ตอนที่13
เปิดตัว
ปัญหาที่ค้างคาใจในความรู้สึกของธนาตุลก็ได้ถูกปลดปล่อยแล้ว ชายหนุ่มก็เดินหน้าในการที่จะสร้างบ้านบนที่ดินที่เขาซื้อไว้บนดอยบ้านน้ำฝางให้สำเร็จ
“ตัดสินใจดีแล้วนะลูก”
นพดลเดินมานั่งข้างๆลูกชายที่กำลังดูแบบบ้านที่เพื่อนของธนาตุลเอาแบบมาให้เลือกที่น่าจะเหมาะกับการปลุกบนภูเขา
“แน่ใจที่สุดเลยครับคุณพ่อ ผมก็ไม่รู้ทำไมผมถึงได้หลงรักที่นั่นมากขนาดนี้ ไว้บ้านเสร็จผมจะพาคุณพ่อคุณแม่ไปเที่ยวนะครับ”
“นอกจากหลงรักธรรมชาติที่นั่นแล้ว ยังมีอย่างอื่นอีกไหมที่ลูกชายของพ่อหลงรัก”
นพดลสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของลูกชายตั้งแต่กลับมาจากบนดอยคราวก่อนแล้ว แต่เพิ่งมาแน่ใจก็ตอนที่ธนาตุลตัดสินใจยกเลิกการหมั้นหมายกับฉัตรฤดี เขากำลังคิดว่าลูกชายของเขากำลังมีความรัก
“คุณพ่อนี่ อยู่ดี ๆ ก็มาแซวผม มาช่วยผมเลือกแบบบ้านดีกว่า”
ชายหนุ่มตัดสินใจว่าจะยังไม่เล่าเรื่องนี้ให้พ่อกับแม่ของเขาฟัง แต่จะพาหญิงสาวมาแนะนำถึงที่บ้านแทน
เวลาผ่านไปจนใกล้เวลาที่เขาจะต้องกลับไปที่บ้านน้ำฝาย ธนาตุลจ้างรถขนอุปกรณ์ก่อสร้างบางส่วนขึ้นไปเตีรยมสร้างบ้าน เพราะด้วยระยะทางและการเดินทางที่ลำบาก เขาคงขนไปให้ครบทุกอย่างไม่ได้ในคราวเดียวกัน
“รถขนอะไรมาเต็มรถเลยครู”
ฟองจันทร์เดินออกมาเข้าห้องน้ำมองเห็นรถที่ขนอุปกรณ์ก่อสร้าง มาที่ที่ดินของผู้กองธนาตุล จึงรีบวิ่งมารายงานคุณครู
“เอ้า! นั่นรถผู้กองนี่ ที่จอดอยู่ใกล้ๆกับรถอีกคัน เดี๋ยวครูมานะ ฟองจันทร์ดูแลน้องๆด้วย”
หญิงสาวทนอยากรู้และอยากเจอผู้กองไม่ไหว จึงเดินไปเพื่อดูให้เห็นว่าคนที่มาใช่ผู้กองไหม
“ผู้กอง ทำไมมาก่อนเวลาคะ”
อลิสถามด้วยความแปลกใจ เมื่อเดินไปใกล้จนแน่ใจว่าคนที่มาคือผู้กองธนาตุล
“ผมขนของเตรียมมาสร้างบ้านด้วย เลยมาก่อนแต่เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าก็จะเดินทางกลับแต่เช้า เพื่อไปขนของอีกรอบ”
ชายหนุ่มเคยติดต่อช่างที่นี่ไว้แล้ว เดี๋ยวพอเอาของลงเสร็จ เขาจะสอบถามช่างว่ายังต้องซื้ออะไรเพิ่มสำหรับการสร้างแค่โครงบ้านก่อน
“คุณไปสอนนักเรียนเถอะตรงนี้แดดร้อน เดี๋ยวผมเสร็จงานก็คงพอๆกับที่คุณสอนเสร็จพอดี”
หญิงสาวเดินกลับโรงเรียนด้วยความแปลกใจ เพราะตอนแรกผู้กองยังบอกกับเขาอยู่เลยว่าคงต้องเก็บเงินสักพักถึงจะปลูกบ้านแต่อยู่ดีๆ กลับขนของมาก่อนวันที่ต้องมาเปลี่ยนเวรเสียอีก
“ไหนผู้กองว่าจะรอเก็บเงินก่อน แล้วทำไมถึงปลูกเลยล่ะคะ”
อลิสถามด้วยความสงสัยเมื่อถึงเวลาที่ทั้งคู่นั่งกินอาหารเย็นด้วยกัน
“ก็ผมเก็บเงินได้แล้วไง”
“ไปแค่ไม่กี้วันเก็บเงินได้แล้ว ไปเก็บแถวไหนคะอลิสจะได้ไปเก็บบ้าง”
หญิงสาวไม่เชื่อในคำตอบแต่ก็ไม่รู้จะคาดคั้นไปทำไม เธอจึงเปลี่ยนเรื่องพูด เพื่อให้หายคิดถึง
คืนนี้ทั้งสองคนไม่ได้แยกกันนอน อลิสเผลอหลับไปที่หน้าโทรทัศน์ ธนาตุลเลยไม่อยากปลุกจึงนอนอยู่เป็นเพื่อนจนเช้า
“อาหารเช้าอยู่บนโต๊ะนะ พรุ่งนี้เจอกันนะครับ”
ท้องฟ้ายังไม่ทันสว่าง แต่ชายหนุ่มทำอาหารและแต่งตัว พร้อมที่จะออกเดินทางลงมาในเมืองแล้ว เพราะยังมีของที่เขาต้องกลับไปซื้ออีก
“ยังไม่สว่างเลยคุณจะกลับแล้วเหรอ”
หญิงสาวขยี้ตาไปมา เพราะยังงัวเงียอยู่ แต่ก็ฟังเข้าใจว่าอีกฝ่ายมาปลุกเธอเพื่อจะให้เธอรู้ตัวว่าเขาจะเดินทางแล้ว
“คุณนอนต่อเถอะ อีกนานกว่าจะสว่างไม่ต้องรีบตื่นเพราะผมทำกับข้าวไว้ให้แล้ว”
ชายหนุ่มเดินทางออกมาจากหมูบ้าน ตอนนี้หัวใจเขามีความสุขมาก ท้งเรื่องควมรักและเรื่องของควาฝันที่กำลังจะเป็นจริง
ช่างเริ่มมาทำบ้านในเช้าวันนั้นเลย อลิสอดรู้สึกดีใจไม่ได้ เพราะถ้าบ้านสร้างเสร็จ ผู้กองอาจจะไม่ค่อยกลับลงไปในเมืองแล้วก็ได้
บ่ายของอีกวันธนาตุลก็เดินทางมาถึงพร้อมกับของเต็มรถ แต่รอบบนี้เขามาเพียงคันเดียวเท่านั้น
“วันนี้คุณทำอาหารเย็นนะ เพราะผมคงยุ่งกับเรื่องสร้างบ้าน”
ชายหนุ่มเดินมาหาอลิสที่โรงเรียน เด็กๆพากันส่งเสียงแซวทั้งคู่โดยเฉพาะฟองจันทร์ เพราะเธอโตจนเริ่มดูออกว่าทั้งคู่น่าจะเป็นคนรักกัน
“ไปนั่งที่กันเลย ไม่ต้องมาทำเสียงแซวครูแบบนี้”
หญิงสาวเอ็ดนักเรียนก่อนจะเดินออกมาคุยกับชายหนุ่มข้างนอก
รอบบนี้การมาผลัดเปลี่ยนเวรของธนาตุล ขากลับไป อลิสต้องติดรถกลับไปด้วย เพราะเป็นช่วงปิดเทอมพอดี
“เก็บของเสร็จหรือยังครับคุณครู”
“เสร็จแล้วค่ะผู้กอง”
หญิงสาวซื้อผักผลไม้และกาแฟจากชาวบ้าน เอากลับไปฝากพ่อกับแม่เธอจนเต็มรถ เพราะผักผลไม้ที่นี่ไม่มีการใช้สารพิษดีต่อสุขภาพ
“เดี๋ยวผมไปส่งคุณที่บ้าน แล้วขอกินข้าวกับคุณพ่อคุณแม่คุณสักมื้อได้ไหมครับ”
เมื่อเริ่มเข้าสู่ในเมือง ชายหนุ่มก็เริ่มขั้นตอนของการเดินหน้าเข้าบ้านอลิสอย่างจริงจัง
“ผู้กองจะเอาแบบนั้นเลยเหรอคะ”
เมื่อเห็นอีกฝ่ายตั้งใจจริง หยิงสาวจึงได้แต่ยอมทำตาม เธอกดโทรศัพท์หามารดาเพื่อบอกว่าจะมีตำรวจที่มาส่งเธอมากินข้าวด้วย
“ทำไมคุณไม่บอกไปล่ะ ว่าผมเป็นแฟนคุณ” ชายหนุ่มถาม
“ผู้กองรีบเหรอ ให้พ่อแม่อลิสได้เตรียมใจเตรียมตัวบ้าง ลูกสาวไปอยู่บนดอยเพียงไม่กี่วันกลับมดันเอาแฟนมาด้วย ท่านจะตกใจเอา”
ธนาตุลหัวเราะเมื่อคิดตามคำพูดของหญิงสาว ก็คงจริงถ้าพ่อกับแม่ขออลิสรู้ว่าลูกมีแฟน เมื่อไปอยู่บนดอยเพียงไม่กี่วัน คงจะว่าเธอไวไฟน่าดู
“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ ผมผู้กองธนาตุล เป็นคนที่มารับคุณครูอลิสเมื่อคราวขึ้นดอย ไม่รู้ว่าจะจำผมได้ไหม”
“จำได้สิคะ เชิญข้างในก่อน กับข้าวกับปลาเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว”
มุกดาแม่ของหญิงสาวทำหน้าที่เดินนำแขกเข้าไปยังโต๊ะอาหาร ส่วนวิทยายังคงไว้ท่านิ่งๆ เพราะรู้สึกได้ว่าทั้งคู่ดูสนิทสนมกัน
บทสนทนาที่เกิดขึ้นบนโต๊ะ ส่วนมากจะเป็นมุกดาที่คอยชวนชายหนุ่มคอย นานๆ ทีวิทยาถึงจะพูดบ้าง
“ผู้กองพ่อกับแม่ทำงานอะไร”
วิทยาถามคำถามได้ตรงใจลูกสาวมาก เพราะอลิสก็อยากรู้แต่เธอไม่เคยกล้าถามเลย
“คุณพ่อคุณแม่ผมท่านเปิดร้านทอง ตอนนี้ก็ขยายสาขาไปตามห้างต่างๆครับ”
“ชื่อร้านอะไร เผื่อผมจะรู้จัก” วิทยาทำเสียงเข้ม
“ร้านทองซุ่นฮ่าวครับ”
เมื่อได้ยินชื่อร้านวิทยาก็รู้สึกคุ้นหู เพราะในจังหวัดของเขาก็มีอยู่หนึ่งสาขา
“เส้นสายคงดี แล้วเมื่อไหร่จะย้ายลงมาประจำการข้างล่างล่ะ” คนถามยังคงทำเสียงเข้ม
“ผมคงไม่ย้ายครับ แต่น่าจะอยู่ที่ดอยบ้านน้ำฝายยาวเลย เพราะกำลังปลูกบ้านที่นั่น ผมชอบการอยู่กับะรรมชาติ ได้ทำงานช่วยเหลือชาวเขาข้างบน มีความสุขกว่าการลงมาอยู่ในเมืองที่แสนวุ่นวาย”
คนถามไม่คาดคิดว่าจะได้ยินคำตอบแบบนี้ วิทยาถึงกับแอบยิ้ม เขาคิดว่านายตำรวจคงนี้คงเป็นแค่ลูกคนรวยที่อยากมียศก็เท่านั้น แต่สุดท้ายเขากับดูมีอุดมการณ์ในการเป็นข้าราชการที่ดี
กินข้าวเสร็จผู้กองก็ขอตัวกลับทันที เพราะบ้านของเขาอยู่อีกจังหวัดแต่เป็นเขตติดต่อกับบ้านของอลิสจึงเดินทางแค่เพียงสองชั่วโมงก็ถึง
“ขอบคุณแล้วกันที่มาส่งลูกสาวผมถึงบ้าน”
“ผมลานะครับ”
เมื่อรถของธนาตุลขับออกจากบ้านไป อลิสถึงกลับถอนหายใจด้วยความโล่งออก ที่เขาไม่เตลิดเพราะโดนพ่อเธอแกล้งเข้มใส่เอา
“ถอนหายใจเลยนะ ไปพักผ่อนก่อน พรุ่งนี้พ่อจะรอฟังเรื่องผู้กองธนาตุลกับลูกสาวพ่อ”
วิทยาพูดแบบยิ้มๆเข้าบ้านไป ทิ้งให้สองคนแม่ลูกยืนมองหน้ากันอย่างแปลกใจ ที่กลายเป็นวิทยาเองที่ทำท่าจะชอบนายตำรวจคนนี้เข้าเสียแล้ว
ตอนที่14ความจริงบางอย่าง ตั้งแต่วันที่กลับจากดอยลงมาอยู่ที่บ้าน ธนาตุลก็แวะเวียนมาหาหญิงสาวเกือบทุกวัน และเหลืออีกเพียงแค่สองวันเขาต้องขึ้นไปบนดอยแล้ว ส่วนอลิสยังไม่เปิดเทอมจึงยังอยู่ที่บ้านต่อ “พรุ่งนี้ผมจะขออนุญาตพาอลิสไปแนะนำกับคุณพ่อคุณแม่ของผมได้ไหมครับ” ชายหนุ่มตัดสินใจว่าก่อนขึ้นดอยครั้งนี้เขาจะต้องทำให้ทั้งสองบ้านได้รับรู้เรื่องราวระหว่างเขากับหญิงสาวให้ได้ เขาจึงตัดสินใจขออนุญาตพ่อแม่ของอลิสเพื่อพาเธอไปกินข้าวที่บ้าน เพื่อเป็นการเปิดตัวให้พ่อแม่ของเขารู้จัก “ได้สิ แต่อย่าให้กลับดึกกันนัก พ่อเข้าใจว่าบ้านของผู้กองอยู่ไกล เอาแบบนี้แล้วกัน พรุ่งนี้ผู้กองก็ค้างที่นี่เลย จะได้ไปต้องขับรถไปมา เดี๋ยวจะหลับในเอา” วิทยาออกปากเอง เพราะทุกคนในบ้านได้แต่คิดแบบนี้แต่ไม่มีใครหรอกที่จะกล้าพูด “ขอบคุณมากเลยครับ แล้วผมจะรีบพาอลิสไปและรีบพากลับ รับรองความปลอดภัยท่านทั้งสองไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ” ธนาตุลสัมผัสได้ว่าบิดาของแฟนสาวเริ่มรู้สึกดีกับเขา เขาจึงตั้งใจที่จะไม่ทำให้อนาคตพ่อตาผิดหวังในตัวเขาเด็ดขาด ขับรถเกือบสอง
ตอนที่15ตัดสินใจ อลิสได้ข้อมูลของฉัตรฤดีจากบิดา เธอจึงตัดสินใจที่จะมาพูดคุยเรื่องทุกอย่างด้วยตัวเอง “สวัสดีค่ะ ฉันจะมาขอพบคุณฉัตรฤดี” “นัดไว้หรือเปล่าคะ” เลขาหน้าห้องถามเพราะไม่รู้สึกคุ้นหน้า “ไม่ได้นัดค่ะ ฉันชื่อลิสเป็นเพื่อนกับผู้กองธนาตุล ช่วยรบกวนไปบอกคุณฉัตรฤดีให้หน่อยได้ไหมคะ ว่าฉันมีเรื่องอยากคุยยด้วย” เลขาหน้าห้องเปิดประตูเข้าไปที่ห้องทำงานของเจ้านาย เพื่อไปแจ้งเรื่องที่มีคนมาขอพบ ฉัตรฤดีเพิ่งมาทำงานที่บริษัทของบิดาได้แค่เพียงไม่กี่วัน เพราะก่อนหน้านี้แม่ของเธอ เอาแต่เก็บเธอไว้อยู่แต่บ้านตั้งแต่เรียนจบ แต่หญิงสาวมาคิดดูแล ถ้าเธอยังทำตัวเหมือนเก่า สักวันเธอคงต้องกลายเป็นกบในกะลาที่โง่ลงทุกวัน จึงได้ตัดสินใจมาทำงาน “เชิญค่ะ” เลขาสาวเดินมานำอลิสเข้าไปในห้องที่เธอเพิ่งเดินออกมา“สวัสดีค่ะคุณฉัตรฤดี”อลิสยกมือไหว้ เพราะคิดว่าคนตรงหน้าอาจจะอายุเท่าๆกับผู้กอง ซื่งก็น่าจะเป็นพี่เธอแน่นอน“สวัสดีค่ะ มีอะไรถึงได้อยากมาพบฉัน คุณบอกกับเลขาว่าเป็นเพื่อนกับพี่ตุล แต่ฉันคิดว่าไม่น่าจะใช่ เพราะเราโตมาด้วยกัน ฉันแน่ใจว่าไม่เ
ตอนที่16ผู้กองสุดหล่อกับครูคนสวย วันที่สามของการกลับมาจากดอย ธนาตุลถึงได้เดินทางมาหาคนรัก เขาพาเธอไปไหว้พระ ไปหาของอร่อยกินและนอนพักค้างคืนที่บ้านของอลิสเลย แล้วค่อยเดินทางกลับบ้านพรุ่งนี้ เมื่อกินข้าวเย็นเสร็จทั้งสองคนจึงมานั่งเล่นที่สวนหน้าบ้าน เป็นเวลาที่อลิสตั้งใจจะพูดทุกอย่างที่เธอได้รู้มา “ผู้กองมีอะไรที่ยังไม่ได้บอกอลิสไหมคะ” หญิงสาวเลือกที่จะเปิดโอกาสให้ชายหนุ่มได้คิดทบทวนและตัดสินใจว่าเขาจะเล่าเรื่องนี้ให้เธอฟังไหม “คุณถามแบบนี้หมายถึงเรื่องอะไร ผมคิดไม่ออก” ชายหนุ่มทำท่าเหมือนไม่รู้จริงๆ ว่าเขามีเรื่องอะไรที่ยังไม่ได้บอกอลิส “ตอนนี้เราตกลงที่จะเป็นแฟนกัน ยังมีเรื่องอะไรที่อลิสควรจะรู้ในฐานะคนรักของผู้กองหรือเปล่าคะ” เมื่อถูกย้ำคำว่าคนรัก ผู้กองธนาตุลก็คิดขึ้นมาได้ทันที ว่าเขายังมีบางอย่างที่ยังไม่ได้เล่าให้เธอฟัง เพราะตอนแรกเขาคิดว่ามันไม่จำเป็น เพราะเรื่องราวมันจบลงแล้ว แต่ในเมื่ออลิสพูดแบบนี้ เขาก็เลือกที่จะพูด “เรื่องที่พี่มีคู่หมั้นแล้วพี่ยกเลิกการหมั้นใช่ไหม” “ใช่ค่ะ ไหนเล
ตอนที่ 1วิวาห์ตามคำสั่ง งานแต่งงานที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในตอนนี้คืองานแต่งงานระหว่างวิธานลูกชายนักการเมืองชื่อดังกับหนูนาเดียร์ลูกสาว นักธุรกิจผู้ใจบุญ วิธานชายหนุ่มอายุสามสิบกว่ารูปร่างหน้าตาดีและที่ดึงดูดใจสาว ๆ ก็คือบุคลิกภาพและคำพูดที่ดูเป็นผู้ชายที่แสนจะอบอุ่น นาเดียร์สาวสวยในวัยยี่สิบเจ็ด เธอเกิดมาเพื่อเป็นเด็กดีของพ่อกับแม่ ชีวิตของเธอไม่เคยเดินออกจากเส้นทางที่บุพการี ขีดไว้ และเธอก็มีความสุขและเต็มใจที่จะทำให้ทั้งคู่มีความสุข โฮโซทั้งสองคนถูกจับให้แต่งงานกันด้วยเหตุผลของ ความเหมาะสม และไม่มีอะไรที่จะทำให้ทั้งคู่อยากจะปฏิเสธ เพราะสำหรับวิธานแล้วการได้ภรรยาทั้งสวย รวย และดูไม่ค่อยฉลาดทันเขา มันคืออะไรที่ดีที่สุดอยู่แล้ว นาเดียร์เธอทำหน้าที่ภรรยาที่ดีตั้งแต่วันแรกของการได้ชื่อว่ามีสามี อะไรที่เธอไม่เคยทำหญิงสาวก็พยายามที่จะฝึกเพื่อให้สามีของเธอมีความสุขที่สุด หญิงสาวไม่ได้ช่วยงานธุรกิจของครอบครัวเท่าไหร่เพราะพ่อกับแม่อยากให้เธอทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุดก่อน เพราะทั้งสองคนยังอายุไม่มากยังพอทำไหว
ตอนที่ 2เมื่อทุกอย่างไม่เหมือนเดิม หลังจากกลับมาจากทะเลได้เพียงแค่ไม่ถึงเดือน นาเดียร์ก็สัมผัสได้ว่าสามีของเธอเปลี่ยนไป จากที่เคยกลับบ้านตรงเวลาตอนนี้เขาก็กลับบ้างไม่กลับบ้าง ด้วยเหตุผลที่เกี่ยวกับงานที่มีปัญหา “พี่วิธานคะ มีปัญหาอะไรที่พอจะให้พ่อของเดียร์ช่วยไหมคะ เห็นพี่ทำงานหนักทุกวันเดียร์เป็นห่วง” ภรรยาคนสวยเดินมาคล้องแขนสามีที่เพิ่งกลับมาจากทำงานเพื่อหวังเอาใจ “อยากช่วยไหม ถ้าอยากช่วย เลิกถามสักทีผมรำคาญ” วิธานไม่ได้พูดคำพูดแบบนี้กับนาเดียร์เป็นครั้งแรก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะพูดบ่อย หญิงสาวจึงให้อภัยและคิดว่าสามีคงเหนื่อยจากเรื่องงานมาจริง ๆ ชายหนุ่มทำท่ารำคาญและหงุดหงิด จากที่จะนั่งโซฟาตามปกติ เขากลับเอาขาทั้งสองข้างขึ้นมาวางบนโต๊ะ “มาถอดถุงเท้าให้หน่อย เหนื่อยไม่อยากก้ม” วิธานชี้นิ้วไปที่เท้าทั้งสองข้างด้วยกิริยาที่ดูหยาบคายเหมือนต้องการทำร้ายจิตใจของอีกฝ่ายให้รู้สึกต่ำต้อย นาเดียร์ทำท่าลังเลว่าเธอจะถอดหรือจะปฏิเสธ แต่ยังไม่ทันที่เธอจะตัดสินใจ แก้วน้ำที่วางอยู่ข้างหน้าชายหนุ่มก็ถูกปาไปที่กำแพง
ตอนที่ 3เวลาที่ไม่มีใคร “เป็นไงบ้าง เห็นคุยกันถูกคอเชียว ติดใจบอกได้นะพรุ่งนี้ให้พามาอีกก็ได้” ส้มถามเพื่อนที่เธอเพิ่งเคยพามาเที่ยวบาร์โฮสเป็นครั้งแรก เพราะตัวเธอมาเที่ยวบ่อยมาก “เขาก็คุยสนุกดีนะ แต่เราไม่ชอบเที่ยวแบบนี้ ส้มเราไปนอนด้วยนะ พรุ่งนี้เช้าเราค่อยกลับยังไม่อยากเจอหน้าพี่วิธาน” ส้มมองนาเดียร์ด้วยความสงสารแม้แต่ชีวิตของตัวเองยังไม่มีสิทธิ์เลือกทางเดิน นาเดียร์กลับถึงบ้านด้วยสภาพที่ยังง่วงนอนเพราะเธอเองไม่ค่อยได้นอนดึกตื่นเช้าจึงตั้งใจว่าจะขึ้นไปนอนข้างบนแล้วค่อยลงมาทำงานบ้าน “ถ้าจะกลับเช้าแบบนี้หย่ากันดีไหม” วิธานเดินลงมาจากบ้านด้วยชุดที่ไม่ใช่ชุดทำงาน พร้อมด้วยกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ “เดียร์ไปนอนกับส้มมา แล้วพี่วิธานจะไปไหนคะ” หญิงสาวรู้สึกใจหายแบบบอกไม่ถูกที่อยู่ดี ๆ ก็ถูกสามีชวนหย่าและเขาก็กำลังจะเดินออกจากบ้านพร้อมกระเป๋าเดินทาง “ไม่ต้องเสือกนะคะคนดี” วิธานยื่นหน้าจนแทบจะชนกับหน้าของหญิงสาว และพูดด้วยน้ำเสียงเน้นเหมือนรู้สึกสะใจที่ได้พูด เสียงรถออกไปแล้วหญิงสาวทรุดตัว
ตอนที่ 4เพราะเธอคือกำลังใจ “เชนคุณจะพาฉันไปไหน ขับออกมานอกเมืองแบบนี้” นาเดียร์ไม่รู้หรอกว่าเส้นทางที่เชนกำลังพาเธอไปคือเส้นทางที่จะไปยังที่ไหน เธอรู้แค่เพียงว่ามันออกมาพ้นจาก ตัวกรุงเทพแล้ว รถเริ่มติดน้อยลง บรรยากาศข้างทางเริ่มดูสบายตามากขึ้น “ผมจะพาไปบ้านผม ตอนนี้มีคุณแม่อยู่คนเดียว ส่วนตัวผมเองมาเช่าคอนโดอยู่เพราะจะได้สะดวกในการทำงาน” “แล้วคุณจะพาไปบ้านทำไมคะ ป่านนี้คุณแม่คุณคงหลับแล้ว เกรงใจท่าน” ราเชนหันมาส่งยิ้มให้กับหญิงสาวที่ตอนนี้เธอหยุดร้องไห้แล้ว และดูจะสนใจปลายทางที่เขาจะพาไปจนลืมความทุกข์ไปได้พักหนึ่ง “ผมบอกแม่ไว้แล้ว ที่ผมพาคุณไปเพราะเราจะได้รู้จักกันมากขึ้นที่บ้านผมวิวดีนะอยู่ติดแม่น้ำและที่สำคัญถ้าคุณได้คุยกับแม่ของผม คุณจะรู้ว่าแม่มักจะมีทางออกที่ดีให้กับทุกคน” นาเดียร์เชื่อในคำพูดของคนที่เพิ่งรู้จักกันอีกครั้ง อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้พาเธอไปที่ที่ต้องอยู่กันสองต่อสองและคืนนี้เธอก็มั่นใจว่าเขาจะอยู่เป็นเพื่อนเธอไปจนเช้าแน่นอน บ้านของราเชนเป็นบ้านไม้ที่จัดได้ว่าสวยงามถึงจะมีขนาดไม่ใหญ่
ตอนที่ 5อยู่ดี ๆ ก็เจ็บ นาเดียร์นั่งรถกลับบ้านด้วยหัวใจที่มุ่งมั่น เธอจะขอแก้ตัว เธอพร้อมจะทำทุกอย่างตามที่สามีต้องการ ขอแค่ให้เขาไม่ไปจากเธอ ถึงแม้นาเดียร์จะรู้สึกลึก ๆ ว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิด แต่เธอกลับยอมเป็นคนผิดขอแค่ไม่ให้อีกฝ่ายไป ราเชนได้แต่หันไปสบตาคนข้าง ๆ เป็นครั้งคราว เขาเป็นคนอื่นและเพิ่งเข้ามาในชีวิติของหญิงสาวได้ไม่นาน คงได้แต่อยู่ในมุมเงียบ ๆ รอเมื่อไหร่ที่อีกฝ่ายต้องการเขาคงมาหาเธอเอง “ขอบคุณนะเชน ที่อยู่เป็นเพื่อนในวันที่ไม่เหลือใครมาสองครั้งแล้ว ขอให้การเจอกันของเราครั้งต่อไป ขอให้เดียร์มีความสุขอย่าได้ทุกข์เหมือนทุกครั้งเลย ไว้ว่าง ๆ เจอกันนะ” หญิงสาวกำลังจะเปิดประตูรถของตัวเอง แต่กลับถูก มือหนาจับแขนเธอไว้ “ขอให้คุณโชคดี ขอให้เขากลับมาเป็นคนเดิมแต่สัญญากับผมได้ไหม ว่าคุณจะไม่รักเขาจนลืมรักตัวเอง ผมอยู่ข้าง ๆ คุณตลอดนะถึงแม้ว่าคุณอาจมองไม่เห็น” นาเดียร์โผเข้ากอดราเชนอีกครั้ง เธอรู้ความหมายดีแต่เธอก็รู้ว่าสุดท้ายที่เธอพยายามจะกลับไปทำมันคือการทำร้ายตัวเองอยู่ก็ตาม บ้านถูกปิดไว้ในสภาพเดิม หญิงส