Share

ความใกล้ชิดที่พิเศษ

ตอนที่6

ความใกล้ชิดที่พิเศษ

          คืนแรกกับการขึ้นไปนอนที่ชั้นสองของบ้าน คุณครูสาวยังไม่ค่อยชินเท่าไหร่ กว่าจะหลับได้สนิทก็เกือบเช้ามืดแล้ว

          “ตื่นสายกว่าคุณอีกแล้ว เมื่อคืนกว่าจะหลับได้”

         อลิสลงมาข้างล่าง ตามกลิ่นของกาแฟที่ส่งกลิ่นหอมขึ้นไปถึงบนชั้นสอง เข้าไปในห้องนอนของเธอ

          “คงต้องใช้เวลาอีกสักพัก แต่ผมว่าพอคุณเหนื่อยมากๆสุดท้ายเดี๋ยวก็หลับง่ายไปเอง”

          ผู้กองหนุ่มยื่นแก้วกาแฟให้หญิงสาวที่ยังอยู่ในชุดนอนและกำลังยืนบิดตัวไล่ความขี้เกลียดให้ออกจากตัวเอง

          “หอมมากเลยนะคะ ไว้กลับไปบ้านอลิสว่าจะซื้อไปฝากพ่อ ท่านชอบกินกาแฟสดมากค่ะ”

          “ดีเลยครับ อุดหนุนชาวบ้าน ผมยังเคยเอาลงไปขายเลยนะ ลูกค้าที่ซื้อไปต่างก็ชอบ อีกทั้งไม่ได้ผ่านพ่อค้าคนกลาง ราคาก็ไม่แพง”

          ครอบครัวของธนาตุลด้วยความที่เป็นคนหัวการค้า เขาจึงเอากาแฟจากบ้านน้ำฝายและหมู่บ้านใกล้เคียงไปติดแบรนด์ของตัวเอง และขายให้กับลูกค้าที่มาซื้อทอง

          ร้านทองครอบครัวธนาตุลมีหลายสาขา ชายหนุ่มเอากาแฟกลับไปเท่าไหร่ก็ขายหมดแค่เพียงไม่นาน และกำไรที่ขายได้ พ่อของเขาก็ยกให้ลูกชาย ผู้กองจึงมีเงินเก็บไว้ซื้อที่และเตรียมปลูกบ้านที่นี่

          “วันนี้พวกผมต้องเข้าป่ากับชาวบ้าน คงไม่ได้อยู่ช่วยคุณสอน อยู่คนเดียวได้ไหม”

          หลายวันตั้งแต่มาถึง ตำรวจทุกนายก็มัวยุ่งอยู่กับอลิสและโรงเรียน จนยังไม่ได้ทำหน้าที่หลักของตัวเอง อีกไม่กี่วัน ตำรวจอีกชุดก็ต้องมาเปลี่ยนแล้ว จึงต้องเร่งมือทำงานที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จก่อน

         “ได้ค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วง ผู้กองและลูกน้องไปทำงานในหน้าที่เถอะค่ะ มัวแต่ช่วยอลิสกันเสียหลายวัน ขอบคุณตำรวจทุกนายเลยนะคะ โดยเฉพาะ...ผู้กอง”

          อลิสไม่รู้เหมือนกัน ว่าแค่การพูดขอบคุณทำไมเธอถึงต้องรู้สึกขนาดนี้ กาแฟที่เหลือไม่ถึงครึ่งแก้ว ถูกยกดื่มทีเดียวหมด ก่อนที่หญิงสาวจะกลับขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว เพื่อเตรียมรับหน้าที่คุณครู

          “วันนี้เราแยกห้องกัน ตามที่คุณครูบอกไว้เมื่อวานนะคะ ว่าใครอยู่ห้องไหนบ้าง”

          อลิสแยกนักเรียนออกเป็นสามห้อง เพื่อให้ง่ายต่อการสอน ฟองจันทร์รับหน้าที่ลอกแบบฝึกหัดของคุณครูขึ้นบนกระดานให้ทั้งสองห้องที่พอมีความรู้เบื้องต้น อ่านออกเขียนได้ ส่วนอีกห้องอลิสตั้งใจจะเริ่มสอนสะกดคำวันนี้

          “ครูครับผมอ่านได้แล้ว”

          เด็กชายตัวเล็กอายุเจ็ดปี เทียบเท่าเด็กชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่ง จ้อยยังอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ อลิสจึงเริ่มสอนอ่านสะกดคำที่ไม่มีตัวสะกดก่อน เมื่อจ้อยรู้สึกว่าตัวเองอ่านได้จึงรีบวิ่งมาอวดครู ที่กำลังสอนห้องของฟองจันทร์บวกเลขสองหลักอยู่

          “เก่งมากจ๊ะจ้อย กลับไปนั่งรอครูที่ห้องก่อนนะ เดี๋ยวครูจะตามไปฟังจ้อยอ่าน แต่ตอนนี้ขอสอนพี่ๆบวกเลขให้เสร็จก่อน”

          เด็กในห้องของฟองจันทร์มีจำนวนมากที่สุด อลิสคิดว่าสอนอีกไม่เท่าไหร่ เด็กในห้องนี้จะอ่านออกเขียนได้ และคิดเลขเป็น บางคนก็ดูสนใจในคณิตศาสตร์และเก่งอย่างโดดเด่นออกม จนอลิสคิดว่าถ้าเด็กคนนี้จบป.6 ควรที่จะได้เรียนต่อ

          “ทำแบบฝึกหัดบนกระดานนะคะ ครูจะไปสอนอีกห้อง แล้วเมื่อทำเสร็จแล้ว พี่ๆไปพาน้องอีกห้องบวกเลขหนึ่งหลักด้วยนะคะ”

          การสอนเด็กหลายสิบคนโดยมีครูเพียงคนเดียวไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย อลิสจึงจำเป็นต้องให้พี่ช่วยน้อง เพราะเป็นการฝึกความเป็นผู้ใหญ่ให้กับพี่ๆด้วย

          เวลาเลิกเรียนมาถึง พร้อมกับร่างกายที่แทบจะหมดแรงของคุณครู อลิสนั่งลงที่เก้าอี้หน้าบ้านด้วยความอ่อนล้า เธอพยายามมองเข้าไปในหมู่บ้านว่าบรรดาตำรวจจะพากันกลับเข้าหมู่บ้านหรือยัง แต่ก็ไม่มีวี่แวว

         หญิงสาวพยายารวบรวมกำลังลุกขึ้นพาตัวเองไปอาบน้ำอาบท่าให้สดชื่น ก่อนที่จะลงมาอุ่นกับข้าวที่ชาวบ้านทำมาให้ตั้งแต่ช่วงกลางวันเพื่อรอผู้กองกลับมา เขาจะได้กินได้เลย

          กว่าจะก่อไฟติด หน้าอลิสก็ดำไปหมดเพราะมือของเธอเปื้อนถ่านและเอามาเช็ดหน้าเช็ดตา

          “คุณครูของผมเก่งจัง ก่อไฟติดด้วย”

          เสียงหนาทุ้มที่คุ้นเคยดังมาจากข้างหลัง อลิสรีบหันไปตามเสียงด้วยความดีใจ เธอไม่ต้องอยู่บ้านคนเดียวแล้ว

          “ดูหน้า ดำไปหมดแล้ว แต่ก็สวยไปอีกแบบ อย่าเพิ่งล้างนะ เดี๋ยวผมขอถ่ายรูก่อน”

          ธนาตุลหยิบโทรศัพท์ของเขาขึ้นมาถ่ายรูป ใบหน้าที่เต็มไปด้วยสีดำจากถ่าน ทั้งสองคนส่งเสียงหัวเราะกันอย่างมีความสุข

          “ผมดีใจนะที่คุณก่อไฟได้แล้ว ถึงแม้จะดูแย่ไปหน่อย แต่มันจะต้องชำนาญขึ้น ผมจะได้ไม่ต้องห่วง เวลาผมไม่อยู่กลัวคุณจะกินกับข้าวแบบไม่ต้องอุ่น เดี๋ยวจะปวดท้องเอา”

          ชายหนุ่มแค่ล้างมือและวางเป้สะพายลง เขาก็เดินมานั่งกินข้าวกับคุณครูสาว ที่นั่งรออยู่ก่อน

          “เมื่อคืนนอนไม่หลับ หวังว่าคืนนี้จะหลับนะ ไม่อย่างนั้นมีหวัง พรุ่งนี้ตื่นไปสอนเด็ก ๆ ไม่ไหวแน่”

          หญิงสาวทำท่าทางหมดแรง จนคนฟังอดขำไม่ได้ นี่แค่ผ่านไปสองวันเอง คุณครูก็ทำท่าจะแย่เสียแล้ว

          “เชื่อผม คืนนี้คุณหลับสนิทแน่ ดูจากความเหนื่อยแล้ว”

          “ให้จริงเถอะ เฮ้อ....ไม่อยากให้ผู้กองกลับไปบ้านเลย”

          ชายหนุ่มทำหน้าคิ้วชนกัน ทั้งคู่กำลังคุยกันเรื่องนอนหลับหรือไม่หลับ อยู่ดีๆหญิงสาวก็เปลี่ยนมาเป็นเรื่องไม่อยากให้เขากลับบ้านเสียอย่างนั้น

          “มันเกี่ยวกับการนอนไม่หลับ อย่างไรครับคุณครู”

          ธนาตุลถามด้วยความสงสัย เพราะสีหน้าหญิงสาวตรงหน้าดูเหมือนเด็กกำลังจะอ้อนเอาอะไรสักอย่าง

         “ก็ขนาดมีคุณอยู่ชั้นล่าง ฉันยังนอนไม่หลับเลย แล้วถ้าผู้กองกลับไป ต้องอยู่บ้านคนเดียว มีหวังคงนอนแบบระแวงทั้งคืน”

          ธนาตุลส่ายหัวให้กับความไม่โต ของหญิงสาวตรงหน้าแต่ลึกๆเขาก็คิดว่าเธอต้องอยู่ได้ เขามองเห็นความตั้งใจจริงใต้ใบหนาที่ขาวสวยดูน่าทะนุถนอม มันมีความแข็งแกร่งซ่อนอยู่

          “ผมเชื่อว่าคุณเก่งและคุณจะเข้มแข็งพอ ผมไปไม่นานก็กลับมา อีกหน่อยคุณก็จะชินกับที่นี่ และตอนนั้นคุณอาจจะไม่ต้องการผมแล้วก็ได้”

          “ทำไมพูดเหมือนคุณจะไม่อยากมาที่นี่อีก คุณซื้อที่ไว้แล้วนะ ถ้าขืนไม่กลับมาคอยดูฉันจะยึดเป็นของตัวเองให้หมดเลย”

          อลิสวางช้อนทำท่างอนใส่คนตรงหน้า ด้วยความลืมตัวไป ว่าจริงๆแล้วเขากับเธอไม่ได้เป็นอะไรกันและเพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่นานเอง

          “ผมยกให้เลยเอาไหม ถ้าคุณสัญญาว่าจะอยู่สอนเด็กๆ ที่นี่ตลอดไป”

          เมื่อเจอคำพูดและน้ำเสียงที่ดูจริงจังกว่า ทำให้อลิสถึงกลับต้องเปลี่ยนจากหน้าที่กำลังแสดงความน้อยใจ เป็นส่งยิ้มหวานให้ผู้กองผู้จริงจัง เพราะเธอยังไม่พร้อมจะรับปากอะไรตอนนี้

         “ไม่ต้องมาทำเป็นยกให้เลย อลิสจะให้ผู้กองมาปลูกบ้านแล้วค่อยไปอาศัยอยู่ด้วยดีกว่า เรื่องอะไรที่จะเอาที่ดินผู้กองมาเป็นของตัวเอง ถ้าทำแบบนั้นผู้กองได้กลับไปอยู่บ้านแล้วคงไม่กลับมาที่นี่อีกแน่ๆ ”

          เมื่อรู้ตัวว่าเริ่มพูดมากไปและท่าทางของเธอก็เริ่มแสดงออกมากกว่าคุณครูกับตำรวจที่มาทำหน้าที่ในหมู่บ้านร่วมกันแล้ว           อลิสจึงขอตัวขึ้นไปอาบน้ำอีกรอบก่อน เพราะตอนนี้หน้าของเธอเปื้อนไปหมดแล้ว

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status