“คุณเป็นได้แค่คุณอาเท่านั้นย่ะ”
รินทร์ธาราต้องย้ำสถานะให้วายุได้ฟังอีกรอบว่าเขานั้นเป็นได้แค่สถานะไหนเพราะเธอจะไม่ยอมให้เขาเป็นได้มากกว่านี้เป็นอันขาดเพราะเธอนั้นเลือกพี่เขยของเธอเอาไว้แล้ว
“รู้แล้วล่ะน่าย้ำเก่งจริงจริ๊งงงงงง”
วายุรู้ตัวว่าเขานั้นอยู่ได้ในสถานะไหนแล้วเขาเองก็ไม่ได้คิดอะไรอย่างที่หญิงสาวคิดด้วย
ตลอดเวลาหลายวันที่ผ่านมารินทร์ธาราอยู่ดูแลเด็กๆแทบจะทุกอย่างจึงทำให้ป๋อมแป๋มกับณัฐนิชานั้นทำงานได้สะดวกและรวดเร็วขึ้นส่วนวายุก็ยังคงคอยกัดกับรินทร์ธาราเหมือนเดิมและตอนนี้เขาก็พ่วงตำแหน่งช่วยรินทร์ธาราดูแลเด็กๆไปด้วยเพราะรินทร์ธาราจะวานให้วายุนั้นมาช่วยดูแลเด็กๆเสมอเมื่อวายุทำท่าที่จะเข้าใกล้พี่สาวของเธอธาดาเองนอกจากดูแลความเรียบร้อยทุกอย่างแล้วเขาก็ยังต้องคอยปรามวายุกับรินทร์ธาราให้เลิกเถียงกันอยู่บ่อยครั้งจนเขาก็เริ่มระอาเสียแล้ว
“เหนื่อยไหมครับคุณนิ”
ในขณะที่ณัฐนิชานั่งทำงานอยู่เงียบๆเมฆาก็จะนำขนมหรือเครื่องดื่มมาส่งให้เธอเป็นของว่างแทบทุกวันพร้อมทั้งหาเรื่องคุยกับเธออยู่บ่อยๆป๋อมแป๋มเองก็รู้งานเวลาเห็นว่าชายหนุ่มเข้ามาหาเพื่อนเธอเองก็จะแกล้งออกไปยืดเส้นยืดสายเป็นอันรู้กันกับเมฆา
“โอเคค่ะ...ไม่ได้เหนื่อยอะไรเลย”
ณัฐนิชาจะส่งยิ้มหวานให้ชายหนุ่มทุกครั้งที่เขานั้นเข้ามาหาเธอใจเธอตอนนี้ก็รู้สึกได้ว่ามันเป็นเหมือนที่ป๋อมแป๋มและรินทร์ธาราพูดไว้จริงๆแต่เธอก็ยังชั่งใจของตัวเองไว้อยู่ว่ามาที่นี่เพื่ออะไรและเธอกับชายหนุ่มก็พึ่งจะรู้จักกันด้วย
เมฆานั้นตามเกาะติดหญิงสาวอยู่ตลอดจนใครๆก็มองออกทั้งหมดแล้วว่าเมฆานั้นเดินหน้าทำคะแนนกับณัฐนิชาเบอร์ไหน ลูกๆของเธอตอนนี้ก็ดันชอบเข้าหาเมฆาอยู่บ่อยๆทั้งสามยังดูเข้ากันดีด้วยเพราะเวลาว่างๆชายหนุ่มชอบพาเจ้าสองแสบเดินเที่ยวเล่นจนตอนนี้หญิงสาวเองก็เริ่มมีแอบหวั่นไหวอยู่บ้างแต่ก็พยายามบอกตัวเองว่าเธอมาที่นี่เพราะงานเท่านั้น
“เย่!!!...เสร็จซะที...ว่าแต่งานนี้จบแกก็จะไม่ได้เจอคุณเมฆแล้วคนแถวนี้จะคิดถึงเค้าไหมน้า”
ป๋อมแป๋มลุกขึ้นยืนชูมือดีใจเป็นพิเศษเพราะงานของเธอนั้นเสร็จเสียทีหลังจากที่พยายามเร่งมือกันอยู่นานพร้อมหันไปมองเพื่อนสาวที่กำลังนั่งยิ้มหน้าบานที่งานเสร็จลุล่วงไปด้วยดีพลางพูดลอยๆแซวเพื่อนสาวเธอออกมา
“หืม...ฉันจะไปคิดถึงเค้าทำไมไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย”
ณัฐนิชาคิ้วขมวดพร้อมส่ายหัวปกปิดความคิดของตัวเองอยู่
“ฉันจะรอดูก็แล้วกานนน...กลับไประวังซึมไม่รู้ด้วยนะ”
ป๋อมแป๋มเดินมาจับที่เก้าอี้ด้านหลังของเพื่อนสาวพร้อมกระซิบกระซาบด้วยถ้อยคำที่แอบกวนใจเพื่อนเธอนิดหน่อยเธอจะรอดูว่าเพื่อนสาวจะปากแข็งได้สักกี่น้ำ
“แกนี่ไร้สาระตลอด”
ณัฐนิชาลุกขึ้นหนีเพื่อนเธอจากเก้าอี้พร้อมยืนกอดอกส่งสายตาเชิงตำหนิให้เพื่อนของเธอที่ชอบจะเชียร์เธอกับชายหนุ่มอยู่ร่ำไป
ก็อกๆๆ
“ไปทานอาหารเย็นกันค่ะ”
รินทร์ธาราเคาะกระจกด้านนอกห้องทำงานของพี่สาวทั้งสองพร้อมชี้มือไปที่โต๊ะอาหารบอกให้ทั้งสองไปทานอาหารเย็นเพราะตอนนี้ทุกคนรออยู่ที่โต๊ะอาหารแล้ว
“คุณเมฆคะพวกเราจัดการทุกอย่างเสร็จแล้วนะคะแป๋มกับยัยนิว่าจอยู่ต่ออีกสองวันให้ผ่านงานวันเกิดของคุณเมฆก่อนแล้วค่อยกลับค่ะ”
เมื่อทุกคนนั่งกันพร้อมหน้าพร้อมตาที่โต๊ะอาหารแล้วป๋อมแป๋มก็เปิดประเด็นพูดข่าวดีให้กับเมฆาได้ฟังว่างานของพวกเธอเสร็จเรียบร้อยแล้วแต่เธอไม่แน่ใจว่าชายหนุ่มจะคิดว่าข่าวที่เธอบอกเป็นข่าวดีหรือเปล่าเพราะเห็นท่าทางของเขาไม่ดีใจเลยสักนิด
“เอ่อ...อ๋อ...งั้นเหรอครับ”
เมฆายิ้มตอบหญิงสาวที่บอกข่าวกับเขาก่อนจะเหลืบสายตามองไปที่ณัฐนิชามองเธอตาละห้อยเขาไม่คิดว่าหญิงสาวทั้งสองจะทำงานกันเสร็จไวกว่าที่คิดไว้บ่นอุกในใจว่าแบบนี้เขาก็จะไม่ได้ใกล้ชิดเธอกับเด็กๆแล้วล่ะสิ
“แบบนี้ผมก็คิดถึงเด็กๆแย่เลยล่ะสิป้อนข้าวอยู่ทุกวัน”
วายุพลางมองไปที่เด็กๆและรินทร์ธาราอยู่ครู่หนึ่งเมื่อได้ยินแบบนั้นก็อดใจหายไม่ได้เขารู้สึกหลงรักพวกเด็กๆเสียแล้วสิยิ่งนึกถึงตอนที่ไม่มีเด็กๆอยู่ด้วยเขาคงเหงาแปลกๆและถ้าเกิดว่าไม่มีหญิงสาวคอยเถียงกับเขาเหมือนที่ผ่านมาชีวิตเขาคงห่อเหี่ยวลงเยอะเพราะตั้งแต่เขามาอยู่ที่นี่คนที่เขาต้องคุยและทะเลาะด้วยมากที่สุดก็เห็นจะเป็นรินทร์ธารานี่แหละ
“อืม...คุณเมฆมีอะไรให้พวกเราได้ทำงานเพิ่มไหมคะ...หรือ ไม่ มี...”
ป๋อมแป๋มเห็นว่าส่วนใหญ่จะไม่มีใครดีใจที่งานเธอเสร็จเลยสักนิดเลยเปิดประเด็นถามเมฆาที่นั่งหน้าเศร้าเป็นหมาหงอยให้เขานั้นหาวิธีที่จะยื้อพวกเธอให้ได้อยู่นานกว่านี้หน่อยเธอหวังว่าเขาจะคิดออก
“อืม...อันที่จริงมันก็มีครับแต่ไม่รู้ว่าจะรบกวนพวกคุณหรือเปล่า”
เมฆารู้สึกขอบคุณป๋อมแป๋มมากที่ทำให้สมองที่กำลังตันอยู่ตอนนี้คิดอะไรออกที่เกาะนี้เขานั้นยังมีบ้านอยู่อีกหลังตอนนี้เขาเริ่มใจชื้นขึ้นมาบ้างแล้ว
“ไม่เลยค่ะ...พวกเราพร้อมค่ะ”
ป๋อมแป๋มเห็นท่าทีที่ชายหนุ่มดูจะคิดอะไรออกเธอเองก็ทำหน้าที่เป็นกองหนุนเชียร์เต็มที่รินทร์ธาราเองก็เอาใจช่วยสุดฤทธิ์ให้ว่าที่พี่เขยเธอนั้นมีไอเดียดีๆที่จะรั้งพี่สาวของเธอให้อยู่ที่นี่นานอีกหน่อยเพราะเธอก็ยังสามารถดูแลเด็กๆต่อได้
“คือบ้านที่ท้ายเกาะผมก็อยากตกแต่งใหม่ให้มันเข้ากับธรรมชาติมากกว่านี้น่ะครับ”
และแล้วเมฆาก็ได้พูดสิ่งที่ต้องการออกมาทำเอาหญิงสาวที่นั่งเชียร์อยู่ในใจโล่งอกในใจของสองสาวอยากจะกระโดดกรี๊ดออกมาตรงนั้นแต่ก็กลัวว่าณัฐนิชาจะว่าพวกเธอรวมหัวกันอีกแล้วจะโดนคาดโทษกันชุดใหญ่
“แบบธรรมชาติเหรอคะงานถนัดของเพื่อนแป๋มเลย...”
ป๋อมแป๋มเห็นว่าชายหนุ่มอยากแต่งบ้านอีกหลังให้เข้ากับธรรมชาติเธอเลยเสนอว่าเป็นงานถนัดณัฐนิชาเลยอันนี้เธอไม่ได้ชงแต่อย่างใดแต่เพื่อนเธอถนัดเรื่องนี้จริงๆและจะทำมันออกมาได้ดีแทบทุกครั้งด้วย
“รบกวนด้วยนะครับคุณนิ”
เมฆาฉีกยิ้มพร้อมหันไปหาหญิงสาวพลางพูดกันท่าให้เธอนั้นปฏิเสธไม่ได้เพราะยังไงเขาก็จะพยายามรั้งให้เธออยู่ให้ได้
“ยินดีค่ะ...”
ณัฐนิชาเองก็ไม่ได้ติดขัดอะไรในใจของเธอมันก็กำลังตีกันอยู่ว่าตกลงเธอจะอยากอยู่ที่นี่หรืออยากจะกลับกันแน่แต่พอได้รู้ว่าจะได้อยู่ที่นี่ต่อเธอก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
“งั้นพรุ่งนี้แกไปดูบ้านกับคุณเมฆนะเดี๋ยวฉันต้องเร่งส่งแบบให้กับทีม”“อืมม...ก็ได้”ป๋อมแป๋มนั้นจำต้องหาข้ออ้างสารพัดให้ชายหนุ่มกับเพื่อนเธออยู่กันสองต่อสองเผื่อทั้งคู่จะได้มีโอกาสใกล้ชิดกันมากกว่าที่ผ่านมาแผนทำให้เพื่อนรักตกถังข้าวสารเธอไม่ปล่อยให้ล่มง่ายๆแน่เช้าวันต่อมา09.30 น.หลังจากที่เมฆาและณัฐนิชาทานอาหารเช้าเสร็จก็เตรียมตัวออกเดินทางไปที่บ้านท้ายเกาะทันที“คุณแม่ขา...ไปด้วย”“หม่อนจะไปด้วยคร้าบ”“อ้าว...เด็กๆ”ทั้งใยไหมและใบหม่อนเห็นว่าคนเป็นแม่กำลังจะขึ้นรถอยู่ที่หน้าบ้านจึงรีบวิ่งออกมาหาพลางบีบน้ำตาร้องตามกันทั้งคู่ทำเอาคนเป็นแม่เริ่มลำบากใจ“เด็กๆมาอยู่กับน้าดีกว่านะคะ...เดี๋ยวน้าหวานเปิดการ์ตูนเรื่องโปรดให้ดูเอาไหม”รินทร์ธารารู้ว่าถ้าเด็กๆไปด้วยอาจจะรบกวนทั้งสองจึงพยายามหลอกล่อให้หลานๆของเธอกลับเข้าไปในบ้านกับเธอแต่ดูท่าการหลอกล่อจะไม่เป็นผลเพราะเจ้าก้อนทั้งสองเดินไปหลบอยู่ที่หลังของเมฆาพลางใช้มือป้อมจับมือของชายหนุ่มเอาไว้คนละข้างเหมือนจะรู้ว่าคนไหนตามใจ“ให้เด็กๆไปกับเราก็ได้ครับคงไม่มีปัญหาอะไร”เมฆาหันมาบอกกับณัฐนิชาให้หายกังวลเด็กๆทั้งสองจะไปด้วยเขาไม่ได้มีปัญหาเชื่
“เด็กๆกระโดมาเลยเดี๋ยวลุงรับเอง” ตู้มมมม“อร้ายยยย”“ฮ่าๆๆ”“ใบหม่อนวิ่งมาเลยครับ” ตู้มมมมมณัฐนิชาได้ยินเสียงของทั้งสามเล่นน้ำกันอย่างสนุกจนต้องออกมายืนพิงขอบประตูดูทั้งสามที่กำลังสนุกอยู่กับการกระโดดน้ำเธอยิ่งมองยิ่งอดยิ้มไม่ได้“เลิกเล่นกันได้แล้วค่ะเด็กๆ”ณัฐนิชาเห็นว่าทั้งสามเล่นน้ำกันมาร่วมครึ่งชั่วโมงแล้วอีกอย่างก็ใกล้จะเที่ยงแล้วอากาศก็ค่อนข้างร้อนจึงคิดว่าไปพาเด็กๆอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีกว่าชั่วโมงต่อมา“โถ่แม่ครับผมยังไม่อยากมีครอบครัวเสียหน่อยแค่นี้ก่อนนะครับ”เมฆาต้องส่ายหัวเวลาคุยกับคนเป็นแม่ทุกครั้งไปที่ชอบเล่าเรื่องผู้หญิงคนนั้นคนนี้เชียร์ให้เขาได้ฟังตลอดนี่ขนาดเขาโทรไปชวนให้มาปาร์ตี้วันเกิดด้วยเจ้าตัวก็ปฏิเสธว่าอายุเยอะแล้วไม่ชอบนั่งเรือนานๆแถมยังมิวายที่จะพูดเรื่องผู้หญิงคนล่าสุดที่พึ่งไปเจอให้ฟังจนเขานั้นต้องตัดบทขอจบการสนทนาไปณัฐนิชาชะงักเล็กน้อยเมื่อเข้ามาเจอคำพูดที่เมฆากำลังโทรคุยกับแม่พอดีตอนนี้เธอรู้แล้วว่าชายหนุ่มนั้นคงไม่ได้คิดอยากจะจริงจังกับเธอตามที่เพื่อนเธอบอกสักนิดเขาคงจะชอบชีวิตโสดไม่ชอบมีครอบครัวเมื่อรู้แบบนี้เธอเองก็รู้สึกหน่วงนิดๆยอมรับว่าสิ่งที
21.00 น.ณัฐนิชาเกิดความกังวลใจมาตั้งแต่ช่วงเมื่อกลางวันเธอไม่คิดว่าโลกจะกลมจนเหวี่ยงให้เธอมาเจอกับเขาอีกครั้งเขาในคืนนั้นที่เป็นเหมือนสัตว์ร้ายที่ทำลายเธอโดยที่เธอร้องขออะไรไม่ได้เป็นสุภาพบุรุษอย่างที่เพื่อนและน้องของสาวของเธอบอกเธอเกือบที่จะมอบความไว้วางใจทั้งหมดให้กับเขาแล้วเชียวยังไงเธอก็จะต้องพาชีวิตเธอและลูกๆให้อยู่ห่างกับเขามากที่สุดเพราะเธอไม่รู้ว่าคนที่ไม่อยากจะมีครอบครัวอย่างชายหนุ่มเมื่อรู้ว่าตัวเองพลาดมีลูกโดยไม่ได้ตั้งใจคนใจร้ายอย่างเขาจะทำอะไรกับพวกเธอบ้างแกร๊กกก“คุณเมฆเข้ามาทางนี้อีกแล้วนะคะ”ณัฐนิชาที่กำลังนั่งกอดเขาคิดอะไรเพลินๆอยู่ข้างๆของลูกๆเธอที่หลับกันไปแล้วเมื่อได้ยินเสียงประตูหลังห้องเปิดออกเธอก็หันขวับมองเห็นชายหนุ่มอย่างชัดเจนพลางตำหนิตัวเองที่เผลอลืมล็อคประตูเธอถามชายหนุ่มด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจที่เขาเข้ามาในห้องเธอโดยใช้ประตูหลังห้องอีกแล้ว“ทำไมคุณยังไม่นอน”เมฆาเห็นว่าหญิงสาวนั้นปวดหัวจนไม่ไปทานข้าวเย็นเขาก็อยากเข้ามาดูว่าเธอเป็นอะไรมากหรือเปล่าแต่เมื่อเข้ามาเห็นเธอยังไม่นอนแถมยังนั่งกอดเข่าอยู่ภายใต้แสงของโคมไฟบนหัวนอนนั่นอีกเขาคิดว่าเธอคงจะไม่ได้ป่วยจริง
“เรือพร้อมแล้วครับ...ใครจะเป็นคนขับครับ”ธาดาเดินเข้ามาหาชายหนุ่มสองพี่น้องที่นั่งคุยกันพร้อมถือถ้วยข้าวเด็กๆเหมือนกับพวกพ่อลูกอ่อนไม่มีผิดก่อนจะถามว่าวันนี้ใครจะเป็นคนขับเรือออกไป“เรือใครคนนั้นก็ขับสิ”เมฆาหันไปมองธาดาว่าพลางอมยิ้มงานนี้เขาคงไม่เป็นคนขับเองแน่เพราะเขาเป็นเจ้าของวันเกิด“อืม...โอเคครับงั้นเดี๋ยวผมไปรอด้านนอกก็แล้วกัน”ธาดาพยักหน้าเข้าใจเขาขอตัวออกไปรอด้านนอกด้วยรู้ตัวอยู่แล้วว่าวันนี้ยังไงเขาก็ต้องเป็นคนขับเองแต่ก็แค่แกล้งถามเพื่อให้แน่ใจเท่านั้นเองว่าจะมีใครอยากจะขับเรือแทนเขาหรือเปล่า“เมื่อไรเวจะกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม”วายุส่ายหัวให้กับธาดาที่ชอบเหลือเกินจะมารับใช้พวกเค้าทั้งที่ตัวเองก็มีชีวิตที่สบายกว่านี้ได้หลายเท่าถ้าเป็นเขาคงเบื่อตาย“ไม่รู้สิเวอยู่อย่างนี้คงมีความสุขดีล่ะมั้ง”เมฆาคิดว่าเขานั้นเข้าใจธาดาดีเขาคิดว่าวันหากธาดามีความสุขกับชีวิตแบบนี้เขาก็ไม่ได้อยากขัดความสุขใครเมื่อถึงจุดที่ธาดารู้สึกอยากจะเปลี่ยนแปลงอะไรในชีวิตใหม่เขาก็ไม่ได้คิดจะห้ามออกจะยินดีด้วย“วันนี้แกสวยมากเลยนะนิคุณเมฆต้องประทับใจแน่เลย”ป๋อมแป๋มกำลังยืนทำผมให้ณัฐนิชาอยู่ที่หน้ากระจกบานใ
เมื่อทุกคนขึ้นเรือกันครบธาดาก็ขับเรือยอร์ชสุดหรูลำใหญ่ที่มีพื้นที่อำนวยความสะดวกเพียงพอสำหรับทุกคนออกจากฝั่งไม่นานก็จอดเรือพร้อมเริ่มงานปาร์ตี้บนเรือกันอย่างสนุกสนานตอนนี้ธาดาทำหน้าที่ย่างบาร์บีคิวและดูแลเรื่องอาหารให้กับทุกคนส่วนป๋อมแป๋มก็ทำตัวเป็นดีเจเปิดเพลงคลอบรรยากาศไปทางด้านวายุและรินทร์ธาราก็ไม่ทิ้งหน้าที่เดิมยังคงเป็นพี่เลี้ยงให้เด็กๆทั้งสองอีกทั้งยังพาเด็กๆมาออกสเตปแดนซ์กันอย่างน่ารักอีกด้วย“นี่ฉันต้องเปิดเพลงเด็กด้วยหรือเปล่าเนี่ย”“ฮ่าๆๆ”ป๋อมแป๋มและณัฐนิชาอดขำเจ้าสองแสบที่ออกมาเต้นกับรินทร์ธาราและวายุไม่ได้ที่เด็กๆดูจะสนุกกันจนลืมขวดนมในมือไปเลย“เอ่อ...นี่แกเค้กอยู่ในตู้แกไปเอามาสิ่นี่ก็จะได้เวลาคุณเมฆเป่าเค้กแล้ว”ป๋อมแป๋มเห็นว่ามันได้เวลาที่จะให้เมฆานั้นเป่าเค้กเธอเห็นชายหนุ่มกำลังยืนชมวิวอยู่ที่ด้านบนพอดีเลยให้ณัฐนิชาถือเค้กไปให้เมฆาเป่าน่าจะทำให้เจ้าของวันเกิดรู้สึกดีอยู่ไม่น้อย“แกก็ไปเองสิทำไมต้องเป็นฉันด้วยล่ะ”ณัฐนิชารีบส่ายหัวระริกไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นเธอที่ต้องถือเค้กไปให้เมฆาด้วย“ก็แกนั่นแหละเหมาะสุดแล้วฉันว่าคุณเมฆเค้าต้องประทับใจ...”ณัฐนิชายังคงยืนนิ่งท
“มันเป็นของพี่นิค่ะคุณเมฆเก็บได้ตรงไหนคะสงสัยพี่นิจะทำหล่นไว้แน่เลย...หวานไม่เห็นมันนานมากแล้วนะคะไม่คิดว่าพี่นิจะเอาติดมาด้วย”รินทร์ธาราตอบชายหนุ่มออกไปว่าสร้อยเส้นนี้เป็นของพี่สาวเธอและคิดว่าชายหนุ่มคงจะเก็บได้แน่เธอเองก็ไม่ได้เห็นสร้อยเส้นนี้ของพี่สาวเธอนานแล้วคิดพี่สาวเธอเก็บไว้อย่างดีเสียอีกแต่นี่ดันมาทำหล่นให้คนอื่นเก็บได้เฉยเลย“อ่อ...เอ่อ...ด...เดี๋ยวผมเอาไปให้เธอเองก็ได้ครับ”เมฆาตัวชาวาบแทบจะหยุดหายใจคนที่เขาอยากจะเจออยู่ใกล้ตัวเขาแค่นี้เองเขาพอจะเดาออกแล้วว่าทำไมตั้งแต่เมื่อวานตอนกลางวันณัฐนิชาถึงมีท่าทีที่เปลี่ยนไปขนาดนั้นพลางมองไปที่เจ้าสองแสบตัวกลมที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ตอนนี้ภาพมันลางเพราะน้ำตาที่มันเริ่มคลอออกมาหูที่อื้อไม่ได้ยินอะไรทำให้ชายหนุ่มเหมือนถูกตรึงไว้ตอนนี้เขาแทบยืนไม่อยู่และพยายามทบทวนคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาค่อยๆลำดับเหตุการณ์“นี่คุณ...มาดูเด็กๆ”วายุที่เห็นรินทร์ธาราคุยกันกระหนุงกระหนิงกับพี่ชายของตนเขารู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยพร้อมเรียกให้หญิงสาวกลับมาดูเด็กๆที่กำลังวิ่งเล่นกันอยู่อย่างคึกครื้นและดูจะไม่หมดแรงง่ายๆ“โอเคๆ...หวานขอตัวนะคะ”รินทร์ธาราหันไปตามเสียง
“หืม...นี่”ณัฐนิชาไม่คิดว่าชายหนุ่มจะกวนประสาทเธอได้มากขนาดนี้มือเล็กที่ไม่เคยคิดจะทำร้ายใครตอนนี้มันเงื้อมมือออกอัตโนมัติหมายจะฟาดไปที่ปากเสียๆของเขา“อืมม...คุณไม่สนใจตำแหน่งเมียผมจริงๆเหรอถึงสั่งให้ผมห้ามยุ่งกับคุณ...อืมไม่ใช่สิคุณก็เป็นเมียผมแล้วนี่นาต้องถามว่าคุณจะกลับมาเป็นเมียผมอีกไหม”เมฆาจับข้อมือหญิงสาวเอาไว้ทันและขึงไว้กับกำแพงก่อนที่มันจะถึงใบหน้าเขาไม่รู้สึกโกรธเธอที่จะทำแบบนี้สักนิดกลับอยากจะแกล้งเธอมากขึ้นอีกต่างหากเลยเริ่มมีท่าทีและน้ำเสียงที่กวนอารมณ์เธอเพิ่มขึ้นไปอีกเท่าตัว“หยุดพูดแล้วออกไปเลยนะ”ณัฐนิชาทำอะไรไม่ได้ในตอนนี้ได้แต่ไล่เขาให้ออกห่างจากตัวเธอเท่านั้น“ผมออกไปก็ได้...จะไปหาลูกๆของผม”เมฆาปล่อยหญิงสาวแล้วค่อยๆเดินหันหลังออกไปจากห้องอย่างผู้ชนะเขาไม่ได้อยากทำกับเธอแบบนี้แต่ความพยศของหญิงสาวต่างหากที่บังคับให้เขาต้องทำ“เด็กๆไปไหนกันหมดครับ”เมฆาเดินออกมาด้านนอกก็ไม่เห็นเด็กๆแล้วจึงเดินเข้ามาถามหนุ่มสาวทั้งสี่คนที่กำลังยืนดื่มกันอยู่ที่หัวเรือ“นอนแล้วค่ะคุณเมฆ..เด็กๆอยู่ในห้องหวานน่ะค่ะ”“โอเคครับ...อืมเดี๋ยวคืนนี้คุณหวานไปนอนห้องผมก็ได้ครับเดี๋ยวผมไปนอนกั
“ทำไมฉันต้องรายงานคุณทุกเรื่องด้วยเล่า”รินทร์ธาราตวัดสายตามองคนที่พึ่งเอ่ยเสียงดุสีหน้าของเธอตอนนี้เริ่มมีคิ้วขมวดเพราะไม่เข้าใจชายหนุ่มทำไมจะต้องอยากรู้เรื่องของเธอตลอดด้วย“หวาน..เห็นพาเด็กๆไปหาพี่ล่ะ”ขณะที่วายุกำลังเถียงกับรินทร์ธาราณัฐนิชาก็เดินหน้ามุ่ยออกมาพอดีเพราะดึกแล้วแต่น้องสาวเธอยังไม่ยักจะพาหลานๆไปส่งที่ห้อง“อ๋อ...เด็กๆนอนอยู่ในห้องหวานค่ะ”รินทร์ธาราพูดพรางชี้บอกว่าเธอพาเด็กๆไปที่ห้องของเธอก่อนจะยกแก้วในมือขึ้นมากดื่มอึกใหญ่“อ่อ...จะ”ณัฐนิชาได้ยินเช่นนั้นจึงหันหลังมุ่งตรงไปที่ห้องของน้องสาวเธอทันที“หืมม...เดี๋ยวคุณเมฆอยู่ในห้องป่ะ”รินทร์ธารานึกขึ้นได้ว่าห้องเธอไม่ได้มีเด็กๆนอนอยู่อย่างเดียวจะบอกพี่เธอตอนนี้ก็ไม่ทันเสียแล้ว“ไม่ทันแล้วล่ะหวาน...อิๆๆ”ป๋อมแป๋มแอบขำและคิดว่าดีแล้วที่รินทร์ธาราลืมบอกณัฐนิชา วายุเองก็นั่งอมยิ้มกริ่มช่างเป็นจังหวะที่ดีเหลือเกินที่สองคนนั้นจะได้อยู่ด้วยกันเผื่อจะพูดคุยให้อะไรๆมันดีขึ้นก็ได้แกร็กกก“อ้าวคุณ”เมฆาผงกหัวขึ้นเมื่อเห็นณัฐนิชาเปิดประตูเข้ามา“คุณมานอนในห้องน้องสาวนิได้ยังไงคะ”จากที่หญิงสาวหน้ามุ่ยอยู่แล้วในคราแรกตอนนี้เริ่มขม