เชียงใหม่
บ้านธีธารา
20.00 น.
หลังจากที่ลูกแฝดทั้งสองวัยสองขวบนอนหลับแล้วณัฐนิชาก็ต้องแบกร่างของเธอมาทำงานต่อให้เสร็จเพราะเธอรับงานออกแบบภายในของบ้านให้กับเพื่อนสาวของเธอหลังจากที่หญิงสาวตั้งท้องได้เจ็ดเดือนเธอก็ต้องออกจากงานประจำมาเพื่อดูแลตัวเองและรับงานออกแบบฟรีแลนซ์อยู่กับบ้านแล้วส่งต่องานให้กับเพื่อนของเธอไปเสนอกับลูกค้าอีกทีหญิงสาวทำแบบนี้มาจนลูกทั้งสองของเธอโตจนสองขวบแล้ว
หญิงสาวตัวเล็กผอมแห้งดวงตากลมโตใบหน้าจิ้มลิ้มผิวขาวเนียนนั่งอยู่หน้าจอคอมอย่างใจจดใจจ่อเพราะอยากให้งานชิ้นนี้เสร็จโดยเร็วเพราะเธอจะได้พาลูกๆของเธอไปเที่ยวทะเลตามที่อยากจะพาลูกแฝดของเธอไป
“เด็กๆหลับแล้วเหรอคะพี่นิชา”
รินทร์ธาราพึ่งเลิกงานกลับมาบ้านเธอก็ถามหาเจ้าสองแสบหลานของเธอทันทีพร้อมสอดส่องสายตามองลอดเข้าไปในห้องนอนของพี่สาวเธอที่เปิดอยู่
“หลับไปเมื่อกี้นี้เอง...ดีแล้วพี่จะได้ทำงานให้เสร็จเร็วๆ..วันนี้ทำไมกลับช้าล่ะ”
ณัฐนิชาละมือจากการทำงานพร้อมหันเก้าอี้มาหาน้องสาวของเธอพลางสงสัยเรื่องเวลาเลิกงานของน้องสาวเธอวันนี้เพราะปกติแล้วรินทร์ธารานั้นจะกลับมาทันเล่นกับใยไหมกับใบหม่อนก่อนนอนทุกครั้งแต่วันนี้เจ้าสองแสบหลับไปแล้วน้องสาวเธอพึ่งจะกลับมา
“ก็เจ้าลัคกี้น่ะสิมันงอแงอีกแล้ว”
รินทร์ธาราพูดถึงรถเก๋งคันเก่าที่เป็นมรดกตกทอดจากรุ่งพ่อแม่เธอที่ช่วงนี้มันช่างมีปัญหาบ่อยด้วยใบหน้าที่แอบเซ็งเล็กน้อย
“อืม...มันก็เก่ามากแล้วก็คงตามสภาพ...”
ณัฐนิชาเองก็นึกถึงสภาพรถของที่บ้านเธอใช้อยู่คันเดียวทุกวันนี้มันก็เก่ามากจริงๆเธอเองตอนนี้ก็ยังไม่กล้าที่จะหาคันใหม่มาเป็นภาระเพราะงานฟรีแลนซ์ของเธอมันก็ได้รายได้ที่ไม่แน่นอนเธอต้องสำรองเอาไว้ให้ลูกของเธออีกน้องสาวของเธอถึงจะทำงานเป็นเภสัชแต่เงินที่เป็นลูกจ้างตามร้านยามันก็ไม่ได้รายได้สูงอะไรมากมายนักแค่พอใช้ไปเดือนๆมีเก็บบ้างแค่นั้นเองยิ่งคิดเธอก็ยิ่งเครียด
“เฮ้อ!!!...เมื่อยจัง”
ณัฐนิชาบิดขี้เกียจและถอนหายใจเบาๆพร้อมทิ้งตัวลงนอนบนฟูกผืนหนากว้างข้างๆลูกแฝดของเธอทั้งสองที่กำลังนอนหลับปุ๋ยขาก่ายเกยทับกันอยู่
กว่าเธอจะรีบปั่นงานให้เสร็จก็เป็นเวลาเกือบจะตีหนึ่งหญิงสาวนอนหันหน้ามาทางลูกทั้งสองของเธอพร้อมอมยิ้มเบาๆและลงยื่นหน้าไปหอมแก้มเจ้าแฝดชายหญิงตัวกลมทั้งสองคนละทีแบบเบาๆและหลับตาลงอย่างสบายใจเธอนอนดึกตื่นเช้าแทบจะทุกครั้งที่ได้รับงานมาแต่ถึงเธอจะเหนื่อยแต่พอได้รู้ว่าทำเพื่อใครเธอก็ไม่เคยคิดจะปริปากบ่นเลยสักนิด
เช้าวันต่อมา
“คุณแม่ขา..”
หนูน้อยใยไหมตื่นขึ้นมาก็รีบลุกขึ้นนั่งพร้อมก้มกระซิบที่ข้างๆหูคนเป็นแม่เพื่อปลุกให้ตื่นอย่างอารมณ์ดี
“อืมม...ตื่นเช้าจังเลยล่ะคะ”
ณัฐนิชารู้สึกตัวตื่นเพราะได้ยินเสียงแหลมๆข้างๆหูหญิงสาวลืมตาตื่นผงกหัวขึ้นมาพร้อมรวบตัวลูกสาวตัวกลมของเธอไปกอดเล่นพลางมองไปที่ใบหม่อนลูกชายแฝดน้องที่นอนแผ่หลาเต็มที่นอนยังไม่ยอมตื่นง่ายๆคนเป็นแม่ฉีกยิ้มออกมาหน้าระรื่น สองพี่น้องถึงจะเป็นแฝดกันแต่นิสัยไม่ค่อยจะเหมือนกันเลยสักนิดดูจากการตื่นนอนก็ไม่เหมือนกันอย่างหนึ่งแล้ว
หลังจากที่ณัฐนิชาให้ลูกๆของเธอทานอาหารเช้ากันเรียบร้อยแล้วก็ปล่อยให้เด็กๆเล่นกันอยู่ครู่หนึ่ง ส่วนเธอก็มาเตรียมน้ำอาบให้กับลูกๆกะละมังอาบน้ำสีชมพูกับสีฟ้าวางตรงหน้าของหญิงสาวได้ถูกใส่น้ำไว้ประมาณครึ่งกะละมัง
“มาอาบน้ำกันก่อนเร็วค่ะเด็กๆ”
ณัฐนิชาใช้มือวางลงไปที่น้ำตรวจดูว่าได้อุณภูมิที่เหมาะสมแล้วจึงเรียกเจ้าสองแสบที่เล่นกันอยู่ในห้องนั่งเล่นมาที่ห้องน้ำเพื่ออาบน้ำในตอนเช้า
“เย่!!../เล่นน้ำ”
เจ้าก้อนกลมทั้งสองที่ได้ยินเสียงคนเป็นแม่เรียกให้มาอาบน้ำก็แข่งกันวิ่งตัวป้อมมาหาคนเป็นแม่เพราะชอบการเล่นน้ำเป็นชีวิตจิตใจพูดได้ว่าให้อยู่กับน้ำทั้งวันยังได้
“ยกแขนขึ้นค่ะ”
คนเป็นแม่ถอดเสื้อผ้าให้ลูกทั้งสองของเธออย่างรวดเร็วเพราะเจ้าสองแสบมายืนเรียงคิวให้ถอดเสื้อผ้าอย่างรู้งานเมื่อคนเป็นพี่สาวอย่างใยไหมถอดเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ลงไปนั่งในกะละมังใหญ่สีชมพูของตัวเองทันทีเด็กหญิงนั่งแล้วขยับไม่ได้มากนักเพราะตัวของเธอแทบจะเต็มกะละมังแต่ก็ยังชอบที่จะนั่งในนี้อยู่เพราะเล่นน้ำได้สะดวก
ใบหม่อนคนเป็นน้องชายก็เช่นกันเมื่อถอดเสื้อผ้าเสร็จก็กระโดดลงกะละมังจนน้ำกระจายเต็มพื้นห้องน้ำไปหมดรวมถึงกระเด็นมาเปียกคนเป็นแม่ด้วยเป็นแบบนี้ปกติเป็นประจำทุกวัน
“อ๊าย...คิๆๆ”
ใยไหมผู้เป็นพี่พอเห็นน้องชายลงกะละมังเล่นน้ำก็ใช้มือตวัดน้ำใส่เจ้าตัวกลมข้างๆหน้าระรื่นแสดงถึงความอารมณ์ดี
“...คุณแม่คร้าบ...”
ใบหม่อนน้องชายที่ดูจะเรียบร้อยกว่าพี่สาวนิดหน่อยเมื่อโดนแกล้งก็จะไม่โต้ตอบแต่หันหน้ามาทำตาละห้อยฟ้องคนเป็นแม่แทน
“ไม่แกล้งกันนะคะ”ณัฐนิชาอดอมยิ้มในความน่ารักของลูกเธอทั้งสองๆไม่ได้แต่ก็ต้องกลั้นยิ้มไว้ทำเสียงแข็งพร้อมหันไปทางใยไหมลูกสาวจอมแก่นของเธอว่าห้ามแกล้งกันเมื่อคนเป็นแม่สั่งห้ามแกล้งเด็กหญิงก็พักมือลงแต่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ยังคงมีอยู่บนใบหน้าเธอเชื่อฟังคนเป็นแม่ว่าไม่ให้แกล้งน้องแต่เธอก็ยังอมยิ้มอยู่เพราะไม่ได้กลัวอาการทำเป็นดุของคนเป็นแม่เลยสักนิด“หยดนี้ของใบหม่อน...หยดนี้ของใยไหม...ทำยังไงต่อคะ”ณัฐนิชาหยิบฟองน้ำถูตัวของเด็กๆขึ้นมาพร้อมหยดน้ำยาอาบน้ำของเด็กไปที่ฟองน้ำแล้วส่งให้ลูกของเธอทั้งสองเมื่อสองแสบรับไปแล้วหญิงสาวก็ถามถึงว่าขั้นตอนต่อไปกับเจ้าก้อนทั้งสองต้องทำอย่างไรต่อเพื่อฝึกให้ลูกๆของเธอได้ช่วยเหลือตัวเองเป็น“ถูแขน/กับถูขา”“ถูตัวด้วยนะคะ”ทั้งสองแสบตอบคนเป็นแม่ด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้วเฉกเช่นนี้เป็นประจำทุกวันอีกคนตอบถูแขนอีกคนตอบถูขาแล้วเธอเองก็จะเป็นคนบอกว่าให้ถูตัวด้วยเธอสอนให้เด็กๆอาบน้ำขัดตัวเองอย่างนี้มาตั้งแต่ลูกของเธอได้ประมาณขวบครึ่งและลูกๆของเธอก็เชื่อฟังและทำตามได้อย่างดีเป็นที่ปลื้มใจของเธอมาก“นมได้แล้วค่ะ..ขวดนี้ของใครคะ”“หม่อนคร้าบ”“ขวดนี้ของใครเอ่ย”“ไหมค่า”“นอ
“งั้นอีกสามวันเราจะไปที่นั่นกันแกก็เตรียมตัวด้วยล่ะส่วนเด็กๆเดี๋ยวฉันช่วยดูเอง”“แล้วเราไปกันกี่คน”“ก็มีฉันแล้วก็แกกับเด็กๆ...ไปไม่ต้องเยอะฉันว่าเราสองคนไปดูน่าจะโอเคแล้วค่อยกลับมาสั่งงานตามแบบที่อยากได้กับทีมอีกที”ป๋อมแป๋มอยู่คุยกับณัฐนิชาพักใหญ่ทั้งเรื่องงานและเรื่องราวในชีวิตประจำวันสัพเพเหระไปเรื่อยตามประสาเพื่อนเธอก็ต้องกลับเพราะมีธุระที่จะต้องไปติดต่ออีกหลายที่ป๋อมแป๋มเป็นเพื่อนกับณัฐนิชาตั้งแต่เรียนสมัยมหาลัยเธอสองคนเรียนคณะเดียวกันเมื่อเรียนจบก็ยังทำงานที่เดียวกันอีกด้วยเพราะพ่อของป๋อมแป๋มเป็นเจ้าของบริษัทรับออกแบบตกแต่งภายในพอเรียนจบป๋อมแป๋มก็เลยเข้ามาช่วยงานของพ่อเธอที่บริษัทพร้อมทั้งชวนณัฐนิชาไปทำงานด้วยชีวิตตอนนั้นของเธอกำลังไปได้ดีเรียนจบมีงานที่ดีทำแต่เรื่องคืนนั้นเมื่อสามปีก่อนทำให้เธอต้องออกจากงานประจำแต่ยังดีที่ป๋อมแป๋มยังเห็นใจและยื่นมือเข้าช่วยเธอโดยการป้อนงานให้เมื่อนึกถึงอดีตมันแล้วก็ทำให้เธอปวดหัวใจและที่อยู่และมีรอยยิ้มมาได้ทุกวันนี้ก็กำลังใจจากลูกๆของเธอและน้องสาวและเพื่อนที่ดีอย่างป๋อมแป๋มภูเก็ตคฤหาสน์เพตราพิทักษ์18.00 น.“ไงวันนี้ทำไมถึงกลับบ้านได้ฮะตา
ตอนนี้เมฆาเริ่มร้อนๆหนาวๆเพราะดูท่าทีพ่อกับแม่ของเขาคงจะอยากได้หลานจริงๆเวลานี้เขาก็ยังคิดภาพการมีครอบครัวไม่ออกคิดออกอย่างเดียวก็คือให้พ่อกับแม่ของเขานั้นไปขอร้องน้องชายแทนก็แล้วกัน“ทำไมโบ้ยมาให้ผมงั้นล่ะพี่...ผมยังไม่อยากมีเมียนะ”วายุที่กำลังเดินเข้ามาในบ้านเมื่อได้ยินเสียงของพี่ชายเขากำลังหางานให้เขาชายหนุ่มจึงรีบเดินเข้าไปหาทั้งสามที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทานข้าวพร้อมรีบบอกกับทุกคนว่าเขานั้นยังไม่อยากมีเมียและไม่เคยคิดจะหาเหาใส่หัวด้วยทุกวันนี้เขามีความสุขดีอยู่แล้ว“ตาไวท์...จะกลับมาที่นี่ทำไมไม่โทรบอกกันก่อน”มัทนาดีใจจนยิ้มหน้าบานที่วันนี้ครอบครัวของเธอนั้นอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาอย่างไม่ได้นัดหมาย“ก็ผมอยากเซอร์ไพรซ์ทุกคนนี้ครับ...แต่ผมขอบอกก่อนเลยนะครับว่าเรื่องมีลูกมีเมียตอนนี้ผมไม่พร้อม”วายุว่างจากการแข่งรถแล้วเขาก็ขอกลับมาพักที่บ้านเสียหน่อยพร้อมยืนยันกับทุกคนอย่างจริงจังอีกครั้งว่าการมีครอบครัวตอนนี้มันเป็นเรื่องที่เขานั้นไม่พร้อมจริงๆ“ฉันจะรอดูนะว่าแกจะลงเอยกับพริตตี้คนไหน”เมฆาอดหยอกเอิญน้องชายของเขาเรื่องพริตตี้ไม่ได้เพราะเขานั้นเห็นข่าวน้องชายเขากับแม่พริตตี้สาวแทบจะทุกคร
21.00 น.ณัฐนิชาเตรียมตัวเก็บของเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอจึงมานั่งหน้าจอโน้ตบุ๊คเลื่อนดูไอเดียต่างๆก่อนนอนนิดหน่อยจู่ๆก็มีรูปภาพรูปหนึ่งทำที่เธอเห็นแล้วต้องรีบปิดโน๊ตบุ๊คทันทีเพราะไม่มีอารมณ์ที่จะหาไอเดียอะไรต่อหญิงสาวหน้าเจื่อนขึ้นมาเล็กน้อยภาพที่เธอเห็นเมื่อครู่มันเป็นภาพร็อคเก็ตสีเงินที่เหมือนกับของเธออย่างมากมันทำเธอนึกถึงวันที่เธอได้ทำมันหายไปเมื่อสามปีก่อนตอนที่เลี้ยงฉลองกับพวกป๋อมแป๋มเธอก็โดนท้าให้ดื่มน้ำเมาไปเป็นจำนวนมากทั้งที่เธอไม่เคยดื่มมาก่อนเมื่อรู้ว่าตัวเองไม่ไหวก็เลยพยายามที่จะพาตัวเองมาที่ห้องพักที่ลูกค้าเป็นคนจัดห้องไว้ให้ทีมของพวกเธอแต่ในขณะที่เธอกำลังเดินสะเปะสะปะไปมาเพื่อที่จะกลับห้องพักนั้นจู่ๆก็มีผู้ชายมาลากเธอเข้าไปทำมิดีมิร้ายในห้องมืดเธอไม่รู้ว่าเขาเป็นใครหน้าตาของเขาเธอก็จำไม่ได้เพราะวันนั้นเธอเมาจนแทบไม่มีสติและไม่มีแรงแม้แต่จะต่อต้านคนที่กำลังทำร้ายเธอเมื่อเรื่องเลวร้ายจบลงตอนนี้เธอก็รีบคว้าสิ่งที่มันปิดบังร่างกายเธอได้มาคลุมที่ตัวพยายามมองหาคีย์การ์ดห้องของเธอเมื่อเจอแล้วเธอก็ไม่คิดแม้แต่จะมองคนที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงที่ทำร้ายเธอแม้แต่นิดเดียวเธอรีบออกมาจากห้
“เรามานั่งคุยกันตรงนี้ดีกว่าค่ะ”ป๋อมแป๋มเห็นว่าเจอมัทนาก็เป็นการดีจะได้ถือโอกาสนี้คุยเรื่องสเปคของงานที่อยากได้เลยจะดีกว่าคืนนี้จะได้มีเวลาเตรียมตัวก่อนที่จะไปสถานที่จริงด้วย“เห็นคุณเมฆบอกว่าคุณมัทเป็นคนอยากแต่งบ้านคุณมัทอยากได้ประมาณไหนบอกเราไว้ก่อนได้นะคะเผื่อเป็นแนวทาง”เมื่อทั้งสามมานั่งที่โต๊ะหน้าบ้านเรียบร้อยแล้วป๋อมแป๋มจึงเปิดประเด็นคุยเรื่องงานทันทีเพราะเธออยากได้แนวทางก่อนที่เธอจะไปดูงานจะได้ตัดสินใจกับณัฐนิชาในเรื่องการออกแบบให้ถูกใจกับเจ้าของบ้าน“อืมม...อันที่จริงฉันก็อยากให้บ้านหลังนั้นเป็นเรือนหอของตาเมฆเค้าน่ะ...แต่ตาเมฆอยากให้บ้านหลังนั้นเป็นที่พักผ่อนมากกว่า”มัทนาทำสีหน้าครุ่นคิดพร้อมบอกสิ่งที่ต้องการกับสองสาวเธอเองก็ยังนึกภาพไม่ออกเหมือนกันว่าอยากให้มันเป็นแบบไหน“นิว่าทั้งสองอย่างมันสามารถรวมกันได้ค่ะคุณมัท...แล้วคุณมัทพอจะรู้ไหมคะว่าคุณเมฆกับแฟนคุณเมฆเค้าชอบอะไรแบบไหน”ณัฐนิชากำลังจดสิ่งที่มัทนาต้องการอยู่พร้อมถามถึงความชอบของคนที่จะต้องอยู่ว่าพวกเค้านั้นมีรสนิยมประมาณไหนเธอจะได้ออกแบบถูก“คือตาเมฆยังไม่มีแฟนหรอกจะแต่ฉันแค่อยากจะเตรียมไว้เฉยๆ..เอาแบบนี้ฉันให้พวก
“ผู้ชายก็แบบนี้แหละค่ะคงจะรักชีวิตโสดมันอิสระดี”ป๋อมแป๋มเข้าใจว่าชีวิตคนสมัยนี้หากทำแต่งานและยิ่งเป็นเจ้าของธุรกิจแล้วล่ะก็เรื่องพวกนี้ไม่ต้องพูดถึงเลยเพราะเธอเองก็ยังรักชีวิตโสดเลย“พูดแบบนี้แสดงว่าหนูแป๋มก็โสดเหมือนกันใช่ไหม”มัทนาอมยิ้มมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตามีเลศนัยเธอพอจะดูออกว่าคนที่มีความคิดแบบนี้น่าจะยังโสดเหมือนๆลูกชายเธอแน่“ค่ะแป๋มว่ามันอิสระดีนะคะ...ขอโสดยาวๆเลย”ป๋อมแป๋มเองก็ตอบหญิงตรงหน้าไปตามตรงเพราะเธอนั้นก็ยังรู้สึกว่าชีวิตโสดของเธอตอนนี้มันก็มีความสุขดีและเธอก็ยังนึกไม่ออกด้วยว่าถ้าหากเธอนั้นมีครอบครัวแล้วเธอจะมีชีวิตเป็นแบบไหน“นมได้แล้วค่ะเด็กๆ”ณัฐนิชาถือขวดนมขวดใหญ่สองขวดมาตั้งที่โต๊ะพร้อมนั่งลงที่เก้าอี้ก่อนส่งนมให้กับลูกๆของเธอใยไหมเมื่อได้รับขวดนมก็ปีนขึ้นมานอนตักของคนเป็นแม่ทันทีโดยที่คนเป็นแม่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวเป็นแบบนี้แทบทุกครั้งไป“มาใบหม่อนมานอนตักยายก็ได้”มัทนาเห็นว่าหญิงสาวคงอุ้มลูกทีเดียวสองคนไม่ไหวแน่จึงอุ้มใบหม่อนมานอนบนตักอย่างเอ็นดู“เอ่อ..คุณมัทจะเมื่อยเอานะคะ”ณัฐนิชาเห็นว่ามัทนาจะเมื่อเอาเพราะใบหม่อนตัวก็ไม่ได้เบาไปกว่าใยไหมเลย“ไม่เป็นไร
“ได้ฟังแล้วก็ใจหาย..”มัทนาได้ฟังชีวิตของหญิงสาวเธอก็อดสงสารไม่ได้เสียทั้งพ่อและแม่ไปแล้วดันไม่มีสามีช่วยเลี้ยงลูกอีกเธออยากจะรู้จริงๆว่าสามีของเธอทิ้งภรรยาที่สวยน่ารักจิ้มลิ้มกับลูกตาดำๆนี้ได้อย่างไร“ว่ายังไงดื่มนมก็ต้องเขี่ยขนตาด้วยหรือไงรูปหล่อฮะ...”มัทนาเปลี่ยนจากคุยเรื่องที่มันดูเศร้าๆมาสนใจเจ้าก้อนกลมที่อยู่ในอ้อมแขนแทนเพราะเธอสังเกตมาครู่หนึ่งแล้วว่าใบหม่อนนั้นดื่มนมแล้วจะต้องเขี่ยขนตาตลอดเวลาดูน่าเอ็นดูจนเธออยากจะฟัดสักหลายๆรอบ“ท่าประจำเวลาเค้าดื่มนมเลยล่ะค่ะคุณมัท”ป๋อมแป๋มอดขำกับท่าทางหลานชายเธอไม่ได้ก่อนจะบอกหญิงตรงหน้าว่านี่คือท่าประจำของเจ้าตัวเค้าเลยเกาะเพตรา18.00 น.“คุณเมฆจะไปไหนคะ”ดาวเรืองแม่บ้านที่ดูแลที่นี่กำลังจัดการอาหารเย็นให้กับเมฆาแต่พอเห็นชายหนุ่มแบกเป้พร้อมเดินออกไปอย่างเร่งรีบเธอจำต้องถามว่าเขาจะไปที่ไหนเพราะชายหนุ่มไม่ได้บอกเธอก่อน“ผมจะไปท้ายเกาะสักคืนครับป้าดาวพรุ่งนี้ถ้าพวกเวมาแล้วก็ให้พวกเค้าจัดการกันตามสบายเลยนะครับผมน่าจะกลับไม่เย็นๆก็ค่ำๆวันพรุ่งนี้”“ค่ะคุณเมฆ”หลังจากที่คุยกับดาวเรืองเรียบร้อยแล้วเมฆาก็รีบเดินออกไปจากบ้านเอาเป้วางบนรถออฟโรดขอ
“ไหวไหมแก”คราแรกณัฐนิชาเองก็เป็นห่วงลูกๆของเธอว่าขึ้นเรือแล้วอาจจะมีอาการเมาเรือแต่เปล่าเลยลูกๆของเธอยังอยู่บนเรือได้แบบสบายๆแต่ป๋อมแป๋มนี่สิหน้าซีดหน้าเซียวอย่างเห็นได้ชัดจนเธอต้องคว้ายาดมในกระเป๋าออกมาให้เพื่อนเธอดมกันเจ้าละหวั่นเรือแล่นมาประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงเกาะเพตราเมื่อเรือจอดเทียบท่าณัฐนิชาก็ต้องพาป๋อมแป๋มขึ้นจากเรือมาอย่างทุลักทุเลและจำต้องวานให้ธาดาอุ้มเจ้าสองแสบให้เพราะยังต้องดูแลป๋อมแป๋มไม่ห่าง“นั่งก่อนแก..ไหวไหมเนี่ย”ณัฐนิชาพยุงตัวป๋อมแป๋มเดินเข้ามาใน้บ้านก่อนจะค่อยๆวางเพื่อนสาวนั่งที่โซฟาในห้องห้องโถงของบ้านหลังใหญ่หลังนี้ทั้งมีสีหน้ากังวลกับอาการของป๋อมแป๋มพอสมควร“ขอบคุณนะคะคุณเว”ณัฐนิชาหันไปขอบคุณธาดาขณะที่เขาพาเจ้าแฝดมานั่งลงใกล้ๆเธอ“ครับ...งั้นเดี๋ยวผมไปเอาของลงก่อนนะครับ...”ว่าจบก็รีบหันหลังเดินออกไปที่ท่าเรือเพราะยังต้องขนของอีกเยอะพอสมควร“สวัสดีค่ะ...ฉันชื่อดาวเรืองเป็นแม่บ้านที่นี่ค่ะเรียกว่าป้าดาวก็ได้”ดาวเรืองเดินออกมาเสริฟน้ำให้กับหญิงสาวทั้งสองที่เป็นแขกของบ้าน“สวัสดีค่ะ/สวัสดีค่ะ..นี่ป๋อมแป๋มค่ะส่วนหนูชื่อนิชาแล้วนี่ก็ลูกแฝดของหนูค่ะชื่อใยไหมกับใ
คฤหาสน์เพตราพิทักษ์ณัฐนิชาตื่นแต่เช้าเพราะวันนี้ถึงจะเป็นวันปิดเทอมของลูกๆเธอแต่เด็กๆก็มีเรียนพิเศษที่ทั้งสองอยากจะเรียนโดยใยไหมนั้นชอบที่จะเรียนบัลเล่ต์ส่วนใบหม่อนนั้นชอบดนตรีเป็นพิเศษเลยเลือกที่จะเรียนดนตรีทั้งหญิงสาวและสามีไม่เคยที่จะบังคับลูกๆของเธอว่าให้เรียนอะไรแต่จะให้เรียนสิ่งที่ลูกๆของเธอเลือกเองและพร้อมสนับสนุนเท่านั้น“คุณเมฆคะเดี๋ยวนิส่งใยไหมกับใบหม่อนเรียบร้อยแล้วจะเข้าไปซื้อของต่อกับคุณแม่ฝากดูแม็คกับมาร์คด้วยนะคะวันนี้นิน่าจะรอรับเด็กๆกลับด้วยเลย...จุ้บ..นิจะรีบไปรีบมานะคะ”วันนี้ณัฐนิชาต้องไปส่งเจ้าสองแฝดวัยห้าขวบกว่าแต่เช้าเพราะวันนี้เธอจะต้องไปเลือกซื้อของเข้าบ้านกับมัทนาต่อตามประสามแม่สามีกับลูกสะใภ้หญิงสาวเห็นว่าวันนี้เป็นวันหยุดของสามีเธอเลยวานให้สามีเธอดูแลลูกๆอีกสองคนเสียเลยก่อนจะก้มลงมาจูบแก้มของเมฆาที่นอนหลับอุตุอยู่บนที่นอนที่ตอนนี้สามีของเธอยังไม่อยากตื่นก็เพราะเมื่อวานมีประชุมที่บริษัทและกลับบ้านมาจนดึก“คร้าบ...”เมฆาตอบรับปากคนเป็นภรรยาทั้งที่ตาก็ยังจะลืมไม่ขึ้นวันนี้เขาต้องรับหน้าที่ดูแลลูกชายวัยสองขวบกับสี่เดือนเองแล้วล่ะสิแต่พ่อลูกอ่อนที่ผ่านการเลี้ยง
สองเดือนต่อมางานแต่งของเมฆาและณัฐนิชาจัดขึ้นที่เกาะอย่างเรียบง่ายแต่หรูหราให้สมเกียรติถึงแขกในงานจะไม่ได้เยอะมากแต่ก็เป็นคนสำคัญทั้งนั้นและงานแต่งงานครั้งนี้ก็จะเป็นการเปิดเจ้าสองแสบว่าเป็นทายาทคนสำคัญในตระกูลอีกด้วย“ยินดีด้วยนะแกวันนี้แกสวยสุดๆไปเลย”ป๋อมแป๋มเดินเข้างานมาสวมกอดณัฐนิชาด้วยความยินดีด้วยจากใจที่เห็นเพื่อนมีครอบครัวอย่างสมบูรณ์เสียทีวันนี้ณัฐนิชาดูสวยแปลกตาไปมากจนเธอนั้นอดชมไม่ได้เลยจริงๆ“จ้า...เอ...แล้วนี่ทำไมถึงควงมากับคุณเวได้ล่ะ”ณัฐนิชาสังเกตเห็นว่าป๋อมแป๋มนั้นเดินจับมือมากับธาดาจึงต้องถามแกมหยอกเล็กน้อยว่าตกลงสองคนเป็นอะไรกันแน่“อืมม...ก็ตั้งแต่คืนนั้น”ป๋อมแป๋มตอบเพื่อนสาวเธอด้วยท่าทีเขินอายแม้คำพูดจะดูน้อยแต่เมื่อมองตากันก็รู้ใจว่ากำลังคิดอะไรอยู่“หา...จริงดิ...ต้องขอบคุณคุณเวนะที่ดึงแกลงมาจากคานได้เสียที”ณัฐนิชาถึงกับยกมือปิดปากไม่คิดว่าการขอร้องให้ธาดาอยู่เป็นเพื่อนเพื่อนของเธอคืนนั้นจะทำให้ป๋อมแป๋มที่หวงคานนักหนายอมลงจากคานได้“ยินดีด้วยนะคะคุณเมฆ”ป๋อมแป๋มเห็นเมฆาเดินมากับใครอีกคนที่เธอก็พอจะรู้จักอยู่บ้างตามข่าวพร้อมทั้งกล่าวยินดีกับชายหนุ่มด้วยรอยยิ้ม
“ฮึก...คุณเว”คำพูดจี้ใจหญิงสาวที่ออกจากปากธาดาทำให้เธอโผเข้ากอดเขาปล่อยโฮอย่างที่ชายหนุ่มไม่ทันตั้งตัวน้อยคนนักที่จะพูดกับเธอและห่วงใยความรู้สึกของเธอแบบนี้ปกติแล้วคนอย่างเธอจะร้องให้กับณัฐนิชาเพียงคนเดียวเท่านั้นแต่ตอนนี้ชายหนุ่มทำให้เธอรู้สึกว่าเธอสบายใจที่จะทำตามเสียงหัวใจตัวเองในเวลาที่อยู่กับเขาเมื่อตอนที่ใช้ชีวิตอยู่บนเกาะก็มีธาดานี่แหละที่เป็นเพื่อนคุยทั้งยังให้คำปรึกษาเรื่องงานกับเธอตลอดจนหญิงสาวค่อนข้างแปลกใจว่าชายหนุ่มนั้นดูจะเก่งเกินบอดี้การ์ดธรรมดาไปเสียมากทั้งเชิงวิชาการและการต่อสู้หรือทักษะอื่นๆไม่ได้น้อยหน้าใครเลยธาดาคงจะเป็นผู้ชายคนที่สองละมั้งที่เธอไว้ใจกับเขาที่จะพูดคุยรองจากคนเป็นพ่อของเธอธาดาไม่ได้พูดอะไรยังคงกอดปลอบเธอกลับและรอให้หญิงสาวปล่อยโฮออกมาให้เต็มที่ไม่นานเธอก็หยุดร้องให้ลงเขาจึงทิ้งรถของเขาไว้ที่นี่และกลับไปส่งเธอที่บ้านบ้านธีธารา“เวโทรมามีอะไรหรือเปล่า”เมฆาเห็นหญิงสาวคุยกับธาดาด้วยสีหน้าเคร่งเครียดอยู่นานสองนานจนเขาต้องกลายเป็นคนเสียมารยาทถามหญิงสาวเรื่องที่คุยโทรศัพท์ด้วยความสงสัย“คือพอดีมีปัญหานิดหน่อยค่ะ...”ณัฐนิชาเล่าสถานการณ์ทั้งหมดให้กับชา
“ฉันว่าเวอาจจะอยากใช้ชีวิตแบบนี้อีกสักพักก็ได้...เรื่องแผลใจฉันว่าคงหายดีแล้วหละ”เมฆาเห็นว่าเรื่องแผลใจของธาดานั้นน่าจะหายไปนานแล้วเขาเห็นว่าธาดาอาจจะมีความสุขกับการอยู่แบบนี้มากกว่าส่วนเรื่องอยากจะกลับไปทำงานของตัวเองเมื่อไรเขาเองก็ไปบังคับธาดาไม่ได้เพราะไม่ได้อยากบังคับใจใคร“นี่ภรรยาฉันนิชา”เมฆาถือโอกาสแนะนำหญิงสาวให้ธาวินได้รู้จักตอนที่เธอเดินออกมาพอดี“นิครับนี่ธาวินพี่ชายของเว”“ผมวินยินดีที่ได้รู้จักครับคุณนิชา”“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ...ตามสบายเลยนะคะเดี๋ยวนิขอตัวจัดการงานบ้านก่อน”ตอนนี้ณัฐนิชาอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนที่เป็นแม่บ้านเต็มตัวเมื่อทักทายกับชายหนุ่มเรียบร้อยแล้วเธอเองก็ไม่ได้อยากกวนเวลาของผู้ชายที่เขาจะคุยกันเลยขอปลีกตัวออกไปทำงานบ้านของเธอต่อ“นายหาแม่บ้านสักคนก็ดีนะคุณนิเป็นถึงภรรยานักธุรกิจยังทำงานบ้านเองอีกหรือไง”ธาวินแอบตะขิดตะขวงในใจอยู่เล็กๆที่หญิงสาวเป็นภรรยาของเพื่อนเขาที่เป็นถึงระดับนักธุรกิจใหญ่โตที่ดูแลกิจการหลายอย่างต้องมาทำงานบ้านเอง“เมียฉันเค้าไม่อยากได้เองไม่ใช่ฉันไม่เคยเสนอ...ฉันไม่อยากขัด...เออแล้วอีกสามเดือนฉันจะแต่งงานไปงานฉันด้วยล่ะ”เมฆา
ครู่ต่อมาหลังจากที่ทานอาหารอิ่มแล้วเจ้าแฝดตัวกลมทั้งสองก็ไปเล่นกันต่อโดยคนเป็นย่าปล่อยให้เล่นเพื่อย่อยอาหารเพราะอีกสักพักเธอก็จะพาหลานๆอาบน้ำทานนมนอนกลางวันแล้วตอนนี้บนโต๊ะอาหารก็เหลือแต่คนโตที่นั่งอยู่ด้วยกันพลางพูดคุยกันตามประสาครอบครัว“ผมว่าจะจัดงานแต่งงานให้เร็วที่สุดดีไหมครับคุณแม่”“ก็ดีจะตระกูลเราคนค่อนข้างนับหน้าถือตาดีเลยถือเป็นการเปิดตัวทายาทของลูกในวันนั้นเลย”“พ่อก็เห็นด้วยนะอะไรๆมันจะได้อยู่ถูกที่ถูกทางเสียที”“ครับ”เมฆาคิดว่าในตอนนี้เรื่องราวมันก็เป็นไปในทิศทางที่ดีแล้วตอนนี้เขาก็อยากจะจัดงานแต่งประกาศให้ทุกคนได้รู้ว่าเขานั้นมีลูกมีครอบครัวแล้วและถือเป็นการให้เกียรติหญิงสาวกับลูกๆด้วยทั้งมัทนาและธำมรงค์ก็เห็นดีเห็นงามด้วยว่าควรจะจัดงานแต่งมาให้เร็วที่สุดเพราะไม่อย่างนั้นคนที่เสียหายก็จะเป็นณัฐนิชาเพราะพวกเขารู้ว่าหากเมฆาใช้ชีวิตอยู่กับหญิงสาวไปเรื่อยๆแบบนี้คงไม่วายเป็นข่าวเสียๆหายๆเป็นแน่“พี่นิทานน้อยจังเลยค่ะ...ไม่สบายหรือเปล่าคะเหมือนหวานสังเกตเห็นพี่นิเพลียๆตั้งแต่เข้ามาแล้วเมื่อคืนทำงานดึกเหรอคะ”ตอนนี้ทุกคนก็ท่าทางจะอิ่มกันหมดแล้วรินทร์ธารามองไปยังจานข้าวของพี่ส
30 นาทีต่อมา“เด็กๆ”“คุณพ่อขา/คุณแม่คร้าบบ”เมฆาเดินเข้าบ้านพักพ่อกับแม่ของเขาพร้อมกับณัฐนิชาเมื่อเห็นพ่อกับแม่ของเขานั่งเล่นอยู่กับเจ้าสองแสบที่สนามหญ้าหน้าบ้านก็รีบเดินเข้าไปหาทันทีเจ้าสองแสบเมื่อเห็นคนเป็นพ่อกับแม่มาหาก็รีบสิ่งเข้าไปโผกอดเป็นภาพสี่คนพ่อแม่ลูกที่ดูอบอุ่นต่อสายตาคนที่เห็นอย่างมาก“หายดีแล้วเหรอตาเมฆ”“ครับเมื่อเช้าพึ่งไปตัดไหมมาแล้วก็แวะมาที่นี่เลยครับคิดถึงเจ้าสองแสบแย่แล้ว”มัทนาถามไถ่อาการของลูกชายเธอด้วยรอยยิ้มเพราะตอนนี้หน้าตาของลูกชายเธอสดใสขึ้นมากคงเป็นเพราะมีคนดูแลดีอย่างที่สามีเธอบอกจริงๆนั่นแหละ“โอย..โอ้ยย..มัน.ร้อนน..นะคุณ”วายุแทบคายข้าวต้มออกจากปากเพราะรินทร์ธาราเล่นไม่ยอมเป่าให้มันเย็นก่อนที่จะป้อนเข้าปากของเขา“ก็ฉันบอกให้คุณทานเองก็ไม่อยากจะทานมืออีกข้างก็ยังใช้การได้อยู่นี่นา”รินทร์ธารานั่งหน้าเซ็งชายหนุ่มตื่นสายยังไม่พอยังชอบบังคับให้เธอป้อนข้าวอยู่ทุกวันอีกทั้งที่มืออีกข้างก็ใช้ได้“นั่นเสียงเอะอะอะไรกันเหรอคะคุณมัท”ณัฐนิชาที่กำลังกอดหอมเล่นกับลูกเธออยู่ที่หน้าบ้านจู่ๆก็ได้ยินเสียงโวยวายจากในบ้านออกมาเธอพอจะจำได้ว่าเสียงนั่นน่าจะมีเสียงของน้อง
“อือ...อื้มม...”คนตัวโตก้มลงใช้จมูกสูดดมซอกซอนมาจนถึงพวงแก้มแล้วใช้ริมฝีปากหนาบดจูบริมฝีปากบางอวบอิ่มของเธออย่างดูดดื่มโหยหาส่งลิ้นร้ายเข้าไปตักตวงความหวานจากปากหญิงสาวอย่างไม่มีท่าทีที่จะอิ่มและพอใจกับมันเขายังคงบดจูบเร่าร้อนมากขึ้นเรื่อยๆจนสร้างอารมณ์วาบหวามให้หญิงสาวที่นอนอยู่ใต้ร่างได้ดีพอสมควรมือไม้เรียวของหญิงสาวหาที่เกาะยึดปัดป่ายไม่อยู่สุขจนมาจบอยู่ที่ลำแขนแกร่งเล็บบางจิกลงระบายอารมณ์จนกล้ามแขนแกร่งเป็นรอยบีบข่วนแทบเลือดซิบตอนนี้ทั้งสองเหลือแต่ร่างกายที่เปลือยเปล่าแนบชิดติดกันเพราะเมฆาพึ่งจะสลัดผ้าออกจากตัวเขาเมื่อครู่มือไม้ที่บีบคลึงอยู่ที่สองเต้างามพอดีมือก็สลับกับปากหนาดูดคลึงบีบเล่นไปมาเพื่อเรียกอารมณ์รักให้หญิงสาวนั้นมีความสุขเพลิดเพลินกับบทรักที่เขามอบให้มือเล็กเปลี่ยนที่ยึดเกาะจากลำแขนแกร่งของชายหนุ่มเป็นหมอนนุ่มของเธอบ้างหรือปัดป่ายมาจิกที่ไหล่กว้างของเขาบ้างเพราะอารมณ์วาบหวามเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนเริ่มไม่เป็นตัวของตัวเองชายหนุ่มไม่รอช้าเมื่อตัวตนของเขามันพร้อมแล้วก็ค่อยๆแทรกตัวเข้าไปที่ลำขาเรียวเล็กของหญิงสาวค่อยๆแทรกลำขาแกร่งเข้าไปจนตัวตนของทั้งสองแนบชิดติดกันจนหญ
“คือคุณไม่ได้เป็นภาระนิสักนิดเลยนะคะ...คุณอย่าไปเลยนะคะอยู่ที่นี่ช่วยนิดูแลลูกๆได้ไหมคะอยู่กันเป็นครอบครัวอย่างที่คุณเคยขอนิไงคะ...”ณัฐนิชานิ่งงันหลังจากที่ชายหนุ่มพูดจบประโยคเล็กน้อยตอนนี้เธอมีน้ำตาคลอออกมาก่อนจะเข้าไปสวมกอดที่ด้านหลังของชายหนุ่มพร้อมขอร้องให้เขาอยู่กับเธออย่างไม่สนศักดิ์ศรีอะไรทั้งนั้น“คุณนิไม่ลำบากใจแน่นะครับ”“ค่ะ”เมฆายังคงไม่หันหน้าไปหาหญิงสาวเขายังปล่อยให้เธอกอดเขาเอาไว้แบบนั้นก่อนจะถามหญิงสาวให้แน่ใจอีกทีว่าเธอนั้นคิดไม่ผิด“งั้นผมขอถามได้ไหมว่าทำไมเวลาที่ผ่านมาคุณถึงพยายามออกไปจากชีวิตผม”เมฆายังคงตั้งคำถามให้หญิงสาวได้ตอบเขาอยู่ไม่เลิกเมื่อมีโอกาสเคลียใจเขาก็อยากจะเคลียทันทั้งหมดกับเรื่องที่ยังค้างคาใจอยู่“นิแค่ยังกลัวกับเหตุการณ์ในวันนั้นแต่นิพยายามสลัดมันออกไปได้แล้วนะคะอีกอย่างก็คือนิรู้ว่าคุณเมฆไม่อยากมีครอบครัวหากนิกับลูกๆเข้ามาในชีวิตคุณในช่วงเวลาที่คุณเมฆไม่อยากมีพันธะนิคิดว่ามันคงทำให้ครอบครัวมีความสุขไม่ได้หรอกค่ะ...แต่ตอนนี้นิไม่สนอะไรแล้วค่ะจากเหตุการณ์ที่คุณเมฆเจ็บนิรู้ว่าควรใช้ชีวิตตามเสียงหัวใจโดยไม่มีทิฐิจะดีกว่า...เพราะเราไม่สามารถรู้ได้ว่
“โห...สายเปย์งั้นดิ..ฉันขอเข้าทำงานเลยค่ะคุณเจ้านาย”รินทร์ธาราไม่ปฏิเสธที่จะรับข้อเสนอของชายหนุ่มเพราะเรื่องดูแลคนที่ป่วยอยู่เธอก็ถนัดอยู่แล้วอีกอย่างหากเธอเป็นผู้จัดการให้เขาก็จะได้ช่วยคัดคนที่จะมาเข้าทีมของเขาอีกด้วยเพราะเธอไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับชายหนุ่มอีกหนึ่งวันมาแล้วที่เมฆารู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาเมื่อชายหนุ่มรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาวินาทีนั้นมันเหมือนยกภูเขาออกจากอกของณัฐนิชาเธอยิ้มกว้างต้อนรับเขาอย่างดีใจและหลังจากที่เขาตื่นเธอก็คอยดูแลถามไถ่อาการของเขาอยู่ไม่ห่างคอยอยู่ให้เขานั้นเห็นหน้าเธอตลอดเวลา“ทานยาก่อนนะคะ”หลังจากที่ชายหนุ่มทานข้าวต้มและผลไม้ที่พยาบาลนำมาให้เรียบร้อยแล้วหญิงสาวก็จัดการป้อนยาตามทันทีเธอดูแลเขาอย่างไม่ขาดตกบกพร่องเพราะอยากจะเห็นคนตรงหน้ากลับมาแข็งแรงโดยเร็ววัน“ขอบคุณครับ”“ถ้าปวดหัวหรือจะเข้าห้องน้ำเรียกนิได้ตลอดเลยนะคะ”“ครับ”“คุณเมฆอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมคะเดี๋ยวนิจะหามาให้คุณหมอบอกว่าตอนนี้คุณเมฆทานได้แทบทุกอย่างแล้วแต่นิว่าถ้าเป็นของหวานควรจะงดไว้ก่อนเพราะแผลยังไม่หายดีค่ะ”“ผมทานอะไรก็ได้ครับ”“ค่ะ”คำถามและท่าทีที่แสดงถึงความเป็นห่วงเป็นใย