30 นาทีต่อมา
“เด็กๆ”
“คุณพ่อขา/คุณแม่คร้าบบ”
เมฆาเดินเข้าบ้านพักพ่อกับแม่ของเขาพร้อมกับณัฐนิชาเมื่อเห็นพ่อกับแม่ของเขานั่งเล่นอยู่กับเจ้าสองแสบที่สนามหญ้าหน้าบ้านก็รีบเดินเข้าไปหาทันที
เจ้าสองแสบเมื่อเห็นคนเป็นพ่อกับแม่มาหาก็รีบสิ่งเข้าไปโผกอดเป็นภาพสี่คนพ่อแม่ลูกที่ดูอบอุ่นต่อสายตาคนที่เห็นอย่างมาก
“หายดีแล้วเหรอตาเมฆ”
“ครับเมื่อเช้าพึ่งไปตัดไหมมาแล้วก็แวะมาที่นี่เลยครับคิดถึงเจ้าสองแสบแย่แล้ว”
มัทนาถามไถ่อาการของลูกชายเธอด้วยรอยยิ้มเพราะตอนนี้หน้าตาของลูกชายเธอสดใสขึ้นมากคงเป็นเพราะมีคนดูแลดีอย่างที่สามีเธอบอกจริงๆนั่นแหละ
“โอย..โอ้ยย..มัน.ร้อนน..นะคุณ”
วายุแทบคายข้าวต้มออกจากปากเพราะรินทร์ธาราเล่นไม่ยอมเป่าให้มันเย็นก่อนที่จะป้อนเข้าปากของเขา
“ก็ฉันบอกให้คุณทานเองก็ไม่อยากจะทานมืออีกข้างก็ยังใช้การได้อยู่นี่นา”
รินทร์ธารานั่งหน้าเซ็งชายหนุ่มตื่นสายยังไม่พอยังชอบบังคับให้เธอป้อนข้าวอยู่ทุกวันอีกทั้งที่มืออีกข้างก็ใช้ได้
“นั่นเสียงเอะอะอะไรกันเหรอคะคุณมัท”
ณัฐนิชาที่กำลังกอดหอมเล่นกับลูกเธออยู่ที่หน้าบ้านจู่ๆก็ได้ยินเสียงโวยวายจากในบ้านออกมาเธอพอจะจำได้ว่าเสียงนั่นน่าจะมีเสียงของน้องสาวเธออยู่ด้วย
“เป็นแบบนี้แหละจะทุกวันตาไวท์ชอบหาเรื่องให้หนูน้ำหวานดุอยู่เรื่อย”
มัทนาส่ายหัวพร้อมตอบหญิงสาวที่ทำหน้าสงสัยอยู่ว่ามันเป็นเรื่องปกติที่สองคนนั้นจะกัดกันได้ทุกวันก็เพราลูกชายตัวดีของเธอชอบกวนประสาทคนดูแลอยู่เรื่อย
“ก็เห็นมีแต่หนูน้ำหวานนี่แหละที่เอาเจ้าไวท์อยู่มวยถูกคู่แล้วหละ”
ธำมรงค์เองก็ชินกับเรื่องนี้ไปเสียแล้วเพราะอย่างน้อยลูกชายคนเล็กของเขาก็ได้เจอคนที่ปราบพยศได้จริงๆเสียที
“เดี๋ยวเราเข้าไปคุยกันในบ้านเถอะจะให้เด็กๆเล่นกันอยู่ข้างนอกก่อนเดี๋ยวหิวก็วิ่งเข้าบ้านกันเอง”
มัทนาชวนทุกคนเข้าบ้านแล้วปล่อยให้เด็กๆเล่นกันอยู่ที่หน้าบ้านเพราะที่นี่ไม่ได้มีอะไรน่าเป็นห่วงรั้วรอบขอบชิดเป็นอย่างดีเธอเลี้ยงหลานจนรู้แล้วว่าตอนนี้เด็กๆคงยังง่วนอยู่กับการเล่นอยู่เดี๋ยวถ้าหิวก็จะวิ่งเข้าไปในบ้านเองอีกอย่างแม่บ้านที่นี่ก็คอยดูอยู่ไม่ห่างอีกด้วย
“พี่นิ”
รินทร์ธาราเห็นพี่สาวของเธอเดินเข้าบ้านมาก็รีบวิ่งไปเกาะแขนให้เดินเข้ามานั่งที่โซฟาด้านใน
“เมื่อกี้ยังไงเสียงเราดังไปถึงข้างนอกเลยนะ”
ณัฐนิชาอดตำหนิน้องสาวของเธอไม่ได้ที่มาที่นี่เพื่อมาดูแลวายุแต่ไหนกลับเป็นมากัดกันเสียได้เมื่อคนเป็นน้องโดนพี่สาวตำหนิก็หน้าจ๋อยไปนิดหน่อย
“ไงไอ้เสือ”
เมฆาเห็นสภาพน้องชายของเขาก็นับว่าดูดีกว่าตอนที่กลับจากโรงพยาบาลเยอะเพียงแค่ตอนนี้ต้องนั่งอยู่บนรถเข็นก็เท่านั้นเพราะยังเดินไม่สะดวก
“อย่างที่เห็นอยากจะเดินได้แย่แล้ว”
วายุเองก็อยากจะหายจากอาการที่เป็นมากเขาอยากจะเดินได้คล่องแคล่วทำอะไรว่องไวเหมือนเมื่อก่อนเป็นแบบนี้คนที่ชอบเล่นซนอย่างเขามันก็อึดอัดพอตัว
“นี่ก็ใกล้จะเที่ยงแล้วอยู่ทานข้าวกันที่นี่ก่อนนะ”
มัทนาเห็นว่าอีกไม่นานก็ใกล้เที่ยงแล้วจึงชวนลูกชายคนโตของเธอและณัฐนิชาอยู่ทานข้าวทีนี่เสียเลย
“คุณแม่ครับผมมีเรื่องจะบอก”
“???”
เมฆาเห็นว่าตอนนี้ทุกคนก็อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้วเขาจึงคิดว่าน่าจะเป็นเวลาที่เหมาะสมแล้วที่เขานั้นจะบอกข่าวดีกับทุกคนให้ได้รับรู้กันเรื่องนี้เขาเองก็ไม่ได้ปรึกษาณัฐนิชาก่อนด้วยแต่ก็คิดว่าเธอก็คงจะไม่ว่าอะไรเพราะว่ามันก็คือเรื่องจริง
“ผมกับนิ...เราตกลงจะอยู่กันเป็นครอบครัวแล้วครับ”
เมฆากุมมือณัฐนิชาเอาไว้แน่นพร้อมมองหน้าเธอเป็นเชิงขออนุญาตเมื่อหญิงสาวไม่ได้ค้านอะไรเขาก็เริ่มบอกข่าวดีกับทุกคน
“จริงเหรอลูก...แม่ดีใจกับข่าวดีนี้จริงๆนะ.”
หลังจากที่ข่าวดีนั้นได้หลุดออกจากปากเมฆาทุกคนในที่นี้ต่างก็ยิ้มหน้าบานด้วยความยินดีมีคนที่จะดีใจมากๆจนออกนอกหน้าก็เห็นจะเป็นมัทนาและรินทร์ธารานี่แหละ
“เย่!!!..อิๆๆ”
“โอ้ยย..คุณ”
ด้วยความดีใจจนลืมตัวรินทร์ธาราจึงเผลอไปเขย่าแขนวายุข้างที่เขาบาดเจ็บอยู่จนชายหนุ่มต้องร้องโอดโอยด้วยสีหน้าเหยเกเล็กน้อย
“โทษทีฉันลืมตัว”
คนที่รู้ตัวว่ากำลังลืมตัวถึงกับหน้าถอดสีกะทันหัน
“ตลอดเลยคุณเนี่ย”
แต่คนที่หน้าบึ้งตึงเหยเกขนดูไม่ได้เห็นจะเป็นวายุเพราะเจ็บอยู่แล้วก็ยังมาเจ็บซ้ำเพราะคนที่ดูแลชอบลืมตัวอยู่ตลอดจนเขาไม่รู้ว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่ให้รินทร์ธารามาเป็นพยาบาลส่วนตัว
12.30 น.
เมื่อได้เวลาทานอาหารกลางวันแล้วตอนนี้ทุกคนก็พร้อมหน้าพร้อมตาอยู่ที่โต๊ะอาหารเจ้าสองแสบก็เหมือนกันตอนนี้กำลังง่วนอยู่กับการม้วนเส้นบะหมี่เข้าปากพร้อมใช้ช้อนเล็กตักน้ำซุปซดกันอย่างเอร็ดอร่อย
“ท่าทางสองแสบจะชอบบะหมี่หมูฝีมือคุณมัทแล้วนะคะ”
ณัฐนิชาเห็นว่าลูกๆเธอคงจะชอบฝีมือของคนเป็นย่าของพวกเขามากพอตัวอยู่เพราะดูจากการใช้มือม้วนเส้นบะหมี่เข้าปากแบบไม่ขาดสายแบบนั้น
“ถ้วยเดียวไม่พอหรอกจะคงจะมีต่อ...แล้วหนูนิก็เรียกฉันว่าแม่ได้แล้วคุณมัทอะไรกัน”
มัทนาทำเมนูนี้ให้หลานของเธอทานได้สองสามวันแล้วเมื่อเห็นว่าเป็นเมนูโปรดเลยลงมือทำเองแทบทุกวันแถมยังรู้อีกด้วยว่าบะหมี่ที่อยู่ในถ้วยไม่พอให้เด็กๆสองคนได้อิ่มหรอกจะต้องมีต่อ
มัทนาตะขิดตะขวงใจว่าจะพูดกับหญิงสาวตั้งนานแล้วว่าให้หญิงสาวเปลี่ยนเรียกชื่อเธอใหม่เสียทีวันนี้มีโอกาสก็ขอพูดเลยก็แล้วกัน
“ใช่แล้วลูกสะใภ้ควรจะเรียกพ่อปู่กับแม่ย่าว่าพ่อกับแม่น่ะถูกแล้ว”
“...ค่ะ...”
ธำมรงค์เองก็เห็นว่ามันก็เป็นเรื่องที่ควรจะเป็นตั้งนานแล้วดีที่ภรรยาของเขาเอ่ยขึ้นมาเขาจึงช่วยเสริมเพราะเจ้าสองแสบก็หลานของเขาถ้าคนเป็นแม่เรียกปู่กับย่าซะดูห่างเหินก็จะดูไม่เหมาะ
ครู่ต่อมาหลังจากที่ทานอาหารอิ่มแล้วเจ้าแฝดตัวกลมทั้งสองก็ไปเล่นกันต่อโดยคนเป็นย่าปล่อยให้เล่นเพื่อย่อยอาหารเพราะอีกสักพักเธอก็จะพาหลานๆอาบน้ำทานนมนอนกลางวันแล้วตอนนี้บนโต๊ะอาหารก็เหลือแต่คนโตที่นั่งอยู่ด้วยกันพลางพูดคุยกันตามประสาครอบครัว“ผมว่าจะจัดงานแต่งงานให้เร็วที่สุดดีไหมครับคุณแม่”“ก็ดีจะตระกูลเราคนค่อนข้างนับหน้าถือตาดีเลยถือเป็นการเปิดตัวทายาทของลูกในวันนั้นเลย”“พ่อก็เห็นด้วยนะอะไรๆมันจะได้อยู่ถูกที่ถูกทางเสียที”“ครับ”เมฆาคิดว่าในตอนนี้เรื่องราวมันก็เป็นไปในทิศทางที่ดีแล้วตอนนี้เขาก็อยากจะจัดงานแต่งประกาศให้ทุกคนได้รู้ว่าเขานั้นมีลูกมีครอบครัวแล้วและถือเป็นการให้เกียรติหญิงสาวกับลูกๆด้วยทั้งมัทนาและธำมรงค์ก็เห็นดีเห็นงามด้วยว่าควรจะจัดงานแต่งมาให้เร็วที่สุดเพราะไม่อย่างนั้นคนที่เสียหายก็จะเป็นณัฐนิชาเพราะพวกเขารู้ว่าหากเมฆาใช้ชีวิตอยู่กับหญิงสาวไปเรื่อยๆแบบนี้คงไม่วายเป็นข่าวเสียๆหายๆเป็นแน่“พี่นิทานน้อยจังเลยค่ะ...ไม่สบายหรือเปล่าคะเหมือนหวานสังเกตเห็นพี่นิเพลียๆตั้งแต่เข้ามาแล้วเมื่อคืนทำงานดึกเหรอคะ”ตอนนี้ทุกคนก็ท่าทางจะอิ่มกันหมดแล้วรินทร์ธารามองไปยังจานข้าวของพี่ส
“ฉันว่าเวอาจจะอยากใช้ชีวิตแบบนี้อีกสักพักก็ได้...เรื่องแผลใจฉันว่าคงหายดีแล้วหละ”เมฆาเห็นว่าเรื่องแผลใจของธาดานั้นน่าจะหายไปนานแล้วเขาเห็นว่าธาดาอาจจะมีความสุขกับการอยู่แบบนี้มากกว่าส่วนเรื่องอยากจะกลับไปทำงานของตัวเองเมื่อไรเขาเองก็ไปบังคับธาดาไม่ได้เพราะไม่ได้อยากบังคับใจใคร“นี่ภรรยาฉันนิชา”เมฆาถือโอกาสแนะนำหญิงสาวให้ธาวินได้รู้จักตอนที่เธอเดินออกมาพอดี“นิครับนี่ธาวินพี่ชายของเว”“ผมวินยินดีที่ได้รู้จักครับคุณนิชา”“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ...ตามสบายเลยนะคะเดี๋ยวนิขอตัวจัดการงานบ้านก่อน”ตอนนี้ณัฐนิชาอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนที่เป็นแม่บ้านเต็มตัวเมื่อทักทายกับชายหนุ่มเรียบร้อยแล้วเธอเองก็ไม่ได้อยากกวนเวลาของผู้ชายที่เขาจะคุยกันเลยขอปลีกตัวออกไปทำงานบ้านของเธอต่อ“นายหาแม่บ้านสักคนก็ดีนะคุณนิเป็นถึงภรรยานักธุรกิจยังทำงานบ้านเองอีกหรือไง”ธาวินแอบตะขิดตะขวงในใจอยู่เล็กๆที่หญิงสาวเป็นภรรยาของเพื่อนเขาที่เป็นถึงระดับนักธุรกิจใหญ่โตที่ดูแลกิจการหลายอย่างต้องมาทำงานบ้านเอง“เมียฉันเค้าไม่อยากได้เองไม่ใช่ฉันไม่เคยเสนอ...ฉันไม่อยากขัด...เออแล้วอีกสามเดือนฉันจะแต่งงานไปงานฉันด้วยล่ะ”เมฆา
“ฮึก...คุณเว”คำพูดจี้ใจหญิงสาวที่ออกจากปากธาดาทำให้เธอโผเข้ากอดเขาปล่อยโฮอย่างที่ชายหนุ่มไม่ทันตั้งตัวน้อยคนนักที่จะพูดกับเธอและห่วงใยความรู้สึกของเธอแบบนี้ปกติแล้วคนอย่างเธอจะร้องให้กับณัฐนิชาเพียงคนเดียวเท่านั้นแต่ตอนนี้ชายหนุ่มทำให้เธอรู้สึกว่าเธอสบายใจที่จะทำตามเสียงหัวใจตัวเองในเวลาที่อยู่กับเขาเมื่อตอนที่ใช้ชีวิตอยู่บนเกาะก็มีธาดานี่แหละที่เป็นเพื่อนคุยทั้งยังให้คำปรึกษาเรื่องงานกับเธอตลอดจนหญิงสาวค่อนข้างแปลกใจว่าชายหนุ่มนั้นดูจะเก่งเกินบอดี้การ์ดธรรมดาไปเสียมากทั้งเชิงวิชาการและการต่อสู้หรือทักษะอื่นๆไม่ได้น้อยหน้าใครเลยธาดาคงจะเป็นผู้ชายคนที่สองละมั้งที่เธอไว้ใจกับเขาที่จะพูดคุยรองจากคนเป็นพ่อของเธอธาดาไม่ได้พูดอะไรยังคงกอดปลอบเธอกลับและรอให้หญิงสาวปล่อยโฮออกมาให้เต็มที่ไม่นานเธอก็หยุดร้องให้ลงเขาจึงทิ้งรถของเขาไว้ที่นี่และกลับไปส่งเธอที่บ้านบ้านธีธารา“เวโทรมามีอะไรหรือเปล่า”เมฆาเห็นหญิงสาวคุยกับธาดาด้วยสีหน้าเคร่งเครียดอยู่นานสองนานจนเขาต้องกลายเป็นคนเสียมารยาทถามหญิงสาวเรื่องที่คุยโทรศัพท์ด้วยความสงสัย“คือพอดีมีปัญหานิดหน่อยค่ะ...”ณัฐนิชาเล่าสถานการณ์ทั้งหมดให้กับชา
สองเดือนต่อมางานแต่งของเมฆาและณัฐนิชาจัดขึ้นที่เกาะอย่างเรียบง่ายแต่หรูหราให้สมเกียรติถึงแขกในงานจะไม่ได้เยอะมากแต่ก็เป็นคนสำคัญทั้งนั้นและงานแต่งงานครั้งนี้ก็จะเป็นการเปิดเจ้าสองแสบว่าเป็นทายาทคนสำคัญในตระกูลอีกด้วย“ยินดีด้วยนะแกวันนี้แกสวยสุดๆไปเลย”ป๋อมแป๋มเดินเข้างานมาสวมกอดณัฐนิชาด้วยความยินดีด้วยจากใจที่เห็นเพื่อนมีครอบครัวอย่างสมบูรณ์เสียทีวันนี้ณัฐนิชาดูสวยแปลกตาไปมากจนเธอนั้นอดชมไม่ได้เลยจริงๆ“จ้า...เอ...แล้วนี่ทำไมถึงควงมากับคุณเวได้ล่ะ”ณัฐนิชาสังเกตเห็นว่าป๋อมแป๋มนั้นเดินจับมือมากับธาดาจึงต้องถามแกมหยอกเล็กน้อยว่าตกลงสองคนเป็นอะไรกันแน่“อืมม...ก็ตั้งแต่คืนนั้น”ป๋อมแป๋มตอบเพื่อนสาวเธอด้วยท่าทีเขินอายแม้คำพูดจะดูน้อยแต่เมื่อมองตากันก็รู้ใจว่ากำลังคิดอะไรอยู่“หา...จริงดิ...ต้องขอบคุณคุณเวนะที่ดึงแกลงมาจากคานได้เสียที”ณัฐนิชาถึงกับยกมือปิดปากไม่คิดว่าการขอร้องให้ธาดาอยู่เป็นเพื่อนเพื่อนของเธอคืนนั้นจะทำให้ป๋อมแป๋มที่หวงคานนักหนายอมลงจากคานได้“ยินดีด้วยนะคะคุณเมฆ”ป๋อมแป๋มเห็นเมฆาเดินมากับใครอีกคนที่เธอก็พอจะรู้จักอยู่บ้างตามข่าวพร้อมทั้งกล่าวยินดีกับชายหนุ่มด้วยรอยยิ้ม
คฤหาสน์เพตราพิทักษ์ณัฐนิชาตื่นแต่เช้าเพราะวันนี้ถึงจะเป็นวันปิดเทอมของลูกๆเธอแต่เด็กๆก็มีเรียนพิเศษที่ทั้งสองอยากจะเรียนโดยใยไหมนั้นชอบที่จะเรียนบัลเล่ต์ส่วนใบหม่อนนั้นชอบดนตรีเป็นพิเศษเลยเลือกที่จะเรียนดนตรีทั้งหญิงสาวและสามีไม่เคยที่จะบังคับลูกๆของเธอว่าให้เรียนอะไรแต่จะให้เรียนสิ่งที่ลูกๆของเธอเลือกเองและพร้อมสนับสนุนเท่านั้น“คุณเมฆคะเดี๋ยวนิส่งใยไหมกับใบหม่อนเรียบร้อยแล้วจะเข้าไปซื้อของต่อกับคุณแม่ฝากดูแม็คกับมาร์คด้วยนะคะวันนี้นิน่าจะรอรับเด็กๆกลับด้วยเลย...จุ้บ..นิจะรีบไปรีบมานะคะ”วันนี้ณัฐนิชาต้องไปส่งเจ้าสองแฝดวัยห้าขวบกว่าแต่เช้าเพราะวันนี้เธอจะต้องไปเลือกซื้อของเข้าบ้านกับมัทนาต่อตามประสามแม่สามีกับลูกสะใภ้หญิงสาวเห็นว่าวันนี้เป็นวันหยุดของสามีเธอเลยวานให้สามีเธอดูแลลูกๆอีกสองคนเสียเลยก่อนจะก้มลงมาจูบแก้มของเมฆาที่นอนหลับอุตุอยู่บนที่นอนที่ตอนนี้สามีของเธอยังไม่อยากตื่นก็เพราะเมื่อวานมีประชุมที่บริษัทและกลับบ้านมาจนดึก“คร้าบ...”เมฆาตอบรับปากคนเป็นภรรยาทั้งที่ตาก็ยังจะลืมไม่ขึ้นวันนี้เขาต้องรับหน้าที่ดูแลลูกชายวัยสองขวบกับสี่เดือนเองแล้วล่ะสิแต่พ่อลูกอ่อนที่ผ่านการเลี้ยง
เชียงใหม่บ้านธีธารา20.00 น.หลังจากที่ลูกแฝดทั้งสองวัยสองขวบนอนหลับแล้วณัฐนิชาก็ต้องแบกร่างของเธอมาทำงานต่อให้เสร็จเพราะเธอรับงานออกแบบภายในของบ้านให้กับเพื่อนสาวของเธอหลังจากที่หญิงสาวตั้งท้องได้เจ็ดเดือนเธอก็ต้องออกจากงานประจำมาเพื่อดูแลตัวเองและรับงานออกแบบฟรีแลนซ์อยู่กับบ้านแล้วส่งต่องานให้กับเพื่อนของเธอไปเสนอกับลูกค้าอีกทีหญิงสาวทำแบบนี้มาจนลูกทั้งสองของเธอโตจนสองขวบแล้วหญิงสาวตัวเล็กผอมแห้งดวงตากลมโตใบหน้าจิ้มลิ้มผิวขาวเนียนนั่งอยู่หน้าจอคอมอย่างใจจดใจจ่อเพราะอยากให้งานชิ้นนี้เสร็จโดยเร็วเพราะเธอจะได้พาลูกๆของเธอไปเที่ยวทะเลตามที่อยากจะพาลูกแฝดของเธอไป“เด็กๆหลับแล้วเหรอคะพี่นิชา”รินทร์ธาราพึ่งเลิกงานกลับมาบ้านเธอก็ถามหาเจ้าสองแสบหลานของเธอทันทีพร้อมสอดส่องสายตามองลอดเข้าไปในห้องนอนของพี่สาวเธอที่เปิดอยู่“หลับไปเมื่อกี้นี้เอง...ดีแล้วพี่จะได้ทำงานให้เสร็จเร็วๆ..วันนี้ทำไมกลับช้าล่ะ”ณัฐนิชาละมือจากการทำงานพร้อมหันเก้าอี้มาหาน้องสาวของเธอพลางสงสัยเรื่องเวลาเลิกงานของน้องสาวเธอวันนี้เพราะปกติแล้วรินทร์ธารานั้นจะกลับมาทันเล่นกับใยไหมกับใบหม่อนก่อนนอนทุกครั้งแต่วันนี้เจ้าสองแส
“ไม่แกล้งกันนะคะ”ณัฐนิชาอดอมยิ้มในความน่ารักของลูกเธอทั้งสองๆไม่ได้แต่ก็ต้องกลั้นยิ้มไว้ทำเสียงแข็งพร้อมหันไปทางใยไหมลูกสาวจอมแก่นของเธอว่าห้ามแกล้งกันเมื่อคนเป็นแม่สั่งห้ามแกล้งเด็กหญิงก็พักมือลงแต่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ยังคงมีอยู่บนใบหน้าเธอเชื่อฟังคนเป็นแม่ว่าไม่ให้แกล้งน้องแต่เธอก็ยังอมยิ้มอยู่เพราะไม่ได้กลัวอาการทำเป็นดุของคนเป็นแม่เลยสักนิด“หยดนี้ของใบหม่อน...หยดนี้ของใยไหม...ทำยังไงต่อคะ”ณัฐนิชาหยิบฟองน้ำถูตัวของเด็กๆขึ้นมาพร้อมหยดน้ำยาอาบน้ำของเด็กไปที่ฟองน้ำแล้วส่งให้ลูกของเธอทั้งสองเมื่อสองแสบรับไปแล้วหญิงสาวก็ถามถึงว่าขั้นตอนต่อไปกับเจ้าก้อนทั้งสองต้องทำอย่างไรต่อเพื่อฝึกให้ลูกๆของเธอได้ช่วยเหลือตัวเองเป็น“ถูแขน/กับถูขา”“ถูตัวด้วยนะคะ”ทั้งสองแสบตอบคนเป็นแม่ด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้วเฉกเช่นนี้เป็นประจำทุกวันอีกคนตอบถูแขนอีกคนตอบถูขาแล้วเธอเองก็จะเป็นคนบอกว่าให้ถูตัวด้วยเธอสอนให้เด็กๆอาบน้ำขัดตัวเองอย่างนี้มาตั้งแต่ลูกของเธอได้ประมาณขวบครึ่งและลูกๆของเธอก็เชื่อฟังและทำตามได้อย่างดีเป็นที่ปลื้มใจของเธอมาก“นมได้แล้วค่ะ..ขวดนี้ของใครคะ”“หม่อนคร้าบ”“ขวดนี้ของใครเอ่ย”“ไหมค่า”“นอ
“งั้นอีกสามวันเราจะไปที่นั่นกันแกก็เตรียมตัวด้วยล่ะส่วนเด็กๆเดี๋ยวฉันช่วยดูเอง”“แล้วเราไปกันกี่คน”“ก็มีฉันแล้วก็แกกับเด็กๆ...ไปไม่ต้องเยอะฉันว่าเราสองคนไปดูน่าจะโอเคแล้วค่อยกลับมาสั่งงานตามแบบที่อยากได้กับทีมอีกที”ป๋อมแป๋มอยู่คุยกับณัฐนิชาพักใหญ่ทั้งเรื่องงานและเรื่องราวในชีวิตประจำวันสัพเพเหระไปเรื่อยตามประสาเพื่อนเธอก็ต้องกลับเพราะมีธุระที่จะต้องไปติดต่ออีกหลายที่ป๋อมแป๋มเป็นเพื่อนกับณัฐนิชาตั้งแต่เรียนสมัยมหาลัยเธอสองคนเรียนคณะเดียวกันเมื่อเรียนจบก็ยังทำงานที่เดียวกันอีกด้วยเพราะพ่อของป๋อมแป๋มเป็นเจ้าของบริษัทรับออกแบบตกแต่งภายในพอเรียนจบป๋อมแป๋มก็เลยเข้ามาช่วยงานของพ่อเธอที่บริษัทพร้อมทั้งชวนณัฐนิชาไปทำงานด้วยชีวิตตอนนั้นของเธอกำลังไปได้ดีเรียนจบมีงานที่ดีทำแต่เรื่องคืนนั้นเมื่อสามปีก่อนทำให้เธอต้องออกจากงานประจำแต่ยังดีที่ป๋อมแป๋มยังเห็นใจและยื่นมือเข้าช่วยเธอโดยการป้อนงานให้เมื่อนึกถึงอดีตมันแล้วก็ทำให้เธอปวดหัวใจและที่อยู่และมีรอยยิ้มมาได้ทุกวันนี้ก็กำลังใจจากลูกๆของเธอและน้องสาวและเพื่อนที่ดีอย่างป๋อมแป๋มภูเก็ตคฤหาสน์เพตราพิทักษ์18.00 น.“ไงวันนี้ทำไมถึงกลับบ้านได้ฮะตา