Share

บทที่ห้าสิบสี่ ตอนจบ

สองเดือนต่อมา

งานแต่งของเมฆาและณัฐนิชาจัดขึ้นที่เกาะอย่างเรียบง่ายแต่หรูหราให้สมเกียรติถึงแขกในงานจะไม่ได้เยอะมากแต่ก็เป็นคนสำคัญทั้งนั้นและงานแต่งงานครั้งนี้ก็จะเป็นการเปิดเจ้าสองแสบว่าเป็นทายาทคนสำคัญในตระกูลอีกด้วย

“ยินดีด้วยนะแกวันนี้แกสวยสุดๆไปเลย”

ป๋อมแป๋มเดินเข้างานมาสวมกอดณัฐนิชาด้วยความยินดีด้วยจากใจที่เห็นเพื่อนมีครอบครัวอย่างสมบูรณ์เสียทีวันนี้ณัฐนิชาดูสวยแปลกตาไปมากจนเธอนั้นอดชมไม่ได้เลยจริงๆ

“จ้า...เอ...แล้วนี่ทำไมถึงควงมากับคุณเวได้ล่ะ”

ณัฐนิชาสังเกตเห็นว่าป๋อมแป๋มนั้นเดินจับมือมากับธาดาจึงต้องถามแกมหยอกเล็กน้อยว่าตกลงสองคนเป็นอะไรกันแน่

“อืมม...ก็ตั้งแต่คืนนั้น”

ป๋อมแป๋มตอบเพื่อนสาวเธอด้วยท่าทีเขินอายแม้คำพูดจะดูน้อยแต่เมื่อมองตากันก็รู้ใจว่ากำลังคิดอะไรอยู่

“หา...จริงดิ...ต้องขอบคุณคุณเวนะที่ดึงแกลงมาจากคานได้เสียที”

ณัฐนิชาถึงกับยกมือปิดปากไม่คิดว่าการขอร้องให้ธาดาอยู่เป็นเพื่อนเพื่อนของเธอคืนนั้นจะทำให้ป๋อมแป๋มที่หวงคานนักหนายอมลงจากคานได้

“ยินดีด้วยนะคะคุณเมฆ”

ป๋อมแป๋มเห็นเมฆาเดินมากับใครอีกคนที่เธอก็พอจะรู้จักอยู่บ้างตามข่าวพร้อมทั้งกล่าวยินดีกับชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มที่จริงใจและดีใจกับพวกเขาด้วย

“ครับคุณแป๋ม..นี่ธาวินเพื่อนผมครับเป็นพี่ชายของเว”

เมฆาพอจะรู้ว่าตอนนี้สถานะธาดากับป๋อมแป๋มเป็นอย่างไรเลยถือโอกาสนี้แนะนำเพื่อนของเขาให้เธอได้รู้จักเพราะอีกหน่อยก็คงจะต้องเป็นครอบครัวเดียวกัน

“คุณเมฆ!!”

ธาดาที่ยืนอยู่ด้านหลังป๋อมแป๋มถึงกับส่ายหัวพัลวันเป็นการส่งซิกให้กับเมฆาแต่เห็นว่าจะไม่ทันแล้ว

“อะไรกันคะ”

ป๋อมแป๋มหันมาส่งสายตาคาดโทษให้กับแฟนหนุ่มของเธอที่ไม่เคยบอกเรื่องครอบครัวของตัวเองให้เธอได้ฟังให้เธอเข้าใจว่าแฟนหนุ่มของเธอเป็นเพียงแค่คนสนิทของเมฆามาโดยตลอด

“นี่แกยังไม่ได้บอกแฟนแกหรือไง”

ธาวินถึงกับทำหน้างงเขาคิดว่าน้องชายของเขาจะบอกความจริงกับว่าที่น้องสะใภ้ของเขาแล้วเสียอีก

“ปิดบังเหรอคะ...”

ป๋อมแป๋มยังไม่หยุดที่จะส่งสายตาคาดโทษไปให้ธาดา

“โถ่..ที่รักแค่ยังไม่มีโอกาสบอกเท่านั้นเอง”

ธาดาจำต้องแก้ตัวกับป๋อมแป๋มยกใหญ่ไม่คิดว่าเธอจะมารู้เรื่องในสถานการณ์แบบนี้

“ไม่ต้องค่ะ...ตามกฎค่ะแป๋มจะไม่คุยกับคุณสามอาทิตย์”

ป๋อมแป๋มกอดอกตวัดหางตาใส่ธาดาก่อนจะเดินเข้างานไปอย่างไม่สนใจทิ้งให้ชายหนุ่มยืนหน้าเสียอยู่หน้างานอย่างที่เธอคิดว่าเขาสมควรจะโดน

“เรียนผูกก็เรียนแก้เอาเองละกัน”

ธาวินเห็นว่าน้องชายเขาก็สมควรที่จะโดนแบบนี้แล้วคบกันมาตั้งกี่เดือนๆยังไม่รวมที่รู้จักกันก่อนหน้านี้อีกเขาก็คิดว่าน้องชายเขาจะบอกความจริงกับหญิงสาวว่าตัวเองเป็นใครแล้วเสียอีกใครจะไปคิดว่าทุกวันนี้ยังปิดอยู่

“เพราะพี่นั่นแหละ”

“อ้าว..ฉันผิดซะงั้น”

ธาดาเดินหัวเสียตามป๋อมแป๋มเข้าไปในงานทั้งคิดอยู่ในหัวตลอดว่าเขานั้นจะง้อหญิงสาวอย่างไรดีตอนนี้ความรักของเขาและเธอมันกำลังไปได้สวยด้วยถ้าหากไม่ได้คุยไม่ได้เจอหญิงสาวเกือบเดือนเขาต้องคลั่งตายแน่นอน

22.00 น.

หลังจากงานเลี้ยงเลิกราแล้วสองสามีภรรยาที่พึ่งจะแต่งงานหมาดๆก็ได้อยู่ในห้องหอกันสองต่อสองโดยไม่มีใครมารบกวน

“จะจ้องนิอีกนานไหมคะ”

ณัฐนิชานั่งอยู่หน้ากระจกด้วยชุดนอนสีหวานพลางมองจ้องไปที่สามีของเธอท่าทีแอบเขินพอสมควรเพราะเธอสังเกตเห็นว่าคนเป็นสามีนั้นจ้องเธอไม่ยอมจะลดละสายตาลงเสียทีจนเธอเริ่มประหม่าหมดแล้ว

“ก็วันนี้เมียผมสวยที่สุดเลยนี่ครับ”

เมฆาที่นอนอยู่บนเตียงนุ่มตะแคงมองจ้องคนเป็นภรรยาไม่ลดละไม่หยุดที่จะเอ่ยชมภรรยาแสนสวยและน่ารักของเขานับวันๆเธอยิ่งน่ามองขึ้นเรื่อยๆไม่มีคำเบื่อสำหรับเขาเลยสักนิด

“วันนี้นิมีความสุขมากเลยค่ะ”

ณัฐนิชาเดินเข้ามานอนที่เตียงนุ่มสวมกอดคนเป็นสามีวันนี้เธอมีความสุขมากจริงๆชีวิตผู้หญิงคนนึงก็หวังว่าจะมีงานแต่งงานกับเขาสักครั้งวันนี้เธอก็ได้มีสมใจแล้วและครอบครัวของสามีเธอก็ให้เกียรติเธอมากๆด้วยและมากไปกว่านั้นที่เธอมีความสุขเห็นจะเป็นสามีของเธอที่รักเธอลูกๆอย่างไม่มีข้อแม้นี่แหละ

“ผมสัญญาว่าต่อไปนี้ผมจะไม่มีวันทำให้คุณเสียใจแม้แต่น้อยเลย”

“นิเชื่อค่ะ”

คำสัญญาที่ออกมาจากปากชายหนุ่มณัฐนิชารู้วามันไม่มีคำโกหกแม้แต่น้อยเพราะการกระทำที่ผ่านมามันทำให้เธอเชื่อเขาได้อย่างสนิทใจ

3 ปีต่อมา

หลังจากแต่งงานชีวิตของเมฆาและณัฐนิชาก็มีแต่ความสุขมากขึ้นเรื่อยๆตอนนี้ณัฐนิชาก็ได้ให้กำเนิดลูกชายอีกสองคนแล้วตอนนี้เมฆาเลยกลายเป็นคุณพ่อลูกสี่ที่มีความสุขอยู่กับลูกๆเขามาก

ส่วนวายุกับรินทร์ธาราถึงจะแต่งงานกันได้สองปีแล้วทั้งสองก็ยังสนุกกับการทำงานและการท่องเที่ยวกันสองคนอยู่จึงยังไม่มีทายาททั้งสองขอสนุกกับชีวิตแบบนี้ไปสักพักและฝึกเลี้ยงเด็กๆโดยการเลี้ยงหลานๆของพวกเขาไปก่อน

ธาดากับป๋อมแป๋มก็ตัวติดกันเป็นแตงเมเพราะธาดาไม่ยอมให้หญิงสาวไปไหนมาไหนหรืออยู่คนเดียวงานก็ไม่ให้ทำให้อยู่เป็นแม่บ้านเลี้ยงลูกอย่างเดียวเพราะตอนนี้ธาดาและป๋อมแป๋มมีโซ่ทองคล้องใจเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนวัยสองขวบเรียบร้อยแล้วเพราะหลังจากแต่งงานก็ตั้งหน้าตั้งตาผลิตทายาททันที

ชีวิตของพวกเขาก็จะดูแฮปปี้กันมากเป็นพิเศษเพราะทุกคนต่างผ่านอะไรในชีวิตมามากจึงทำให้ค่อนข้างเข้าใจอะไรในหลายๆอย่างทำให้เข้าอกเข้าใจเห็นใจซึ่งกันและกัน

ความเข้าใจซึ่งกันและกันข้อนี้จึงเป็นข้อสำคัญการทำให้แต่ละคู่มีความสุขในทุกๆวันยามสุขก็สุขด้วยกันมากๆยามทุกข์ก็ช่วยกันแก้ไขนี่แหละเป็นข้อคิดของคู่ชีวิตที่ทำให้อยู่กันนาน

                                                                                                                   จบบริบูรณ์

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status