Share

บทที่ห้าสิบสอง

“ฉันว่าเวอาจจะอยากใช้ชีวิตแบบนี้อีกสักพักก็ได้...เรื่องแผลใจฉันว่าคงหายดีแล้วหละ”

เมฆาเห็นว่าเรื่องแผลใจของธาดานั้นน่าจะหายไปนานแล้วเขาเห็นว่าธาดาอาจจะมีความสุขกับการอยู่แบบนี้มากกว่าส่วนเรื่องอยากจะกลับไปทำงานของตัวเองเมื่อไรเขาเองก็ไปบังคับธาดาไม่ได้เพราะไม่ได้อยากบังคับใจใคร

“นี่ภรรยาฉันนิชา”

เมฆาถือโอกาสแนะนำหญิงสาวให้ธาวินได้รู้จักตอนที่เธอเดินออกมาพอดี

“นิครับนี่ธาวินพี่ชายของเว”

“ผมวินยินดีที่ได้รู้จักครับคุณนิชา”

“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ...ตามสบายเลยนะคะเดี๋ยวนิขอตัวจัดการงานบ้านก่อน”

ตอนนี้ณัฐนิชาอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนที่เป็นแม่บ้านเต็มตัวเมื่อทักทายกับชายหนุ่มเรียบร้อยแล้วเธอเองก็ไม่ได้อยากกวนเวลาของผู้ชายที่เขาจะคุยกันเลยขอปลีกตัวออกไปทำงานบ้านของเธอต่อ

“นายหาแม่บ้านสักคนก็ดีนะคุณนิเป็นถึงภรรยานักธุรกิจยังทำงานบ้านเองอีกหรือไง”

ธาวินแอบตะขิดตะขวงในใจอยู่เล็กๆที่หญิงสาวเป็นภรรยาของเพื่อนเขาที่เป็นถึงระดับนักธุรกิจใหญ่โตที่ดูแลกิจการหลายอย่างต้องมาทำงานบ้านเอง

“เมียฉันเค้าไม่อยากได้เองไม่ใช่ฉันไม่เคยเสนอ...ฉันไม่อยากขัด...เออแล้วอีกสามเดือนฉันจะแต่งงานไปงานฉันด้วยล่ะ”

เมฆาส่ายหัวให้เพื่อนของเขาพร้อมบอกว่าหญิงสาวต้องการที่จะจัดการทุกอย่างเองเพราะเขาเองก็เคยพูดเรื่องนี้กับเธอแล้วเหมือนกันแต่หญิงสาวก็ยังยืนยันคำเดิมว่าเธอจัดการทุกอยางได้ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องมาคุยเรื่องงานแต่งงานของเขากับหญิงสาวแทน

“ไม่พลาดอยู่แล้ว...ยังไงฉันขอตัวก่อนไม่กวนแล้วมีธุระต้องไปทำต่อ”

“โอเค...แล้วเจอกัน”

ธาวินคิดว่ายังไงเขาก็ไม่พลาดงานนี้อยู่แล้วเพื่อนแต่งงานทั้งทีเขาคิดว่าชีวิตนี้จะไม่ได้เห็นเมฆามีครอบครัวแล้วเสียอีกเมื่อเสร็จธุระของเขาที่นี่แล้วธาวินก็ไม่ได้อยากรบกวนเมฆามากเท่าไรจึงขอตัวกลับก่อนด้วยเขาก็มีธุระอื่นที่จะต้องไปทำต่อเหมือนกัน

ห้างสรรพสินค้า

20.00 น.

“นี่ห้างนี้เค้าประหยัดไฟลดโลกร้อนกันหรือไงทางเดินมันถึงได้มืดขนาดนี้เนี่ย”

ป๋อมแป๋มมาทำธุระที่ห้างตั้งแต่ช่วงบ่ายเพื่อมาคุยงานกับลูกค้ากว่าจะได้กลับก็เล่นเอาฟ้ามืดเหมือนกันหญิงสาวเดินมาที่โรงจอดรถมันทั้งมืดทั้งเปลี่ยวอีกอย่างเธอก็จอดรถซะห่างไกลผู้คนเสียเหลือเกิน

“ส่งของมีค่ามาให้หมด”

หญิงสาวเดินก้มมองหากุญแจรถในกระเป๋าจนลืมสังเกตให้รอบคอบว่ามีใครเดินตามเธอมาหรือเปล่าเมื่อหญิงสาวปลดล็อครถเก๋งคันหรูของเธอได้ก็มีผู้ชายใช้มีดจี้เธอจากทางด้านหลังตอนนี้เธอตัวชาวาบกลัวจนมือไม้สั่นไปหมดภาวนาในใจว่าให้มีใครผ่านมาทางนี้สักคน

“เฮ้ยยย”พลั้ก...ปั้กก...ปั้กกก

“คุณเว....ช่วยด้วยค่ะๆ...มีโจรมาจี้ชิงทรัพย์ค่า”

ในระหว่างที่หญิงสาวยืนหลับตาปี๋ด้วยความกลัวอยู่นั้นจู่ๆเธอก็รู้สึกได้ว่ามีใครดึงตัวเจ้าโจรร้ายนี้ออกไปจากตัวเธอพร้อมได้ยินเสียงชกต่อยต่อสู้กันจึงหันกลับไปดูตอนนี้เอรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาหน่อยที่เห็นธาดาต่อสู้กับโจรเพื่อช่วยเหลือเธออยู่ตอนนี้เธอก็ทำได้แต่มองไปรอบๆและตะโกนเรียกให้คนช่วยอย่างสุดเสียงที่มีอยู่

“หยุดเดี๋ยวนี้นะ”

เมื่อเสียงของหญิงสาวดังขึ้น ร.ป.ภ.ที่อยู่ในระแวกนั้นต่างก็กรูกันเข้ามาที่จุดเกิดเหตุเมื่อโจรพยายามหนี ร.ป.ภ. ก็ช่วยกันรุมสกัดจับไว้ได้

“คุณแป๋มเป็นอะไรไหมครับ...มันได้อะไรจากคุณไปไหม”

ธาดาเห็นว่าตอนนี้โจรก็ได้ถูกจับไปแล้วเขาจึงหันมาดูหญิงสาวถามไถ่เธอว่าเธอเป็นอย่างไรบ้างด้วยความเป็นห่วงเขามาทำธุระแถวนี้พอดีตอนแรกว่าจะทักเธอแต่เมื่อเดินตามเธอมาเรื่อยๆกลับเห็นคนต้องสงสัยเดินตามเธอด้วยอาการแปลกๆจึงซุ่มเดินตามอยู่เงียบๆจนมาเกิดเหตุการณ์เมื่อครู่ขึ้นเขาไอยากจะคิดเลยว่าถ้าหากเขาไม่ได้ตามเธอมาอะไรจะเกิดขึ้นกับเธอบ้าง

“อ๋อ...ไม่มีค่ะดีที่คุณเข้ามาช่วยแป๋มไว้ก่อน...โจรเดี๋ยวนี้มันก็เยอะจริงๆเลยนะคะยังไงก็ขอบคุณคุณเวมากนะคะที่มาช่วยแป๋มเดี๋ยวแป๋มขอตัวกลับก่อนนะคะนี่ก็มืดแล้ว”

ป๋อมแป๋มยังคงไม่แสดงออกถึงความอ่อนแอให้ใครเห็นแม้ตอนนี้เธอจะกลัวจนใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้วก็ตามพร้อมทั้งรีบปิดประตูขึ้นไปนั่งบนรถอย่างรวดเร็วแต่ก็ยังไม่ลืมที่จะขอบใจชายหนุ่มที่เข้ามาช่วยเธอ

“เอ่อ...ครับ”

ธาดารู้สึกว่าหญิงสาวดูแปลกๆไปเขาไม่รู้ว่าเธอไม่คิดอยากจะเอาเรื่องโจรคนนั้นบางเลยหรือไงชายหนุ่มยืนทำหน้าสงสัยอยู่ครู่หนึ่งก็เดินกลับไปที่รถของเขาที่บังเอิญจอดอยู่ไม่ไกลเธอมาก

“เฮ้อ...อืม...ฮึก...ฮือออๆๆๆ”

ป๋อมแป๋มเข้ามานั่งในรถได้ตอนนี้เธอไม่มีกะจิตกะใจที่จะขับรถเพราะมือไม้เธอยังสั่นและตกใจกับเรื่องเมื่อครู่อยู่ไม่หายเธอกลัวจนต้องนั่งร้องให้สะอื้นออกมาอย่างหยุดไม่ได้

หญิงสาวเป็นคนแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆชอบแสดงออกว่าตัวเองเข้มแข็งทั้งที่ในใจอ่อนแอเกินจะทนเธอไม่ชอบทำตัวขี้แยต่อหน้าใครเพราะไม่ค่อยชอบให้ใครมาปลอบมันดูเหมือนเธอน่าสงสาร

ก๊อกๆๆๆ

“เอ่อ...อืม”

ป๋อมแป๋มนั่งสะอื้นฟุบที่พวงมาลัยอยู่พักใหญ่โดยที่ยังไม่ได้ขับรถออกไปไหนเมื่อได้ยินเสียงคนเคาะกระจกก็รีบปาดน้ำตาเงยหน้าขึ้นมาดูทันที

“ค..คุณ.เวยังไม่กลับเหรอคะ”

จู่ๆชายหนุ่มก็เปิดประตูมานั่งที่ข้างคนขับหน้าตาเฉยทำให้หญิงสาวค่อนข้างแปลกใจว่าทำไมเขาถึงยังอยู่ที่นี่อยู่อีก

“ยังครับผมรอดูอยู่ว่าคนขี้แยจะกลับไปเมื่อไร..”

“แป๋มไม่ได้ขี้แยสักหน่อยกำลังจะขับรถกลับพอดีคุณเวก็ลงไปสิคะ”

ป๋อมแป๋มรีบโต้ชายหนุ่มกลับทันทีว่าเธอนั้นไม่ได้เป็นคนขี้แยพร้อมไล่ชายหนุ่มให้ลงจากรถของเธอไปในทางอ้อมๆ

“ผมรู้ว่าคุณกลัว...แต่คุณไม่จำเป็นต้องพยายามทำเป็นเข้มแข็งก็ได้คิดซะว่าผมเป็นเพื่อนสนิทของคุณคนนึงก็แล้วกัน”

ธาดาพยายามพูดกับเธอตามความรู้สึกของเขาในใจไม่ชอบที่จะให้หญิงสาวต้องเป็นแบบนี้เลยเพราะคนเราไม่จำเป็นต้องเข้มแข็งตลอดเวลาก็ได้แค่ร้องให้ออกมาให้คนอื่นเห็นเขาคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องที่น่าอายเลยสักนิด

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status