั้ง เขาทาบตัวลงมากดทับร่างของเธอสองมือลูบไล้เรือนร่างปลุกเร้าเลือดในกายให้เดือดพล่าน ชุดเดรสถูกถอดไปอย่างง่ายดาย เสียงลมหายใจสูดลึกทำให้เธอไม่มั่นใจว่าเขาคิดอย่างไรอยู่ สองมือยกขึ้นปิดหน้าอกที่มีบราเซียลูกไม้สีแดงปกปิด ปกติเธอมีแต่เสื้อผ้าสีเรียบ แต่สำหรับชุดชั้นในนั้นอาจเป็นสิ่งฟุ่มเฟือยเดียวที่เธอให้อนุญาตให้ตัวเองทำได้   

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status