Share

ไอหมอกผู้กองสิเน่หา
ไอหมอกผู้กองสิเน่หา
ผู้แต่ง: ปะหนัน

การเดินทางตามเส้นทางของความฝัน

ตอนที่1

การเดินทางตามเส้นทางของความฝัน

          “คุณพ่อกับคุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วง ทุกคนที่นั่นจะดูแล           อลิสเป็นอย่างดีค่ะ”

         วันนี้เป็นวันที่อลิสลูกสาวสุดที่รักของอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนวิทยากับแพทย์หญิงมุกดาต้องเดินทางไปรายงานตัวและเข้ารับการบรรจุทันที ที่โรงเรียนบ้านน้ำฝายที่อยู่ติดกับตะเข็บชายแดนไทยพม่า

          “พ่อกับแม่ส่งหนูแค่นี้นะลูก ดูแลตัวเองดีๆ ทำงานที่ลูกรักให้มีความสุข”

          วิทยากับมุกดาส่งลูกสาวแค่เพียงตัวจังหวัด โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน ทำหน้าที่มารับอลิสไปส่งยังหมู่บ้านอีกที

          “ ผมร้อยตำรวจเอกธนาตุล ได้รับมอบหมายให้มาทำหน้าที่ดูแลการเดินทางของคุณครูอาริสา “

          ชายหนุ่มในชุดตำรวจแนะนำตัวให้พ่อและแม่ ของอลิสรู้ว่าเขาคือใครและมาทำหน้าที่อะไรในเวลานี้

          “ฝากด้วยนะคะ”

มุกดาทำท่าจะยกมือไหว้แต่ธนาตุลจับมือเธอไว้ก่อน เพราะเขาอายุน้อยกว่าเธอหลายปี

“ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ทางกองร้อยของเราจะมีตำรวจผลัดเปลี่ยนกันไปดูแลคุ้มครองชาวบ้านตลอดทั้งปีครับ”

เมื่อนายตำรวจพูดถึงการดูแล มุกดาและวิทยาก็พอสบายใจขึ้นมาบ้าง

ทั้งสองคนไม่เต็มใจนักที่ลูกสาวจะเดินทางไปบรรจุในถิ่นทุรกันดาร แต่ด้วยมันเป็นความฝันของเธอ ทั้งคู่จึงจำใจต้องให้เธอไป

“ผมชื่อธนาตุลนะ เรียกผมผู้กองตุลก็ได้”

ชายหนุ่มแนะนำตัว เมื่อขึ้นไปประจำการในตำแหน่งคนขับ และมีคุณครูคนใหม่นั่งอยู่เบาะข้างๆ ส่วนตำรวจอีกสองนายนั่งอยู่ที่กะบะหลัง

“ฉันชื่ออาริสา แต่เรียกอลิสเฉยๆก็ได้ค่ะ” หญิงสาวแนะนำตัว

“ดูแล้วผมน่าจะอายุมากกว่าคุณนะ ตอนนี้ผม30แล้ว” ชายหนุ่มหลอกถามอายุ

“ถ้าอย่างนั้นเป็นพี่แน่นอนค่ะ”

รอยยิ้มของคุณครูคนใหม่ ที่กำลังจะได้ไปเริ่มทำงานที่ตัวเองรัก อดทำให้ธนาตุลคิดถึงเมื่อครั้งที่เขาเลือกมาอยู่ที่นี่ใหม่ๆ ตอนนั้นเขาก็มีรอยยิ้มแบบนี้ เพราะมีความสุขและตื่นเต้นที่จะได้ทำตามความฝัน

“ผู้กองอยู่ที่นี่มากี่ปีแล้วคะ”

หญิงสาวชวนคุย เพราะอยากจะรู้ข้อมูลหมู่บ้านที่เธอจะไปอยู่ก่อนที่จะไปถึง

“เข้าปีที่สามแล้วครับ อยู่จนไม่อยากย้ายไปไหนแล้ว ทุกคนที่นั่นมีแต่ความเรียบง่ายไม่วุ่นวายเหมือนในกรุงเทพ รับรองถ้าคุณครูไม่เบื่อความลำบากเสียก่อน จะรักและอยากอยู่ที่นั่นเหมือนผม”

อลิสมองสีหน้าคนเล่า เขาคงรักที่นั่นจริงๆถึงได้อยู่ถึงสามปี แล้วไม่คิดย้ายไปไหน

ระหว่างทางหญิงสาวนั่งมองข้างทางตลอด เธออยากจำเส้นทางเองให้ได้ เพราะต่อไปคงไม่มีใครมาคอยรับส่งเธอแบบนี้ทุกครั้ง

“อีกไกลไหมคะ กว่าจะถึงหมู่บ้าน”

หญิงสาวเริ่มคิดว่าใกล้เวลาอาหารกลางวันแล้ว และรอบตัวก็มีแต่ป่า ภูเขา นานๆทีจะมีบ้านคนสักหลัง

“กว่าจะถึงก็คงค่ำเลย มีอะไรหรือเปล่าครับ”

ตุลถามเพราะเห็นคนมาใหม่ทำท่าเหมือนอยากจะพูดอะไร แต่ไม่กล้า

“คือ...ฉันเริ่มหิวข้าวแล้วค่ะ” คนพูดเอามือทั้งสองข้างกุมท้อง ที่กำลังส่งเสียงร้องอยู่ข้างใน

“โถ่...ผมก็นึกว่าอะไร เดี๋ยวข้างหน้าจะมีร้านก๋วยเตี๋ยวของชาวบ้าน อร่อยสุดๆ คุณครูทนรออีกนิดนะครับ”

ทุกครั้งที่เข้าตัวจังหวัด ธนาตุลและลุกน้องจะมาแวะกินที่ร้านนี้ตลอด รสชาติถูกใจ ผักที่ใช้ก็ปลูกเอง แถมราคาก็แสนจะถูกมาก

“เห็นวัดที่อยู่ข้างหน้าไหมครับ ตรงนั้นแหละที่มีร้านของกิน ไว้วันหลังถ้าคุณครูต้องเดินทางเข้าเมืองจะได้มาแวะกินได้ สังเกตจากวัดจะช่วยให้จำง่ายขึ้น”

อลิสดีใจที่ใกล้จะถึงร้านแล้ว เธอรู้สึกหิวมากเพราะเมื่อเช้าด้วยความตื่นเต้นเลยกินอาหารที่โรงแรมมาเพียงไม่กี่คำ

“จ่าสั่งกันเลยนะ สั่งกลับไปกินที่หมู่บ้านด้วย”

ชายหนุ่มตะโกนบอกลูกน้องที่นั่งกันอยู่หลังรถ ให้ลงมากินอาหารมือกลางวัน

“เหมือนเดิมครับป้า” ธนาตุลตะโกนบอก

“ฉันเอาเหมือนคุณ ”

หญิงสาวคิดไม่ออกว่าจะกินอะไรดี เลยขอลอกเมนูจากผู้กอง เพราะเขาน่าจะมากินบ่อยจนรู้ว่าอะไรอร่อย

“ป้าครับของผมขอสามเลยนะ” ชายหนุ่มตะโกนสั่งอีกครั้ง

“ทำไมสั่งสามล่ะคะ” หญิงสาวสงสัยเพราะมันควรจะเป็นแค่สอง

“ตุนไว้ก่อน อีกนานกว่าจะถึง คุณครูก็ควรกินไว้เยอะ ๆ นะครับ” ชายหนุ่มแนะนำ

“เอาเพิ่มเป็นสี่เลยค่ะ” อลิสลองตะโกนสั่งบ้าง

สองคนมองหน้ากันและหัวเราะ ที่หญิงสาวคอยทำตามเขาทุกอย่าง อลิสเองก็ขำตัวเองที่เลียนแบบผู้กองไปเสียทุกเรื่อง

เมนูประจำของชายหนุ่มคือเส้นเล็กหมูสับต้มยำผักหวาน ที่ใส่ผักจนแทบจะล้นจาน

“อันนี้คือผักอะไรคะ” อลิสไม่รู้จัก

“ผักหวานค่ะ ลองกินดูนะ อร่อยมากจ้า” ป้าแม่ค้าตอบด้วยสีหน้าเหมือนอยากรู้จักคนถาม

“ผมมัวแต่กินลืมแนะนำเลย นี่คุณครูอลิส เธอจะมาสอนที่โรงเรียนบ้านน้ำฝาย”

 ตุลแนะนำหญิงสาวทั้งที่ปากยังเคี้ยวผักหวานของโปรดอย่างอร่อย

“ดีจังเลย บ้านน้ำฝาย มันเป็นหมู่บ้านใหญ่ที่สุดของแถวนี้ มีครูมาใหม่เด็กๆจะได้ไปเรียนหนังสือกัน”

ป้าแม่ค้าเธอดีใจ เพราะที่โรงเรียนบ้านน้ำฝายมีครูเพียงคนเดียวคือคุณครูชะลอ อายุท่านก็มาก จึงสอนได้ไม่เต็มที่ เด็กๆในหมู่บ้านอื่นเลยไม่ได้ไปเรียน เพราะแค่เด็กบ้านน้ำฝายก็หลายคนแล้ว

“ป้าเขาหมายความว่าอะไรคะ”

อลิสกระซิบถามผู้กอง เพราะกลัวป้าคนขายจะได้ยิน เธอไม่เข้าใจในสิ่งป้าเขาต้องการสื่อสาร

ผู้กองหนุ่มจึงเริ่มเล่าถึงการเสียโอกาสทางการศึกษาของเด็กที่นี่ เพราะไม่ได้อยู่รวมกันเป็นหมู่บ้านเหมือนบ้านน้ำฝาย จึงไม่มีโรงเรียนเป็นของตัวเอง ครูชะลอแกเกษียณแล้วแต่แค่มาช่วยสอนต่อ ทุกคนรอคุณครูคนใหม่มานาน ก็เพิ่งจะได้คุณมานี่แหละ เพราะไม่มีใครยอมเลือก

หญิงสาวฟังแล้วรู้สึกหดหู่ใจ เธอไม่คิดว่าจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นจริงๆ

“ฉันดีใจค่ะ ที่ทุกคนรอการมาของครูคนใหม่ ”

สองคนในฐานะข้าราชการไทยมองหน้ากันอย่างเข้าใจ แต่ในใจของธนาตุลยังไม่เชื่อมั่นว่า อลิสจะสามารถทนความลำบากและอยู่ที่นี่ไปได้ตลอด

ทุกคนอิ่มท้องเต็มที่ และยังพกใส่ถุงกลับไปอีกหลายถุง เพื่อไว้กินเมื่อถึงหมู่บ้าน รถก็ออกเดินทางต่อ

จากถนนลาดยางค่อยๆกลายเป็นถนนดิน และในที่สุดมันก็แทบจะดูไม่ออกว่าเส้นทางที่ผู้กองกำลังขับรถอยู่มันคือถนน

“ผู้กองขับรถเก่งมากเลยค่ะ” อลิสหันไปมองคนขับอย่างชื่นชมและทึ่งในความสามารถ

“คุณอลิสขับรถเป็นไหม”

“เป็นค่ะ แต่หมายถึงขับบนถนนธรรมดานะคะ ไม่ใช่ข้ามเขา ข้ามห้วยแบบนี้”

ชายหนุ่มตั้งใจว่า ถ้าเขามีเวลาจะพาคุณครูคนใหม่มาหัดขับรถข้ามลำธารเสียหน่อย เวลามีเหตุฉุกเฉินจะได้เอาตัวรอดได้

เมื่อข้ามลำธารได้ อลิสก็มองเห็นแสงไฟที่ส่องสว่างอยู่ไม่ไกลจากที่เธอกำลังอยู่

“แสงสว่างตรงนั้นใช่บ้านน้ำฝายไหมคะ”

“ใช่ครับ ที่นั่นคือบ้านของคุณ”

หญิงสาวหันมามองคนตอบ เขาใช้คำพูดได้ดูอบอุ่นมาก เขาคงรักที่นี่จริงๆ

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status