ตอนที่2
คุณครูคนใหม่
ถึงแม้ว่ากว่าจะมาถึงก็มืดมากแล้ว แต่ชาวบ้านหลายคนยังคงรอต้อนรับครูใหม่ อยู่ที่หน้าโรงเรียน
“พวกเราชาวบ้านน้ำฝาย ยินดีต้อนรับคุณครูคนใหม่ครับ”
สิ้นสุดคำทักทายของผู้ใหญ่บ้านก็ตามมาด้วยเสียงปรบมือของทุกคนที่มายืนรอ
ผู้ใหญ่บ้านและภรรยาเดินนำคุณครูคนใหม่ โดยมีบรรดาตำรวจและชาวบ้านช่วยกันขนของเดินตามมาที่บ้านพักครู ซึ่งอยู่ติดกับอาคารเรียน
“พวกเราทำความสะอาดไว้ให้เรียบร้อยแล้วนะครับ”
“แล้วหนูต้องนอนที่นี่คนเดียวเหรอคะ”
อลิสถามผู้ใหญ่บ้าน เพราะบ้านพักครูอยู่ห่างจากบ้านของชาวบ้านอยู่พอสมควร แต่ก็ไม่เกินร้อยเมตร
“ห้องข้างล่างผมอยู่” ธนาตุลตอบแทนผู้ใหญ่
“แต่ถ้าเปลี่ยนเวร ตำรวจที่มาแทนผมเขาจะนอนที่เรือนหลังเล็กที่อยู่ด้านหน้าโรงเรียน”
ผู้กองอธิบายแต่มันก็ไม่ทำให้สีหน้าของครูคนใหม่ดีขึ้นเลย เพราะถ้าธนาตุลไม่อยู่เธอก็ต้องนอนคนเดียวอยู่ดี
“คุณครูไม่ต้องกลัวไปหรอกจ้า เดี๋ยวพวกเด็กๆมันก็แย่งกันมาขอนอนด้วยทุกคืน” ภรรยาของผู้ใหญ่บ้านพูดให้คนตัวเล็กสบายใจมากขึ้น
“แล้วคุณครูอีกคน เขาพักที่ไหนคะ”อลิสหมายถึงครูผู้ชายที่ชื่อชะลอ
“ครูชะลอแกก็นอนบ้านแก ที่อยู่ออกไปจากหมู่บ้าน”
ชาวบ้านคนหนึ่งตอบพร้อมกับชี้ไปที่ถนน ที่หญิงสาวนั่งรถผ่านมา
เมื่อชาวบ้านทุกคนได้ต้อนรับทักทายครูใหม่แล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ทิ้งไว้แต่ตำรวจทั้งสามนาย ที่กำลังช่วยกันยกของขึ้นไปชั้นบนซึ่งเป็นห้องนอนของหญิงสาว
“ห้องน้ำมีแค่ห้องเดียว แล้วอยู่ชั้นล่าง เราต้องใช้ร่วมกัน” คนอยู่ก่อนอธิบาย
“ทำไมเปิดไฟน้อยจังค่ะ” อลิสมองไปรอบบ้านมีไฟที่เปิดอยู่แค่สองดวง
“ที่นี่ใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ บ้านหลังนี้จะเก็บพลังงานได้มากกว่าที่อื่น แต่ถ้าคุณไม่ประหยัด มันเกิดหมดกลางดึกขึ้นมาคุณจะต้องอยู่กับความมืดไปทั้งคืน”
จากที่ตั้งใจแน่วแน่ ว่าจะไม่กลัวตอนนี้อลิสเริ่มรู้สึกหวาดๆ เพราะมองไปทางไหนก็มืดไปหมด
“พวกผมขอตัวกลับเข้าที่พักก่อนนะครับ” ลูกน้องทั้งสองคนขนของจนเสร็จแล้วจึงมาขอตัวกลับที่พักก่อน
ผู้กองพยักหน้า ก่อนจะเดินนำหญิงสาวขึ้นไปบนบ้าน เพื่อไปดูห้องนอนของตัวเอง
“ไม่มีเตียงเหรอคะ ฉันเอามาแต่ที่นอนบางๆเสียด้วย” หญิงสาวทำหน้าเหมือนเด็กลืมขวดนม
“นอนเป็นที่นอนดีกว่า ชาวบ้านที่นี่เขาทำขาย พรุ่งนี้ผมจะพาไปอุดหนุนพวกเขา ทำจากนุ่นแท้ๆ รับรองนอนสบายผมก็ใช้อยู่”
ภายในห้องว่าเปล่าไม่มีแม้แต่ชั้นวางของ คืนนี้อลิสไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อน เพราะเธอทั้งเหนื่อย ทั้งรู้สึกกลัว
“ผมลงไปข้างล่างก่อนนะ คุณจะได้จัดของ”
“ผู้กองคะ”
อลิสร้องเรียกเมื่อธนาตุลหันหลังกำลังจะเดินลงบันไดไปยังห้องนอนของเขา
“เอ่อ...คืนนี้ฉันเอาที่นอนไปปูนอนกับคุณก่อนได้ไหม”
หญิงสาวคิดว่านาทีนี้ เธอจะมามัวอายและถือตัวไม่ได้แล้ว ไม่อย่างนั้นไม่ได้นอนทั้งคืนแน่
“คือฉันไม่รู้จะเริ่มจากจัดอะไร เพราะชั้นหรือโต๊ะก็ยังไม่มี ให้ฉันไปนอนด้วยคนนะคะ ผู้กองสุดหล่อ”
เมื่อเห็นอีกฝ่ายทำท่าจะไม่ยอม หญิงสาวก็ทำเสียงออดอ้อน และคว้ามือเขามาจับไว้
“ถ้าอย่างนั้นคุณนอนห้องผม เดี๋ยวผมไปนอนกับลูกน้อง”
“ถ้าทำแบบนั้นฉันก็นอนคนเดียว ไม่เอาคุณนอนกับอลิสนะ นะนะ ฉันขอร้อง”
ธนาตุลได้แต่ส่ายหัวแต่ก็จำใจต้องยอม เขาจึงยกเครื่องนอนของหญิงสาวลงไปจัดการปูให้
อลิสเริ่มรู้สึกคิดถึงพ่อกับแม่ แต่ที่นี่โทรศัพท์ไม่มีสัญญาณเลย เธอจึงได้แต่หยิบรูปขึ้นมาดูแทน
“คิดถึงพ่อกับแม่เหรอคุณครูขี้แย”
ชายหนุ่มเดินขึ้นมา เสียงเบาจนหญิงสาวไม่ทันได้รู้ตัว จึงเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มไม่ทัน
“แรกๆ ผมก็เป็นแบบนี้ พอสักพักเราก็จะมีเพื่อน มีคนรู้จัก มีอะไรให้ทำ ทุกอย่างก็จะดีขึ้น”
ผู้กองมาดเข้มเดินมานั่งลงข้างคุณครูคนใหม่ที่กำลังนั่งร้องไห้ เหมือนเด็กน้อยที่ไม่เคยห่างครอบครัว
“ขอบคุณนะคะที่คอยช่วยทุกเรื่องเลย”
อลิสโน้มศีรษะของเธอลง วางบนบ่าของชายหนุ่มที่นั่งข้างๆ ทำเอาผู้กองหายใจไม่ทั่วท้องด้วยความตกใจ และรู้สึกไม่ชินที่มีผู้หญิงมาใกล้ชิดแบบนี้
“เป็นคุณครูต้องเข้มแข็ง ไม่อย่างนั้นเด็ก ๆ จะพึ่งใคร”
มือหนายกมาลูบผมยาวดำขลับของคนที่กำลังนอนซบไหล่เขาอยู่
“ผู้กองจะอยู่ที่นี่อีกกี่วันคะ”
“อีก14วัน ผมเพิ่งมาวันแรกวันนี้พร้อมคุณ เราจะเปลี่ยนเวรกันทุกๆ 15 วัน คุณมีอะไรหรือเปล่า” ชายหนุ่มก้มมองหน้าคนถามที่ยังคงซบไหล่เขาอยู่
“ฉันยังไม่พร้อมจะอยู่คนเดียว แต่เหลือเวลาอีกตั้ง14วัน คงพอที่จะเรียนรู้อะไรได้มาก คนที่มาแทนคุณเขาจะดูแลเหมือนคุณไหม”
อลิสยกหัวตัวเองออกจากไหล่ของชายหนุ่ม เพื่อมาสบตารอฟังคำตอบ
“ดูแลก็คงดูแล แต่คุณจะมาอ้อนเหมือนที่อ้อนผมไม่ได้นะ เพราะผู้กองสุชาติเขาอายุมากแล้ว และที่สำคัญเขาเป็นคนไม่ค่อยพูด”
สุชาติอายุเกือบหกสิบแล้ว เขาเป็นคนจริงจังเรื่องระเบียบและอุดมการณ์ ถ้ามาเจอคุณครูคนสวยอ้อนเป็นเด็กแบบนี้ มีหวังรีบส่งตัวกลับกรุงเทพแน่ๆ
“ถ้าอย่างนั้น14วันที่เหลือ ฉันขออ้อนคุณให้พอใจก่อนนะ โต๊ะเครื่องแป้ง ชั้นวางของ โต๊ะทำงาน ม่าน มุ้งลวด ยังไม่มีสักอย่าง ทำให้หน่อยนะคะ”
อลิสซบลงที่ไหล่ของชายหนุ่มอีกครั้ง หญิงสาวคงคิดว่าผู้กองก็เป็นเหมือนพี่ชายคนหนึ่ง แต่สำหรับธนาตุลเขากลับรู้สึกหวั่นไหว ทั้งที่ตัวเขาเองก็มีคู่หมั้นที่ทางครอบครัวหาไว้ให้แล้ว
“ไปอาบน้ำจะได้พักผ่อน ส่วนที่อ้อนไว้จะพยายามทำให้เสร็จก่อนที่จะเปลี่ยนเวร”
ในเมื่อหญิงสาวหน้าเรียว ปากชมพูไม่ยอมเลิกซบไหล่เขาเสียที ชายหนุ่มจึงเป็นฝ่ายลุกออกมาจากตรงนั้นเอง เพราะด้วยหน้าที่และบทบาทตอนนี้ เขากับเธอไม่สมควรใกล้ชิดกันเกินไป
“อย่าเพิ่งลง รออยู่ตรงนั้นเลย หยิบเสื้อผ้าแป๊บเดียว ค่อยลงพร้อมกัน”
เมื่อเจอเสียงสั่งที่แสนจะออดอ้อน ทำเอาผู้กองผู้ไม่เคยไหวหวั่นให้ใครถึงกับหยุดรอตามคำสั่งเลยทีเดียว
ตอนที่3เช้านี้ที่หมู่บ้านกลางหุบเขา “หนาวไหม” ชายหนุ่มถามเมื่อเห็นว่า หญิงสาวนอนห่มผ้าห่มผืนบาง และกอดไว้แน่น “หนาวสิถามได้ ตอนแรกก็สงสัยว่าที่นี่ไม่มีไฟใช้แล้วเขาไม่ร้อนกันเหรอ ที่แท้กลางคืนอากาศอย่างกับอยู่เมืองนอกเลย” ชายหนุ่มถามเพียงสั้นๆ แต่คนตอบ ตอบเสียยืดยาวเพราะ อลิสรู้สึกเริ่มคุ้นเคย สนิทสนมกันแล้ว “ถ้าอย่านั้นเอาผ้าห่มคุณมาแลกกับของผม” “แล้วคุณก็หนาว ทำเป็นพระเอกอีกแล้ว ” อลิสพูดจบก็ลากที่นอนมาติดกับของชายหนุ่ม และคว้าผ้าห่มผืนหนาของผู้กองมาห่มตัวเธออีกชั้นหนึ่ง “ห่มด้วยกันก็หมดเรื่อง ราตรีสวัสดิ์นะคะ” ธนาตุลได้แต่นอนมองหญิงสาวที่อยู่ดีๆก็ลุกมานอนข้างเขา แถมห่มผ้าห่มผืนเดียวกันอีก เพิ่มความรู้สึกที่ปั่นป่วนท้อง หัวใจเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก สิ้นเสียงอลิสก็หลับสนิท แถมมีเสียงกรนเบาๆยืนยันว่าเธอหลับจริงดังออกมาด้วย ธนาตุลพยายามสวดมนต์ก็แล้ว นับหนึ่งถึงร้อยก็แล้ว แต่มันกลับนอนไม่หลับ เขาจึงหันมามองใบหน้าคุณครูคนใหม่ที่กำลังหลับใหลให้ชัด เพราะเมื่อกลางวันยังมองไม่ถนัดเลย
ตอนที่4ขอนอนด้วยนะคะ เมื่อได้ที่นอนแล้ว อลิสก็ยังขอนอนกับผู้กองอีกหนึ่งคืน เพราะห้องยังไม่มีข้าวของมันทำให้ดูโล่งน่ากลัว ชายหนุ่มก็ทำได้แค่ต้องยอมทำตาม อาหารเย็นวันนี้ผู้ใหญ่บ้าน จัดงานเลี้ยงต้อนรับครูใหม่ เป็นงานเลี้ยงเล็กๆ ที่แสนน่ารัก หญิงสาวได้รู้จักเด็กๆในหมู่บ้านหลายคน โดยเฉพาะฟองจันทร์ลูกสาวผู้ใหญ่ดูจะชอบคุณครูคนใหม่เป็นพิเศษ “พวกเราขอต้อนรับคุณครูคนใหม่ของเราอย่างเป็นทางการอีกครั้ง เธอชื่อคุณครูอลิส ขอให้พวกเราทุกคนช่วยกันดูแล และช่วยเหลือ เพื่อคุณครูจะได้อยู่ที่นี่กับเราไปนานๆ” ผู้ใหญ่บ้านแนะนำหญิงสาวอีกครั้ง โดยครั้งนี้ทางผู้ใหญ่ขอนัดชาวบ้านที่ว่าง พรุ่งนี้ให้มใช่วยกันทำความสะอาดดรงเรียน เพื่อเด็กๆจะได้เรียนหนังสือกันเสียที “พวกผมจะอยู่ที่นี่อีก13วัน และจะมีตำรวจชุดใหม่มาสับเปลี่ยนเช่นเคย นำทีมโดนผู้กองสุชาติ เรื่องที่ผมติดค้างไว้ เกี่ยวกับการหาวิธีการเพิ่มพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อให้พวกเรามีไฟใช้มากขึ้น ตอนนี้มีห้างร้านต่างๆบริจาคเงินมาจำนวนหนึ่ง ผลัดต่อไป ผมและลูกน้องจะมาลงมือจัดการทันที แต่ครั้งนี้เรายังหาซื้ออุปรณ์ได้ไม่พร้อ
ตอนที่5 วันแรก โรงเรียนพร้อมแล้ว นักเรียนจากหมู่บ้านบ้านน้ำฝายและหมู่บ้านใกล้เคียงที่เดินทางไม่ไกลมากนัก พ่อแม่ผู้ปกครองต่างก็พาลูกหลานมาส่งที่โรงเรียนเพราะได้ยินข้าวจากผู้ใหญ่บ้าน ว่าโรงเรียนพร้อมจะเปิดเรียนแล้ว “พร้อมหรือยังครับคุณครู”ชายหนุ่มในชุดตำรวจถามหญิงสาวที่กำลังยืนรอนักเรียนอยู่ที่หน้าเสาธง“พร้อมค่ะคุณตำรวจ แต่วันนี้คุณต้องช่วยอลิสสอนวิชาคณิตศาสตร์ก่อนนะคะ ”เมื่อคืนอลิสได้ขอให้ธนาตุลและลูกน้องช่วยเธอสอนก่อนในช่วงเปิดเรียนแรกๆเพราะเธอยังต้องการจะทดสอบแยกนักเรียนแต่ละชั้นออกจากกัน “ได้ครับคุณครู ลูกน้องผมของจองเด็กเล็กๆสอนฝึกคัดลายมือ ส่วนผมขอคณิตศาสตร์ นอกนั้นคุณครูจัดการเองนะครับ” ธนาตุลทำท่าทางล้อเลียนเหมือนคนที่กำลังทำตามคำสั่งคุณครูจนหญิงสาวอดหัวเราะไม่ได้ นักเรียนมาพร้อมแล้ว อลิสแบ่งเป็นแถว แถวละห้าคน มีทั้งหมดหกแถว มีฟองจันทร์ทำหน้าที่นำร้องเพลงชาติและสวดมนต์ ช่วงเช้าคุณครูคนใหม่เรียกนักเรียนเข้ามาทดสอบความรู้ทางการอ่านและการเขียนภาษาไทย ก่อนจะส่งไปให้ ธนาตุลช่วยทดสอบวิชาคณิตศาสตร์ให้ ก่อนที่คืนนี้จะเอ
ตอนที่6ความใกล้ชิดที่พิเศษ คืนแรกกับการขึ้นไปนอนที่ชั้นสองของบ้าน คุณครูสาวยังไม่ค่อยชินเท่าไหร่ กว่าจะหลับได้สนิทก็เกือบเช้ามืดแล้ว “ตื่นสายกว่าคุณอีกแล้ว เมื่อคืนกว่าจะหลับได้” อลิสลงมาข้างล่าง ตามกลิ่นของกาแฟที่ส่งกลิ่นหอมขึ้นไปถึงบนชั้นสอง เข้าไปในห้องนอนของเธอ “คงต้องใช้เวลาอีกสักพัก แต่ผมว่าพอคุณเหนื่อยมากๆสุดท้ายเดี๋ยวก็หลับง่ายไปเอง” ผู้กองหนุ่มยื่นแก้วกาแฟให้หญิงสาวที่ยังอยู่ในชุดนอนและกำลังยืนบิดตัวไล่ความขี้เกลียดให้ออกจากตัวเอง “หอมมากเลยนะคะ ไว้กลับไปบ้านอลิสว่าจะซื้อไปฝากพ่อ ท่านชอบกินกาแฟสดมากค่ะ” “ดีเลยครับ อุดหนุนชาวบ้าน ผมยังเคยเอาลงไปขายเลยนะ ลูกค้าที่ซื้อไปต่างก็ชอบ อีกทั้งไม่ได้ผ่านพ่อค้าคนกลาง ราคาก็ไม่แพง” ครอบครัวของธนาตุลด้วยความที่เป็นคนหัวการค้า เขาจึงเอากาแฟจากบ้านน้ำฝายและหมู่บ้านใกล้เคียงไปติดแบรนด์ของตัวเอง และขายให้กับลูกค้าที่มาซื้อทอง ร้านทองครอบครัวธนาตุลมีหลายสาขา ชายหนุ่มเอากาแฟกลับไปเท่าไหร่ก็ขายหมดแค่เพียงไม่นาน และกำไรที่ขายได้ พ่อของเขาก็ยกให้ลูกชาย ผู้กอง
ตอนที่7ฤดูฝนที่ชุ่มฉ่ำใจ เวลาผ่านไปรวดเร็วเมื่ออลิสคิดถึงวันที่ตำรวจชุดนี้ต้องถูกสับเปลี่ยน “เมื่อคืนฝนตกคุณรู้ไหม” ธนาตุลถามหญิงสาวที่เพิ่งตื่นนอนและเดินลงมาด้านล่างของบ้าน “หลับสนิทไม่รู้เรื่องเลยค่ะ” อลิสเริ่มชินกับที่นี่และเธอก็เหนื่อยกับการสอนนักเรียนจนหลับแบบไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย “เมื่อคืนฝนตกแต่ไม่หนักเท่าไหร่ เริ่มเข้าหน้าฝนแล้ว ที่นี่เวลาฝนตกจะตกแทบทั้งวัน คุณไม่ต้องแปลกใจถ้าวันไหนฝนตกตอนกลางคืน อาจจะไม่มีนักเรียนมาโรงเรียน” “ทำไมเหรอคะ” อลิสไม่เข้าใจ เพราะฝนตกช่วงกลางคืนเกี่ยวอะไรกับตอนเช้าที่เด็ก ๆต้องมาโรงเรียนด้วย “ถนนลาดยางที่คุณเห็นมันไม่ได้ตลอดนะ ถนนในหมู่บ้านเป็นดิน ถ้าฝนตกหนักมันก็จะเละไปหมด แล้วใครเขาจะเดินผ่านดินเละ ๆ มาเรียนกัน” ธนาตุลอธิบายแต่น้ำเสียงก็ดุดันนิดหน่อย เพราะชายหนุ่มอยากให้อลิสเป็นคนที่ช่างสังเกตมากกว่านี้ การใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติต้องอาศัยการสังเกตจะได้รู้และเตรียมตัวรับกับภัยธรรมชาติต่าง ๆได้ทัน “ทำเสียงดุเชียวนะคะ ฉันเพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้ย
ตอนที่8คิดถึง วันที่อลิสไม่อยากให้มาถึง แต่มันก็ต้องยอมทำใจเมื่อชุดตำรวจตระเวนชายแดนอีกชุดเดินทางมาถึงที่หมู่บ้าน ชุดของผู้กองธนาตุลก็ได้พัก ตำรวจหลายคนก็คิดถึงภรรยาและลูกๆกันจะแย่อยู่แล้ว “ดูแลตัวเองให้ดีนะคุณครู แล้วผมจะซื้อของมาฝาก ไม่งอแงนะคนเก่ง” เมื่อรถของชายหนุ่มเคลื่อนออกจากหมู่บ้าน อลิสก็หันหลังให้ทันที เพราะเธอกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว “ร้องไห้ตามผู้กองธนาตุลหรือครับคุณครู” เสียงทักทายดังมาจากด้านหลัง แต่เป็นเสียงที่น่าจะมีอายุน้อยกว่าบิดาของอลิสไปกี่ปี “สวัสดีค่ะ หนูชื่อลิสนะคะ คุณคงเป็นผู้กองสุชาติใช่ไหมคะ” “ใช่ ผมผู้กองสุชาติ ดูแล้วครูน่าจะอายุเท่าๆกับลูกสาวผม ยังเป็นเด็กสาวต้องมาอยู่ไกลพ่อไกลแม่แบบนี้ ลำบากหน่อยนะ” น้ำเสียงและท่าทางของผู้กองสุชาติ แสดงถึงความเข้มแข็งและมากด้วยประสบการณ์ ถึงแม้เขาจะส่งยิ้มให้หญิงสาว แต่เธอกลับรู้สึกทั้งเคารพและก็เกรงใจ ไม่กล้าจะตีสนิทด้วย “ขอบคุณหนูนะที่เสียสละทิ้งความสบายมาเลือกลงโรงเรียนที่นี่ หลายปีแล้วที่โรงเรียนบ้านน้ำฝายต้องให้ครูชะลอมาคอยสอน
ตอนที่9แล้วเขาก็กลับมา วันนี้แล้วที่ผู้กองจะต้องมาที่หมู่บ้าน อลิสอารมณ์ดีตั้งแต่เช้า เพราะเหมือนกับการรอคอยของเธอจะสมหวังวันนี้แล้ว “วันนนี้ครูยิ้มทั้งวันเลย” เด็กน้อยจากหมู่บ้านข้างเคียง พูดกับอลิสเมื่อมายินรอส่งแบบฝึกหัดแล้วเห็นครูของเธอนั่งยิ้มคนเดียว “วันนี้นักเรียนของครูทุกคนน่ารัก ครูก็เลยยิ้มได้ทั้งวัน” เมื่อตอบตามตรงเด็กน้อยคงไม่เข้าใจ หญิงสาวจึงคิดคำตอบที่เข้าใจง่ายๆ ตอบหนูน้อยไป เสียงรถตำรวจที่กำลังวิ่งเข้ามาในหมู่บ้าน ทำให้หัวใจของหญิงสาวเต้นแรง เพราะหมายความว่าเธอกำลังจะได้เจอหน้ากับ ผู้กองธนาตุล “เก็บหนังสือเข้าที่ การบ้านใส่กระเป๋าให้เรียบร้อย โรงเรียนหยุดสองวัน เจอกันอีกทีวันจันทร์นะคะทุกคน” หญิงสาวไม่กล้าที่จะเดินไปในหมู่บ้านถึงแม้จะอยากไปแค่ไหน แต่ก็ได้แต่รอให้ผู้กองเสร็จธุระในหมู่บ้านแล้วคงมาที่บ้านพักครูเอง เวลาผ่านไปนาน นานจนคนรอเริ่มรู้สึกใจคอไม่ดีแล้ว เพราะมองไปทางเดินที่เป็นเส้นทางจากหมู่บ้านมายังบ้านพักครู เธอก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของชายหนุ่มที่เธอรอคอย “คร
ตอนที่10ทะเลหมอกและสองเรา “แบบนี้เขาไม่เรียกตื่นเช้า เขาเรียกตื่นตั้งแต่มืดต่างหาก มืดแบบนี้จะมองเห็นเหรอทะเลหมอกของผู้กอง” อลิสหงุดหงิดที่ถูกปลุกให้ตื่นตั้งแต่เช้ามืดแบบนี้ เพราะแค่ทุกวันนี้เธอต้องตื่นเช้าเพื่อมาเตรียมอาหารเช้า และเตรียมมาสอน ก็ต้องใช้ควาพยายามในการเปลี่ยนตัวเองมากพออยู่แล้ว “เด็กในเมืองก็แบบนี้ พอโดนปลุกให้ตื่นตอนเช้ามืดก็ทำเป็นไม่พอใจ แล้วแบบนี้จะมาเป็นครูบนดอย ผมว่าคุณทนอยู่ที่นี่ได้ไม่ถึงปี เดี๋ยวก็ต้องหาทางลงไปสอนในเมืองแน่ๆ” ธนาตุลรู้ว่าถ้าเขาพูดดี ๆ ไม่มีทางที่หญิงสาวจะหายง่วงนอน เขาเลยแกล้งพูดยั่วโมโห แล้วมันก็ได้ผลจริงๆ “คอยดูแล้วกัน ฉันก็แกล้งบ่นแกล้งง่วงไปอย่างนั้นแหละ ตอนคุณไม่อยู่ฉันก็ตื่นเช้าทุกวัน เลิกคิดว่าฉันต้องเป็นลูกคุณหนูและทนความลำบากที่นี่ไม่ได้เสียที” เมื่อเห็นอีกฝ่ายโมโห ผู้กองกลับทั้งหัวเราะและยิ้ม จนหญิงสาวต้องเอียงตัวเพื่อหันหน้ามามองเขาด้วยความสงสัย “ผู้กองขำอะไร” หญิงสาวกระแทกเสียงถาม “ขำคนที่โดนยั่วโมโหจนหายง่วงเลย เอ๊ย!..ไม่ใช่ ไม่ได้ง่วงลืมไป ผ