“งั้นพรุ่งนี้แกไปดูบ้านกับคุณเมฆนะเดี๋ยวฉันต้องเร่งส่งแบบให้กับทีม”
“อืมม...ก็ได้”
ป๋อมแป๋มนั้นจำต้องหาข้ออ้างสารพัดให้ชายหนุ่มกับเพื่อนเธออยู่กันสองต่อสองเผื่อทั้งคู่จะได้มีโอกาสใกล้ชิดกันมากกว่าที่ผ่านมาแผนทำให้เพื่อนรักตกถังข้าวสารเธอไม่ปล่อยให้ล่มง่ายๆแน่
เช้าวันต่อมา
09.30 น.
หลังจากที่เมฆาและณัฐนิชาทานอาหารเช้าเสร็จก็เตรียมตัวออกเดินทางไปที่บ้านท้ายเกาะทันที
“คุณแม่ขา...ไปด้วย”
“หม่อนจะไปด้วยคร้าบ”
“อ้าว...เด็กๆ”
ทั้งใยไหมและใบหม่อนเห็นว่าคนเป็นแม่กำลังจะขึ้นรถอยู่ที่หน้าบ้านจึงรีบวิ่งออกมาหาพลางบีบน้ำตาร้องตามกันทั้งคู่ทำเอาคนเป็นแม่เริ่มลำบากใจ
“เด็กๆมาอยู่กับน้าดีกว่านะคะ...เดี๋ยวน้าหวานเปิดการ์ตูนเรื่องโปรดให้ดูเอาไหม”
รินทร์ธารารู้ว่าถ้าเด็กๆไปด้วยอาจจะรบกวนทั้งสองจึงพยายามหลอกล่อให้หลานๆของเธอกลับเข้าไปในบ้านกับเธอแต่ดูท่าการหลอกล่อจะไม่เป็นผลเพราะเจ้าก้อนทั้งสองเดินไปหลบอยู่ที่หลังของเมฆาพลางใช้มือป้อมจับมือของชายหนุ่มเอาไว้คนละข้างเหมือนจะรู้ว่าคนไหนตามใจ
“ให้เด็กๆไปกับเราก็ได้ครับคงไม่มีปัญหาอะไร”
เมฆาหันมาบอกกับณัฐนิชาให้หายกังวลเด็กๆทั้งสองจะไปด้วยเขาไม่ได้มีปัญหาเชื่อว่าคงไม่ได้รบกวนอะไรมาก
“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวหวานไปหยิบกระเป๋านมเด็กๆมาให้นะคะ”
รินทร์ธาราเห็นว่าถ้าเมฆาอยากจะพาเด็กๆไปด้วยเธอเองก็ไม่ได้อยากขัดจึงบอกให้ทั้งสองรอเธอสักครู่แล้วจึงรีบวิ่งเข้าไปในห้องเพื่อไปจัดการเตรียมนมกับเสื้อผ้าของหลานเธอคนละชุดใส่กระเป๋าและรีบวิ่งออกมาให้พี่สาวของเธอ
“ทางมันค่อนข้างลำบากหน่อยนะครับเดี๋ยวให้ใยไหมนั่งที่ตักคุณส่วนใบหม่อนเดี๋ยวให้นั่งกับผมก็แล้วกัน”
“แล้วคุณเมฆจะขับรถสะดวกเหรอคะ”
“สบายมากครับ”
เมฆาต้องให้เด็กๆทั้งสองนั่งบนตักของเขาและหญิงสาวในขณะที่เดินทางหากปล่อยให้นั่งเบาะหลังคงกลิ้งไปกลิ้งมาแน่เพราะทางมันค่อนข้างลำบากอันที่จริงถ้าเขาจะทำถนนให้มันดีๆก็ทำได้แต่อยากจะอนุรักษ์ความเป็นธรรมชาติไว้ให้มากที่สุดเท่านั้นเอง
“บู๊นนน...สนุกจังเลย”
ใบหม่อนที่อยู่ในอ้อมแขนของเมฆาที่คอยประคองไว้ตลอดเวลาเด็กชายชอบใจและดูจะตื่นตาอย่างมากที่ได้นั่งรถแบบทุลักทุเลแบบนี้
ผิดกับใยไหมที่นั่งกับคนเป็นแม่หน้าคว่ำเพราะเด็กหญิงไม่ได้รู้สึกสนุกกับการนั่งรถบนทางที่มันไม่ปกติแบบนี้เลยสักนิด
“ใบหม่อนชอบนั่งรถเล่นใช่ไหมครับ”
“ชอบคร้าบบ”
เมฆาเห็นใบหม่อนตื่นเต้นก็พลางคุยเล่นกับเด็กชายไปเพลินๆ
“แต่ดูท่าใยไหมจะไม่ชอบนะคะคุณเมฆ”
ณัฐนิชาอมยิ้มเล็กน้อยพร้อมก้มดูหน้าลูกสาวของเธอ
“ฮ่าๆๆ...ดูทำหน้าเข้าสิคนสวยยิ้มหน่อยสิคะ”
เมฆาหันมามองใบหน้าของเด็กหญิงครู่หนึ่งแล้วเขาก็อดที่จะขำไม่ได้ที่ดูท่าเด็กหญิงจะไม่ชอบนั่งรถเล่นกับทางแบบนี้เหมือนคนเป็นน้องพร้อมแกล้งพูดหยอกล้อใยไหมเล่นแต่สายตาก็ยังมองทางข้างหน้าอยู่เพราะว่าเขาไม่อยากประมาท
“ฮ่าๆๆ..นิก็พึ่งจะเคยเห็นลูกสาวนิหน้าคว่ำขนาดนี้ก็วันนี้แหละค่ะ”
ณัฐนิชาจากที่อมยิ้มก็กลายเป็นขำลูกสาวของเธอเองเพราะมันเป็นครั้งแรกเลยที่เธอเห็นใยไหมทำหน้าไม่สบอารมณ์มากอย่างนี้
“ที่นี่เป็นธรรมชาติมากเลยนะคะ”
ณัฐนิชาที่เดินจูงมือเด็กๆดูรอบๆบ้านเธอรู้สึกว่าที่นี่ค่อนข้างที่จะสร้างได้เข้ากับธรรมชาติของที่นี่ได้อย่างลงตัวและเธอเองก็ชอบที่นี่มากๆด้วยมันเป็นบ้านไม้หลังเล็กๆมีเพียงแค่ห้องนอนสามห้องแบบกะทัดรัดที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติมีสระว่ายน้ำเล็กๆอยู่ที่หน้าบ้านจัดแต่งสไตล์วินเทจที่ดูลงตัว เท่าที่เธอมองถ้าจะให้แต่งเติมเพิ่มก็คงจะมีวางพวกของตกแต่งที่เป็นสีเขียวแบบพวกต้นไม้ปลอมในห้องนั่งเล่นก็น่าจะพอ
“ได้ไอเดียบ้างหรือยังครับ”
“ค่ะ...เอ่อ..เวลาคุณเมฆมาที่นี่ส่วนมากมาพักผ่อนหรือว่าทำอะไรคะ”
ในขณะที่ณัฐนิชากำลังเดินคิดอะไรอยู่เพลินๆเกี่ยวกับการตกแต่งบ้านนี้ชายหนุ่มก็เข้ามาหาเธอพอดีเธอจึงได้โอกาสถามชายหนุ่มว่าบ้านหลังนี้เขานั้นเอาไว้ทำอะไร
“อืม...ผมก็มาพักผ่อนบางทีก็นั่งทำงานด้วยที่นี่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวไม่วุ่นวายดีเพราะส่วนมากผมจะมาอยู่คนเดียว”
ส่วนมากเมฆามาที่นี่ด้วยเหตุผลที่อยากพักผ่อนแบบเงียบๆคนเดียวหรือบางครั้งก็นั่งทำงานแบบเพลินๆเขาว่าที่นี่มันค่อนข้างทำให้เขานั้นผ่อนคลายสมองได้อย่างดีหากนั่งคิดงานที่นี่ก็ทำให้งานของเขาออกมาดีเสมอ
“งั้นนิว่าจะจัดตรงนี้เป็นมุมนั่งทำงานของคุณเมฆดีไหมคะมันค่อนข้างมองเห็นวิวที่สวยแล้วก็น่าจะทำให้สมองของคุณเมฆผ่อนคลายด้วย...”
“เอาตามที่คุณนิคิดเลยครับ”
เมฆานั้นให้สิทธิ์หญิงสาวตัดสินใจว่าเธอจะจัดมันมาเป็นรูปแบบใดก็ได้เพราะเขาไม่ได้มีแพลนอะไรมากมายในหัวอยู่แล้วขอแค่เป็นธรรมชาติไม่ได้หรูหราอะไรก็เท่านั้น
“ค่ะเดี๋ยวนิดขอเดินดูอีกสักพักนะคะ”
“เชิญคุณนิตามสบายครับเดี๋ยวเด็กๆผมจะดูให้เองว่าจะพาแกไปเล่นน้ำคุณนิไม่ว่าอะไรใช่มัยครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะแต่อย่านานนะคะเดี๋ยวเด็กๆจะเป็นหวัด”
“ครับ”
เมฆานั้นอยากปล่อยให้หญิงสาวได้ใช้ความคิดได้อย่างเต็มที่โดยที่เขาไม่อยากกวนใจเธอจึงพาเด็กๆไปเล่นที่สระน้ำกับเขาข้างนอกจะดีกว่าอีกอย่างเขาก็อยากจะกระโดดน้ำเล่นเพลินๆท่ามกลางธรรมชาติที่นี่อีกด้วย
“เด็กๆกระโดมาเลยเดี๋ยวลุงรับเอง” ตู้มมมม“อร้ายยยย”“ฮ่าๆๆ”“ใบหม่อนวิ่งมาเลยครับ” ตู้มมมมมณัฐนิชาได้ยินเสียงของทั้งสามเล่นน้ำกันอย่างสนุกจนต้องออกมายืนพิงขอบประตูดูทั้งสามที่กำลังสนุกอยู่กับการกระโดดน้ำเธอยิ่งมองยิ่งอดยิ้มไม่ได้“เลิกเล่นกันได้แล้วค่ะเด็กๆ”ณัฐนิชาเห็นว่าทั้งสามเล่นน้ำกันมาร่วมครึ่งชั่วโมงแล้วอีกอย่างก็ใกล้จะเที่ยงแล้วอากาศก็ค่อนข้างร้อนจึงคิดว่าไปพาเด็กๆอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีกว่าชั่วโมงต่อมา“โถ่แม่ครับผมยังไม่อยากมีครอบครัวเสียหน่อยแค่นี้ก่อนนะครับ”เมฆาต้องส่ายหัวเวลาคุยกับคนเป็นแม่ทุกครั้งไปที่ชอบเล่าเรื่องผู้หญิงคนนั้นคนนี้เชียร์ให้เขาได้ฟังตลอดนี่ขนาดเขาโทรไปชวนให้มาปาร์ตี้วันเกิดด้วยเจ้าตัวก็ปฏิเสธว่าอายุเยอะแล้วไม่ชอบนั่งเรือนานๆแถมยังมิวายที่จะพูดเรื่องผู้หญิงคนล่าสุดที่พึ่งไปเจอให้ฟังจนเขานั้นต้องตัดบทขอจบการสนทนาไปณัฐนิชาชะงักเล็กน้อยเมื่อเข้ามาเจอคำพูดที่เมฆากำลังโทรคุยกับแม่พอดีตอนนี้เธอรู้แล้วว่าชายหนุ่มนั้นคงไม่ได้คิดอยากจะจริงจังกับเธอตามที่เพื่อนเธอบอกสักนิดเขาคงจะชอบชีวิตโสดไม่ชอบมีครอบครัวเมื่อรู้แบบนี้เธอเองก็รู้สึกหน่วงนิดๆยอมรับว่าสิ่งที
21.00 น.ณัฐนิชาเกิดความกังวลใจมาตั้งแต่ช่วงเมื่อกลางวันเธอไม่คิดว่าโลกจะกลมจนเหวี่ยงให้เธอมาเจอกับเขาอีกครั้งเขาในคืนนั้นที่เป็นเหมือนสัตว์ร้ายที่ทำลายเธอโดยที่เธอร้องขออะไรไม่ได้เป็นสุภาพบุรุษอย่างที่เพื่อนและน้องของสาวของเธอบอกเธอเกือบที่จะมอบความไว้วางใจทั้งหมดให้กับเขาแล้วเชียวยังไงเธอก็จะต้องพาชีวิตเธอและลูกๆให้อยู่ห่างกับเขามากที่สุดเพราะเธอไม่รู้ว่าคนที่ไม่อยากจะมีครอบครัวอย่างชายหนุ่มเมื่อรู้ว่าตัวเองพลาดมีลูกโดยไม่ได้ตั้งใจคนใจร้ายอย่างเขาจะทำอะไรกับพวกเธอบ้างแกร๊กกก“คุณเมฆเข้ามาทางนี้อีกแล้วนะคะ”ณัฐนิชาที่กำลังนั่งกอดเขาคิดอะไรเพลินๆอยู่ข้างๆของลูกๆเธอที่หลับกันไปแล้วเมื่อได้ยินเสียงประตูหลังห้องเปิดออกเธอก็หันขวับมองเห็นชายหนุ่มอย่างชัดเจนพลางตำหนิตัวเองที่เผลอลืมล็อคประตูเธอถามชายหนุ่มด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจที่เขาเข้ามาในห้องเธอโดยใช้ประตูหลังห้องอีกแล้ว“ทำไมคุณยังไม่นอน”เมฆาเห็นว่าหญิงสาวนั้นปวดหัวจนไม่ไปทานข้าวเย็นเขาก็อยากเข้ามาดูว่าเธอเป็นอะไรมากหรือเปล่าแต่เมื่อเข้ามาเห็นเธอยังไม่นอนแถมยังนั่งกอดเข่าอยู่ภายใต้แสงของโคมไฟบนหัวนอนนั่นอีกเขาคิดว่าเธอคงจะไม่ได้ป่วยจริง
“เรือพร้อมแล้วครับ...ใครจะเป็นคนขับครับ”ธาดาเดินเข้ามาหาชายหนุ่มสองพี่น้องที่นั่งคุยกันพร้อมถือถ้วยข้าวเด็กๆเหมือนกับพวกพ่อลูกอ่อนไม่มีผิดก่อนจะถามว่าวันนี้ใครจะเป็นคนขับเรือออกไป“เรือใครคนนั้นก็ขับสิ”เมฆาหันไปมองธาดาว่าพลางอมยิ้มงานนี้เขาคงไม่เป็นคนขับเองแน่เพราะเขาเป็นเจ้าของวันเกิด“อืม...โอเคครับงั้นเดี๋ยวผมไปรอด้านนอกก็แล้วกัน”ธาดาพยักหน้าเข้าใจเขาขอตัวออกไปรอด้านนอกด้วยรู้ตัวอยู่แล้วว่าวันนี้ยังไงเขาก็ต้องเป็นคนขับเองแต่ก็แค่แกล้งถามเพื่อให้แน่ใจเท่านั้นเองว่าจะมีใครอยากจะขับเรือแทนเขาหรือเปล่า“เมื่อไรเวจะกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม”วายุส่ายหัวให้กับธาดาที่ชอบเหลือเกินจะมารับใช้พวกเค้าทั้งที่ตัวเองก็มีชีวิตที่สบายกว่านี้ได้หลายเท่าถ้าเป็นเขาคงเบื่อตาย“ไม่รู้สิเวอยู่อย่างนี้คงมีความสุขดีล่ะมั้ง”เมฆาคิดว่าเขานั้นเข้าใจธาดาดีเขาคิดว่าวันหากธาดามีความสุขกับชีวิตแบบนี้เขาก็ไม่ได้อยากขัดความสุขใครเมื่อถึงจุดที่ธาดารู้สึกอยากจะเปลี่ยนแปลงอะไรในชีวิตใหม่เขาก็ไม่ได้คิดจะห้ามออกจะยินดีด้วย“วันนี้แกสวยมากเลยนะนิคุณเมฆต้องประทับใจแน่เลย”ป๋อมแป๋มกำลังยืนทำผมให้ณัฐนิชาอยู่ที่หน้ากระจกบานใ
เมื่อทุกคนขึ้นเรือกันครบธาดาก็ขับเรือยอร์ชสุดหรูลำใหญ่ที่มีพื้นที่อำนวยความสะดวกเพียงพอสำหรับทุกคนออกจากฝั่งไม่นานก็จอดเรือพร้อมเริ่มงานปาร์ตี้บนเรือกันอย่างสนุกสนานตอนนี้ธาดาทำหน้าที่ย่างบาร์บีคิวและดูแลเรื่องอาหารให้กับทุกคนส่วนป๋อมแป๋มก็ทำตัวเป็นดีเจเปิดเพลงคลอบรรยากาศไปทางด้านวายุและรินทร์ธาราก็ไม่ทิ้งหน้าที่เดิมยังคงเป็นพี่เลี้ยงให้เด็กๆทั้งสองอีกทั้งยังพาเด็กๆมาออกสเตปแดนซ์กันอย่างน่ารักอีกด้วย“นี่ฉันต้องเปิดเพลงเด็กด้วยหรือเปล่าเนี่ย”“ฮ่าๆๆ”ป๋อมแป๋มและณัฐนิชาอดขำเจ้าสองแสบที่ออกมาเต้นกับรินทร์ธาราและวายุไม่ได้ที่เด็กๆดูจะสนุกกันจนลืมขวดนมในมือไปเลย“เอ่อ...นี่แกเค้กอยู่ในตู้แกไปเอามาสิ่นี่ก็จะได้เวลาคุณเมฆเป่าเค้กแล้ว”ป๋อมแป๋มเห็นว่ามันได้เวลาที่จะให้เมฆานั้นเป่าเค้กเธอเห็นชายหนุ่มกำลังยืนชมวิวอยู่ที่ด้านบนพอดีเลยให้ณัฐนิชาถือเค้กไปให้เมฆาเป่าน่าจะทำให้เจ้าของวันเกิดรู้สึกดีอยู่ไม่น้อย“แกก็ไปเองสิทำไมต้องเป็นฉันด้วยล่ะ”ณัฐนิชารีบส่ายหัวระริกไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นเธอที่ต้องถือเค้กไปให้เมฆาด้วย“ก็แกนั่นแหละเหมาะสุดแล้วฉันว่าคุณเมฆเค้าต้องประทับใจ...”ณัฐนิชายังคงยืนนิ่งท
“มันเป็นของพี่นิค่ะคุณเมฆเก็บได้ตรงไหนคะสงสัยพี่นิจะทำหล่นไว้แน่เลย...หวานไม่เห็นมันนานมากแล้วนะคะไม่คิดว่าพี่นิจะเอาติดมาด้วย”รินทร์ธาราตอบชายหนุ่มออกไปว่าสร้อยเส้นนี้เป็นของพี่สาวเธอและคิดว่าชายหนุ่มคงจะเก็บได้แน่เธอเองก็ไม่ได้เห็นสร้อยเส้นนี้ของพี่สาวเธอนานแล้วคิดพี่สาวเธอเก็บไว้อย่างดีเสียอีกแต่นี่ดันมาทำหล่นให้คนอื่นเก็บได้เฉยเลย“อ่อ...เอ่อ...ด...เดี๋ยวผมเอาไปให้เธอเองก็ได้ครับ”เมฆาตัวชาวาบแทบจะหยุดหายใจคนที่เขาอยากจะเจออยู่ใกล้ตัวเขาแค่นี้เองเขาพอจะเดาออกแล้วว่าทำไมตั้งแต่เมื่อวานตอนกลางวันณัฐนิชาถึงมีท่าทีที่เปลี่ยนไปขนาดนั้นพลางมองไปที่เจ้าสองแสบตัวกลมที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ตอนนี้ภาพมันลางเพราะน้ำตาที่มันเริ่มคลอออกมาหูที่อื้อไม่ได้ยินอะไรทำให้ชายหนุ่มเหมือนถูกตรึงไว้ตอนนี้เขาแทบยืนไม่อยู่และพยายามทบทวนคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาค่อยๆลำดับเหตุการณ์“นี่คุณ...มาดูเด็กๆ”วายุที่เห็นรินทร์ธาราคุยกันกระหนุงกระหนิงกับพี่ชายของตนเขารู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยพร้อมเรียกให้หญิงสาวกลับมาดูเด็กๆที่กำลังวิ่งเล่นกันอยู่อย่างคึกครื้นและดูจะไม่หมดแรงง่ายๆ“โอเคๆ...หวานขอตัวนะคะ”รินทร์ธาราหันไปตามเสียง
“หืม...นี่”ณัฐนิชาไม่คิดว่าชายหนุ่มจะกวนประสาทเธอได้มากขนาดนี้มือเล็กที่ไม่เคยคิดจะทำร้ายใครตอนนี้มันเงื้อมมือออกอัตโนมัติหมายจะฟาดไปที่ปากเสียๆของเขา“อืมม...คุณไม่สนใจตำแหน่งเมียผมจริงๆเหรอถึงสั่งให้ผมห้ามยุ่งกับคุณ...อืมไม่ใช่สิคุณก็เป็นเมียผมแล้วนี่นาต้องถามว่าคุณจะกลับมาเป็นเมียผมอีกไหม”เมฆาจับข้อมือหญิงสาวเอาไว้ทันและขึงไว้กับกำแพงก่อนที่มันจะถึงใบหน้าเขาไม่รู้สึกโกรธเธอที่จะทำแบบนี้สักนิดกลับอยากจะแกล้งเธอมากขึ้นอีกต่างหากเลยเริ่มมีท่าทีและน้ำเสียงที่กวนอารมณ์เธอเพิ่มขึ้นไปอีกเท่าตัว“หยุดพูดแล้วออกไปเลยนะ”ณัฐนิชาทำอะไรไม่ได้ในตอนนี้ได้แต่ไล่เขาให้ออกห่างจากตัวเธอเท่านั้น“ผมออกไปก็ได้...จะไปหาลูกๆของผม”เมฆาปล่อยหญิงสาวแล้วค่อยๆเดินหันหลังออกไปจากห้องอย่างผู้ชนะเขาไม่ได้อยากทำกับเธอแบบนี้แต่ความพยศของหญิงสาวต่างหากที่บังคับให้เขาต้องทำ“เด็กๆไปไหนกันหมดครับ”เมฆาเดินออกมาด้านนอกก็ไม่เห็นเด็กๆแล้วจึงเดินเข้ามาถามหนุ่มสาวทั้งสี่คนที่กำลังยืนดื่มกันอยู่ที่หัวเรือ“นอนแล้วค่ะคุณเมฆ..เด็กๆอยู่ในห้องหวานน่ะค่ะ”“โอเคครับ...อืมเดี๋ยวคืนนี้คุณหวานไปนอนห้องผมก็ได้ครับเดี๋ยวผมไปนอนกั
“ทำไมฉันต้องรายงานคุณทุกเรื่องด้วยเล่า”รินทร์ธาราตวัดสายตามองคนที่พึ่งเอ่ยเสียงดุสีหน้าของเธอตอนนี้เริ่มมีคิ้วขมวดเพราะไม่เข้าใจชายหนุ่มทำไมจะต้องอยากรู้เรื่องของเธอตลอดด้วย“หวาน..เห็นพาเด็กๆไปหาพี่ล่ะ”ขณะที่วายุกำลังเถียงกับรินทร์ธาราณัฐนิชาก็เดินหน้ามุ่ยออกมาพอดีเพราะดึกแล้วแต่น้องสาวเธอยังไม่ยักจะพาหลานๆไปส่งที่ห้อง“อ๋อ...เด็กๆนอนอยู่ในห้องหวานค่ะ”รินทร์ธาราพูดพรางชี้บอกว่าเธอพาเด็กๆไปที่ห้องของเธอก่อนจะยกแก้วในมือขึ้นมากดื่มอึกใหญ่“อ่อ...จะ”ณัฐนิชาได้ยินเช่นนั้นจึงหันหลังมุ่งตรงไปที่ห้องของน้องสาวเธอทันที“หืมม...เดี๋ยวคุณเมฆอยู่ในห้องป่ะ”รินทร์ธารานึกขึ้นได้ว่าห้องเธอไม่ได้มีเด็กๆนอนอยู่อย่างเดียวจะบอกพี่เธอตอนนี้ก็ไม่ทันเสียแล้ว“ไม่ทันแล้วล่ะหวาน...อิๆๆ”ป๋อมแป๋มแอบขำและคิดว่าดีแล้วที่รินทร์ธาราลืมบอกณัฐนิชา วายุเองก็นั่งอมยิ้มกริ่มช่างเป็นจังหวะที่ดีเหลือเกินที่สองคนนั้นจะได้อยู่ด้วยกันเผื่อจะพูดคุยให้อะไรๆมันดีขึ้นก็ได้แกร็กกก“อ้าวคุณ”เมฆาผงกหัวขึ้นเมื่อเห็นณัฐนิชาเปิดประตูเข้ามา“คุณมานอนในห้องน้องสาวนิได้ยังไงคะ”จากที่หญิงสาวหน้ามุ่ยอยู่แล้วในคราแรกตอนนี้เริ่มขม
“อืม...พึ่งรู้เมื่อคืนนี้แหละ”วายุพยายามเล่าเรื่องราวให้ละเอียดที่สุดเท่าที่ได้รู้มาเขาเห็นสีหน้าของทุกคนเขาก็พอจะเดาภาพออกว่าสีหน้าของเขาเมื่อคืนคงจะไม่ต่างกับทุกคนในตอนนี้เพราะในความคิดของเขามันก็เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นเลยก็ว่าได้สองคนชายหญิงที่พลาดมีสัมพันธ์กันโดยที่ไม่ได้ตั้งใจหวนกลับมาเจอกันอีกครั้งแถมยังมีโซ่ทองไว้คล้องใจเป็นเจ้าสองก้อนกลมหลานแฝดของเขาอีกต่างหากแต่ตอนนี้เหมือนเรื่องมันจะไม่ง่ายอย่างที่คิดที่จะให้ทั้งสี่มาเป็นครอบครัวเดียวกันในเวลาอันรวดเร็วเพราะดูท่าแล้วณัฐนิชาคงจะใจแข็งน่าดูเขาไม่ได้คิดโทษเธอที่เธอเลือกแบบนี้เพราะเขาเข้าใจว่าเธอคงจะทนอยู่กับความเจ็บปวดเรื่องคืนนั้นมานานเหมือนกัน“คุณนี่ท่าทางจะพูดไม่รู้เรื่องนะ...อีกอย่างคุณยังทำงานให้ผมไม่เสร็จผมไม่ให้คุณกลับ”เมื่อเมฆาพาหญิงสาวเข้ามาในห้องของเขาได้เขาก็ต้องเล่นบทโหดเป็นคนเสียงแข็งใส่เธอทันที“นิขอยกเลิกงานค่ะ...แล้วก็จะพาลูกๆนิกลับด้วย”ณัฐนิชาไม่อยากจะมองหน้าของเขาเท่าไรนักเพราะตอนนี้เขาน่ากลัวไม่ใช่แค่ท่าทางกับคำพูดความคิดของเขาก็ยังดูน่ากลัวสำหรับเธอด้วย“คุณคิดว่าคนอย่างผมจะยอมง