Share

Chapter 22.  บอสของคุณมีผู้หญิงเยอะไหมคะ

“สิบสองปีแล้วครับ”

“โอ้ว! นานจริง แสดงว่าต้องรู้เรื่องของอีริคบ้างใช่ไหม”  เธอเงยหน้ามองบอดี้การ์ดของโจวเจียอีด้วยแววตาเปี่ยมความหวัง แต่ดวงตาหลังแว่นตากรอบหนาพราวระยับจนคนมองนิ่งงันไปชั่วขณะ

“คือหมิวอยากรู้ว่าอีริคชอบกินอะไรบ้าง หรือไม่ชอบอะไร เผื่อหมิวจะทำให้เขาได้บ้าง”

“อ้อ! เรื่องนั้นได้เลยครับ ถามผมได้ทุกเรื่องเลยครับ”     เจสันรีบพูดขึ้น แบบนี้ถ้าบอสรู้เข้าต้องดีใจแน่ๆ

“แล้วบอสของคุณมีผู้หญิงเยอะไหมคะ”

“แค่กๆ...เรื่องนั้น””

“ช่างเถอะค่ะ  ถือว่าหมิวไม่เคยพูดแล้วกัน”

เขาอายุสามสิบแล้ว ถ้าเคยมีแฟนมาก่อนก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ปัจจุบันต่างหากที่เธอต้องสนใจทั้งสองเดินขึ้นบันไดมาที่ชั้นสามตามที่ปกป้องบอกไว้  เจสันเคาะประตูห้องอย่างมีมารยาทไม่กี่วินาทีต่อมาเจ้าของห้องก็เปิดประตูมาพร้อมใบหน้าที่มีรอยช้ำ

“เขียวแล้ว”   ธีรยาอดเอานิ้วจิ้มที่มุมปากของเขาไม่ได้ “นายนี่มันเหมือนเด็กจริงๆ”

“มาเยี่ยมหรือมาบ่น” ปกป้องเบ้ปากแต่เพราะเจ็บปากจึงเผลอร้องซี๊ดออกมา เขาปรายตามองไปยังชายชาวจีนสวมชุดสูทสีเข้มที่ยืนอยู่ด้านข้าง ดูไม่เข้ากับปิ่นโตสีพาสเทลที่ถืออยู่

“หมอนั้น...แฟนเธอเหรอ”

“ไม่ใช่”  ธีรยารีบปฏิเสธ “เขาชื่อเจสัน เป็นบอดี้การ์ดของคุณโจว”

“แฟนเธอมีบอร์ดี้การ์ด เขาทำงานอะไรเนี้ย”  ปกป้องกวาดตามองชายคนนั้นอย่างไม่สนใจมารยาท

“บอสทำงานด้านอสังหาริมทรัพย์ พลังงานและโลจิส ติกส์ครับ”

“จะอวดว่ารวยสินะ”  ปกป้องส่ายหน้าไปมาแล้วเบี่ยงตัวให้ผู้มาเยือนเข้าไปในห้อง “รกหน่อยนะ ห้องหนุ่มโสด”

“รู้ว่ารกก็ต้องเก็บให้เรียบร้อยสิ” ธีรยาบ่นแล้วหันไปรับปิ่นโตจากเจสัน ห้องของปกป้องก็มีขนาดเล็กพอๆ กับเธอ หรืออาจเพราะเธอเจอห้องชุดสุดอลังการของโจวเจียอีเข้าไปเลย เห็นรู้สึกว่าห้องตัวเองเล็กลงไปอีกก็ไม่รู้

“นี่มาบ่นหรือมาเยี่ยม”  ปกป้องพูดประโยคเดิมแล้วนั่งลงปลายเตียง แสร้งทำเป็นมองไม่เห็นบอดี้การ์ดร่างสูงใหญ่คนนั้นที่ยืนใกล้ประตูห้อง และเขาไม่คิดจะเชื้อเชิญให้นั่งด้วย

“เยี่ยมสิ” ธีรยาหัวเราะเบาๆ แล้วหันซ้ายหันขวา “หมิวทำข้าวต้มหมูมาให้ กินเสียหน่อยสิ ชามอยู่ตรงไหน”

“ตรงชั้นนั้นไง”

“ผมทำให้เองครับ”

เจสันรีบพูดขึ้นแล้วสาวเท้าเข้าไปจัดการด้วยตัวเอง ธีรยาอ้าปากห้ามแต่บอดี้การ์ดหนุ่มรวดเร็วกว่าที่เธอคิดมาก ไม่กี่นาทีข้าวต้มหมูก็อยู่ในชามเรียบร้อยแล้ว

“ขอดูยาของนายหน่อยสิ”  หญิงสาวเอ่ยถามพอดีกับสายตาเห็นถุงยาของโรงพยาบาลวางอยู่จึงเดินไปหยิบมาดู “ไม่มียาก่อนอาหาร นายกินข้าวแล้วกินยาเลยนะ  อ้อ! ขอหมิวดูแผลหน่อยสิ”

เพราะอีกฝ่ายนั่งอยู่ปลายเตียงหญิงสาวจึงเพียงแค่ก้าวเข้าไปใกล้แล้วโน้มตัวลงเล็กน้อย ปกป้องตัดผมสั้นเกรียนทำให้เห็นรอยแผลชัดเจน ไม่มีการอักเสบแต่ต้องใช้เวลากว่าจะหายดี

“ระวังอย่าให้โดนน้ำ คุณหมอนัดตัดไหมวันไหนก็ไปให้ตรงวันนัดล่ะ”

“ทราบแล้วครับ”

“กินข้าวสิ หรือต้องให้ป้อน”

“ป้อนหน่อย” ปกป้องอ้าปากทำตัวเป็นลูกนกยักษ์ให้เพื่อนสาวป้อนให้

“ขออนุญาตครับ”  

แต่คนป้อนไม่ใช่เจ้าของร่างเล็กแต่เป็นบอดี้การ์ดหน้านิ่งที่จับช้อนตักข้าวต้มส่งเข้าปากปกป้องด้วยตัวเอง เขาแทบจะยัดช้อนเข้าปาก นี่ถ้าไม่เกรงใจว่ารังแกเพื่อนสนิทของคุณธีรยา เขาคงบรรจงป้อนหนักมือกว่านี้

“เฮ้ยๆ เบาหน่อย”  ปกป้องรีบพูดทันทีที่กลืนข้าวต้มลงคอ โชคดีที่แค่อุ่นๆ ไม่งั้นคงได้แผลในปากเพิ่มอีก “จะยัดช้อนเข้าปากเลยหรือไง”

“ผมเกรงจะทำเลอะเทอะครับ”

ธีรยาแอบหันหน้าไปหัวเราะอีกทาง  บางทีพวกเขาอาจกลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน หญิงสาวคิดในแง่ดีแล้วโจวเจียอีคงไม่รังเกียจเพื่อนของเธอหรอกนะ

“ไม่ต้องป้อนแล้ว ฉันกินเอง”  ปกป้องแย่งชามกับช้อนมาตักกินเอง

“ค่อยๆ กินไม่มีคนแย่งหรอก”  เธอพูดแล้วหันซ้ายหันขวาหาเก้าอี้ เจสันเข้าใจสายตาว่าที่ภรรยาบอสอย่างดี รีบเดินไปยกเก้าอี้มาให้เธอนั่งแล้วถอยไปยืนด้านหลัง

“เขามีพลังจิตอ่านใจคนได้หรือไง”

“นายนี่ก็...”

“แฟนสปอยล์เธอขนาดนี้ อีกหน่อยคงทำอะไรไม่เป็นแน่” ปกป้องส่ายหน้าไปมา

“ไร้สาระน่า ว่าแต่บอกได้ไหมทำไมวันนี้อ่วมขนาดนี้ งานนายไม่ใช่งานนั่งโต๊ะเหรอ”

“ออกไปจับคนร้าย พวกแก็งค์คอลเซนเตอร์มีปะทะกันนิดหน่อย ก็เลยได้แผลมาอย่างที่เห็น”  ปกป้องเล่าสั้น ๆ ไม่ลงรายละเอียดแต่สายตามองไปยังบอดี้การ์ดคนนั้น “พวกจีนเทาน่ะ”

“ยังไงก็ระวังตัวให้มากนะ”  เธอไม่ได้สังเกตสายตาของปกป้อง นั่งจัดยาให้เพื่อนสนิทอยู่

“แล้วนี่เธอมีปัญหาอะไรพี่หมอก้องหรือเปล่า เมื่อวานท่าทางเขาแปลกๆนะ”  ตำรวจหนุ่มอดถามไม่ได้ แม้เขาไม่ได้พบหน้าก้องภพบ่อย แต่ทุกครั้งที่เจอ ผู้ชายคนนั้นคือบุคลิกอบอุ่นอ่อนโยนแบบที่ธีรยาหลงรัก

“ไม่รู้สิ” เธอโคลนศีรษะไปมา “อาจจะเครียดเรื่องแต่งงานก็ได้”

“แต่งงานก็ต้องดีใจไม่ใช่เหรอ”

“ไม่รู้สิ ยังไม่เคยแต่งงานนี่ แต่เคยได้ยินมาว่าบางคนมีภาวะเครียดก่อนแต่งงาน”  เธอถอนหายใจเบาๆ “หรือหมิวไม่ควรไปงานแต่งงานพี่หมอก้อง”

“เฮ้ย ไม่ไปสิน่าเกลียด คนอื่นได้เข้าใจผิดว่าเธอมีเรื่องกับพี่หมอก้องนั้นนะ”  ปกป้องพูดพลางละเลียดกินข้าวต้มหมู “เราไปเป็นเพื่อนเอง...ไม่ต้องคิดมากไปหรอก”

“แค่กๆ” 

“อะไรติดคอหรือครับ น้ำดื่มในตู้เย็นบริการตัวเองได้นะ”  ปกป้องพูดใส่คนในชุดสูทนั้น แหม! ไม่รู้หรือไงเมืองไทยเมืองร้อนต้องใส่สูทมาเป็นบอดี้การ์ด เหอะ!

“หมิวนัดอีริคไว้แล้ว” 

“แต่วันนั้นว่าที่เจ้าสาวเอ่ยปากชวนเราด้วย ยังไงเราก็ต้องไป”  ปกป้องเจตนาพูดให้เจสันได้ยิน “เอาเป็นว่าเจอกันที่งานเลี้ยงแล้วกัน”

“อื้ม”  เธอก็เห็นดีตามที่เพื่อนพูด

ปกป้องพยักหน้ารับแล้ววางชามข้าวต้มที่กินหมดเกลี้ยง

“หมิวนี่ยังรู้ใจเราเหมือนเดิมนะ ข้าวต้มไม่เละมาก ใส่ขึ้นฉ่ายกับขิงเยอะๆ เราชอบ”

“ก็ตอนเราอยู่บ้านเด็กกำพร้า เด็กคนอื่นไม่ชอบกินขิงกับขึ้นฉ่าย ก็มีแค่เรานี่แหละที่ชอบกินผัก”

“เราไม่ได้ชอบกินผักแต่มันไม่มีเนื้อให้กินต่างหาก” เขาเบ้ปากใส่ “คราวหน้าไปหาร้านเนื้อย่างกินกันนะ หมิวติดเลี้ยงข้าวเราอยู่นี่”

“ได้ เอาไว้แผลนายหายแล้วค่อยไปกินกัน”  เธอยื่นยาให้เขา “แบมือแล้วกินยาให้หมด กินให้เราดูด้วย”

“แผลแค่นี้ทำไมยาเยอะจัง”

“อย่าเถียงหมอ หมอเรียนมา”

“คร๊าบๆ ทราบแล้วครับ”  ปกป้องรับยาจากมือเรียวเล็กแล้วส่งยาเข้าปากตามด้วยน้ำดื่ม

“กินยาแล้วก็นอนพักอย่าเอาแต่เล่นเกมมือถือล่ะ”

“ครับแม่”

“นายป้อง!”

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status