ตอนที่ 8
เธอคือของขวัญ
กิจการอู่ซ่อมรถของราเชนโตขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะเขามีวัยรุ่นแถวบ้านเป็นผู้สนับสนุนอยู่แล้ว เวลาเด็ก ๆ มาซ่อมรถบางครั้งเขาก็ไม่เก็บเงิน เพราะเข้าใจว่าเวลาไม่มีเงินชีวิตมันเป็นอย่างไร
ร้านข้าวแกงของนาเดียร์จากตอนแรกตั้งใจจะขายแค่ วันละสี่ถึงห้าอย่าง ตอนนี้กลายเป็นร้านข้าวแกงที่ใหญ่และหมดเร็วมาก
วิภาต้องหาลูกจ้างมาช่วยทำเพราะเขาทำคนเดียวไม่ไหว ส่วนลูกสะใภ้ก็ต้องรีบไปเปิดร้าน
ราเชนสังเกตภรรยามาหลายวันแล้ว นาเดียร์มีอาการ เวียนหัวเหมือนคนอยากจะเป็นลมตลอด และตอนนี้ที่หนักสุดคือเธอเหม็นอาหารบางอย่าง จนต้องคอยเก็บเงินอย่างเดียวและ จ้างคนมาตักแกง
“เดียร์ไปหาหมอไหม ผมคิดว่าคุณไม่สบายนะ”
หญิงสาวเดินมากอดสามี เธอมีคำตอบอยู่หลายวันแล้วแค่รอว่าเมื่อไหร่ราเชนจะถามว่าที่เธอมีอาการแปลกเธอเป็นอะไร
“ไม่ต้องไปหาหมอหรอกค่ะ เพราะเดียร์รู้ว่าอาการที่เป็นอยู่เกิดจากอะไร รอก็แต่ช่างเชนเมื่อไหร่จะถามสักที”
ชายหนุ่มยังคงไม่เข้าใจว่าภรรยาของเขาหมายถึงอะไรกัน แล้วทำไมรู้แล้วถึงไม่บอกต้องรอให้เขาถาม และดูจากใบหน้าที่มีความสุข ราเชนยิ่งเดาไม่ถูกเลย
“เดียร์ไม่เอาไม่สนุกเลยเล่นแบบนี้ มีอะไรก็ต้องบอกกัน เชนก็ยุ่งกับอู่ทั้งวัน กว่าเราจะได้เจอหน้ากันจริงจังก็มืดแล้ว”
“อย่าหงุดหงิดนะคะคุณพ่อ”
ราเชนมองหน้าภรรยาด้วยสายตาที่ดีใจจนไม่รู้ว่าเขาควรจะทำตัวอย่างไรดี
“ตกใจเหรอคะ”
“เดียร์คุณใจร้ายมากเพิ่งจะบอกผม นี่เรากำลังจะมีลูกกันแล้ว ผมจะเป็นพ่อคุณจะเป็นแม่เหมือนฝันเลย ขอบคุณนะที่ทำให้ผมได้เป็นพ่อและเราได้เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ ”
หญิงสาวตัดสินใจที่จะพาราเชนไปพบพ่อกลับแม่หลังจากที่เธอออกมาอยู่กับเขาได้ครึ่งปีแล้ว
ดารากับธงชัยเจอลูกเขยคนใหม่ครั้งแรก ทั้งคู่ต่างพยายามที่จะไม่แสดงท่าทางอะไรเพราะตอนนี้ความสุขของลูกสาวสำคัญกว่า
“เป็นอย่างไรบ้างที่อู่” ธงชัยชวนลูกเขยคุยเรื่องงาน
“กำลังไปได้ดีครับ รถเต็มร้านทุกวัน เราคิดราคาไม่แพงจริงใจไม่หลอก ลูกค้าก็บอกกันปากต่อปาก ตอนนี้ก็เริ่มรับรถมือสองมาขายบ้างครับ กำไรดีแต่ก็ต้องเลือกหน่อยเอาที่ไม่ลงทุนสูง”
ธงชัยฟังคำพูดของราเชนเขารู้สึกว่า เด็กหนุ่มตรงหน้าพูดจาดูมีหลักมีเกณฑ์ไม่ใช่แค่พอใจกับการมีกินไปวัน ๆ อนาคตน่าจะเติบโตในเรื่องของงานที่ทำมากกว่านี้
“ก็ดี เริ่มจากเล็ก ๆ ค่อย ๆ โตไป ธุรกิจทุกอย่างมีช่วงรุ่งและช่วงล่วง บริหารจัดการให้เป็น”
ดาราเห็นลูกสาวยิ้มตลอดเหมือนมีเรื่องอะไรที่มีความสุขและอยากจะบอกเธอกับสามี
“ลูกสาวแม่ยิ้มแปลก ๆ มีอะไรหรือเปล่า ทำท่าเหมือนคนมีอะไรตื่นเต้น”
นาเดียร์ลุกขึ้นไปกอดมารดา ทำท่าตื่นเต้นเพื่อให้ทั้งพ่อและแม่ของเธออยากรู้
“ไม่รู้ว่าตากับยายจะดีใจไหมที่กำลังจะมีหลาน”
ดารามองหน้าทั้งลูกสาวและลูกเขย เพราะเธอคิดว่าทั้งคู่คงไม่คิดเรื่องมีลูกกัน เพราะเห็นวัยรุ่นสมัยนี้บางคนแต่งงานแล้วก็ไม่อยากเสียอิสระภาพจึงไม่ยอมมีลูก
“ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ นะ การมีลูก”
ธงชัยเปลี่ยนท่าทางทันที เขาดูจริงจังและหันมามองราเชนด้วยสายตาที่เคร่งขรึม
“จะเป็นพ่อคนแล้วไม่ใช่แค่ดีใจที่จะมีลูก แต่มันเหมือนชีวิตเราจะเปลี่ยนไปทุกอย่าง อะไรที่เคยทำบางครั้งเราก็ต้องเลิกอะไรที่ไม่เคยทำก็ต้องฝึก มันเป็นเรื่องใหญ่นะการที่เราต้องเลี้ยงชีวิตที่จะเกิดมาให้ดีที่สุด”
ราเชนพยักหน้าเข้าใจในสิ่งที่พ่อตาพูด เพราะตัวเขาเองก็คิดไม่ต่างกัน ทุกวันนี้ที่เขาสามารถมีอู่มีร้านได้ ส่วนหนึ่งก็มาจากสมบัติที่บิดาของเขาสร้างไว้เพื่อเป็นรากฐานให้เขากับแม่ เขาจึงไม่เคยลืมเรื่องแบบนี้
“ผมเตรียมเงิบเก็บไว้ก้อนหนึ่งแล้วครับ เพราะเงินกำไรที่ได้มาผมจะแบ่งเป็นส่วน ๆ และส่วนหนึ่งก็เก็บไว้สำหรับมีตัวน้อยด้วย ถึงแม้เขามาเร็วกว่าที่คิดแต่ทุกอย่างก็พร้อมครับ ส่วนเรื่องเที่ยวเตร่กินเหล้าสูบบุหรี่ผมไม่ยุ่งอยู่แล้ว ก็คงเหลือแต่การที่จะต้องเรียนรู้การเป็นพ่อที่ดี ที่คงจะต้องศึกษาดูตัวอย่างไป”
ธงชับจับบ่าลูกเขย เขาได้ยินแบบนี้ก็สบายใจเพราะสิ่งที่เขาห่วงไม่ใช่เรื่องเงินแต่เขากลัวว่าในเมื่อราเชนเคยทำงานในบาร์เขาจะยังติดใช้ชีวิตวัยรุ่นอยู่
“แม่คะไหนต้นไม้ที่แม่บอกว่ากิ่งมันติดบ้านแล้วกลัวมันจะทำหลังคาแตกเดี๋ยวเดียร์ให้เชนตัดให้ค่ะ”
ดาราทำท่าไม่เชื่อว่าราเชนจะปีนขึ้นไปบนต้นไม้และตัดกิ่งลงมาได้
“ผมทำได้ครับ”
คนทำรับรองว่าตัวเองทำได้ ดาราจึงเรียกลุงคนสวนที่อายุมากแล้วให้พาราเชนไปแล้วให้คอยช่วย เพราะเธอกับธงชัยมีเรื่องอยากจะคุยกับลูกสาว
“เดียร์ลูกรู้เรื่องวิธานไหม” ดาราทำเสียงกระซิบ
“ก็รู้แค่ว่าเขากำลังจะมีลูกและก็ไม่รู้ข่าวอีกเลย เพราะเดียร์ไม่ให้เขาติดต่อได้สักทางเลยค่ะ”
ธงชัยทำท่าเครียดเพราะเขากลัวอยู่ลึก ๆ ว่าชีวิตครอบครัวของลูกสาวอาจจะไม่สงบสุขถ้าวิธานรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน
“วิธานเป็นหมันเด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกของเขา และตัวผู้หญิงก็ไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อ ตอนนี้วิธานก็เมามายทุกวัน และเมื่อเร็ว ๆ นี้เขามาหาลูกที่นี่ พ่อก็บอกกับเขาไปแล้วว่าลูกมีครอบครัวใหม่ให้เขาไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้แล้ว”
นาเดียร์ทำท่าตกใจ เธอไม่คิดว่าวิธานยังจะต้องการกลับมาดีกับเธอในเมื่อเขาเป็นคนขอหย่าและทำร้ายเธอทุกทาง
“เขาจะไปหาลูกที่บ้านของเชนไหม ลูกกลัวค่ะ”
ธงชัยจับมือลูกสาวเพราะเขาไม่กลัวว่าวิธานจะไปทำร้ายนาเดียร์แต่ที่เขากลัวมันคือการทำดีแล้วลูกสาวของเขาจะหวั่นไหว หรือไม่ก็อาจสร้างความระแวงให้ราเชนได้
“ฟังพ่อนะลูก ที่น่ากลัวคือคำว่าสามีเก่า พ่อเป็นผู้ชายพ่อเข้าใจถ้าวิธานตามลูกเจอและพยายามขอคืนดี ราเชนต้องระแวงแน่นอน และวันนั้นครอบครัวลูกจะมีปัญหาและไหนจะลูกในท้องอีก คุยกับสามีลูกให้เข้าใจก่อนที่ปัญหาจะเกิด”
นาเดียร์ลืมคิดเรื่องนี้ไปเลย เพราะหัวใจของเธอลืมวิธานจนหมดสิ้นแต่เธอก็ไม่รู้ว่าราเชนจะคิดเหมือนเธอไหม ลึก ๆ เขาอาจจะคิดมาตลอดก็ได้ว่าเธอยังไม่ลืมสามีเก่า
หญิงสาวตั้งใจที่จะกลับไปคุยเรื่องนี้กับสามีในคืนนี้แต่ไม่ทันเพราะทั้งคู่เจอหน้ากับวิธานตอนที่กำลังจะขึ้นรถเพื่อกลับบ้าน
ตอนที่ 9สามีที่เป็นอดีต “เดียร์ พี่ขอโทษ พี่ขอโทษ” วิธานจอดรถขวางหน้าบ้าน เขาพุ่งตัวมากอดหญิงสาวอย่างที่ทุกคนไม่มีใครคาดคิด ต่างตกใจเพราะไม่มีใครเห็นเลยว่าเขามาตอนไหน รู้กันอีกทีวิธานก็ถึงตัวนาเดียร์แล้ว “ปล่อย เดียร์บอกให้ปล่อย” วิธานยังคงกอดอดีตภรรยาแน่น ด้วยความตกใจราเชนพุ่งตรงเข้าต่อยสามีเก่าของภรรยาจนล้มลงไปกองกับพื้น เพราะวิธานมาในสภาพที่เมาจนยืนเซไปเมา พอเจอหมัดหนักเข้าไปก็ล้มทั้งยืน “มึงเป็นใคร กูจะให้แม่กูแจ้งตำรวจจับมึง มึงใช่ไหมที่พาเมียกูหนี” วิธานยังลุกไม่ขึ้นแต่ก็ยังโวยวายปากกล้า ทำท่าจะเอาเรื่องกับราเชนให้ได้ “ไหนเมียมึงตรงนี้มีแต่เมียกู” ราเชนไม่ยอม ธงชัยเห็นสถานการณ์ดูแล้วถ้ายังยืนปะทะคำพูดกันแบบนี้ วิธานเจ็บหนักแน่นอน “เดียร์พาเชนเข้าไปในบ้าน ดาราคุณโทรศัพท์หาศิริให้เขามาเก็บลูกเขาไป ไม่อย่างนั้นเราจะแจ้งความข้อหาบุกรุก” “กูจะเอาเมียกูคืนไอ้กระจอกมึงมันรวยสู้กูไม่ได้หรอก” วิธานยังคงตะโกนตามหลังราเชน ทั้งที่ตัวเองก็ยังเลือดกบปากอยู่ นาเดียร์ไม่คิดว่าสิ่งที่เธอก
ตอนที่ 10เพราะเธอคือที่สุดของหัวใจ วิธานยังไม่ละความพยายาม เขาทำตัวใหม่และเข้าหาทางพ่อและแม่ของอดีตภรรยา เพราะตอนนี้เขาอยากได้ทั้งภรรยาคืนและอยากได้ลูกในท้องด้วย ตัวเขาเองไม่สามารถมีลูกได้และเขาก็ไม่คิดจะพึ่งหมออยู่แล้ว ดาราเห็นการเปลี่ยนแปลงในตัวอดีตลูกเขย เธอก็เริ่มใจอ่อนสงสาร แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะบังคับให้ลูกสาวของเธอกลับมาคืนดี เพียงแต่เธอคงต้องคุยกับนาเดียร์จริงจังอีกสักรอบ ก่อนที่เธอจะบอกให้วิธานเลิกหวังเถอะ “เดียร์แม่แค่จะมาถามลูกอีกครั้ง แม่ยอมรับว่าแม่เริ่มสงสารวิธานเพราะเขากลับมาทำตัวดี แต่แม่ก็ไม่เคยลืมว่าเขาเคยทำอะไรกับเดียร์นะลูก” “คุณแม่อยากถามอยากพูดอะไรกับเดียร์พูดได้เลยค่ะ ลูกเข้าใจ” “วิธานเขายังรักลูกอยู่และเขาคงเป็นพ่อที่มีหน้ามีตาให้กับหลานของแม่ได้ แต่ถ้าลูกเลือกคนที่ลูกรักชีวิตก็ต้องมีขวากหนามความลำบาก คำดูถูกเข้ามาบ้าง ลูกก็ต้องเข้มแข็ง เอาเป็นว่าลูกตัดสินกับแม่อีกครั้งแล้วแม่จะได้ไปบอกกับวิธานให้รู้เรื่อง” “เดียร์รักราเชนและจะรักเขาคนเดียวตลอดไปค่ะแม่ เขาคือผู้ชายที่ทำเพื่อเดียร์มาตลอด เ
ตอนที่1การเดินทางตามเส้นทางของความฝัน “คุณพ่อกับคุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วง ทุกคนที่นั่นจะดูแล อลิสเป็นอย่างดีค่ะ” วันนี้เป็นวันที่อลิสลูกสาวสุดที่รักของอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนวิทยากับแพทย์หญิงมุกดาต้องเดินทางไปรายงานตัวและเข้ารับการบรรจุทันที ที่โรงเรียนบ้านน้ำฝายที่อยู่ติดกับตะเข็บชายแดนไทยพม่า “พ่อกับแม่ส่งหนูแค่นี้นะลูก ดูแลตัวเองดีๆ ทำงานที่ลูกรักให้มีความสุข” วิทยากับมุกดาส่งลูกสาวแค่เพียงตัวจังหวัด โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน ทำหน้าที่มารับอลิสไปส่งยังหมู่บ้านอีกที “ ผมร้อยตำรวจเอกธนาตุล ได้รับมอบหมายให้มาทำหน้าที่ดูแลการเดินทางของคุณครูอาริสา “ ชายหนุ่มในชุดตำรวจแนะนำตัวให้พ่อและแม่ ของอลิสรู้ว่าเขาคือใครและมาทำหน้าที่อะไรในเวลานี้ “ฝากด้วยนะคะ”มุกดาทำท่าจะยกมือไหว้แต่ธนาตุลจับมือเธอไว้ก่อน เพราะเขาอายุน้อยกว่าเธอหลายปี“ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ทางกองร้อยของเราจะมีตำรวจผลัดเปลี่ยนกันไปดูแลคุ้มครองชาวบ้านตลอดทั้งปีครับ”เมื่อนายตำรวจพูดถึงการดูแล มุกดาและวิทยาก็พอสบายใจขึ้นมาบ้างทั้งสองคนไม่เต็มใจนั
ตอนที่2คุณครูคนใหม่ ถึงแม้ว่ากว่าจะมาถึงก็มืดมากแล้ว แต่ชาวบ้านหลายคนยังคงรอต้อนรับครูใหม่ อยู่ที่หน้าโรงเรียน “พวกเราชาวบ้านน้ำฝาย ยินดีต้อนรับคุณครูคนใหม่ครับ” สิ้นสุดคำทักทายของผู้ใหญ่บ้านก็ตามมาด้วยเสียงปรบมือของทุกคนที่มายืนรอ ผู้ใหญ่บ้านและภรรยาเดินนำคุณครูคนใหม่ โดยมีบรรดาตำรวจและชาวบ้านช่วยกันขนของเดินตามมาที่บ้านพักครู ซึ่งอยู่ติดกับอาคารเรียน “พวกเราทำความสะอาดไว้ให้เรียบร้อยแล้วนะครับ” “แล้วหนูต้องนอนที่นี่คนเดียวเหรอคะ” อลิสถามผู้ใหญ่บ้าน เพราะบ้านพักครูอยู่ห่างจากบ้านของชาวบ้านอยู่พอสมควร แต่ก็ไม่เกินร้อยเมตร “ห้องข้างล่างผมอยู่” ธนาตุลตอบแทนผู้ใหญ่ “แต่ถ้าเปลี่ยนเวร ตำรวจที่มาแทนผมเขาจะนอนที่เรือนหลังเล็กที่อยู่ด้านหน้าโรงเรียน” ผู้กองอธิบายแต่มันก็ไม่ทำให้สีหน้าของครูคนใหม่ดีขึ้นเลย เพราะถ้าธนาตุลไม่อยู่เธอก็ต้องนอนคนเดียวอยู่ดี “คุณครูไม่ต้องกลัวไปหรอกจ้า เดี๋ยวพวกเด็กๆมันก็แย่งกันมาขอนอนด้วยทุกคืน” ภรรยาของผู้ใหญ่บ้านพูดให้คนตัวเล็กสบายใจมากขึ้น “แล้
ตอนที่3เช้านี้ที่หมู่บ้านกลางหุบเขา “หนาวไหม” ชายหนุ่มถามเมื่อเห็นว่า หญิงสาวนอนห่มผ้าห่มผืนบาง และกอดไว้แน่น “หนาวสิถามได้ ตอนแรกก็สงสัยว่าที่นี่ไม่มีไฟใช้แล้วเขาไม่ร้อนกันเหรอ ที่แท้กลางคืนอากาศอย่างกับอยู่เมืองนอกเลย” ชายหนุ่มถามเพียงสั้นๆ แต่คนตอบ ตอบเสียยืดยาวเพราะ อลิสรู้สึกเริ่มคุ้นเคย สนิทสนมกันแล้ว “ถ้าอย่านั้นเอาผ้าห่มคุณมาแลกกับของผม” “แล้วคุณก็หนาว ทำเป็นพระเอกอีกแล้ว ” อลิสพูดจบก็ลากที่นอนมาติดกับของชายหนุ่ม และคว้าผ้าห่มผืนหนาของผู้กองมาห่มตัวเธออีกชั้นหนึ่ง “ห่มด้วยกันก็หมดเรื่อง ราตรีสวัสดิ์นะคะ” ธนาตุลได้แต่นอนมองหญิงสาวที่อยู่ดีๆก็ลุกมานอนข้างเขา แถมห่มผ้าห่มผืนเดียวกันอีก เพิ่มความรู้สึกที่ปั่นป่วนท้อง หัวใจเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก สิ้นเสียงอลิสก็หลับสนิท แถมมีเสียงกรนเบาๆยืนยันว่าเธอหลับจริงดังออกมาด้วย ธนาตุลพยายามสวดมนต์ก็แล้ว นับหนึ่งถึงร้อยก็แล้ว แต่มันกลับนอนไม่หลับ เขาจึงหันมามองใบหน้าคุณครูคนใหม่ที่กำลังหลับใหลให้ชัด เพราะเมื่อกลางวันยังมองไม่ถนัดเลย
ตอนที่4ขอนอนด้วยนะคะ เมื่อได้ที่นอนแล้ว อลิสก็ยังขอนอนกับผู้กองอีกหนึ่งคืน เพราะห้องยังไม่มีข้าวของมันทำให้ดูโล่งน่ากลัว ชายหนุ่มก็ทำได้แค่ต้องยอมทำตาม อาหารเย็นวันนี้ผู้ใหญ่บ้าน จัดงานเลี้ยงต้อนรับครูใหม่ เป็นงานเลี้ยงเล็กๆ ที่แสนน่ารัก หญิงสาวได้รู้จักเด็กๆในหมู่บ้านหลายคน โดยเฉพาะฟองจันทร์ลูกสาวผู้ใหญ่ดูจะชอบคุณครูคนใหม่เป็นพิเศษ “พวกเราขอต้อนรับคุณครูคนใหม่ของเราอย่างเป็นทางการอีกครั้ง เธอชื่อคุณครูอลิส ขอให้พวกเราทุกคนช่วยกันดูแล และช่วยเหลือ เพื่อคุณครูจะได้อยู่ที่นี่กับเราไปนานๆ” ผู้ใหญ่บ้านแนะนำหญิงสาวอีกครั้ง โดยครั้งนี้ทางผู้ใหญ่ขอนัดชาวบ้านที่ว่าง พรุ่งนี้ให้มใช่วยกันทำความสะอาดดรงเรียน เพื่อเด็กๆจะได้เรียนหนังสือกันเสียที “พวกผมจะอยู่ที่นี่อีก13วัน และจะมีตำรวจชุดใหม่มาสับเปลี่ยนเช่นเคย นำทีมโดนผู้กองสุชาติ เรื่องที่ผมติดค้างไว้ เกี่ยวกับการหาวิธีการเพิ่มพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อให้พวกเรามีไฟใช้มากขึ้น ตอนนี้มีห้างร้านต่างๆบริจาคเงินมาจำนวนหนึ่ง ผลัดต่อไป ผมและลูกน้องจะมาลงมือจัดการทันที แต่ครั้งนี้เรายังหาซื้ออุปรณ์ได้ไม่พร้อ
ตอนที่5 วันแรก โรงเรียนพร้อมแล้ว นักเรียนจากหมู่บ้านบ้านน้ำฝายและหมู่บ้านใกล้เคียงที่เดินทางไม่ไกลมากนัก พ่อแม่ผู้ปกครองต่างก็พาลูกหลานมาส่งที่โรงเรียนเพราะได้ยินข้าวจากผู้ใหญ่บ้าน ว่าโรงเรียนพร้อมจะเปิดเรียนแล้ว “พร้อมหรือยังครับคุณครู”ชายหนุ่มในชุดตำรวจถามหญิงสาวที่กำลังยืนรอนักเรียนอยู่ที่หน้าเสาธง“พร้อมค่ะคุณตำรวจ แต่วันนี้คุณต้องช่วยอลิสสอนวิชาคณิตศาสตร์ก่อนนะคะ ”เมื่อคืนอลิสได้ขอให้ธนาตุลและลูกน้องช่วยเธอสอนก่อนในช่วงเปิดเรียนแรกๆเพราะเธอยังต้องการจะทดสอบแยกนักเรียนแต่ละชั้นออกจากกัน “ได้ครับคุณครู ลูกน้องผมของจองเด็กเล็กๆสอนฝึกคัดลายมือ ส่วนผมขอคณิตศาสตร์ นอกนั้นคุณครูจัดการเองนะครับ” ธนาตุลทำท่าทางล้อเลียนเหมือนคนที่กำลังทำตามคำสั่งคุณครูจนหญิงสาวอดหัวเราะไม่ได้ นักเรียนมาพร้อมแล้ว อลิสแบ่งเป็นแถว แถวละห้าคน มีทั้งหมดหกแถว มีฟองจันทร์ทำหน้าที่นำร้องเพลงชาติและสวดมนต์ ช่วงเช้าคุณครูคนใหม่เรียกนักเรียนเข้ามาทดสอบความรู้ทางการอ่านและการเขียนภาษาไทย ก่อนจะส่งไปให้ ธนาตุลช่วยทดสอบวิชาคณิตศาสตร์ให้ ก่อนที่คืนนี้จะเอ
ตอนที่6ความใกล้ชิดที่พิเศษ คืนแรกกับการขึ้นไปนอนที่ชั้นสองของบ้าน คุณครูสาวยังไม่ค่อยชินเท่าไหร่ กว่าจะหลับได้สนิทก็เกือบเช้ามืดแล้ว “ตื่นสายกว่าคุณอีกแล้ว เมื่อคืนกว่าจะหลับได้” อลิสลงมาข้างล่าง ตามกลิ่นของกาแฟที่ส่งกลิ่นหอมขึ้นไปถึงบนชั้นสอง เข้าไปในห้องนอนของเธอ “คงต้องใช้เวลาอีกสักพัก แต่ผมว่าพอคุณเหนื่อยมากๆสุดท้ายเดี๋ยวก็หลับง่ายไปเอง” ผู้กองหนุ่มยื่นแก้วกาแฟให้หญิงสาวที่ยังอยู่ในชุดนอนและกำลังยืนบิดตัวไล่ความขี้เกลียดให้ออกจากตัวเอง “หอมมากเลยนะคะ ไว้กลับไปบ้านอลิสว่าจะซื้อไปฝากพ่อ ท่านชอบกินกาแฟสดมากค่ะ” “ดีเลยครับ อุดหนุนชาวบ้าน ผมยังเคยเอาลงไปขายเลยนะ ลูกค้าที่ซื้อไปต่างก็ชอบ อีกทั้งไม่ได้ผ่านพ่อค้าคนกลาง ราคาก็ไม่แพง” ครอบครัวของธนาตุลด้วยความที่เป็นคนหัวการค้า เขาจึงเอากาแฟจากบ้านน้ำฝายและหมู่บ้านใกล้เคียงไปติดแบรนด์ของตัวเอง และขายให้กับลูกค้าที่มาซื้อทอง ร้านทองครอบครัวธนาตุลมีหลายสาขา ชายหนุ่มเอากาแฟกลับไปเท่าไหร่ก็ขายหมดแค่เพียงไม่นาน และกำไรที่ขายได้ พ่อของเขาก็ยกให้ลูกชาย ผู้กอง