Share

Chapter 24.  งานแต่งงาน

“พูดจริงๆนะ หมิวไม่คิดเรื่องตามหาพ่อแม่ที่แท้จริงหรอก หากพวกเขาอยากเจอหมิวคงมาตามหาหมิวตั้งนานแล้วละ  พวกเขาคงมีครอบครัวใหม่กันไปแล้ว อย่าให้การมีตัวตนของหมิวทำให้พวกเขาเดือนร้อนใจหรือไม่มีความสุขดีกว่า”  เธอส่งยิ้มให้เขา

“จริงๆ นะคะ”

            “ครับ” เขาบีบมือเธอ “คุณมีผมอยู่นะ  ไม่ได้ตัวคนเดียว ครอบครัวผมก็คือครอบครัวของคุณ”

            “ขอบคุณค่ะ”

            หญิงสาวเข้าไปรดน้ำสังข์และอวยพรให้คู่บ่าวสาว วันนี้เขมิกาสวยเจิดจ้าสมเป็นเจ้าสาวจริงๆ เห็นแบบนี้ก็แล้วเธอพลอยสบายใจไปด้วย เรื่องบาดหมางเข้าใจผิดคงคลี่คลายในไม่ช้า

            เขมิกายิ้มรับคำอวยพรพลางปรายตามองเจ้าบ่าวที่นั่งอยู่เคียงข้าง แม้เขายิ้มแต่แววตาตรงข้าม แต่ช่างเถอะ เพราะตอนนี้เขาคือสามีของเธอแล้ว เขาคงไม่กล้าทำร้ายจิตใจเธอและคนในครอบครัวแน่นอน

            พิธีเช้าดำเนินไปจนเสร็จสิ้นด้วยดี แขกเรื่อเข้ามาถ่ายรูปกับคู่บ่าวสาว ธีรยาคว้ามือโจวเจียอีให้เข้าไปถ่ายรูปด้วยกัน

            “ขอแสดงความยินดีด้วยครับ”  โจวเจียอีกเอ่ยอย่างสุภาพและไม่สนใจสายตาของก้องภพ เขาจับมือผู้หญิงคนตนเองแน่นราวกับตอกย้ำให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขาไม่มีวันปล่อยมือคู่นี้เด็ดขาด

            “ขอบคุณค่ะ”  เขมิกาเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้น “คราวหน้าก็งานหมิวแล้วนะ”

            “พี่เข็มก็!”  หญิงสาวหน้าแดง “ถ่ายรูปค่ะถ่ายรูปกัน ช่างภาพค่ะ ฝากช่วยถ่ายให้ด้วยค่ะ”  เธอยื่นโทรศัพท์มือถือของตนให้ช่างภาพช่วยถ่ายรูปให้ด้วย

            “ยิ้มหน่อยครับ” ช่างภาพร้องสั่ง “ขยับชิดๆกันหน่อยครับ”

            ธีรยายืนข้างเจ้าสาว ส่วนโจวเจียอีกยืนข้างเจ้าบ่าว ไม่กี่นาทีก็เสร็จเรียบร้อย

            “อยู่กินมื้อเที่ยงก่อนค่อยกลับนะ”   เจ้าสาวเอ่ยบอก แต่ธีรยาส่ายหน้าไปมา

            “อีริคเพิ่งกลับมาถึงไทยเช้ามืดนี่เองคะ มาถึงก็ตรงดิ่งมางานแต่งงานเลย อยากให้เขากลับไปพักผ่อนเสียหน่อย พวกพี่คงไม่ว่าอะไรนะคะ”

            “ไม่เป็นไรหรอก แค่มาร่วมงานก็ดีใจมากแล้ว”  เขมิกาปรายตามองเจ้าบ่าวที่ยังหน้านิ่งไม่ไม่ปริปากพูดอะไรสักคำ

            ธีรยาเดินไปรับโทรศัพท์มือถือคืนจากช่างภาพ เธอนึกขึ้นได้ขอให้ช่างภาพช่วยถ่ายรูปคู่ระหว่างเธอกับโจวเจียอีอีกรูป

            “ไหนๆวันนี้ก็ลงทุนแต่งหน้าทำผมขนาดนี้แล้ว ขอเก็บไว้เป็นที่ระลึกนะคะ”  เธอยิ้มทะเล้นใส่เขา

            “ถ่ายรูปเยอะๆก็ได้ ผมชอบ”

ไม่หรอก... ปกติเขาแทบไม่เคยถ่ายรูปตัวเอง แต่ไม่รู้ทำไมเขาอยากมีรูปเธอกับเขาคู่กันในเมมโมรีบ้าง

            “ผมรับงานถ่ายรูปจะเป็นแบบออกทริปหรือถ่ายรูปครอบครัวด้วยนะครับ  อยากเก็บรูปเป็นที่ระลึกเรียกใช้บริการได้นะครับ”  ช่างภาพได้ทีรีบเสนอตัวพร้อมยื่นนามบัตรให้

            หญิงสาวยิ้มรับกลั้นหัวเราะ เธอไม่ใช่ดาราหรือเซเลบจะได้ต้องจ่ายช่างภาพมืออาชีพมาถ่ายรูป แต่ดูเหมือนโจวเจียอีอยากถ่ายรูปเพิ่มอีก เธอจึงหันไปทางเขมิกาส่งสายขอโทษและเกรงใจที่ใช้ช่างภาพของคู่บ่าวสาวมาถ่ายรูปส่วนตัว แต่เขมิกากลับพยักหน้าให้ช่างภาพช่วยถ่ายรูปให้ทั้งสอง

            “ชิดๆกันหน่อยครับว่าที่คู่บ่าวสาวคู่ต่อไป”  ช่างภาพพูดขึ้นเรียกเสียงหวีดหยอกล้อของเพื่อนร่วมงานที่อยู่บริเวณนั้น  ช่างภาพถ่ายรูปไปเพียงสองภาพ จู่ๆ ก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งเข้ามาแทรกกลางระหว่างคนสองคน

            “เอ้า! ขอถ่ายรูปหมูเอ๊ยรูปหมู่ด้วยสิ!”

            “นายป้อง!ทำไมเพิ่งมาเอาป่านนี้!”  ธีรยาไม่นึกโกรธที่จู่ๆ ปกป้องก็มาแทรกระหว่างเธอกับโจวเจียอี แต่โกรธที่เขาเพิ่งจะมาถึงงานแต่งงานของพี่หมอก้อง ทั้งที่เมื่อวานเธอก็ย้ำกับเขาแล้วว่าอย่ามาช้า

            “งานด่วนนะ”

 ปกป้องฉีกยิ้มทะเล้นแล้วหันไปมองโจวเจียอีที่ไม่พอใจนัก แต่ที่เขาไม่พอใจก็คือมือของปกป้องโอบไหล่ผู้หญิงของเขาอยู่ต่างหาก  แต่ปกป้องก็แสร้งทำเป็นไม่เห็นสายตาของโจวเจียอีซ้ำยังยักคิ้วให้อีกด้วย เขาคว้าข้อมือธีรยากึ่งลากกึ่งจูงไปถ่ายรูปกับบ่าวสาวเจ้าของงานแต่งวันนี้  ก้องภพยังทำหน้าตึงมีเพียงเขมิกาที่แย้มยิ้มราวกับไม่เห็นรอยไม่พอใจในแววตาของเจ้าบ่าว

“ถึงจะมาช้าแต่ก็ยังมาทันกินเลี้ยงเลี้ยงอยู่นะ”  ปกป้องพูดออกมาแล้วยักไหล่ เขารีบร้อนมาร่วมงานแม้แต่เนคไทก็ยังผูกไม่เรียบร้อย ธีรยาเห็นแล้วก็ส่ายหน้าไปมาแล้วยื่นมือไปช่วยจับปกเสื้อและขยับเนคไทให้เพื่อนสนิท

“หมิวกำลังจะกลับ”

“จะรีบไปไหนเล่า”  ปกป้องทำตาโต “เราหิว กินข้าวเป็นเพื่อนเราก่อนค่อยกลับ”

“นายป้อง! ยังจะพูดเรื่องกินอีก เสียมารยาทจริงๆ”

“พี่จัดโต๊ะไว้ให้แล้ว ยังไงอยู่กินสักนิดหนึ่งค่อยกลับก็ได้นะ” เขมิกาหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วกวักมือเรียกเด็กเสิร์ฟมาพาทั้งสามคนไปที่โต๊ะที่จัดไว้สำหรับเพื่อนเจ้าบ่าว

“อีริคคะ...”  ธีรยาเรียกชายหนุ่มอย่างเกรงใจ เธอรู้ว่าเขาเพลียกับการงานและเดินทางมาเพื่อเป็นเพื่อนเธอในวันนี้ด้วย

“ไม่เป็นไร ผมไม่ได้เหนื่อยขนาดนั้น แล้วนี่ก็วันของคุณ”  เขาตบหลังมือเธอเบาๆ ไม่อยากให้หญิงสาวเป็นกังวลมากเกินไป

            “ขอหมิวเข้าห้องน้ำสักเดียวนะคะ”

            “ครับ”

            “รอนิ่งๆ อย่าไปไหนนะ อย่ามีเรื่องกับใครล่ะ”

            “ทราบแล้วครับ”

            ความเหนื่อยล้าจากการงานหายไปหมดสิ้นเพียงแค่ได้ยินเสียงหัวเราะของเธอ โจวเจียอีไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมถึงเป็นอะไรมากมายขนาดนี้ นับวันเขายิ่งไม่อยากห่างเธอไปไหน แต่ภาระหน้าที่และบางเรื่องที่ต้องสะสางทำให้เขาได้แต่หวังว่าเธอจะเข้าใจสิ่งที่เขาทำอยู่.

....

            “พี่ก้องจะไปไหนคะ”  เขมิกาเอ่ยถามเมื่อเจ้าบ่าวลุกขึ้นตัวทำท่าจะเดินออกไป

            “พี่...พี่ไปสูดอากาศหน่อย ใส่ชุดนี้มันอึดอัด เดี๋ยวมา” 

            สีหน้าอึดอัดขนาดนั้นทำให้เขมิกาไม่อาจห้ามเขาได้ เจ้าสาวคนสวยจึงได้ทำแค่ฉีกยิ้มอย่างเข้าใจแต่ในใจนั้นตรงข้าม  ได้แต่กล้ำกลืนความทุกข์ไว้ในอก 

ทุกอย่างไม่มีวันหวนกลับคืนได้อีกแล้ว  

            บ้านเจ้าสาวใหญ่โตไม่น้อย ห้องน้ำก็มีอยู่ด้านนอกเป็นสัดส่วนราวกับว่าต้อนรับแขกอยู่บ่อยๆ ธีรยาอดชื่นชมบ้านเจ้าสาวไม่ได้  สำหรับคนที่ใช้ชีวิตในห้องสี่เหลี่ยมมาตลอดก็แอบหวังว่าจะมีบ้านเป็นของตัวเองเหมือนกัน  หญิงสาวเข้าห้องน้ำจัดการธุระส่วนเสร็จแล้วก็เดินออกมาด้านนอก สายตาปะทะกับซุ้มกุหลาบแสนสวยจนอดใจไม่ไหวเดินเข้าไปเยี่ยมชม ศาลาหกเหลี่ยมปลูกกุหลาบที่เธอไม่รู้จักสายพันธุ์มีหลายหลากสีต่างพันเกี่ยวโครงไม้อวดดอกที่เบ่งบานงามสะพรั่ง เหมาะจะเป็นที่นั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจหรือนั่งจิบชาเสียจริง

            “สวยจัง อยากปลูกกุหลาบแบบนี้จังเลย ขอถ่ายรูปไว้หน่อยแล้วกันนะ”  หญิงสาวพูดกับตนเองแล้วหยิบสมาร์ทโฟน ออกมาเพื่อถ่ายรูป เพียงกดถ่ายรูปไปไม่กี่รูป จู่ๆ ก็ถูกรวบกอดจากด้านหลัง หญิงสาวตกใจเอี้ยวตัวหันไปมองทำให้แก้มนุ่มถูกริมฝีปากหยักสัมผัสเบาๆ ทว่าดวงตากลมโตเบื้องกว้างอย่างตกใจ

“พี่...พี่หมอก้อง!”

            “อยู่นิ่งๆ” น้ำเสียงแห้งพร่าสั่ง “ให้พี่กอดหมิวสักนาที”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status