ตอนที่6
ความใกล้ชิดที่พิเศษ
คืนแรกกับการขึ้นไปนอนที่ชั้นสองของบ้าน คุณครูสาวยังไม่ค่อยชินเท่าไหร่ กว่าจะหลับได้สนิทก็เกือบเช้ามืดแล้ว
“ตื่นสายกว่าคุณอีกแล้ว เมื่อคืนกว่าจะหลับได้”
อลิสลงมาข้างล่าง ตามกลิ่นของกาแฟที่ส่งกลิ่นหอมขึ้นไปถึงบนชั้นสอง เข้าไปในห้องนอนของเธอ
“คงต้องใช้เวลาอีกสักพัก แต่ผมว่าพอคุณเหนื่อยมากๆสุดท้ายเดี๋ยวก็หลับง่ายไปเอง”
ผู้กองหนุ่มยื่นแก้วกาแฟให้หญิงสาวที่ยังอยู่ในชุดนอนและกำลังยืนบิดตัวไล่ความขี้เกลียดให้ออกจากตัวเอง
“หอมมากเลยนะคะ ไว้กลับไปบ้านอลิสว่าจะซื้อไปฝากพ่อ ท่านชอบกินกาแฟสดมากค่ะ”
“ดีเลยครับ อุดหนุนชาวบ้าน ผมยังเคยเอาลงไปขายเลยนะ ลูกค้าที่ซื้อไปต่างก็ชอบ อีกทั้งไม่ได้ผ่านพ่อค้าคนกลาง ราคาก็ไม่แพง”
ครอบครัวของธนาตุลด้วยความที่เป็นคนหัวการค้า เขาจึงเอากาแฟจากบ้านน้ำฝายและหมู่บ้านใกล้เคียงไปติดแบรนด์ของตัวเอง และขายให้กับลูกค้าที่มาซื้อทอง
ร้านทองครอบครัวธนาตุลมีหลายสาขา ชายหนุ่มเอากาแฟกลับไปเท่าไหร่ก็ขายหมดแค่เพียงไม่นาน และกำไรที่ขายได้ พ่อของเขาก็ยกให้ลูกชาย ผู้กองจึงมีเงินเก็บไว้ซื้อที่และเตรียมปลูกบ้านที่นี่
“วันนี้พวกผมต้องเข้าป่ากับชาวบ้าน คงไม่ได้อยู่ช่วยคุณสอน อยู่คนเดียวได้ไหม”
หลายวันตั้งแต่มาถึง ตำรวจทุกนายก็มัวยุ่งอยู่กับอลิสและโรงเรียน จนยังไม่ได้ทำหน้าที่หลักของตัวเอง อีกไม่กี่วัน ตำรวจอีกชุดก็ต้องมาเปลี่ยนแล้ว จึงต้องเร่งมือทำงานที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จก่อน
“ได้ค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วง ผู้กองและลูกน้องไปทำงานในหน้าที่เถอะค่ะ มัวแต่ช่วยอลิสกันเสียหลายวัน ขอบคุณตำรวจทุกนายเลยนะคะ โดยเฉพาะ...ผู้กอง”
อลิสไม่รู้เหมือนกัน ว่าแค่การพูดขอบคุณทำไมเธอถึงต้องรู้สึกขนาดนี้ กาแฟที่เหลือไม่ถึงครึ่งแก้ว ถูกยกดื่มทีเดียวหมด ก่อนที่หญิงสาวจะกลับขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว เพื่อเตรียมรับหน้าที่คุณครู
“วันนี้เราแยกห้องกัน ตามที่คุณครูบอกไว้เมื่อวานนะคะ ว่าใครอยู่ห้องไหนบ้าง”
อลิสแยกนักเรียนออกเป็นสามห้อง เพื่อให้ง่ายต่อการสอน ฟองจันทร์รับหน้าที่ลอกแบบฝึกหัดของคุณครูขึ้นบนกระดานให้ทั้งสองห้องที่พอมีความรู้เบื้องต้น อ่านออกเขียนได้ ส่วนอีกห้องอลิสตั้งใจจะเริ่มสอนสะกดคำวันนี้
“ครูครับผมอ่านได้แล้ว”
เด็กชายตัวเล็กอายุเจ็ดปี เทียบเท่าเด็กชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่ง จ้อยยังอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ อลิสจึงเริ่มสอนอ่านสะกดคำที่ไม่มีตัวสะกดก่อน เมื่อจ้อยรู้สึกว่าตัวเองอ่านได้จึงรีบวิ่งมาอวดครู ที่กำลังสอนห้องของฟองจันทร์บวกเลขสองหลักอยู่
“เก่งมากจ๊ะจ้อย กลับไปนั่งรอครูที่ห้องก่อนนะ เดี๋ยวครูจะตามไปฟังจ้อยอ่าน แต่ตอนนี้ขอสอนพี่ๆบวกเลขให้เสร็จก่อน”
เด็กในห้องของฟองจันทร์มีจำนวนมากที่สุด อลิสคิดว่าสอนอีกไม่เท่าไหร่ เด็กในห้องนี้จะอ่านออกเขียนได้ และคิดเลขเป็น บางคนก็ดูสนใจในคณิตศาสตร์และเก่งอย่างโดดเด่นออกม จนอลิสคิดว่าถ้าเด็กคนนี้จบป.6 ควรที่จะได้เรียนต่อ
“ทำแบบฝึกหัดบนกระดานนะคะ ครูจะไปสอนอีกห้อง แล้วเมื่อทำเสร็จแล้ว พี่ๆไปพาน้องอีกห้องบวกเลขหนึ่งหลักด้วยนะคะ”
การสอนเด็กหลายสิบคนโดยมีครูเพียงคนเดียวไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย อลิสจึงจำเป็นต้องให้พี่ช่วยน้อง เพราะเป็นการฝึกความเป็นผู้ใหญ่ให้กับพี่ๆด้วย
เวลาเลิกเรียนมาถึง พร้อมกับร่างกายที่แทบจะหมดแรงของคุณครู อลิสนั่งลงที่เก้าอี้หน้าบ้านด้วยความอ่อนล้า เธอพยายามมองเข้าไปในหมู่บ้านว่าบรรดาตำรวจจะพากันกลับเข้าหมู่บ้านหรือยัง แต่ก็ไม่มีวี่แวว
หญิงสาวพยายารวบรวมกำลังลุกขึ้นพาตัวเองไปอาบน้ำอาบท่าให้สดชื่น ก่อนที่จะลงมาอุ่นกับข้าวที่ชาวบ้านทำมาให้ตั้งแต่ช่วงกลางวันเพื่อรอผู้กองกลับมา เขาจะได้กินได้เลย
กว่าจะก่อไฟติด หน้าอลิสก็ดำไปหมดเพราะมือของเธอเปื้อนถ่านและเอามาเช็ดหน้าเช็ดตา
“คุณครูของผมเก่งจัง ก่อไฟติดด้วย”
เสียงหนาทุ้มที่คุ้นเคยดังมาจากข้างหลัง อลิสรีบหันไปตามเสียงด้วยความดีใจ เธอไม่ต้องอยู่บ้านคนเดียวแล้ว
“ดูหน้า ดำไปหมดแล้ว แต่ก็สวยไปอีกแบบ อย่าเพิ่งล้างนะ เดี๋ยวผมขอถ่ายรูก่อน”
ธนาตุลหยิบโทรศัพท์ของเขาขึ้นมาถ่ายรูป ใบหน้าที่เต็มไปด้วยสีดำจากถ่าน ทั้งสองคนส่งเสียงหัวเราะกันอย่างมีความสุข
“ผมดีใจนะที่คุณก่อไฟได้แล้ว ถึงแม้จะดูแย่ไปหน่อย แต่มันจะต้องชำนาญขึ้น ผมจะได้ไม่ต้องห่วง เวลาผมไม่อยู่กลัวคุณจะกินกับข้าวแบบไม่ต้องอุ่น เดี๋ยวจะปวดท้องเอา”
ชายหนุ่มแค่ล้างมือและวางเป้สะพายลง เขาก็เดินมานั่งกินข้าวกับคุณครูสาว ที่นั่งรออยู่ก่อน
“เมื่อคืนนอนไม่หลับ หวังว่าคืนนี้จะหลับนะ ไม่อย่างนั้นมีหวัง พรุ่งนี้ตื่นไปสอนเด็ก ๆ ไม่ไหวแน่”
หญิงสาวทำท่าทางหมดแรง จนคนฟังอดขำไม่ได้ นี่แค่ผ่านไปสองวันเอง คุณครูก็ทำท่าจะแย่เสียแล้ว
“เชื่อผม คืนนี้คุณหลับสนิทแน่ ดูจากความเหนื่อยแล้ว”
“ให้จริงเถอะ เฮ้อ....ไม่อยากให้ผู้กองกลับไปบ้านเลย”
ชายหนุ่มทำหน้าคิ้วชนกัน ทั้งคู่กำลังคุยกันเรื่องนอนหลับหรือไม่หลับ อยู่ดีๆหญิงสาวก็เปลี่ยนมาเป็นเรื่องไม่อยากให้เขากลับบ้านเสียอย่างนั้น
“มันเกี่ยวกับการนอนไม่หลับ อย่างไรครับคุณครู”
ธนาตุลถามด้วยความสงสัย เพราะสีหน้าหญิงสาวตรงหน้าดูเหมือนเด็กกำลังจะอ้อนเอาอะไรสักอย่าง
“ก็ขนาดมีคุณอยู่ชั้นล่าง ฉันยังนอนไม่หลับเลย แล้วถ้าผู้กองกลับไป ต้องอยู่บ้านคนเดียว มีหวังคงนอนแบบระแวงทั้งคืน”
ธนาตุลส่ายหัวให้กับความไม่โต ของหญิงสาวตรงหน้าแต่ลึกๆเขาก็คิดว่าเธอต้องอยู่ได้ เขามองเห็นความตั้งใจจริงใต้ใบหนาที่ขาวสวยดูน่าทะนุถนอม มันมีความแข็งแกร่งซ่อนอยู่
“ผมเชื่อว่าคุณเก่งและคุณจะเข้มแข็งพอ ผมไปไม่นานก็กลับมา อีกหน่อยคุณก็จะชินกับที่นี่ และตอนนั้นคุณอาจจะไม่ต้องการผมแล้วก็ได้”
“ทำไมพูดเหมือนคุณจะไม่อยากมาที่นี่อีก คุณซื้อที่ไว้แล้วนะ ถ้าขืนไม่กลับมาคอยดูฉันจะยึดเป็นของตัวเองให้หมดเลย”
อลิสวางช้อนทำท่างอนใส่คนตรงหน้า ด้วยความลืมตัวไป ว่าจริงๆแล้วเขากับเธอไม่ได้เป็นอะไรกันและเพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่นานเอง
“ผมยกให้เลยเอาไหม ถ้าคุณสัญญาว่าจะอยู่สอนเด็กๆ ที่นี่ตลอดไป”
เมื่อเจอคำพูดและน้ำเสียงที่ดูจริงจังกว่า ทำให้อลิสถึงกลับต้องเปลี่ยนจากหน้าที่กำลังแสดงความน้อยใจ เป็นส่งยิ้มหวานให้ผู้กองผู้จริงจัง เพราะเธอยังไม่พร้อมจะรับปากอะไรตอนนี้
“ไม่ต้องมาทำเป็นยกให้เลย อลิสจะให้ผู้กองมาปลูกบ้านแล้วค่อยไปอาศัยอยู่ด้วยดีกว่า เรื่องอะไรที่จะเอาที่ดินผู้กองมาเป็นของตัวเอง ถ้าทำแบบนั้นผู้กองได้กลับไปอยู่บ้านแล้วคงไม่กลับมาที่นี่อีกแน่ๆ ”
เมื่อรู้ตัวว่าเริ่มพูดมากไปและท่าทางของเธอก็เริ่มแสดงออกมากกว่าคุณครูกับตำรวจที่มาทำหน้าที่ในหมู่บ้านร่วมกันแล้ว อลิสจึงขอตัวขึ้นไปอาบน้ำอีกรอบก่อน เพราะตอนนี้หน้าของเธอเปื้อนไปหมดแล้ว
ตอนที่7ฤดูฝนที่ชุ่มฉ่ำใจ เวลาผ่านไปรวดเร็วเมื่ออลิสคิดถึงวันที่ตำรวจชุดนี้ต้องถูกสับเปลี่ยน “เมื่อคืนฝนตกคุณรู้ไหม” ธนาตุลถามหญิงสาวที่เพิ่งตื่นนอนและเดินลงมาด้านล่างของบ้าน “หลับสนิทไม่รู้เรื่องเลยค่ะ” อลิสเริ่มชินกับที่นี่และเธอก็เหนื่อยกับการสอนนักเรียนจนหลับแบบไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย “เมื่อคืนฝนตกแต่ไม่หนักเท่าไหร่ เริ่มเข้าหน้าฝนแล้ว ที่นี่เวลาฝนตกจะตกแทบทั้งวัน คุณไม่ต้องแปลกใจถ้าวันไหนฝนตกตอนกลางคืน อาจจะไม่มีนักเรียนมาโรงเรียน” “ทำไมเหรอคะ” อลิสไม่เข้าใจ เพราะฝนตกช่วงกลางคืนเกี่ยวอะไรกับตอนเช้าที่เด็ก ๆต้องมาโรงเรียนด้วย “ถนนลาดยางที่คุณเห็นมันไม่ได้ตลอดนะ ถนนในหมู่บ้านเป็นดิน ถ้าฝนตกหนักมันก็จะเละไปหมด แล้วใครเขาจะเดินผ่านดินเละ ๆ มาเรียนกัน” ธนาตุลอธิบายแต่น้ำเสียงก็ดุดันนิดหน่อย เพราะชายหนุ่มอยากให้อลิสเป็นคนที่ช่างสังเกตมากกว่านี้ การใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติต้องอาศัยการสังเกตจะได้รู้และเตรียมตัวรับกับภัยธรรมชาติต่าง ๆได้ทัน “ทำเสียงดุเชียวนะคะ ฉันเพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้ย
ตอนที่8คิดถึง วันที่อลิสไม่อยากให้มาถึง แต่มันก็ต้องยอมทำใจเมื่อชุดตำรวจตระเวนชายแดนอีกชุดเดินทางมาถึงที่หมู่บ้าน ชุดของผู้กองธนาตุลก็ได้พัก ตำรวจหลายคนก็คิดถึงภรรยาและลูกๆกันจะแย่อยู่แล้ว “ดูแลตัวเองให้ดีนะคุณครู แล้วผมจะซื้อของมาฝาก ไม่งอแงนะคนเก่ง” เมื่อรถของชายหนุ่มเคลื่อนออกจากหมู่บ้าน อลิสก็หันหลังให้ทันที เพราะเธอกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว “ร้องไห้ตามผู้กองธนาตุลหรือครับคุณครู” เสียงทักทายดังมาจากด้านหลัง แต่เป็นเสียงที่น่าจะมีอายุน้อยกว่าบิดาของอลิสไปกี่ปี “สวัสดีค่ะ หนูชื่อลิสนะคะ คุณคงเป็นผู้กองสุชาติใช่ไหมคะ” “ใช่ ผมผู้กองสุชาติ ดูแล้วครูน่าจะอายุเท่าๆกับลูกสาวผม ยังเป็นเด็กสาวต้องมาอยู่ไกลพ่อไกลแม่แบบนี้ ลำบากหน่อยนะ” น้ำเสียงและท่าทางของผู้กองสุชาติ แสดงถึงความเข้มแข็งและมากด้วยประสบการณ์ ถึงแม้เขาจะส่งยิ้มให้หญิงสาว แต่เธอกลับรู้สึกทั้งเคารพและก็เกรงใจ ไม่กล้าจะตีสนิทด้วย “ขอบคุณหนูนะที่เสียสละทิ้งความสบายมาเลือกลงโรงเรียนที่นี่ หลายปีแล้วที่โรงเรียนบ้านน้ำฝายต้องให้ครูชะลอมาคอยสอน
ตอนที่9แล้วเขาก็กลับมา วันนี้แล้วที่ผู้กองจะต้องมาที่หมู่บ้าน อลิสอารมณ์ดีตั้งแต่เช้า เพราะเหมือนกับการรอคอยของเธอจะสมหวังวันนี้แล้ว “วันนนี้ครูยิ้มทั้งวันเลย” เด็กน้อยจากหมู่บ้านข้างเคียง พูดกับอลิสเมื่อมายินรอส่งแบบฝึกหัดแล้วเห็นครูของเธอนั่งยิ้มคนเดียว “วันนี้นักเรียนของครูทุกคนน่ารัก ครูก็เลยยิ้มได้ทั้งวัน” เมื่อตอบตามตรงเด็กน้อยคงไม่เข้าใจ หญิงสาวจึงคิดคำตอบที่เข้าใจง่ายๆ ตอบหนูน้อยไป เสียงรถตำรวจที่กำลังวิ่งเข้ามาในหมู่บ้าน ทำให้หัวใจของหญิงสาวเต้นแรง เพราะหมายความว่าเธอกำลังจะได้เจอหน้ากับ ผู้กองธนาตุล “เก็บหนังสือเข้าที่ การบ้านใส่กระเป๋าให้เรียบร้อย โรงเรียนหยุดสองวัน เจอกันอีกทีวันจันทร์นะคะทุกคน” หญิงสาวไม่กล้าที่จะเดินไปในหมู่บ้านถึงแม้จะอยากไปแค่ไหน แต่ก็ได้แต่รอให้ผู้กองเสร็จธุระในหมู่บ้านแล้วคงมาที่บ้านพักครูเอง เวลาผ่านไปนาน นานจนคนรอเริ่มรู้สึกใจคอไม่ดีแล้ว เพราะมองไปทางเดินที่เป็นเส้นทางจากหมู่บ้านมายังบ้านพักครู เธอก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของชายหนุ่มที่เธอรอคอย “คร
ตอนที่10ทะเลหมอกและสองเรา “แบบนี้เขาไม่เรียกตื่นเช้า เขาเรียกตื่นตั้งแต่มืดต่างหาก มืดแบบนี้จะมองเห็นเหรอทะเลหมอกของผู้กอง” อลิสหงุดหงิดที่ถูกปลุกให้ตื่นตั้งแต่เช้ามืดแบบนี้ เพราะแค่ทุกวันนี้เธอต้องตื่นเช้าเพื่อมาเตรียมอาหารเช้า และเตรียมมาสอน ก็ต้องใช้ควาพยายามในการเปลี่ยนตัวเองมากพออยู่แล้ว “เด็กในเมืองก็แบบนี้ พอโดนปลุกให้ตื่นตอนเช้ามืดก็ทำเป็นไม่พอใจ แล้วแบบนี้จะมาเป็นครูบนดอย ผมว่าคุณทนอยู่ที่นี่ได้ไม่ถึงปี เดี๋ยวก็ต้องหาทางลงไปสอนในเมืองแน่ๆ” ธนาตุลรู้ว่าถ้าเขาพูดดี ๆ ไม่มีทางที่หญิงสาวจะหายง่วงนอน เขาเลยแกล้งพูดยั่วโมโห แล้วมันก็ได้ผลจริงๆ “คอยดูแล้วกัน ฉันก็แกล้งบ่นแกล้งง่วงไปอย่างนั้นแหละ ตอนคุณไม่อยู่ฉันก็ตื่นเช้าทุกวัน เลิกคิดว่าฉันต้องเป็นลูกคุณหนูและทนความลำบากที่นี่ไม่ได้เสียที” เมื่อเห็นอีกฝ่ายโมโห ผู้กองกลับทั้งหัวเราะและยิ้ม จนหญิงสาวต้องเอียงตัวเพื่อหันหน้ามามองเขาด้วยความสงสัย “ผู้กองขำอะไร” หญิงสาวกระแทกเสียงถาม “ขำคนที่โดนยั่วโมโหจนหายง่วงเลย เอ๊ย!..ไม่ใช่ ไม่ได้ง่วงลืมไป ผ
ตอนที่11วันเวลาที่ผ่านไป วันเวลาเดินทางไปเร็วเสมอ เมื่อผู้กองธนาตุลมาอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ “อีกไม่กี่วันคุณก็ต้องกลับลงไปข้างล่างแล้ว เฮ้อ! เวลามันเดินไวจริง ๆนะคะ” “คุณคิดถึงผมใช่ไหม” คำถามที่ดูแล้วคนถามอยากรู้คำตอบจริง บวกกับบรรยากาศที่ร่มรื่นเย็นสบายริมน้ำตกที่สงบเงียบไม่มีคน ทำให้อลิสรู้สึกกล้าที่จะพูดความจริงกลับไป “คิดถึง แล้วผู้กองล่ะคะ เวลาที่ไม่เจอกัน คุณคิดถึง อลิสเหมือนกันไหม” “ไม่เหมือน” คนฟังถึงกับรู้สึกใจหาย เมื่อคำตอยที่ได้ ไม่ใช่อย่างที่เธอคาดหวังไว้ “ไม่เป็นไรค่ะ อลิสคิดถึงผู้กองอย่างเดียวก็พอ”หญิงสาวพูดด้วยเสียงน้อยใจ และหันหน้าไปอีกทางเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้ว่าตอนนี้หัวใจของเธอมันรู้กำลังรู้สึกเหมือนคนอกหัก“ที่บอกไม่เหมือน เพราะผมคิดว่า ผมคิดถึงคุณ มากกว่าที่คุณคิดถึงผม”“เหรอคะ”คนฟังหันมายิ้มมุมปากแบบไม่เชื่อ อลิสคิดว่าชายหนุ่มคงแค่ต้องการพูดให้เธอรู้สึกดีขึ้น“ทำเสียงแบบนี้แปลว่าไม่เชื่อ คุณรู้ไหมผมกลับบ้านไป ส่วนมากก็ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวและอีกอย่างที่ผมทุ่มเวลาให้คือการหารซื้อ
ตอนที่12ปัญหาของหัวใจ “คราวนี้ทำไมเอารถไปเองล่ะคะพี่ตุล” ฉัตรฤดีคู่หมั้นสาวมานั่งรอธนาตุลที่บ้านของฝ่ายชายตั้งแต่บ่าย “ขนของไปหลายอย่างเลยไม่อยากเป็นภาระให้ลูกน้องต้องลำบาก” ชายหนุ่มอธิบาย “คราวนี้ลูกชายแม่เขาขนของเหมือนกับจะย้ายไปอยู่ที่นั่นเลย โทรทัศน์ ตู้ โต๊ะ เต็มรถไปหมด” ศยามลแซวผู้เป็นลูกชาย “ผมอาจจะย้ายไปอยู่ที่นู่นจริงก็ได้นะครับ คุณแม่ก็รู้ว่าผมซื้อที่ไว้แล้ว อีกไม่นานก็คงปลูกบ้าน ความฝันของผมคือการได้ไปอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติแบบนั้น” “มาเหนื่อยๆเข้าไปในบ้านกันดีกว่าค่ะ” ฉัตรฤดีเห็นสองคนแม่รู้เริ่มจะดูพูดจาจริงจังกันเกินไป เธอยังไม่อยากให้ทั้งคู่ต้องมาทะเลาะกันในวันแรกของการกลับมาของธนาตุล “หนูฉัตรเขามารอลูกตั้งแต่บ่ายแล้ว ปกติเคยเห็นเย็นๆก็มาถึง ทำไมคราวนี้มาถึงมืดเลย” ศยามลพยายามชวนคุย เพราะเห็นท่าทางที่ลูกชายแสดงกับคู่หมั้นแล้วรู้สึกไม่สบายใจ “ความจริงน้องฉัตรไม่ต้องมารอพี่ก็ได้นะ เพราะอีกหน่อยพี่อาจไม่ได้กลับตามวันเวลาปกติ ตอนนี้พี่เริ่มเตรียมปลูกบ้านแล้ว ถ้าช่างว่างเมื่อไหร่คง
ตอนที่13เปิดตัว ปัญหาที่ค้างคาใจในความรู้สึกของธนาตุลก็ได้ถูกปลดปล่อยแล้ว ชายหนุ่มก็เดินหน้าในการที่จะสร้างบ้านบนที่ดินที่เขาซื้อไว้บนดอยบ้านน้ำฝางให้สำเร็จ “ตัดสินใจดีแล้วนะลูก” นพดลเดินมานั่งข้างๆลูกชายที่กำลังดูแบบบ้านที่เพื่อนของธนาตุลเอาแบบมาให้เลือกที่น่าจะเหมาะกับการปลุกบนภูเขา “แน่ใจที่สุดเลยครับคุณพ่อ ผมก็ไม่รู้ทำไมผมถึงได้หลงรักที่นั่นมากขนาดนี้ ไว้บ้านเสร็จผมจะพาคุณพ่อคุณแม่ไปเที่ยวนะครับ” “นอกจากหลงรักธรรมชาติที่นั่นแล้ว ยังมีอย่างอื่นอีกไหมที่ลูกชายของพ่อหลงรัก” นพดลสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของลูกชายตั้งแต่กลับมาจากบนดอยคราวก่อนแล้ว แต่เพิ่งมาแน่ใจก็ตอนที่ธนาตุลตัดสินใจยกเลิกการหมั้นหมายกับฉัตรฤดี เขากำลังคิดว่าลูกชายของเขากำลังมีความรัก “คุณพ่อนี่ อยู่ดี ๆ ก็มาแซวผม มาช่วยผมเลือกแบบบ้านดีกว่า” ชายหนุ่มตัดสินใจว่าจะยังไม่เล่าเรื่องนี้ให้พ่อกับแม่ของเขาฟัง แต่จะพาหญิงสาวมาแนะนำถึงที่บ้านแทน เวลาผ่านไปจนใกล้เวลาที่เขาจะต้องกลับไปที่บ้านน้ำฝาย ธนาตุลจ้างรถขนอุปกรณ์ก่อสร้างบางส่วนขึ้นไปเ
ตอนที่14ความจริงบางอย่าง ตั้งแต่วันที่กลับจากดอยลงมาอยู่ที่บ้าน ธนาตุลก็แวะเวียนมาหาหญิงสาวเกือบทุกวัน และเหลืออีกเพียงแค่สองวันเขาต้องขึ้นไปบนดอยแล้ว ส่วนอลิสยังไม่เปิดเทอมจึงยังอยู่ที่บ้านต่อ “พรุ่งนี้ผมจะขออนุญาตพาอลิสไปแนะนำกับคุณพ่อคุณแม่ของผมได้ไหมครับ” ชายหนุ่มตัดสินใจว่าก่อนขึ้นดอยครั้งนี้เขาจะต้องทำให้ทั้งสองบ้านได้รับรู้เรื่องราวระหว่างเขากับหญิงสาวให้ได้ เขาจึงตัดสินใจขออนุญาตพ่อแม่ของอลิสเพื่อพาเธอไปกินข้าวที่บ้าน เพื่อเป็นการเปิดตัวให้พ่อแม่ของเขารู้จัก “ได้สิ แต่อย่าให้กลับดึกกันนัก พ่อเข้าใจว่าบ้านของผู้กองอยู่ไกล เอาแบบนี้แล้วกัน พรุ่งนี้ผู้กองก็ค้างที่นี่เลย จะได้ไปต้องขับรถไปมา เดี๋ยวจะหลับในเอา” วิทยาออกปากเอง เพราะทุกคนในบ้านได้แต่คิดแบบนี้แต่ไม่มีใครหรอกที่จะกล้าพูด “ขอบคุณมากเลยครับ แล้วผมจะรีบพาอลิสไปและรีบพากลับ รับรองความปลอดภัยท่านทั้งสองไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ” ธนาตุลสัมผัสได้ว่าบิดาของแฟนสาวเริ่มรู้สึกดีกับเขา เขาจึงตั้งใจที่จะไม่ทำให้อนาคตพ่อตาผิดหวังในตัวเขาเด็ดขาด ขับรถเกือบสอง