เธอลืมตาตื่นขึ้นมาใต้ต้นเหมยฮวา สิ่งแรกที่เธอมองเห็น เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ดูดุร้ายเธอต้องอาศัยอยู่กับเขาในสถานะภรรยา พร้อมตัวช่วยโทรศัพท์ที่ติดตัวเธอมา
ดูเพิ่มเติมช่วงนี้เธอใช้ชีวิตอยู่แต่บ้าน ไม่ค่อยได้ออกไปไหนมากนัก แต่ละวันที่ผ่านไปเธอไม่กินก็จะนอน จนเธอจะอ้วนเป็นหมูแล้ว ตั้งแต่ที่เธอท้องก็ทำให้ร่างกายของเธอขยายมากขึ้นไปอีก จากตอนแรกที่เธอผอม ตอนนี้เธอมีน้ำมีนวล เปล่งปลั่งเหมือนสาวน้อยแรกรุ่น ที่จริงเธอก็เพิ่งอายุสิบเก้าเท่านั้น ก็ยังไม่ได้แก่เท่าไหร่นัก แต่คนยุคนี้จะแต่งงานกันตั้งแต่อายุสิบห้ากันแล้ว เกินสิบหกก็จะหาคู่ยาก ไม่เหมือนโลกเก่าของเธอ อายุสิบห้าถือว่ายังเด็กนัก แต่งตอนอายุยี่สิบห้าก็ยังไม่แก่เลยด้วยซ้ำ เธอนั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย เธอเพิ่งกินข้าวเสร็จ และเดินวนรอบบ้านไปหนึ่งรอบ โดยอยู่ภายในสายตาของบ่าวรับใช้ที่อยู่ภายในบ้าน และตอนนี้บริเวณรอบบ้าน อี้เฉิงก็ให้คนที่สำนักคุ้มภัยมาคอยเฝ้าที่หน้าร้านและหน้าประตูบ้านอยู่หลายคนเธอเดินจนเหนื่อยแล้ว เธอก็เข้ามาในห้องและนอนหลับไป ตอนที่เธอหลับอยู่เธอรู้สึกว่ามีใครมาจับหน้าอกของเธอ เธอจึงลืมตาตื่นขึ้นก้มลงไปมองตรงหน้าอกของเธอ ก็เห็นว่าเป็นอี้เฉิงนั่นเอง“ท่านทำอะไรอยู่ ใยท่านถึงได้มากวนข้า” เธอถามเขาหลังจากเห็นเขาเอาหน้ามุดเข้ามาในเสื้อของเธอ เพื่อดูดดึงยอดอกที่ขยายใหญ่ขึ้นมาก“ข้าทำเจ้า
“ท่านตื่นแล้วหรือ เป็นอย่างไรบ้าง ยังเจ็บบาดแผลอยู่หรือไม่” เธอถือถ้วยข้าวต้มที่พี่ลี่หลินทำเอาไว้ก่อนที่จะออกไปขายของที่ร้านเครื่องหอม นำมาให้เขาได้กิน“ข้าดีขึ้นมากแล้ว เจ้าไม่โกรธข้าแล้วหรือ” “โกรธสิ ข้าโกรธที่ท่านไม่หลบข้าเมื่อคืนนี้ ท่านอยากตายหรือไร ใยท่านต้องทำถึงขนาดนั้นด้วย” “ใครกันจะอยากตาย แต่เจ้าก็ไม่ฟังเหตุผลของข้าเลย ข้าจึงต้องทำเช่นนั้น ตอนนี้เจ้าให้อภัยข้าได้หรือไม่ ลูกของเราก็กำลังจะเกิดมาแล้ว เขาจำเป็นต้องมีพ่อ” เขาพูดขอโทษกับนางอีกครั้ง เขาไม่คิดว่านางจะใจแข็งเช่นนี้“ข้าให้อภัยท่านก็ได้ แต่ถ้ามีครั้งหน้า ข้าจะพาลูกหนีท่านไม่ให้ท่านหาพวกข้าเจอได้อีก” เขาได้ยินแบบนั้นก็ดีใจมาก เขาดีใจจนลืมไปว่าตัวเองบาดเจ็บอยู่ “โอ้ย! เจ็บ” “ท่านทำไมต้องดีใจขนาดนั้น เป็นอย่างไรบาดแผลของท่านเลือดออกเลย เห็นหรือไม่ ท่านต้องเปลี่ยนผ้าพันแผลใหม่ทุกวัน ท่านหมอบอกมา” “ข้าบาดเจ็บเช่นนี้ เจ้าเปลี่ยนผ้าพันแผลให้ข้าได้หรือไม่” เขาอยากอ้อนนาง เขาดีใจมาก ถือว่าการบาดเจ็บครั้งนี้ของเขาไม่เสียเปล่าแล้ว“ก็ได้ ข้าเห็นว่าท่านบาดเจ็บมาก ข้าจะทำแผลและพันแผลให้ท่านใหม่เอง แต่ท่านต้องกินข้า
“ข้ากลัวว่าข้าจะไม่มีโอกาสนั้น ข้าขอโทษเจ้าจริงๆ ที่จริงข้าอยากบอกกับเจ้าหลายอย่าง ผู้หญิงคนนั้นที่เจ้าเห็น ข้าไม่เคยรักนาง นางเป็นคนที่ทำร้ายข้า ข้ากลัวว่านางจะมาทำร้ายเจ้า ข้าจึงได้ทำเช่นนั้นลงไป ข้ามันโง่เสียจริง หวังว่าเจ้าคงไม่โกรธข้า เจ้าให้อภัยข้าได้หรือไม่” “ข้ารู้แล้ว ข้าไม่โกรธท่านแล้ว ท่านอย่าพูดอีกเลย เดี๋ยวท่านหมอก็มาแล้ว ท่านจะต้องไม่เป็นอะไร” “ข้าง่วงเหลือเกิน ข้าขอนอนสักพักได้หรือไม่” “ไม่ได้! ท่านห้ามหลับเด็ดขาด ถ้าท่านหลับข้าจะไม่ให้อภัยท่าน ลูกก็จะโกรธท่านเช่นกัน” เธอพูดตอบเขาเสียงสั่น เธอไม่น่าเลย ถ้าเธอยอมที่จะพูดคุยกับเขา เขาก็คงไม่เจอเรื่องเช่นนี้“นายหญิงท่านหมอมาแล้วเจ้าคะ” ลี่หลินรีบวิ่งเข้ามาบอกนายหญิง ที่นั่งร้องไห้กอดนายท่านอยู่ภายในห้องนอน“พวกเจ้าออกไปก่อน ข้าจะดูแลคนเจ็บเอง พวกเจ้าเตรียมน้ำอุ่นเอามาให้ข้าด้วย” “ข้าเตรียมน้ำอุ่นมาแล้วท่านหมอ” ลี่ซือเอาน้ำอุ่นที่เตรียมไว้พร้อมผ้าสะอาด นำไปวางไว้ภายในห้องของท่านหมอ“ข้าจะอยู่กับเขา ให้ข้าอยู่กับเขาได้หรือไม่” “เจ้าอยู่กับเขา ก็ไม่สามารถช่วยอะไรเขาได้หรอก เจ้าออกไปอยู่ด้านนอกนั่นแหละ ข้ารักษาเข
เธอส่งไซมอนกลับไปได้สักพักหนึ่งแล้ว เธอช่วยทุกคนเก็บร้านและเตรียมของเอาไว้ขายในวันพรุ่งนี้ กว่าที่เธอจะได้กลับไปพักที่โรงเตี๊ยมก็เป็นยามซวี ท้องของเธอก็แข็งเป็นพักๆ ลูกของเธอคงจะเหนื่อยมากในวันนี้ เธอให้หลีชางไปส่งพวกเธอที่โรงเตี๊ยม และให้เขากลับมานอนเฝ้าที่ร้านเครื่องหอม เธอจึงกลับไปพักกับพี่ลี่หลิน และป้าลี่ซือ ซึ่งสองแม่ลูกก็นอนพักอยู่ในห้องเดียวกัน ทุกคนกินข้าวมาจากที่ร้านเครื่องหอมจนอิ่มแล้ว ก่อนที่จะมาพักในโรงเตี๊ยม จึงแยกย้ายกันไปพักผ่อน“นายหญิงหิวไหมเจ้าคะ เดี๋ยวข้าต้มข้าวต้มและทำกับข้าวไว้ให้ท่านทานยามดึก เผื่อว่าท่านจะหิว” ลี่ซือกลัวว่าถ้านายหญิงหิวตอนกลางดึกจะไม่มีอะไรกิน“ก็ดีเหมือนกัน ท่านไม่ต้องทำไว้เยอะมากก็ได้” เธอตอบป้าลี่ซือกลับไป ที่จริงถ้าเธอหิว เธอก็แค่ซื้อของจากร้านค้าในโทรศัพท์ของเธอมากินก็ได้หลังจากที่ป้าลี่ซือเตรียมอาหารไว้ให้เธอจนเสร็จแล้ว ทุกคนก็เตรียมตัวกันเข้าไปนอนตามห้องของตัวเอง เธออาบน้ำจนสบายตัว และเตรียมตัวจะเข้าไปพักผ่อน แต่ก็แปลกที่วันนี้อี้เฉิงไม่ได้มากวนใจเธอเหมือนอย่างเช่นทุกวัน เป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว เขาคงถอดใจไปแล้วก็ได้เธอเปิดเข้ามาในห้องนอ
“อันนี้ข้าจับก่อนนะ เจ้ามาแย่งข้าได้อย่างไร!! ” เสียงหญิงสาวที่กำลังยื้อแย่งสิ่งของกัน“เจ้าน่ะสิ มาแย่งของข้าออกไปนะ!!” เสียงหญิงสาวอีกคนหนึ่งตอบกลับมาเสียงภายในร้านวุ่นวายไปหมด เหมยฮวา จ้างผู้คุ้มกันมาดูแลร้านของเธอไว้อยู่ก่อนแล้ว เธอจึงบอกให้พวกเขาไปเอาคนที่วุ่นวายให้พาออกไปข้างนอก“พวกเจ้าเป็นใครมาจับข้าได้ยังไง เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นบ่าวของใคร!!! ” เสียงของบ่าวของคุณหนูตระกูลใด ตระกูลหนึ่งดังขึ้นและก็มีเสียงดังแบบนี้อยู่หลายครั้ง เหมยฮวา ทั้งมีความสุขและเหนื่อยใจ การควบคุมคนมากช่างน่าปวดหัวเสียจริง เธอยืนอยู่ไกลจากคนพวกนั้น ที่กำลังเลือกซื้อของกันอยู่ เพราะเธอกำลังตั้งท้องอยู่จึงไม่ได้ไปช่วยทุกคนเท่าไหร่นักอี้เฉิงได้แค่มองดูนางอยู่ห่างๆ ตอนนี้เขารู้แล้ว ว่าเหมยฮวากำลังท้องลูกของเขาอยู่ และอาการที่เขาเป็นอยู่นั้น ก็คืออาการแพ้ท้องแทนภรรยา เขารู้แบบนั้นเขาก็ยิ่งเต็มใจที่จะแพ้ท้องแทนนาง เขาตามง้อนางอยู่ทุกวันแต่นางก็ไม่ได้ใจอ่อนให้เขาเลย เขาก็จะพยายามต่อไปด้านหลังของอี้เฉิงมีชายผู้หนึ่งผมสีน้ำตาล ตาสีฟ้าคราม เขามาที่เมืองหลวงเพื่อมาเที่ยวตามภาษาชายโสด แต่วันนี้เขารู้ว่าร
“ข้ารู้ว่าข้าผิดไปแล้ว ข้าไม่อยากเสียเจ้าไป” อี้เฉิงด้วยอารมณ์ที่ช่วงนี้เขาอ่อนไหวอยู่แล้ว เขาพูดพร้อมกับมีน้ำตาซึมออกมาเหมยฮวาที่เห็นเขาเป็นแบบนั้นก็ไม่ได้นึกสงสารอะไรเขา นางเดินหลบทางให้เขา และจะเข้าห้องของนางอี้เฉิงเห็นแบบนั้น ก็คุกเข่าลง ตรงหน้าของเหมยฮวา “ข้าขอโทษ ข้ามันโง่เอง เจ้าหายโกรธข้าได้หรือไม่” คนที่เดินเข้าออกในโรงเตี๊ยมต่างมองมาที่ทั้งสองคนด้วยสายตาที่มีความหมาย บางคนก็ชี้มือมาทางอี้เฉิง และหัวเราะกันสนุกปาก แต่อี้เฉิงก็ไม่ได้สนใจสายตาของคนพวกนั้น เขาสนใจแค่ผู้หญิงตรงหน้าของเขาเท่านั้น“ท่านไม่อายหรือ ที่ท่านต้องมานั่งคุกเข่าให้ผู้หญิงที่ท่านทิ้ง และใช้คำพูดทำร้ายจิตใจของเธอ ท่านคงไม่ใช้คำพูดไม่กี่คำของท่านเพื่อให้ข้าคืนดีด้วยหรอกนะ!?” “ข้ารู้ ข้ามันผิดเอง ข้าเป็นคนพูดทำร้ายจิตใจเจ้า ข้าทำให้เจ้าเสียใจ แต่ทุกอย่างมันมีเหตุผล” “ถ้าทุกอย่างมีเหตุผล และเจ้าคิดถึงใจของข้าสักนิด เจ้าคงไม่เลือกที่จะทำแบบนั้นหรอก” เธอพูดเสร็จ เธอก็เดินออกมา ปล่อยให้อี้เฉิงคุกเข่าอยู่ตรงนั้นต่อไปเธอเดินกลับไปในห้องพร้อมกับความสับสนที่เกิดขึ้นมาภายในใจของเธอ ว่าเขากลับมาทำไม ในเมื
เหมยฮวากลับมาที่โรงเตี๊ยม หลังจากที่เธอกินข้าวกันเสร็จแล้ว เธอคิดว่าเธอจะลองค้นหาเค้ก หรือขนมรูปแบบใหม่ๆ มาทำตอนเปิดร้านของเธอเสียหน่อย และวันที่เธอเปิดร้าน เธอก็จะทำเค้กกล้วยหอมแบบง่ายเพื่อแจกให้ผู้คน เพื่อทำให้ร้านค้าของเธอเป็นที่รู้จักเธอเปิดดูวิดีโอในโทรศัพท์ เกี่ยวกับคุณแม่ท้องแรก เธอเปิดเพลงให้ลูกน้อยของเธอฟัง เธอเอามือลูบท้องที่นูนออกมาอย่างเห็นได้ชัด นี่เธอกำลังจะเป็นแม่คนครั้งแรก เธอจะดูแลเด็กคนนี้ให้ดี ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์หลังจากที่ เธอตกลงสร้างร้านและตบแต่งของภายในร้านของเธอ ตอนนี้ช่างได้ทำการสร้างร้านค้าบนชั้นสามของเธอมาได้ครึ่งทางแล้ว เหลืออีกแค่ไม่กี่วันเท่านั้น ร้านค้าของเธอก็จะเสร็จเสียที ในระหว่างที่รอให้ร้านทำเสร็จอยู่นั้น เธอก็มองหาสิ่งของใหม่ๆ มาขายภายในร้านของเธอ ตอนนี้ร้านเครื่องหอมที่เธอทำอยู่ มีสบู่ ครีมอาบน้ำ ครีมทาผิว และยังมีน้ำหอม เธอทำลิปบำรุงริมฝีปาก แต่เธอยังไม่ได้ทำลิปทาปากสีสวยๆ มาขายเลย เธอคิดว่าจะเริ่มทำลิปที่ทาแล้วให้ริมฝีปากดูน่าดึงดูด ขึ้นมาเธอมองดูแต้มในโทรศัพท์ที่เหลืออยู่แค่สองพันแต้มเท่านั้น เธอค้นหาวิธีทำลิปแบบแท่งซึ่งไม่มีขายในยุคนี้ เธอ
“ที่จริงข้าอยากได้ แค่สองสามคน ตอนนี้ข้าอยากได้ หญิงสาม ชายอีกสองคน ข้ามาคิดดูแล้ว ข้าอยากไปดูทาสตอนที่สร้างบ้านเสร็จเสียก่อนดีกว่า ข้าไม่รู้ว่าซื้อมาแล้วจะให้พวกเขาไปอยู่ที่ไหน พวกเราสามคน รวมทั้งป้าลี่ซื้อที่กำลังจะตามมาอีกคนก็คงจะพอแล้ว เอาไว้เมื่อทุกอย่างทำเสร็จทั้งหมดแล้ว ข้าค่อยไปหาซื้อทาสก็แล้วกัน” “เป็นความคิดที่ดีเจ้าคะนายหญิง ข้าไม่อยากให้ท่านทำอะไรกระชั้นชิดมากเกินไปนัก” เธอพูดคุยปรึกษากับพี่ลี่หลินมาตลอดทาง จนมาถึงร้านขายเครื่องเรือนพอดี“พี่เหมยฮวา ถึงร้านขายเครื่องเรือนแล้วขอรับ” หลังจากที่เสียงของหลีชางดังขึ้น เธอก็เดินเข้าไปดูภายในร้าน ที่มีโต๊ะหลายรูปแบบ แต่ก็ไม่ใช่แบบที่เธอต้องการอยู่ดี“ร้านของท่านมีของเท่านี้หรือ มีแบบโต๊ะและเก้าอี้อีกหรือไม่” “ร้านของข้ามีเท่านี้ ท่านอยากได้แบบไหนหรือ ข้าจะได้ดูว่ามีหรือไม่” เป็นชายอายุหกสิบหน้าตาใจดี พูดตอบเธอกลับมา เธอจึงรู้สึกสบายใจที่ได้พูดคุยกับเขา“ข้าต้องการเก้าอี้แบบนี้ มีหรือไม่” ดีที่เธอวาดแบบเก้าอี้และแบบโต๊ะเอาไว้แล้ว“ข้าไม่เคยเห็นของแบบนี้ที่ไหนเลย แต่ถ้าท่านอยากได้แบบนี้ ข้าก็สามารถทำให้ท่านได้ แต่ข้าต
“หลีชางเจ้าบังคับม้าช้าๆ หน่อย นายหญิงกำลังท้องอ่อนๆ เจ้าต้องระวังให้มาก” “ข้าเข้าใจแล้วขอรับพี่ลี่หลิน ข้าจะบังคับรถม้าให้ช้า และเบาที่สุดเลย” ลี่หลินได้ยินแบบนั้น เธอก็สบายใจ“ข้าบอกนายหญิงแล้ว ว่านายหญิงไม่เป็นอะไรหรอกเจ้าคะ ตอนนี้นายหญิงสบายใจหรือยังเจ้าคะ” “ข้าคงคิดมากไปจริงๆ นั่นแหละ ขอบคุณพี่ลี่หลินมากที่มาหาหมอเป็นเพื่อนข้า” “ข้ามีหน้าที่ดูแลนายหญิงอยู่แล้วเจ้าคะ นายหญิงเรียกใช้ข้าได้ตลอดเวลาเลย” เธอพลาดโอกาสมีลูกไปแล้ว เธอจะต้องดูแลนายน้อยที่กำลังจะเกิดมาให้ดี เสียดายก็แต่ว่า นายหญิงเลิกกับนายท่านไปเสียแล้ว ทำให้นายหญิงต้องเป็นหญิงม่ายลูกติด ซึ่งคนอื่นอาจจะมองนายหญิงไม่ดีได้ เธอหันไปมองนายหญิง ช่างน่าสงสารเสียจริง นายหญิงของเธอช่างอาภัพนัก“ถ้าข้าท้องแบบนี้ การเดินทางกลับเมืองสงบสุขก็คงต้องเลื่อนออกไปเสียแล้ว ข้าไม่อยากให้ลูกของข้าต้องเป็นอะไรระหว่างการเดินทาง” “ดีแล้วเจ้าคะ ให้แม่ของข้ามา ท่านจะได้ดูแลนายหญิงได้ นายหญิงจะได้ไม่ต้องเป็นกังวล และเราต้องหาหมอทำคลอดเอาไว้ก่อนด้วย” “มีหลายอย่างที่ข้าต้องเตรียมพร้อมมากเลยสินะ ถ้าอย่างนั้น บ้านของข้าต้องทำห้องเตรียมไว
แก้มหอมสาวน้อยอายุสิบแปดปี เธอเป็นเด็กสาวกำพร้า ไม่มีพ่อแม่และญาติพี่น้องที่ไหน ก่อนที่พ่อและแม่ของเธอจะเสียชีวิต ท่านได้ทิ้งเงินไว้ให้เธอหนึ่งก้อนจากประกันชีวิตที่ท่านได้ทำไว้ให้เธอ และยังทิ้งบ้านหนึ่งหลังที่ไม่ใหญ่มาก แต่เธอก็ไม่ต้องเช่าบ้านให้เสียเงิน เธอได้ออกมาทำงานและส่งตัวเองเรียน จึงทำให้เธอมีจิตใจที่เข้มแข็งกว่าเด็กวัยเดียวกันมาก เธอเป็นเด็กสาวที่มีนิสัยร่าเริงและขี้เล่น เธอเป็นที่รักของเพื่อนๆ ในชั้นเรียน แต่ก็มีหลายคนที่ไม่ชอบเธอเช่นกัน ทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ หลังเลิกเรียนเธอจะต้องออกไปทำงานที่ร้านสะดวกซื้อจนถึงเที่ยงคืน และวันเสาร์อาทิตย์ เธอทำงานในร้านขายเครื่องหอม เธอไม่มีเวลาให้เที่ยวเล่นแบบเพื่อนในวัยเดียวกัน แต่เธอมีหน้าตาที่น่ารักจึงมักมีชายหนุ่มเข้ามาวนเวียนรอบๆ ตัวเธออยู่เสมอจึงมีเพื่อนหลายคนที่ไม่ชอบที่เธอหน้าตาดี และจะคอยหาเรื่องแกล้งเธอ แต่ก็ไม่ได้แกล้งแบบรุนแรงมากนัก เธอจึงไม่ได้เอาเรื่องไปฟ้องกับอาจารย์ เพราะเธอคิดว่าอีกไม่กี่เดือนเธอก็จะเรียนจบแล้ว เธอเองก็มีความฝันเหมือนกัน เธออยากเปิดร้านค้าเป็นของตัวเองสักหนึ่งร้าน เธอชอบน้ำหอมและเครื่องหอมที่เธอได้ทำงา...
ความคิดเห็น