“อือ...อื้มม...”
คนตัวโตก้มลงใช้จมูกสูดดมซอกซอนมาจนถึงพวงแก้มแล้วใช้ริมฝีปากหนาบดจูบริมฝีปากบางอวบอิ่มของเธออย่างดูดดื่มโหยหาส่งลิ้นร้ายเข้าไปตักตวงความหวานจากปากหญิงสาวอย่างไม่มีท่าทีที่จะอิ่มและพอใจกับมันเขายังคงบดจูบเร่าร้อนมากขึ้นเรื่อยๆจนสร้างอารมณ์วาบหวามให้หญิงสาวที่นอนอยู่ใต้ร่างได้ดีพอสมควรมือไม้เรียวของหญิงสาวหาที่เกาะยึดปัดป่ายไม่อยู่สุขจนมาจบอยู่ที่ลำแขนแกร่งเล็บบางจิกลงระบายอารมณ์จนกล้ามแขนแกร่งเป็นรอยบีบข่วนแทบเลือดซิบ
ตอนนี้ทั้งสองเหลือแต่ร่างกายที่เปลือยเปล่าแนบชิดติดกันเพราะเมฆาพึ่งจะสลัดผ้าออกจากตัวเขาเมื่อครู่มือไม้ที่บีบคลึงอยู่ที่สองเต้างามพอดีมือก็สลับกับปากหนาดูดคลึงบีบเล่นไปมาเพื่อเรียกอารมณ์รักให้หญิงสาวนั้นมีความสุขเพลิดเพลินกับบทรักที่เขามอบให้
มือเล็กเปลี่ยนที่ยึดเกาะจากลำแขนแกร่งของชายหนุ่มเป็นหมอนนุ่มของเธอบ้างหรือปัดป่ายมาจิกที่ไหล่กว้างของเขาบ้างเพราะอารมณ์วาบหวามเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนเริ่มไม่เป็นตัวของตัวเอง
ชายหนุ่มไม่รอช้าเมื่อตัวตนของเขามันพร้อมแล้วก็ค่อยๆแทรกตัวเข้าไปที่ลำขาเรียวเล็กของหญิงสาวค่อยๆแทรกลำขาแกร่งเข้าไปจนตัวตนของทั้งสองแนบชิดติดกันจนหญิงสาวรู้สึกได้จึงแอบตกใจเล็กน้อย
“..อืม..อื้อ...”
เมฆาโน้มตัวลงไปบดจูบหญิงสาวให้เธอได้ผ่อนคลายก่อนจะค่อยๆแทรกตัวตนของเขาเข้าไปที่กลางกายของเธอหญิงสาวมีเสียงต่อต้านในลำคอเล็กน้อยเพราะความรู้สึกเจ็บและจุกชายหนุ่มดึงมือเล็กให้กอดกุมแผ่นหลังของเขาเอาไว้เพื่อให้เธอระบายความเจ็บออกมาให้เต็มที่เพราะรู้ว่าเธอคงรู้สึกแบบนี้ไม่นาน
“อ่าส์..อืมม”
ความคับแน่นของช่องทางรักคนตัวเล็กทำให้เมฆาขยับตัวตนของเขาไม่ถนัดนักแต่ไม่นานทั้งสองก็ปรับตัวเข้าหากันได้อย่างดีบทรักในครั้งนี้ทำให้ชายหนุ่มต้องสบถคำรามในลำคอเป็นระยะเพราะแรงบีบรัดของหญิงสาวที่มันรัดตัวตนของเขาสร้างความวาบหวามในกายให้แก่เขาอย่างมากมายเหลือล้น
“...อื้มม...”
บทรักของชายหนุ่มที่มอบให้หญิงสาวคราแรกค่อนข้างทำให้เธอเครียดเกร็งอยู่มากเพราะความไม่คุ้นชินแต่เมื่อตัวตนของเธอและเขาสอดประสานกันได้ดีตอนนี้หญิงสาวจึงรับรู้ได้แต่ความสุขที่ชายหนุ่มมอบให้อารมณ์ที่แปลกใหม่มันทำให้เธอสุขจากข้างในอย่างอธิบายเป็นคำพูดไม่ถูก
ทั้งสองร่างเปลือยใต้ผ้าห่มผืนหนายังคงขยับร่างกันเป็นจังหวะจนฟูกนอนยับย่นยู่ยี่เสียงครางอ่อนๆดังมาเป็นระยะแผ่นหลังชายหนุ่มเป็นรอยข่วนแดงเพราะเล็บบางของหญิงสาวที่จิกข่วนระบายอารมณ์มันไม่ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บเลยสักนิดกลับมีความสุขมากกว่า
เช้าวันต่อมา
“...อื้มม...”
ณัฐนิชารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกว่ามีอะไรมาก่อกวนอยู่ที่ใบหน้าและตามเนื้อตัวของเธอ
“คุณเมฆ..พอ..พอก่อนค่ะ”
เมื่อลืมตาขึ้นมาเธอถึงกับต้องรีบปัดป้องตัวของเธอออกจากกาคุกคามของชายหนุ่มนี่มันเช้าตรู่เธอไม่เข้าใจว่าเมื่อคืนเขายังตักตวงความสุขจากตัวของเธอยังไม่เพียงพออีกหรืออย่างไร
“นะครับที่รัก”
เมฆายังไม่หยุดแม้หญิงสาวจะมีท่าทีไม่อนุญาตจะให้เขาอดใจไหวได้อย่างไรเมื่ออยู่ใกล้ชิดเธอแบบเนื้อแนบเนื้อแบบนี้
“ต้องไปโรงพยาบาลแต่เช้านะค....อื้อ..มม”
ณัฐนิชาจำต้องร้องบอกกับเมฆาว่าในตอนเช้านี้เขาจะต้องไปโรงพยาบาลเพราะหมอนัดตัดไหมแต่ก็ไม่สามารถที่จะห้ามปรามชายหนุ่มได้แล้วเพราะตอนนี้เขาเหมือนจะไม่ฟังอะไรทั้งนั้น
คนตัวโตยังคงตักตวงความสุขจากหญิงสาวร่วมครึ่งค่อนชั่วโมงกว่าจะปล่อยให้เธอเป็นอิสระแล้วจึงอาบน้ำแต่งตัวทานอาหารเช้ากันเรียบร้อยแล้วจึงพากันมาที่โรงพยาบาลได้
โรงพยาบาล
“เรียบร้อยแล้วครับ”
เมฆาเข้าไปให้หมอตรวจไม่ถึงสิบนาทีก็ออกมาหาณัฐนิชาที่นั่งรออยู่ด้านนอกตอนนี้เขาตัดไหมเรียบร้อยแล้วส่วนแผลก็ห้ามโดนน้ำสองสามวันก็โอเคแล้ว
“ผมว่าไปหาลูกๆจะไปไหมครับ”
เมฆาคิดว่าวันนี้เขาจะแวะไปที่บ้านแม่ของเขาเขาสักหน่อยเพราะรู้สึกคิดถึงลูกๆและก็อยากจะไปบอกข่าวดีกับพ่อและแม่ของเขาเรื่องความสัมพันธ์ของเขาและหญิงสาวในตอนนี้ด้วยอีกอย่างก็ถือโอกาสนี้ไปเยี่ยมน้องชายเขาเสียเลยว่าอาการตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
“นิว่าจะชวนคุณเมฆอยู่พอดีเลยค่ะคิดถึงแย่แล้วอยากไปหาน้ำหวานด้วยเหมือนกันค่ะ”
ณัฐนิชากำลังคิดว่าจะชวนชายหนุ่มไปหาลูกๆเธออยู่พอดีเพราะตอนนี้เธอก็สามารถที่จะรับลูกๆเธอมาดูแลเองได้แล้วคงไม่ต้องรบกวนเป็นปู่กับย่าของเด็กๆแล้วหละอีกอย่างน้องสาวเธอก็ไปดูแลวายุอยู่ที่นั่นเธอก็อยากจะไปดูด้วยว่าการเป็นอยู่ของน้องสาวเธอสะดวกสบายดีหรือเปล่า
“งั้นเราไปกันเลยนะครับ”
“ค่ะ”
เมื่อทั้งสองคิดเห็นตรงกันชายหนุ่มเลยขับรถดิ่งตรงไปที่บ้านพักของพ่อและแม่ของเขาทันทีเขารู้ว่าแม่ของเขาต้องดีใจมากแน่ๆหากเขาไปบอกข่าวดีที่เขาเองก็ยังใจชื้นอยู่ไม่หายที่เรื่องราวในตอนนี้มันเป็นอะไรที่ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากเขามีครอบครัวตามที่แม่ของเขาหวังมีภรรยาและมีลูกที่น่ารักอีกตั้งสองคนอีกต่างหากและคิดว่าไม่นานคงจะมีสมาชิกใหม่มาเพิ่มเร็วๆนี้อีกแน่นอนเขาเชื่อในมือของเขา
30 นาทีต่อมา“เด็กๆ”“คุณพ่อขา/คุณแม่คร้าบบ”เมฆาเดินเข้าบ้านพักพ่อกับแม่ของเขาพร้อมกับณัฐนิชาเมื่อเห็นพ่อกับแม่ของเขานั่งเล่นอยู่กับเจ้าสองแสบที่สนามหญ้าหน้าบ้านก็รีบเดินเข้าไปหาทันทีเจ้าสองแสบเมื่อเห็นคนเป็นพ่อกับแม่มาหาก็รีบสิ่งเข้าไปโผกอดเป็นภาพสี่คนพ่อแม่ลูกที่ดูอบอุ่นต่อสายตาคนที่เห็นอย่างมาก“หายดีแล้วเหรอตาเมฆ”“ครับเมื่อเช้าพึ่งไปตัดไหมมาแล้วก็แวะมาที่นี่เลยครับคิดถึงเจ้าสองแสบแย่แล้ว”มัทนาถามไถ่อาการของลูกชายเธอด้วยรอยยิ้มเพราะตอนนี้หน้าตาของลูกชายเธอสดใสขึ้นมากคงเป็นเพราะมีคนดูแลดีอย่างที่สามีเธอบอกจริงๆนั่นแหละ“โอย..โอ้ยย..มัน.ร้อนน..นะคุณ”วายุแทบคายข้าวต้มออกจากปากเพราะรินทร์ธาราเล่นไม่ยอมเป่าให้มันเย็นก่อนที่จะป้อนเข้าปากของเขา“ก็ฉันบอกให้คุณทานเองก็ไม่อยากจะทานมืออีกข้างก็ยังใช้การได้อยู่นี่นา”รินทร์ธารานั่งหน้าเซ็งชายหนุ่มตื่นสายยังไม่พอยังชอบบังคับให้เธอป้อนข้าวอยู่ทุกวันอีกทั้งที่มืออีกข้างก็ใช้ได้“นั่นเสียงเอะอะอะไรกันเหรอคะคุณมัท”ณัฐนิชาที่กำลังกอดหอมเล่นกับลูกเธออยู่ที่หน้าบ้านจู่ๆก็ได้ยินเสียงโวยวายจากในบ้านออกมาเธอพอจะจำได้ว่าเสียงนั่นน่าจะมีเสียงของน้อง
ครู่ต่อมาหลังจากที่ทานอาหารอิ่มแล้วเจ้าแฝดตัวกลมทั้งสองก็ไปเล่นกันต่อโดยคนเป็นย่าปล่อยให้เล่นเพื่อย่อยอาหารเพราะอีกสักพักเธอก็จะพาหลานๆอาบน้ำทานนมนอนกลางวันแล้วตอนนี้บนโต๊ะอาหารก็เหลือแต่คนโตที่นั่งอยู่ด้วยกันพลางพูดคุยกันตามประสาครอบครัว“ผมว่าจะจัดงานแต่งงานให้เร็วที่สุดดีไหมครับคุณแม่”“ก็ดีจะตระกูลเราคนค่อนข้างนับหน้าถือตาดีเลยถือเป็นการเปิดตัวทายาทของลูกในวันนั้นเลย”“พ่อก็เห็นด้วยนะอะไรๆมันจะได้อยู่ถูกที่ถูกทางเสียที”“ครับ”เมฆาคิดว่าในตอนนี้เรื่องราวมันก็เป็นไปในทิศทางที่ดีแล้วตอนนี้เขาก็อยากจะจัดงานแต่งประกาศให้ทุกคนได้รู้ว่าเขานั้นมีลูกมีครอบครัวแล้วและถือเป็นการให้เกียรติหญิงสาวกับลูกๆด้วยทั้งมัทนาและธำมรงค์ก็เห็นดีเห็นงามด้วยว่าควรจะจัดงานแต่งมาให้เร็วที่สุดเพราะไม่อย่างนั้นคนที่เสียหายก็จะเป็นณัฐนิชาเพราะพวกเขารู้ว่าหากเมฆาใช้ชีวิตอยู่กับหญิงสาวไปเรื่อยๆแบบนี้คงไม่วายเป็นข่าวเสียๆหายๆเป็นแน่“พี่นิทานน้อยจังเลยค่ะ...ไม่สบายหรือเปล่าคะเหมือนหวานสังเกตเห็นพี่นิเพลียๆตั้งแต่เข้ามาแล้วเมื่อคืนทำงานดึกเหรอคะ”ตอนนี้ทุกคนก็ท่าทางจะอิ่มกันหมดแล้วรินทร์ธารามองไปยังจานข้าวของพี่ส
“ฉันว่าเวอาจจะอยากใช้ชีวิตแบบนี้อีกสักพักก็ได้...เรื่องแผลใจฉันว่าคงหายดีแล้วหละ”เมฆาเห็นว่าเรื่องแผลใจของธาดานั้นน่าจะหายไปนานแล้วเขาเห็นว่าธาดาอาจจะมีความสุขกับการอยู่แบบนี้มากกว่าส่วนเรื่องอยากจะกลับไปทำงานของตัวเองเมื่อไรเขาเองก็ไปบังคับธาดาไม่ได้เพราะไม่ได้อยากบังคับใจใคร“นี่ภรรยาฉันนิชา”เมฆาถือโอกาสแนะนำหญิงสาวให้ธาวินได้รู้จักตอนที่เธอเดินออกมาพอดี“นิครับนี่ธาวินพี่ชายของเว”“ผมวินยินดีที่ได้รู้จักครับคุณนิชา”“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ...ตามสบายเลยนะคะเดี๋ยวนิขอตัวจัดการงานบ้านก่อน”ตอนนี้ณัฐนิชาอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนที่เป็นแม่บ้านเต็มตัวเมื่อทักทายกับชายหนุ่มเรียบร้อยแล้วเธอเองก็ไม่ได้อยากกวนเวลาของผู้ชายที่เขาจะคุยกันเลยขอปลีกตัวออกไปทำงานบ้านของเธอต่อ“นายหาแม่บ้านสักคนก็ดีนะคุณนิเป็นถึงภรรยานักธุรกิจยังทำงานบ้านเองอีกหรือไง”ธาวินแอบตะขิดตะขวงในใจอยู่เล็กๆที่หญิงสาวเป็นภรรยาของเพื่อนเขาที่เป็นถึงระดับนักธุรกิจใหญ่โตที่ดูแลกิจการหลายอย่างต้องมาทำงานบ้านเอง“เมียฉันเค้าไม่อยากได้เองไม่ใช่ฉันไม่เคยเสนอ...ฉันไม่อยากขัด...เออแล้วอีกสามเดือนฉันจะแต่งงานไปงานฉันด้วยล่ะ”เมฆา
“ฮึก...คุณเว”คำพูดจี้ใจหญิงสาวที่ออกจากปากธาดาทำให้เธอโผเข้ากอดเขาปล่อยโฮอย่างที่ชายหนุ่มไม่ทันตั้งตัวน้อยคนนักที่จะพูดกับเธอและห่วงใยความรู้สึกของเธอแบบนี้ปกติแล้วคนอย่างเธอจะร้องให้กับณัฐนิชาเพียงคนเดียวเท่านั้นแต่ตอนนี้ชายหนุ่มทำให้เธอรู้สึกว่าเธอสบายใจที่จะทำตามเสียงหัวใจตัวเองในเวลาที่อยู่กับเขาเมื่อตอนที่ใช้ชีวิตอยู่บนเกาะก็มีธาดานี่แหละที่เป็นเพื่อนคุยทั้งยังให้คำปรึกษาเรื่องงานกับเธอตลอดจนหญิงสาวค่อนข้างแปลกใจว่าชายหนุ่มนั้นดูจะเก่งเกินบอดี้การ์ดธรรมดาไปเสียมากทั้งเชิงวิชาการและการต่อสู้หรือทักษะอื่นๆไม่ได้น้อยหน้าใครเลยธาดาคงจะเป็นผู้ชายคนที่สองละมั้งที่เธอไว้ใจกับเขาที่จะพูดคุยรองจากคนเป็นพ่อของเธอธาดาไม่ได้พูดอะไรยังคงกอดปลอบเธอกลับและรอให้หญิงสาวปล่อยโฮออกมาให้เต็มที่ไม่นานเธอก็หยุดร้องให้ลงเขาจึงทิ้งรถของเขาไว้ที่นี่และกลับไปส่งเธอที่บ้านบ้านธีธารา“เวโทรมามีอะไรหรือเปล่า”เมฆาเห็นหญิงสาวคุยกับธาดาด้วยสีหน้าเคร่งเครียดอยู่นานสองนานจนเขาต้องกลายเป็นคนเสียมารยาทถามหญิงสาวเรื่องที่คุยโทรศัพท์ด้วยความสงสัย“คือพอดีมีปัญหานิดหน่อยค่ะ...”ณัฐนิชาเล่าสถานการณ์ทั้งหมดให้กับชา
สองเดือนต่อมางานแต่งของเมฆาและณัฐนิชาจัดขึ้นที่เกาะอย่างเรียบง่ายแต่หรูหราให้สมเกียรติถึงแขกในงานจะไม่ได้เยอะมากแต่ก็เป็นคนสำคัญทั้งนั้นและงานแต่งงานครั้งนี้ก็จะเป็นการเปิดเจ้าสองแสบว่าเป็นทายาทคนสำคัญในตระกูลอีกด้วย“ยินดีด้วยนะแกวันนี้แกสวยสุดๆไปเลย”ป๋อมแป๋มเดินเข้างานมาสวมกอดณัฐนิชาด้วยความยินดีด้วยจากใจที่เห็นเพื่อนมีครอบครัวอย่างสมบูรณ์เสียทีวันนี้ณัฐนิชาดูสวยแปลกตาไปมากจนเธอนั้นอดชมไม่ได้เลยจริงๆ“จ้า...เอ...แล้วนี่ทำไมถึงควงมากับคุณเวได้ล่ะ”ณัฐนิชาสังเกตเห็นว่าป๋อมแป๋มนั้นเดินจับมือมากับธาดาจึงต้องถามแกมหยอกเล็กน้อยว่าตกลงสองคนเป็นอะไรกันแน่“อืมม...ก็ตั้งแต่คืนนั้น”ป๋อมแป๋มตอบเพื่อนสาวเธอด้วยท่าทีเขินอายแม้คำพูดจะดูน้อยแต่เมื่อมองตากันก็รู้ใจว่ากำลังคิดอะไรอยู่“หา...จริงดิ...ต้องขอบคุณคุณเวนะที่ดึงแกลงมาจากคานได้เสียที”ณัฐนิชาถึงกับยกมือปิดปากไม่คิดว่าการขอร้องให้ธาดาอยู่เป็นเพื่อนเพื่อนของเธอคืนนั้นจะทำให้ป๋อมแป๋มที่หวงคานนักหนายอมลงจากคานได้“ยินดีด้วยนะคะคุณเมฆ”ป๋อมแป๋มเห็นเมฆาเดินมากับใครอีกคนที่เธอก็พอจะรู้จักอยู่บ้างตามข่าวพร้อมทั้งกล่าวยินดีกับชายหนุ่มด้วยรอยยิ้ม
คฤหาสน์เพตราพิทักษ์ณัฐนิชาตื่นแต่เช้าเพราะวันนี้ถึงจะเป็นวันปิดเทอมของลูกๆเธอแต่เด็กๆก็มีเรียนพิเศษที่ทั้งสองอยากจะเรียนโดยใยไหมนั้นชอบที่จะเรียนบัลเล่ต์ส่วนใบหม่อนนั้นชอบดนตรีเป็นพิเศษเลยเลือกที่จะเรียนดนตรีทั้งหญิงสาวและสามีไม่เคยที่จะบังคับลูกๆของเธอว่าให้เรียนอะไรแต่จะให้เรียนสิ่งที่ลูกๆของเธอเลือกเองและพร้อมสนับสนุนเท่านั้น“คุณเมฆคะเดี๋ยวนิส่งใยไหมกับใบหม่อนเรียบร้อยแล้วจะเข้าไปซื้อของต่อกับคุณแม่ฝากดูแม็คกับมาร์คด้วยนะคะวันนี้นิน่าจะรอรับเด็กๆกลับด้วยเลย...จุ้บ..นิจะรีบไปรีบมานะคะ”วันนี้ณัฐนิชาต้องไปส่งเจ้าสองแฝดวัยห้าขวบกว่าแต่เช้าเพราะวันนี้เธอจะต้องไปเลือกซื้อของเข้าบ้านกับมัทนาต่อตามประสามแม่สามีกับลูกสะใภ้หญิงสาวเห็นว่าวันนี้เป็นวันหยุดของสามีเธอเลยวานให้สามีเธอดูแลลูกๆอีกสองคนเสียเลยก่อนจะก้มลงมาจูบแก้มของเมฆาที่นอนหลับอุตุอยู่บนที่นอนที่ตอนนี้สามีของเธอยังไม่อยากตื่นก็เพราะเมื่อวานมีประชุมที่บริษัทและกลับบ้านมาจนดึก“คร้าบ...”เมฆาตอบรับปากคนเป็นภรรยาทั้งที่ตาก็ยังจะลืมไม่ขึ้นวันนี้เขาต้องรับหน้าที่ดูแลลูกชายวัยสองขวบกับสี่เดือนเองแล้วล่ะสิแต่พ่อลูกอ่อนที่ผ่านการเลี้ยง
เชียงใหม่บ้านธีธารา20.00 น.หลังจากที่ลูกแฝดทั้งสองวัยสองขวบนอนหลับแล้วณัฐนิชาก็ต้องแบกร่างของเธอมาทำงานต่อให้เสร็จเพราะเธอรับงานออกแบบภายในของบ้านให้กับเพื่อนสาวของเธอหลังจากที่หญิงสาวตั้งท้องได้เจ็ดเดือนเธอก็ต้องออกจากงานประจำมาเพื่อดูแลตัวเองและรับงานออกแบบฟรีแลนซ์อยู่กับบ้านแล้วส่งต่องานให้กับเพื่อนของเธอไปเสนอกับลูกค้าอีกทีหญิงสาวทำแบบนี้มาจนลูกทั้งสองของเธอโตจนสองขวบแล้วหญิงสาวตัวเล็กผอมแห้งดวงตากลมโตใบหน้าจิ้มลิ้มผิวขาวเนียนนั่งอยู่หน้าจอคอมอย่างใจจดใจจ่อเพราะอยากให้งานชิ้นนี้เสร็จโดยเร็วเพราะเธอจะได้พาลูกๆของเธอไปเที่ยวทะเลตามที่อยากจะพาลูกแฝดของเธอไป“เด็กๆหลับแล้วเหรอคะพี่นิชา”รินทร์ธาราพึ่งเลิกงานกลับมาบ้านเธอก็ถามหาเจ้าสองแสบหลานของเธอทันทีพร้อมสอดส่องสายตามองลอดเข้าไปในห้องนอนของพี่สาวเธอที่เปิดอยู่“หลับไปเมื่อกี้นี้เอง...ดีแล้วพี่จะได้ทำงานให้เสร็จเร็วๆ..วันนี้ทำไมกลับช้าล่ะ”ณัฐนิชาละมือจากการทำงานพร้อมหันเก้าอี้มาหาน้องสาวของเธอพลางสงสัยเรื่องเวลาเลิกงานของน้องสาวเธอวันนี้เพราะปกติแล้วรินทร์ธารานั้นจะกลับมาทันเล่นกับใยไหมกับใบหม่อนก่อนนอนทุกครั้งแต่วันนี้เจ้าสองแส
“ไม่แกล้งกันนะคะ”ณัฐนิชาอดอมยิ้มในความน่ารักของลูกเธอทั้งสองๆไม่ได้แต่ก็ต้องกลั้นยิ้มไว้ทำเสียงแข็งพร้อมหันไปทางใยไหมลูกสาวจอมแก่นของเธอว่าห้ามแกล้งกันเมื่อคนเป็นแม่สั่งห้ามแกล้งเด็กหญิงก็พักมือลงแต่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ยังคงมีอยู่บนใบหน้าเธอเชื่อฟังคนเป็นแม่ว่าไม่ให้แกล้งน้องแต่เธอก็ยังอมยิ้มอยู่เพราะไม่ได้กลัวอาการทำเป็นดุของคนเป็นแม่เลยสักนิด“หยดนี้ของใบหม่อน...หยดนี้ของใยไหม...ทำยังไงต่อคะ”ณัฐนิชาหยิบฟองน้ำถูตัวของเด็กๆขึ้นมาพร้อมหยดน้ำยาอาบน้ำของเด็กไปที่ฟองน้ำแล้วส่งให้ลูกของเธอทั้งสองเมื่อสองแสบรับไปแล้วหญิงสาวก็ถามถึงว่าขั้นตอนต่อไปกับเจ้าก้อนทั้งสองต้องทำอย่างไรต่อเพื่อฝึกให้ลูกๆของเธอได้ช่วยเหลือตัวเองเป็น“ถูแขน/กับถูขา”“ถูตัวด้วยนะคะ”ทั้งสองแสบตอบคนเป็นแม่ด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้วเฉกเช่นนี้เป็นประจำทุกวันอีกคนตอบถูแขนอีกคนตอบถูขาแล้วเธอเองก็จะเป็นคนบอกว่าให้ถูตัวด้วยเธอสอนให้เด็กๆอาบน้ำขัดตัวเองอย่างนี้มาตั้งแต่ลูกของเธอได้ประมาณขวบครึ่งและลูกๆของเธอก็เชื่อฟังและทำตามได้อย่างดีเป็นที่ปลื้มใจของเธอมาก“นมได้แล้วค่ะ..ขวดนี้ของใครคะ”“หม่อนคร้าบ”“ขวดนี้ของใครเอ่ย”“ไหมค่า”“นอ