ตอนที่5
วันแรก
โรงเรียนพร้อมแล้ว นักเรียนจากหมู่บ้านบ้านน้ำฝายและหมู่บ้านใกล้เคียงที่เดินทางไม่ไกลมากนัก พ่อแม่ผู้ปกครองต่างก็พาลูกหลานมาส่งที่โรงเรียนเพราะได้ยินข้าวจากผู้ใหญ่บ้าน ว่าโรงเรียนพร้อมจะเปิดเรียนแล้ว
“พร้อมหรือยังครับคุณครู”
ชายหนุ่มในชุดตำรวจถามหญิงสาวที่กำลังยืนรอนักเรียนอยู่ที่หน้าเสาธง
“พร้อมค่ะคุณตำรวจ แต่วันนี้คุณต้องช่วยอลิสสอนวิชาคณิตศาสตร์ก่อนนะคะ ”
เมื่อคืนอลิสได้ขอให้ธนาตุลและลูกน้องช่วยเธอสอนก่อนในช่วงเปิดเรียนแรกๆเพราะเธอยังต้องการจะทดสอบแยกนักเรียนแต่ละชั้นออกจากกัน
“ได้ครับคุณครู ลูกน้องผมของจองเด็กเล็กๆสอนฝึกคัดลายมือ ส่วนผมขอคณิตศาสตร์ นอกนั้นคุณครูจัดการเองนะครับ”
ธนาตุลทำท่าทางล้อเลียนเหมือนคนที่กำลังทำตามคำสั่งคุณครูจนหญิงสาวอดหัวเราะไม่ได้
นักเรียนมาพร้อมแล้ว อลิสแบ่งเป็นแถว แถวละห้าคน มีทั้งหมดหกแถว มีฟองจันทร์ทำหน้าที่นำร้องเพลงชาติและสวดมนต์
ช่วงเช้าคุณครูคนใหม่เรียกนักเรียนเข้ามาทดสอบความรู้ทางการอ่านและการเขียนภาษาไทย ก่อนจะส่งไปให้ ธนาตุลช่วยทดสอบวิชาคณิตศาสตร์ให้ ก่อนที่คืนนี้จะเอาคะแนนที่ได้มาแบ่งกลุ่มนักเรียน เพื่อแยกห้องในการเรียนการสอน
“เหนื่อยไหม ไปกินข้าวกันเถอะ วันนี้ผู้ใหญ่ทำขนมจีน น้ำเงี้ยวมาให้”
ธนาตุลเดินมาตามคุณครูคนใหม่ที่กำลังนอนฟุบกับโต๊ะด้วยความเหนื่อย เพราะต้องสอนนักเรียนสะกดคำมาเต็มๆครึ่งวัน
“ไปค่ะ หิวจะแย่แล้ว เด็กๆที่นี่อ่านหนังสือได้แทบไม่ต่างกันเลย เรียกได้ว่าต้องมาเริ่มกันใหม่เกือบหมด มีอยู่ห้าคนที่อ่านเก่ง แล้วคณิตศาสตร์ล่ะคะเป็นอย่างไรบ้าง”
“บวกเลขลบเลขพอได้ทุกคน แต่ถ้าเป็นโจทย์ปัญหายังไม่มีใครทำได้เลย”
“พักเรื่องเครียดกันก่อนดีกว่า กินขนมจีนให้อร่อยจะได้มีแรงมาสู้กันต่อ ขอบคุณนะคะที่อยู่ช่วยมาครึ่งวันแล้ว”
หญิงสาวเผลอตัวคว้ามือชายหนุ่มมาจับไว้ ด้วยความ เคยชินที่เคยทำแบบนี้กับเพื่อนๆที่มหาวิทยาลัย
ธนาตุลตกใจที่อยู่ดี ๆ ก็ถูกมือนิ่มมาคว้ามือของเขา แต่ก็ทำเป็นไม่สนใจกุมมือเธอตอบกลับไปและพาเดินไปที่โรงอาหาร
“น่ากินจังค่ะผู้ใหญ่”
อลิสไม่เคยกินขนมจีนน้ำเงี้ยวมาก่อน จะเคยกินก็กับน้ำยากะทิและแกงเขียวหวานเท่านั้น
“เรื่องอาหารกลางวัน ปกติเด็กๆจะเตรียมมาจากบ้าน ส่วนของคุณครูผมจะให้เมียทำมาให้ ฝากฟองจันทร์มาทุกวัน ครูจะได้ไม่ต้องเหนื่อยทำ”
วันนี้เป็นวันแรกผู้ใหญ่เลยลงมาจัดการอธิบายทุกเรื่องเอง เพื่อให้อลิสเข้าใจว่าที่นี่ปฎิบัติกันอย่างไรมา
ช่วงบ่ายบรรดาจ่าทั้งหลาย พานักเรียนแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกยังเด็กมาจึงสอนให้เล่นปั้นดินน้ำมัน ส่วนอีกกลุ่มพาไปเล่นลิงชิงบอล
บ่ายสามโมงก็เริ่มมีผู้ปกครองพากันมารับลูกหลาน ส่วนนักเรียนที่อยู่ในหมู่บ้านก็พากันเดินชูธงกลับบ้านพร้อมกันเป็นแถว
“ขอบคุณพี่ๆทุกคนมากนะคะ ที่มาช่วยสอนนักเรียนในวันนี้ ไม่อย่างนั้นอลิสคงแย่แน่ๆเลย”
หญิงสาวหันไปขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย ที่มาอยู่ช่วยเธอตั้งแต่เช้าจนเย็น ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันกลับที่พักพร้อมกับปิ่นโตขนมจีนที่ทางผู้ใหญ่จัดไว้ให้
“คราวนี้ก็ถึงเวลาที่คุณครูจะต้องไปจัดห้องของตัวเองแล้ว”
ธนาตุลไม่อยากให้อลิสต้องนอนห้องเดียวกับเขานาน เพราะกลัวว่าใครจะมาเห็นและจะพากันเอาไปพูดในทางที่ไม่ดี และตัวอลิสเองจะเป็นฝ่ายเสียหาย
“ขอนั่งพักสักสิบนาทีได้ไหมคะ ปวดขาแสบคอมากวันนี้”
เก้าอี้หน้าบ้านถูกเลือกเป็นที่นั่งพัก อลิสหลับตาและฟุบหน้าลงกับแขนทั้งสองข้าง วันนี้เธอเหนื่อยแต่เป็นความเหนื่อยที่สุดแสนจะมีความสุข ที่เธอได้ทำตามความฝันที่เธอตั้งเป้าหมายไว้ตั้งแต่เด็ก
“พักให้หายเหนื่อยก่อน ยังไม่ต้องรีบ อาหารเย็นก็มีแล้ว เหลือแค่จัดห้องจัดที่นอน เดี๋ยวคุณก็ได้พัก คืนนี้คงหลับสนิทกันแน่ๆ”
นายตำรวจหัวเราะตามหลัง เพราะตัวเขาเองก็หมดเสียงไปกับการสอนเด็กๆทีละคน เขารู้สึกว่าการสอนเด็กๆเหนื่อยกว่าการที่เขาต้องไปฝึกภาคสนามอีก
เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กเผลอหลับไปแล้ว ชายหนุ่มจึงเดินขึ้นไปที่ห้องนอนชั้นสอง เพื่อไปกวาดถูและจัดการเอาที่นอนที่ชาวบ้านขนมาให้แล้ว สวมผ้าปูและปลอกหมอนให้เรียบร้อย
ผ้าม่านสีชมพูถูกวางอยู่บนกระเป๋าที่อลิสขนมาจากกรุงเทพ ธนาตุลจึงช่วยติดให้ เพราะมันจะได้ช่วยให้ห้องดูมีสีสันมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยบังสายตาจากคนข้างนอกที่จะมองเข้ามาข้างในได้
“เย็นแล้ว กินขนมจีนแล้วไปอาบน้ำเถอะเดี๋ยวมืด”
เมื่อจัดการทุกอย่างข้างบนเสร็จ ชายหนุ่มก็เดินลงมาปลุกหญิงสาวที่ยังคงนอนหลับสนิทอยู่ที่โต๊ะหน้าบ้าน เพราะที่นี่มีไฟให้ใช้อย่างประหยัด ดังนั้นทุกคนควรอาบน้ำทำธุระให้เสร็จก่อนที่จะมืด
“เผลอหลับยาวเลย ห้องก็ยังไม่ได้ทำ”
อลิสบ่นพึมพำกับตัวเอง เมื่อมองจากท้องฟ้าก็รู้ว่าตัวเองคงเผลอหลับไปนาน
“ผมขึ้นไปจัดการให้แล้ว แต่ก็แค่กวาดถูและจัดที่นอนไว้ให้ ส่วนเรื่องข้าวของของคุณ ผมยังไม่ไปจัดการอะไร”
ด้วยความที่กลัวว่า โรงเรียนที่เธอต้องมาอาจจะไม่มีอะไร อลิสจึงขนของมาเต็มรวมๆกันเกือบสิบกระเป๋า นี่ถ้ากลับไปพักเธอตั้งใจจะขนมาอีหลายอย่าง โดยเฉพาะสื่อที่ใช้ในการสอนนักเรียน
“เหนื่อยต้องช่วยอลิสมาทั้งวัน ผู้กองยังต้องมาทำความสะอาดห้องให้อีก ขอบคุณจริงๆนะคะ การเป็นครูบนดอยไม่ง่ายอย่างที่คิดเลย”
หญิงสาวถอนหายใจ ที่เธอคิดและเตรียมใจไว้ก็ว่าลำบากแล้ว พอมาเจอกับสภาพจริงหนักกว่ามาก
“อย่าเพิ่งถอดใจนะครับ ตอนแรกๆมันก็อาจจะลำบาก เพราะยังปรับตัวไม่ได้ แต่นานไปคุณจะรักที่นี่เหมือนผม”
ธนาตุลรักบ้านน้ำฝายมาก มากถึงขนาดที่เขาไม่สนใจธุรกิจร้านทองของครอบครัว แต่กลับเก็บเงินซื้อที่ดินที่นี่ เพื่อเตรียมปลูกบ้านทำสวน ใช้ชีวิตสงบพอเพียงอยู่บนดอยแห่งนี้แทน
“ผู้กองอีกไม่กี่วัน คุณก็ต้องกลับลงไปแล้ว ถ้าไม่มีคุณอยู่ด้วยแล้วฉันจะอยู่อย่างไรกัน”
หญิงสาวพูดไปตามความรู้สึก ที่ไม่มีอะไรนอกเหนือ จากมิตรภาพแต่คนฟังหัวใจมันรู้สึกเต้นแรงผิดปกติ
“ผู้กองสุชาติเขาก็จะช่วยดูแลคุณแทนผม เพียงแต่ว่าคงไม่ได้มาสนิสนมเท่านี้ เพราะผู้กองเขาอายุมากแล้ว”
ธนาตุลก็อดที่จะรู้สึกเป็นห่วงหญิงสาวไม่ได้ เอาจริงๆเขากลัวตัวเองจะคิดถึงด้วยซ้ำ แต่ด้วยเหตุผลอะไรเขาก็ยังไม่รู้หัวใจตัวเอง
“ผมกลับไปจะไปหาเครื่องปั่นไฟมาเพิ่ม คุณจะได้มีไฟใช้มากขึ้น แล้วจะซื้อเครื่องครัวมาไว้ทำกับข้าว คุณจะได้ไม่ต้องลำบาก ไว้ว่างๆจะสอนทำนะ”
“ไม่อยากให้ผู้กองไปเลย”
คำพูดเพียงสั้น ๆ กับเสียงออดอ้อนทำเอา หัวใจผู้กองหนุ่มที่มีคู่หมั้นอยู่แล้วรู้สึกหวั่นไหวแปลกๆ
“ผมก็ยังไม่อยากไปเหมือนกัน”
คำพูดที่พูดสุดแสนจะเบา เบาจนเหมือนชายหนุ่มกำลังพูดกับตัวเอง และไม่หวังให้อีกฝ่ายได้ยิน
ตอนที่6ความใกล้ชิดที่พิเศษ คืนแรกกับการขึ้นไปนอนที่ชั้นสองของบ้าน คุณครูสาวยังไม่ค่อยชินเท่าไหร่ กว่าจะหลับได้สนิทก็เกือบเช้ามืดแล้ว “ตื่นสายกว่าคุณอีกแล้ว เมื่อคืนกว่าจะหลับได้” อลิสลงมาข้างล่าง ตามกลิ่นของกาแฟที่ส่งกลิ่นหอมขึ้นไปถึงบนชั้นสอง เข้าไปในห้องนอนของเธอ “คงต้องใช้เวลาอีกสักพัก แต่ผมว่าพอคุณเหนื่อยมากๆสุดท้ายเดี๋ยวก็หลับง่ายไปเอง” ผู้กองหนุ่มยื่นแก้วกาแฟให้หญิงสาวที่ยังอยู่ในชุดนอนและกำลังยืนบิดตัวไล่ความขี้เกลียดให้ออกจากตัวเอง “หอมมากเลยนะคะ ไว้กลับไปบ้านอลิสว่าจะซื้อไปฝากพ่อ ท่านชอบกินกาแฟสดมากค่ะ” “ดีเลยครับ อุดหนุนชาวบ้าน ผมยังเคยเอาลงไปขายเลยนะ ลูกค้าที่ซื้อไปต่างก็ชอบ อีกทั้งไม่ได้ผ่านพ่อค้าคนกลาง ราคาก็ไม่แพง” ครอบครัวของธนาตุลด้วยความที่เป็นคนหัวการค้า เขาจึงเอากาแฟจากบ้านน้ำฝายและหมู่บ้านใกล้เคียงไปติดแบรนด์ของตัวเอง และขายให้กับลูกค้าที่มาซื้อทอง ร้านทองครอบครัวธนาตุลมีหลายสาขา ชายหนุ่มเอากาแฟกลับไปเท่าไหร่ก็ขายหมดแค่เพียงไม่นาน และกำไรที่ขายได้ พ่อของเขาก็ยกให้ลูกชาย ผู้กอง
ตอนที่7ฤดูฝนที่ชุ่มฉ่ำใจ เวลาผ่านไปรวดเร็วเมื่ออลิสคิดถึงวันที่ตำรวจชุดนี้ต้องถูกสับเปลี่ยน “เมื่อคืนฝนตกคุณรู้ไหม” ธนาตุลถามหญิงสาวที่เพิ่งตื่นนอนและเดินลงมาด้านล่างของบ้าน “หลับสนิทไม่รู้เรื่องเลยค่ะ” อลิสเริ่มชินกับที่นี่และเธอก็เหนื่อยกับการสอนนักเรียนจนหลับแบบไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย “เมื่อคืนฝนตกแต่ไม่หนักเท่าไหร่ เริ่มเข้าหน้าฝนแล้ว ที่นี่เวลาฝนตกจะตกแทบทั้งวัน คุณไม่ต้องแปลกใจถ้าวันไหนฝนตกตอนกลางคืน อาจจะไม่มีนักเรียนมาโรงเรียน” “ทำไมเหรอคะ” อลิสไม่เข้าใจ เพราะฝนตกช่วงกลางคืนเกี่ยวอะไรกับตอนเช้าที่เด็ก ๆต้องมาโรงเรียนด้วย “ถนนลาดยางที่คุณเห็นมันไม่ได้ตลอดนะ ถนนในหมู่บ้านเป็นดิน ถ้าฝนตกหนักมันก็จะเละไปหมด แล้วใครเขาจะเดินผ่านดินเละ ๆ มาเรียนกัน” ธนาตุลอธิบายแต่น้ำเสียงก็ดุดันนิดหน่อย เพราะชายหนุ่มอยากให้อลิสเป็นคนที่ช่างสังเกตมากกว่านี้ การใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติต้องอาศัยการสังเกตจะได้รู้และเตรียมตัวรับกับภัยธรรมชาติต่าง ๆได้ทัน “ทำเสียงดุเชียวนะคะ ฉันเพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้ย
ตอนที่8คิดถึง วันที่อลิสไม่อยากให้มาถึง แต่มันก็ต้องยอมทำใจเมื่อชุดตำรวจตระเวนชายแดนอีกชุดเดินทางมาถึงที่หมู่บ้าน ชุดของผู้กองธนาตุลก็ได้พัก ตำรวจหลายคนก็คิดถึงภรรยาและลูกๆกันจะแย่อยู่แล้ว “ดูแลตัวเองให้ดีนะคุณครู แล้วผมจะซื้อของมาฝาก ไม่งอแงนะคนเก่ง” เมื่อรถของชายหนุ่มเคลื่อนออกจากหมู่บ้าน อลิสก็หันหลังให้ทันที เพราะเธอกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว “ร้องไห้ตามผู้กองธนาตุลหรือครับคุณครู” เสียงทักทายดังมาจากด้านหลัง แต่เป็นเสียงที่น่าจะมีอายุน้อยกว่าบิดาของอลิสไปกี่ปี “สวัสดีค่ะ หนูชื่อลิสนะคะ คุณคงเป็นผู้กองสุชาติใช่ไหมคะ” “ใช่ ผมผู้กองสุชาติ ดูแล้วครูน่าจะอายุเท่าๆกับลูกสาวผม ยังเป็นเด็กสาวต้องมาอยู่ไกลพ่อไกลแม่แบบนี้ ลำบากหน่อยนะ” น้ำเสียงและท่าทางของผู้กองสุชาติ แสดงถึงความเข้มแข็งและมากด้วยประสบการณ์ ถึงแม้เขาจะส่งยิ้มให้หญิงสาว แต่เธอกลับรู้สึกทั้งเคารพและก็เกรงใจ ไม่กล้าจะตีสนิทด้วย “ขอบคุณหนูนะที่เสียสละทิ้งความสบายมาเลือกลงโรงเรียนที่นี่ หลายปีแล้วที่โรงเรียนบ้านน้ำฝายต้องให้ครูชะลอมาคอยสอน
ตอนที่9แล้วเขาก็กลับมา วันนี้แล้วที่ผู้กองจะต้องมาที่หมู่บ้าน อลิสอารมณ์ดีตั้งแต่เช้า เพราะเหมือนกับการรอคอยของเธอจะสมหวังวันนี้แล้ว “วันนนี้ครูยิ้มทั้งวันเลย” เด็กน้อยจากหมู่บ้านข้างเคียง พูดกับอลิสเมื่อมายินรอส่งแบบฝึกหัดแล้วเห็นครูของเธอนั่งยิ้มคนเดียว “วันนี้นักเรียนของครูทุกคนน่ารัก ครูก็เลยยิ้มได้ทั้งวัน” เมื่อตอบตามตรงเด็กน้อยคงไม่เข้าใจ หญิงสาวจึงคิดคำตอบที่เข้าใจง่ายๆ ตอบหนูน้อยไป เสียงรถตำรวจที่กำลังวิ่งเข้ามาในหมู่บ้าน ทำให้หัวใจของหญิงสาวเต้นแรง เพราะหมายความว่าเธอกำลังจะได้เจอหน้ากับ ผู้กองธนาตุล “เก็บหนังสือเข้าที่ การบ้านใส่กระเป๋าให้เรียบร้อย โรงเรียนหยุดสองวัน เจอกันอีกทีวันจันทร์นะคะทุกคน” หญิงสาวไม่กล้าที่จะเดินไปในหมู่บ้านถึงแม้จะอยากไปแค่ไหน แต่ก็ได้แต่รอให้ผู้กองเสร็จธุระในหมู่บ้านแล้วคงมาที่บ้านพักครูเอง เวลาผ่านไปนาน นานจนคนรอเริ่มรู้สึกใจคอไม่ดีแล้ว เพราะมองไปทางเดินที่เป็นเส้นทางจากหมู่บ้านมายังบ้านพักครู เธอก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของชายหนุ่มที่เธอรอคอย “คร
ตอนที่10ทะเลหมอกและสองเรา “แบบนี้เขาไม่เรียกตื่นเช้า เขาเรียกตื่นตั้งแต่มืดต่างหาก มืดแบบนี้จะมองเห็นเหรอทะเลหมอกของผู้กอง” อลิสหงุดหงิดที่ถูกปลุกให้ตื่นตั้งแต่เช้ามืดแบบนี้ เพราะแค่ทุกวันนี้เธอต้องตื่นเช้าเพื่อมาเตรียมอาหารเช้า และเตรียมมาสอน ก็ต้องใช้ควาพยายามในการเปลี่ยนตัวเองมากพออยู่แล้ว “เด็กในเมืองก็แบบนี้ พอโดนปลุกให้ตื่นตอนเช้ามืดก็ทำเป็นไม่พอใจ แล้วแบบนี้จะมาเป็นครูบนดอย ผมว่าคุณทนอยู่ที่นี่ได้ไม่ถึงปี เดี๋ยวก็ต้องหาทางลงไปสอนในเมืองแน่ๆ” ธนาตุลรู้ว่าถ้าเขาพูดดี ๆ ไม่มีทางที่หญิงสาวจะหายง่วงนอน เขาเลยแกล้งพูดยั่วโมโห แล้วมันก็ได้ผลจริงๆ “คอยดูแล้วกัน ฉันก็แกล้งบ่นแกล้งง่วงไปอย่างนั้นแหละ ตอนคุณไม่อยู่ฉันก็ตื่นเช้าทุกวัน เลิกคิดว่าฉันต้องเป็นลูกคุณหนูและทนความลำบากที่นี่ไม่ได้เสียที” เมื่อเห็นอีกฝ่ายโมโห ผู้กองกลับทั้งหัวเราะและยิ้ม จนหญิงสาวต้องเอียงตัวเพื่อหันหน้ามามองเขาด้วยความสงสัย “ผู้กองขำอะไร” หญิงสาวกระแทกเสียงถาม “ขำคนที่โดนยั่วโมโหจนหายง่วงเลย เอ๊ย!..ไม่ใช่ ไม่ได้ง่วงลืมไป ผ
ตอนที่11วันเวลาที่ผ่านไป วันเวลาเดินทางไปเร็วเสมอ เมื่อผู้กองธนาตุลมาอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ “อีกไม่กี่วันคุณก็ต้องกลับลงไปข้างล่างแล้ว เฮ้อ! เวลามันเดินไวจริง ๆนะคะ” “คุณคิดถึงผมใช่ไหม” คำถามที่ดูแล้วคนถามอยากรู้คำตอบจริง บวกกับบรรยากาศที่ร่มรื่นเย็นสบายริมน้ำตกที่สงบเงียบไม่มีคน ทำให้อลิสรู้สึกกล้าที่จะพูดความจริงกลับไป “คิดถึง แล้วผู้กองล่ะคะ เวลาที่ไม่เจอกัน คุณคิดถึง อลิสเหมือนกันไหม” “ไม่เหมือน” คนฟังถึงกับรู้สึกใจหาย เมื่อคำตอยที่ได้ ไม่ใช่อย่างที่เธอคาดหวังไว้ “ไม่เป็นไรค่ะ อลิสคิดถึงผู้กองอย่างเดียวก็พอ”หญิงสาวพูดด้วยเสียงน้อยใจ และหันหน้าไปอีกทางเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้ว่าตอนนี้หัวใจของเธอมันรู้กำลังรู้สึกเหมือนคนอกหัก“ที่บอกไม่เหมือน เพราะผมคิดว่า ผมคิดถึงคุณ มากกว่าที่คุณคิดถึงผม”“เหรอคะ”คนฟังหันมายิ้มมุมปากแบบไม่เชื่อ อลิสคิดว่าชายหนุ่มคงแค่ต้องการพูดให้เธอรู้สึกดีขึ้น“ทำเสียงแบบนี้แปลว่าไม่เชื่อ คุณรู้ไหมผมกลับบ้านไป ส่วนมากก็ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวและอีกอย่างที่ผมทุ่มเวลาให้คือการหารซื้อ
ตอนที่12ปัญหาของหัวใจ “คราวนี้ทำไมเอารถไปเองล่ะคะพี่ตุล” ฉัตรฤดีคู่หมั้นสาวมานั่งรอธนาตุลที่บ้านของฝ่ายชายตั้งแต่บ่าย “ขนของไปหลายอย่างเลยไม่อยากเป็นภาระให้ลูกน้องต้องลำบาก” ชายหนุ่มอธิบาย “คราวนี้ลูกชายแม่เขาขนของเหมือนกับจะย้ายไปอยู่ที่นั่นเลย โทรทัศน์ ตู้ โต๊ะ เต็มรถไปหมด” ศยามลแซวผู้เป็นลูกชาย “ผมอาจจะย้ายไปอยู่ที่นู่นจริงก็ได้นะครับ คุณแม่ก็รู้ว่าผมซื้อที่ไว้แล้ว อีกไม่นานก็คงปลูกบ้าน ความฝันของผมคือการได้ไปอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติแบบนั้น” “มาเหนื่อยๆเข้าไปในบ้านกันดีกว่าค่ะ” ฉัตรฤดีเห็นสองคนแม่รู้เริ่มจะดูพูดจาจริงจังกันเกินไป เธอยังไม่อยากให้ทั้งคู่ต้องมาทะเลาะกันในวันแรกของการกลับมาของธนาตุล “หนูฉัตรเขามารอลูกตั้งแต่บ่ายแล้ว ปกติเคยเห็นเย็นๆก็มาถึง ทำไมคราวนี้มาถึงมืดเลย” ศยามลพยายามชวนคุย เพราะเห็นท่าทางที่ลูกชายแสดงกับคู่หมั้นแล้วรู้สึกไม่สบายใจ “ความจริงน้องฉัตรไม่ต้องมารอพี่ก็ได้นะ เพราะอีกหน่อยพี่อาจไม่ได้กลับตามวันเวลาปกติ ตอนนี้พี่เริ่มเตรียมปลูกบ้านแล้ว ถ้าช่างว่างเมื่อไหร่คง
ตอนที่13เปิดตัว ปัญหาที่ค้างคาใจในความรู้สึกของธนาตุลก็ได้ถูกปลดปล่อยแล้ว ชายหนุ่มก็เดินหน้าในการที่จะสร้างบ้านบนที่ดินที่เขาซื้อไว้บนดอยบ้านน้ำฝางให้สำเร็จ “ตัดสินใจดีแล้วนะลูก” นพดลเดินมานั่งข้างๆลูกชายที่กำลังดูแบบบ้านที่เพื่อนของธนาตุลเอาแบบมาให้เลือกที่น่าจะเหมาะกับการปลุกบนภูเขา “แน่ใจที่สุดเลยครับคุณพ่อ ผมก็ไม่รู้ทำไมผมถึงได้หลงรักที่นั่นมากขนาดนี้ ไว้บ้านเสร็จผมจะพาคุณพ่อคุณแม่ไปเที่ยวนะครับ” “นอกจากหลงรักธรรมชาติที่นั่นแล้ว ยังมีอย่างอื่นอีกไหมที่ลูกชายของพ่อหลงรัก” นพดลสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของลูกชายตั้งแต่กลับมาจากบนดอยคราวก่อนแล้ว แต่เพิ่งมาแน่ใจก็ตอนที่ธนาตุลตัดสินใจยกเลิกการหมั้นหมายกับฉัตรฤดี เขากำลังคิดว่าลูกชายของเขากำลังมีความรัก “คุณพ่อนี่ อยู่ดี ๆ ก็มาแซวผม มาช่วยผมเลือกแบบบ้านดีกว่า” ชายหนุ่มตัดสินใจว่าจะยังไม่เล่าเรื่องนี้ให้พ่อกับแม่ของเขาฟัง แต่จะพาหญิงสาวมาแนะนำถึงที่บ้านแทน เวลาผ่านไปจนใกล้เวลาที่เขาจะต้องกลับไปที่บ้านน้ำฝาย ธนาตุลจ้างรถขนอุปกรณ์ก่อสร้างบางส่วนขึ้นไปเ