“หืม...นี่”
ณัฐนิชาไม่คิดว่าชายหนุ่มจะกวนประสาทเธอได้มากขนาดนี้มือเล็กที่ไม่เคยคิดจะทำร้ายใครตอนนี้มันเงื้อมมือออกอัตโนมัติหมายจะฟาดไปที่ปากเสียๆของเขา
“อืมม...คุณไม่สนใจตำแหน่งเมียผมจริงๆเหรอถึงสั่งให้ผมห้ามยุ่งกับคุณ...อืมไม่ใช่สิคุณก็เป็นเมียผมแล้วนี่นาต้องถามว่าคุณจะกลับมาเป็นเมียผมอีกไหม”
เมฆาจับข้อมือหญิงสาวเอาไว้ทันและขึงไว้กับกำแพงก่อนที่มันจะถึงใบหน้าเขาไม่รู้สึกโกรธเธอที่จะทำแบบนี้สักนิดกลับอยากจะแกล้งเธอมากขึ้นอีกต่างหากเลยเริ่มมีท่าทีและน้ำเสียงที่กวนอารมณ์เธอเพิ่มขึ้นไปอีกเท่าตัว
“หยุดพูดแล้วออกไปเลยนะ”
ณัฐนิชาทำอะไรไม่ได้ในตอนนี้ได้แต่ไล่เขาให้ออกห่างจากตัวเธอเท่านั้น
“ผมออกไปก็ได้...จะไปหาลูกๆของผม”
เมฆาปล่อยหญิงสาวแล้วค่อยๆเดินหันหลังออกไปจากห้องอย่างผู้ชนะเขาไม่ได้อยากทำกับเธอแบบนี้แต่ความพยศของหญิงสาวต่างหากที่บังคับให้เขาต้องทำ
“เด็กๆไปไหนกันหมดครับ”
เมฆาเดินออกมาด้านนอกก็ไม่เห็นเด็กๆแล้วจึงเดินเข้ามาถามหนุ่มสาวทั้งสี่คนที่กำลังยืนดื่มกันอยู่ที่หัวเรือ
“นอนแล้วค่ะคุณเมฆ..เด็กๆอยู่ในห้องหวานน่ะค่ะ”
“โอเคครับ...อืมเดี๋ยวคืนนี้คุณหวานไปนอนห้องผมก็ได้ครับเดี๋ยวผมไปนอนกับเด็กๆเอง”
“คะ...เอ่อ..เอาอย่างนั้นก็ได้ค่ะ”
รินทร์ธาราตอบตกลงชายหนุ่มอย่างอึกๆอักๆแปลกใจเล็กน้อยที่จู่ๆเขานั้นอยากจะนอนกับเด็กๆแต่เธอเองก็ไม่ได้ขัดอะไร
“เดี๋ยวผมขอตัวก่อนนะครับ”
วายุเห็นสีหน้าและท่าทีของพี่ชายเขาแปลกๆไปจึงลุกขึ้นเดินตามพี่ชายของเขาไปติดๆ
“พี่เป็นอะไรของพี่”
วายุรีบสาวเท้ายาวๆประชิดตัวเมฆาที่กำลังจะเข้าไปในห้องพร้อมถามพี่ชายของเขาด้วยอาการที่สงสัยอย่างมาก
“ถ้าฉันบอกอะไรแกไปแกห้ามกระโตกกระตากเข้าใจไหม”
เมฆาปิดประตูลงเมื่อน้องชายของเขาเข้ามาในห้องแล้วเตือนน้องชายของเขาเอาไว้ก่อนว่าหากเขาบอกแล้วอย่าพึ่งตกใจพลางมองไปที่เด็กๆทั้งสองที่กำลังนอนตัวกลมตอนนี้ตัวอยู่คนละทิศคนละทางจนเขาต้องเข้าไปจัดท่านอนให้ลูกๆของเขาใหม่ไม่อย่างนั้นคงจะตกเตียงเป็นแน่
“อืม..โอเคแล้วเรื่องไร”
วายุรีบพยักหน้าและไปนั่งที่ปลายเตียงข้างๆพี่ชายตนเขานั้นพร้อมที่จะฟังมากๆแล้ว
“เด็กๆเป็นลูกของฉัน”
เมฆากัดฟันจนกรามขึ้นเป็นสันพร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่และจ้องมองที่หน้าน้องชายของเขาเขม็งก่อนจะบอกความจริง
“หืม...เอ่อ...พี่ละเมอเปล่าครับ”
วายุจ้องหน้าพี่ชายตนด้วยสายตาตกใจเมื่อตั้งสติได้ก็เอ่ยแซวเมฆาว่าเขานั้นคิดเกินเลยกับณัฐนิชาไปไกลจนอยากได้ลูกเธอมาเป็นลูกตัวเอง
“ฟังฉันให้จบก่อน...คือ”
เมฆามองหน้าน้องชายของเขาจริงจังเพราะเรื่องนี้เข้าไม่ได้ล้อน้องชายเขาเล่นและพยายามเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้คนที่คิดว่าเขามโนไปไกลได้ฟัง
“โอ้โหแล้วทำไมโลกมันกลมแบบนี้เนี่ยถึงว่าทำไมเจ้าสองแสบหน้าเหมือนพี่มากเลยแล้วคุณนิเธอไม่โอเคจริงๆเหรอ”
วายุไม่อยากจะเชื่อว่าเรื่องราวของพี่ชายเขาและณัฐนิชาจะน่าทึ่งขนาดนี้นับว่าโลกมันกลมมากที่เหวี่ยงให้หญิงสาวกับพี่ชายของเขาได้มาเจอกันอีกครั้งแถมเจ้าสองแสบมาด้วยอีกต่างหาก
“เธอไม่ยอมให้ฉันยุ่งกับเธอน่ะสิฉันจึงต้องทำอะไรเผด็จการไปสักหน่อย”
เรื่องนี้นี่แหละที่ทำให้เมฆาต้องคิดหนักทำตัวเป็นคนใจร้ายก็เพราะว่าหญิงสาวไม่ยอมทำตามข้อเสนอของเขาแต่โดยดีเขาเข้าใจว่าเธอคงโกรธเรื่องที่ผ่านมาแต่เขาก็แก้ไปสถานการณ์อะไรไม่ได้นอกจากรับผิดชอบเธอและเขาก็เต็มใจมากๆด้วย
“อืม...ยังไงก็อย่าให้มันรุนแรงนักนะพี่...แล้วจะบอกกับคุณพ่อคุณแม่ยังไง”
วายุรู้ดีว่าพี่ชายของเขาเวลาเล่นบทโหดมันดูใจร้ายขนาดไหนเขายังคิดไม่ออกเลยว่าถ้าพ่อกับแม่เขารู้เรื่องนี้จะว่ายังไงเพราะพี่ชายเขาต้องโดนตำหนิหนักเป็นแน่
“ก็ต้องบอกไปตามความจริง...แต่เรื่องนี้ยังไม่มีใครรู้แกก็ทำตัวปกติไปก่อนก็แล้วกันเพราะฉันคิดว่านิชาก็ยังไม่ได้บอกคนอื่นเหมือนกัน”
เมฆาไม่กลัวว่าเขาจะโดนต่อว่าอะไรแล้วเพราะเขาเป็นลูกผู้ชายพอกล้าทำก็ต้องกล้ารับก่อนจะย้ำน้องชายของเขาว่าเรื่องนี้ให้เงียบเอาไว้ก่อน
“อืม...ผมขอตัวไปดื่มต่ออีกหน่อย”
วายุสบายใจแล้วที่รู้ว่าพี่ชายของเขาเป็นอะไรจึงขอตัวไปสังสรรค์ต่อไม่รู้ว่าวันนี้งานวันเกิดของพี่ชายเขาหรือของตัวเองเลยดูเขาจะสนุกกว่าพี่ชายตัวเองเสียอีก
หลังจากที่วายุออกไปแล้วเมฆาก็มานอนมองหน้าลูกทั้งสองของเขายิ่งมองยิ่งทำให้เขาหลงรักเด็กๆมากขึ้นพลางคิดว่าถ้าเขาได้เห็นเจ้าแฝดตั้งแต่อ้อนแต่ออกก็คงดีแต่ก็ขอบคุณโชคชะตาที่ทำให้เขาได้รู้ว่าเขานั้นมีลูกในวันที่ยังไม่สายไปไม่อย่างนั้นเขาคงเสียใจแย่ยังไงเขาก็จะทำให้แม่ของลูกเขานั้นยอมมาเป็นครอบครัวเดียวกันกับเขาให้ได้ไม่ได้ด้วยการพูดดีก็ต้องได้ด้วยการบังคับเพราะเขานั้นถูกใจเธอไปแล้ว
“แล้วพรุ่งนี้คุณหวานจะให้ผมไปส่งกี่โมงครับ”
ธาดาเห็นว่าก่อนที่รินทร์ธาราจะดื่มหนักไปกว่านี้เขาจึงต้องถามเวลาที่เธอจะเดินทางกลับพรุ่งนี้เสียก่อนเขาจะได้เตรียมตัวเอาไว้
“เดี๋ยว...คุณจะไปไหน”
วายุเดินกลับมายังทั้งสามที่นั่งสังสรรค์กันอยู่เมื่อได้ยินว่าหญิงสาวจะให้ธาดาไปส่งก็ต้องรีบถามเธอขึ้นว่าเธอจะไปไหน
“ฉันก็จะกลับบ้านน่ะสิต้องกลับไปทำงาน”
“คุณไม่เห็นบอกผมก่อนเลยว่าจะกลับ”
วายุรู้ว่าหญิงสาวจะกลับบ้านเขาก็ใจหายแปลกๆอีกทั้งยังต่อว่าเธอว่าจะกลับบ้านพรุ่งนี้แล้วแต่ยังไม่เคยที่จะบอกเขาให้รู้เรื่องบ้าง
“ทำไมฉันต้องรายงานคุณทุกเรื่องด้วยเล่า”รินทร์ธาราตวัดสายตามองคนที่พึ่งเอ่ยเสียงดุสีหน้าของเธอตอนนี้เริ่มมีคิ้วขมวดเพราะไม่เข้าใจชายหนุ่มทำไมจะต้องอยากรู้เรื่องของเธอตลอดด้วย“หวาน..เห็นพาเด็กๆไปหาพี่ล่ะ”ขณะที่วายุกำลังเถียงกับรินทร์ธาราณัฐนิชาก็เดินหน้ามุ่ยออกมาพอดีเพราะดึกแล้วแต่น้องสาวเธอยังไม่ยักจะพาหลานๆไปส่งที่ห้อง“อ๋อ...เด็กๆนอนอยู่ในห้องหวานค่ะ”รินทร์ธาราพูดพรางชี้บอกว่าเธอพาเด็กๆไปที่ห้องของเธอก่อนจะยกแก้วในมือขึ้นมากดื่มอึกใหญ่“อ่อ...จะ”ณัฐนิชาได้ยินเช่นนั้นจึงหันหลังมุ่งตรงไปที่ห้องของน้องสาวเธอทันที“หืมม...เดี๋ยวคุณเมฆอยู่ในห้องป่ะ”รินทร์ธารานึกขึ้นได้ว่าห้องเธอไม่ได้มีเด็กๆนอนอยู่อย่างเดียวจะบอกพี่เธอตอนนี้ก็ไม่ทันเสียแล้ว“ไม่ทันแล้วล่ะหวาน...อิๆๆ”ป๋อมแป๋มแอบขำและคิดว่าดีแล้วที่รินทร์ธาราลืมบอกณัฐนิชา วายุเองก็นั่งอมยิ้มกริ่มช่างเป็นจังหวะที่ดีเหลือเกินที่สองคนนั้นจะได้อยู่ด้วยกันเผื่อจะพูดคุยให้อะไรๆมันดีขึ้นก็ได้แกร็กกก“อ้าวคุณ”เมฆาผงกหัวขึ้นเมื่อเห็นณัฐนิชาเปิดประตูเข้ามา“คุณมานอนในห้องน้องสาวนิได้ยังไงคะ”จากที่หญิงสาวหน้ามุ่ยอยู่แล้วในคราแรกตอนนี้เริ่มขม
“อืม...พึ่งรู้เมื่อคืนนี้แหละ”วายุพยายามเล่าเรื่องราวให้ละเอียดที่สุดเท่าที่ได้รู้มาเขาเห็นสีหน้าของทุกคนเขาก็พอจะเดาภาพออกว่าสีหน้าของเขาเมื่อคืนคงจะไม่ต่างกับทุกคนในตอนนี้เพราะในความคิดของเขามันก็เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นเลยก็ว่าได้สองคนชายหญิงที่พลาดมีสัมพันธ์กันโดยที่ไม่ได้ตั้งใจหวนกลับมาเจอกันอีกครั้งแถมยังมีโซ่ทองไว้คล้องใจเป็นเจ้าสองก้อนกลมหลานแฝดของเขาอีกต่างหากแต่ตอนนี้เหมือนเรื่องมันจะไม่ง่ายอย่างที่คิดที่จะให้ทั้งสี่มาเป็นครอบครัวเดียวกันในเวลาอันรวดเร็วเพราะดูท่าแล้วณัฐนิชาคงจะใจแข็งน่าดูเขาไม่ได้คิดโทษเธอที่เธอเลือกแบบนี้เพราะเขาเข้าใจว่าเธอคงจะทนอยู่กับความเจ็บปวดเรื่องคืนนั้นมานานเหมือนกัน“คุณนี่ท่าทางจะพูดไม่รู้เรื่องนะ...อีกอย่างคุณยังทำงานให้ผมไม่เสร็จผมไม่ให้คุณกลับ”เมื่อเมฆาพาหญิงสาวเข้ามาในห้องของเขาได้เขาก็ต้องเล่นบทโหดเป็นคนเสียงแข็งใส่เธอทันที“นิขอยกเลิกงานค่ะ...แล้วก็จะพาลูกๆนิกลับด้วย”ณัฐนิชาไม่อยากจะมองหน้าของเขาเท่าไรนักเพราะตอนนี้เขาน่ากลัวไม่ใช่แค่ท่าทางกับคำพูดความคิดของเขาก็ยังดูน่ากลัวสำหรับเธอด้วย“คุณคิดว่าคนอย่างผมจะยอมง
“เฮ้อ...ให้เวลาเธอหน่อยก็แล้วกัน”วายุคิดว่าเขาเข้าใจทั้งสองฝ่ายตอนนี้เรื่องมันยังใหม่ๆอยู่ต้องรอให้ทั้งคู่ปรับตัวกันอีกสักพัก“พี่นิ”รินทร์ธาราเข้ามาในห้องก็รีบโผไปกอดปลอบพี่สาวของเธอพร้อมลูบหลังคนที่สะอื้นกอดเข่าอยู่ด้วยสีหน้ากังวล“ใจเย็นๆแก”ป๋อมแป๋มเองก็ทำอะไรมากไม่ได้นอกจากให้เพื่อนเธอใจเย็นลงกว่านี้ก่อน“คุณเมฆเค้าจะพรากลูกไปจากฉัน...ฮือๆๆ...ฉันไม่ยอม”ณัฐนิชาสะอื้นไปพูดไปเพราะตอนนี้เธอเหมือนคนจนหนทางที่ไม่สามารถต่อต้านอะไรชายหนุ่มได้“คุณเมฆเค้าไม่ได้จะพรากลูกไปจากพี่นินะคะเค้าก็แค่อยากจะให้พี่กับเด็กๆอยู่กับเค้าเป็นครอบครัวเท่านั้นเอง”รินทร์ธาราเองเข้าใจว่าพี่สาวของเธอรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่มันผ่านมาแล้วแต่เธอก็เข้าใจเมฆาเหมือนกันและเธอเห็นว่าสิ่งที่ชายหนุ่มตัดสินใจนั้นเป็นสิ่งที่ถูกที่สุดและดีสำหรับเด็กๆแล้วในแบบที่เธอมอง“นี่หวานเข้าข้างเค้าเหรอ”ณัฐนิชาเงยหน้ามามองน้องสาวของเธออย่างน้อยใจที่ดูน้องสาวของเธอนั้นจะเข้าข้างชายหนุ่มไปอีกคนทำเอารินทร์ธาราที่ถูกตำหนินั้นถึงกับหน้าจ๋อยไปไม่เป็น“หวานไม่ได้เข้าข้างหรอกแก...น้องมันก็อยากเห็นแกมีครอบครัวไหนเรื่องมันก็มาถึงขนาดนี้แ
“หืม...ดูท่าลูกชายแม่จะถูกใจหนูนิชาก่อนหน้าที่จะรู้ความจริงใช่ไหม”มัทนามองสีหน้าลูกชายของเธอคนที่อาบน้ำร้อนอย่างเธอมาก่อนก็ต้องดูออกอยู่แล้วว่าอารมณ์และคำพูดแบบนี้ลูกชายเธอมีอาการเป็นอย่างไร“อืมม...จะพูดยังไงดีล่ะครับเธอก็น่ารักดีนะแต่ตอนี้เธอดูดื้อสุดๆไปเลย”เมฆาพยักหน้ารู้ว่าคนเป็นแม่รู้ใจของเขาดีที่สุดแค่มองแปปเดียวก็รู้แล้วว่าเขาคิดอะไรอยู่“แม่จะบอกว่าถ้าลูกใช้วิธีบังคับเธอมันไม่โอเคหรอกเป็นแม่เองแม่ก็ไม่ชอบ..ผู้หญิงเวลาเจ็บมันฝังใจต้องให้เวลาหนูนิเค้าหน่อยตอนนี้แม่ว่าลูกควรปล่อยเธอไปก่อน”มัทนายอมรับว่าลูกชายเธอผิดที่ทำร้ายจิตใจณัฐนิชาและก็รู้ด้วยว่าหญิงสาวคงจะเจ็บปวดอยู่ไม่น้อยกว่าจะผ่านมาได้เพราะเธอก็เป็นผู้หญิงเหมือนกันแต่เธอคิดว่าทางที่ดีที่สุดถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ทั้งสองตกลงกันได้เพื่อเป็นผลดีกับเด็กๆมัทนาจึงเสนอแนวทางให้ลูกชายของเธอนั้นปล่อยหญิงสาวไปก่อนเพื่อให้เธอนั้นจะได้ไม่อึดอัดและยิ่งทำตัวออกห่างชายหนุ่มไปมากกว่านี้“ปล่อยเธอไปเนี่ยนะครับ”เมฆาไม่รู้ว่าเขาจะเห็นด้วยกับข้อเสนอของแม่เขาดีหรือไม่“เอาเถอะน่าเดี่ยวเรื่องนี้แม่จะช่วยอีกแรงแค่ทำตามที่แม่บอกก็พอรับรองมัดใจ
“เด็กๆมาหาคุณพ่อหน่อยครับ”เมฆาเห็นเจ้าสองแสบทั้งสองที่กำลังนั่งตักทรายเล่นอยู่ที่ชายหาดจึงเดินเข้าไปหาเด็กๆทั้งสองเพื่อสานสัมพันธ์พ่อลูกให้แนบแน่นขึ้น“คุณลุง???”ใบหม่อนเงยหน้าขึ้นมีสีหน้าฉงนเล็กน้อยที่สรรพนามของชายหนุ่มใช้แทนตัวเองนั้นแปลกไป“คุณพ่อครับ...คุณลุงเป็นคุณพ่อของเด็กๆไงไหนเรียกคุณพ่อสิครับ”เมฆามองเด็กๆทั้งสองด้วยความเอ็นดูเอื้อมมือไปจับหัวลูกๆอย่างเบามือพร้อมสอนให้เด็กๆเรียกตัวเองให้ถูกว่าควรจะเรียกว่าอะไรให้พวกเค้าได้รู้ว่าพวกเค้านั้นมีพ่อแม่ครบเหมือนเด็กคนอื่นๆ“คุณพ่อ??”ใบหม่อนยิ่งทำหน้าแปลกใจเข้าไปใหญ่ที่ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครสอนให้เรียกพ่อเลยสักครั้งเด็กชายจึงไม่รู้ว่าคุณพ่อคืออะไรได้แต่เคยได้ยินในทีวีเท่านั้น“คุณพ่อกับคุณแม่ไง”ใยไหมหันไปพูดกับน้องชายตามประสาเด็กที่เคยได้ยินผู้ใหญ่คุยกันและสื่อต่างๆที่จะต้องมีคุณพ่อกับคุณแม่แต่เด็กหญิงก็หาได้เข้าใจคำนี้อยู่ดี“ฮ่าๆๆ”เมฆาต้องขำออกมาแคล้ากับน้ำตาที่คลออยู่ให้กับความไร้เดียงสาของลูกๆเขาทั้งสองคนเด็กนี่ช่างเป็นผ้าขาวที่ใครจะแต่งแต้มอะไรก็ได้เสียจริงไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าหากเขาไม่ได้เจอเด็กๆและณัฐนิชาหลังจากนี้เขา
“ผมว่าจะไปหาเจ้าสองแสบด้วยคุณจะเลิกงานหรือยัง”วายุเห็นว่านี่มันก็เป็นเวลาที่เย็นมากแล้วหญิงสาวน่าจะใกล้เลิกงานเขาเองก็คิดว่านั่งรอเธอกลับบ้านเธอด้วยจะดีกว่าอีกอย่างก็อยากจะไปหาหลานๆเขาด้วยไม่เจอสองสามวันก็แอบเหงาอยู่เหมือนกัน“อีกสิบนาทีเดี๋ยวคุณนั่งรอก่อนก็ได้...เอ่อแล้วคุณปวดหัวปวดมากไหม”รินทร์ธาราให้ชายหนุ่มนั่งรอที่เก้าอี้บาร์ในร้านก่อนเพราะอีกเดี๋ยวเธอก็เลิกงานแล้วจะได้กลับพร้อมกันหญิงสาวจำได้ว่าชายหนุ่มเข้ามาซื้อยาแก้ปวดจึงหันไปถามอาการของเขาว่าปวดในระดับไหนเธอจะได้จัดยาให้ถูก“เป็นห่วงผมเหรอ”วายุเลิกคิ้วอมยิ้มถามหญิงสาวด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์คิดว่าคนที่ถามต้องเป็นห่วงเขาอยู่เป็นแน่“เอ้า!!..ก็คุณบอกฉันเมื่อกี้ว่าปวดหัวก็เลยถามว่าปวดมากไหมเดี๋ยวจะได้จัดยาให้ถูก”รินทร์ธาราเริ่มตีสีหน้าสับสนกับอีกฝ่ายก็คราแรกเขาบอกเธอเองว่าปวดหัวเธอจึงถามอาการก็แค่นั้นเธอไม่เข้าใจว่าเขาจะทำท่าดีใจอะไรนักหนาแถมยังมามโนว่าเธอเป็นห่วงอีกต่างหาก“ก็ไม่เยอะเท่าไรแต่ก็ปวด”“โอเค...”วายุแทบจะหุบยิ้มไม่ทันเมื่อหญิงสาวนั้นตอบกลับมาจนหน้าชานิดหน่อยและพยายามทำความเข้าใจว่าเขานั้นมโนไปเอง“โหย...อะไรอีกเนี่ย
“ถ้าเป็นเรื่องพี่สาวฉันกับคุณเมฆฉันช่วยเต็มที่”รินทร์ธาราเองก็ไม่ได้คิดจะขัดขวางอะไรหรอกถ้าแผนการของชายหนุ่มทำให้พี่สาวเธอและเมฆาเข้าใจกันมากขึ้น“ผมกลับก่อนพรุ่งนี้เราค่อยคุยกันอีกทีผมจะมารับคุณกับเด็กๆตอนเก้าโมงเช้าตรงเวลาด้วย”วายุไม่ยอมบอกหญิงสาวว่าแผนของเขาคืออะไรเพียงแค่บอกเวลาที่เขาจะมารับเธอกับเด็กๆก่อนจะขับรถออกไปทันที“อีตานี่จะบอกสักนิดก็ไม่ได้”รินทร์ธาราบ่นอุกหงุดหงิดใจพอสมควรที่วายุไม่คิดจะบอกอะไรให้เธอรู้เลยสักนิดเกาะเพตราเมฆาเตรียมเก็บของหลังจากที่ได้รับข้อความจากน้องชายตอนนี้เขากำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆเกี่ยวกับคำพูดของคนเป็นแม่เมื่อมองย้อนดูตัวเองเขาก็ต้องยอมรับว่าเขาเป็นคนที่อ่อนไม่ค่อยเป็นจริงๆแต่เขาจะพยายามปรับปรุงตัวให้ได้มากที่สุดเพื่อหญิงสาวและลูกๆของเขาเช้าวันต่อมา“เที่ยวให้สนุกนะคะเด็กๆ”“ค่ะคุณแม่/คร้าบบ”หลังจากที่วายุมารับน้องสาวของเธอและเด็กๆไปแล้วณัฐนิชาก็ยืนมองดูรถแล่นไปจนสุดลูกตาแล้วยืนอมยิ้มส่ายหัวที่ลูกๆของเธอนั้นดูตื่นเต้นเป็นพิเศษที่จะได้เที่ยวก่อนจะเดินกลับเข้ามาในบ้านเตรียมของเพราะเธอนั้นต้องไปหาป๋อมแป๋มที่บริษัทต่อ“นี่ถ้าทุกอย่างจัดเรียบร้อยน
“นิชา”“คะ???”“ผมต้องขอโทษคุณอีกครั้งขอโทษจริงๆที่ผมทำอะไรแย่ๆไว้กับคุณต่อไปนี้ผมจะไม่บังคับอะไรคุณอีกผมรู้ตัวว่าผมมันแย่แต่ผมจะพยายามเป็นคนที่ใจเย็นขึ้น”เมฆาเห็นสีหน้าของหญิงสาวยังมีความกังวลอยู่เขาจึงอยากบอกให้เธอได้รับรู้และแน่ใจว่าเขาสำนึกผิดกับเรื่องที่ผ่านมาและอีกอย่างการบังคับจิตใจเธอจะไม่มีวันเกิดขึ้นอีกแล้วเพื่อให้เธอสบายใจได้และไม่ระแวงในระหว่างที่เขาอยู่ที่นี่“อืม...ค่ะ...งั้นเดี๋ยวนิไปจัดห้องให้คุณก่อนนะคะ”ณัฐนิชาได้ยินแบบนี้ก็โล่งอกไปเปราะหนึ่งอย่างน้อยเธอก็จะได้ไม่ต้องคอยระแวงอะไรชายหนุ่มเธอหวังในใจว่าชายหนุ่มจะปรับปรุงนิสัยได้จริงๆ“แล้วเด็กๆไปไหนกันหมดเหรอ”เมฆาเห็นว่าตั้งแต่มายังไม่เห็นเด็กๆอยู่บ้านเลยเขาคิดว่ามาถึงแล้วจะได้เจอลูกๆเขาเสียอีก“ไปเที่ยวกับคุณไวท์แล้วก็น้ำหวานตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ”“อ่อ...ครับ”ชายหนุ่มเข้าใจแล้วว่าเมื่อวานทำไมน้องชายของเขาจะต้องให้เขามาวันนี้ให้ได้ที่แท้ก็เปิดทางเขาได้อยู่กับเธอสองต่อสองก่อนนี่เอง20 นาทีต่อมา“ห้องคุณเมฆเรียบร้อยแล้วนะคะคุณเมฆเอาของเข้าไปเก็บได้เลยค่ะเดี๋ยวนิขอตัวทำกับข้าวก่อนนะคะ”“โอเคครับ”ณัฐนิชาจัดเตรียมห้องสำหรั