ตอนที่ 10
เพราะเธอคือที่สุดของหัวใจ
วิธานยังไม่ละความพยายาม เขาทำตัวใหม่และเข้าหาทางพ่อและแม่ของอดีตภรรยา เพราะตอนนี้เขาอยากได้ทั้งภรรยาคืนและอยากได้ลูกในท้องด้วย ตัวเขาเองไม่สามารถมีลูกได้และเขาก็ไม่คิดจะพึ่งหมออยู่แล้ว
ดาราเห็นการเปลี่ยนแปลงในตัวอดีตลูกเขย เธอก็เริ่มใจอ่อนสงสาร แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะบังคับให้ลูกสาวของเธอกลับมาคืนดี เพียงแต่เธอคงต้องคุยกับนาเดียร์จริงจังอีกสักรอบ ก่อนที่เธอจะบอกให้วิธานเลิกหวังเถอะ
“เดียร์แม่แค่จะมาถามลูกอีกครั้ง แม่ยอมรับว่าแม่เริ่มสงสารวิธานเพราะเขากลับมาทำตัวดี แต่แม่ก็ไม่เคยลืมว่าเขาเคยทำอะไรกับเดียร์นะลูก”
“คุณแม่อยากถามอยากพูดอะไรกับเดียร์พูดได้เลยค่ะ ลูกเข้าใจ”
“วิธานเขายังรักลูกอยู่และเขาคงเป็นพ่อที่มีหน้ามีตาให้กับหลานของแม่ได้ แต่ถ้าลูกเลือกคนที่ลูกรักชีวิตก็ต้องมีขวากหนามความลำบาก คำดูถูกเข้ามาบ้าง ลูกก็ต้องเข้มแข็ง เอาเป็นว่าลูกตัดสินกับแม่อีกครั้งแล้วแม่จะได้ไปบอกกับวิธานให้รู้เรื่อง”
“เดียร์รักราเชนและจะรักเขาคนเดียวตลอดไปค่ะแม่ เขาคือผู้ชายที่ทำเพื่อเดียร์มาตลอด เราผ่านอะไรมาด้วยกันมากมาย ผู้ชายคนนี้จะเป็นพ่อที่ดีที่สุดให้กับลูกของเดียร์ค่ะ คุณแม่บอกพี่วิธานให้เขาไปเริ่มต้นชีวิตใหม่เถอะค่ะเพราะลูกไม่หลงเหลืออะไรให้เขาแล้วนอกจากความเกลียดชัง”
วิธานกลับมาเมามายเหมือนเดิม เมื่อความพยายามเป็นคนดีของเขาไม่สมหวัง ศิริต้องคอยตามเช็ดล้างในความไม่ดีของ ลูกชายไม่จบไม่สิ้น
ดารามองชีวิตขออดีตลูกเขยตอนนี้ เธอดีใจที่ลูกสาวเลือกทางไม่ผิดและรู้สึกผิดทุกครั้งที่คิดย้อนไปเพราะเธอมองคนที่เปลือกนอกถึงได้ตัดสินใจให้นาเดียร์แต่งงานกับคนที่เธอเลือก จนชีวิตของลูกเธอต้องเจอกับความโหดร้าย
เด็กน้อยลืมตาดูโลกหลังจากที่ร้านข้าวราดแกงเปิดสาขาสองได้เพียงเดือนเดียว
วิภาทิ้งงานที่ร้านไม่ได้ ดาราจึงขอให้ลูกสาวกลับไปอยู่บ้านในช่วงเดือนแรกที่คลอดลูกเพื่อที่เธอจะได้ช่วยสอน ส่วนราเชนก็จะได้จัดการร้านข้าวแกงให้เรียบร้อย เพราะตอนนี้เพิ่งเปิดใหม่ยังไม่ค่อยเข้าที่เข้าทาง
หนึ่งเดือนผ่านไปราเชนมารับลูกสาวและภรรยากลับบ้าน ที่ตอนนี้เขาปรับปรุงใหม่เพราะกลัวลูกจะอันตรายเพราะบ้านอยู่ใกล้กับแม่น้ำ
“บ้านใหม่ของแตงกวาลูกสาวแม่สวยจัง คุณพ่อกลัว ลูกสาวตกน้ำลงทุนปรับปรุงใหม่หมด สงสัยแบบนี้แตงกว่าต้องหอมแก้มให้รางวัลแล้ว”
นาเดียร์อุ้มลูกสาวส่งให้คนเป็นพ่อ ราเชนยังอุ้มลูกไม่ค่อยถนัดเพราะคอแตงกวายังไม่แข็งและตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยอุ้มเด็กตัวเล็ก ๆ แบบนี้เลย
คุณแม่นาเดียร์ต้องสอนอยู่นานกว่าที่คุณพ่อจะทำท่าอุ้มลุกได้ดูถนัดมากขึ้น
แตงกวาโตมากับร้านข้าวแกง เธอจึงเป็นเด็กที่ไม่กลัวคน เพราะตั้งแต่เกิดมาเธอก็เจอกับลูกค้าที่เดินเข้าออกตลอด
จากวันนั้นที่ทั้งคู่เจอกันที่บาร์โฮสจนถึงวันนี้วันที่แตงกวาเดินได้แล้ว เวลาก็ผ่านมาหลายปี ร้านข้างแกงสองสาขากับอู่ของราเชน ทำให้นาเดียร์และลูกอยู่ได้แบบสบาย ๆ วิภาเองก็ไม่ต้องทำกับข้าวแล้ว คอยเลี้ยงหลานอย่างเดียวเพราะตอนนี้นาเดียร์ทำแทนได้ทุกอย่าง และที่ร้านก็มีลูกจ้างหลายคนเพื่อไม่ให้นาเดียร์เหนื่อยจนเกินไป
ที่ดินผืนแรกที่ทั้งสองเก็บเงินซื้อ เป็นที่ดินติดถนนใหญ่ราเชนตั้งใจจะเปิดร้านข้าวแกงสาขาสามแต่คงจะรอให้แตงกวาโตกว่านี้
“ขอบคุณนะเชนที่ทำตามสัญญาทุกอย่าง วันนี้เดียร์มีความสุขที่สุด จริงอย่างที่แม่เชนเคยบอกสักวันเดียร์จะหันไปขอบคุณ อดีตที่ทำให้เราได้เจอกัน”
อ้อมกอดของชายหนุ่มที่เคยอบอุ่นคุ้มครองเธอตั้งแต่วันแรกแบบไหนจนถึงทุกวันนี้อ้อมกอดนี้ก็ยังคงอบอุ่นและปกป้องครอบครัวของเขาเหมือนเดิม
ความรักไม่ใช่เรื่องของความเหมาะสม ไม่ใช่เรื่องของหน้าตาทางสังคม แต่ความรักคือเรื่องของหัวใจ ที่ไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นมาเข้าใจ นอกจากคนสองคนที่รักกัน แล้วความรักจะนำพาทุกปัญหาให้ผ่านไปได้ เพราะรักไม่เคยทำร้ายใครถ้าเราเลือกรักคนที่รักเรา
จบบริบูรณ์
ตอนที่1การเดินทางตามเส้นทางของความฝัน “คุณพ่อกับคุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วง ทุกคนที่นั่นจะดูแล อลิสเป็นอย่างดีค่ะ” วันนี้เป็นวันที่อลิสลูกสาวสุดที่รักของอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนวิทยากับแพทย์หญิงมุกดาต้องเดินทางไปรายงานตัวและเข้ารับการบรรจุทันที ที่โรงเรียนบ้านน้ำฝายที่อยู่ติดกับตะเข็บชายแดนไทยพม่า “พ่อกับแม่ส่งหนูแค่นี้นะลูก ดูแลตัวเองดีๆ ทำงานที่ลูกรักให้มีความสุข” วิทยากับมุกดาส่งลูกสาวแค่เพียงตัวจังหวัด โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน ทำหน้าที่มารับอลิสไปส่งยังหมู่บ้านอีกที “ ผมร้อยตำรวจเอกธนาตุล ได้รับมอบหมายให้มาทำหน้าที่ดูแลการเดินทางของคุณครูอาริสา “ ชายหนุ่มในชุดตำรวจแนะนำตัวให้พ่อและแม่ ของอลิสรู้ว่าเขาคือใครและมาทำหน้าที่อะไรในเวลานี้ “ฝากด้วยนะคะ”มุกดาทำท่าจะยกมือไหว้แต่ธนาตุลจับมือเธอไว้ก่อน เพราะเขาอายุน้อยกว่าเธอหลายปี“ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ทางกองร้อยของเราจะมีตำรวจผลัดเปลี่ยนกันไปดูแลคุ้มครองชาวบ้านตลอดทั้งปีครับ”เมื่อนายตำรวจพูดถึงการดูแล มุกดาและวิทยาก็พอสบายใจขึ้นมาบ้างทั้งสองคนไม่เต็มใจนั
ตอนที่2คุณครูคนใหม่ ถึงแม้ว่ากว่าจะมาถึงก็มืดมากแล้ว แต่ชาวบ้านหลายคนยังคงรอต้อนรับครูใหม่ อยู่ที่หน้าโรงเรียน “พวกเราชาวบ้านน้ำฝาย ยินดีต้อนรับคุณครูคนใหม่ครับ” สิ้นสุดคำทักทายของผู้ใหญ่บ้านก็ตามมาด้วยเสียงปรบมือของทุกคนที่มายืนรอ ผู้ใหญ่บ้านและภรรยาเดินนำคุณครูคนใหม่ โดยมีบรรดาตำรวจและชาวบ้านช่วยกันขนของเดินตามมาที่บ้านพักครู ซึ่งอยู่ติดกับอาคารเรียน “พวกเราทำความสะอาดไว้ให้เรียบร้อยแล้วนะครับ” “แล้วหนูต้องนอนที่นี่คนเดียวเหรอคะ” อลิสถามผู้ใหญ่บ้าน เพราะบ้านพักครูอยู่ห่างจากบ้านของชาวบ้านอยู่พอสมควร แต่ก็ไม่เกินร้อยเมตร “ห้องข้างล่างผมอยู่” ธนาตุลตอบแทนผู้ใหญ่ “แต่ถ้าเปลี่ยนเวร ตำรวจที่มาแทนผมเขาจะนอนที่เรือนหลังเล็กที่อยู่ด้านหน้าโรงเรียน” ผู้กองอธิบายแต่มันก็ไม่ทำให้สีหน้าของครูคนใหม่ดีขึ้นเลย เพราะถ้าธนาตุลไม่อยู่เธอก็ต้องนอนคนเดียวอยู่ดี “คุณครูไม่ต้องกลัวไปหรอกจ้า เดี๋ยวพวกเด็กๆมันก็แย่งกันมาขอนอนด้วยทุกคืน” ภรรยาของผู้ใหญ่บ้านพูดให้คนตัวเล็กสบายใจมากขึ้น “แล้
ตอนที่3เช้านี้ที่หมู่บ้านกลางหุบเขา “หนาวไหม” ชายหนุ่มถามเมื่อเห็นว่า หญิงสาวนอนห่มผ้าห่มผืนบาง และกอดไว้แน่น “หนาวสิถามได้ ตอนแรกก็สงสัยว่าที่นี่ไม่มีไฟใช้แล้วเขาไม่ร้อนกันเหรอ ที่แท้กลางคืนอากาศอย่างกับอยู่เมืองนอกเลย” ชายหนุ่มถามเพียงสั้นๆ แต่คนตอบ ตอบเสียยืดยาวเพราะ อลิสรู้สึกเริ่มคุ้นเคย สนิทสนมกันแล้ว “ถ้าอย่านั้นเอาผ้าห่มคุณมาแลกกับของผม” “แล้วคุณก็หนาว ทำเป็นพระเอกอีกแล้ว ” อลิสพูดจบก็ลากที่นอนมาติดกับของชายหนุ่ม และคว้าผ้าห่มผืนหนาของผู้กองมาห่มตัวเธออีกชั้นหนึ่ง “ห่มด้วยกันก็หมดเรื่อง ราตรีสวัสดิ์นะคะ” ธนาตุลได้แต่นอนมองหญิงสาวที่อยู่ดีๆก็ลุกมานอนข้างเขา แถมห่มผ้าห่มผืนเดียวกันอีก เพิ่มความรู้สึกที่ปั่นป่วนท้อง หัวใจเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก สิ้นเสียงอลิสก็หลับสนิท แถมมีเสียงกรนเบาๆยืนยันว่าเธอหลับจริงดังออกมาด้วย ธนาตุลพยายามสวดมนต์ก็แล้ว นับหนึ่งถึงร้อยก็แล้ว แต่มันกลับนอนไม่หลับ เขาจึงหันมามองใบหน้าคุณครูคนใหม่ที่กำลังหลับใหลให้ชัด เพราะเมื่อกลางวันยังมองไม่ถนัดเลย
ตอนที่4ขอนอนด้วยนะคะ เมื่อได้ที่นอนแล้ว อลิสก็ยังขอนอนกับผู้กองอีกหนึ่งคืน เพราะห้องยังไม่มีข้าวของมันทำให้ดูโล่งน่ากลัว ชายหนุ่มก็ทำได้แค่ต้องยอมทำตาม อาหารเย็นวันนี้ผู้ใหญ่บ้าน จัดงานเลี้ยงต้อนรับครูใหม่ เป็นงานเลี้ยงเล็กๆ ที่แสนน่ารัก หญิงสาวได้รู้จักเด็กๆในหมู่บ้านหลายคน โดยเฉพาะฟองจันทร์ลูกสาวผู้ใหญ่ดูจะชอบคุณครูคนใหม่เป็นพิเศษ “พวกเราขอต้อนรับคุณครูคนใหม่ของเราอย่างเป็นทางการอีกครั้ง เธอชื่อคุณครูอลิส ขอให้พวกเราทุกคนช่วยกันดูแล และช่วยเหลือ เพื่อคุณครูจะได้อยู่ที่นี่กับเราไปนานๆ” ผู้ใหญ่บ้านแนะนำหญิงสาวอีกครั้ง โดยครั้งนี้ทางผู้ใหญ่ขอนัดชาวบ้านที่ว่าง พรุ่งนี้ให้มใช่วยกันทำความสะอาดดรงเรียน เพื่อเด็กๆจะได้เรียนหนังสือกันเสียที “พวกผมจะอยู่ที่นี่อีก13วัน และจะมีตำรวจชุดใหม่มาสับเปลี่ยนเช่นเคย นำทีมโดนผู้กองสุชาติ เรื่องที่ผมติดค้างไว้ เกี่ยวกับการหาวิธีการเพิ่มพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อให้พวกเรามีไฟใช้มากขึ้น ตอนนี้มีห้างร้านต่างๆบริจาคเงินมาจำนวนหนึ่ง ผลัดต่อไป ผมและลูกน้องจะมาลงมือจัดการทันที แต่ครั้งนี้เรายังหาซื้ออุปรณ์ได้ไม่พร้อ
ตอนที่5 วันแรก โรงเรียนพร้อมแล้ว นักเรียนจากหมู่บ้านบ้านน้ำฝายและหมู่บ้านใกล้เคียงที่เดินทางไม่ไกลมากนัก พ่อแม่ผู้ปกครองต่างก็พาลูกหลานมาส่งที่โรงเรียนเพราะได้ยินข้าวจากผู้ใหญ่บ้าน ว่าโรงเรียนพร้อมจะเปิดเรียนแล้ว “พร้อมหรือยังครับคุณครู”ชายหนุ่มในชุดตำรวจถามหญิงสาวที่กำลังยืนรอนักเรียนอยู่ที่หน้าเสาธง“พร้อมค่ะคุณตำรวจ แต่วันนี้คุณต้องช่วยอลิสสอนวิชาคณิตศาสตร์ก่อนนะคะ ”เมื่อคืนอลิสได้ขอให้ธนาตุลและลูกน้องช่วยเธอสอนก่อนในช่วงเปิดเรียนแรกๆเพราะเธอยังต้องการจะทดสอบแยกนักเรียนแต่ละชั้นออกจากกัน “ได้ครับคุณครู ลูกน้องผมของจองเด็กเล็กๆสอนฝึกคัดลายมือ ส่วนผมขอคณิตศาสตร์ นอกนั้นคุณครูจัดการเองนะครับ” ธนาตุลทำท่าทางล้อเลียนเหมือนคนที่กำลังทำตามคำสั่งคุณครูจนหญิงสาวอดหัวเราะไม่ได้ นักเรียนมาพร้อมแล้ว อลิสแบ่งเป็นแถว แถวละห้าคน มีทั้งหมดหกแถว มีฟองจันทร์ทำหน้าที่นำร้องเพลงชาติและสวดมนต์ ช่วงเช้าคุณครูคนใหม่เรียกนักเรียนเข้ามาทดสอบความรู้ทางการอ่านและการเขียนภาษาไทย ก่อนจะส่งไปให้ ธนาตุลช่วยทดสอบวิชาคณิตศาสตร์ให้ ก่อนที่คืนนี้จะเอ
ตอนที่6ความใกล้ชิดที่พิเศษ คืนแรกกับการขึ้นไปนอนที่ชั้นสองของบ้าน คุณครูสาวยังไม่ค่อยชินเท่าไหร่ กว่าจะหลับได้สนิทก็เกือบเช้ามืดแล้ว “ตื่นสายกว่าคุณอีกแล้ว เมื่อคืนกว่าจะหลับได้” อลิสลงมาข้างล่าง ตามกลิ่นของกาแฟที่ส่งกลิ่นหอมขึ้นไปถึงบนชั้นสอง เข้าไปในห้องนอนของเธอ “คงต้องใช้เวลาอีกสักพัก แต่ผมว่าพอคุณเหนื่อยมากๆสุดท้ายเดี๋ยวก็หลับง่ายไปเอง” ผู้กองหนุ่มยื่นแก้วกาแฟให้หญิงสาวที่ยังอยู่ในชุดนอนและกำลังยืนบิดตัวไล่ความขี้เกลียดให้ออกจากตัวเอง “หอมมากเลยนะคะ ไว้กลับไปบ้านอลิสว่าจะซื้อไปฝากพ่อ ท่านชอบกินกาแฟสดมากค่ะ” “ดีเลยครับ อุดหนุนชาวบ้าน ผมยังเคยเอาลงไปขายเลยนะ ลูกค้าที่ซื้อไปต่างก็ชอบ อีกทั้งไม่ได้ผ่านพ่อค้าคนกลาง ราคาก็ไม่แพง” ครอบครัวของธนาตุลด้วยความที่เป็นคนหัวการค้า เขาจึงเอากาแฟจากบ้านน้ำฝายและหมู่บ้านใกล้เคียงไปติดแบรนด์ของตัวเอง และขายให้กับลูกค้าที่มาซื้อทอง ร้านทองครอบครัวธนาตุลมีหลายสาขา ชายหนุ่มเอากาแฟกลับไปเท่าไหร่ก็ขายหมดแค่เพียงไม่นาน และกำไรที่ขายได้ พ่อของเขาก็ยกให้ลูกชาย ผู้กอง
ตอนที่7ฤดูฝนที่ชุ่มฉ่ำใจ เวลาผ่านไปรวดเร็วเมื่ออลิสคิดถึงวันที่ตำรวจชุดนี้ต้องถูกสับเปลี่ยน “เมื่อคืนฝนตกคุณรู้ไหม” ธนาตุลถามหญิงสาวที่เพิ่งตื่นนอนและเดินลงมาด้านล่างของบ้าน “หลับสนิทไม่รู้เรื่องเลยค่ะ” อลิสเริ่มชินกับที่นี่และเธอก็เหนื่อยกับการสอนนักเรียนจนหลับแบบไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย “เมื่อคืนฝนตกแต่ไม่หนักเท่าไหร่ เริ่มเข้าหน้าฝนแล้ว ที่นี่เวลาฝนตกจะตกแทบทั้งวัน คุณไม่ต้องแปลกใจถ้าวันไหนฝนตกตอนกลางคืน อาจจะไม่มีนักเรียนมาโรงเรียน” “ทำไมเหรอคะ” อลิสไม่เข้าใจ เพราะฝนตกช่วงกลางคืนเกี่ยวอะไรกับตอนเช้าที่เด็ก ๆต้องมาโรงเรียนด้วย “ถนนลาดยางที่คุณเห็นมันไม่ได้ตลอดนะ ถนนในหมู่บ้านเป็นดิน ถ้าฝนตกหนักมันก็จะเละไปหมด แล้วใครเขาจะเดินผ่านดินเละ ๆ มาเรียนกัน” ธนาตุลอธิบายแต่น้ำเสียงก็ดุดันนิดหน่อย เพราะชายหนุ่มอยากให้อลิสเป็นคนที่ช่างสังเกตมากกว่านี้ การใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติต้องอาศัยการสังเกตจะได้รู้และเตรียมตัวรับกับภัยธรรมชาติต่าง ๆได้ทัน “ทำเสียงดุเชียวนะคะ ฉันเพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้ย
ตอนที่8คิดถึง วันที่อลิสไม่อยากให้มาถึง แต่มันก็ต้องยอมทำใจเมื่อชุดตำรวจตระเวนชายแดนอีกชุดเดินทางมาถึงที่หมู่บ้าน ชุดของผู้กองธนาตุลก็ได้พัก ตำรวจหลายคนก็คิดถึงภรรยาและลูกๆกันจะแย่อยู่แล้ว “ดูแลตัวเองให้ดีนะคุณครู แล้วผมจะซื้อของมาฝาก ไม่งอแงนะคนเก่ง” เมื่อรถของชายหนุ่มเคลื่อนออกจากหมู่บ้าน อลิสก็หันหลังให้ทันที เพราะเธอกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว “ร้องไห้ตามผู้กองธนาตุลหรือครับคุณครู” เสียงทักทายดังมาจากด้านหลัง แต่เป็นเสียงที่น่าจะมีอายุน้อยกว่าบิดาของอลิสไปกี่ปี “สวัสดีค่ะ หนูชื่อลิสนะคะ คุณคงเป็นผู้กองสุชาติใช่ไหมคะ” “ใช่ ผมผู้กองสุชาติ ดูแล้วครูน่าจะอายุเท่าๆกับลูกสาวผม ยังเป็นเด็กสาวต้องมาอยู่ไกลพ่อไกลแม่แบบนี้ ลำบากหน่อยนะ” น้ำเสียงและท่าทางของผู้กองสุชาติ แสดงถึงความเข้มแข็งและมากด้วยประสบการณ์ ถึงแม้เขาจะส่งยิ้มให้หญิงสาว แต่เธอกลับรู้สึกทั้งเคารพและก็เกรงใจ ไม่กล้าจะตีสนิทด้วย “ขอบคุณหนูนะที่เสียสละทิ้งความสบายมาเลือกลงโรงเรียนที่นี่ หลายปีแล้วที่โรงเรียนบ้านน้ำฝายต้องให้ครูชะลอมาคอยสอน