“เอ่อ...นี่ลูกชายคนเล็กฉันเองหนูหวานต้องขอโทษแทนลูกชายฉันด้วยนะจ้ะ”
มัทนาเองก็จำต้องส่ายหัวให้กับวีรกรรมสุดแสบของวายุพร้อมหันมาขอโทษหญิงสาวที่ลูกชายของเธอทำอะไรล่วงเกินไป
“ค่ะ...คุณมัท”
“แม่ไปเข้าข้างเธอได้ยังไงเธอทำให้ผมลงแข่งไม่ได้นะครับ”
วายุได้ยินแม่ของเขาเข้าข้างหญิงสาวเขาก็ถึงกับควันออกหู
“แม่แกทำถูกแล้ว..ก็แกไปลวนลามหนูน้ำหวานเค้าก่อนทำไมแกนี่มันจริงๆเลยเชียว”
ธำมรงค์จำต้องส่งเสียงดุลูกชายจอมเอาแต่ใจที่มีท่าทีโมโหเป็นวัวบ้าก่อนจะเดินออกไปข้างนอกเพราะรู้สึกระอากับความไม่ยอมรับผิดของลูกชายตัวเอง
“แล้วนี่เธอมาทำอะไรที่นี่”
วายุเห็นว่าประเด็นเรื่องเขากับหญิงสาวไว้มีโอกาสค่อยเคลียก็ได้แต่ตอนนี้เขาอยากจะรู้ว่าแม่ตัวดีคนนี้มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร
“นี่หนูน้ำหวานเป็นน้องของหนูนิชาที่มาแต่งบ้านให้พี่แกเดี๋ยวหนูหวานก็จะไปที่เกาะพร้อมพี่ของลูก”
“อ๋อ...งั้นผมขอตัวไม่อยากอยู่ตรงนี้นาน”
เมื่อได้คำตอบจากคนเป็นแม่แล้วชายหนุ่มจึงคิดแผนอะไรออกแล้วจึงรีบเดินกลับไปที่ห้องของเขาทันที
“คุณแม่ครับ”
“อ้าวนั่นไงกลับกันมาแล้ว”
เมื่อคนน้องเดินกลับเข้าห้องไปคนพี่ก็กลับมาพอดี
“พี่นิ”
“หวาน”
รินทร์ธารารีบเข้าไปสวมกอดพี่สาวของเธอด้วยความคิดถึงขณะที่ณัฐนิชาเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับชายหนุ่มอีกคน
“เรานี่มันจริงๆเลยนะ”
เมื่อได้ทีอยู่ใกล้น้องสาวของเธอแล้วหญิงสาวก็ต้องทำหน้าดุใส่หนึ่งรอบที่ชอบทำอะไรให้เอนั้นต้องเกรงใจคนอื่น
“ก็หวานคิดถึงสองแสบนี่นา”
รินทร์ธารารู้ดีว่าพี่สาวของเธอมีสีหน้าแบบนี้เธอจะต้องโดนดุเป็นแน่จึงรีบทำหน้าอ้อนคนเป็นพี่พลางบอกว่าเธอนั้นคิดถึงพี่สาวของเธอและหลานๆมากจริงๆ
“นี่คุณเมฆคนที่จ้างทีมพี่”
ณัฐนิชาส่ายหัวให้กับอาการออดอ้อนของน้องสาวเธอเล็กน้อยและหันมาแนะนำเมฆาให้เธอได้รู้จัก
“สวัสดีค่ะ”
“ครับ”
รินทร์ธาราหันมาสวัสดีชายหนุ่มเขาก็ได้มองหน้าเธอชัดๆเต็มๆตาใบหน้าของเธอไม่เหมือนคนเป็นพี่สาวแต่กลับเหมือนกับคนที่อยู่ในร็อคเก็ตที่เขาเก็บไว้หลังจากเรื่องในคืนนั้นแต่ก็ยังเก็บความสงสัยนี้เอาไว้ในใจเอาไว้อยู่
“งั้นเราไปกันเถอะครับน้องคุณก็มาถึงแล้ว”
เมฆาเห็นว่าน้องสาวของณัฐนิชามาถึงแล้วเขาก็เตรียมตัวกลับไปที่เกาะจะเพราะรู้ว่าณัฐนิชานั้นคงจะเป็นห่วงลูกๆเธอแย่แล้ว
“เดินทางปลอดภัยกันนะ”
มัทนาเห็นว่าทุกคนจะเตรียมตัวไปที่เกาะกันเลยก็อวยพรให้เดินทางกันดีๆเธอรู้ว่าแม้จะใช้เวลาเดินทางไปเกาะไม่นานแต่อุบัติเหตุก็เกิดได้ทุกเมื่อเธอจึงอวยพรให้ทุกคนที่เดินทางไปเกาะทุกครั้งให้ปลอดภัย
“ค่ะ”
“ครับคุณแม่”
รินทร์ธาราและณัฐนิชาเดินนำหน้าชายหนุ่มที่กำลังแบกของพะลุงพะลังมาที่ท่าเรือรินทร์ธาราเป็นปลื้มชายหนุ่มที่ช่างดูเป็นสุภาพบุรุษเทคแคร์เธอและพี่สาวเธอดีเหลือเกิน
“คนนี้ใช่ม๊าที่พี่แป๋มบอกว่าเค้าชอบมองพี่สาวของหวาน”
รินทร์ธาราแกล้งกระซิบกระซาบถามที่ข้างๆหูพี่สาวของเธอว่าผู้ชายคนนี้ใช่คนเดียวกับที่ป๋อมแป๋มเล่าให้เธอฟังหรือเปล่าทั้งที่ก็รู้อยู่ในใจอยู่แล้วเพราะป็อมแป๋มนั้นเล่าละเอียดยิบ
“ยัยแป๋มไปพูดอะไรไร้สาระให้เราฟังอีกแล้วใช่ไหม”
ณัฐนิชาถึงกับอยากจะเขกหัวน้องสาวเธอเสียทีที่ไปฟังเรื่องไร้สาระจากป๋อมแป๋มมาอีกแล้วทั้งยังคาดโทษคนเล่าเอาไว้ในใจอีกด้วย
“คุณเมฆเค้าดูดีเป็นสุภาพบุรุษต่างจากน้องชายเค้ามากเลยนะหวานเชียร์”
รินทร์ธาราเห็นว่าพี่กับน้องคู่นี้ช่างต่างกันเสียจริงพี่คนโตดูเป็นคนสุภาพให้เกียรติผู้หญิงต่างจากคนน้องที่จ้องจะแทะเล็มผู้หญิงคนอื่นอยู่ตลอดเวลาแถมขี้โมโหอย่างกับหมาบ้าอีกด้วย
“นี่เราก็ไร้สาระอีกคน...แล้วเราไปรู้จักน้องคุณเมฆตั้งแต่เมื่อไร”
ณัฐนิชาสงสัยว่าที่น้องสาวของเธอพูดเหมือนกับว่ารู้จักน้องชายของเมฆาเป็นอย่างดีอย่างนั้นแหละ
“อืม...ช่างมันเถอะน่าเอาเป็นว่าหวานเชียร์ให้คุณเมฆได้เป็นพี่เขยของหวานเร็วๆก็แล้วกัน”
รินทร์ธาราส่ายหัวไม่อยากพูดถึงวายุเท่าไรยังไงเธอก็จะเชียร์เมฆาให้เป็นพี่เขยของเธอณัฐนิชาเองก็ทำได้แต่ส่ายหัวให้กับความคิดน้องสาวที่ไร้สาระตามเพื่อนสาวเธอไปอีกคน
“พี่ครับรอผมด้วย”
วายุที่วิ่งตามทุกคนมาแทบไม่ทันเห็นว่าทุกคนกำลังเอาของลงเรือกันแล้วจึงรีบตะโกนเรียกให้รอเขาก่อน
“อ้าวไวท์แล้วนี่แกจะไปไหน”
เมฆามองจ้องไปยังวายุสีหน้าฉงานที่เห็นว่าน้องชายตนแบกกระเป๋าตามมาติดๆอย่างรีบร้อน
“หึ้ย..ตายยากจริงๆเลยเชียวอีตานี่”
รินทร์ธาราบุ้ยปากเล็กน้อยที่เห็นชายหนุ่มที่เธอไม่ค่อยชอบหน้าวิ่งตามหลังมาไวๆ
“ผมก็จะไปที่เกาะกับพี่ด้วยไงครับ...เอ่อแล้วนี่..”
วายุรีบโยนกระเป๋าลงไปในเรือพลันสายตาเห็นหญิงสาวหน้าหวานที่ยืนอยู่ข้างๆกับรินทร์ธาราเขาก็ต้องชะงักไปชั่วครู่เพราะเธอน่ารักสะกดสายตาของเขาทำให้หัวใจเต้นแรงจนรู้สึกประหม่า
“พี่สาวฉันเอง”
รินทร์ธาราเห็นสายตาหยาดเยิ้มที่วายุส่งมาให้ณัฐนิชาหญิงสาวก็ต้องรีบส่งเสียงพูดกับวายุเพื่อที่เขาจะได้หยุดมองพี่เธอเสียทีแทบจะทะลุเข้าไปข้างในแล้วถ้าเธอไม่ปรามเสียก่อน
“ผมวายุ...ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
วายุไม่สนใจคนรอบข้างเสียแล้วเขากล่าวทักทายพร้อมส่งยิ้มหวานให้กับณัฐนิชาด้วยสีหน้าและท่าทีเป็นมิตรเขาชอบอยู่ใกล้ผู้หญิงสวยๆอยู่แล้วเว้นแต่รินทร์ธาราที่เขาก็ยอมรับว่าเธอก็สวยแต่นิสัยเสียไปนิด
“ฉันนิชาค่ะเป็นคนออกแบบให้บ้านคุณเมฆวันนั้นเราขึ้นเรือกันไปแต่เช้าเลยไม่ได้เจอคุณค่ะยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”ณัฐนิชาพึ่งเจอลูกชายคนเล็กของมัทนาก็วันนี้เพราะวันนั้นเธอไม่เคยเจอเขาด้วยรีบขึ้นเรือออกเดินทางกันแต่เช้าตรู่“อืม..หึ่..ตื่นสายตะวันส่องก้นขนาดนี้คงจะเจอใครเค้าหรอกนะ”รินทร์ธาราแกล้งสบถขำพร้อมพูดอุทานออกมาอย่างเสียงดังเพื่อให้เจ้าตัวที่ตื่นสายได้ยินวายุเองก็ถลึงตาใส่หญิงสาวไปหนึ่งทีที่ทำเขาเสียหน้า“หวาน!!”ณัฐนิชาต้องส่งเสียงดุน้องสาวของเธอเบาๆที่ทำตัวเสียมารยาทพลางส่ายหัวให้กับความปากไวของน้องสาว“งั้นรีบลงเรือกันเถอะ”เมฆารู้สึกไม่ชอบที่น้องชายของเขานั้นทีท่าทีแบบนั้นกับณัฐนิชาเลยรีบพูดตัดบทเพื่อให้ทุกคนลงเรืออย่างรวดเร็ว“ผมเคยได้ยินคุณแม่ผมชมฝีมือคุณอยู่บ่อยๆคุณเก่งมากเลยนะครับ”วายุนั้นพยายามอย่างที่สุดเพื่อที่จะทำตัวสนิทสนมกับณัฐนิชาอย่างน้อยการนั่งเรือของเขาก็ไม่น่าเบื่อ“ขอบคุณค่ะคุณไวท์...นิก็เคยได้ยินจากเพื่อนนิว่าคุณแข่งรถเก่งมากๆเหมือนกันค่ะ”ณัฐนิชาได้รับคำชมจากชายหนุ่มเธอเองก็ยิ้มรับพร้อมชมเขากลับแก้เขินเพราะเธอเองก็พจะรู้จากป๋อมแป๋มมาเหมือนกันว่าลูกชายคนเล็กของคุ
“ค่ะพี่แป๋ม...เด็กๆไปกับน้าเร็ว”รินทร์ธารารีบลุกขึ้นพร้อมเดินจูงหลานๆของเธอไปด้วยต่อจากนี้เธอจะรับหน้าที่ดูแลหลานๆเองตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป“ผมไม่รู้ว่าคุณไวท์จะมาด้วยตอนนี้ห้องที่ทำความสะอาดไว้แล้วจะอยู่ข้างๆกับห้องน้องสาวคุณนิครับ”ธาดารีบเดินมาบอกวายุว่ามีห้องที่จัดเตรียมเรียบร้อยแล้วข้างๆห้องของน้องสาวณัฐนิชาเท่าไรเพราะเขาไม่รู้ว่าวายุจะมาอย่างกะทันหัน“โอเค”วายุพยักหน้ารับธาดาพร้อมเดินไปที่ห้องของเขาทันทีเพราอยากจะอาบน้ำแย่แล้วด้วยความที่รีบตามพี่ชายเขามาที่เกาะเลยทำให้คนที่พึ่งตื่นอย่างเขาไม่ได้มีเวลาอาบน้ำหรือเตรียมตัวอะไรมากนักก่อนออกมา“เดี๋ยวผมช่วยคุณเอาของไปเก็บในห้องนะครับ”“ขอบคุณค่ะ”เมฆาเห็นว่าทุกคนต่างแยกย้ายกันไปหมดแล้วเขาจึงอาสาช่วยณัฐนิชาเก็บของเข้าห้องของเธอเพราะของใช้ของเด็กๆก็ค่อนข้างที่จะเยอะส่วนของใช้ในบ้านธาดาเป็นคนจัดการเอาไปเก็บเรียบร้อยแล้ว“เด็กๆน่าจะทานนมเก่งนะครับคุณซื้อมาซะเยอะเลย”“ค่ะ...”เมฆาเห็นว่าจองหญิงสาวซื้อนมผงมาค่อนข้างหลายกล่องแสดงว่าเด็กๆต้องทานนมเก่งมากแน่ๆในหัวของเขานึกถึงตัวเด็กๆก็บอกตัวเองว่าไม่น่าถาม“คุณนิก็เก่งนะครับเลี้ยงลูกมาคน
18.00 น.โต๊ะอาหาร“อาทิตย์หน้าก็เป็นวันเกิดพี่เมฆนี่เราไปฉลองบนเรือกันสักคืนดีไหม”วายุจำได้ว่าอาทิตย์หน้าก็จะเป็นวันเกิดของพี่ชายของเขาแล้วปีนี้ดีหน่อยที่เขาได้มีโอกาสอยู่กับพี่ชายพร้อมหน้ากันจึงอยากจะหาอะไรสนุกๆทำ“นั่นมันความต้องการแกหรือเปล่าไวท์”เมฆาเหลือบสายตาระอามองน้องชายของเขารู้อยู่ในใจว่าคงเป็นความต้องการของวายุมากกว่าที่ต้องการฉลองบนเรือ“โถ่!!!...พี่ครับเราไม่ได้ไปสนุกบนเรือกันนานแล้วนะ”วายุรีบแก้ต่างอย่างรวดเร็วเขาก็แค่เห็นว่าเขาและพี่ชายไม่ได้ล่องเรือเล่นกันมานานแล้วตั้งแต่พี่ชายของเขาเริ่มดูแลงานแทนคุณพ่อของเขาเต็มตัว“อืมก็ได้...งั้นเชิญทุกคนเลยแล้วกันครับพุธหน้าผมจะไปจัดวันเกิดบนเรือ”เมฆาถือโอกาสนี้ชวนทุกคนที่นั่งอยู่บนโต๊ะอาหารร่วมงานวันเกิดของเขาเลยก็แล้วกันถือซะว่าเป็นการพักผ่อนจากที่ทุกคนทำงานกันมาหนักด้วย“จริงเหรอคะ...แบบนี้แป๋มต้องรีบหาของขวัญแล้วล่ะค่ะ”“สุดยอดไปเลยค่ะ...เย่”ป๋อมแป๋มและรินทร์ธาราดูจะตื่นเต้นกันเป็นพิเศษที่จะได้ล่องเรือปาร์ตี้กันใบหน้าของทั้งสองทำให้ทุกคนดูออกว่ากำลังวาดฝันถึงปาร์ตี้ที่แสนสนุกสุดโรแมนติกผิดจากณัฐนิชาที่เพียงแค่อมยิ้มนั่งน
“ฮ่าๆๆ..ครับ...เอ่อคุณหวานครับ..อืมม”เมฆารีบกลบเกลื่อนความคิดของเขาที่มันแล่นไปไกลแล้วด้วยการขำออกมาพร้อมนึกถึงเรื่องที่เขาอยากจะถามเธออยู่พอดีแต่พอนึกขึ้นได้ว่าของที่เขาจะถามเธอดันลืมไว้ที่บ้านท้ายเกาะจึงคิดว่าเดี๋ยวให้เขาไปเอากลับมาก่อนแล้วค่อยถามจะดีกว่า“มีอะไรหรือเปล่าคะ”รินทร์ธาราเห็นท่าทีชายหนุ่มอ้ำๆอึ้งๆจึงเปิดประเด็นถามคนตรงหน้าออกไปว่ามีอะไรคาใจอยู่หรือเปล่าเพราะเธอพร้อมตอบทุกคำถามของเขาอยู่แล้วโดยเฉพาะเรื่องพี่สาวเธอ“อ๋อ...เปล่าครับเดี๋ยวผมต้องขอตัวก่อนนะครับ”เมฆารีบบอกปฏิเสธหญิงสาวออกไปว่าไม่มีอะไรพร้อมขอตัวออกไปจากตรงนี้เพราะเขาเองก็ต้องไปเชคเมลรายงานผลที่บริษัทที่จะต้องตรวจทานอยู่เป็นประจำแทบทุกวัน“ค่ะ”หลังจากที่เมฆาเดินออกไปแล้วรินทร์ธาราก็หันมาดูหลานๆที่กำลังนั่งเล่นง่วนกันต่อใยไหมนั้นด้วยความที่เป็นเด็กผู้หญิงเมื่อได้ตุ๊กตามาอย่างแรกเด็กหญิงถอดชุดตุ๊กตาก่อนเป็นอันดับแรกและหยิบชุดเปลี่ยนใส่อย่างชำนาญกับชุดที่มีแถมอยู่ในเซ็ทส่วนใบหม่อนก็สนุกตามประสาเด็กผู้ชายที่เล่นรถแต่ทำเหมือนมันบินได้โดยการชูขึ้นเพดานพร้อมส่งเสียงดังปากจู๋อย่างน่าเอ็นดู“บู๊นนนนน....” ปั้กกกก“
“คุณเป็นได้แค่คุณอาเท่านั้นย่ะ”รินทร์ธาราต้องย้ำสถานะให้วายุได้ฟังอีกรอบว่าเขานั้นเป็นได้แค่สถานะไหนเพราะเธอจะไม่ยอมให้เขาเป็นได้มากกว่านี้เป็นอันขาดเพราะเธอนั้นเลือกพี่เขยของเธอเอาไว้แล้ว“รู้แล้วล่ะน่าย้ำเก่งจริงจริ๊งงงงงง”วายุรู้ตัวว่าเขานั้นอยู่ได้ในสถานะไหนแล้วเขาเองก็ไม่ได้คิดอะไรอย่างที่หญิงสาวคิดด้วยตลอดเวลาหลายวันที่ผ่านมารินทร์ธาราอยู่ดูแลเด็กๆแทบจะทุกอย่างจึงทำให้ป๋อมแป๋มกับณัฐนิชานั้นทำงานได้สะดวกและรวดเร็วขึ้นส่วนวายุก็ยังคงคอยกัดกับรินทร์ธาราเหมือนเดิมและตอนนี้เขาก็พ่วงตำแหน่งช่วยรินทร์ธาราดูแลเด็กๆไปด้วยเพราะรินทร์ธาราจะวานให้วายุนั้นมาช่วยดูแลเด็กๆเสมอเมื่อวายุทำท่าที่จะเข้าใกล้พี่สาวของเธอธาดาเองนอกจากดูแลความเรียบร้อยทุกอย่างแล้วเขาก็ยังต้องคอยปรามวายุกับรินทร์ธาราให้เลิกเถียงกันอยู่บ่อยครั้งจนเขาก็เริ่มระอาเสียแล้ว“เหนื่อยไหมครับคุณนิ”ในขณะที่ณัฐนิชานั่งทำงานอยู่เงียบๆเมฆาก็จะนำขนมหรือเครื่องดื่มมาส่งให้เธอเป็นของว่างแทบทุกวันพร้อมทั้งหาเรื่องคุยกับเธออยู่บ่อยๆป๋อมแป๋มเองก็รู้งานเวลาเห็นว่าชายหนุ่มเข้ามาหาเพื่อนเธอเองก็จะแกล้งออกไปยืดเส้นยืดสายเป็นอันรู้กันกับเ
“งั้นพรุ่งนี้แกไปดูบ้านกับคุณเมฆนะเดี๋ยวฉันต้องเร่งส่งแบบให้กับทีม”“อืมม...ก็ได้”ป๋อมแป๋มนั้นจำต้องหาข้ออ้างสารพัดให้ชายหนุ่มกับเพื่อนเธออยู่กันสองต่อสองเผื่อทั้งคู่จะได้มีโอกาสใกล้ชิดกันมากกว่าที่ผ่านมาแผนทำให้เพื่อนรักตกถังข้าวสารเธอไม่ปล่อยให้ล่มง่ายๆแน่เช้าวันต่อมา09.30 น.หลังจากที่เมฆาและณัฐนิชาทานอาหารเช้าเสร็จก็เตรียมตัวออกเดินทางไปที่บ้านท้ายเกาะทันที“คุณแม่ขา...ไปด้วย”“หม่อนจะไปด้วยคร้าบ”“อ้าว...เด็กๆ”ทั้งใยไหมและใบหม่อนเห็นว่าคนเป็นแม่กำลังจะขึ้นรถอยู่ที่หน้าบ้านจึงรีบวิ่งออกมาหาพลางบีบน้ำตาร้องตามกันทั้งคู่ทำเอาคนเป็นแม่เริ่มลำบากใจ“เด็กๆมาอยู่กับน้าดีกว่านะคะ...เดี๋ยวน้าหวานเปิดการ์ตูนเรื่องโปรดให้ดูเอาไหม”รินทร์ธารารู้ว่าถ้าเด็กๆไปด้วยอาจจะรบกวนทั้งสองจึงพยายามหลอกล่อให้หลานๆของเธอกลับเข้าไปในบ้านกับเธอแต่ดูท่าการหลอกล่อจะไม่เป็นผลเพราะเจ้าก้อนทั้งสองเดินไปหลบอยู่ที่หลังของเมฆาพลางใช้มือป้อมจับมือของชายหนุ่มเอาไว้คนละข้างเหมือนจะรู้ว่าคนไหนตามใจ“ให้เด็กๆไปกับเราก็ได้ครับคงไม่มีปัญหาอะไร”เมฆาหันมาบอกกับณัฐนิชาให้หายกังวลเด็กๆทั้งสองจะไปด้วยเขาไม่ได้มีปัญหาเชื่
“เด็กๆกระโดมาเลยเดี๋ยวลุงรับเอง” ตู้มมมม“อร้ายยยย”“ฮ่าๆๆ”“ใบหม่อนวิ่งมาเลยครับ” ตู้มมมมมณัฐนิชาได้ยินเสียงของทั้งสามเล่นน้ำกันอย่างสนุกจนต้องออกมายืนพิงขอบประตูดูทั้งสามที่กำลังสนุกอยู่กับการกระโดดน้ำเธอยิ่งมองยิ่งอดยิ้มไม่ได้“เลิกเล่นกันได้แล้วค่ะเด็กๆ”ณัฐนิชาเห็นว่าทั้งสามเล่นน้ำกันมาร่วมครึ่งชั่วโมงแล้วอีกอย่างก็ใกล้จะเที่ยงแล้วอากาศก็ค่อนข้างร้อนจึงคิดว่าไปพาเด็กๆอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีกว่าชั่วโมงต่อมา“โถ่แม่ครับผมยังไม่อยากมีครอบครัวเสียหน่อยแค่นี้ก่อนนะครับ”เมฆาต้องส่ายหัวเวลาคุยกับคนเป็นแม่ทุกครั้งไปที่ชอบเล่าเรื่องผู้หญิงคนนั้นคนนี้เชียร์ให้เขาได้ฟังตลอดนี่ขนาดเขาโทรไปชวนให้มาปาร์ตี้วันเกิดด้วยเจ้าตัวก็ปฏิเสธว่าอายุเยอะแล้วไม่ชอบนั่งเรือนานๆแถมยังมิวายที่จะพูดเรื่องผู้หญิงคนล่าสุดที่พึ่งไปเจอให้ฟังจนเขานั้นต้องตัดบทขอจบการสนทนาไปณัฐนิชาชะงักเล็กน้อยเมื่อเข้ามาเจอคำพูดที่เมฆากำลังโทรคุยกับแม่พอดีตอนนี้เธอรู้แล้วว่าชายหนุ่มนั้นคงไม่ได้คิดอยากจะจริงจังกับเธอตามที่เพื่อนเธอบอกสักนิดเขาคงจะชอบชีวิตโสดไม่ชอบมีครอบครัวเมื่อรู้แบบนี้เธอเองก็รู้สึกหน่วงนิดๆยอมรับว่าสิ่งที
21.00 น.ณัฐนิชาเกิดความกังวลใจมาตั้งแต่ช่วงเมื่อกลางวันเธอไม่คิดว่าโลกจะกลมจนเหวี่ยงให้เธอมาเจอกับเขาอีกครั้งเขาในคืนนั้นที่เป็นเหมือนสัตว์ร้ายที่ทำลายเธอโดยที่เธอร้องขออะไรไม่ได้เป็นสุภาพบุรุษอย่างที่เพื่อนและน้องของสาวของเธอบอกเธอเกือบที่จะมอบความไว้วางใจทั้งหมดให้กับเขาแล้วเชียวยังไงเธอก็จะต้องพาชีวิตเธอและลูกๆให้อยู่ห่างกับเขามากที่สุดเพราะเธอไม่รู้ว่าคนที่ไม่อยากจะมีครอบครัวอย่างชายหนุ่มเมื่อรู้ว่าตัวเองพลาดมีลูกโดยไม่ได้ตั้งใจคนใจร้ายอย่างเขาจะทำอะไรกับพวกเธอบ้างแกร๊กกก“คุณเมฆเข้ามาทางนี้อีกแล้วนะคะ”ณัฐนิชาที่กำลังนั่งกอดเขาคิดอะไรเพลินๆอยู่ข้างๆของลูกๆเธอที่หลับกันไปแล้วเมื่อได้ยินเสียงประตูหลังห้องเปิดออกเธอก็หันขวับมองเห็นชายหนุ่มอย่างชัดเจนพลางตำหนิตัวเองที่เผลอลืมล็อคประตูเธอถามชายหนุ่มด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจที่เขาเข้ามาในห้องเธอโดยใช้ประตูหลังห้องอีกแล้ว“ทำไมคุณยังไม่นอน”เมฆาเห็นว่าหญิงสาวนั้นปวดหัวจนไม่ไปทานข้าวเย็นเขาก็อยากเข้ามาดูว่าเธอเป็นอะไรมากหรือเปล่าแต่เมื่อเข้ามาเห็นเธอยังไม่นอนแถมยังนั่งกอดเข่าอยู่ภายใต้แสงของโคมไฟบนหัวนอนนั่นอีกเขาคิดว่าเธอคงจะไม่ได้ป่วยจริง