สองเดือนต่อมา
งานแต่งของเมฆาและณัฐนิชาจัดขึ้นที่เกาะอย่างเรียบง่ายแต่หรูหราให้สมเกียรติถึงแขกในงานจะไม่ได้เยอะมากแต่ก็เป็นคนสำคัญทั้งนั้นและงานแต่งงานครั้งนี้ก็จะเป็นการเปิดเจ้าสองแสบว่าเป็นทายาทคนสำคัญในตระกูลอีกด้วย
“ยินดีด้วยนะแกวันนี้แกสวยสุดๆไปเลย”
ป๋อมแป๋มเดินเข้างานมาสวมกอดณัฐนิชาด้วยความยินดีด้วยจากใจที่เห็นเพื่อนมีครอบครัวอย่างสมบูรณ์เสียทีวันนี้ณัฐนิชาดูสวยแปลกตาไปมากจนเธอนั้นอดชมไม่ได้เลยจริงๆ
“จ้า...เอ...แล้วนี่ทำไมถึงควงมากับคุณเวได้ล่ะ”
ณัฐนิชาสังเกตเห็นว่าป๋อมแป๋มนั้นเดินจับมือมากับธาดาจึงต้องถามแกมหยอกเล็กน้อยว่าตกลงสองคนเป็นอะไรกันแน่
“อืมม...ก็ตั้งแต่คืนนั้น”
ป๋อมแป๋มตอบเพื่อนสาวเธอด้วยท่าทีเขินอายแม้คำพูดจะดูน้อยแต่เมื่อมองตากันก็รู้ใจว่ากำลังคิดอะไรอยู่
“หา...จริงดิ...ต้องขอบคุณคุณเวนะที่ดึงแกลงมาจากคานได้เสียที”
ณัฐนิชาถึงกับยกมือปิดปากไม่คิดว่าการขอร้องให้ธาดาอยู่เป็นเพื่อนเพื่อนของเธอคืนนั้นจะทำให้ป๋อมแป๋มที่หวงคานนักหนายอมลงจากคานได้
“ยินดีด้วยนะคะคุณเมฆ”
ป๋อมแป๋มเห็นเมฆาเดินมากับใครอีกคนที่เธอก็พอจะรู้จักอยู่บ้างตามข่าวพร้อมทั้งกล่าวยินดีกับชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มที่จริงใจและดีใจกับพวกเขาด้วย
“ครับคุณแป๋ม..นี่ธาวินเพื่อนผมครับเป็นพี่ชายของเว”
เมฆาพอจะรู้ว่าตอนนี้สถานะธาดากับป๋อมแป๋มเป็นอย่างไรเลยถือโอกาสนี้แนะนำเพื่อนของเขาให้เธอได้รู้จักเพราะอีกหน่อยก็คงจะต้องเป็นครอบครัวเดียวกัน
“คุณเมฆ!!”
ธาดาที่ยืนอยู่ด้านหลังป๋อมแป๋มถึงกับส่ายหัวพัลวันเป็นการส่งซิกให้กับเมฆาแต่เห็นว่าจะไม่ทันแล้ว
“อะไรกันคะ”
ป๋อมแป๋มหันมาส่งสายตาคาดโทษให้กับแฟนหนุ่มของเธอที่ไม่เคยบอกเรื่องครอบครัวของตัวเองให้เธอได้ฟังให้เธอเข้าใจว่าแฟนหนุ่มของเธอเป็นเพียงแค่คนสนิทของเมฆามาโดยตลอด
“นี่แกยังไม่ได้บอกแฟนแกหรือไง”
ธาวินถึงกับทำหน้างงเขาคิดว่าน้องชายของเขาจะบอกความจริงกับว่าที่น้องสะใภ้ของเขาแล้วเสียอีก
“ปิดบังเหรอคะ...”
ป๋อมแป๋มยังไม่หยุดที่จะส่งสายตาคาดโทษไปให้ธาดา
“โถ่..ที่รักแค่ยังไม่มีโอกาสบอกเท่านั้นเอง”
ธาดาจำต้องแก้ตัวกับป๋อมแป๋มยกใหญ่ไม่คิดว่าเธอจะมารู้เรื่องในสถานการณ์แบบนี้
“ไม่ต้องค่ะ...ตามกฎค่ะแป๋มจะไม่คุยกับคุณสามอาทิตย์”
ป๋อมแป๋มกอดอกตวัดหางตาใส่ธาดาก่อนจะเดินเข้างานไปอย่างไม่สนใจทิ้งให้ชายหนุ่มยืนหน้าเสียอยู่หน้างานอย่างที่เธอคิดว่าเขาสมควรจะโดน
“เรียนผูกก็เรียนแก้เอาเองละกัน”
ธาวินเห็นว่าน้องชายเขาก็สมควรที่จะโดนแบบนี้แล้วคบกันมาตั้งกี่เดือนๆยังไม่รวมที่รู้จักกันก่อนหน้านี้อีกเขาก็คิดว่าน้องชายเขาจะบอกความจริงกับหญิงสาวว่าตัวเองเป็นใครแล้วเสียอีกใครจะไปคิดว่าทุกวันนี้ยังปิดอยู่
“เพราะพี่นั่นแหละ”
“อ้าว..ฉันผิดซะงั้น”
ธาดาเดินหัวเสียตามป๋อมแป๋มเข้าไปในงานทั้งคิดอยู่ในหัวตลอดว่าเขานั้นจะง้อหญิงสาวอย่างไรดีตอนนี้ความรักของเขาและเธอมันกำลังไปได้สวยด้วยถ้าหากไม่ได้คุยไม่ได้เจอหญิงสาวเกือบเดือนเขาต้องคลั่งตายแน่นอน
22.00 น.
หลังจากงานเลี้ยงเลิกราแล้วสองสามีภรรยาที่พึ่งจะแต่งงานหมาดๆก็ได้อยู่ในห้องหอกันสองต่อสองโดยไม่มีใครมารบกวน
“จะจ้องนิอีกนานไหมคะ”
ณัฐนิชานั่งอยู่หน้ากระจกด้วยชุดนอนสีหวานพลางมองจ้องไปที่สามีของเธอท่าทีแอบเขินพอสมควรเพราะเธอสังเกตเห็นว่าคนเป็นสามีนั้นจ้องเธอไม่ยอมจะลดละสายตาลงเสียทีจนเธอเริ่มประหม่าหมดแล้ว
“ก็วันนี้เมียผมสวยที่สุดเลยนี่ครับ”
เมฆาที่นอนอยู่บนเตียงนุ่มตะแคงมองจ้องคนเป็นภรรยาไม่ลดละไม่หยุดที่จะเอ่ยชมภรรยาแสนสวยและน่ารักของเขานับวันๆเธอยิ่งน่ามองขึ้นเรื่อยๆไม่มีคำเบื่อสำหรับเขาเลยสักนิด
“วันนี้นิมีความสุขมากเลยค่ะ”
ณัฐนิชาเดินเข้ามานอนที่เตียงนุ่มสวมกอดคนเป็นสามีวันนี้เธอมีความสุขมากจริงๆชีวิตผู้หญิงคนนึงก็หวังว่าจะมีงานแต่งงานกับเขาสักครั้งวันนี้เธอก็ได้มีสมใจแล้วและครอบครัวของสามีเธอก็ให้เกียรติเธอมากๆด้วยและมากไปกว่านั้นที่เธอมีความสุขเห็นจะเป็นสามีของเธอที่รักเธอลูกๆอย่างไม่มีข้อแม้นี่แหละ
“ผมสัญญาว่าต่อไปนี้ผมจะไม่มีวันทำให้คุณเสียใจแม้แต่น้อยเลย”
“นิเชื่อค่ะ”
คำสัญญาที่ออกมาจากปากชายหนุ่มณัฐนิชารู้วามันไม่มีคำโกหกแม้แต่น้อยเพราะการกระทำที่ผ่านมามันทำให้เธอเชื่อเขาได้อย่างสนิทใจ
3 ปีต่อมา
หลังจากแต่งงานชีวิตของเมฆาและณัฐนิชาก็มีแต่ความสุขมากขึ้นเรื่อยๆตอนนี้ณัฐนิชาก็ได้ให้กำเนิดลูกชายอีกสองคนแล้วตอนนี้เมฆาเลยกลายเป็นคุณพ่อลูกสี่ที่มีความสุขอยู่กับลูกๆเขามาก
ส่วนวายุกับรินทร์ธาราถึงจะแต่งงานกันได้สองปีแล้วทั้งสองก็ยังสนุกกับการทำงานและการท่องเที่ยวกันสองคนอยู่จึงยังไม่มีทายาททั้งสองขอสนุกกับชีวิตแบบนี้ไปสักพักและฝึกเลี้ยงเด็กๆโดยการเลี้ยงหลานๆของพวกเขาไปก่อน
ธาดากับป๋อมแป๋มก็ตัวติดกันเป็นแตงเมเพราะธาดาไม่ยอมให้หญิงสาวไปไหนมาไหนหรืออยู่คนเดียวงานก็ไม่ให้ทำให้อยู่เป็นแม่บ้านเลี้ยงลูกอย่างเดียวเพราะตอนนี้ธาดาและป๋อมแป๋มมีโซ่ทองคล้องใจเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนวัยสองขวบเรียบร้อยแล้วเพราะหลังจากแต่งงานก็ตั้งหน้าตั้งตาผลิตทายาททันที
ชีวิตของพวกเขาก็จะดูแฮปปี้กันมากเป็นพิเศษเพราะทุกคนต่างผ่านอะไรในชีวิตมามากจึงทำให้ค่อนข้างเข้าใจอะไรในหลายๆอย่างทำให้เข้าอกเข้าใจเห็นใจซึ่งกันและกัน
ความเข้าใจซึ่งกันและกันข้อนี้จึงเป็นข้อสำคัญการทำให้แต่ละคู่มีความสุขในทุกๆวันยามสุขก็สุขด้วยกันมากๆยามทุกข์ก็ช่วยกันแก้ไขนี่แหละเป็นข้อคิดของคู่ชีวิตที่ทำให้อยู่กันนาน
จบบริบูรณ์
คฤหาสน์เพตราพิทักษ์ณัฐนิชาตื่นแต่เช้าเพราะวันนี้ถึงจะเป็นวันปิดเทอมของลูกๆเธอแต่เด็กๆก็มีเรียนพิเศษที่ทั้งสองอยากจะเรียนโดยใยไหมนั้นชอบที่จะเรียนบัลเล่ต์ส่วนใบหม่อนนั้นชอบดนตรีเป็นพิเศษเลยเลือกที่จะเรียนดนตรีทั้งหญิงสาวและสามีไม่เคยที่จะบังคับลูกๆของเธอว่าให้เรียนอะไรแต่จะให้เรียนสิ่งที่ลูกๆของเธอเลือกเองและพร้อมสนับสนุนเท่านั้น“คุณเมฆคะเดี๋ยวนิส่งใยไหมกับใบหม่อนเรียบร้อยแล้วจะเข้าไปซื้อของต่อกับคุณแม่ฝากดูแม็คกับมาร์คด้วยนะคะวันนี้นิน่าจะรอรับเด็กๆกลับด้วยเลย...จุ้บ..นิจะรีบไปรีบมานะคะ”วันนี้ณัฐนิชาต้องไปส่งเจ้าสองแฝดวัยห้าขวบกว่าแต่เช้าเพราะวันนี้เธอจะต้องไปเลือกซื้อของเข้าบ้านกับมัทนาต่อตามประสามแม่สามีกับลูกสะใภ้หญิงสาวเห็นว่าวันนี้เป็นวันหยุดของสามีเธอเลยวานให้สามีเธอดูแลลูกๆอีกสองคนเสียเลยก่อนจะก้มลงมาจูบแก้มของเมฆาที่นอนหลับอุตุอยู่บนที่นอนที่ตอนนี้สามีของเธอยังไม่อยากตื่นก็เพราะเมื่อวานมีประชุมที่บริษัทและกลับบ้านมาจนดึก“คร้าบ...”เมฆาตอบรับปากคนเป็นภรรยาทั้งที่ตาก็ยังจะลืมไม่ขึ้นวันนี้เขาต้องรับหน้าที่ดูแลลูกชายวัยสองขวบกับสี่เดือนเองแล้วล่ะสิแต่พ่อลูกอ่อนที่ผ่านการเลี้ยง
เชียงใหม่บ้านธีธารา20.00 น.หลังจากที่ลูกแฝดทั้งสองวัยสองขวบนอนหลับแล้วณัฐนิชาก็ต้องแบกร่างของเธอมาทำงานต่อให้เสร็จเพราะเธอรับงานออกแบบภายในของบ้านให้กับเพื่อนสาวของเธอหลังจากที่หญิงสาวตั้งท้องได้เจ็ดเดือนเธอก็ต้องออกจากงานประจำมาเพื่อดูแลตัวเองและรับงานออกแบบฟรีแลนซ์อยู่กับบ้านแล้วส่งต่องานให้กับเพื่อนของเธอไปเสนอกับลูกค้าอีกทีหญิงสาวทำแบบนี้มาจนลูกทั้งสองของเธอโตจนสองขวบแล้วหญิงสาวตัวเล็กผอมแห้งดวงตากลมโตใบหน้าจิ้มลิ้มผิวขาวเนียนนั่งอยู่หน้าจอคอมอย่างใจจดใจจ่อเพราะอยากให้งานชิ้นนี้เสร็จโดยเร็วเพราะเธอจะได้พาลูกๆของเธอไปเที่ยวทะเลตามที่อยากจะพาลูกแฝดของเธอไป“เด็กๆหลับแล้วเหรอคะพี่นิชา”รินทร์ธาราพึ่งเลิกงานกลับมาบ้านเธอก็ถามหาเจ้าสองแสบหลานของเธอทันทีพร้อมสอดส่องสายตามองลอดเข้าไปในห้องนอนของพี่สาวเธอที่เปิดอยู่“หลับไปเมื่อกี้นี้เอง...ดีแล้วพี่จะได้ทำงานให้เสร็จเร็วๆ..วันนี้ทำไมกลับช้าล่ะ”ณัฐนิชาละมือจากการทำงานพร้อมหันเก้าอี้มาหาน้องสาวของเธอพลางสงสัยเรื่องเวลาเลิกงานของน้องสาวเธอวันนี้เพราะปกติแล้วรินทร์ธารานั้นจะกลับมาทันเล่นกับใยไหมกับใบหม่อนก่อนนอนทุกครั้งแต่วันนี้เจ้าสองแส
“ไม่แกล้งกันนะคะ”ณัฐนิชาอดอมยิ้มในความน่ารักของลูกเธอทั้งสองๆไม่ได้แต่ก็ต้องกลั้นยิ้มไว้ทำเสียงแข็งพร้อมหันไปทางใยไหมลูกสาวจอมแก่นของเธอว่าห้ามแกล้งกันเมื่อคนเป็นแม่สั่งห้ามแกล้งเด็กหญิงก็พักมือลงแต่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ยังคงมีอยู่บนใบหน้าเธอเชื่อฟังคนเป็นแม่ว่าไม่ให้แกล้งน้องแต่เธอก็ยังอมยิ้มอยู่เพราะไม่ได้กลัวอาการทำเป็นดุของคนเป็นแม่เลยสักนิด“หยดนี้ของใบหม่อน...หยดนี้ของใยไหม...ทำยังไงต่อคะ”ณัฐนิชาหยิบฟองน้ำถูตัวของเด็กๆขึ้นมาพร้อมหยดน้ำยาอาบน้ำของเด็กไปที่ฟองน้ำแล้วส่งให้ลูกของเธอทั้งสองเมื่อสองแสบรับไปแล้วหญิงสาวก็ถามถึงว่าขั้นตอนต่อไปกับเจ้าก้อนทั้งสองต้องทำอย่างไรต่อเพื่อฝึกให้ลูกๆของเธอได้ช่วยเหลือตัวเองเป็น“ถูแขน/กับถูขา”“ถูตัวด้วยนะคะ”ทั้งสองแสบตอบคนเป็นแม่ด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้วเฉกเช่นนี้เป็นประจำทุกวันอีกคนตอบถูแขนอีกคนตอบถูขาแล้วเธอเองก็จะเป็นคนบอกว่าให้ถูตัวด้วยเธอสอนให้เด็กๆอาบน้ำขัดตัวเองอย่างนี้มาตั้งแต่ลูกของเธอได้ประมาณขวบครึ่งและลูกๆของเธอก็เชื่อฟังและทำตามได้อย่างดีเป็นที่ปลื้มใจของเธอมาก“นมได้แล้วค่ะ..ขวดนี้ของใครคะ”“หม่อนคร้าบ”“ขวดนี้ของใครเอ่ย”“ไหมค่า”“นอ
“งั้นอีกสามวันเราจะไปที่นั่นกันแกก็เตรียมตัวด้วยล่ะส่วนเด็กๆเดี๋ยวฉันช่วยดูเอง”“แล้วเราไปกันกี่คน”“ก็มีฉันแล้วก็แกกับเด็กๆ...ไปไม่ต้องเยอะฉันว่าเราสองคนไปดูน่าจะโอเคแล้วค่อยกลับมาสั่งงานตามแบบที่อยากได้กับทีมอีกที”ป๋อมแป๋มอยู่คุยกับณัฐนิชาพักใหญ่ทั้งเรื่องงานและเรื่องราวในชีวิตประจำวันสัพเพเหระไปเรื่อยตามประสาเพื่อนเธอก็ต้องกลับเพราะมีธุระที่จะต้องไปติดต่ออีกหลายที่ป๋อมแป๋มเป็นเพื่อนกับณัฐนิชาตั้งแต่เรียนสมัยมหาลัยเธอสองคนเรียนคณะเดียวกันเมื่อเรียนจบก็ยังทำงานที่เดียวกันอีกด้วยเพราะพ่อของป๋อมแป๋มเป็นเจ้าของบริษัทรับออกแบบตกแต่งภายในพอเรียนจบป๋อมแป๋มก็เลยเข้ามาช่วยงานของพ่อเธอที่บริษัทพร้อมทั้งชวนณัฐนิชาไปทำงานด้วยชีวิตตอนนั้นของเธอกำลังไปได้ดีเรียนจบมีงานที่ดีทำแต่เรื่องคืนนั้นเมื่อสามปีก่อนทำให้เธอต้องออกจากงานประจำแต่ยังดีที่ป๋อมแป๋มยังเห็นใจและยื่นมือเข้าช่วยเธอโดยการป้อนงานให้เมื่อนึกถึงอดีตมันแล้วก็ทำให้เธอปวดหัวใจและที่อยู่และมีรอยยิ้มมาได้ทุกวันนี้ก็กำลังใจจากลูกๆของเธอและน้องสาวและเพื่อนที่ดีอย่างป๋อมแป๋มภูเก็ตคฤหาสน์เพตราพิทักษ์18.00 น.“ไงวันนี้ทำไมถึงกลับบ้านได้ฮะตา
ตอนนี้เมฆาเริ่มร้อนๆหนาวๆเพราะดูท่าทีพ่อกับแม่ของเขาคงจะอยากได้หลานจริงๆเวลานี้เขาก็ยังคิดภาพการมีครอบครัวไม่ออกคิดออกอย่างเดียวก็คือให้พ่อกับแม่ของเขานั้นไปขอร้องน้องชายแทนก็แล้วกัน“ทำไมโบ้ยมาให้ผมงั้นล่ะพี่...ผมยังไม่อยากมีเมียนะ”วายุที่กำลังเดินเข้ามาในบ้านเมื่อได้ยินเสียงของพี่ชายเขากำลังหางานให้เขาชายหนุ่มจึงรีบเดินเข้าไปหาทั้งสามที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทานข้าวพร้อมรีบบอกกับทุกคนว่าเขานั้นยังไม่อยากมีเมียและไม่เคยคิดจะหาเหาใส่หัวด้วยทุกวันนี้เขามีความสุขดีอยู่แล้ว“ตาไวท์...จะกลับมาที่นี่ทำไมไม่โทรบอกกันก่อน”มัทนาดีใจจนยิ้มหน้าบานที่วันนี้ครอบครัวของเธอนั้นอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาอย่างไม่ได้นัดหมาย“ก็ผมอยากเซอร์ไพรซ์ทุกคนนี้ครับ...แต่ผมขอบอกก่อนเลยนะครับว่าเรื่องมีลูกมีเมียตอนนี้ผมไม่พร้อม”วายุว่างจากการแข่งรถแล้วเขาก็ขอกลับมาพักที่บ้านเสียหน่อยพร้อมยืนยันกับทุกคนอย่างจริงจังอีกครั้งว่าการมีครอบครัวตอนนี้มันเป็นเรื่องที่เขานั้นไม่พร้อมจริงๆ“ฉันจะรอดูนะว่าแกจะลงเอยกับพริตตี้คนไหน”เมฆาอดหยอกเอิญน้องชายของเขาเรื่องพริตตี้ไม่ได้เพราะเขานั้นเห็นข่าวน้องชายเขากับแม่พริตตี้สาวแทบจะทุกคร
21.00 น.ณัฐนิชาเตรียมตัวเก็บของเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอจึงมานั่งหน้าจอโน้ตบุ๊คเลื่อนดูไอเดียต่างๆก่อนนอนนิดหน่อยจู่ๆก็มีรูปภาพรูปหนึ่งทำที่เธอเห็นแล้วต้องรีบปิดโน๊ตบุ๊คทันทีเพราะไม่มีอารมณ์ที่จะหาไอเดียอะไรต่อหญิงสาวหน้าเจื่อนขึ้นมาเล็กน้อยภาพที่เธอเห็นเมื่อครู่มันเป็นภาพร็อคเก็ตสีเงินที่เหมือนกับของเธออย่างมากมันทำเธอนึกถึงวันที่เธอได้ทำมันหายไปเมื่อสามปีก่อนตอนที่เลี้ยงฉลองกับพวกป๋อมแป๋มเธอก็โดนท้าให้ดื่มน้ำเมาไปเป็นจำนวนมากทั้งที่เธอไม่เคยดื่มมาก่อนเมื่อรู้ว่าตัวเองไม่ไหวก็เลยพยายามที่จะพาตัวเองมาที่ห้องพักที่ลูกค้าเป็นคนจัดห้องไว้ให้ทีมของพวกเธอแต่ในขณะที่เธอกำลังเดินสะเปะสะปะไปมาเพื่อที่จะกลับห้องพักนั้นจู่ๆก็มีผู้ชายมาลากเธอเข้าไปทำมิดีมิร้ายในห้องมืดเธอไม่รู้ว่าเขาเป็นใครหน้าตาของเขาเธอก็จำไม่ได้เพราะวันนั้นเธอเมาจนแทบไม่มีสติและไม่มีแรงแม้แต่จะต่อต้านคนที่กำลังทำร้ายเธอเมื่อเรื่องเลวร้ายจบลงตอนนี้เธอก็รีบคว้าสิ่งที่มันปิดบังร่างกายเธอได้มาคลุมที่ตัวพยายามมองหาคีย์การ์ดห้องของเธอเมื่อเจอแล้วเธอก็ไม่คิดแม้แต่จะมองคนที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงที่ทำร้ายเธอแม้แต่นิดเดียวเธอรีบออกมาจากห้
“เรามานั่งคุยกันตรงนี้ดีกว่าค่ะ”ป๋อมแป๋มเห็นว่าเจอมัทนาก็เป็นการดีจะได้ถือโอกาสนี้คุยเรื่องสเปคของงานที่อยากได้เลยจะดีกว่าคืนนี้จะได้มีเวลาเตรียมตัวก่อนที่จะไปสถานที่จริงด้วย“เห็นคุณเมฆบอกว่าคุณมัทเป็นคนอยากแต่งบ้านคุณมัทอยากได้ประมาณไหนบอกเราไว้ก่อนได้นะคะเผื่อเป็นแนวทาง”เมื่อทั้งสามมานั่งที่โต๊ะหน้าบ้านเรียบร้อยแล้วป๋อมแป๋มจึงเปิดประเด็นคุยเรื่องงานทันทีเพราะเธออยากได้แนวทางก่อนที่เธอจะไปดูงานจะได้ตัดสินใจกับณัฐนิชาในเรื่องการออกแบบให้ถูกใจกับเจ้าของบ้าน“อืมม...อันที่จริงฉันก็อยากให้บ้านหลังนั้นเป็นเรือนหอของตาเมฆเค้าน่ะ...แต่ตาเมฆอยากให้บ้านหลังนั้นเป็นที่พักผ่อนมากกว่า”มัทนาทำสีหน้าครุ่นคิดพร้อมบอกสิ่งที่ต้องการกับสองสาวเธอเองก็ยังนึกภาพไม่ออกเหมือนกันว่าอยากให้มันเป็นแบบไหน“นิว่าทั้งสองอย่างมันสามารถรวมกันได้ค่ะคุณมัท...แล้วคุณมัทพอจะรู้ไหมคะว่าคุณเมฆกับแฟนคุณเมฆเค้าชอบอะไรแบบไหน”ณัฐนิชากำลังจดสิ่งที่มัทนาต้องการอยู่พร้อมถามถึงความชอบของคนที่จะต้องอยู่ว่าพวกเค้านั้นมีรสนิยมประมาณไหนเธอจะได้ออกแบบถูก“คือตาเมฆยังไม่มีแฟนหรอกจะแต่ฉันแค่อยากจะเตรียมไว้เฉยๆ..เอาแบบนี้ฉันให้พวก
“ผู้ชายก็แบบนี้แหละค่ะคงจะรักชีวิตโสดมันอิสระดี”ป๋อมแป๋มเข้าใจว่าชีวิตคนสมัยนี้หากทำแต่งานและยิ่งเป็นเจ้าของธุรกิจแล้วล่ะก็เรื่องพวกนี้ไม่ต้องพูดถึงเลยเพราะเธอเองก็ยังรักชีวิตโสดเลย“พูดแบบนี้แสดงว่าหนูแป๋มก็โสดเหมือนกันใช่ไหม”มัทนาอมยิ้มมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตามีเลศนัยเธอพอจะดูออกว่าคนที่มีความคิดแบบนี้น่าจะยังโสดเหมือนๆลูกชายเธอแน่“ค่ะแป๋มว่ามันอิสระดีนะคะ...ขอโสดยาวๆเลย”ป๋อมแป๋มเองก็ตอบหญิงตรงหน้าไปตามตรงเพราะเธอนั้นก็ยังรู้สึกว่าชีวิตโสดของเธอตอนนี้มันก็มีความสุขดีและเธอก็ยังนึกไม่ออกด้วยว่าถ้าหากเธอนั้นมีครอบครัวแล้วเธอจะมีชีวิตเป็นแบบไหน“นมได้แล้วค่ะเด็กๆ”ณัฐนิชาถือขวดนมขวดใหญ่สองขวดมาตั้งที่โต๊ะพร้อมนั่งลงที่เก้าอี้ก่อนส่งนมให้กับลูกๆของเธอใยไหมเมื่อได้รับขวดนมก็ปีนขึ้นมานอนตักของคนเป็นแม่ทันทีโดยที่คนเป็นแม่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวเป็นแบบนี้แทบทุกครั้งไป“มาใบหม่อนมานอนตักยายก็ได้”มัทนาเห็นว่าหญิงสาวคงอุ้มลูกทีเดียวสองคนไม่ไหวแน่จึงอุ้มใบหม่อนมานอนบนตักอย่างเอ็นดู“เอ่อ..คุณมัทจะเมื่อยเอานะคะ”ณัฐนิชาเห็นว่ามัทนาจะเมื่อเอาเพราะใบหม่อนตัวก็ไม่ได้เบาไปกว่าใยไหมเลย“ไม่เป็นไร