“ไหวไหมแก”
คราแรกณัฐนิชาเองก็เป็นห่วงลูกๆของเธอว่าขึ้นเรือแล้วอาจจะมีอาการเมาเรือแต่เปล่าเลยลูกๆของเธอยังอยู่บนเรือได้แบบสบายๆแต่ป๋อมแป๋มนี่สิหน้าซีดหน้าเซียวอย่างเห็นได้ชัดจนเธอต้องคว้ายาดมในกระเป๋าออกมาให้เพื่อนเธอดมกันเจ้าละหวั่น
เรือแล่นมาประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงเกาะเพตราเมื่อเรือจอดเทียบท่าณัฐนิชาก็ต้องพาป๋อมแป๋มขึ้นจากเรือมาอย่างทุลักทุเลและจำต้องวานให้ธาดาอุ้มเจ้าสองแสบให้เพราะยังต้องดูแลป๋อมแป๋มไม่ห่าง
“นั่งก่อนแก..ไหวไหมเนี่ย”
ณัฐนิชาพยุงตัวป๋อมแป๋มเดินเข้ามาใน้บ้านก่อนจะค่อยๆวางเพื่อนสาวนั่งที่โซฟาในห้องห้องโถงของบ้านหลังใหญ่หลังนี้ทั้งมีสีหน้ากังวลกับอาการของป๋อมแป๋มพอสมควร
“ขอบคุณนะคะคุณเว”
ณัฐนิชาหันไปขอบคุณธาดาขณะที่เขาพาเจ้าแฝดมานั่งลงใกล้ๆเธอ
“ครับ...งั้นเดี๋ยวผมไปเอาของลงก่อนนะครับ...”
ว่าจบก็รีบหันหลังเดินออกไปที่ท่าเรือเพราะยังต้องขนของอีกเยอะพอสมควร
“สวัสดีค่ะ...ฉันชื่อดาวเรืองเป็นแม่บ้านที่นี่ค่ะเรียกว่าป้าดาวก็ได้”
ดาวเรืองเดินออกมาเสริฟน้ำให้กับหญิงสาวทั้งสองที่เป็นแขกของบ้าน
“สวัสดีค่ะ/สวัสดีค่ะ..นี่ป๋อมแป๋มค่ะส่วนหนูชื่อนิชาแล้วนี่ก็ลูกแฝดของหนูค่ะชื่อใยไหมกับใบหม่อน”
ป๋อมแป๋มกล่าวสวัสดีหญิงตรงหน้าด้วยท่าทีอ่อนเพลียณัฐนิชาเองก็รีบแนะนำตัวทุกคนให้หญิงตรงหน้ารู้จักอย่างรวดเร็วและหันมาดูแลเพื่อนเธอต่อ
“สวัสดีคร้าบ/สวัสดีค่ะ”
“เด็กๆน่ารักจังเลยนะคะ...แล้วเธอเป็นอะไรคะ”
ดาวเรืองฉีกยิ้มกว้างให้เจ้าก้อนทั้งสองที่มารยาทงามเหลือเกินสวัสดีผู้ใหญ่โดยไม่ต้องมีคนบอกพร้อมหันไปถามอาการของป๋อมแป๋มกับณัฐนิชาว่าทำไมหญิงสาวจึงมีอาการเป็นแบบนั้น
“เมาเรือน่ะค่ะ...”
“งั้นเดี๋ยวป้าไปหาน้ำส้มมาให้ดื่มนะคะ”
“ขอบคุณค่ะ”
ดาวเรืองได้ยินเช่นนั้นก็รีบเข้าไปในครัวหยิบน้ำส้มที่คั้นสดเมื่อเช้าในตู้เย็นนำมาให้ป๋อมแป๋มได้ดื่มเผื่อจะสดชื่นขึ้นบ้าง
“น้ำส้มค่ะ”
“ขอบคุณมากๆเลยนะคะป้าดาว”
ดาวเรืองเดินถือแก้วน้ำส้มคั้นมาให้ป๋อมแป๋มเมื่อแก้วน้ำส้มวางบนโต๊ะป๋อมแป๋มก็รีบหยิบขึ้นมาดื่มทันทีเมื่อดื่มไปครึ่งแก้วน้ำส้มคั้นสดที่มีรสอมเปรี้ยวนิดๆมันทำให้เธอนั้นรู้สึกดีมากขึ้นจริงๆ ณัฐนิชาอุ่นใจอย่างมากที่คนในบ้านนี้ต้อนรับพวกเธอเป็นอย่างดีอีกทั้งยังเอ็นดูพวกลูกๆของเธออีกด้วย
“พอดีคุณเมฆเค้าไปที่ท้ายเกาะน่ะค่ะเย็นๆคงจะกลับคุณเมฆบอกป้าเอาไว้ว่าเมื่อคุณๆมาถึงก็ให้พักกันตามสบายหรือถ้าอยากจะเดินดูรอบๆบ้านก็บอกป้าได้เลยค่ะ...ส่วนห้องของคุณทั้งสองป้าจัดไว้ให้เรียบร้อยแล้วค่ะแล้วถ้าเกิดว่าคุณทั้งสองจะทำงานก็เอาเด็กๆมาฝากป้าไว้ได้เลยนะคะ..เดี๋ยวป้าขอตัวไปเตรียมอาหารเที่ยงก่อนนะคะ”
“ขอบคุณค่ะ”
ดาวเรืองเห็นว่านี่ก็ใกล้ที่จะเที่ยงแล้วเมื่อดูแลความเรียบร้อยตรงนี้เสร็จแล้วเธอเองก็ต้องขอตัวไปในครัวทำอาหารกลางวัน
“เฮ้อ...สดชื่นขึ้นมาหน่อย”
ป๋อมแป๋มได้น้ำส้มแก้วนั้นช่วยชีวิตก็พอที่จะลุกเดินปรับสายตามองรอบๆได้ดีขึ้นหน่อย
“กระเป๋าของพวกคุณผมเอาไปเก็บไว้ในห้องให้แล้วนะครับ...ห้องคุณป๋อมแป๋มอยู่ทางซ้ายส่วนห้องคุณนิชาอยู่ตรงข้ามกันห้องนั้นจะใหญ่เหมาะกับการที่มีเด็กอยู่ด้วย..ส่วนข้างห้องคุณป๋อมแป๋มฝั่งขวาจะเป็นห้องของผมครับ...ที่นี่พึ่งสร้างเสร็จประมาณห้าเดือนถ้าติดขัดอะไรตรงไหนเรียกผมได้ตลอดเหมือนเดิมเลยนะครับ”
ธาดาที่เอากระเป๋าของหญิงสาวทั้งสองไปเก็บไว้ในห้องเรียบร้อยแล้วจึงเดินอกมาบอกว่าห้องของทั้งสองนั้นอยู่ด้านไหนที่ต้องให้ณัฐนิชานอนห้องฝั่งตรงข้ามกับเขาและป๋อมแป๋มก็เพราะว่าห้องอีกฝั่งค่อนข้างใหญ่กว่าและเหมาะกับการที่จะมีเด็กๆทั้งสองอยู่ด้วยอีกห้องที่ติดกับห้องของณัฐนิชาก็คือห้องของม่านเมฆเจ้านายของเขาที่นอนอยู่เป็นประจำเพราะขี้เกียจขึ้นไปนอนห้องด้านบนที่ยังไม่ค่อยเรียบร้อยดี
“ค่ะ...เอ่อ..เกาะนี้สัมปทานมานานแล้วแต่พึ่งจะสร้างบ้านเองเหรอคะ”
ณัฐนิชาสงสัยพอประมาณเธอรู้ว่าเกาะนี้ค่อนข้างสัมปทานไว้นานแล้วแต่ทำไมพึ่งจะสร้างบ้านหลังนี้ขึ้นมาเธอคิดว่าบ้านหลังนี้สร้างเอาไว้นานแล้วและพึ่งอยากจะตกแต่งเสียอีกแล้วตอนที่ทุกคนในบ้านนี้ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่พวกเค้าอยู่ที่ไหนกัน
“บ้านหลังนี้พึ่งจะสร้างครับแต่เมื่อก่อนที่คุณเมฆมาอยู่จะมีบ้านที่ท้ายเกาะหลังเล็กอีกหลังครับส่วนหลังนี้เป็นความต้องการของคุณมัทที่ต้องการสร้างเพื่อให้เป็นของคุณเมฆครับ”
“อ๋อ...ค่ะ”
ณัฐนิชาพยักหน้าเบาๆ
“อืม...แป๋มว่าเรียกว่าบ้านมันคงจะไม่ได้ล่ะมั้งคะใหญ่ขนาดนี้นี่เป็นคฤหาสน์ย่อมๆได้เลยนะคะ...”
ป๋อมแป๋มที่รู้สึกดีขึ้นเธอพยายามมองไปรอบๆเธอเห็นว่าบ้านหลังนี้มันใหญ่เกินคำว่าบ้านตอนที่เธอเห็นในรูปเธอคิดว่ามันจะเล็กกว่านี้เสียอีกเธอกะว่าจะมาที่นี่สามสี่วันงานก็คงจะเสร็จแต่เปล่าเลยเธอว่าคงใช้เวลาอยู่ไม่น้อยรู้แบบนี้เธอพาทีมมาด้วยอีกสองสามคนจะดีกว่า
“พวกคุณจะอยู่ดูงานนานเท่าไรก็ได้นะครับคุณเมฆอนุญาตเพราะคุณเมฆไม่อยากให้พวกคุณรีบร้อนกันเกินไปงานจะได้ออกมาดีส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายไม่อั้นเลยครับ”
ธาดาพอรู้ว่าทั้งสองคงจะต้องใช้เวลาหลายวันในการที่จะออกแบบตกแต่งทุกพื้นที่ในบ้านหลังนี้พร้อมบอกกับทั้งสองให้สบายใจว่าเจ้านายของเขาอนุญาตให้อยู่ที่นี่กี่วันก็ได้ขอแค่งานออกมาสมบูรณ์แบบเป็นพอ
“แป๋มว่าถ้าหลังขนาดนี้ห้าวันอย่างต่ำค่ะ...แกโอเคใช่ไหมนิ”ป๋อมแป๋มมีสีหน้าเคร่งเครียดที่งานนี้มันจะใหญ่เกินกว่าที่เธอคาดไว้เสียแล้ว“เรื่องเวลาไม่มีปัญหาหรอกแต่ของใช้เจ้าสองแสบฉันเตรียมมาแค่สามสี่วันเองน่ะสิ”เรื่องเวลาในการดูงานของณัฐนิชาเธอไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้วแต่ปัญหาก็คือของใช้จำเป็นไม่ว่าจะเป็นผ้าอ้อมสำเร็จรูปหรือนมแม้แต่เสื้อผ้าของเด็กๆเธอก็เตรียมมาแค่พอจำกัด“เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงครับถ้าคุณนิชาอยากเข้าเมืองบอกผมได้ตลอดเลย”ธาดาเห็นว่าเรื่องที่หญิงสาวพูดมันไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลเพราะถ้าหญิงสาวขาดเหลืออะไรเขาสามารถพาเธอออกจากเกาะไปซื้อได้ตลอดอยู่แล้ว“ขอบคุณนะคะ”ณัฐนิชารีบขอบคุณธาดาที่ดูแลพวกเธออย่างดีแต่มีอีกสิ่งที่เธอต้องห่วงก็คือเธอบอกน้องสาวของเธอว่ามาที่นี่ไม่กี่วันถ้าหากนานมีหวังน้องเธอตามมาเป็นแน่“อาหารเรียบร้อยแล้วค่ะทุกคน”“อาหารมาแล้วเดี๋ยวเราทานอาหารกันก่อนดีกว่าครับเรื่องงานค่อยว่ากันอีกที”ธาดาเห็นว่าป้าดาวเรืองและแม่บ้านอีกสองคนเดินยกอาหารมาวางที่โต๊ะอาหารแล้วเขาจึงให้ทั้งสองมาทานข้าวกันก่อนแล้วเรื่องงานค่อยว่ากันอีกทีเพรามันเที่ยงกว่าแล้วเดี๋ยวจะเลยเวลาอาห
“คุณเป็นอะไรหรือเปล่า...เอ่อ...คุณ”เมื่อลงมาจากรถเมฆาเห็นเป็นผู้หญิงที่กำลังนั่งกอดเด็กๆทั้งสองเอาไว้อยู่เขาจึงรีบย่อตัวลงไปจับที่ไหล่ของหญิงสาวแต่เมื่อจับตัวเธอหญิงสาวกลับตัวอ่อนพับลงมาทันทีเขาจึงรีบรับเธอเอาไว้ในอ้อมอกใบหน้าของหญิงสาวที่แหงนขึ้นมาใกล้กับหน้าของเขามันเหมือนมีมนต์สะกดทำให้เขานั้นอึ้งไปชั่วขณะใบหน้าจิ้มลิ้มขาวใสปากนิดจมูกหน่อยของเธอช่างดูน่ารักสะกดสายตายิ่งนักใบหน้าแบบนี้เขาคับคล้ายคับคลาว่าเคยเห็นเธอที่ไหนแต่ก็ยังนึกไม่ออก“สวัสดีคร้าบ/สวัสดีค่า”“เอ่อ..ครับ”เมฆาหลุดจากภวังค์เมื่อได้ยินเสียงเด็กๆทั้งสองเอ่ยทักทายพร้อมยกมือไหว้เขาแปลกใจอยู่มากที่เด็กๆทั้งสองไม่ได้รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่เลยสักนิดอีกทั้งยังส่งยิ้มอย่างเป็นมิตรให้กับเขาอีกดวงตาใสแป๋วของเด็กทั้งสองที่มองมาที่เขานั้นมันช่างน่าเอ็นดูเสียจริงมันทำให้เขายิ้มออกตามเด็กๆอย่างอัตโนมัติแม้ในสถานการณ์น่าตกใจเช่นนี้“เป็นยังไงบ้างครับ”ธาดารีบวิ่งมาสำรวจความปลอดภัยของเด็กๆทั้งสองว่าเป็นอะไรหรือเปล่าจากเหตุการณ์ที่เขาเห็นเมื่อครู่มันทำให้เขาใจหายเหมือนกันดีที่เจ้านายของเขาเบรกรถทัน“นิเป็นอะไรรึเปล่าเสียงดั
เมฆาเองรู้สึกเกรงใจคนที่บ้านของหญิงสาวที่เธอนั้นพาลูกมาอยู่ที่นี่หลายวันถ้ามีลูกและภรรยาน่ารักแบบนี้อยู่ไกลๆคนเป็นสามีคงคิดถึงแย่“เอ่อ...ที่บ้านนิมีแค่น้องสาวของนิแล้วก็ลูกๆค่ะ”ณัฐนิชาต้องหลบตาลงก่อนจะตอบคำถามชายหนุ่มเธอแอบคิดในใจว่าเธอจะต้องเจอคำถามแบบนี้ไปจนถึงเมื่อไร“อ๋อ...เข้าใจแล้วครับ...อืมวันนี้ได้เดินดูบ้านบ้างหรือยังครับ”เมฆาถึงกับหน้าเสียที่ได้รู้ว่าตัวเองเผลอถามคำถามที่ดูจะเสียมารยาทกับหญิงสาวเกินไปพลางเปลี่ยนเรื่องมาถามเธอเรื่องอื่นแทนเพื่อไม่ให้บรรยากาศน่าอึดอัด“ค่ะ...นิไม่คิดว่าสถานที่จริงจะใหญ่แบบนี้เลยนะคะ...จริงสิคะนิว่าจะคุยกับคุณเรื่องออกแบบพอดี”ณัฐนิชารู้สึกยิ้มออกและโอเคขึ้นมาหน่อยเมื่อชายหนุ่มหาเรื่องคุยกับเธอเป็นเรื่องงานเพราะเธอเองก็อยากจะคุยเรื่องนี้กับเขาอยู่พอดี“ผมก็ให้สิทธิ์พวกคุณตัดสินใจเอาเลย”ในหัวของเขาตอนนี้ไม่มีแนวทางที่อยากให้เป็นอยู่แล้วเขาจึงให้สิทธิ์ทีมออกแบบเป็นคนตัดสินใจ“คือนิแค่อยากรู้น่ะค่ะว่าคุณเมฆอยากให้ทุกห้องมันเป็นแนวเดียวกันหรือว่าเป็นคนละแบบคะเพราะจากที่นิดูแล้วห้องชั้นบนค่อนข้างใหญ่มันสามารถตกแต่งได้หลายแบบมากเลย...แล้วอีกอย่าง
19.40 น.หลังจากที่ณัฐนิชาทานอาหารเย็นเรียบร้อยแล้วจึงเข้ามาป้อนข้าวเด็กๆจนเสร็จก่อนจะปล่อยให้ลูกๆของเธอเล่นกันอยู่พักใหญ่และเธอกับป๋อมแป๋มก็ไปคุยงานกันต่อโดยทีเจ้าสองแสบอยู่ใกล้ๆสองสาวนั่งคุยงานกันจนเวลาผ่านไปพักใหญ่ณัฐนิชากับป๋อมแป๋มก็เดินมาดูใยไหมและใบหม่อนจนได้รู้สาเหตุว่าทำไมเสียงของเด็กๆทั้งสองถึงได้เงียบกันไป“หลับปุ๋ยเลย”“ฮ่าๆๆ..เมื่อกี้ยังนั่งตัวกลมกันอยู่เลยหลานฉัน...ไป..เดี๋ยวฉันช่วยอุ้มใยไหม”ปอมแป๋มเองก็ขำออกมาเบาๆพร้อมอุ้มใยไหมไปเข้าห้องเมื่อครู่เธอมองมายังเห็นเด็กๆทั้งสองนั่งเล่นกันอยู่หน้าจอที่ทีการ์ตูนเปิดอยู่เลยพอเผลอแปเดียวหลับปุ๋ยกันไปทั้งคู่แล้ว21.30 น.หลังจากที่ป๋อมแป๋มและณัฐนิชาพาเจ้าสองแสบไปนอนเรียบร้อยแล้วก็มาวาดแผนงานกันต่อที่ห้องของป๋อมแป๋มอยู่ร่วมสองชั่วโมงก็เป็นการเสร็จสิ้นไปหนึ่งส่วนก็คือห้องดูดาวด้านบนกับชั้นดาดฟ้าที่ณัฐนิชานั้นคิดไอเดียออกตั้งแต่แรกเห็น“นี่แกฉันว่าคุณเมฆต้องหลงเสน่ห์แกแน่เลย”หลังจากวาดแผนงานกันพอสมควรแล้วป๋อมแป๋มเองก็ขอเปิดประเด็นนอกเรื่องเสียหน่อยเพราะเธอคันปากอยากจะพูดกับณัฐนิชาเรื่องที่เธอได้รู้ได้เห็นมา“แกจะบ้าหรือไงพูดอะไรออ
“อืม...คือ...ผมจะมาดูว่าคุณขาดเหลืออะไรหรือเปล่าแล้วเด็กๆนอนหลับสบายดีไหม”เมฆาถึงกับตัวชาวาบเมื่อได้ยินคำถามของหญิงสาวใจจริงที่เขาเข้ามาก็เพราะแค่อยากจะเห็นหน้าเธอก็เท่านั้นเขาจึงไม่รู้ว่าจะตอบเธอว่าอะไรพลางหันไปเห็นเด็กๆนอนอยู่จึงเบี่ยงประเด็นไปได้“ทุกอย่างโอเคค่ะ...โอเคมากด้วย”ณัฐนิชาตอบชายหนุ่มอย่างรวดเร็วว่าเธอนั้นอยู่ที่นี่ได้อย่างสบายและมันก็มากด้วยเพื่อให้เจ้าของบ้านสบายใจได้ว่าดูแลพวกเธอไม่ขาดตกบกพร่อง“ดีแล้ว..งั้นผมขอตัวก่อนนะครับฝันดีนะครับ”เมฆาไม่รู้ว่าเขานั้นจะหาเรื่องอะไรคุยกับเธอต่อด้วยดูท่าทางหญิงสาวคงจะไม่อยากให้เขาอยู่ในห้องเธอนานๆจึงรีบหันหลังจะเดินกลับแต่ก็ไม่ลืมที่จะบอกฝันดีกับหญิงสาว“เอ่อ...คุณเมฆคะ”“ครับ”เมฆารีบหันกลับมาหาหญิงสาวด้วยความดีใจเพราะเขายังมีโอกาสที่จะได้สนทนากับเธอต่อ“คือว่าพอดี...น้องสาวนิจะมาหาหลานๆจะได้ไหมคะ”ณัฐนิชาเห็นว่าไหนๆตอนนี้ได้มีโอกาสคุยกับชายหนุ่มก็ดีแล้วเธอจึงจะขออนุญาตเขาตอนนี้เสียเลยเพราะยังไงน้องสาวของเธอก็จะต้องมาที่นี่ให้ได้อยู่แล้วโดยที่เธอปฏิเสธอะไรไม่ได้ด้วย“ได้สิครับ...จะอยู่จนคุณนิเสร็จงานเลยก็ยังได้”เมฆาไม่มีปัญหาเ
เมฆาหันมาหาหญิงสาวด้วยสีหน้าที่กำลังงงนิดหน่อยเพราะเขาเลือกของอยู่นานแล้วแต่ไม่ยักจะมีป้ายที่เขียนชื่อตรงกับสิ่งของที่ธาดานั้นให้รายการเขามาเลย“มาค่ะเดี๋ยวนิช่วยนะคะ”ณัฐนิชาเห็นว่าคนอย่างชายหนุ่มคงไม่เคยมาซื้อของพวกนี้เป็นแน่จึงอาสาช่วยเขาหาท่าจะดีกว่าเพราะเธอเข้าใจภาษาของแม่บ้านที่ทำงานอยู่ในครัวดีบางทีชื่อเรียกในครัวกับป้ายที่ขายมันอาจจะไม่ตรงกันเธอแอบขำในใจเหมือนกันที่มาเห็นภาพคนอย่างชายหนุ่มมาเลือกซื้อของใช้ในครัว“อยู่ตรงนี้นี่เอง”ณัฐนิชาอ่านรายการที่ธาดาจดมาให้ชายหนุ่มเธอก็เดินหยิบของพวกนั้นมาใส่รถเข็นได้อย่างรวดเร็ว“คุณนินี่เก่งจังเลยนะครับ”เมฆาเดินตามหญิงสาวที่กำลังเลือกซื้อของอย่างชำนาญเขาก็อดชมเธอไม่ได้เขาได้เห็นเธอในโมเม้นของคนเป็นแม่เวลาอยู่กับเด็กๆก็ว่าน่ารักแล้วมาเห็นเธอดูเป็นแม่บ้านที่ชำนาญเธอก็ดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบ“มันเป็นของใช้ในครัวผู้หญิงส่วนมากก็จะรู้จักอยู่แล้วค่ะ...นี่แสดงว่าปกติคุณเมฆไม่ค่อยได้มาซื้อเองใช่ไหมคะ”ณัฐนิชาหันมายิ้มหวานให้ชายหนุ่มขอบคุณที่เขาเอ่ยชมเธอพร้อมบอกว่ามันเป็นเรื่องง่ายสำหรับเธอพลางคิดว่าถ้าชายหนุ่มอย่างเขาเลือกซื้อได้อย่างชำนาญน่ะสิแปลก
“เอ่อ...นี่ลูกชายคนเล็กฉันเองหนูหวานต้องขอโทษแทนลูกชายฉันด้วยนะจ้ะ”มัทนาเองก็จำต้องส่ายหัวให้กับวีรกรรมสุดแสบของวายุพร้อมหันมาขอโทษหญิงสาวที่ลูกชายของเธอทำอะไรล่วงเกินไป“ค่ะ...คุณมัท”“แม่ไปเข้าข้างเธอได้ยังไงเธอทำให้ผมลงแข่งไม่ได้นะครับ”วายุได้ยินแม่ของเขาเข้าข้างหญิงสาวเขาก็ถึงกับควันออกหู“แม่แกทำถูกแล้ว..ก็แกไปลวนลามหนูน้ำหวานเค้าก่อนทำไมแกนี่มันจริงๆเลยเชียว”ธำมรงค์จำต้องส่งเสียงดุลูกชายจอมเอาแต่ใจที่มีท่าทีโมโหเป็นวัวบ้าก่อนจะเดินออกไปข้างนอกเพราะรู้สึกระอากับความไม่ยอมรับผิดของลูกชายตัวเอง“แล้วนี่เธอมาทำอะไรที่นี่”วายุเห็นว่าประเด็นเรื่องเขากับหญิงสาวไว้มีโอกาสค่อยเคลียก็ได้แต่ตอนนี้เขาอยากจะรู้ว่าแม่ตัวดีคนนี้มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร“นี่หนูน้ำหวานเป็นน้องของหนูนิชาที่มาแต่งบ้านให้พี่แกเดี๋ยวหนูหวานก็จะไปที่เกาะพร้อมพี่ของลูก”“อ๋อ...งั้นผมขอตัวไม่อยากอยู่ตรงนี้นาน”เมื่อได้คำตอบจากคนเป็นแม่แล้วชายหนุ่มจึงคิดแผนอะไรออกแล้วจึงรีบเดินกลับไปที่ห้องของเขาทันที“คุณแม่ครับ”“อ้าวนั่นไงกลับกันมาแล้ว”เมื่อคนน้องเดินกลับเข้าห้องไปคนพี่ก็กลับมาพอดี“พี่นิ”“หวาน”รินทร์ธารารีบเข้า
“ฉันนิชาค่ะเป็นคนออกแบบให้บ้านคุณเมฆวันนั้นเราขึ้นเรือกันไปแต่เช้าเลยไม่ได้เจอคุณค่ะยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”ณัฐนิชาพึ่งเจอลูกชายคนเล็กของมัทนาก็วันนี้เพราะวันนั้นเธอไม่เคยเจอเขาด้วยรีบขึ้นเรือออกเดินทางกันแต่เช้าตรู่“อืม..หึ่..ตื่นสายตะวันส่องก้นขนาดนี้คงจะเจอใครเค้าหรอกนะ”รินทร์ธาราแกล้งสบถขำพร้อมพูดอุทานออกมาอย่างเสียงดังเพื่อให้เจ้าตัวที่ตื่นสายได้ยินวายุเองก็ถลึงตาใส่หญิงสาวไปหนึ่งทีที่ทำเขาเสียหน้า“หวาน!!”ณัฐนิชาต้องส่งเสียงดุน้องสาวของเธอเบาๆที่ทำตัวเสียมารยาทพลางส่ายหัวให้กับความปากไวของน้องสาว“งั้นรีบลงเรือกันเถอะ”เมฆารู้สึกไม่ชอบที่น้องชายของเขานั้นทีท่าทีแบบนั้นกับณัฐนิชาเลยรีบพูดตัดบทเพื่อให้ทุกคนลงเรืออย่างรวดเร็ว“ผมเคยได้ยินคุณแม่ผมชมฝีมือคุณอยู่บ่อยๆคุณเก่งมากเลยนะครับ”วายุนั้นพยายามอย่างที่สุดเพื่อที่จะทำตัวสนิทสนมกับณัฐนิชาอย่างน้อยการนั่งเรือของเขาก็ไม่น่าเบื่อ“ขอบคุณค่ะคุณไวท์...นิก็เคยได้ยินจากเพื่อนนิว่าคุณแข่งรถเก่งมากๆเหมือนกันค่ะ”ณัฐนิชาได้รับคำชมจากชายหนุ่มเธอเองก็ยิ้มรับพร้อมชมเขากลับแก้เขินเพราะเธอเองก็พจะรู้จากป๋อมแป๋มมาเหมือนกันว่าลูกชายคนเล็กของคุ
คฤหาสน์เพตราพิทักษ์ณัฐนิชาตื่นแต่เช้าเพราะวันนี้ถึงจะเป็นวันปิดเทอมของลูกๆเธอแต่เด็กๆก็มีเรียนพิเศษที่ทั้งสองอยากจะเรียนโดยใยไหมนั้นชอบที่จะเรียนบัลเล่ต์ส่วนใบหม่อนนั้นชอบดนตรีเป็นพิเศษเลยเลือกที่จะเรียนดนตรีทั้งหญิงสาวและสามีไม่เคยที่จะบังคับลูกๆของเธอว่าให้เรียนอะไรแต่จะให้เรียนสิ่งที่ลูกๆของเธอเลือกเองและพร้อมสนับสนุนเท่านั้น“คุณเมฆคะเดี๋ยวนิส่งใยไหมกับใบหม่อนเรียบร้อยแล้วจะเข้าไปซื้อของต่อกับคุณแม่ฝากดูแม็คกับมาร์คด้วยนะคะวันนี้นิน่าจะรอรับเด็กๆกลับด้วยเลย...จุ้บ..นิจะรีบไปรีบมานะคะ”วันนี้ณัฐนิชาต้องไปส่งเจ้าสองแฝดวัยห้าขวบกว่าแต่เช้าเพราะวันนี้เธอจะต้องไปเลือกซื้อของเข้าบ้านกับมัทนาต่อตามประสามแม่สามีกับลูกสะใภ้หญิงสาวเห็นว่าวันนี้เป็นวันหยุดของสามีเธอเลยวานให้สามีเธอดูแลลูกๆอีกสองคนเสียเลยก่อนจะก้มลงมาจูบแก้มของเมฆาที่นอนหลับอุตุอยู่บนที่นอนที่ตอนนี้สามีของเธอยังไม่อยากตื่นก็เพราะเมื่อวานมีประชุมที่บริษัทและกลับบ้านมาจนดึก“คร้าบ...”เมฆาตอบรับปากคนเป็นภรรยาทั้งที่ตาก็ยังจะลืมไม่ขึ้นวันนี้เขาต้องรับหน้าที่ดูแลลูกชายวัยสองขวบกับสี่เดือนเองแล้วล่ะสิแต่พ่อลูกอ่อนที่ผ่านการเลี้ยง
สองเดือนต่อมางานแต่งของเมฆาและณัฐนิชาจัดขึ้นที่เกาะอย่างเรียบง่ายแต่หรูหราให้สมเกียรติถึงแขกในงานจะไม่ได้เยอะมากแต่ก็เป็นคนสำคัญทั้งนั้นและงานแต่งงานครั้งนี้ก็จะเป็นการเปิดเจ้าสองแสบว่าเป็นทายาทคนสำคัญในตระกูลอีกด้วย“ยินดีด้วยนะแกวันนี้แกสวยสุดๆไปเลย”ป๋อมแป๋มเดินเข้างานมาสวมกอดณัฐนิชาด้วยความยินดีด้วยจากใจที่เห็นเพื่อนมีครอบครัวอย่างสมบูรณ์เสียทีวันนี้ณัฐนิชาดูสวยแปลกตาไปมากจนเธอนั้นอดชมไม่ได้เลยจริงๆ“จ้า...เอ...แล้วนี่ทำไมถึงควงมากับคุณเวได้ล่ะ”ณัฐนิชาสังเกตเห็นว่าป๋อมแป๋มนั้นเดินจับมือมากับธาดาจึงต้องถามแกมหยอกเล็กน้อยว่าตกลงสองคนเป็นอะไรกันแน่“อืมม...ก็ตั้งแต่คืนนั้น”ป๋อมแป๋มตอบเพื่อนสาวเธอด้วยท่าทีเขินอายแม้คำพูดจะดูน้อยแต่เมื่อมองตากันก็รู้ใจว่ากำลังคิดอะไรอยู่“หา...จริงดิ...ต้องขอบคุณคุณเวนะที่ดึงแกลงมาจากคานได้เสียที”ณัฐนิชาถึงกับยกมือปิดปากไม่คิดว่าการขอร้องให้ธาดาอยู่เป็นเพื่อนเพื่อนของเธอคืนนั้นจะทำให้ป๋อมแป๋มที่หวงคานนักหนายอมลงจากคานได้“ยินดีด้วยนะคะคุณเมฆ”ป๋อมแป๋มเห็นเมฆาเดินมากับใครอีกคนที่เธอก็พอจะรู้จักอยู่บ้างตามข่าวพร้อมทั้งกล่าวยินดีกับชายหนุ่มด้วยรอยยิ้ม
“ฮึก...คุณเว”คำพูดจี้ใจหญิงสาวที่ออกจากปากธาดาทำให้เธอโผเข้ากอดเขาปล่อยโฮอย่างที่ชายหนุ่มไม่ทันตั้งตัวน้อยคนนักที่จะพูดกับเธอและห่วงใยความรู้สึกของเธอแบบนี้ปกติแล้วคนอย่างเธอจะร้องให้กับณัฐนิชาเพียงคนเดียวเท่านั้นแต่ตอนนี้ชายหนุ่มทำให้เธอรู้สึกว่าเธอสบายใจที่จะทำตามเสียงหัวใจตัวเองในเวลาที่อยู่กับเขาเมื่อตอนที่ใช้ชีวิตอยู่บนเกาะก็มีธาดานี่แหละที่เป็นเพื่อนคุยทั้งยังให้คำปรึกษาเรื่องงานกับเธอตลอดจนหญิงสาวค่อนข้างแปลกใจว่าชายหนุ่มนั้นดูจะเก่งเกินบอดี้การ์ดธรรมดาไปเสียมากทั้งเชิงวิชาการและการต่อสู้หรือทักษะอื่นๆไม่ได้น้อยหน้าใครเลยธาดาคงจะเป็นผู้ชายคนที่สองละมั้งที่เธอไว้ใจกับเขาที่จะพูดคุยรองจากคนเป็นพ่อของเธอธาดาไม่ได้พูดอะไรยังคงกอดปลอบเธอกลับและรอให้หญิงสาวปล่อยโฮออกมาให้เต็มที่ไม่นานเธอก็หยุดร้องให้ลงเขาจึงทิ้งรถของเขาไว้ที่นี่และกลับไปส่งเธอที่บ้านบ้านธีธารา“เวโทรมามีอะไรหรือเปล่า”เมฆาเห็นหญิงสาวคุยกับธาดาด้วยสีหน้าเคร่งเครียดอยู่นานสองนานจนเขาต้องกลายเป็นคนเสียมารยาทถามหญิงสาวเรื่องที่คุยโทรศัพท์ด้วยความสงสัย“คือพอดีมีปัญหานิดหน่อยค่ะ...”ณัฐนิชาเล่าสถานการณ์ทั้งหมดให้กับชา
“ฉันว่าเวอาจจะอยากใช้ชีวิตแบบนี้อีกสักพักก็ได้...เรื่องแผลใจฉันว่าคงหายดีแล้วหละ”เมฆาเห็นว่าเรื่องแผลใจของธาดานั้นน่าจะหายไปนานแล้วเขาเห็นว่าธาดาอาจจะมีความสุขกับการอยู่แบบนี้มากกว่าส่วนเรื่องอยากจะกลับไปทำงานของตัวเองเมื่อไรเขาเองก็ไปบังคับธาดาไม่ได้เพราะไม่ได้อยากบังคับใจใคร“นี่ภรรยาฉันนิชา”เมฆาถือโอกาสแนะนำหญิงสาวให้ธาวินได้รู้จักตอนที่เธอเดินออกมาพอดี“นิครับนี่ธาวินพี่ชายของเว”“ผมวินยินดีที่ได้รู้จักครับคุณนิชา”“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ...ตามสบายเลยนะคะเดี๋ยวนิขอตัวจัดการงานบ้านก่อน”ตอนนี้ณัฐนิชาอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนที่เป็นแม่บ้านเต็มตัวเมื่อทักทายกับชายหนุ่มเรียบร้อยแล้วเธอเองก็ไม่ได้อยากกวนเวลาของผู้ชายที่เขาจะคุยกันเลยขอปลีกตัวออกไปทำงานบ้านของเธอต่อ“นายหาแม่บ้านสักคนก็ดีนะคุณนิเป็นถึงภรรยานักธุรกิจยังทำงานบ้านเองอีกหรือไง”ธาวินแอบตะขิดตะขวงในใจอยู่เล็กๆที่หญิงสาวเป็นภรรยาของเพื่อนเขาที่เป็นถึงระดับนักธุรกิจใหญ่โตที่ดูแลกิจการหลายอย่างต้องมาทำงานบ้านเอง“เมียฉันเค้าไม่อยากได้เองไม่ใช่ฉันไม่เคยเสนอ...ฉันไม่อยากขัด...เออแล้วอีกสามเดือนฉันจะแต่งงานไปงานฉันด้วยล่ะ”เมฆา
ครู่ต่อมาหลังจากที่ทานอาหารอิ่มแล้วเจ้าแฝดตัวกลมทั้งสองก็ไปเล่นกันต่อโดยคนเป็นย่าปล่อยให้เล่นเพื่อย่อยอาหารเพราะอีกสักพักเธอก็จะพาหลานๆอาบน้ำทานนมนอนกลางวันแล้วตอนนี้บนโต๊ะอาหารก็เหลือแต่คนโตที่นั่งอยู่ด้วยกันพลางพูดคุยกันตามประสาครอบครัว“ผมว่าจะจัดงานแต่งงานให้เร็วที่สุดดีไหมครับคุณแม่”“ก็ดีจะตระกูลเราคนค่อนข้างนับหน้าถือตาดีเลยถือเป็นการเปิดตัวทายาทของลูกในวันนั้นเลย”“พ่อก็เห็นด้วยนะอะไรๆมันจะได้อยู่ถูกที่ถูกทางเสียที”“ครับ”เมฆาคิดว่าในตอนนี้เรื่องราวมันก็เป็นไปในทิศทางที่ดีแล้วตอนนี้เขาก็อยากจะจัดงานแต่งประกาศให้ทุกคนได้รู้ว่าเขานั้นมีลูกมีครอบครัวแล้วและถือเป็นการให้เกียรติหญิงสาวกับลูกๆด้วยทั้งมัทนาและธำมรงค์ก็เห็นดีเห็นงามด้วยว่าควรจะจัดงานแต่งมาให้เร็วที่สุดเพราะไม่อย่างนั้นคนที่เสียหายก็จะเป็นณัฐนิชาเพราะพวกเขารู้ว่าหากเมฆาใช้ชีวิตอยู่กับหญิงสาวไปเรื่อยๆแบบนี้คงไม่วายเป็นข่าวเสียๆหายๆเป็นแน่“พี่นิทานน้อยจังเลยค่ะ...ไม่สบายหรือเปล่าคะเหมือนหวานสังเกตเห็นพี่นิเพลียๆตั้งแต่เข้ามาแล้วเมื่อคืนทำงานดึกเหรอคะ”ตอนนี้ทุกคนก็ท่าทางจะอิ่มกันหมดแล้วรินทร์ธารามองไปยังจานข้าวของพี่ส
30 นาทีต่อมา“เด็กๆ”“คุณพ่อขา/คุณแม่คร้าบบ”เมฆาเดินเข้าบ้านพักพ่อกับแม่ของเขาพร้อมกับณัฐนิชาเมื่อเห็นพ่อกับแม่ของเขานั่งเล่นอยู่กับเจ้าสองแสบที่สนามหญ้าหน้าบ้านก็รีบเดินเข้าไปหาทันทีเจ้าสองแสบเมื่อเห็นคนเป็นพ่อกับแม่มาหาก็รีบสิ่งเข้าไปโผกอดเป็นภาพสี่คนพ่อแม่ลูกที่ดูอบอุ่นต่อสายตาคนที่เห็นอย่างมาก“หายดีแล้วเหรอตาเมฆ”“ครับเมื่อเช้าพึ่งไปตัดไหมมาแล้วก็แวะมาที่นี่เลยครับคิดถึงเจ้าสองแสบแย่แล้ว”มัทนาถามไถ่อาการของลูกชายเธอด้วยรอยยิ้มเพราะตอนนี้หน้าตาของลูกชายเธอสดใสขึ้นมากคงเป็นเพราะมีคนดูแลดีอย่างที่สามีเธอบอกจริงๆนั่นแหละ“โอย..โอ้ยย..มัน.ร้อนน..นะคุณ”วายุแทบคายข้าวต้มออกจากปากเพราะรินทร์ธาราเล่นไม่ยอมเป่าให้มันเย็นก่อนที่จะป้อนเข้าปากของเขา“ก็ฉันบอกให้คุณทานเองก็ไม่อยากจะทานมืออีกข้างก็ยังใช้การได้อยู่นี่นา”รินทร์ธารานั่งหน้าเซ็งชายหนุ่มตื่นสายยังไม่พอยังชอบบังคับให้เธอป้อนข้าวอยู่ทุกวันอีกทั้งที่มืออีกข้างก็ใช้ได้“นั่นเสียงเอะอะอะไรกันเหรอคะคุณมัท”ณัฐนิชาที่กำลังกอดหอมเล่นกับลูกเธออยู่ที่หน้าบ้านจู่ๆก็ได้ยินเสียงโวยวายจากในบ้านออกมาเธอพอจะจำได้ว่าเสียงนั่นน่าจะมีเสียงของน้อง
“อือ...อื้มม...”คนตัวโตก้มลงใช้จมูกสูดดมซอกซอนมาจนถึงพวงแก้มแล้วใช้ริมฝีปากหนาบดจูบริมฝีปากบางอวบอิ่มของเธออย่างดูดดื่มโหยหาส่งลิ้นร้ายเข้าไปตักตวงความหวานจากปากหญิงสาวอย่างไม่มีท่าทีที่จะอิ่มและพอใจกับมันเขายังคงบดจูบเร่าร้อนมากขึ้นเรื่อยๆจนสร้างอารมณ์วาบหวามให้หญิงสาวที่นอนอยู่ใต้ร่างได้ดีพอสมควรมือไม้เรียวของหญิงสาวหาที่เกาะยึดปัดป่ายไม่อยู่สุขจนมาจบอยู่ที่ลำแขนแกร่งเล็บบางจิกลงระบายอารมณ์จนกล้ามแขนแกร่งเป็นรอยบีบข่วนแทบเลือดซิบตอนนี้ทั้งสองเหลือแต่ร่างกายที่เปลือยเปล่าแนบชิดติดกันเพราะเมฆาพึ่งจะสลัดผ้าออกจากตัวเขาเมื่อครู่มือไม้ที่บีบคลึงอยู่ที่สองเต้างามพอดีมือก็สลับกับปากหนาดูดคลึงบีบเล่นไปมาเพื่อเรียกอารมณ์รักให้หญิงสาวนั้นมีความสุขเพลิดเพลินกับบทรักที่เขามอบให้มือเล็กเปลี่ยนที่ยึดเกาะจากลำแขนแกร่งของชายหนุ่มเป็นหมอนนุ่มของเธอบ้างหรือปัดป่ายมาจิกที่ไหล่กว้างของเขาบ้างเพราะอารมณ์วาบหวามเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนเริ่มไม่เป็นตัวของตัวเองชายหนุ่มไม่รอช้าเมื่อตัวตนของเขามันพร้อมแล้วก็ค่อยๆแทรกตัวเข้าไปที่ลำขาเรียวเล็กของหญิงสาวค่อยๆแทรกลำขาแกร่งเข้าไปจนตัวตนของทั้งสองแนบชิดติดกันจนหญ
“คือคุณไม่ได้เป็นภาระนิสักนิดเลยนะคะ...คุณอย่าไปเลยนะคะอยู่ที่นี่ช่วยนิดูแลลูกๆได้ไหมคะอยู่กันเป็นครอบครัวอย่างที่คุณเคยขอนิไงคะ...”ณัฐนิชานิ่งงันหลังจากที่ชายหนุ่มพูดจบประโยคเล็กน้อยตอนนี้เธอมีน้ำตาคลอออกมาก่อนจะเข้าไปสวมกอดที่ด้านหลังของชายหนุ่มพร้อมขอร้องให้เขาอยู่กับเธออย่างไม่สนศักดิ์ศรีอะไรทั้งนั้น“คุณนิไม่ลำบากใจแน่นะครับ”“ค่ะ”เมฆายังคงไม่หันหน้าไปหาหญิงสาวเขายังปล่อยให้เธอกอดเขาเอาไว้แบบนั้นก่อนจะถามหญิงสาวให้แน่ใจอีกทีว่าเธอนั้นคิดไม่ผิด“งั้นผมขอถามได้ไหมว่าทำไมเวลาที่ผ่านมาคุณถึงพยายามออกไปจากชีวิตผม”เมฆายังคงตั้งคำถามให้หญิงสาวได้ตอบเขาอยู่ไม่เลิกเมื่อมีโอกาสเคลียใจเขาก็อยากจะเคลียทันทั้งหมดกับเรื่องที่ยังค้างคาใจอยู่“นิแค่ยังกลัวกับเหตุการณ์ในวันนั้นแต่นิพยายามสลัดมันออกไปได้แล้วนะคะอีกอย่างก็คือนิรู้ว่าคุณเมฆไม่อยากมีครอบครัวหากนิกับลูกๆเข้ามาในชีวิตคุณในช่วงเวลาที่คุณเมฆไม่อยากมีพันธะนิคิดว่ามันคงทำให้ครอบครัวมีความสุขไม่ได้หรอกค่ะ...แต่ตอนนี้นิไม่สนอะไรแล้วค่ะจากเหตุการณ์ที่คุณเมฆเจ็บนิรู้ว่าควรใช้ชีวิตตามเสียงหัวใจโดยไม่มีทิฐิจะดีกว่า...เพราะเราไม่สามารถรู้ได้ว่
“โห...สายเปย์งั้นดิ..ฉันขอเข้าทำงานเลยค่ะคุณเจ้านาย”รินทร์ธาราไม่ปฏิเสธที่จะรับข้อเสนอของชายหนุ่มเพราะเรื่องดูแลคนที่ป่วยอยู่เธอก็ถนัดอยู่แล้วอีกอย่างหากเธอเป็นผู้จัดการให้เขาก็จะได้ช่วยคัดคนที่จะมาเข้าทีมของเขาอีกด้วยเพราะเธอไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับชายหนุ่มอีกหนึ่งวันมาแล้วที่เมฆารู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาเมื่อชายหนุ่มรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาวินาทีนั้นมันเหมือนยกภูเขาออกจากอกของณัฐนิชาเธอยิ้มกว้างต้อนรับเขาอย่างดีใจและหลังจากที่เขาตื่นเธอก็คอยดูแลถามไถ่อาการของเขาอยู่ไม่ห่างคอยอยู่ให้เขานั้นเห็นหน้าเธอตลอดเวลา“ทานยาก่อนนะคะ”หลังจากที่ชายหนุ่มทานข้าวต้มและผลไม้ที่พยาบาลนำมาให้เรียบร้อยแล้วหญิงสาวก็จัดการป้อนยาตามทันทีเธอดูแลเขาอย่างไม่ขาดตกบกพร่องเพราะอยากจะเห็นคนตรงหน้ากลับมาแข็งแรงโดยเร็ววัน“ขอบคุณครับ”“ถ้าปวดหัวหรือจะเข้าห้องน้ำเรียกนิได้ตลอดเลยนะคะ”“ครับ”“คุณเมฆอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมคะเดี๋ยวนิจะหามาให้คุณหมอบอกว่าตอนนี้คุณเมฆทานได้แทบทุกอย่างแล้วแต่นิว่าถ้าเป็นของหวานควรจะงดไว้ก่อนเพราะแผลยังไม่หายดีค่ะ”“ผมทานอะไรก็ได้ครับ”“ค่ะ”คำถามและท่าทีที่แสดงถึงความเป็นห่วงเป็นใย