“ฮ่าๆๆ..ครับ...เอ่อคุณหวานครับ..อืมม”
เมฆารีบกลบเกลื่อนความคิดของเขาที่มันแล่นไปไกลแล้วด้วยการขำออกมาพร้อมนึกถึงเรื่องที่เขาอยากจะถามเธออยู่พอดีแต่พอนึกขึ้นได้ว่าของที่เขาจะถามเธอดันลืมไว้ที่บ้านท้ายเกาะจึงคิดว่าเดี๋ยวให้เขาไปเอากลับมาก่อนแล้วค่อยถามจะดีกว่า
“มีอะไรหรือเปล่าคะ”
รินทร์ธาราเห็นท่าทีชายหนุ่มอ้ำๆอึ้งๆจึงเปิดประเด็นถามคนตรงหน้าออกไปว่ามีอะไรคาใจอยู่หรือเปล่าเพราะเธอพร้อมตอบทุกคำถามของเขาอยู่แล้วโดยเฉพาะเรื่องพี่สาวเธอ
“อ๋อ...เปล่าครับเดี๋ยวผมต้องขอตัวก่อนนะครับ”
เมฆารีบบอกปฏิเสธหญิงสาวออกไปว่าไม่มีอะไรพร้อมขอตัวออกไปจากตรงนี้เพราะเขาเองก็ต้องไปเชคเมลรายงานผลที่บริษัทที่จะต้องตรวจทานอยู่เป็นประจำแทบทุกวัน
“ค่ะ”
หลังจากที่เมฆาเดินออกไปแล้วรินทร์ธาราก็หันมาดูหลานๆที่กำลังนั่งเล่นง่วนกันต่อใยไหมนั้นด้วยความที่เป็นเด็กผู้หญิงเมื่อได้ตุ๊กตามาอย่างแรกเด็กหญิงถอดชุดตุ๊กตาก่อนเป็นอันดับแรกและหยิบชุดเปลี่ยนใส่อย่างชำนาญกับชุดที่มีแถมอยู่ในเซ็ทส่วนใบหม่อนก็สนุกตามประสาเด็กผู้ชายที่เล่นรถแต่ทำเหมือนมันบินได้โดยการชูขึ้นเพดานพร้อมส่งเสียงดังปากจู๋อย่างน่าเอ็นดู
“บู๊นนนนน....” ปั้กกกก
“โอ้ย...”
วายุที่ไม่ทันระวังหวังว่าจะเดินเข้ามาเล่นกับเด็กๆแต่รถในมือของใบหม่อนนั้นจู่ๆมันก็พุ่งมาที่หัวของเขาอย่างไม่ทันตั้งตัวเรียกเสียงร้องของชายหนุ่มได้เป็นอย่างดี
“แม่นจริงๆเลยหลานน้าอิๆๆ”
รินทร์ธารารีบกลั้นขำไม่คิดว่ามือของหลานชายเธอจะแม่นขนาดนี้
“ใบหม่อนไม่ปาของนะคะดูสิโดนหัวคุณลุงแล้วเห็นไหม”
หญิงสาวรีบปั้นสีหน้าให้หายระรื่นให้เร็วที่สุดก่อนจะหันไปบอกหลานชายของเธอว่าห้ามขว้างปาสิ่งของถึงแม้จะพอใจกับผลที่ได้ก็เถอะแต่ยังไงเธอก็จะต้องสั่งสอนคนเป็นหลานให้ทำในสิ่งที่ถูกต้องอยู่แล้ว
“นี่ๆคุณให้เด็กๆเรียกผมอาก็พอมั้งลุงมันแก่ไปเปล่า”
วายุกุมหัวคลึงเล็กน้อยพร้อมนั่งลงที่โซฟาใกล้ๆกับทั้งสามก่อนจะบอกให้หญิงสาวสอนเด็กๆให้เรียกเขาใหม่เพราะว่าเขาไม่ได้อยากดูแก่ขนาดนั้น
“ขอโทษคุณอาก่อนเร็วค่ะใบหม่อน”
“ขอโทษคร้าบบ”
“ครับผม”
ใบหม่อนเป็นเด็กที่สอนง่ายพูดง่ายเขารู้ตัวว่าตัวเองทำผิดจึงเข้าไปขอโทษวายุอย่างรวดเร็วตามที่คนเป็นน้าสาวได้บอกวายุเองไม่ได้ถือโทษอะไรที่เขาร้องดังก็เพราะเจ็บและตกใจเท่านั้นไม่ได้ถือสาอะไรเด็กๆเลยสักนิดจะหมั่นไส้ก็คนเป็นน้าสาวที่เขาแอบเห็นเธอหัวเราะเยาะเขาในคราแรก
“ดูซิเด็กๆยังน่ารักทำผิดแล้วยังหัดขอโทษไม่เหมือนคนเป็นน้าสักนิด”
ด้วยความที่ยังมีคดีติดค้างอยู่กับหญิงสาววายุจึงอดไม่ได้ที่จะพูดจากระแนะกระแหนรินทร์ธาราอย่างลอยหน้าลอยตา
“นี่คุณพูดอะไรถ้าจะพูดถึงเรื่องนั้นอีกล่ะก็คุณเองก็เป็นฝ่ายผิดเหมือนกัน”
รินทร์ธารากรอกตามองบนที่เห็นว่าชายหนุ่มยังจะดูหาเรื่องเธอไม่เลิกทั้งที่เธอไม่ได้อยากจะมาทะเลาะอะไรกับเขาแล้วแต่ถ้าเขาเริ่มมาก่อนเธอก็ไม่ยอมเช่นกัน
“ก็ผมบอกคุณกี่รอบแล้วว่าผมไม่ได้ตังใจแล้วคุณจะมาเถียงกับผมต่อหน้าเด็กๆทำไม”
วายุรีบเด้งตัวลงมาจากโซฟาพร้อมพุ่งพรวดมาพูดต่อหน้าหญิงสาวว่าเรื่องนั้นเขาไม่ได้ตั้งใจจริงๆแต่สิ่งที่หญิงสาวทำกับเขานั้นมันคือจงใจอย่างเห็นได้ชัดเลย
“ก็คุณนั่นแหละที่เป็นฝ่ายหาเรื่องฉันก่อน”
รินทร์ธาราเองก็จ้องหน้าชายหนุ่มไม่ละสายตาเธอเองก็ไม่ได้อยากมีกิริยาไม่ดีต่อหน้าเด็กๆแต่เป็นเพราะวายุต่างหากที่เป็นฝ่ายเปิดประเด็นหาเรื่องเธอก่อน
“คุณทั้งสองไปคุยกันข้างนอกไหมครับเดี๋ยวผมดูเด็กๆให้เอง”
ธาดาส่ายหัวเมื่องสถานการณ์ทั้งหมดอยู่ในสายตาของเขาเพราะนั่งอยู่ไม่ห่างเท่าไรเมื่อเห็นทั้งสองจ้องจะกัดกันอย่างเชือดเฉือนไม่มีใครยอมใครเขาจึงต้องเอ่ยปากให้ทั้งสองไปทะเลาะกันด้านนอกส่วนเด็กๆเดี๋ยวเขาจะเป็นฝ่ายดูให้เอง
“เอ่อ...ไม่เป็นไรค่ะคุณเว...เราจะไม่เถียงกันแล้วค่ะ”
รินทร์ธาราหันมาแสยะยิ้มให้ธาดารวมถึงวายุเองก็ต้องกลับไปนั่งที่โซฟาตามเดิมเมื่อได้ยินเสียงของธาดาทั้งคู่พยายามสงบลงให้ได้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วยรู้ว่าเมื่อครู่ทำตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับเด็กๆเห็นไปเสียแล้ว
5วันต่อมา
“นี่คุณจะไปไหนช่วยฉันป้อนข้าวเด็กๆก่อน”
รินทร์ธาราเห็นว่าวายุนั้นทำท่าจะตามไปเกาะแกะพี่สาวของเธออีกแล้วจึงรีบเรียกมาทำหน้าที่ของเขาอย่างที่เคยทำในครั้งหลังๆที่ผ่านมา
“นี่ผมกลายเป็นพี่เลี้ยงเด็กๆไปแล้วหรือไง”
วายุต้องหยุดชะงักในทันทีแค่อยากจะเข้าไปคุยกับณัฐนิชาตามประสาคนที่คุยกันถูกคอก็เท่านั้นไม่ได้คิดไปเกาะแกะอะไรเธอเสียหน่อยเพราะรู้ว่าเธอนั้นเป็นที่ถูกใจของคนเป็นพี่ชายของเขา
“หรือจะไม่ช่วยคุณนี่มันใจร้ายใจดำจริงๆเลยนะ”
รินทร์ธาราเห็นว่าชายหนุ่มแอบบ่นเธอเองก็ทำท่าลอยหน้าลอยตาต่อว่าชายหนุ่มใจจืดใจดำที่ไม่มาช่วยเธอ
“ก็ช่วยอยู่ทุกวันไหมครับคุณผู้หญิง...ผมเลี้ยงจนจะเป็นพ่อเค้าแล้วมั้ง”
วายุไม่ได้คิดจะไม่ช่วยเพราะหลังๆมานี้เขาเองก็ทำหน้าที่นี้เป็นประจำพร้อมพูดประชดหญิงสาวกลับนิดหน่อยเพราะเขาโดนเธอประชดก่อน
“คุณเป็นได้แค่คุณอาเท่านั้นย่ะ”รินทร์ธาราต้องย้ำสถานะให้วายุได้ฟังอีกรอบว่าเขานั้นเป็นได้แค่สถานะไหนเพราะเธอจะไม่ยอมให้เขาเป็นได้มากกว่านี้เป็นอันขาดเพราะเธอนั้นเลือกพี่เขยของเธอเอาไว้แล้ว“รู้แล้วล่ะน่าย้ำเก่งจริงจริ๊งงงงงง”วายุรู้ตัวว่าเขานั้นอยู่ได้ในสถานะไหนแล้วเขาเองก็ไม่ได้คิดอะไรอย่างที่หญิงสาวคิดด้วยตลอดเวลาหลายวันที่ผ่านมารินทร์ธาราอยู่ดูแลเด็กๆแทบจะทุกอย่างจึงทำให้ป๋อมแป๋มกับณัฐนิชานั้นทำงานได้สะดวกและรวดเร็วขึ้นส่วนวายุก็ยังคงคอยกัดกับรินทร์ธาราเหมือนเดิมและตอนนี้เขาก็พ่วงตำแหน่งช่วยรินทร์ธาราดูแลเด็กๆไปด้วยเพราะรินทร์ธาราจะวานให้วายุนั้นมาช่วยดูแลเด็กๆเสมอเมื่อวายุทำท่าที่จะเข้าใกล้พี่สาวของเธอธาดาเองนอกจากดูแลความเรียบร้อยทุกอย่างแล้วเขาก็ยังต้องคอยปรามวายุกับรินทร์ธาราให้เลิกเถียงกันอยู่บ่อยครั้งจนเขาก็เริ่มระอาเสียแล้ว“เหนื่อยไหมครับคุณนิ”ในขณะที่ณัฐนิชานั่งทำงานอยู่เงียบๆเมฆาก็จะนำขนมหรือเครื่องดื่มมาส่งให้เธอเป็นของว่างแทบทุกวันพร้อมทั้งหาเรื่องคุยกับเธออยู่บ่อยๆป๋อมแป๋มเองก็รู้งานเวลาเห็นว่าชายหนุ่มเข้ามาหาเพื่อนเธอเองก็จะแกล้งออกไปยืดเส้นยืดสายเป็นอันรู้กันกับเ
“งั้นพรุ่งนี้แกไปดูบ้านกับคุณเมฆนะเดี๋ยวฉันต้องเร่งส่งแบบให้กับทีม”“อืมม...ก็ได้”ป๋อมแป๋มนั้นจำต้องหาข้ออ้างสารพัดให้ชายหนุ่มกับเพื่อนเธออยู่กันสองต่อสองเผื่อทั้งคู่จะได้มีโอกาสใกล้ชิดกันมากกว่าที่ผ่านมาแผนทำให้เพื่อนรักตกถังข้าวสารเธอไม่ปล่อยให้ล่มง่ายๆแน่เช้าวันต่อมา09.30 น.หลังจากที่เมฆาและณัฐนิชาทานอาหารเช้าเสร็จก็เตรียมตัวออกเดินทางไปที่บ้านท้ายเกาะทันที“คุณแม่ขา...ไปด้วย”“หม่อนจะไปด้วยคร้าบ”“อ้าว...เด็กๆ”ทั้งใยไหมและใบหม่อนเห็นว่าคนเป็นแม่กำลังจะขึ้นรถอยู่ที่หน้าบ้านจึงรีบวิ่งออกมาหาพลางบีบน้ำตาร้องตามกันทั้งคู่ทำเอาคนเป็นแม่เริ่มลำบากใจ“เด็กๆมาอยู่กับน้าดีกว่านะคะ...เดี๋ยวน้าหวานเปิดการ์ตูนเรื่องโปรดให้ดูเอาไหม”รินทร์ธารารู้ว่าถ้าเด็กๆไปด้วยอาจจะรบกวนทั้งสองจึงพยายามหลอกล่อให้หลานๆของเธอกลับเข้าไปในบ้านกับเธอแต่ดูท่าการหลอกล่อจะไม่เป็นผลเพราะเจ้าก้อนทั้งสองเดินไปหลบอยู่ที่หลังของเมฆาพลางใช้มือป้อมจับมือของชายหนุ่มเอาไว้คนละข้างเหมือนจะรู้ว่าคนไหนตามใจ“ให้เด็กๆไปกับเราก็ได้ครับคงไม่มีปัญหาอะไร”เมฆาหันมาบอกกับณัฐนิชาให้หายกังวลเด็กๆทั้งสองจะไปด้วยเขาไม่ได้มีปัญหาเชื่
“เด็กๆกระโดมาเลยเดี๋ยวลุงรับเอง” ตู้มมมม“อร้ายยยย”“ฮ่าๆๆ”“ใบหม่อนวิ่งมาเลยครับ” ตู้มมมมมณัฐนิชาได้ยินเสียงของทั้งสามเล่นน้ำกันอย่างสนุกจนต้องออกมายืนพิงขอบประตูดูทั้งสามที่กำลังสนุกอยู่กับการกระโดดน้ำเธอยิ่งมองยิ่งอดยิ้มไม่ได้“เลิกเล่นกันได้แล้วค่ะเด็กๆ”ณัฐนิชาเห็นว่าทั้งสามเล่นน้ำกันมาร่วมครึ่งชั่วโมงแล้วอีกอย่างก็ใกล้จะเที่ยงแล้วอากาศก็ค่อนข้างร้อนจึงคิดว่าไปพาเด็กๆอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีกว่าชั่วโมงต่อมา“โถ่แม่ครับผมยังไม่อยากมีครอบครัวเสียหน่อยแค่นี้ก่อนนะครับ”เมฆาต้องส่ายหัวเวลาคุยกับคนเป็นแม่ทุกครั้งไปที่ชอบเล่าเรื่องผู้หญิงคนนั้นคนนี้เชียร์ให้เขาได้ฟังตลอดนี่ขนาดเขาโทรไปชวนให้มาปาร์ตี้วันเกิดด้วยเจ้าตัวก็ปฏิเสธว่าอายุเยอะแล้วไม่ชอบนั่งเรือนานๆแถมยังมิวายที่จะพูดเรื่องผู้หญิงคนล่าสุดที่พึ่งไปเจอให้ฟังจนเขานั้นต้องตัดบทขอจบการสนทนาไปณัฐนิชาชะงักเล็กน้อยเมื่อเข้ามาเจอคำพูดที่เมฆากำลังโทรคุยกับแม่พอดีตอนนี้เธอรู้แล้วว่าชายหนุ่มนั้นคงไม่ได้คิดอยากจะจริงจังกับเธอตามที่เพื่อนเธอบอกสักนิดเขาคงจะชอบชีวิตโสดไม่ชอบมีครอบครัวเมื่อรู้แบบนี้เธอเองก็รู้สึกหน่วงนิดๆยอมรับว่าสิ่งที
21.00 น.ณัฐนิชาเกิดความกังวลใจมาตั้งแต่ช่วงเมื่อกลางวันเธอไม่คิดว่าโลกจะกลมจนเหวี่ยงให้เธอมาเจอกับเขาอีกครั้งเขาในคืนนั้นที่เป็นเหมือนสัตว์ร้ายที่ทำลายเธอโดยที่เธอร้องขออะไรไม่ได้เป็นสุภาพบุรุษอย่างที่เพื่อนและน้องของสาวของเธอบอกเธอเกือบที่จะมอบความไว้วางใจทั้งหมดให้กับเขาแล้วเชียวยังไงเธอก็จะต้องพาชีวิตเธอและลูกๆให้อยู่ห่างกับเขามากที่สุดเพราะเธอไม่รู้ว่าคนที่ไม่อยากจะมีครอบครัวอย่างชายหนุ่มเมื่อรู้ว่าตัวเองพลาดมีลูกโดยไม่ได้ตั้งใจคนใจร้ายอย่างเขาจะทำอะไรกับพวกเธอบ้างแกร๊กกก“คุณเมฆเข้ามาทางนี้อีกแล้วนะคะ”ณัฐนิชาที่กำลังนั่งกอดเขาคิดอะไรเพลินๆอยู่ข้างๆของลูกๆเธอที่หลับกันไปแล้วเมื่อได้ยินเสียงประตูหลังห้องเปิดออกเธอก็หันขวับมองเห็นชายหนุ่มอย่างชัดเจนพลางตำหนิตัวเองที่เผลอลืมล็อคประตูเธอถามชายหนุ่มด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจที่เขาเข้ามาในห้องเธอโดยใช้ประตูหลังห้องอีกแล้ว“ทำไมคุณยังไม่นอน”เมฆาเห็นว่าหญิงสาวนั้นปวดหัวจนไม่ไปทานข้าวเย็นเขาก็อยากเข้ามาดูว่าเธอเป็นอะไรมากหรือเปล่าแต่เมื่อเข้ามาเห็นเธอยังไม่นอนแถมยังนั่งกอดเข่าอยู่ภายใต้แสงของโคมไฟบนหัวนอนนั่นอีกเขาคิดว่าเธอคงจะไม่ได้ป่วยจริง
“เรือพร้อมแล้วครับ...ใครจะเป็นคนขับครับ”ธาดาเดินเข้ามาหาชายหนุ่มสองพี่น้องที่นั่งคุยกันพร้อมถือถ้วยข้าวเด็กๆเหมือนกับพวกพ่อลูกอ่อนไม่มีผิดก่อนจะถามว่าวันนี้ใครจะเป็นคนขับเรือออกไป“เรือใครคนนั้นก็ขับสิ”เมฆาหันไปมองธาดาว่าพลางอมยิ้มงานนี้เขาคงไม่เป็นคนขับเองแน่เพราะเขาเป็นเจ้าของวันเกิด“อืม...โอเคครับงั้นเดี๋ยวผมไปรอด้านนอกก็แล้วกัน”ธาดาพยักหน้าเข้าใจเขาขอตัวออกไปรอด้านนอกด้วยรู้ตัวอยู่แล้วว่าวันนี้ยังไงเขาก็ต้องเป็นคนขับเองแต่ก็แค่แกล้งถามเพื่อให้แน่ใจเท่านั้นเองว่าจะมีใครอยากจะขับเรือแทนเขาหรือเปล่า“เมื่อไรเวจะกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม”วายุส่ายหัวให้กับธาดาที่ชอบเหลือเกินจะมารับใช้พวกเค้าทั้งที่ตัวเองก็มีชีวิตที่สบายกว่านี้ได้หลายเท่าถ้าเป็นเขาคงเบื่อตาย“ไม่รู้สิเวอยู่อย่างนี้คงมีความสุขดีล่ะมั้ง”เมฆาคิดว่าเขานั้นเข้าใจธาดาดีเขาคิดว่าวันหากธาดามีความสุขกับชีวิตแบบนี้เขาก็ไม่ได้อยากขัดความสุขใครเมื่อถึงจุดที่ธาดารู้สึกอยากจะเปลี่ยนแปลงอะไรในชีวิตใหม่เขาก็ไม่ได้คิดจะห้ามออกจะยินดีด้วย“วันนี้แกสวยมากเลยนะนิคุณเมฆต้องประทับใจแน่เลย”ป๋อมแป๋มกำลังยืนทำผมให้ณัฐนิชาอยู่ที่หน้ากระจกบานใ
เมื่อทุกคนขึ้นเรือกันครบธาดาก็ขับเรือยอร์ชสุดหรูลำใหญ่ที่มีพื้นที่อำนวยความสะดวกเพียงพอสำหรับทุกคนออกจากฝั่งไม่นานก็จอดเรือพร้อมเริ่มงานปาร์ตี้บนเรือกันอย่างสนุกสนานตอนนี้ธาดาทำหน้าที่ย่างบาร์บีคิวและดูแลเรื่องอาหารให้กับทุกคนส่วนป๋อมแป๋มก็ทำตัวเป็นดีเจเปิดเพลงคลอบรรยากาศไปทางด้านวายุและรินทร์ธาราก็ไม่ทิ้งหน้าที่เดิมยังคงเป็นพี่เลี้ยงให้เด็กๆทั้งสองอีกทั้งยังพาเด็กๆมาออกสเตปแดนซ์กันอย่างน่ารักอีกด้วย“นี่ฉันต้องเปิดเพลงเด็กด้วยหรือเปล่าเนี่ย”“ฮ่าๆๆ”ป๋อมแป๋มและณัฐนิชาอดขำเจ้าสองแสบที่ออกมาเต้นกับรินทร์ธาราและวายุไม่ได้ที่เด็กๆดูจะสนุกกันจนลืมขวดนมในมือไปเลย“เอ่อ...นี่แกเค้กอยู่ในตู้แกไปเอามาสิ่นี่ก็จะได้เวลาคุณเมฆเป่าเค้กแล้ว”ป๋อมแป๋มเห็นว่ามันได้เวลาที่จะให้เมฆานั้นเป่าเค้กเธอเห็นชายหนุ่มกำลังยืนชมวิวอยู่ที่ด้านบนพอดีเลยให้ณัฐนิชาถือเค้กไปให้เมฆาเป่าน่าจะทำให้เจ้าของวันเกิดรู้สึกดีอยู่ไม่น้อย“แกก็ไปเองสิทำไมต้องเป็นฉันด้วยล่ะ”ณัฐนิชารีบส่ายหัวระริกไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นเธอที่ต้องถือเค้กไปให้เมฆาด้วย“ก็แกนั่นแหละเหมาะสุดแล้วฉันว่าคุณเมฆเค้าต้องประทับใจ...”ณัฐนิชายังคงยืนนิ่งท
“มันเป็นของพี่นิค่ะคุณเมฆเก็บได้ตรงไหนคะสงสัยพี่นิจะทำหล่นไว้แน่เลย...หวานไม่เห็นมันนานมากแล้วนะคะไม่คิดว่าพี่นิจะเอาติดมาด้วย”รินทร์ธาราตอบชายหนุ่มออกไปว่าสร้อยเส้นนี้เป็นของพี่สาวเธอและคิดว่าชายหนุ่มคงจะเก็บได้แน่เธอเองก็ไม่ได้เห็นสร้อยเส้นนี้ของพี่สาวเธอนานแล้วคิดพี่สาวเธอเก็บไว้อย่างดีเสียอีกแต่นี่ดันมาทำหล่นให้คนอื่นเก็บได้เฉยเลย“อ่อ...เอ่อ...ด...เดี๋ยวผมเอาไปให้เธอเองก็ได้ครับ”เมฆาตัวชาวาบแทบจะหยุดหายใจคนที่เขาอยากจะเจออยู่ใกล้ตัวเขาแค่นี้เองเขาพอจะเดาออกแล้วว่าทำไมตั้งแต่เมื่อวานตอนกลางวันณัฐนิชาถึงมีท่าทีที่เปลี่ยนไปขนาดนั้นพลางมองไปที่เจ้าสองแสบตัวกลมที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ตอนนี้ภาพมันลางเพราะน้ำตาที่มันเริ่มคลอออกมาหูที่อื้อไม่ได้ยินอะไรทำให้ชายหนุ่มเหมือนถูกตรึงไว้ตอนนี้เขาแทบยืนไม่อยู่และพยายามทบทวนคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาค่อยๆลำดับเหตุการณ์“นี่คุณ...มาดูเด็กๆ”วายุที่เห็นรินทร์ธาราคุยกันกระหนุงกระหนิงกับพี่ชายของตนเขารู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยพร้อมเรียกให้หญิงสาวกลับมาดูเด็กๆที่กำลังวิ่งเล่นกันอยู่อย่างคึกครื้นและดูจะไม่หมดแรงง่ายๆ“โอเคๆ...หวานขอตัวนะคะ”รินทร์ธาราหันไปตามเสียง
“หืม...นี่”ณัฐนิชาไม่คิดว่าชายหนุ่มจะกวนประสาทเธอได้มากขนาดนี้มือเล็กที่ไม่เคยคิดจะทำร้ายใครตอนนี้มันเงื้อมมือออกอัตโนมัติหมายจะฟาดไปที่ปากเสียๆของเขา“อืมม...คุณไม่สนใจตำแหน่งเมียผมจริงๆเหรอถึงสั่งให้ผมห้ามยุ่งกับคุณ...อืมไม่ใช่สิคุณก็เป็นเมียผมแล้วนี่นาต้องถามว่าคุณจะกลับมาเป็นเมียผมอีกไหม”เมฆาจับข้อมือหญิงสาวเอาไว้ทันและขึงไว้กับกำแพงก่อนที่มันจะถึงใบหน้าเขาไม่รู้สึกโกรธเธอที่จะทำแบบนี้สักนิดกลับอยากจะแกล้งเธอมากขึ้นอีกต่างหากเลยเริ่มมีท่าทีและน้ำเสียงที่กวนอารมณ์เธอเพิ่มขึ้นไปอีกเท่าตัว“หยุดพูดแล้วออกไปเลยนะ”ณัฐนิชาทำอะไรไม่ได้ในตอนนี้ได้แต่ไล่เขาให้ออกห่างจากตัวเธอเท่านั้น“ผมออกไปก็ได้...จะไปหาลูกๆของผม”เมฆาปล่อยหญิงสาวแล้วค่อยๆเดินหันหลังออกไปจากห้องอย่างผู้ชนะเขาไม่ได้อยากทำกับเธอแบบนี้แต่ความพยศของหญิงสาวต่างหากที่บังคับให้เขาต้องทำ“เด็กๆไปไหนกันหมดครับ”เมฆาเดินออกมาด้านนอกก็ไม่เห็นเด็กๆแล้วจึงเดินเข้ามาถามหนุ่มสาวทั้งสี่คนที่กำลังยืนดื่มกันอยู่ที่หัวเรือ“นอนแล้วค่ะคุณเมฆ..เด็กๆอยู่ในห้องหวานน่ะค่ะ”“โอเคครับ...อืมเดี๋ยวคืนนี้คุณหวานไปนอนห้องผมก็ได้ครับเดี๋ยวผมไปนอนกั