Share

Chapter 20.  ผมสัญญา

“ผมสัญญา ผมไม่ทำอย่างนั้นแน่นอน”

“อย่าเพิ่งสัญญาอะไรแบบนั้นเลย เราเพิ่งเริ่มต้นกันเอง”

“แค่คุณให้โอกาสเริ่มต้น ผมก็ดีใจแล้ว” 

“ถ้างั้น...เรามาลองคบกันอย่างเป็นทางการดีไหมคะ” 

“ด้วยความยินดีและเต็มใจยิ่งครับ เติมไวน์อีกไหม?”

“คุณจะมอมไวน์หมิวเหรอคะ” 

“ดื่มฉลองกับผมหน่อย ผมจีบหอยทากน้อยติดเสียที”

“อิริค! หมิวไม่ใช่หอยทากน้อยนะ”

เสียงหวานใสหัวเราะออกมาทำลายบรรยากาศ ห้องที่อึมครึมเหมือนเจ้าของห้องพลันเปลี่ยนไปทันทีที่มีหญิงสาวเข้ามาในห้อง

บางที...

ไม่ใช่เพียงแค่เธอเท่านั้นที่ทำลายเปลือกที่ห่อหุ้มตัวเองออก แต่เป็นเขาเช่นกันที่เปิดใจ ‘รัก’ ใครคนหนึ่งจากหัวใจที่แท้จริง

..........

            หญิงสาวก้าวเร็วๆ จนแทบจะกลายเป็นวิ่งมาที่แผนกอุบัติเหตุและฉุกเฉิน เพียงผลักบานประตูเข้าไปก็กวาดสายตามองหาคนที่ต้องการพบ กำลังอ้าปากจะถามพยาบาลแต่ก็มองเห็นเงาร่างที่คุ้นตาเสียก่อนจึงรีบเดินเข้าไปหา

            ก้องภพรับรู้ได้ว่ามีคนเข้ามาใกล้แต่ประสบการณ์ทำให้มีสมาธิจัดการกับแผลตรงหน้าจนเสร็จเรียบร้อย

            “เป็นยังไงบ้างคะ” ธีรยาเอ่ยปากถามอย่างเป็นกังวล

            “ไม่เป็นไรไกลหัวใจตั้งเยอะ”

            “เลือดเปื้อนเสื้อขนาดนี้ไม่เป็นอะไรจริงๆเหรอ”   หญิงสาวไม่อยากเชื่อนักเพราะเพื่อนคนนี้มักชอบพูดว่า ‘ไม่เป็นไร’ มาตั้งแต่เด็ก

            “เอ็กซ์เรย์แล้วไม่มีอะไรกระทบกระเทือน แผลที่หัวก็เย็บไปแค่สิบเข็ม ส่วนเสื้อเปื้อนเลือดนี้น่าจะเลือดคนอื่น”  ก้องภพเอ่ยเสียงเรียบแล้วหันไปคุยกับพยาบาล 

            “ก็ไหนว่าเป็นตำรวจไซเบอร์ ทำไมถึงโชกเลือดแบบนี้ หรือว่าไปมีเรื่องกับคนอื่นมา”

            “โอ๊ย!ยัยขาสั้น คิดในแง่ดีหน่อยสิ”

ปกป้องแยกเขียวใส่หญิงสาว แต่เพราะปากแตกจึงทำให้หน้าตาดูบิดเบี้ยวมากกว่าเดิม ก้องภพรู้จักปกป้องดีเหมือนที่ปกป้องรู้จักก้องภพ เพียงแต่ไม่ได้สนิทสนมเหมือนธีรยา  คุณหมอในห้องแล็บถอนหายใจแล้วดันแว่นตาชิดใบหน้าด้วยความเคยชิน

“เห็นนายเช็กอินห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล หมิวตกใจแทบแย่”  แม้อยากรู้แต่ไม่กล้าถามมากนัก เพราะเกรงว่าจะกระทบเรื่องงานของปกป้อง

“มีเวลาเช็กอินได้ก็ไม่เป็นอะไรมากหรอก”  ก้องภพถอดถุงมือยางออกแล้วโยนทิ้งใส่ถังขยะ “ฉีดยาบาดทะยักครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ อืม ผมว่าคุณฉีดกระตุ้นอีกก็ดีนะ”

“ไม่ต้องก็ได้มั้งครับ ปีที่แล้วผมก็ฉีดไปแล้ว” ปกป้องพูดแล้วกับหมอก้องภพแต่สายตาอยู่ที่ธีรยา “ปีที่แล้วไปโดนหมากัด โดนฉีดทั้งบาดทะยักและพิษสุนัขบ้า”

“นายนี่มัน...” ธีรยาส่ายหน้าไปมา “ตอนเด็กเป็นยังไง โตมาก็ยังนิสัยเดิม ทะเลาะกับหมาแมวก็เคยทำ”

“ใช่ที่ไหนเล่า นั้นมันเรื่องจำเป็นต่างหาก ต้องไปช่วยหมาที่ติดในบ้านที่เจ้าของทิ้งไปต่างหาก แต่มันคงตกใจเลยงับเข้าให้”

“ยังไงก็โดนหมากัดอยู่ดีนั้นแหละ”  ถึงปากจะบ่นแต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ จากบาดแผลไม่น่าเป็นห่วงนักแต่หลังจากนี้ต้องระบมและอาจมีการอักเสบแน่นอน “พี่หมอก้องคะ พี่จ่ายยา...”

“พี่เป็นหมอเจ้าของเคสรู้ว่าต้องทำยังไง”

ก้องภพพูดเสียงเรียบแล้วหันไปพิมพ์ข้อมูลที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ แม้กระทั่งพยาบาลยังแปลกใจ เพราะปกติหมอก้องภพคือหมอที่สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ

ธีรยาหน้าเจือนไป เธอได้แต่ขยับแว่นตาอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี ตั้งแต่วันนั้นก็ดูเหมือน  เอ่อ... ไม่สิ พี่หมอก้องทำตัวเย็นชาและห่างเหิน เธอไม่รู้และไม่เข้าใจว่าเพราะเรื่องใดที่ทำให้เขาเป็นอย่างนี้ แค่เธอไปทำงานที่แล็บเอกชนไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้นี่นะ หรือเพราะใกล้จะแต่งงานแล้ว  เมื่อคิดถึงจุดนี้ก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกผิดและยิ่งต้องรักษาระยะห่างให้มากขึ้น   หากไม่เพราะวันนี้เห็นปกป้องเช็กอินที่โรงพยาบาล  เธอคงไม่กล้าก้าวเข้ามาในห้องนี้

ปกป้องไม่ได้สนิทกับหมอก้องภพแต่ก็รู้จักผ่านธีรยา แม้ไม่สนิทแต่ก็มองออกว่าอีกฝ่ายสีหน้าไม่พอใจนัก แต่เขาก็ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องใด แต่ที่แน่ๆ มันทำให้เขาสามารถใช้ความเป็นเพื่อนแทรกที่ในหัวใจของธีรยาได้

“ขอโทษค่ะ”   ในที่สุดหญิงสาวก็พูดออกมาได้ เธอไม่กล้ามองหน้าพี่หมอก้องคนดีจึงหันมายิ้มบางๆ ให้ปกป้อง “หมิวไปรอข้างนอกนะ จริงสิ นายอยู่คนเดียวดูแลตัวเองลำบากไหม ให้หมิวช่วยอะไรหรือเปล่า”

เธอพูดอย่างเพิ่งนึกได้ ปกป้องเพิ่งย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ แล้วครั้งล่าสุดเพื่อนซี้ก็บอกยังไม่มีแฟน แผลวันนี้อาจยังไม่เจ็บเท่าไหร่ แต่หลังจากนี้อาจจะอักเสบมีไข้ได้

“อ้อ! ...”

“ว่าแต่คนอื่น ตัวเองก็ไม่ใช่เด็กเหมือนกัน เป็นผู้หญิงจะไปอยู่ในห้องผู้ชายสองต่อสองได้ยังไง”

ก้องภพพูดแทรกขึ้นมาทันที ยังไงเขาก็รู้นิสัยของธีรยาดีที่สุด เธอเป็นห่วงคนอื่นเสมอจนหลายครั้งก็ลืมไปว่าตัวเองจะถูกมองยังไง

“แต่เพื่อนก็ต้องดูแลเพื่อนสิคะ”

“ผู้ชายผู้หญิงเป็นเพื่อนกันได้ด้วยเหรอ”

“พี่หมอก้อง...”

            “เอ่อ...คือ...”

            “มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ”

            เสียงของเขมิกาทำให้ทุกคนได้สติ ทุกสายตาหันไปจับจ้องยังหญิงสาวที่เข้ามาใหม่  แม้รู้ดีว่าห้องฉุกเฉินจะเข้าได้เฉพาะบุคลกรทางการแพทย์แต่เวลานี้เหมือนทุกคนจะรู้ว่าต้องการกรรมการห้ามศึก จึงยอมให้เขมิกาเข้ามาโดยง่าย

            “เข็มมาทำไม”   ก้องภพพยายามปรับน้ำเสียงตัวเองให้อ่อนลง “ผมกำลังออกเวรพอดี”

            “ก็คิดว่าน่าจะมีคนลืมว่าตัวเองต้องไปเตรียมตัวเป็นเจ้าบ่าวนะสิคะ”  เขมิกายิ้มกว้างแต่รอยยิ้มนั้นไม่ได้ไปถึงดวงตา “เข็มต้องเตือนไหมคะว่าวันเสาร์นี้แล้ว คุณลางานไว้แล้วนี่คะ เข็มเลยมารับเพราะคิดว่าคุณน่าจะยุ่งจนลืม”

            “เอ่อ ... ผมลืมจริงๆ”  ก้องภพสารภาพไปตามตรง เขาเผลอจ้องมองธีรยา ไม่ว่าอย่างไรสถานะของเขากับผู้หญิงคนนั้นก็เป็นเพียงแค่รุ่นพี่กับรุ่นน้อง พี่ชายกับน้องสาวเท่านั้น

            แต่ทำไมเขารู้สึกว้าวุ้นใจถึงเพียงนี้

            “พี่หมอก้องจะแต่งงานแล้วเหรอครับ ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ” 

ปกป้องแสร้งทำเป็นไม่รู้ทั้งที่เคยได้ยินจากปากธีรยามาก่อน

            “ขอบคุณค่ะ” เขมิกายิ้มรับ “เพื่อนของหมอหมิวเหรอคะ ยังไงก็ขอเชิญร่วมงานด้วยนะคะ งานเล็กๆค่ะ”

            “ขอบคุณครับ” ปกป้องฉีกยิ้มแม้จะปากเจ็บอยู่ก็ตาม แล้วหันมาทางธีรยา “เราไปรับนะ”

            “หมอหมิวมีคนไปด้วยแล้วละมั้ง”  ก้องภพพูดแล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้ เขายื่นชาร์ตคนเจ็บส่งให้พยาบาลรับช่วงต่อ “ฝากเชิญแฟนหมอหมิวด้วยแล้วกันนะ”

            “แฟน?” ปกป้องทำหน้าตาแตกตื่น “หมิวมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่ ใครเป็นแฟนหมิว”

            “ก็...”  

            “น่าจะเคยเห็นนะ ที่เป็นข่าวเดือนที่แล้ว มีเหตุวิวาทที่ห้องฉุกเฉินที่นี่ คลิปล้านวิวเลยทีเดียว”

            “หมิว! มีเรื่องอะไรกันแน่”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status