Share

บทที่ห้าสิบเอ็ด

ครู่ต่อมา

หลังจากที่ทานอาหารอิ่มแล้วเจ้าแฝดตัวกลมทั้งสองก็ไปเล่นกันต่อโดยคนเป็นย่าปล่อยให้เล่นเพื่อย่อยอาหารเพราะอีกสักพักเธอก็จะพาหลานๆอาบน้ำทานนมนอนกลางวันแล้วตอนนี้บนโต๊ะอาหารก็เหลือแต่คนโตที่นั่งอยู่ด้วยกันพลางพูดคุยกันตามประสาครอบครัว

“ผมว่าจะจัดงานแต่งงานให้เร็วที่สุดดีไหมครับคุณแม่”

“ก็ดีจะตระกูลเราคนค่อนข้างนับหน้าถือตาดีเลยถือเป็นการเปิดตัวทายาทของลูกในวันนั้นเลย”

“พ่อก็เห็นด้วยนะอะไรๆมันจะได้อยู่ถูกที่ถูกทางเสียที”

“ครับ”

เมฆาคิดว่าในตอนนี้เรื่องราวมันก็เป็นไปในทิศทางที่ดีแล้วตอนนี้เขาก็อยากจะจัดงานแต่งประกาศให้ทุกคนได้รู้ว่าเขานั้นมีลูกมีครอบครัวแล้วและถือเป็นการให้เกียรติหญิงสาวกับลูกๆด้วยทั้งมัทนาและธำมรงค์ก็เห็นดีเห็นงามด้วยว่าควรจะจัดงานแต่งมาให้เร็วที่สุดเพราะไม่อย่างนั้นคนที่เสียหายก็จะเป็นณัฐนิชาเพราะพวกเขารู้ว่าหากเมฆาใช้ชีวิตอยู่กับหญิงสาวไปเรื่อยๆแบบนี้คงไม่วายเป็นข่าวเสียๆหายๆเป็นแน่

“พี่นิทานน้อยจังเลยค่ะ...ไม่สบายหรือเปล่าคะเหมือนหวานสังเกตเห็นพี่นิเพลียๆตั้งแต่เข้ามาแล้วเมื่อคืนทำงานดึกเหรอคะ”

ตอนนี้ทุกคนก็ท่าทางจะอิ่มกันหมดแล้วรินทร์ธารามองไปยังจานข้าวของพี่สาวเธอก็ยังไม่ยุบไปเท่าไรเลยอีกอย่างพี่สาวเธอก็ดูจะเพลียๆด้วยจึงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

“อ๋อ...เอ่อ...ใช่จะ...”

ณัฐนิชาตอบคำถามรินทร์ธาราอึกๆอักๆไปไม่เป็นตอนนี้หน้าเธอแดงเป็นลูกตำลึงจนทุกคนเห็นได้ชัด

“เดี๋ยวขอตัวไปดูเด็กๆก่อนนะคะ”

ก่อนจะขอตัวไปดูลูกๆเธอที่เล่นกันอยู่ทีสวนหน้าบ้านทันที

“..เดี๋ยวผมไปด้วย..”

เมฆาเองเห็นถึงสายตาของทั้งพ่อแม่และก็น้องชายจับจ้องมาทางเขาด้วยท่าทีมีเลศนัยจึงรีบเดินตามหลังหญิงสาวไปในทันทีเพราะเขารู้ว่าทั้งสามรู้ว่าที่หญิงสาวมีอาการเพลียเหตุมันเกิดมาเพราะอะไร

“คุณ...ไปถามอะไรพี่คุณแบบนั้นเล่า”

วายุหันมาหาหญิงสาวพร้อมพูดกับเธอปนขำเล็กน้อยที่ไปถามอะไรไม่ได้ดูตาม้าตาเรือ

“ฉันก็แค่เป็นห่วงพี่สาวฉันมันผิดตรงไหนล่ะ”

รินทร์ธาราไม่เข้าใจว่าเธอแค่เป็นห่วงพี่สาวมันผิดตรงไหนไม่เข้าใจว่าทำไมวายุต้องมาขำเธอด้วย

“คุณไม่เห็นหรือไงพี่คุณอายหน้าแดงเดินออกไปแล้วยังไม่รู้สึกอีก...คุณสองคนนั้นเค้าเป็นผัวเมียกันอยู่ด้วยกันสองคนเค้าจะนอนดึกบ้างมันก็เป็นเรื่องของเค้า”

วายุเห็นว่าเรื่องนี้เขาคงต้องอธิบายให้หญิงสาวได้เข้าใจแบบอ้อมๆจะพูดแบบโจ่งแจ้งเลยพ่อกับแม่เขานั่งอยู่ด้วยก็จะน่าเกลียด

“อืมม...จริงด้วยลืมไปสนิทเลยว่าเค้าคืนดีกันแล้วนี่นา”

รินทร์ธาราเริ่มมีอาการเคอะเขินเล็กน้อยเธอพอที่จะเข้าใจคำที่วายุพูดขึ้นมาบ้างแล้วหละในตอนนี้

“ปล่อยให้เด็กๆอยู่กับปู่กับย่าอีกสักหน่อยนะหนูนิ”

มัทนากับณัฐนิชาช่วยกันกล่อมเด็กๆให้นอนกลางวันมัทนาถือโอกาสขอหลานๆเธอให้อยู่ต่อกับเธออีกสักหน่อยเสียเลยเพราะยังอยากที่จะเลี้ยงหลานๆต่ออีกอย่างเธอก็อยากจะปล่อยให้พ่อกับแม่ของเด็กๆอยู่กันสองต่อสองหวานกันอีกสักพักเผื่อเธอจะได้หลานเพิ่มขึ้นมาอีก

“เอ่อ..ก็ได้ค่ะ”

ณัฐนิชาในใจก็อยากจะนอนกอดลูกๆเธอบ้างแต่ก็เข้าใจว่าทั้งปู่และย่าคงจะอยากอยู่กับหลานๆต่อเธอเองก็ไม่ได้อยากจะห้ามยังไงลูกของเธอก็ต้องอยู่กับเธออย่างถาวรอยู่แล้วตอนนี้ก็ถือซะว่าให้เด็กๆได้สร้างความสดชื่นกับปู่และย่าไปพลางๆก็แล้วกัน 

“แม่ดีใจนะที่ได้หนูนิเป็นลูกสะใภ้แถมยังมีหลานๆที่น่ารักอีกต่อไปนี้เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะถ้าหนูมีอะไรที่ไม่สบายใจแม่พร้อมเป็นที่ปรึกษาเสมอ”

มัทนานั่งคุยกับณัฐนิชาด้วยความเอ็นดูในเมื่อตอนนี้หญิงสาวก็เป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวเธอแล้วอีกอย่างเธอก็เห็นว่าหญิงสาวไม่มีญาติผู้ใหญ่ที่ไหนเวลาจะหันหน้าปรึกษาใครก็หาได้ยากเธอเลยเสนอตัวเป็นที่ปรึกษาสำหรับหญิงสาวอีกคน

“ขอบคุณที่คุณแม่เมตตานินะคะ”

ณัฐนิชายกมือขอบคุณหญิงตรงหน้าด้วยใจจริงที่เมตตาเธอกับลูกๆด้วยความจริงใจเสมอมาไม่คิดที่จะรังเกียจแม้นเธอเป็นแค่คนธรรมดาไม่ได้มีฐานะอะไร

ก๊อกๆๆ

“คุยอะไรกันอยู่เหรอครับ...”

เมฆาเห็นว่าแม่ของเขาและณัฐนิชาหายกันมานานแล้วจึงเข้ามาตามในห้อง

“เปล่า...แม่ก็คุยกับหนูนิตามประสาผู้หญิงน่ะ..อ่อ..แล้วเด็กๆแม่ยังไม่ให้กลับนะขอให้อยู่กับแม่อีกสักหน่อยแม่คุยกับหนูนิแล้ว”

“นิชาว่ายังไงผมก็ว่าตามนั้นแหละครับ”

เมฆาไม่ได้ขัดอะไรหากแม่เขาอยากจะให้หลานๆอยู่ต่อหากณัฐนิชาว่าดีเขาก็เห็นดีด้วยวินาทีนี้เขาไม่อยากขัดใจอะไรหญิงสาวทั้งนั้น

“เจ้าลูกคนนี้นะ”

มัทนาอมยิ้มแก้มปริชี้หน้าเอ่ยหยอกลูกชายคนโตที่เดี๋ยวนี้อะไรก็ตามใจภรรยาซึ่งนั่นมันก็เป็นเรื่องที่ดีเพราะเธอเชื่อว่าสามีให้เกียรติภรรยาถูกต้องที่สุด

3 วันต่อมา

“หวัดดีแบบเรือลำใหม่ฉันเอามาให้นายดู”

ธาวินนัดเจอกับเมฆาที่บ้านของณัฐนิชาเพื่อคุยกันเรื่องแบบเรือลำใหม่ที่บริษัทของเมฆานั้นสั่งทำ

“ไง...มาถึงที่นี่ได้คงไม่ใช่เอาแบบเรือมาให้ดูอย่างเดียวละมั้ง”

เมฆารู้ดีว่าการที่ธาวินมาคุยกับเขาเองถึงที่นี่คงไม่ใช่คุยเรื่องแบบเรืออย่างเดียวเป็นแน่เพราะเรื่องนั้นมันคุยกันผ่านเมลก็ได้เขาคิดว่าคนอย่างธาวินอยากจะรู้เรื่องน้องชายของตัวเองจากปากของเขามากกว่า

“น้องฉันท่าทางจะอยู่กับนายยาวเลยหรือไง...ไม่เข้าใจว่าทำไมยังไม่ลืมซะที”

ธาวินไม่เห็นมีวี่แววว่าน้องชายของเขาจะกลับไปช่วยงานเขาไม่เข้าใจว่าเรื่องในอดีตมันจะทำให้น้องชายของเขาฝังใจขนาดนั้นเลยหรืออย่างไร

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status