Share

ความจริงบางอย่าง

ตอนที่14

ความจริงบางอย่าง

          ตั้งแต่วันที่กลับจากดอยลงมาอยู่ที่บ้าน ธนาตุลก็แวะเวียนมาหาหญิงสาวเกือบทุกวัน และเหลืออีกเพียงแค่สองวันเขาต้องขึ้นไปบนดอยแล้ว ส่วนอลิสยังไม่เปิดเทอมจึงยังอยู่ที่บ้านต่อ

         “พรุ่งนี้ผมจะขออนุญาตพาอลิสไปแนะนำกับคุณพ่อคุณแม่ของผมได้ไหมครับ”

          ชายหนุ่มตัดสินใจว่าก่อนขึ้นดอยครั้งนี้เขาจะต้องทำให้ทั้งสองบ้านได้รับรู้เรื่องราวระหว่างเขากับหญิงสาวให้ได้ เขาจึงตัดสินใจขออนุญาตพ่อแม่ของอลิสเพื่อพาเธอไปกินข้าวที่บ้าน เพื่อเป็นการเปิดตัวให้พ่อแม่ของเขารู้จัก

          “ได้สิ แต่อย่าให้กลับดึกกันนัก พ่อเข้าใจว่าบ้านของผู้กองอยู่ไกล เอาแบบนี้แล้วกัน พรุ่งนี้ผู้กองก็ค้างที่นี่เลย จะได้ไปต้องขับรถไปมา เดี๋ยวจะหลับในเอา”

          วิทยาออกปากเอง เพราะทุกคนในบ้านได้แต่คิดแบบนี้แต่ไม่มีใครหรอกที่จะกล้าพูด

          “ขอบคุณมากเลยครับ แล้วผมจะรีบพาอลิสไปและรีบพากลับ รับรองความปลอดภัยท่านทั้งสองไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ”

          ธนาตุลสัมผัสได้ว่าบิดาของแฟนสาวเริ่มรู้สึกดีกับเขา เขาจึงตั้งใจที่จะไม่ทำให้อนาคตพ่อตาผิดหวังในตัวเขาเด็ดขาด

          ขับรถเกือบสองชั่วโมง ทั้งคู่ก็มาถึงบ้านหลังใหญ่ของผู้กอง        ธนาตุล

          “บ้านผู้กองทั้งหลังใหญ่ ทั้งสวยแบบนี้ ทำไมถึงอยากขึ้นไปอยู่บนดอยล่ะคะ”

          หญิงสาวสงสัยเพราะดูจากขนาดและการออกแบบของบ้านแล้ว แสดงว่าผู้กองต้องมีฐานะไม่ธรรมดาแน่ๆ

          “บ้านสวยแต่ไม่มีธรรมชาติ ไม่ชาวบ้านที่น่ารัก ไม่มีหมอกยามเช้า ไม่มีผักปลอดสารพิษ และที่สำคัญที่สุดไม่มีคุณครูอลิส ”

          “อลิสไม่เกี่ยวเลย ทำมาเป็นปากหวาน”

          ถึงแม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังทำปากหวานใส่ ทั้งที่ความจริงผู้กองตั้งใจที่จะสร้างบ้านอยู่ที่บ้านน้ำฝายก่อนที่อลิสจะได้ไปสอนที่นั่นเสียอีก แต่เธอก็ยังอดเขินไม่ได้

          “ลงกันเถอะ คุณพ่อคุณแม่คงกำลังรออยู่”

          หญิงสาวรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งได้รู้ว่าฐานะของ          ผู้กองเป็นอย่างไร เธอยิ่งรู้สึกไม่คู่ควรเลย

          “สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่”

          “สวัสดีจ๊ะ นั่งก่อนสิ” ศยามลส่งยิ้มแบบฝืนๆให้กับหญิงสาวทียืนอยู่ข้างๆลูกชาย

          “ตุลเล่าเรื่องของหนูให้ฟังแล้ว พ่อดีใจแทนเด็กบนดอย ที่ได้หนูไปสอน เพราะคงไม่มีใครอยากลำบากขึ้นไปสอนบนนั้น”

          นพดลรู้สึกชื่นชมจากใจจริง เพราะจากรูปร่างที่เล็กหน้าตาดูเป็นคุณหนุของอลิส ไม่น่าจะเป็นผู้หญิงที่เสียสละตัวเองไปอยู่กับความลำบากแบบนั้น

          “มันคือความฝันของหนูเลยค่ะ และหนูก็โชคดีที่มีครอบครัวที่เข้าใจ ไม่อย่างนั้นหนูคงต้องเลือกโรงเรียนอื่นแทน ”

          “พ่อแม่ของหนูทำงานอะไร” ศยามลถามด้วยท่าทางอยากรู้

          “คุณพ่อเป็นอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนแต่ตอนนี้เกษียณอายุราชการแล้ว ส่วนคุณแม่เป็นคุณหมออยู่ที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดค่ะ”

          พอได้รู้ถึงอาชีพของบุพการีอนาคตลูกสะใภ้ ศยามลก็เปลี่ยนสีหน้าทันที

          “คุณพ่อคุณแม่ของหนู ท่านเป็นข้าราชการทั้งคู่ คงเข้าใจถึงได้ยอมให้ลูกไปทำตามความฝัน”

          จากตอนแรกมารดาของชายหนุ่ม ใช้น้ำเสียงแบบเน้นๆ แสดงถึงความรู้สึกที่ไม่ค่อยดี แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นน้ำเสียงที่นุ่มนวลแทน

          “บ้านของเราดูภายนอกจากหน้าที่การงาน ใคร ๆ ก็มักจะคิดว่าเรามีฐานะที่ดี แต่ความจริงแล้ว เราก็เป็นครอบครัวหนึ่งที่มีฐานะปานกลาง เพราะพื้นฐานพ่อกับแม่ต้องมาเริ่มสร้างทุกอย่างด้วยกันสองคนค่ะ”

          “กินข้าวกันดีกว่าเนาะ เย็นหมดเดี๋ยวไม่อร่อย”

          นพดลพูดแทรกขึ้นมา เพราะเขาดูออกว่าหญิงสาวรู้ว่าภรรยาของเขาสนใจเรื่องฐานะของเธอมากกว่าตัวเธอ ซึ่งมันคงไม่ดีเลย ถ้าภรรยาของเขาจะแสดงมากไปจนอีกฝ่ายรู้ มันจะดูเป็นการดูถูกกัน

          หลังจากพูดคุยกินข้าวกันเสร็จ ธนาตุลก็พาคนรักกลับ เพราะกลัวจะถึงบ้านดึกเกินไป

          “คุณไม่โกรธแม่ผมใช่ไหม ที่ถามคุณเรื่องครอบครัว” ชายหนุ่มเป็นกังวล

          “อลิสจะไปโกรธแม่คุณทำไม พ่อก็ถามผู้กองเหมือนกัน พ่อแม่ทุกคนก็ต้องเป็นห่วงลูกของตัวเองทั้งนั้น ผู้กองอย่าคิดมากเลยค่ะ”

          คืนนี้ธนาตุลนอนที่บ้านของหญิงสาว เพราะกว่าจะมาถึงก็เกือบสี่ทุ่มแล้ว ถ้าจะขับกลับบ้านก็คงยิ่งดึก และวิทยาเอง อยากมีเวลาที่จะได้สังเกตอนาคตลูกเขยด้วย

          “นอนที่ห้องข้างล่างนะ พ่อทำไว้เป็นห้องสำหรับให้แขกมานอน ดึกแล้วพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้เช้าเราค่อยคุยกันใหม่ ขึ้นบ้านได้แล้วอลิส”

          ชายหนุ่มสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นในครอบครัวนี้ ที่ดูจะมีมากกว่าครอบครัวของเขา อาจเป็นเพราะหน้าที่การงาน บ้านเขาทำธุรกิจ บิดาต้องคอยเดินทางไปดูแลแต่ละสาขา ส่วนมารดาของเขาก็ต้องคอยดูแลช่างทองที่โรงงาน

         เช้านี้ทุกคนมาพร้อมหน้ากันที่โต๊ะอาหาร บรรยากาศดู           สนิทสนมกันมากขึ้น เพราะธนาตุลก็มาที่บ้านนี้แล้วหลายหน มีแต่ตัวอลิสเองที่เคยไปบ้านของผู้กองแค่ครั้งเดียว

          “พรุ่งนี้เช้าจะเดินทางขึ้นดอยแล้วใช่ไหม” วิทยาเอ่ยถาม

          “ใช่ครับ”

          “เดินทางปลอดภัย ทำหน้าที่ของเราให้ดี เลือกที่จะเป็นข้าราชการแล้ว เราก็เป็นข้าของประชาขน พ่อขอให้เดินทางปลอดภัยนะผู้กอง”

          ธนาตุลขอบคุณคำให้พรจากอนาคตพ่อตา ก่อนกลับเขาได้ลาหญิงสาว ด้วยความเป็นห่วงไม่ต่างจากตอนที่อลิสอยู่บนดอยเลย

          “ตอนนี้ฉันอยู่ที่บ้านกับพ่อกับแม่ คุณไม่ต้องเป็นห่วงขนาดนั้นก็ได้ค่ะ”

          หญิงสาวขำที่อีกฝ่ายทำเหมือนเธอกำลังอยู่ต่างที่ต่างทาง สั่งให้ระวังนั่นระวังนี่ ทั้งที่ตอนนี้เธออยู่ที่บ้านของตัวเองแท้ๆ

          “อีกสิบสี่วันเจอกันนะคะผู้กอง ขับรถดีๆ ทำอะไรก็อย่าประมาท ไม่ต้องห่วงทางนี้ฉันดูแลตัวเองตัวเองดีแน่นอนค่ะ”

          ชายหนุ่มอยากจะจูบแก้มลาสักที แต่ก็ไม่กล้ากลัวผู้ใหญ่หรือใครมาเห็น หญิงสาวจะดูไม่ดีได้ เขาจึงได้แค่เพียงโบกมือแล้วขับรถออกไป

          เมื่อชายหนุ่มขับรถออกไปแล้ว วิทยาก็ทำหน้าจริงจังเรียกลูกสาวเข้าไปคุยในห้องทำงาน

          “คุณพ่อทำหน้าจริงจังเลย มีอะไรหรือคะ”

 หญิงสาวสัมผัสได้ว่าพ่อของเขามีเรื่องไม่สบายใจจะพูดกับเธอแน่นอน

“พ่อให้เพื่อนๆ ช่วยสืบเรื่องแฟนลูก และพ่อได้ข่าวมาว่า เขามีคู่หมั้นอยู่แล้ว แต่เพิ่งเลิกกันได้ไม่นาน บางคนก็ว่ายังไม่เลิก พ่ออยากให้ลูกสืบหาความจริงเรื่องนี้ ตอนนี้ผู้กองไม่อยู่ ลูกควรจะรีบรู้จักเขาจากมุมของคนอื่นที่รู้จักเขาบ้าง”

อลิสรู้สึกทั้งโกรธทั้งเสียใจแต่ก็ต้องเก็บอารมณ์ไว้ เพราะถ้าทำให้อีกฝ่ายรู้ตัวเธอก็จะไม่รู้ความจริง อีกสองวันหญิงสาวจะไปหาฉัตรฤดีด้วยตัวเอง ไปถามเธอให้รู้เรื่องราวทั้งหมด ว่าตกลงทั้งคู่ยังเป็นคู่หมั้นกันอยู่ไหม แล้วถ้าไม่เป็นแล้วเพราะอะไร หญิงสาวไม่อยากเป็นต้นเหตุทำให้คนทั้งคู่ต้องเลิกกัน

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status