Share

Chapter 9. อย่ามาล้อเล่น

“คุณ...อย่ามาล้อเล่นกันแบบนี้”  ธีรยาจ้องตาเขาอย่างไม่เกรงกลัวอีกฝ่าย “ฉันไม่ใช่ของเล่นของคุณนะ”

            ดวงตาคมปลาบจ้องมองคนตัวเล็ก เขาพอใจกับท่าทีไม่สะทกสะท้านแม้ถูกสายตาของเขากดดันอยู่ มุมปากยกยิ้มขึ้นก่อนเอ่ย

            “ทำไมคิดว่าผมเล่นๆ กับคุณเล่า”

            “ก็...คนอย่างคุณ...”

            “คนอย่างผม?”  เขาชิงพูดแทรกขึ้นมาก่อน “คนอย่างผมไม่คู่ควรกับคุณหมอย่างคุณเหรอ”

            “มะ..ไม่ใช่แบบนั้น...เอ่อ...คือ..ฉันเป็นเด็กกำพร้าที่ไม่รู้ว่าพ่อแม่เป็นใครแต่คุณมีฐานะทางสังคมดีกว่าแล้วก็...”

เธออึกอักพลันหน้าเห่อร้อนขึ้นมา “เรื่องคืนนั้นมันก็แค่วันไนท์สแตนด์ เราไม่ควรเจอกันอีก”

            “แค่วันไนท์สแตนด์?” เขาหรี่ตาจ้องมองใบหน้าหวานที่แดงเรื่อ “ผมไม่คิดว่าเรื่องคืนนั้นเป็นแค่วันไนท์สแตนด์ และเป็นคุณต่างหากที่ทิ้งผม”

            “คะ? ฉันนะเหรอ”  นิ้วเรียวชี้ที่หน้าตัวเองอย่างงุนงง

            “ผมเขียนโน้ตวางไว้บนหมอน ให้คุณรอผม ผมมีนัดกับลูกค้าตอนสิบโมงเช้า แต่พอผมเสร็จธุระแล้วกลับเข้ามาเจอแค่ที่นอนยับยู่ยี่นี่นะ”

            “ก็...ฉันไม่เห็นโน้ตอะไรเลย แต่ถึงเห็น...ฉันก็คง...”   ใช่... เธอไม่คิดจะสานต่อความสัมพันธ์กับคนแปลกหน้าอยู่แล้ว  แล้วเธอก็จ้องหน้าเขากลับ “นี่คุณคงไม่ได้คิดแค้นฉันถึงขนาดยกลูกน้องมาตีกันในโรงพยาบาลหรอกนะ!”

            “เรื่องนั้นมันไม่ควรเกิดขึ้นและไม่ใช่ความตั้งใจของผม” เขาทำหน้านิ่งเคร่งขรึม “คนของผมทำผิด ผมต้องรับผิดชอบ แต่เรื่องของคุณ ผมไม่รู้ว่าวันนั้นคุณอยู่ที่นั้น”

            ปกติคนอย่างโจวเจียอีไม่นอนเตียงเดียวกับผู้หญิงแปลกหน้าโดยเฉพาะผู้หญิงที่มีเซ็กส์ชั่วคราว แต่คืนนั้นเขาละเมิดกฎตัวเอง จับคนตัวเล็กกินไปหลายรอบจนเธอหมดแรงหลับใหล  เขามีนัดกับลูกค้าในช่วงสิบโมงเช้า  จึงต้องปล่อยให้เธอนอนหลับอยู่อย่างนั้น และเป็นกังวลว่าเธอจะตกใจถ้าตื่นมาเห็นบอดี้การ์ดของเขาเข้าจึงไม่ได้สั่งให้ลูกน้องเฝ้าเธอไว้ และไม่ได้เปิดกระเป๋าดูบัตรประชาชนเธอด้วยซ้ำ ก็แน่ละ เขาไม่เคยเจอผู้หญิงหนีลงจากเตียงเขาอย่างนี้มาก่อน

            “ฉัน...”  หญิงสาวไม่รู้จะพูดยังไงให้เขาปล่อยเธอไป “ฉันไม่อนุญาตให้คุณจีบฉัน”

            “หือ?” คราวนี้โจวเจียอียิ้มออกมาแล้วโน้มหน้าลงใกล้ทำให้อีกฝ่ายถอยหลังหนี แต่เขาโอบรัดร่างเล็กไว้ได้ทันก่อนที่เจ้าตัวจะถอยออกไปนอกห้องลองชุด

            “ทำไมไม่ให้ผมจีบคุณล่ะ คุณเองก็โสดนี่”

            “คุณรู้ได้ไงว่าฉันโสด”

            “ถ้าไม่โสดคืนนั้นจะมาอยู่บนเตียงผมเหรอ และถ้าคุณมีแฟนคงไม่ต้องมาหาเช่าชุดคนเดียวแบบนี้และวันหยุดของคุณก็คงไม่ไปช่วยงานคุณน้าเพ็ญนภาหรอก และที่สำคัญคุณคงไม่ทำเหมือนคนอกหักขนาดนี้”

            “ฉัน...ฉัน...” 

อาการเธอมันเห็นได้ชัดขนาดนั้นเลยเหรอ?

            นิ้วกร้านเชยปลายคางหญิงสาวขึ้น “วิธีช่วยให้มูฟออนจากการอกหักที่ดีและรวดเร็วที่สุดคือผมไงล่ะ”

            “ทำไมต้องเป็นคุณด้วย”  เธอพึมพำอยากหลบตาแต่เพราะถูกเขาบังคับไว้จึงได้แต่จ้องมองดวงตาของเขาจนเห็นเงาตัวเองในดวงตาคู่นั้น

            “คุณมีตัวเลือกอื่นที่ดีกว่าและตื่นเต้นกว่าเหรอ” เขายิ้มกริ่ม “ผมไม่เคยเป็นตัวเลือกให้ใคร แต่ครั้งนี้จะยอมเป็นตัวเลือกให้คุณ อะไรที่คุณไม่เคยลองทำ ทำไมไม่ลองกับผม คุณอาจอยู่ในเซฟโซนจนไม่อยากให้ใครเข้าไปแตะต้องในพื้นที่ของคุณ แต่ถ้าคุณได้ลองคบกับผมรับรองได้ว่า  คุณมีเรื่องให้เซอร์ไพร์สแน่นอน”

            “ฉันไม่ชอบเรื่องเซอร์ไพร์ส”  เธอพูดแทบจะทันทีที่ได้ยินเขาพูดคำนี้ แน่นอนว่า ชีวิตเธอมีแบบแผนมาตลอด เธอไม่ชอบเรื่องนอกเหนือการคาดเดา

            “ก็นั้นแหละ ผมถึงได้ชวนคุณออกจากเซฟโซนมาเจอผม”

            “ปล่อยได้แล้วค่ะ”   เธอขยับตัวยุกยิกใช้สองมือดันแผ่น อกของเขา แต่อีกฝ่ายกลับรัดแน่นขึ้น “นี่คุณ ปล่อยฉันได้แล้ว ไม่งั้นฉันร้องให้คนช่วยจริงๆด้วย คุณได้เสียหน้าแน่”

            “คุณก็ตอบตกลงก่อน”

            “ตกลงอะไร?”

            “ตกลงคบกับผม”

            “ไม่คิดว่ามันเร็วไปหน่อยเหรอ”

            “ที่รัก เราข้ามขั้นกระโดดขึ้นเตียงกันไปแล้ว เราเข้ากันดีขนาดนั้น คุณจะอยากให้มันผ่านเลยไปเฉยๆ ได้เหรอ”

            “ฉันจะไปรู้ได้ไง เพิ่งเคยมีเซ็กส์ครั้งแรกกับคุณคนเดียว ยังไม่เคยลองกับคนอื่นต้องเปรียบเทียบดูก่อนว่า อุ๊บ!”

            ริมฝีปากสวยถูกปิดด้วยริมฝีปากของชายหนุ่ม เขาบดจูบอย่างเอาแต่ใจไม่สนใจว่าหญิงสาวในอ้อมอกจะดิ้นรนเพียงใด ยิ่งเธอขยับหนีเขายิ่งรัดเธอแน่นขึ้น จนเธอต้องยกมือขึ้นทุบแผ่นอกของเขาแรงๆ ทำให้เขายอมถอนจูบและจ้องมองริมฝีปากที่เปียกชื้นเพราะเขา

             “ผมไม่อนุญาต”  ดวงตาร้อนแรงจ้องมองพลางใช้นิ้วโป้งเช็ดริมฝีปากสวยเบาๆ “ผมไม่ให้คุณขึ้นเตียงกับใครเด็ดขาด ถ้าอยากลองท่าแปลกหรือจะเอาท์ดอร์ ผมจัดให้คุณเอง”

            “คุณ!”

            “ผมหิวแล้ว เราไปกินมื้อเที่ยงเถอะ” เขายิ้มกริ่ม “ใส่ชุดนี้แหละไม่ต้องเปลี่ยนแล้ว ที่เหลือก็เอาใส่ถุงไปทั้งหมด”

            “คุณ!”

            “อิริค”  เขาย้ำแล้วหมุนตัวหญิงสาวสำรวจดูว่ารูดซิปด้านหลังเรียบร้อยดีแล้ว “เผื่อคุณลืมชื่อผม”

            “คือ...”   จูบของเขาทำเอาเธอมึนงงไปหมด ยังไม่ทันตั้งสติได้เต็มร้อยก็ถูกเขาโอบไหล่ออกมาจากห้องลองเสื้อผ้า ได้ยินเขาพูดภาษาอังกฤษรัวใส่พนักงานแล้วพาเธอออกมานอกร้านทันที

            “เดี๋ยวก่อน...”  ธีรยาหันไปมองด้านหลังอย่างงุนงงพลันเห็นว่ามีชายในชุดสูทสีเข้มคล้ายยืนรอรับเสื้อผ้าของเธอแล้ว

            “ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวคนของผมจะหิ้วของมาให้เอง”  โจวเจียอีโอบไหล่หญิงสาวมาที่ร้านอาหารไม่ไกลนัก “อาหารญี่ปุ่นนะ”

            “ถ้าฉันบอกว่าไม่ล่ะ”

            “ผมอยากกินอาหารญี่ปุ่น” เขาหันมามองแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ “คุณทำผมหิว ถ้าไม่ได้กินอะไรตอนนี้ผมต้องลากคุณไปจับกินลงท้องแน่ๆ”

            ‘นี่มันเหตุผลอะไร’

            ธีรยาไม่ทันได้ปฏิเสธ ผู้ชายคนนี้ก็พาเธอเข้าในร้านอาหารญี่ปุ่นที่ตบแต่งเรียบง่ายหรูหรา พนักงานเดินนำไปที่ห้องส่วนตัว 

            “คุณแพ้อาหารอะไรบ้างไหม”

            “ไม่ค่ะ ฉันกินได้ทุกอย่าง”

            เขาเลิกคิ้วเล็กน้อยแล้วสั่งอาหารกับพนักงาน “ขออนุญาตสั่งให้เลยนะครับ”

            จู่ๆ ก็ทำสุภาพขึ้นมา หญิงสาวแทบตามไม่ทัน เอาเถอะ เขาเป็นเจ้ามือนี่ อยากกินอะไรก็ตามใจเลย

            “เอ่อ...ปกติคุณมีบอดี้การ์ดติดตามแบบนี้เสมอเหรอ”  เธอถามอย่างเพิ่งนึกได้ ครู่หนึ่งพนักงานก็นำชาร้อนมาเสิร์ฟ เขารอจนไม่มีใครแล้วจึงพูดขึ้น

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status