ตอนที่ 9
สามีที่เป็นอดีต
“เดียร์ พี่ขอโทษ พี่ขอโทษ”
วิธานจอดรถขวางหน้าบ้าน เขาพุ่งตัวมากอดหญิงสาวอย่างที่ทุกคนไม่มีใครคาดคิด ต่างตกใจเพราะไม่มีใครเห็นเลยว่าเขามาตอนไหน รู้กันอีกทีวิธานก็ถึงตัวนาเดียร์แล้ว
“ปล่อย เดียร์บอกให้ปล่อย”
วิธานยังคงกอดอดีตภรรยาแน่น ด้วยความตกใจราเชนพุ่งตรงเข้าต่อยสามีเก่าของภรรยาจนล้มลงไปกองกับพื้น เพราะวิธานมาในสภาพที่เมาจนยืนเซไปเมา พอเจอหมัดหนักเข้าไปก็ล้มทั้งยืน
“มึงเป็นใคร กูจะให้แม่กูแจ้งตำรวจจับมึง มึงใช่ไหมที่พาเมียกูหนี”
วิธานยังลุกไม่ขึ้นแต่ก็ยังโวยวายปากกล้า ทำท่าจะเอาเรื่องกับราเชนให้ได้
“ไหนเมียมึงตรงนี้มีแต่เมียกู” ราเชนไม่ยอม
ธงชัยเห็นสถานการณ์ดูแล้วถ้ายังยืนปะทะคำพูดกันแบบนี้ วิธานเจ็บหนักแน่นอน
“เดียร์พาเชนเข้าไปในบ้าน ดาราคุณโทรศัพท์หาศิริให้เขามาเก็บลูกเขาไป ไม่อย่างนั้นเราจะแจ้งความข้อหาบุกรุก”
“กูจะเอาเมียกูคืนไอ้กระจอกมึงมันรวยสู้กูไม่ได้หรอก”
วิธานยังคงตะโกนตามหลังราเชน ทั้งที่ตัวเองก็ยังเลือดกบปากอยู่
นาเดียร์ไม่คิดว่าสิ่งที่เธอกลัวจะเกิดขึ้นเร็วแบบนี้ ตอนนี้ที่เธอกลัวไม่ใช่วิธานแต่คือความรู้สึกของราเชน
“เชนฟังเดียร์นะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเดียร์รักเชนและไม่มีทางกลับไปหาคนที่มันทำร้ายจนเดียร์เกือบตายแน่นอน อย่าไปฟังคำพูดของมัน ตอนนี้มันบ้าไปแล้วเชนต้องเชื่อมั่นในเดียร์นะ”
หญิงสาวกอดสามีไว้แน่นเพราะตอนนี้อารมณ์ ความเป็นชายของราเชนกำลังพุ่งเต็มที่ ร่างกายต้องการปะทะ โดยเฉพาะเรื่องของความหึงหวงเมื่อเข้าตาใครแล้วมันก็ยากจะควบคุม
“เชนอย่าทำท่าแบบนี้ เดียร์ไม่อยากให้เชนโกรธปล่อยเขานะ เรามีลูกแล้วเชนต้องคิดถึงลูกมาก ๆ ”
ชายหนุ่มยังคงนั่งกำมือแน่น ตัวสั่นกัดฟัน สายตาแดงกร่ำจนนาเดียร์รู้สึกกลัว เพราะเธอไม่เคยเห็นราเชนเป็นแบบนี้มาก่อน
หญิงสาวทำอะไรไม่ถูกนอกจากกอดสามีไว้แน่น เธอกลัวราเชนจะออกไปทำร้ายวิธาน เธอไม่ได้ห่วงสามีเก่าแต่เธอกลัวราเชนจะเป็นอะไรมากกว่า
ศิริมาถึงบ้านของธงชัยอย่างไวด้วยความเป็นห่วงลูกชาย เมื่อมาเห็นสภาพลูกเธอก็โวยวายจะเอาเรื่องคนที่ทำร้ายลูกเธอ
“ผัวใหม่ลูกสาวยาจกหรือเศรษฐีล่ะ แต่ดูแล้วคงจะคว้าพวกต่ำ ๆ มาทำผัวถึงได้มาทำกับลูกชายฉันแบบนี้”
ดาราแทบอยากจะกระฉากหัวของศิริเหลือเกินที่มาใช้คำพูดแบบนี้กับลูกสาวเธอ
“ผัวใหม่ไม่ต่ำหรอกแต่ที่ต่ำน่ะผัวเก่า ต่ำทั้งใจทั้งตระกูลเลย ตอนแรกก็ยังสงสัยว่าชั่วได้ใคร พอได้ยินเธอพูดฉันเลยรู้ว่าวิธานมันได้แม่มันนี่เองไอ้นิสัยชั่ว ๆ ”
ศิริทำท่าจะลุกขึ้นมามีเรื่องกับดาราแต่ติดที่ลูกชายของเธอยังนอนหนุนตักอยู่
“พอเถอะศิริอย่าให้ถึงกับต้องไปโรงพักกันเลย ตั้งแต่ครั้งที่ลูกชายเธอทำร้ายลูกเราแล้วนะ ถ้าลูกสาวฉันไม่ขอไว้ คนเป็นพ่ออย่างฉันไม่ปล่อยวิธานไว้แน่ เอาลูกเธอกลับไปและอย่าให้มายุ่งกับคนในครอบครัวฉันอีกถ้ายังไม่อยากให้สามีเธอเดือดร้อน”
คำขู่ของธงชัยได้ผลเพราะสิ่งเดียวที่ศิริกลัวคือสามีและตัวของสามีเธอก็ไม่ชอบพฤติกรรมลูกชายของตัวเองอยู่แล้วด้วย
สองคนแม่ลูกพากันกลับไปแล้ว ดารากับสามีได้แต่มองหน้ากันและถอนหายใจเมื่อทุกอย่างผ่านไปแล้ว
ธงชัยเดินเข้ามาในบ้านจากตอนแรกที่เขาคิดว่าจะไม่ยุ่งเรื่องนี้จะปล่อยให้สามีภรรยาเขาคุยกันเอง แต่ตอนนี้เขาคงต้องพูดในฐานะพ่อและผู้ชายด้วยกัน
“ราเชนพ่อรู้ว่าความรู้สึกตอนนี้เป็นอย่างไร แต่ฟังคำพ่อไว้นะ การที่เราจะเป็นหัวหน้าครอบครัวต้องหนักแน่น เชื่อใจ และคำดูถูกของคนอื่นมันทำร้ายเราไม่ได้ นอกจากคนที่เรารักดูถูกน้ำใจเรา วันนี้วิธานคือตัวอย่างของผู้ชายที่ไม่มีความเป็นลูกผู้ชาย จุดจบของเขาก็คือชีวิตที่ล่องลอย เขาโทษทุกอย่างยกเว้นตัวเขาเอง พ่อเชื่อว่าเขาไม่หยุดแค่นี้แล้วพ่อก็หวังว่าผู้ชายที่ลูกสาวของพ่อเป็นคนเลือกเองจะไม่ทำให้ลูกสาวของพ่อต้องเสียใจ”
ราเชนยังคงก้มหน้านิ่งไม่ตอบรับหรือปฏิเสธแต่ธงชัยก็เข้าใจด้วยอายุและอารมณ์ที่กำลังโมโหมันอาจทำให้ราเชนพยายามควบคุมตัวเองอยู่
“เชนแม่ลืมถามเลยว่ารถมือสองที่ซื้อมาขายต้นทุนสูงไหม เห็นเพื่อนแม่เขารับจำนำรถแม่จะได้ดู ๆ เอามาฝากเชนขายบ้าง ตอนนี้ธุรกิจก็แย่ ๆ กันหมดทำหลาย ๆ อย่างจะได้ลดความเสี่ยง”
ดาราชวนลูกเขยคุย ราเชนสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะตอบคำถามและอธิบายเรื่องนี้ให้แม่ยายฟัง
ราเชนและนาเดียร์นั่งอยู่ที่บ้านต่ออีกครึ่งชั่วโมงก็ขอตัวกลับ เพราะทั้งคู่จะไม่นอนดึกตีสามทุกคนก็ต้องตื่นกันแล้ว แต่ตอนนี้นาเดียร์ท้อง แม่สามีจึงให้เธอตื่นตอนตีห้า และบ่ายโมงก็ให้กลับเข้ามาพักแล้ว
คืนนี้นาเดียร์ใจคอไม่ดีเลย แววตาของราเชนมันทำให้เธอรู้สึกกลัวอย่างบอกไม่ถูก
“นอนไม่หลับเหรอ” ชายหนุ่มถามเมื่อเห็นภรรยายังนอนมองเพดาน
“เชนเดียร์กลัว อย่าทำแววตาท่าทางแบบนี้อีกนะมันทำให้คิดถึงวันที่เขาทำร้ายเดียร์ภาพเก่า ๆ มันกลับมา ไม่อยากเห็นความรุนแรงแบบนั้นอีกแล้ว”
หญิงสาวร้องไห้ออกมาเธอกลายเป็นคนที่ฝังใจกับการใช้ความรุนแรงและตอนนี้เธอท้องยิ่งทำให้เธอรู้สึกกลัวมากกว่าเดิม
“เชนขอโทษแต่จำไว้นะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างเรา เชนจะไม่มีทางทำร้ายคนที่เชนรักเด็ดขาด ตอนนี้เรากำลังจะมีลูกกำลังจะมีความสุข มันคงต้องมีอุปสรรคเข้ามาพิสูจน์เราบ้างเราจะผ่านมันไปด้วยกันนะ”
ค่ำคืนนี้ทั้งสองคนนอนกอดกันแต่มีหัวใจอีกหนึ่งดวงที่กำลังเต้นอยู่ในท้องของคนเป็นแม่ หญิงสาวพยายามจะลืมฝันร้ายในชีวิตของเธอให้ได้แต่มันก็ยากเหลือเกิน เธอโดนทำร้ายเสียจนกลายเป็นความฝังใจที่เลวร้ายของเธอไปแล้ว
เช้านี้ลูกค้าเยอะเหมือนเดิม ช่วงเช้าราเชนต้องมาช่วยที่ร้านข้าวแกงก่อน ส่วนอู่จะเริ่มงานสาย ๆ และปิดช่วงหัวค่ำ นาเดียร์นั่งคิดเงินไปก็ระแวงไป เพราะเธอคิดว่าวิธานต้องหาจนเจอแน่ว่าเธออยู่ที่ไหน
ช่วงสายลูกค้าเริ่มบางตา ผู้หญิงในชุดแต่งกายที่ดูไม่คุ้นตาใส่แว่นดำเดินเข้ามาในร้านหัวใจของนาเดียร์แทบหล่นลงไปกับพื้น เธอไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นอดีตแม่สามีของเธอเอง
“สวัสดีค่ะ”
“ฉันขอคุยด้วยหน่อย”
ศิริเข้าเรื่องทันทีและเดินเข้าไปรอที่โต๊ะที่อยู่ไกลสุดในร้านเพราะต้องการความเป็นส่วนตัว
“เข้าเรื่องเลยนะ ตอนนี้วิธานเขาสำนึกทุกอย่างแล้วและเขาอยากจะขอคืนดี กลับไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับลูกชายฉันเถอะ เธอจะมาใช้ชีวิตแบบนี้ทำไม ขายข้าวแกงนอนบ้านไม้ริมน้ำ กลับไปเป็นคุณนายแต่งตัวสวย ๆ อยู่บ้านหลังใหญ่เหมือนเดิมดีกว่า”
“ขอบคุณนะคะที่เอาความหวังดีมาให้ แต่ตอนนี้เดียร์มีความสุขกับชีวิตแบบนี้มากและไม่อยากกลับไปเป็นกระสอบทรายอีกแล้ว เอาแบบสั้น ๆ เลยนะคะ ตอนนี้เดียร์ท้องได้สามเดือนแล้ว และก็รักสามีมาก ๆ ไม่มีช่องว่างเหลือให้ใครเลย และที่คุณน้าคิดว่าเดียร์ลำบาก ไม่เลยค่ะสบายและมีความสุขมากกว่าตอนเป็นลูกสะใภ้คุณน้าเยอะเลย หวังว่าเดียร์จะไม่เจอคุณน้าและพี่วิธานอีกนะคะ”
หญิงสาวลุกออกจากเก้าอี้ เพื่อให้อีกฝ่ายรู้ว่าเธอไม่ต้องการที่จะคุยต่อแล้ว
“ลูกในท้องถ้าวันใดเธอเปลี่ยนใจ วิธานเขาก็พร้อมจะเป็นพ่อให้นะ”
“เชิญกลับค่ะ แล้วเก็บความหวังดีไว้ให้พี่วิธานเถอะนะคะ เดียร์หมดกรรมแล้ว”
ศิริเดินออกไปจากร้านด้วยท่าทางที่ไม่พอใจ เธอคิดว่าตัวเองยอมลดตัวลงมาถึงขั้นนี้แล้ว แต่หญิงสาวกลับพูดจายโสใส่เธอ
ราเชนยืนมองอยู่ที่อู่ เขาไม่คิดจะเข้ามาขัดขวางทั้งที่หัวใจก็อดที่จะคิดกลัวไม่ได้ แต่ชายหนุ่มเลือกที่จะเชื่อใจภรรยามากกว่าและรอว่าคืนนี้นาเดียร์จะเล่าให้เขาฟังไหม
“เดียร์เห็นนะว่ามีคนแอบดูตอนที่แม่พี่วิธานมา แต่ไม่รู้ทำไมไม่ยอมถามว่าเขามาทำไม”
หญิงสาวแซวสามีที่ทำท่าอยากรู้แต่ไม่ยอมถาม คนตัวเล็กท้องกลมก็แกล้งเล่นตัวรอจนใกล้เวลานอนจริง ๆ ถึงได้เล่า
“เชนไว้ใจเดียร์ไม่เห็นต้องถามเลย”
“ถ้าอย่างนั้นเดียร์ไม่เล่าดีกว่า”
ราเชนโถมตัวเข้าใส่ภรรยาหยอกจับนั่นจับนี่ในตัวเธอ จนหญิงสาวหัวเราะทั้งขำทั้งจั๊กจี้ไปหมด
“เล่าแล้วเดียร์ยอมแล้ว”
คนท้องสู้แรงไม่ไหว กลัวจะขำจนขาดใจเสียก่อนจึงยอมเล่าสิ่งที่ศิริมาคุยกับเธอให้ฟังจนหมด
“เป็นไงคะ ฟังแล้วเชื่อเดียร์ไหม ว่าไม่มีทางที่จะมีอะไรมาทำให้เราเลิกกันได้นอกจากเชนจะไม่รักเดียร์เหมือนเดิม”
ราเชนนอนกอดภรรยาไว้ในอ้อมแขน เขาเชื่อมั่นในตัวหญิงสาวและคิดว่าเขาจะต้องทำให้ใครก็ไม่สามารถมาดูถูกภรรยาและลูกของเขา สักวันครอบครัวเขาต้องสบายกว่านี้
“ทนลำบากอีกนิดนะ เชนกำลังพยายามอยู่ สักวันคนที่ ดูถูกว่าเดียร์เลือกเชนแล้วต้องมาลำบาก มันจะต้องไม่กล้าดูถูกกันอีกต่อไป”
ตอนที่ 10เพราะเธอคือที่สุดของหัวใจ วิธานยังไม่ละความพยายาม เขาทำตัวใหม่และเข้าหาทางพ่อและแม่ของอดีตภรรยา เพราะตอนนี้เขาอยากได้ทั้งภรรยาคืนและอยากได้ลูกในท้องด้วย ตัวเขาเองไม่สามารถมีลูกได้และเขาก็ไม่คิดจะพึ่งหมออยู่แล้ว ดาราเห็นการเปลี่ยนแปลงในตัวอดีตลูกเขย เธอก็เริ่มใจอ่อนสงสาร แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะบังคับให้ลูกสาวของเธอกลับมาคืนดี เพียงแต่เธอคงต้องคุยกับนาเดียร์จริงจังอีกสักรอบ ก่อนที่เธอจะบอกให้วิธานเลิกหวังเถอะ “เดียร์แม่แค่จะมาถามลูกอีกครั้ง แม่ยอมรับว่าแม่เริ่มสงสารวิธานเพราะเขากลับมาทำตัวดี แต่แม่ก็ไม่เคยลืมว่าเขาเคยทำอะไรกับเดียร์นะลูก” “คุณแม่อยากถามอยากพูดอะไรกับเดียร์พูดได้เลยค่ะ ลูกเข้าใจ” “วิธานเขายังรักลูกอยู่และเขาคงเป็นพ่อที่มีหน้ามีตาให้กับหลานของแม่ได้ แต่ถ้าลูกเลือกคนที่ลูกรักชีวิตก็ต้องมีขวากหนามความลำบาก คำดูถูกเข้ามาบ้าง ลูกก็ต้องเข้มแข็ง เอาเป็นว่าลูกตัดสินกับแม่อีกครั้งแล้วแม่จะได้ไปบอกกับวิธานให้รู้เรื่อง” “เดียร์รักราเชนและจะรักเขาคนเดียวตลอดไปค่ะแม่ เขาคือผู้ชายที่ทำเพื่อเดียร์มาตลอด เ
ตอนที่1การเดินทางตามเส้นทางของความฝัน “คุณพ่อกับคุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วง ทุกคนที่นั่นจะดูแล อลิสเป็นอย่างดีค่ะ” วันนี้เป็นวันที่อลิสลูกสาวสุดที่รักของอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนวิทยากับแพทย์หญิงมุกดาต้องเดินทางไปรายงานตัวและเข้ารับการบรรจุทันที ที่โรงเรียนบ้านน้ำฝายที่อยู่ติดกับตะเข็บชายแดนไทยพม่า “พ่อกับแม่ส่งหนูแค่นี้นะลูก ดูแลตัวเองดีๆ ทำงานที่ลูกรักให้มีความสุข” วิทยากับมุกดาส่งลูกสาวแค่เพียงตัวจังหวัด โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน ทำหน้าที่มารับอลิสไปส่งยังหมู่บ้านอีกที “ ผมร้อยตำรวจเอกธนาตุล ได้รับมอบหมายให้มาทำหน้าที่ดูแลการเดินทางของคุณครูอาริสา “ ชายหนุ่มในชุดตำรวจแนะนำตัวให้พ่อและแม่ ของอลิสรู้ว่าเขาคือใครและมาทำหน้าที่อะไรในเวลานี้ “ฝากด้วยนะคะ”มุกดาทำท่าจะยกมือไหว้แต่ธนาตุลจับมือเธอไว้ก่อน เพราะเขาอายุน้อยกว่าเธอหลายปี“ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ทางกองร้อยของเราจะมีตำรวจผลัดเปลี่ยนกันไปดูแลคุ้มครองชาวบ้านตลอดทั้งปีครับ”เมื่อนายตำรวจพูดถึงการดูแล มุกดาและวิทยาก็พอสบายใจขึ้นมาบ้างทั้งสองคนไม่เต็มใจนั
ตอนที่2คุณครูคนใหม่ ถึงแม้ว่ากว่าจะมาถึงก็มืดมากแล้ว แต่ชาวบ้านหลายคนยังคงรอต้อนรับครูใหม่ อยู่ที่หน้าโรงเรียน “พวกเราชาวบ้านน้ำฝาย ยินดีต้อนรับคุณครูคนใหม่ครับ” สิ้นสุดคำทักทายของผู้ใหญ่บ้านก็ตามมาด้วยเสียงปรบมือของทุกคนที่มายืนรอ ผู้ใหญ่บ้านและภรรยาเดินนำคุณครูคนใหม่ โดยมีบรรดาตำรวจและชาวบ้านช่วยกันขนของเดินตามมาที่บ้านพักครู ซึ่งอยู่ติดกับอาคารเรียน “พวกเราทำความสะอาดไว้ให้เรียบร้อยแล้วนะครับ” “แล้วหนูต้องนอนที่นี่คนเดียวเหรอคะ” อลิสถามผู้ใหญ่บ้าน เพราะบ้านพักครูอยู่ห่างจากบ้านของชาวบ้านอยู่พอสมควร แต่ก็ไม่เกินร้อยเมตร “ห้องข้างล่างผมอยู่” ธนาตุลตอบแทนผู้ใหญ่ “แต่ถ้าเปลี่ยนเวร ตำรวจที่มาแทนผมเขาจะนอนที่เรือนหลังเล็กที่อยู่ด้านหน้าโรงเรียน” ผู้กองอธิบายแต่มันก็ไม่ทำให้สีหน้าของครูคนใหม่ดีขึ้นเลย เพราะถ้าธนาตุลไม่อยู่เธอก็ต้องนอนคนเดียวอยู่ดี “คุณครูไม่ต้องกลัวไปหรอกจ้า เดี๋ยวพวกเด็กๆมันก็แย่งกันมาขอนอนด้วยทุกคืน” ภรรยาของผู้ใหญ่บ้านพูดให้คนตัวเล็กสบายใจมากขึ้น “แล้
ตอนที่3เช้านี้ที่หมู่บ้านกลางหุบเขา “หนาวไหม” ชายหนุ่มถามเมื่อเห็นว่า หญิงสาวนอนห่มผ้าห่มผืนบาง และกอดไว้แน่น “หนาวสิถามได้ ตอนแรกก็สงสัยว่าที่นี่ไม่มีไฟใช้แล้วเขาไม่ร้อนกันเหรอ ที่แท้กลางคืนอากาศอย่างกับอยู่เมืองนอกเลย” ชายหนุ่มถามเพียงสั้นๆ แต่คนตอบ ตอบเสียยืดยาวเพราะ อลิสรู้สึกเริ่มคุ้นเคย สนิทสนมกันแล้ว “ถ้าอย่านั้นเอาผ้าห่มคุณมาแลกกับของผม” “แล้วคุณก็หนาว ทำเป็นพระเอกอีกแล้ว ” อลิสพูดจบก็ลากที่นอนมาติดกับของชายหนุ่ม และคว้าผ้าห่มผืนหนาของผู้กองมาห่มตัวเธออีกชั้นหนึ่ง “ห่มด้วยกันก็หมดเรื่อง ราตรีสวัสดิ์นะคะ” ธนาตุลได้แต่นอนมองหญิงสาวที่อยู่ดีๆก็ลุกมานอนข้างเขา แถมห่มผ้าห่มผืนเดียวกันอีก เพิ่มความรู้สึกที่ปั่นป่วนท้อง หัวใจเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก สิ้นเสียงอลิสก็หลับสนิท แถมมีเสียงกรนเบาๆยืนยันว่าเธอหลับจริงดังออกมาด้วย ธนาตุลพยายามสวดมนต์ก็แล้ว นับหนึ่งถึงร้อยก็แล้ว แต่มันกลับนอนไม่หลับ เขาจึงหันมามองใบหน้าคุณครูคนใหม่ที่กำลังหลับใหลให้ชัด เพราะเมื่อกลางวันยังมองไม่ถนัดเลย
ตอนที่4ขอนอนด้วยนะคะ เมื่อได้ที่นอนแล้ว อลิสก็ยังขอนอนกับผู้กองอีกหนึ่งคืน เพราะห้องยังไม่มีข้าวของมันทำให้ดูโล่งน่ากลัว ชายหนุ่มก็ทำได้แค่ต้องยอมทำตาม อาหารเย็นวันนี้ผู้ใหญ่บ้าน จัดงานเลี้ยงต้อนรับครูใหม่ เป็นงานเลี้ยงเล็กๆ ที่แสนน่ารัก หญิงสาวได้รู้จักเด็กๆในหมู่บ้านหลายคน โดยเฉพาะฟองจันทร์ลูกสาวผู้ใหญ่ดูจะชอบคุณครูคนใหม่เป็นพิเศษ “พวกเราขอต้อนรับคุณครูคนใหม่ของเราอย่างเป็นทางการอีกครั้ง เธอชื่อคุณครูอลิส ขอให้พวกเราทุกคนช่วยกันดูแล และช่วยเหลือ เพื่อคุณครูจะได้อยู่ที่นี่กับเราไปนานๆ” ผู้ใหญ่บ้านแนะนำหญิงสาวอีกครั้ง โดยครั้งนี้ทางผู้ใหญ่ขอนัดชาวบ้านที่ว่าง พรุ่งนี้ให้มใช่วยกันทำความสะอาดดรงเรียน เพื่อเด็กๆจะได้เรียนหนังสือกันเสียที “พวกผมจะอยู่ที่นี่อีก13วัน และจะมีตำรวจชุดใหม่มาสับเปลี่ยนเช่นเคย นำทีมโดนผู้กองสุชาติ เรื่องที่ผมติดค้างไว้ เกี่ยวกับการหาวิธีการเพิ่มพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อให้พวกเรามีไฟใช้มากขึ้น ตอนนี้มีห้างร้านต่างๆบริจาคเงินมาจำนวนหนึ่ง ผลัดต่อไป ผมและลูกน้องจะมาลงมือจัดการทันที แต่ครั้งนี้เรายังหาซื้ออุปรณ์ได้ไม่พร้อ
ตอนที่5 วันแรก โรงเรียนพร้อมแล้ว นักเรียนจากหมู่บ้านบ้านน้ำฝายและหมู่บ้านใกล้เคียงที่เดินทางไม่ไกลมากนัก พ่อแม่ผู้ปกครองต่างก็พาลูกหลานมาส่งที่โรงเรียนเพราะได้ยินข้าวจากผู้ใหญ่บ้าน ว่าโรงเรียนพร้อมจะเปิดเรียนแล้ว “พร้อมหรือยังครับคุณครู”ชายหนุ่มในชุดตำรวจถามหญิงสาวที่กำลังยืนรอนักเรียนอยู่ที่หน้าเสาธง“พร้อมค่ะคุณตำรวจ แต่วันนี้คุณต้องช่วยอลิสสอนวิชาคณิตศาสตร์ก่อนนะคะ ”เมื่อคืนอลิสได้ขอให้ธนาตุลและลูกน้องช่วยเธอสอนก่อนในช่วงเปิดเรียนแรกๆเพราะเธอยังต้องการจะทดสอบแยกนักเรียนแต่ละชั้นออกจากกัน “ได้ครับคุณครู ลูกน้องผมของจองเด็กเล็กๆสอนฝึกคัดลายมือ ส่วนผมขอคณิตศาสตร์ นอกนั้นคุณครูจัดการเองนะครับ” ธนาตุลทำท่าทางล้อเลียนเหมือนคนที่กำลังทำตามคำสั่งคุณครูจนหญิงสาวอดหัวเราะไม่ได้ นักเรียนมาพร้อมแล้ว อลิสแบ่งเป็นแถว แถวละห้าคน มีทั้งหมดหกแถว มีฟองจันทร์ทำหน้าที่นำร้องเพลงชาติและสวดมนต์ ช่วงเช้าคุณครูคนใหม่เรียกนักเรียนเข้ามาทดสอบความรู้ทางการอ่านและการเขียนภาษาไทย ก่อนจะส่งไปให้ ธนาตุลช่วยทดสอบวิชาคณิตศาสตร์ให้ ก่อนที่คืนนี้จะเอ
ตอนที่6ความใกล้ชิดที่พิเศษ คืนแรกกับการขึ้นไปนอนที่ชั้นสองของบ้าน คุณครูสาวยังไม่ค่อยชินเท่าไหร่ กว่าจะหลับได้สนิทก็เกือบเช้ามืดแล้ว “ตื่นสายกว่าคุณอีกแล้ว เมื่อคืนกว่าจะหลับได้” อลิสลงมาข้างล่าง ตามกลิ่นของกาแฟที่ส่งกลิ่นหอมขึ้นไปถึงบนชั้นสอง เข้าไปในห้องนอนของเธอ “คงต้องใช้เวลาอีกสักพัก แต่ผมว่าพอคุณเหนื่อยมากๆสุดท้ายเดี๋ยวก็หลับง่ายไปเอง” ผู้กองหนุ่มยื่นแก้วกาแฟให้หญิงสาวที่ยังอยู่ในชุดนอนและกำลังยืนบิดตัวไล่ความขี้เกลียดให้ออกจากตัวเอง “หอมมากเลยนะคะ ไว้กลับไปบ้านอลิสว่าจะซื้อไปฝากพ่อ ท่านชอบกินกาแฟสดมากค่ะ” “ดีเลยครับ อุดหนุนชาวบ้าน ผมยังเคยเอาลงไปขายเลยนะ ลูกค้าที่ซื้อไปต่างก็ชอบ อีกทั้งไม่ได้ผ่านพ่อค้าคนกลาง ราคาก็ไม่แพง” ครอบครัวของธนาตุลด้วยความที่เป็นคนหัวการค้า เขาจึงเอากาแฟจากบ้านน้ำฝายและหมู่บ้านใกล้เคียงไปติดแบรนด์ของตัวเอง และขายให้กับลูกค้าที่มาซื้อทอง ร้านทองครอบครัวธนาตุลมีหลายสาขา ชายหนุ่มเอากาแฟกลับไปเท่าไหร่ก็ขายหมดแค่เพียงไม่นาน และกำไรที่ขายได้ พ่อของเขาก็ยกให้ลูกชาย ผู้กอง
ตอนที่7ฤดูฝนที่ชุ่มฉ่ำใจ เวลาผ่านไปรวดเร็วเมื่ออลิสคิดถึงวันที่ตำรวจชุดนี้ต้องถูกสับเปลี่ยน “เมื่อคืนฝนตกคุณรู้ไหม” ธนาตุลถามหญิงสาวที่เพิ่งตื่นนอนและเดินลงมาด้านล่างของบ้าน “หลับสนิทไม่รู้เรื่องเลยค่ะ” อลิสเริ่มชินกับที่นี่และเธอก็เหนื่อยกับการสอนนักเรียนจนหลับแบบไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย “เมื่อคืนฝนตกแต่ไม่หนักเท่าไหร่ เริ่มเข้าหน้าฝนแล้ว ที่นี่เวลาฝนตกจะตกแทบทั้งวัน คุณไม่ต้องแปลกใจถ้าวันไหนฝนตกตอนกลางคืน อาจจะไม่มีนักเรียนมาโรงเรียน” “ทำไมเหรอคะ” อลิสไม่เข้าใจ เพราะฝนตกช่วงกลางคืนเกี่ยวอะไรกับตอนเช้าที่เด็ก ๆต้องมาโรงเรียนด้วย “ถนนลาดยางที่คุณเห็นมันไม่ได้ตลอดนะ ถนนในหมู่บ้านเป็นดิน ถ้าฝนตกหนักมันก็จะเละไปหมด แล้วใครเขาจะเดินผ่านดินเละ ๆ มาเรียนกัน” ธนาตุลอธิบายแต่น้ำเสียงก็ดุดันนิดหน่อย เพราะชายหนุ่มอยากให้อลิสเป็นคนที่ช่างสังเกตมากกว่านี้ การใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติต้องอาศัยการสังเกตจะได้รู้และเตรียมตัวรับกับภัยธรรมชาติต่าง ๆได้ทัน “ทำเสียงดุเชียวนะคะ ฉันเพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้ย