Share

   วันแรก

ตอนที่5

     วันแรก

          โรงเรียนพร้อมแล้ว นักเรียนจากหมู่บ้านบ้านน้ำฝายและหมู่บ้านใกล้เคียงที่เดินทางไม่ไกลมากนัก พ่อแม่ผู้ปกครองต่างก็พาลูกหลานมาส่งที่โรงเรียนเพราะได้ยินข้าวจากผู้ใหญ่บ้าน ว่าโรงเรียนพร้อมจะเปิดเรียนแล้ว

          “พร้อมหรือยังครับคุณครู”

ชายหนุ่มในชุดตำรวจถามหญิงสาวที่กำลังยืนรอนักเรียนอยู่ที่หน้าเสาธง

“พร้อมค่ะคุณตำรวจ แต่วันนี้คุณต้องช่วยอลิสสอนวิชาคณิตศาสตร์ก่อนนะคะ ”

เมื่อคืนอลิสได้ขอให้ธนาตุลและลูกน้องช่วยเธอสอนก่อนในช่วงเปิดเรียนแรกๆเพราะเธอยังต้องการจะทดสอบแยกนักเรียนแต่ละชั้นออกจากกัน

          “ได้ครับคุณครู ลูกน้องผมของจองเด็กเล็กๆสอนฝึกคัดลายมือ ส่วนผมขอคณิตศาสตร์ นอกนั้นคุณครูจัดการเองนะครับ”

          ธนาตุลทำท่าทางล้อเลียนเหมือนคนที่กำลังทำตามคำสั่งคุณครูจนหญิงสาวอดหัวเราะไม่ได้

          นักเรียนมาพร้อมแล้ว อลิสแบ่งเป็นแถว แถวละห้าคน มีทั้งหมดหกแถว มีฟองจันทร์ทำหน้าที่นำร้องเพลงชาติและสวดมนต์

          ช่วงเช้าคุณครูคนใหม่เรียกนักเรียนเข้ามาทดสอบความรู้ทางการอ่านและการเขียนภาษาไทย ก่อนจะส่งไปให้ ธนาตุลช่วยทดสอบวิชาคณิตศาสตร์ให้ ก่อนที่คืนนี้จะเอาคะแนนที่ได้มาแบ่งกลุ่มนักเรียน เพื่อแยกห้องในการเรียนการสอน

          “เหนื่อยไหม ไปกินข้าวกันเถอะ วันนี้ผู้ใหญ่ทำขนมจีน            น้ำเงี้ยวมาให้”

          ธนาตุลเดินมาตามคุณครูคนใหม่ที่กำลังนอนฟุบกับโต๊ะด้วยความเหนื่อย เพราะต้องสอนนักเรียนสะกดคำมาเต็มๆครึ่งวัน

          “ไปค่ะ หิวจะแย่แล้ว เด็กๆที่นี่อ่านหนังสือได้แทบไม่ต่างกันเลย เรียกได้ว่าต้องมาเริ่มกันใหม่เกือบหมด มีอยู่ห้าคนที่อ่านเก่ง แล้วคณิตศาสตร์ล่ะคะเป็นอย่างไรบ้าง”

          “บวกเลขลบเลขพอได้ทุกคน แต่ถ้าเป็นโจทย์ปัญหายังไม่มีใครทำได้เลย”

          “พักเรื่องเครียดกันก่อนดีกว่า กินขนมจีนให้อร่อยจะได้มีแรงมาสู้กันต่อ ขอบคุณนะคะที่อยู่ช่วยมาครึ่งวันแล้ว”

          หญิงสาวเผลอตัวคว้ามือชายหนุ่มมาจับไว้ ด้วยความ           เคยชินที่เคยทำแบบนี้กับเพื่อนๆที่มหาวิทยาลัย

          ธนาตุลตกใจที่อยู่ดี ๆ ก็ถูกมือนิ่มมาคว้ามือของเขา แต่ก็ทำเป็นไม่สนใจกุมมือเธอตอบกลับไปและพาเดินไปที่โรงอาหาร

         “น่ากินจังค่ะผู้ใหญ่”

อลิสไม่เคยกินขนมจีนน้ำเงี้ยวมาก่อน จะเคยกินก็กับน้ำยากะทิและแกงเขียวหวานเท่านั้น

“เรื่องอาหารกลางวัน ปกติเด็กๆจะเตรียมมาจากบ้าน ส่วนของคุณครูผมจะให้เมียทำมาให้ ฝากฟองจันทร์มาทุกวัน ครูจะได้ไม่ต้องเหนื่อยทำ”

วันนี้เป็นวันแรกผู้ใหญ่เลยลงมาจัดการอธิบายทุกเรื่องเอง เพื่อให้อลิสเข้าใจว่าที่นี่ปฎิบัติกันอย่างไรมา

ช่วงบ่ายบรรดาจ่าทั้งหลาย พานักเรียนแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกยังเด็กมาจึงสอนให้เล่นปั้นดินน้ำมัน ส่วนอีกกลุ่มพาไปเล่นลิงชิงบอล

          บ่ายสามโมงก็เริ่มมีผู้ปกครองพากันมารับลูกหลาน ส่วนนักเรียนที่อยู่ในหมู่บ้านก็พากันเดินชูธงกลับบ้านพร้อมกันเป็นแถว

          “ขอบคุณพี่ๆทุกคนมากนะคะ ที่มาช่วยสอนนักเรียนในวันนี้ ไม่อย่างนั้นอลิสคงแย่แน่ๆเลย”

          หญิงสาวหันไปขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย ที่มาอยู่ช่วยเธอตั้งแต่เช้าจนเย็น ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันกลับที่พักพร้อมกับปิ่นโตขนมจีนที่ทางผู้ใหญ่จัดไว้ให้

          “คราวนี้ก็ถึงเวลาที่คุณครูจะต้องไปจัดห้องของตัวเองแล้ว”

          ธนาตุลไม่อยากให้อลิสต้องนอนห้องเดียวกับเขานาน เพราะกลัวว่าใครจะมาเห็นและจะพากันเอาไปพูดในทางที่ไม่ดี และตัวอลิสเองจะเป็นฝ่ายเสียหาย

          “ขอนั่งพักสักสิบนาทีได้ไหมคะ ปวดขาแสบคอมากวันนี้”

          เก้าอี้หน้าบ้านถูกเลือกเป็นที่นั่งพัก อลิสหลับตาและฟุบหน้าลงกับแขนทั้งสองข้าง วันนี้เธอเหนื่อยแต่เป็นความเหนื่อยที่สุดแสนจะมีความสุข ที่เธอได้ทำตามความฝันที่เธอตั้งเป้าหมายไว้ตั้งแต่เด็ก

          “พักให้หายเหนื่อยก่อน ยังไม่ต้องรีบ อาหารเย็นก็มีแล้ว เหลือแค่จัดห้องจัดที่นอน เดี๋ยวคุณก็ได้พัก คืนนี้คงหลับสนิทกันแน่ๆ”

          นายตำรวจหัวเราะตามหลัง เพราะตัวเขาเองก็หมดเสียงไปกับการสอนเด็กๆทีละคน เขารู้สึกว่าการสอนเด็กๆเหนื่อยกว่าการที่เขาต้องไปฝึกภาคสนามอีก

          เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กเผลอหลับไปแล้ว ชายหนุ่มจึงเดินขึ้นไปที่ห้องนอนชั้นสอง เพื่อไปกวาดถูและจัดการเอาที่นอนที่ชาวบ้านขนมาให้แล้ว สวมผ้าปูและปลอกหมอนให้เรียบร้อย

          ผ้าม่านสีชมพูถูกวางอยู่บนกระเป๋าที่อลิสขนมาจากกรุงเทพ ธนาตุลจึงช่วยติดให้ เพราะมันจะได้ช่วยให้ห้องดูมีสีสันมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยบังสายตาจากคนข้างนอกที่จะมองเข้ามาข้างในได้

          “เย็นแล้ว กินขนมจีนแล้วไปอาบน้ำเถอะเดี๋ยวมืด”

          เมื่อจัดการทุกอย่างข้างบนเสร็จ ชายหนุ่มก็เดินลงมาปลุกหญิงสาวที่ยังคงนอนหลับสนิทอยู่ที่โต๊ะหน้าบ้าน เพราะที่นี่มีไฟให้ใช้อย่างประหยัด ดังนั้นทุกคนควรอาบน้ำทำธุระให้เสร็จก่อนที่จะมืด

          “เผลอหลับยาวเลย ห้องก็ยังไม่ได้ทำ”

          อลิสบ่นพึมพำกับตัวเอง เมื่อมองจากท้องฟ้าก็รู้ว่าตัวเองคงเผลอหลับไปนาน

          “ผมขึ้นไปจัดการให้แล้ว แต่ก็แค่กวาดถูและจัดที่นอนไว้ให้ ส่วนเรื่องข้าวของของคุณ ผมยังไม่ไปจัดการอะไร”

          ด้วยความที่กลัวว่า โรงเรียนที่เธอต้องมาอาจจะไม่มีอะไร อลิสจึงขนของมาเต็มรวมๆกันเกือบสิบกระเป๋า นี่ถ้ากลับไปพักเธอตั้งใจจะขนมาอีหลายอย่าง โดยเฉพาะสื่อที่ใช้ในการสอนนักเรียน

          “เหนื่อยต้องช่วยอลิสมาทั้งวัน ผู้กองยังต้องมาทำความสะอาดห้องให้อีก ขอบคุณจริงๆนะคะ การเป็นครูบนดอยไม่ง่ายอย่างที่คิดเลย”

          หญิงสาวถอนหายใจ ที่เธอคิดและเตรียมใจไว้ก็ว่าลำบากแล้ว พอมาเจอกับสภาพจริงหนักกว่ามาก

          “อย่าเพิ่งถอดใจนะครับ ตอนแรกๆมันก็อาจจะลำบาก เพราะยังปรับตัวไม่ได้ แต่นานไปคุณจะรักที่นี่เหมือนผม”

          ธนาตุลรักบ้านน้ำฝายมาก มากถึงขนาดที่เขาไม่สนใจธุรกิจร้านทองของครอบครัว แต่กลับเก็บเงินซื้อที่ดินที่นี่ เพื่อเตรียมปลูกบ้านทำสวน ใช้ชีวิตสงบพอเพียงอยู่บนดอยแห่งนี้แทน

          “ผู้กองอีกไม่กี่วัน คุณก็ต้องกลับลงไปแล้ว ถ้าไม่มีคุณอยู่ด้วยแล้วฉันจะอยู่อย่างไรกัน”

          หญิงสาวพูดไปตามความรู้สึก ที่ไม่มีอะไรนอกเหนือ จากมิตรภาพแต่คนฟังหัวใจมันรู้สึกเต้นแรงผิดปกติ

          “ผู้กองสุชาติเขาก็จะช่วยดูแลคุณแทนผม เพียงแต่ว่าคงไม่ได้มาสนิสนมเท่านี้ เพราะผู้กองเขาอายุมากแล้ว”

          ธนาตุลก็อดที่จะรู้สึกเป็นห่วงหญิงสาวไม่ได้ เอาจริงๆเขากลัวตัวเองจะคิดถึงด้วยซ้ำ แต่ด้วยเหตุผลอะไรเขาก็ยังไม่รู้หัวใจตัวเอง

          “ผมกลับไปจะไปหาเครื่องปั่นไฟมาเพิ่ม คุณจะได้มีไฟใช้มากขึ้น แล้วจะซื้อเครื่องครัวมาไว้ทำกับข้าว คุณจะได้ไม่ต้องลำบาก ไว้ว่างๆจะสอนทำนะ”

          “ไม่อยากให้ผู้กองไปเลย”

          คำพูดเพียงสั้น ๆ กับเสียงออดอ้อนทำเอา หัวใจผู้กองหนุ่มที่มีคู่หมั้นอยู่แล้วรู้สึกหวั่นไหวแปลกๆ

          “ผมก็ยังไม่อยากไปเหมือนกัน”

          คำพูดที่พูดสุดแสนจะเบา เบาจนเหมือนชายหนุ่มกำลังพูดกับตัวเอง และไม่หวังให้อีกฝ่ายได้ยิน

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status