Share

ตัดสินใจ

ตอนที่15

ตัดสินใจ

         อลิสได้ข้อมูลของฉัตรฤดีจากบิดา เธอจึงตัดสินใจที่จะมาพูดคุยเรื่องทุกอย่างด้วยตัวเอง

          “สวัสดีค่ะ ฉันจะมาขอพบคุณฉัตรฤดี”

          “นัดไว้หรือเปล่าคะ” เลขาหน้าห้องถามเพราะไม่รู้สึกคุ้นหน้า

          “ไม่ได้นัดค่ะ ฉันชื่อลิสเป็นเพื่อนกับผู้กองธนาตุล ช่วยรบกวนไปบอกคุณฉัตรฤดีให้หน่อยได้ไหมคะ ว่าฉันมีเรื่องอยากคุยยด้วย”

          เลขาหน้าห้องเปิดประตูเข้าไปที่ห้องทำงานของเจ้านาย เพื่อไปแจ้งเรื่องที่มีคนมาขอพบ

         ฉัตรฤดีเพิ่งมาทำงานที่บริษัทของบิดาได้แค่เพียงไม่กี่วัน เพราะก่อนหน้านี้แม่ของเธอ เอาแต่เก็บเธอไว้อยู่แต่บ้านตั้งแต่เรียนจบ แต่หญิงสาวมาคิดดูแล ถ้าเธอยังทำตัวเหมือนเก่า สักวันเธอคงต้องกลายเป็นกบในกะลาที่โง่ลงทุกวัน จึงได้ตัดสินใจมาทำงาน

          “เชิญค่ะ”

 เลขาสาวเดินมานำอลิสเข้าไปในห้องที่เธอเพิ่งเดินออกมา

“สวัสดีค่ะคุณฉัตรฤดี”

อลิสยกมือไหว้ เพราะคิดว่าคนตรงหน้าอาจจะอายุเท่าๆกับผู้กอง ซื่งก็น่าจะเป็นพี่เธอแน่นอน

“สวัสดีค่ะ มีอะไรถึงได้อยากมาพบฉัน คุณบอกกับเลขาว่าเป็นเพื่อนกับพี่ตุล แต่ฉันคิดว่าไม่น่าจะใช่ เพราะเราโตมาด้วยกัน ฉันแน่ใจว่าไม่เคยเห็นคุณมาก่อน”

อลิสจ้องมองหน้าหญิงสาวตรงหน้าด้วยความชื่นชม ใบหน้าของฉัตรฤดีทั้งสวยและคมต่างจากเธอ ที่ดูเป็นสาวเหนือเต็มตัว ท่าทางก็ดูสง่าสมกับเป็นลูกเจ้าของบริษัท อลิสเริ่มไม่แน่ใจแล้ว ว่าข่าวที่ทั้งคู่ยกเลิกการหมั้นจะเป็นเรื่องจริง

“ค่ะ ฉันไม่ได้เป็นเพื่อนกับผู้กอง เราเป็นแฟนกัน และฉันก็เพิ่งรู้ว่า คุณกับผู้กองเป็นคู่หมั้นกันมานาน บางคนก็บอกว่าการหมั้นถูกยกเลิกแล้ว บางคนก็ว่าไม่จริง ส่วนผู้กองไม่เคยพูดเรื่องคุณให้ฉันฟังเลย ฉันขอโทษนะคะ ที่ต้องพูดทุกอย่างตามตรง”

ฉัตรฤดีถึงกับถอนหายใจ เพราะเธอคิดไว้อยู่แล้ว ว่าธนาตุลน่าจะต้องมีคนรักอยู่แล้ว แต่เธอไม่คิดว่าเขาจะปิดบังเรื่องการหมั้นระหว่างเขากับเธอ

“พูดตรงๆล่ะดีแล้ว เธอคบกับพี่ตุลมานานแล้วหรือยัง”      ฉัตรฤดีใช้น้ำเสียงที่ดูเป็นมิตรมากกว่าตอนแรก

“เราเพิ่งตกลงเป็นแฟนกันได้เดือนเดียวเองค่ะ ฉันกับผู้กองเราเจอกันที่บนดอย ฉันไปเป็นครูอยู่ที่นั่น ฉันไม่รู้เรื่องคุณจริงๆนะคะ เลยไม่สบายใจถึงได้มาถามหาความจริง ”

หญิงสาวในชุดทำงานที่ดูทันสมัยลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินมาข้าง ๆ หญิงสาวที่แต่งตัวธรรมดาในแบบเรียบร้อยทั่วไป ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูจริงใจแต่มีความเศร้าแฝงอยู่ในนั้น

“เราไม่ได้หมั้นกันแล้ว และเธอไม่ต้องกลัวว่าเธอจะเป็นสาเหตุ เราทั้งคู่คุยกันเข้าใจ การแต่งงานเป็นเรื่องของคนสองคนที่รักกันแล้วมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน แต่ในเมื่อเราสองคนไม่ใช่ ถ้ายังฝืนที่จะทำทุกอย่างตามเส้นทางที่ผู้ใหญ่ขีดไว้ให้ เราทั้งคู่ก็คงไม่มีความสุข แต่ลึกๆฉันก็คิดเอาไว้แล้ว ว่าพี่ตุลคงเจอผู้หญิงที่เขารัก ถึงได้ตัดสินใจมาพูดเรื่องนี้กับฉันแบบจริงจัง”

น้ำใสๆที่ไหลคลอตาคนพูดมันตรงข้ามกับรอยยิ้มที่เขาพยายามฝืนยิ้มให้กับคู่สนทนา อลิสเห็นแล้วยิ่งรู้สึกสงสารเธอ

“คุณรักผู้กองใช่ไหมคะ” หญิงสาวถามแบบที่ใจอยากรู้

“ฉันตอบเธอไม่ได้เพราะแม้แต่ตัวฉันเองฉันยังตอบไม่ได้เลย ความรักเป็นแบบไหน ฉันไม่เคยรู้เลย ตอนนี้พี่ตุลรักและเลือกเธอ ไม่มีอะไรแล้วที่เธอต้องกังวล”

ฉัตรฤดีคว้ามือของอลิสมาจับไว้แน่น ก่อนจะใช้นิ้วมืออีกข้างซับน้ำตาที่ทำท่าจะไหลออกมา

“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ฉันขอสมัครเป็นเพื่อนด้วยสักคน เพราะตัวฉันเองไม่ค่อยมีเพื่อนกับเขาสักเท่าไหร่ เดี๋ยวไว้พี่ตุลกลับมาเราไปกินข้าวด้วยกันสักมื้อนะคะ”

จากที่คิดว่าเธอคงจะได้มาปะทะคารมกับคู่หมั้นของผู้กองแน่ๆ แต่ทุกอย่างกลับกลายเป็นแบบนี้ อลิสถึงกลับทำตัวไม่ถูก เธอรับปากฉัตรฤดีแล้วขอตัวกลับ เพราะอยากกลับบ้านมาเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้บิดาฟัง เพื่อท่านจะได้สบายใจ

“เป็นอย่างไรบ้างลูกได้เจอได้คุยกันไหม”

วิทยาถามลูกสาวทันที ที่เปิดประตูบ้านเข้ามา เพราะเขานั่งรอทั้งวันด้วยความเป็นห่วง

“เจอค่ะ เราคุยกันเข้าใจแล้ว ทุกอย่างมันไม่เหมือนอย่างที่ลูกคิดไว้เลย”

อลิสเริ่มเล่าตั้งแต่เธอเข้าไปในห้องของฉัตรฤดีไปจนถึงที่เขาชวนเธอกินข้าวในวันที่ผู้กองกลับมา

“ได้ยินแบบนั้นพ่อก็สบายใจหน่อย อย่างน้อยผู้กองก็ไม่ใช่ผู้ชายที่สองใจ สองฝักสองฝ่าย เพราะถ้าเขาจะทำก็คงได้ เลือกทั้งคู่ไม่เลิกกับใครสักคน แต่นี่เขาก็ให้เกียรติลูก ทั้งการยกเลิกเรื่องหมั้น การพาไปพบพ่อกับแม่เขา ต่อจากนี้ลูกกับผู้กองจะเป็นอย่างไรต่อไป พ่อกับแม่ก็คงไม่เข้าไปยุ่ง แต่ขอให้ลูกใช้สติในการคิดมากกว่าการใช้หัวใจนะลูก”

วิทยามั่นใจว่าลูกสาวของเขาสามารถตัดสินใจได้ ว่าสิ่งไหนดี สิ่งไหนไม่ดี และถ้าทั้งคู่รักกันจริงๆ เขาในฐานะพ่อก็ยินดีด้วย

“ขอบคุณคุณพ่อนะคะ ที่ดูแลลูกคนนี้และเข้าใจลูกมาตลอด”

หญิงสาวกอดบิดาด้วยความรู้ทั้งรักและภูมิใจ ที่ได้เกิดมาในครอบครัวที่เข้าใจเธอแบบนี้

ครบสิบสี่วันแล้วผู้กองเดินทางกลับมาจากบนดอย แต่เขากลับบ้านก่อนจึงยังไม่ได้แวะมาหาหญิงสาว ซึ่งอลิสก็เข้าใจ เพราะเธอก็ไม่อยากให้ชายหนุ่มแสดงความรักกับเธอมาก กลัวทางครอบครัวนู้นจะรู้สึกน้อยใจ หรือรู้สึกว่ากำลังถูกเธอแย่งลูกชายไป

วันเวลาที่หญิงสาวรอการกลับมาของผู้กอง ทำให้เธอได้คิดทบทวนหลายๆเรื่อง ตอนแรกเธอตั้งใจที่จะโกรธและต่อว่าเขา เรื่องที่เขาปิดบังเรื่องการหมั้น แต่พอมาคิดดูแล้ว แต่ละคนย่อมมีเหตุผลเป็นของตัวเอง เธอจึงตัดสินใจที่จะพูดกับเขาตรงๆทุกเรื่อง และคงจะขอไม่ให้เขามีอะไรแล้วปิดบังเธอแบบนี้อีก

“ผู้กองกลับวันนี้ใช่ไหมลูก” มุกดาเดินมาถามลูกสาว

“ใช่ค่ะ แต่ผู้กองว่าจะกลับ้านก่อน วันสองวันนี้อาจจะค่อยมาหาอลิสค่ะ”

“ดีแล้วแหละ พ่อแม่ทุกคนที่ต้องอยู่ห่างจากลูก ก็ล้วนแต่ต้องคิดถึงและรอคอย ถ้าผู้กองมาหาลูกก่อน ต้องมีการน้อยใจกันเกิดขึ้นแน่ๆ และพ่อแม่เขาจะพาลไม่ชอบเราเอา”

มุกดาสอนลูก เพราะตัวเธอก็เป็นเช่นนั้น แค่รู้ว่าลูกสาวมีคนรัก เธอยังแอบรู้สึกน้อยใจกลัวถูกแย่งความรักเลย

“อลิสรักคุณแม่ที่สุดเลย ต่อให้มีแฟนลูกสาวคนนี้ก็รักคุณแม่มากกว่าทุกคนบนโลกใบนี้”

หญิงสาวกอดมารดาไว้แน่น เพื่อส่งผ่านความรักถึงกันและกันอย่างมีความสุข

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status