“ไม่แกล้งกันนะคะ”
ณัฐนิชาอดอมยิ้มในความน่ารักของลูกเธอทั้งสองๆไม่ได้แต่ก็ต้องกลั้นยิ้มไว้ทำเสียงแข็งพร้อมหันไปทางใยไหมลูกสาวจอมแก่นของเธอว่าห้ามแกล้งกัน
เมื่อคนเป็นแม่สั่งห้ามแกล้งเด็กหญิงก็พักมือลงแต่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ยังคงมีอยู่บนใบหน้าเธอเชื่อฟังคนเป็นแม่ว่าไม่ให้แกล้งน้องแต่เธอก็ยังอมยิ้มอยู่เพราะไม่ได้กลัวอาการทำเป็นดุของคนเป็นแม่เลยสักนิด
“หยดนี้ของใบหม่อน...หยดนี้ของใยไหม...ทำยังไงต่อคะ”
ณัฐนิชาหยิบฟองน้ำถูตัวของเด็กๆขึ้นมาพร้อมหยดน้ำยาอาบน้ำของเด็กไปที่ฟองน้ำแล้วส่งให้ลูกของเธอทั้งสองเมื่อสองแสบรับไปแล้วหญิงสาวก็ถามถึงว่าขั้นตอนต่อไปกับเจ้าก้อนทั้งสองต้องทำอย่างไรต่อเพื่อฝึกให้ลูกๆของเธอได้ช่วยเหลือตัวเองเป็น
“ถูแขน/กับถูขา”
“ถูตัวด้วยนะคะ”
ทั้งสองแสบตอบคนเป็นแม่ด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้วเฉกเช่นนี้เป็นประจำทุกวันอีกคนตอบถูแขนอีกคนตอบถูขาแล้วเธอเองก็จะเป็นคนบอกว่าให้ถูตัวด้วยเธอสอนให้เด็กๆอาบน้ำขัดตัวเองอย่างนี้มาตั้งแต่ลูกของเธอได้ประมาณขวบครึ่งและลูกๆของเธอก็เชื่อฟังและทำตามได้อย่างดีเป็นที่ปลื้มใจของเธอมาก
“นมได้แล้วค่ะ..ขวดนี้ของใครคะ”
“หม่อนคร้าบ”
“ขวดนี้ของใครเอ่ย”
“ไหมค่า”
“นอนดื่มนมแล้วห้ามซนนะคะเดี๋ยวคุณแม่ขอตัวอาบน้ำแปปเดียวค่ะ”
หลังจากที่อาบน้ำให้เจ้าสองแสบเสร็จเรียบร้อยแล้วขั้นตอนต่อไปก็คือพาเจ้าสองแสบมาดื่มนมแล้วก็ได้เวลาของเธอที่จะต้องจัดการตัวเองต่อก็คือการอาบน้ำเพราะหลังจากที่อาบน้ำให้เจ้าสองแสบเสร็จทีไรตัวของเธอก็จะเปียกชื้นอยู่ทุกทีไปด้วยความซนของซนของลูกๆเธอนั่นเอง
“สองแสบลูกหมูของน้าแป๋ม...มาให้น้าฟัดหน่อยเร็ว”
“อิ..คริๆ..ฮ่าๆๆๆๆ/ฮ่าๆๆ”
ช่วงบ่ายของวันณัฐนิชากำลังนั่งอ่านหนังสือเกี่ยวกับไอเดียตกแต่งบ้านต่างๆแบบเพลินๆโดยมีเจ้าสองแสบจอมป่วนวิ่งเล่นกันอยู่ใกล้เธอก็ต้องเงยหน้าขึ้นเบนความสนใจหนังสือไปสนใจเสียงแหลมๆของเพื่อนสาวเธอที่เข้ามาในบ้านอย่างหน้าชื่นตาบานพร้อมกอดรัดฟัดเหวี่ยงลูกๆของเธออย่างหมั่นเขี้ยวทำเอาเจ้าสองแสบหัวเราะกันคิกคัก
“ฉันกำลังจะส่งเมลให้แกพอดี...จะมาทำไมไม่บอกกันก่อนล่ะ”
หลังจากที่เด็กๆหันไปสนใจกับขนมและของเล่นที่ป๋อมแป๋มซื้อมาให้ณัฐนิชาก็มีโอกาสได้นั่งคุยกับป๋อมแป๋มเธอกำลังจะส่งงานให้เพื่อนเธออยู่พอดีไม่คิดว่าเพื่อนจะแวะมาหากะทันหัน
“ฉันมาทำธุระแถวนี้พอดีก็เลยซื้อขนมกับของเล่นมาฝากเจ้าสองแสบซะหน่อย...ว่าแต่แกจะส่งเมลให้ฉันงานเสร็จแล้วเหรอทำไมไวจังล่ะ”
ป๋อมแป๋มเธอมาทำธุระใกล้ๆกับหมู่บ้านของณัฐนิชาเลยถือโอกาสมาหาหลานๆของเธอด้วยหญิงสาวแปลกใจนิดหน่อยที่ได้ยินเพื่อนเธอพูดว่าจะส่งงานให้เพราะครั้งนี้มันเสร็จไวกว่าทุกครั้ง
“ฉันเร่งให้เสร็จเพื่อที่จะได้เงินจากแกเร็วๆไงฉันจะพาลูกไปเที่ยวทะเลอยากพาเด็กๆได้เปิดหูเปิดตาบ้าง”
ญัฐนิชามองหน้าเพื่อนสาวที่กำลังทำหน้าสงสัยด้วยรอยยิ้มพร้อมบอกถึงเหตุผลที่ต้องเร่งให้งานเสร็จเร็ว
“ฉันว่าจะคุยเรื่องนี้กับแกอยู่พอดีไหนๆก็มาแล้ว...พอดีว่าคนที่เค้าจ้างให้บริษัทฉันออกแบบที่แกพึ่งทำเสร็จเค้ามีบ้านอีกหลังที่ภูเก็ตน่าจะบนเกาะส่วนตัวของเค้าและเค้าก็อยากให้ทางเราไปเห็นงานด้วยตัวเองเลยจะออกค่าเดินทางกับที่พักให้เราไปดูงานเองแล้วงานนี้ฉันก็ว่าจะส่งให้แกทำเพราะน่าจะได้เงินก้อนที่มากกว่างานนี้หลายเท่าก็เลยจะมาบอกกแกให้เตรียมตัวไปกับฉันส่วนเด็กๆแกก็เอาไปด้วยถือว่าไปเที่ยวในตัว”
ป๋อมแป๋มเห็นว่าเพื่อนเธออยากจะพาลูกๆไปเที่ยวทะเลพอดีก็นึกขึ้นได้ว่าได้คุยกับลูกค้าเอาไว้ว่าจะบินไปดูงานแล้วที่นั่นก็ติดทะเลเลยถือโอกาสนี้ให้ณัฐนิชาได้ไปทำงานด้วยและพาหลานๆของเธอไปเที่ยวเสียทีเดียวเลยเพราะครั้งนี้ที่อยู่ที่กินแถมค่าเดินทางลูกค้าคนนี้เป็นคนออกให้หมดอีกต่างหาก
“เอาลูกฉันไปด้วยเกรงใจลูกค้าแย่เลย”
ณัฐนิชามีสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัดใจจริงมันก็ดีถ้าเธอได้ทำงานและเที่ยวไปในตัวด้วยแต่เธอก็กลัวว่าลูกค้าจะมองไม่ดีว่าเอาลูกไปด้วยในขณะที่ไปทำงาน
“ฉันว่าเค้าคงไม่ว่าอะไรหรอก...ฉันว่าลูกค้าเราคนนี้เค้าใจดีอยู่นะจากที่ฉันเคยคุยกับเค้าเมื่อสามปีก่อนและก็ติดต่อเรื่องงานกันเรื่อยมา”
ป๋อมแป๋มรู้จักลูกค้าคนนี้ดีว่ามีนิสัยเป็นอย่างไรเพราะติดต่อกันมาหลายงานแล้วอีกอย่างเธอก็คิดว่าหลานๆของเธอคงจะดูแลไม่ยากเท่าไรเพราะเด็กทั้งสองถึงจะดูซนๆแต่ก็เชื่อฟังคำพูดของผู้ใหญ่
“เค้าเคยเป็นลูกค้าเก่าเราเหรอแก”
ณัฐนิชาก็พึ่งรู้วันนี้ว่าลูกค้าคนนี้เคยเป็นลูกค้าเก่าเพราะปกติเธอได้งานมาก็ไม่เคยถามถึงลูกค้าที่จ้างเท่าไรเมื่อทำเสร็จแล้วส่งกับรับเงินเท่านั้นเพราะงานทุกอย่างเธอส่งผ่านกับป๋อมแป๋มทั้งหมดไม่ได้ดิวกับลูกค้าโดยตรงเหมือนเมื่อก่อนที่ยังทำงานประจำ
“ใช่สิ..ตอนนั้นไงที่แกยังเป็นพนักงานประจำกับฉันอยู่..ที่เราออกแบบตกแต่งภายในบ้านจัดสรรค์ให้กับเค้าแต่แกน่าจะยังไม่เคยเจอเพราะตอนนั้นแกติดธุระเลยไม่ได้ดิวงานกับเค้าพร้อมฉัน...ลูกค้าเราคนนี้น่าจะชอบฝีมือของบริษัทเรามากนะลงทุนจ้างทีมซะไกลเลย”
ป๋อมแป๋มพยักหน้าตอบหญิงสาวรู้ว่าเพื่อนเธอน่าจะยังไม่เคยเจอลูกค้าคนนี้ถ้าจำไม่ผิดเพราะตอนนั้นที่เธอเจอกับลูกค้าเมื่อสามปีที่แล้วตอนนั้นญัฐนิชาก็ติดธุระมาดิวงานพร้อมเธอไม่ได้เลยไม่ได้เจอกัน ป๋อมแป๋มแอบปลื้มลูกค้าคนนี้อยู่มากที่เขาอยู่ไกลแค่ไหนก็ยังมาจ้างบริษัทของเธอทำงานและพร้อมจ่ายไม่อั้นด้วย
“อ๋อ...อืม..”
เมื่อณัฐนิชาได้ยินเพื่อนของเธอพูดถึงเรื่องเมื่อสามปีก่อนเธอแทบจะสะอึกเพราะเธอไม่อยากจะคิดถึงมันอีกน่ะสิเพราะงานนั้นเองที่ทำให้เธอต้องเจอกับเรื่องที่มันไม่น่าเกิด
“งั้นอีกสามวันเราจะไปที่นั่นกันแกก็เตรียมตัวด้วยล่ะส่วนเด็กๆเดี๋ยวฉันช่วยดูเอง”“แล้วเราไปกันกี่คน”“ก็มีฉันแล้วก็แกกับเด็กๆ...ไปไม่ต้องเยอะฉันว่าเราสองคนไปดูน่าจะโอเคแล้วค่อยกลับมาสั่งงานตามแบบที่อยากได้กับทีมอีกที”ป๋อมแป๋มอยู่คุยกับณัฐนิชาพักใหญ่ทั้งเรื่องงานและเรื่องราวในชีวิตประจำวันสัพเพเหระไปเรื่อยตามประสาเพื่อนเธอก็ต้องกลับเพราะมีธุระที่จะต้องไปติดต่ออีกหลายที่ป๋อมแป๋มเป็นเพื่อนกับณัฐนิชาตั้งแต่เรียนสมัยมหาลัยเธอสองคนเรียนคณะเดียวกันเมื่อเรียนจบก็ยังทำงานที่เดียวกันอีกด้วยเพราะพ่อของป๋อมแป๋มเป็นเจ้าของบริษัทรับออกแบบตกแต่งภายในพอเรียนจบป๋อมแป๋มก็เลยเข้ามาช่วยงานของพ่อเธอที่บริษัทพร้อมทั้งชวนณัฐนิชาไปทำงานด้วยชีวิตตอนนั้นของเธอกำลังไปได้ดีเรียนจบมีงานที่ดีทำแต่เรื่องคืนนั้นเมื่อสามปีก่อนทำให้เธอต้องออกจากงานประจำแต่ยังดีที่ป๋อมแป๋มยังเห็นใจและยื่นมือเข้าช่วยเธอโดยการป้อนงานให้เมื่อนึกถึงอดีตมันแล้วก็ทำให้เธอปวดหัวใจและที่อยู่และมีรอยยิ้มมาได้ทุกวันนี้ก็กำลังใจจากลูกๆของเธอและน้องสาวและเพื่อนที่ดีอย่างป๋อมแป๋มภูเก็ตคฤหาสน์เพตราพิทักษ์18.00 น.“ไงวันนี้ทำไมถึงกลับบ้านได้ฮะตา
ตอนนี้เมฆาเริ่มร้อนๆหนาวๆเพราะดูท่าทีพ่อกับแม่ของเขาคงจะอยากได้หลานจริงๆเวลานี้เขาก็ยังคิดภาพการมีครอบครัวไม่ออกคิดออกอย่างเดียวก็คือให้พ่อกับแม่ของเขานั้นไปขอร้องน้องชายแทนก็แล้วกัน“ทำไมโบ้ยมาให้ผมงั้นล่ะพี่...ผมยังไม่อยากมีเมียนะ”วายุที่กำลังเดินเข้ามาในบ้านเมื่อได้ยินเสียงของพี่ชายเขากำลังหางานให้เขาชายหนุ่มจึงรีบเดินเข้าไปหาทั้งสามที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทานข้าวพร้อมรีบบอกกับทุกคนว่าเขานั้นยังไม่อยากมีเมียและไม่เคยคิดจะหาเหาใส่หัวด้วยทุกวันนี้เขามีความสุขดีอยู่แล้ว“ตาไวท์...จะกลับมาที่นี่ทำไมไม่โทรบอกกันก่อน”มัทนาดีใจจนยิ้มหน้าบานที่วันนี้ครอบครัวของเธอนั้นอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาอย่างไม่ได้นัดหมาย“ก็ผมอยากเซอร์ไพรซ์ทุกคนนี้ครับ...แต่ผมขอบอกก่อนเลยนะครับว่าเรื่องมีลูกมีเมียตอนนี้ผมไม่พร้อม”วายุว่างจากการแข่งรถแล้วเขาก็ขอกลับมาพักที่บ้านเสียหน่อยพร้อมยืนยันกับทุกคนอย่างจริงจังอีกครั้งว่าการมีครอบครัวตอนนี้มันเป็นเรื่องที่เขานั้นไม่พร้อมจริงๆ“ฉันจะรอดูนะว่าแกจะลงเอยกับพริตตี้คนไหน”เมฆาอดหยอกเอิญน้องชายของเขาเรื่องพริตตี้ไม่ได้เพราะเขานั้นเห็นข่าวน้องชายเขากับแม่พริตตี้สาวแทบจะทุกคร
21.00 น.ณัฐนิชาเตรียมตัวเก็บของเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอจึงมานั่งหน้าจอโน้ตบุ๊คเลื่อนดูไอเดียต่างๆก่อนนอนนิดหน่อยจู่ๆก็มีรูปภาพรูปหนึ่งทำที่เธอเห็นแล้วต้องรีบปิดโน๊ตบุ๊คทันทีเพราะไม่มีอารมณ์ที่จะหาไอเดียอะไรต่อหญิงสาวหน้าเจื่อนขึ้นมาเล็กน้อยภาพที่เธอเห็นเมื่อครู่มันเป็นภาพร็อคเก็ตสีเงินที่เหมือนกับของเธออย่างมากมันทำเธอนึกถึงวันที่เธอได้ทำมันหายไปเมื่อสามปีก่อนตอนที่เลี้ยงฉลองกับพวกป๋อมแป๋มเธอก็โดนท้าให้ดื่มน้ำเมาไปเป็นจำนวนมากทั้งที่เธอไม่เคยดื่มมาก่อนเมื่อรู้ว่าตัวเองไม่ไหวก็เลยพยายามที่จะพาตัวเองมาที่ห้องพักที่ลูกค้าเป็นคนจัดห้องไว้ให้ทีมของพวกเธอแต่ในขณะที่เธอกำลังเดินสะเปะสะปะไปมาเพื่อที่จะกลับห้องพักนั้นจู่ๆก็มีผู้ชายมาลากเธอเข้าไปทำมิดีมิร้ายในห้องมืดเธอไม่รู้ว่าเขาเป็นใครหน้าตาของเขาเธอก็จำไม่ได้เพราะวันนั้นเธอเมาจนแทบไม่มีสติและไม่มีแรงแม้แต่จะต่อต้านคนที่กำลังทำร้ายเธอเมื่อเรื่องเลวร้ายจบลงตอนนี้เธอก็รีบคว้าสิ่งที่มันปิดบังร่างกายเธอได้มาคลุมที่ตัวพยายามมองหาคีย์การ์ดห้องของเธอเมื่อเจอแล้วเธอก็ไม่คิดแม้แต่จะมองคนที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงที่ทำร้ายเธอแม้แต่นิดเดียวเธอรีบออกมาจากห้
“เรามานั่งคุยกันตรงนี้ดีกว่าค่ะ”ป๋อมแป๋มเห็นว่าเจอมัทนาก็เป็นการดีจะได้ถือโอกาสนี้คุยเรื่องสเปคของงานที่อยากได้เลยจะดีกว่าคืนนี้จะได้มีเวลาเตรียมตัวก่อนที่จะไปสถานที่จริงด้วย“เห็นคุณเมฆบอกว่าคุณมัทเป็นคนอยากแต่งบ้านคุณมัทอยากได้ประมาณไหนบอกเราไว้ก่อนได้นะคะเผื่อเป็นแนวทาง”เมื่อทั้งสามมานั่งที่โต๊ะหน้าบ้านเรียบร้อยแล้วป๋อมแป๋มจึงเปิดประเด็นคุยเรื่องงานทันทีเพราะเธออยากได้แนวทางก่อนที่เธอจะไปดูงานจะได้ตัดสินใจกับณัฐนิชาในเรื่องการออกแบบให้ถูกใจกับเจ้าของบ้าน“อืมม...อันที่จริงฉันก็อยากให้บ้านหลังนั้นเป็นเรือนหอของตาเมฆเค้าน่ะ...แต่ตาเมฆอยากให้บ้านหลังนั้นเป็นที่พักผ่อนมากกว่า”มัทนาทำสีหน้าครุ่นคิดพร้อมบอกสิ่งที่ต้องการกับสองสาวเธอเองก็ยังนึกภาพไม่ออกเหมือนกันว่าอยากให้มันเป็นแบบไหน“นิว่าทั้งสองอย่างมันสามารถรวมกันได้ค่ะคุณมัท...แล้วคุณมัทพอจะรู้ไหมคะว่าคุณเมฆกับแฟนคุณเมฆเค้าชอบอะไรแบบไหน”ณัฐนิชากำลังจดสิ่งที่มัทนาต้องการอยู่พร้อมถามถึงความชอบของคนที่จะต้องอยู่ว่าพวกเค้านั้นมีรสนิยมประมาณไหนเธอจะได้ออกแบบถูก“คือตาเมฆยังไม่มีแฟนหรอกจะแต่ฉันแค่อยากจะเตรียมไว้เฉยๆ..เอาแบบนี้ฉันให้พวก
“ผู้ชายก็แบบนี้แหละค่ะคงจะรักชีวิตโสดมันอิสระดี”ป๋อมแป๋มเข้าใจว่าชีวิตคนสมัยนี้หากทำแต่งานและยิ่งเป็นเจ้าของธุรกิจแล้วล่ะก็เรื่องพวกนี้ไม่ต้องพูดถึงเลยเพราะเธอเองก็ยังรักชีวิตโสดเลย“พูดแบบนี้แสดงว่าหนูแป๋มก็โสดเหมือนกันใช่ไหม”มัทนาอมยิ้มมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตามีเลศนัยเธอพอจะดูออกว่าคนที่มีความคิดแบบนี้น่าจะยังโสดเหมือนๆลูกชายเธอแน่“ค่ะแป๋มว่ามันอิสระดีนะคะ...ขอโสดยาวๆเลย”ป๋อมแป๋มเองก็ตอบหญิงตรงหน้าไปตามตรงเพราะเธอนั้นก็ยังรู้สึกว่าชีวิตโสดของเธอตอนนี้มันก็มีความสุขดีและเธอก็ยังนึกไม่ออกด้วยว่าถ้าหากเธอนั้นมีครอบครัวแล้วเธอจะมีชีวิตเป็นแบบไหน“นมได้แล้วค่ะเด็กๆ”ณัฐนิชาถือขวดนมขวดใหญ่สองขวดมาตั้งที่โต๊ะพร้อมนั่งลงที่เก้าอี้ก่อนส่งนมให้กับลูกๆของเธอใยไหมเมื่อได้รับขวดนมก็ปีนขึ้นมานอนตักของคนเป็นแม่ทันทีโดยที่คนเป็นแม่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวเป็นแบบนี้แทบทุกครั้งไป“มาใบหม่อนมานอนตักยายก็ได้”มัทนาเห็นว่าหญิงสาวคงอุ้มลูกทีเดียวสองคนไม่ไหวแน่จึงอุ้มใบหม่อนมานอนบนตักอย่างเอ็นดู“เอ่อ..คุณมัทจะเมื่อยเอานะคะ”ณัฐนิชาเห็นว่ามัทนาจะเมื่อเอาเพราะใบหม่อนตัวก็ไม่ได้เบาไปกว่าใยไหมเลย“ไม่เป็นไร
“ได้ฟังแล้วก็ใจหาย..”มัทนาได้ฟังชีวิตของหญิงสาวเธอก็อดสงสารไม่ได้เสียทั้งพ่อและแม่ไปแล้วดันไม่มีสามีช่วยเลี้ยงลูกอีกเธออยากจะรู้จริงๆว่าสามีของเธอทิ้งภรรยาที่สวยน่ารักจิ้มลิ้มกับลูกตาดำๆนี้ได้อย่างไร“ว่ายังไงดื่มนมก็ต้องเขี่ยขนตาด้วยหรือไงรูปหล่อฮะ...”มัทนาเปลี่ยนจากคุยเรื่องที่มันดูเศร้าๆมาสนใจเจ้าก้อนกลมที่อยู่ในอ้อมแขนแทนเพราะเธอสังเกตมาครู่หนึ่งแล้วว่าใบหม่อนนั้นดื่มนมแล้วจะต้องเขี่ยขนตาตลอดเวลาดูน่าเอ็นดูจนเธออยากจะฟัดสักหลายๆรอบ“ท่าประจำเวลาเค้าดื่มนมเลยล่ะค่ะคุณมัท”ป๋อมแป๋มอดขำกับท่าทางหลานชายเธอไม่ได้ก่อนจะบอกหญิงตรงหน้าว่านี่คือท่าประจำของเจ้าตัวเค้าเลยเกาะเพตรา18.00 น.“คุณเมฆจะไปไหนคะ”ดาวเรืองแม่บ้านที่ดูแลที่นี่กำลังจัดการอาหารเย็นให้กับเมฆาแต่พอเห็นชายหนุ่มแบกเป้พร้อมเดินออกไปอย่างเร่งรีบเธอจำต้องถามว่าเขาจะไปที่ไหนเพราะชายหนุ่มไม่ได้บอกเธอก่อน“ผมจะไปท้ายเกาะสักคืนครับป้าดาวพรุ่งนี้ถ้าพวกเวมาแล้วก็ให้พวกเค้าจัดการกันตามสบายเลยนะครับผมน่าจะกลับไม่เย็นๆก็ค่ำๆวันพรุ่งนี้”“ค่ะคุณเมฆ”หลังจากที่คุยกับดาวเรืองเรียบร้อยแล้วเมฆาก็รีบเดินออกไปจากบ้านเอาเป้วางบนรถออฟโรดขอ
“ไหวไหมแก”คราแรกณัฐนิชาเองก็เป็นห่วงลูกๆของเธอว่าขึ้นเรือแล้วอาจจะมีอาการเมาเรือแต่เปล่าเลยลูกๆของเธอยังอยู่บนเรือได้แบบสบายๆแต่ป๋อมแป๋มนี่สิหน้าซีดหน้าเซียวอย่างเห็นได้ชัดจนเธอต้องคว้ายาดมในกระเป๋าออกมาให้เพื่อนเธอดมกันเจ้าละหวั่นเรือแล่นมาประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงเกาะเพตราเมื่อเรือจอดเทียบท่าณัฐนิชาก็ต้องพาป๋อมแป๋มขึ้นจากเรือมาอย่างทุลักทุเลและจำต้องวานให้ธาดาอุ้มเจ้าสองแสบให้เพราะยังต้องดูแลป๋อมแป๋มไม่ห่าง“นั่งก่อนแก..ไหวไหมเนี่ย”ณัฐนิชาพยุงตัวป๋อมแป๋มเดินเข้ามาใน้บ้านก่อนจะค่อยๆวางเพื่อนสาวนั่งที่โซฟาในห้องห้องโถงของบ้านหลังใหญ่หลังนี้ทั้งมีสีหน้ากังวลกับอาการของป๋อมแป๋มพอสมควร“ขอบคุณนะคะคุณเว”ณัฐนิชาหันไปขอบคุณธาดาขณะที่เขาพาเจ้าแฝดมานั่งลงใกล้ๆเธอ“ครับ...งั้นเดี๋ยวผมไปเอาของลงก่อนนะครับ...”ว่าจบก็รีบหันหลังเดินออกไปที่ท่าเรือเพราะยังต้องขนของอีกเยอะพอสมควร“สวัสดีค่ะ...ฉันชื่อดาวเรืองเป็นแม่บ้านที่นี่ค่ะเรียกว่าป้าดาวก็ได้”ดาวเรืองเดินออกมาเสริฟน้ำให้กับหญิงสาวทั้งสองที่เป็นแขกของบ้าน“สวัสดีค่ะ/สวัสดีค่ะ..นี่ป๋อมแป๋มค่ะส่วนหนูชื่อนิชาแล้วนี่ก็ลูกแฝดของหนูค่ะชื่อใยไหมกับใ
“แป๋มว่าถ้าหลังขนาดนี้ห้าวันอย่างต่ำค่ะ...แกโอเคใช่ไหมนิ”ป๋อมแป๋มมีสีหน้าเคร่งเครียดที่งานนี้มันจะใหญ่เกินกว่าที่เธอคาดไว้เสียแล้ว“เรื่องเวลาไม่มีปัญหาหรอกแต่ของใช้เจ้าสองแสบฉันเตรียมมาแค่สามสี่วันเองน่ะสิ”เรื่องเวลาในการดูงานของณัฐนิชาเธอไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้วแต่ปัญหาก็คือของใช้จำเป็นไม่ว่าจะเป็นผ้าอ้อมสำเร็จรูปหรือนมแม้แต่เสื้อผ้าของเด็กๆเธอก็เตรียมมาแค่พอจำกัด“เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงครับถ้าคุณนิชาอยากเข้าเมืองบอกผมได้ตลอดเลย”ธาดาเห็นว่าเรื่องที่หญิงสาวพูดมันไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลเพราะถ้าหญิงสาวขาดเหลืออะไรเขาสามารถพาเธอออกจากเกาะไปซื้อได้ตลอดอยู่แล้ว“ขอบคุณนะคะ”ณัฐนิชารีบขอบคุณธาดาที่ดูแลพวกเธออย่างดีแต่มีอีกสิ่งที่เธอต้องห่วงก็คือเธอบอกน้องสาวของเธอว่ามาที่นี่ไม่กี่วันถ้าหากนานมีหวังน้องเธอตามมาเป็นแน่“อาหารเรียบร้อยแล้วค่ะทุกคน”“อาหารมาแล้วเดี๋ยวเราทานอาหารกันก่อนดีกว่าครับเรื่องงานค่อยว่ากันอีกที”ธาดาเห็นว่าป้าดาวเรืองและแม่บ้านอีกสองคนเดินยกอาหารมาวางที่โต๊ะอาหารแล้วเขาจึงให้ทั้งสองมาทานข้าวกันก่อนแล้วเรื่องงานค่อยว่ากันอีกทีเพรามันเที่ยงกว่าแล้วเดี๋ยวจะเลยเวลาอาห