ตอนที่15
ตัดสินใจ
อลิสได้ข้อมูลของฉัตรฤดีจากบิดา เธอจึงตัดสินใจที่จะมาพูดคุยเรื่องทุกอย่างด้วยตัวเอง
“สวัสดีค่ะ ฉันจะมาขอพบคุณฉัตรฤดี”
“นัดไว้หรือเปล่าคะ” เลขาหน้าห้องถามเพราะไม่รู้สึกคุ้นหน้า
“ไม่ได้นัดค่ะ ฉันชื่อลิสเป็นเพื่อนกับผู้กองธนาตุล ช่วยรบกวนไปบอกคุณฉัตรฤดีให้หน่อยได้ไหมคะ ว่าฉันมีเรื่องอยากคุยยด้วย”
เลขาหน้าห้องเปิดประตูเข้าไปที่ห้องทำงานของเจ้านาย เพื่อไปแจ้งเรื่องที่มีคนมาขอพบ
ฉัตรฤดีเพิ่งมาทำงานที่บริษัทของบิดาได้แค่เพียงไม่กี่วัน เพราะก่อนหน้านี้แม่ของเธอ เอาแต่เก็บเธอไว้อยู่แต่บ้านตั้งแต่เรียนจบ แต่หญิงสาวมาคิดดูแล ถ้าเธอยังทำตัวเหมือนเก่า สักวันเธอคงต้องกลายเป็นกบในกะลาที่โง่ลงทุกวัน จึงได้ตัดสินใจมาทำงาน
“เชิญค่ะ”
เลขาสาวเดินมานำอลิสเข้าไปในห้องที่เธอเพิ่งเดินออกมา
“สวัสดีค่ะคุณฉัตรฤดี”
อลิสยกมือไหว้ เพราะคิดว่าคนตรงหน้าอาจจะอายุเท่าๆกับผู้กอง ซื่งก็น่าจะเป็นพี่เธอแน่นอน
“สวัสดีค่ะ มีอะไรถึงได้อยากมาพบฉัน คุณบอกกับเลขาว่าเป็นเพื่อนกับพี่ตุล แต่ฉันคิดว่าไม่น่าจะใช่ เพราะเราโตมาด้วยกัน ฉันแน่ใจว่าไม่เคยเห็นคุณมาก่อน”
อลิสจ้องมองหน้าหญิงสาวตรงหน้าด้วยความชื่นชม ใบหน้าของฉัตรฤดีทั้งสวยและคมต่างจากเธอ ที่ดูเป็นสาวเหนือเต็มตัว ท่าทางก็ดูสง่าสมกับเป็นลูกเจ้าของบริษัท อลิสเริ่มไม่แน่ใจแล้ว ว่าข่าวที่ทั้งคู่ยกเลิกการหมั้นจะเป็นเรื่องจริง
“ค่ะ ฉันไม่ได้เป็นเพื่อนกับผู้กอง เราเป็นแฟนกัน และฉันก็เพิ่งรู้ว่า คุณกับผู้กองเป็นคู่หมั้นกันมานาน บางคนก็บอกว่าการหมั้นถูกยกเลิกแล้ว บางคนก็ว่าไม่จริง ส่วนผู้กองไม่เคยพูดเรื่องคุณให้ฉันฟังเลย ฉันขอโทษนะคะ ที่ต้องพูดทุกอย่างตามตรง”
ฉัตรฤดีถึงกับถอนหายใจ เพราะเธอคิดไว้อยู่แล้ว ว่าธนาตุลน่าจะต้องมีคนรักอยู่แล้ว แต่เธอไม่คิดว่าเขาจะปิดบังเรื่องการหมั้นระหว่างเขากับเธอ
“พูดตรงๆล่ะดีแล้ว เธอคบกับพี่ตุลมานานแล้วหรือยัง” ฉัตรฤดีใช้น้ำเสียงที่ดูเป็นมิตรมากกว่าตอนแรก
“เราเพิ่งตกลงเป็นแฟนกันได้เดือนเดียวเองค่ะ ฉันกับผู้กองเราเจอกันที่บนดอย ฉันไปเป็นครูอยู่ที่นั่น ฉันไม่รู้เรื่องคุณจริงๆนะคะ เลยไม่สบายใจถึงได้มาถามหาความจริง ”
หญิงสาวในชุดทำงานที่ดูทันสมัยลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินมาข้าง ๆ หญิงสาวที่แต่งตัวธรรมดาในแบบเรียบร้อยทั่วไป ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูจริงใจแต่มีความเศร้าแฝงอยู่ในนั้น
“เราไม่ได้หมั้นกันแล้ว และเธอไม่ต้องกลัวว่าเธอจะเป็นสาเหตุ เราทั้งคู่คุยกันเข้าใจ การแต่งงานเป็นเรื่องของคนสองคนที่รักกันแล้วมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน แต่ในเมื่อเราสองคนไม่ใช่ ถ้ายังฝืนที่จะทำทุกอย่างตามเส้นทางที่ผู้ใหญ่ขีดไว้ให้ เราทั้งคู่ก็คงไม่มีความสุข แต่ลึกๆฉันก็คิดเอาไว้แล้ว ว่าพี่ตุลคงเจอผู้หญิงที่เขารัก ถึงได้ตัดสินใจมาพูดเรื่องนี้กับฉันแบบจริงจัง”
น้ำใสๆที่ไหลคลอตาคนพูดมันตรงข้ามกับรอยยิ้มที่เขาพยายามฝืนยิ้มให้กับคู่สนทนา อลิสเห็นแล้วยิ่งรู้สึกสงสารเธอ
“คุณรักผู้กองใช่ไหมคะ” หญิงสาวถามแบบที่ใจอยากรู้
“ฉันตอบเธอไม่ได้เพราะแม้แต่ตัวฉันเองฉันยังตอบไม่ได้เลย ความรักเป็นแบบไหน ฉันไม่เคยรู้เลย ตอนนี้พี่ตุลรักและเลือกเธอ ไม่มีอะไรแล้วที่เธอต้องกังวล”
ฉัตรฤดีคว้ามือของอลิสมาจับไว้แน่น ก่อนจะใช้นิ้วมืออีกข้างซับน้ำตาที่ทำท่าจะไหลออกมา
“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ฉันขอสมัครเป็นเพื่อนด้วยสักคน เพราะตัวฉันเองไม่ค่อยมีเพื่อนกับเขาสักเท่าไหร่ เดี๋ยวไว้พี่ตุลกลับมาเราไปกินข้าวด้วยกันสักมื้อนะคะ”
จากที่คิดว่าเธอคงจะได้มาปะทะคารมกับคู่หมั้นของผู้กองแน่ๆ แต่ทุกอย่างกลับกลายเป็นแบบนี้ อลิสถึงกลับทำตัวไม่ถูก เธอรับปากฉัตรฤดีแล้วขอตัวกลับ เพราะอยากกลับบ้านมาเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้บิดาฟัง เพื่อท่านจะได้สบายใจ
“เป็นอย่างไรบ้างลูกได้เจอได้คุยกันไหม”
วิทยาถามลูกสาวทันที ที่เปิดประตูบ้านเข้ามา เพราะเขานั่งรอทั้งวันด้วยความเป็นห่วง
“เจอค่ะ เราคุยกันเข้าใจแล้ว ทุกอย่างมันไม่เหมือนอย่างที่ลูกคิดไว้เลย”
อลิสเริ่มเล่าตั้งแต่เธอเข้าไปในห้องของฉัตรฤดีไปจนถึงที่เขาชวนเธอกินข้าวในวันที่ผู้กองกลับมา
“ได้ยินแบบนั้นพ่อก็สบายใจหน่อย อย่างน้อยผู้กองก็ไม่ใช่ผู้ชายที่สองใจ สองฝักสองฝ่าย เพราะถ้าเขาจะทำก็คงได้ เลือกทั้งคู่ไม่เลิกกับใครสักคน แต่นี่เขาก็ให้เกียรติลูก ทั้งการยกเลิกเรื่องหมั้น การพาไปพบพ่อกับแม่เขา ต่อจากนี้ลูกกับผู้กองจะเป็นอย่างไรต่อไป พ่อกับแม่ก็คงไม่เข้าไปยุ่ง แต่ขอให้ลูกใช้สติในการคิดมากกว่าการใช้หัวใจนะลูก”
วิทยามั่นใจว่าลูกสาวของเขาสามารถตัดสินใจได้ ว่าสิ่งไหนดี สิ่งไหนไม่ดี และถ้าทั้งคู่รักกันจริงๆ เขาในฐานะพ่อก็ยินดีด้วย
“ขอบคุณคุณพ่อนะคะ ที่ดูแลลูกคนนี้และเข้าใจลูกมาตลอด”
หญิงสาวกอดบิดาด้วยความรู้ทั้งรักและภูมิใจ ที่ได้เกิดมาในครอบครัวที่เข้าใจเธอแบบนี้
ครบสิบสี่วันแล้วผู้กองเดินทางกลับมาจากบนดอย แต่เขากลับบ้านก่อนจึงยังไม่ได้แวะมาหาหญิงสาว ซึ่งอลิสก็เข้าใจ เพราะเธอก็ไม่อยากให้ชายหนุ่มแสดงความรักกับเธอมาก กลัวทางครอบครัวนู้นจะรู้สึกน้อยใจ หรือรู้สึกว่ากำลังถูกเธอแย่งลูกชายไป
วันเวลาที่หญิงสาวรอการกลับมาของผู้กอง ทำให้เธอได้คิดทบทวนหลายๆเรื่อง ตอนแรกเธอตั้งใจที่จะโกรธและต่อว่าเขา เรื่องที่เขาปิดบังเรื่องการหมั้น แต่พอมาคิดดูแล้ว แต่ละคนย่อมมีเหตุผลเป็นของตัวเอง เธอจึงตัดสินใจที่จะพูดกับเขาตรงๆทุกเรื่อง และคงจะขอไม่ให้เขามีอะไรแล้วปิดบังเธอแบบนี้อีก
“ผู้กองกลับวันนี้ใช่ไหมลูก” มุกดาเดินมาถามลูกสาว
“ใช่ค่ะ แต่ผู้กองว่าจะกลับ้านก่อน วันสองวันนี้อาจจะค่อยมาหาอลิสค่ะ”
“ดีแล้วแหละ พ่อแม่ทุกคนที่ต้องอยู่ห่างจากลูก ก็ล้วนแต่ต้องคิดถึงและรอคอย ถ้าผู้กองมาหาลูกก่อน ต้องมีการน้อยใจกันเกิดขึ้นแน่ๆ และพ่อแม่เขาจะพาลไม่ชอบเราเอา”
มุกดาสอนลูก เพราะตัวเธอก็เป็นเช่นนั้น แค่รู้ว่าลูกสาวมีคนรัก เธอยังแอบรู้สึกน้อยใจกลัวถูกแย่งความรักเลย
“อลิสรักคุณแม่ที่สุดเลย ต่อให้มีแฟนลูกสาวคนนี้ก็รักคุณแม่มากกว่าทุกคนบนโลกใบนี้”
หญิงสาวกอดมารดาไว้แน่น เพื่อส่งผ่านความรักถึงกันและกันอย่างมีความสุข
ตอนที่16ผู้กองสุดหล่อกับครูคนสวย วันที่สามของการกลับมาจากดอย ธนาตุลถึงได้เดินทางมาหาคนรัก เขาพาเธอไปไหว้พระ ไปหาของอร่อยกินและนอนพักค้างคืนที่บ้านของอลิสเลย แล้วค่อยเดินทางกลับบ้านพรุ่งนี้ เมื่อกินข้าวเย็นเสร็จทั้งสองคนจึงมานั่งเล่นที่สวนหน้าบ้าน เป็นเวลาที่อลิสตั้งใจจะพูดทุกอย่างที่เธอได้รู้มา “ผู้กองมีอะไรที่ยังไม่ได้บอกอลิสไหมคะ” หญิงสาวเลือกที่จะเปิดโอกาสให้ชายหนุ่มได้คิดทบทวนและตัดสินใจว่าเขาจะเล่าเรื่องนี้ให้เธอฟังไหม “คุณถามแบบนี้หมายถึงเรื่องอะไร ผมคิดไม่ออก” ชายหนุ่มทำท่าเหมือนไม่รู้จริงๆ ว่าเขามีเรื่องอะไรที่ยังไม่ได้บอกอลิส “ตอนนี้เราตกลงที่จะเป็นแฟนกัน ยังมีเรื่องอะไรที่อลิสควรจะรู้ในฐานะคนรักของผู้กองหรือเปล่าคะ” เมื่อถูกย้ำคำว่าคนรัก ผู้กองธนาตุลก็คิดขึ้นมาได้ทันที ว่าเขายังมีบางอย่างที่ยังไม่ได้เล่าให้เธอฟัง เพราะตอนแรกเขาคิดว่ามันไม่จำเป็น เพราะเรื่องราวมันจบลงแล้ว แต่ในเมื่ออลิสพูดแบบนี้ เขาก็เลือกที่จะพูด “เรื่องที่พี่มีคู่หมั้นแล้วพี่ยกเลิกการหมั้นใช่ไหม” “ใช่ค่ะ ไหนเล
ตอนที่ 1วิวาห์ตามคำสั่ง งานแต่งงานที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในตอนนี้คืองานแต่งงานระหว่างวิธานลูกชายนักการเมืองชื่อดังกับหนูนาเดียร์ลูกสาว นักธุรกิจผู้ใจบุญ วิธานชายหนุ่มอายุสามสิบกว่ารูปร่างหน้าตาดีและที่ดึงดูดใจสาว ๆ ก็คือบุคลิกภาพและคำพูดที่ดูเป็นผู้ชายที่แสนจะอบอุ่น นาเดียร์สาวสวยในวัยยี่สิบเจ็ด เธอเกิดมาเพื่อเป็นเด็กดีของพ่อกับแม่ ชีวิตของเธอไม่เคยเดินออกจากเส้นทางที่บุพการี ขีดไว้ และเธอก็มีความสุขและเต็มใจที่จะทำให้ทั้งคู่มีความสุข โฮโซทั้งสองคนถูกจับให้แต่งงานกันด้วยเหตุผลของ ความเหมาะสม และไม่มีอะไรที่จะทำให้ทั้งคู่อยากจะปฏิเสธ เพราะสำหรับวิธานแล้วการได้ภรรยาทั้งสวย รวย และดูไม่ค่อยฉลาดทันเขา มันคืออะไรที่ดีที่สุดอยู่แล้ว นาเดียร์เธอทำหน้าที่ภรรยาที่ดีตั้งแต่วันแรกของการได้ชื่อว่ามีสามี อะไรที่เธอไม่เคยทำหญิงสาวก็พยายามที่จะฝึกเพื่อให้สามีของเธอมีความสุขที่สุด หญิงสาวไม่ได้ช่วยงานธุรกิจของครอบครัวเท่าไหร่เพราะพ่อกับแม่อยากให้เธอทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุดก่อน เพราะทั้งสองคนยังอายุไม่มากยังพอทำไหว
ตอนที่ 2เมื่อทุกอย่างไม่เหมือนเดิม หลังจากกลับมาจากทะเลได้เพียงแค่ไม่ถึงเดือน นาเดียร์ก็สัมผัสได้ว่าสามีของเธอเปลี่ยนไป จากที่เคยกลับบ้านตรงเวลาตอนนี้เขาก็กลับบ้างไม่กลับบ้าง ด้วยเหตุผลที่เกี่ยวกับงานที่มีปัญหา “พี่วิธานคะ มีปัญหาอะไรที่พอจะให้พ่อของเดียร์ช่วยไหมคะ เห็นพี่ทำงานหนักทุกวันเดียร์เป็นห่วง” ภรรยาคนสวยเดินมาคล้องแขนสามีที่เพิ่งกลับมาจากทำงานเพื่อหวังเอาใจ “อยากช่วยไหม ถ้าอยากช่วย เลิกถามสักทีผมรำคาญ” วิธานไม่ได้พูดคำพูดแบบนี้กับนาเดียร์เป็นครั้งแรก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะพูดบ่อย หญิงสาวจึงให้อภัยและคิดว่าสามีคงเหนื่อยจากเรื่องงานมาจริง ๆ ชายหนุ่มทำท่ารำคาญและหงุดหงิด จากที่จะนั่งโซฟาตามปกติ เขากลับเอาขาทั้งสองข้างขึ้นมาวางบนโต๊ะ “มาถอดถุงเท้าให้หน่อย เหนื่อยไม่อยากก้ม” วิธานชี้นิ้วไปที่เท้าทั้งสองข้างด้วยกิริยาที่ดูหยาบคายเหมือนต้องการทำร้ายจิตใจของอีกฝ่ายให้รู้สึกต่ำต้อย นาเดียร์ทำท่าลังเลว่าเธอจะถอดหรือจะปฏิเสธ แต่ยังไม่ทันที่เธอจะตัดสินใจ แก้วน้ำที่วางอยู่ข้างหน้าชายหนุ่มก็ถูกปาไปที่กำแพง
ตอนที่ 3เวลาที่ไม่มีใคร “เป็นไงบ้าง เห็นคุยกันถูกคอเชียว ติดใจบอกได้นะพรุ่งนี้ให้พามาอีกก็ได้” ส้มถามเพื่อนที่เธอเพิ่งเคยพามาเที่ยวบาร์โฮสเป็นครั้งแรก เพราะตัวเธอมาเที่ยวบ่อยมาก “เขาก็คุยสนุกดีนะ แต่เราไม่ชอบเที่ยวแบบนี้ ส้มเราไปนอนด้วยนะ พรุ่งนี้เช้าเราค่อยกลับยังไม่อยากเจอหน้าพี่วิธาน” ส้มมองนาเดียร์ด้วยความสงสารแม้แต่ชีวิตของตัวเองยังไม่มีสิทธิ์เลือกทางเดิน นาเดียร์กลับถึงบ้านด้วยสภาพที่ยังง่วงนอนเพราะเธอเองไม่ค่อยได้นอนดึกตื่นเช้าจึงตั้งใจว่าจะขึ้นไปนอนข้างบนแล้วค่อยลงมาทำงานบ้าน “ถ้าจะกลับเช้าแบบนี้หย่ากันดีไหม” วิธานเดินลงมาจากบ้านด้วยชุดที่ไม่ใช่ชุดทำงาน พร้อมด้วยกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ “เดียร์ไปนอนกับส้มมา แล้วพี่วิธานจะไปไหนคะ” หญิงสาวรู้สึกใจหายแบบบอกไม่ถูกที่อยู่ดี ๆ ก็ถูกสามีชวนหย่าและเขาก็กำลังจะเดินออกจากบ้านพร้อมกระเป๋าเดินทาง “ไม่ต้องเสือกนะคะคนดี” วิธานยื่นหน้าจนแทบจะชนกับหน้าของหญิงสาว และพูดด้วยน้ำเสียงเน้นเหมือนรู้สึกสะใจที่ได้พูด เสียงรถออกไปแล้วหญิงสาวทรุดตัว
ตอนที่ 4เพราะเธอคือกำลังใจ “เชนคุณจะพาฉันไปไหน ขับออกมานอกเมืองแบบนี้” นาเดียร์ไม่รู้หรอกว่าเส้นทางที่เชนกำลังพาเธอไปคือเส้นทางที่จะไปยังที่ไหน เธอรู้แค่เพียงว่ามันออกมาพ้นจาก ตัวกรุงเทพแล้ว รถเริ่มติดน้อยลง บรรยากาศข้างทางเริ่มดูสบายตามากขึ้น “ผมจะพาไปบ้านผม ตอนนี้มีคุณแม่อยู่คนเดียว ส่วนตัวผมเองมาเช่าคอนโดอยู่เพราะจะได้สะดวกในการทำงาน” “แล้วคุณจะพาไปบ้านทำไมคะ ป่านนี้คุณแม่คุณคงหลับแล้ว เกรงใจท่าน” ราเชนหันมาส่งยิ้มให้กับหญิงสาวที่ตอนนี้เธอหยุดร้องไห้แล้ว และดูจะสนใจปลายทางที่เขาจะพาไปจนลืมความทุกข์ไปได้พักหนึ่ง “ผมบอกแม่ไว้แล้ว ที่ผมพาคุณไปเพราะเราจะได้รู้จักกันมากขึ้นที่บ้านผมวิวดีนะอยู่ติดแม่น้ำและที่สำคัญถ้าคุณได้คุยกับแม่ของผม คุณจะรู้ว่าแม่มักจะมีทางออกที่ดีให้กับทุกคน” นาเดียร์เชื่อในคำพูดของคนที่เพิ่งรู้จักกันอีกครั้ง อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้พาเธอไปที่ที่ต้องอยู่กันสองต่อสองและคืนนี้เธอก็มั่นใจว่าเขาจะอยู่เป็นเพื่อนเธอไปจนเช้าแน่นอน บ้านของราเชนเป็นบ้านไม้ที่จัดได้ว่าสวยงามถึงจะมีขนาดไม่ใหญ่
ตอนที่ 5อยู่ดี ๆ ก็เจ็บ นาเดียร์นั่งรถกลับบ้านด้วยหัวใจที่มุ่งมั่น เธอจะขอแก้ตัว เธอพร้อมจะทำทุกอย่างตามที่สามีต้องการ ขอแค่ให้เขาไม่ไปจากเธอ ถึงแม้นาเดียร์จะรู้สึกลึก ๆ ว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิด แต่เธอกลับยอมเป็นคนผิดขอแค่ไม่ให้อีกฝ่ายไป ราเชนได้แต่หันไปสบตาคนข้าง ๆ เป็นครั้งคราว เขาเป็นคนอื่นและเพิ่งเข้ามาในชีวิติของหญิงสาวได้ไม่นาน คงได้แต่อยู่ในมุมเงียบ ๆ รอเมื่อไหร่ที่อีกฝ่ายต้องการเขาคงมาหาเธอเอง “ขอบคุณนะเชน ที่อยู่เป็นเพื่อนในวันที่ไม่เหลือใครมาสองครั้งแล้ว ขอให้การเจอกันของเราครั้งต่อไป ขอให้เดียร์มีความสุขอย่าได้ทุกข์เหมือนทุกครั้งเลย ไว้ว่าง ๆ เจอกันนะ” หญิงสาวกำลังจะเปิดประตูรถของตัวเอง แต่กลับถูก มือหนาจับแขนเธอไว้ “ขอให้คุณโชคดี ขอให้เขากลับมาเป็นคนเดิมแต่สัญญากับผมได้ไหม ว่าคุณจะไม่รักเขาจนลืมรักตัวเอง ผมอยู่ข้าง ๆ คุณตลอดนะถึงแม้ว่าคุณอาจมองไม่เห็น” นาเดียร์โผเข้ากอดราเชนอีกครั้ง เธอรู้ความหมายดีแต่เธอก็รู้ว่าสุดท้ายที่เธอพยายามจะกลับไปทำมันคือการทำร้ายตัวเองอยู่ก็ตาม บ้านถูกปิดไว้ในสภาพเดิม หญิงส
ตอนที่ 6ทางแยก เสียงรถยนต์ของวิธานที่ขับเข้ามาในบ้าน มันไม่ได้ทำให้ นาเดียร์รู้สึกเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาเกือบสองปี แต่ครั้งนี้เธอกำลังจะรู้ทางออกของชีวิตและที่เธอยังไม่รู้คือจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอในวันนี้ เพียะ! วิธานเปิดประตูบ้านเข้ามาและตรงมายังภรรยาที่ยังไม่ทันจะพูดอะไรสักคำ เขาตบหน้าเธออย่างแรงก่อนที่จะผลักหญิงสาวลงไปนอนกับพื้นและเตะไปที่สะโพกอย่างเต็มแรง “มึงไปทำร้ายเมียกูทำไม มึงเอาเพื่อนไปรุมมึงเห็นไหมว่าเขาท้องอยู่” นาเดียร์อยากจะพูดแต่เธอพูดไม่ออกมันจุกไปหมด เธอค่อย ๆ คลานหนีด้วยความกลัว ที่เธอคิดไว้มันไม่ใช่แบบนี้ เขาทำร้ายเธอเหมือนไม่เคยเห็นเธอเป็นเมียเลย มือหนาจิกผมของคนตัวเล็กที่กำลังพยายามหนี ผมของหญิงสาวหลุดตามแรงดึง นาเดียร์ยกมือไหว้น้ำตาไหลอาบแก้ม เธอกลัว กลัวจนไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรได้แต่ยกมือไหว้ ร้องขอให้อีกฝ่ายเมตตาเธอบ้าง “มึงรู้ไหมทรายเขายอมให้กูมาอยู่กับมึงถึงสองปี โดยที่เขาไม่เคยเรียกร้องอะไรเลย แต่วันนี้กูแค่ต้องการอิสระกูจะไปอยู่กับลูกกับเมียกูมึงยังจะยื้อ ถ้ามึงไม่อยากตายหย่าให้กูแล้วอย่าใ
ตอนที่ 7สามีที่ได้เลือก ราเชนตัดสินใจเลิกเป็นหนุ่มบาร์โฮส เขาออกหาดูทำเล ที่จะเปิดอู่แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจที่จะทำที่หน้าบ้านของตัวเอง “เชนเปิดอู่คนเดียวเหรอ เดียร์ขอหุ้นด้วยได้ไหม” หญิงสาวรู้ว่าเงินเก็บที่ราเชนมีไม่ได้เยอะสักเท่าไหร่ แต่ถ้าเธอจะให้เขาก็คงไม่เอาหญิงสาวจึงเปลี่ยนเป็นขอหุ้นด้วย “ได้สิ หุ้นทั้งตัวทั้งใจเลย” อู่กำลังเริ่มก่อสร้าง นาเดียร์อยากขายข้าวแกงเธอจึงทำร้านต่ออกมาเธอทำหน้าที่ขาย ส่วนแม่สามีทำหน้าที่ทำกับข้าวให้เธอ โชคยังดีที่หน้าบ้านมีพื้นที่เหลือเยอะและเป็นที่ริมน้ำบรรยากาศดี ดารากับธงชัยทนคิดถึงลูกสาวไม่ไหวและอยากรู้ความจริงจากปากของลูกสาวจึงให้ส้มช่วยอ้อนวอนให้นาเดียร์กลับมาหาพ่อกับแม่บ้าง “เดียร์ไปค้างกับพ่อแม่สักพักนะ ไม่ต้องนอนร้องไห้ล่ะ” หญิงสาวดูออกว่าอีกฝ่ายไม่ได้กลัวจะคิดถึงแต่เขากลัวว่าเธอจะไม่กลับมามากกว่า “สัญญาได้ไหมว่าจะกลับมา” หญิงสาวพยักหน้ากอดสามีของเธอไวแน่น เธอรักเขาเต็มหัวใจแล้ววันนี้ไม่มีทางที่เธอจะไม่กลับมาแน่นอน ธงชัยเห็นภาพสภาพลูกสาว