Share

บทที่สี่

ตอนนี้เมฆาเริ่มร้อนๆหนาวๆเพราะดูท่าทีพ่อกับแม่ของเขาคงจะอยากได้หลานจริงๆเวลานี้เขาก็ยังคิดภาพการมีครอบครัวไม่ออกคิดออกอย่างเดียวก็คือให้พ่อกับแม่ของเขานั้นไปขอร้องน้องชายแทนก็แล้วกัน

“ทำไมโบ้ยมาให้ผมงั้นล่ะพี่...ผมยังไม่อยากมีเมียนะ”

วายุที่กำลังเดินเข้ามาในบ้านเมื่อได้ยินเสียงของพี่ชายเขากำลังหางานให้เขาชายหนุ่มจึงรีบเดินเข้าไปหาทั้งสามที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทานข้าวพร้อมรีบบอกกับทุกคนว่าเขานั้นยังไม่อยากมีเมียและไม่เคยคิดจะหาเหาใส่หัวด้วยทุกวันนี้เขามีความสุขดีอยู่แล้ว

“ตาไวท์...จะกลับมาที่นี่ทำไมไม่โทรบอกกันก่อน”

มัทนาดีใจจนยิ้มหน้าบานที่วันนี้ครอบครัวของเธอนั้นอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาอย่างไม่ได้นัดหมาย

“ก็ผมอยากเซอร์ไพรซ์ทุกคนนี้ครับ...แต่ผมขอบอกก่อนเลยนะครับว่าเรื่องมีลูกมีเมียตอนนี้ผมไม่พร้อม”

วายุว่างจากการแข่งรถแล้วเขาก็ขอกลับมาพักที่บ้านเสียหน่อยพร้อมยืนยันกับทุกคนอย่างจริงจังอีกครั้งว่าการมีครอบครัวตอนนี้มันเป็นเรื่องที่เขานั้นไม่พร้อมจริงๆ

“ฉันจะรอดูนะว่าแกจะลงเอยกับพริตตี้คนไหน”

เมฆาอดหยอกเอิญน้องชายของเขาเรื่องพริตตี้ไม่ได้เพราะเขานั้นเห็นข่าวน้องชายเขากับแม่พริตตี้สาวแทบจะทุกครั้งที่มีการลงแข่งขัน

“แหม!!!พี่..พริตตี้นั่นมันของคู่กับนักแข่งอย่างผมอยู่แล้ว”

วายุยกยิ้มให้พี่ชายเขาเล็กน้อยพร้อมพูดเรื่องพริตตี้กับคนเป็นพี่ด้วยสีหน้าที่ระรื่น

“แม่อยากให้ลูกมีครอบครัวนะแต่ก็ดูดีๆหน่อยก็แล้วกันผู้หญิงที่จะเป็นสะใภ้แม่ต้องผ่านแม่ก่อนเข้าใจหรือเปล่า”

มัทนาได้ยินสองหนุ่มคุยกันเรื่องพริตตี้ก็ต้องรีบขัดขึ้นมาไว้ก่อนว่าถึงเธอจะอยากให้ลูกชายของเธอมีครอบครัวมากเพียงใดแต่ก็ใช่ว่าจะเอาใครมาก็ได้..ลูกสะใภ้ของเธอต้องได้ผ่านการเห็นดีเห็นงามจากเธอก่อนเท่านั้น

“อืม...ผมขอตัวไปพักผ่อนก่อนดีกว่า”

วายุต้องรีบปลีกตัวขอไปพักผ่อนก่อนเพราะเขาไม่อยากจะฟังคนเป็นแม่พูดเรื่องครอบครัวหรืออยากให้เขามีภรรยาอะไรอีกแล้วอีกทั้งกลัวว่าจะโดนต่อว่าเรื่องข่าวฉาวกับพริตตี้อีก

“จะรีบไปไหนตาไวท์มาทานข้าวกับแม่ก่อนสิ”

มัทนาเห็นว่าพึ่งคุยกับลูกชายคนเล็กได้สองสามคำพ่อลูกชายตัวดีก็มาหนีเสียแล้วเธอจึงหันไปมองคนที่เดินตัวปลิวแบบไม่สนคำทัดทานด้วยสีหน้าระอา

“งั้นผมขอตัวด้วยเหมือนกันนะครับอยากพักแล้ว”

เมฆาเห็นว่าแม่ตนเริ่มมีอารมณ์ไม่ดีแล้วเขาก็คิดว่าจะต้องตามน้องชายออกไปเหมือนกันจึงรีบลุกแล้วเดินออกไปทันที

“นี่ก็อีกคนดูลูกคุณสิคะ”

“ลูกผมไม่ใช่ลูกคุณหรือไง”

มัทนาส่ายหัวให้กับลูกชายของเธอทั้งสองคนที่ไม่ค่อยจะได้ดั่งใจแม่เอาเสียเลยพร้อมพาลหาเรื่องคนเป็นสามีอีกต่างหาก

22.00 น.

ดึกแล้วที่นี่ก็ค่อนข้างเงียบต่างจากกรุงเทพที่เมฆาอยู่เป็นประจำอีกอย่างคฤหาสน์ของเขาก็อยู่ห่างจากตัวเมืองมากตอนนี้มันเลยเงียบแบบที่ชายหนุ่มได้ยินเสียงลมเสียงสัตว์เล็กตอนกลางคืนเมื่อยืนอยู่ที่ระเบียง

ถึงไฟในตัวคฤหาสน์แห่งนี้จะมืดลงเกือบหมดเหลือเพียงแสงสว่างของจุดที่ทีโคมไฟด้านหน้าเท่านั้นแต่เมฆาก็ยังไม่สามารถข่มตานอนหลับได้เพราะปกติแล้วเขาเข้านอนอย่างเร็วที่สุดก็ประมาณเที่ยงคืน

เมื่อบรรยากาศอันเงียบสงบแบบนี้มันทำให้ชายหนุ่มต้องนึกย้อนถึงอดีตที่ผ่านมาอีกครั้งเขาไม่สามารถจะกำจัดเรื่องนี้ออกจากหัวของเขาไปได้เลยจริงๆเพราะรู้ตัวว่าเขาทำผิดต่อใครคนหนึ่งเอาไว้โดยที่เขาก็ไม่ได้ตั้งใจ

เมฆาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอคนนั้นเป็นใครอยู่ที่ไหนเพราะตอนนั้นไม่มีสติฤทธิ์ยาที่เขาเผลอโดนวางยาในงานปาร์ตี้ หลังจากที่เขาทำร้ายผู้หญิงคนนั้นอย่างขณะที่ไม่มีสติสมประกอบ

ในเช้าถัดมาเมื่อสามปีก่อนเขาตื่นมาบนเตียงด้วยความมึนงงก็ไม่เจอเธอแล้วมีเพียงแต่ร่องรอยของการร่วมรักกับหญิงสาวและรอยเลือดบนเตียงนุ่มสีขาว

รอยนี้มันทำให้เขาอยากจะเอาหัวโขกกำแพงสักร้อยรอบที่ประมาทจนโดนวางยาแถมยังทำร้ายผู้หญิงที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรอีกต่างหากเมฆาพยายามตามหาเธอจากกล้องวงจรของโรงแรมแต่ก็ได้ความว่ากล้องเสียตอนนั้นเขาหัวเสียอย่างมากที่เลือกพักโรงแรมที่มันไม่ได้มาตรฐานเรื่องระบบความปลอดภัย

“เธอเป็นใครกัน”

เมฆาหยิบสร้อยร็อคเก็ตที่เก็บได้จากในห้องนอนที่โรงแรมในวันนั้นมันคงจะเป็นสร้อยของผู้หญิงที่นอนกับเขาเมฆาเปิดดูมันเป็นล้านรอบแต่ก็ไม่สามารถเห็นใบหน้าคนในร็อคเก็ตได้ชัดเจนเพราะรูปที่ใส่เอาไว้มันค่อนข้างเก่ามากถ้าเดาไม่ผิดก็น่าจะเป็นรูปของพ่อกับแม่หญิงสาวคนที่นอนกับเขาเป็นแน่

2 วันต่อมา

19.00 น.

“จะพาเจ้าสองแสบนี้ไปด้วยจริงๆเหรอพี่นิชา...ให้อยู่กับหวานก็ได้นะหวานกลัวว่าหลานจะไปกวนเปล่าๆ”

รินทร์ธารารู้สึกแอบห่วงพี่สาวของเธอที่จะพาหลานๆทั้งสองของเธอไปทำงานด้วยเธอกลัวว่าเด็กๆจะไปกวนคนเป็นแม่อีกอย่างเธอเองก็ห่วงหลานเธอด้วยที่ต้องไปอยู่แปลกที่แปลกทางแถมแม่ก็ยังไม่มีเวลาพาเที่ยวได้เต็มที่

“พี่ไม่กวนหวานหรอกอีกอย่างพี่คิดว่าพี่รับมือไหวอีกอย่างพี่ก็อยากพาลูกๆไปเที่ยวด้วย”

ณัฐนิชาไม่อยากรบกวนน้องสาวถ้าเธอไม่พาลูกไปด้วยน้องเธอก็ต้องหยุดงานเพื่อมาเลี้ยงหลานอีกอย่างเธอก็แน่ใจแล้วว่าเธอน่าจะรับมือไหวเพราะไปกับป๋อมแป๋มมันทำให้เธออุ่นใจขึ้นมาก

“ทะเล..เย่ๆ”

“ไปทะเล...เย่ๆ”

เสียงของสองแสบที่กำลังนอนเล่นอยู่หน้าทีวีที่มีการ์ตูนเรื่องโปรดฉายอยู่ดูท่าเด็กๆจะไม่ได้สนใจการ์ตูนแล้วตั้งแต่คนเป็นแม่บอกว่าจะพาไปเที่ยวทะเลวันพรุ่งนี้ก็เอาแต่ส่งเสียงพูดว่าทะเลๆอารมณ์ดียกใหญ่

“ท่าทางคงจะอยากเห็นทะเลเต็มแก่แล้วหละ..”

รินทร์ธาราหันไปมองคนเป็นหลานที่นอนกลิ้งตัวกลมเล่นกันส่งเสียงดังอยู่เธอก็เข้าใจแล้วว่าหลานๆของเธอคงจะอยากไปเที่ยวจริงๆนี่คงจะเป็นครั้งแรกที่หลานๆของเธอเดินทางไกลใจของคนเป็นน้าก็อดแอบห่วงไม่ได้แต่เมื่อคิดอีกอย่างว่าหลานจะได้ไปเปิดหูเปิดตาก็พาให้สบายใจขึ้นมาหน่อย

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status