“นิชา”
“คะ???”
“ผมต้องขอโทษคุณอีกครั้งขอโทษจริงๆที่ผมทำอะไรแย่ๆไว้กับคุณต่อไปนี้ผมจะไม่บังคับอะไรคุณอีกผมรู้ตัวว่าผมมันแย่แต่ผมจะพยายามเป็นคนที่ใจเย็นขึ้น”
เมฆาเห็นสีหน้าของหญิงสาวยังมีความกังวลอยู่เขาจึงอยากบอกให้เธอได้รับรู้และแน่ใจว่าเขาสำนึกผิดกับเรื่องที่ผ่านมาและอีกอย่างการบังคับจิตใจเธอจะไม่มีวันเกิดขึ้นอีกแล้วเพื่อให้เธอสบายใจได้และไม่ระแวงในระหว่างที่เขาอยู่ที่นี่
“อืม...ค่ะ...งั้นเดี๋ยวนิไปจัดห้องให้คุณก่อนนะคะ”
ณัฐนิชาได้ยินแบบนี้ก็โล่งอกไปเปราะหนึ่งอย่างน้อยเธอก็จะได้ไม่ต้องคอยระแวงอะไรชายหนุ่มเธอหวังในใจว่าชายหนุ่มจะปรับปรุงนิสัยได้จริงๆ
“แล้วเด็กๆไปไหนกันหมดเหรอ”
เมฆาเห็นว่าตั้งแต่มายังไม่เห็นเด็กๆอยู่บ้านเลยเขาคิดว่ามาถึงแล้วจะได้เจอลูกๆเขาเสียอีก
“ไปเที่ยวกับคุณไวท์แล้วก็น้ำหวานตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ”
“อ่อ...ครับ”
ชายหนุ่มเข้าใจแล้วว่าเมื่อวานทำไมน้องชายของเขาจะต้องให้เขามาวันนี้ให้ได้ที่แท้ก็เปิดทางเขาได้อยู่กับเธอสองต่อสองก่อนนี่เอง
20 นาทีต่อมา
“ห้องคุณเมฆเรียบร้อยแล้วนะคะคุณเมฆเอาของเข้าไปเก็บได้เลยค่ะเดี๋ยวนิขอตัวทำกับข้าวก่อนนะคะ”
“โอเคครับ”
ณัฐนิชาจัดเตรียมห้องสำหรับชายหนุ่มเรียบร้อยแล้วจึงบอกให้เขาเอาของไปเก็บได้หญิงสาวเห็นว่าใกล้จะถึงเวลาอาหารเย็นแล้วต้องรีบเข้าครัวไปทำกับข้าวก่อนเผื่อน้องสาวเธอและลูกๆของเธอกลับมาจะได้ทานอาหารเย็นกันเลย
10 นาทีต่อมา
“มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ”
เมฆาจัดของเข้าที่เสร็จเรียบร้อยแล้วจึงเดินออกมาหาหญิงสาวที่อยู่ในครัวตอนนี้กลิ่นอาหารตลบอบอวลหอมฟุ้งยั่วน้ำลายเขามากเลยทีเดียว
“ไม่เป็นไรค่ะ..คุณเมฆไปนั่งรอด้านนอกก่อนก็ได้ค่ะเดี่ยวทางนี้นิจัดการเอง”
ณัฐนิชาทำครัวคนเดียวจนชินเธอรู้สึกว่าการทำคนเดียวจะทำให้ไวกว่าอีกอย่างเธอก็คิดว่าชายหนุ่มก็คงจะทำอะไรไม่เป็นหากช่วยก็จะเป็นภาระให้งานเธอช้าเสียเปล่าๆจึงให้เขาไปนั่งรอด้านนอกจะดีกว่า
“นั่นเดี๋ยวผมช่วยยกครับ”
เมฆารีบเข้าไปช่วยหญิงสาวที่กำลังยกหม้อน้ำซุปที่กำลังเดือดปุดๆหม้อใหญ่ออกมาจากเตาเพราะคิดว่าหญิงสาวอาจจะหนัก
“ว้ายยย”
“โอ้ยยย”
ณัฐนิชาที่ไม่คิดว่าเมฆาจะพุ่งเข้ามาช่วยเธอทำให้เมื่อชายหนุ่มช่วยเอื้อมมือมาช่วยเธอถือกลายเป็นชนกันแล้วน้ำซุปที่กำลังเดือดก็ลวกไปที่มือของเขาทันทีทำเอาคนตัวโตร้องเสียงหลง
“ล้างน้ำก่อนค่ะเป็นอะไรมากหรือเปล่าคะเนี่ย...นิบอกแล้วไงคะว่าไม่ต้องช่วย”
ณัฐนิชารีบวางหม้อน้ำซุปลงที่เคาเตอร์ครัวแล้วจับมือทั้งสองของชายหนุ่มมาล้างน้ำตอนนี้มันเริ่มที่จะบวมแดงขึ้นมาอย่างทันตา
“ผมเห็นหม้อมันใหญ่ทาทางจะหนักก็เลยอยากช่วยขอโทษทีนะครับที่ทำให้วุ่นวาย”
เมฆารู้สึกผิดพอสมควรเขากะว่าจะเข้าไปช่วยเธอแต่กลับทำให้มันเป็นเรื่องเสียอย่างนั้นแล้วตอนนี้เขาก็ปวดแสบปวดร้อนที่มือมากด้วย
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ...เดี๋ยวคุณเมฆไปรอนิที่โซฟานะคะเดี๋ยวนิเอายามาทาให้”
ตอนนี้ณัฐนิชาไม่ได้โทษว่าใครผิดเธอเองก็ไม่ทันได้ระวังตอนที่ชายหนุ่มยื่นมือเข้ามาช่วยถือเธอล้างมือเมฆาเรียบร้อยเอาทิชชู่ซับมือชายหนุ่มจนแห้งแล้วให้เขาไปนั่งรอเธอตรงด้านนอกก่อนจะรีบไปหายาทาให้เขาไม่อย่างนั้นจะบวมเป็นแผลใหญ่ได้
“ขอบคุณครับ”
เมฆาเดินก้มหน้าออกมานั่งด้านนอกพลางคิดว่ามาถึงที่นี่วันแรกก็ทำเรื่องให้หญิงสาวได้ลำบากเสียแล้วแต่อาการที่เธอเป็นห่วงเขาเมื่อครู่มันก็ทำให้เขาลืมความเจ็บปวดที่มือไปได้เหมือนกัน
“อ้าวพี่เป็นอะไรครับ”
วายุเดินจูงเด็กๆทั้งสองเข้ามาในบ้านเห็นพี่ชายของเขานั่งเอาผ้าเปียกแปะที่มือเอาไว้อยู่เขาสังเกตเห็นว่ามันทั้งบวมและแดงผิดปกติจนต้องถามขึ้น
“กลับมากันแล้วเหรอคะพอดีว่าคุณเมฆโดนน้ำซุปลวกมือน่ะค่ะ”
ณัฐนิชาเห็นทั้งสี่กลับมาก็หายห่วงคราแรกเธอว่าจะโทรตามแล้วเพราะกลัวจะดึกเธอวางกล่องปฐมพยาบาลแล้วแกะเอายามาทาให้เมฆาทันที
“หวานมียาฆ่าเชื้อกับยาแก้อักเสบค่ะเดี๋ยวไปเอามาให้นะคะ”
รินทร์ธาราเห็นว่าเมฆาโดนน้ำร้อนลวกทั้งสองมือเลยรีบวิ่งไปเอายาฆ่าเชื้อกับแก้อักเสบมาให้ชายหนุ่มทานกันไว้จะดีกว่า
“ขอบคุณครับ”
“คุณพ่อขา/คุณพ่อคร้าบบ”
“ไงเด็กๆ...มาให้พ่อหอมหน่อยเร็ว”
เจ้าสองแสบเห็นคนเป็นพ่อนั่งอยู่ตรงหน้าก็รีบปีนขึ้นไปนั่งบนตักด้วยความเคยชินโดยไม่ได้รู้ว่าตอนนี้พ่อของพวกเขากำลังเจ็บอยู่หญิงสาวจะห้ามลูกๆของเธอก็ไม่ทันเพราะต่างคนต่างไวกันจริงๆ
ฟอดด..ฟอดด
เมฆากดจมูกไปที่แก้มป่องของลูกๆทั้งสองพร้อมหอมฟัดฟอดใหญ่ถึงมือของเขาจะกอดลูกๆไม่ได้แต่อ้อมแขนของเขาก็ประคองลูกๆของเขาได้อยู่หญิงสาวส่ายหัวให้เด็กๆที่ดูท่าจะเห่อคุณพ่อของพวกเขาเสียจริงเธอนั่งอยู่ข้างๆแท้ๆยังไม่ยักจะเรียกหา
“นี่ยาค่ะหวานขอตัวพาเด็กๆไปอาบน้ำก่อนนะคะ...ไปค่ะเด็กๆ”
รินทร์ธาราเอายาออกมาให้ชายหนุ่มพร้อมเรียกให้เด็กๆไปอาบน้ำเพราะวันนี้เล่นกันเหนื่อยทั้งวันอีกอย่างถ้าอาบช้ากว่านี้เดี๋ยวจะไม่ทันเวลาทานข้าวเย็นกันพอดี
“เดี๋ยวผมไปช่วย”
วายุเห็นรินทร์ธาราพาเด็กๆเข้าห้องไปเขาเองก็ไม่อยากจะยืนอยู่ตรงนี้นานเพราะรู้สึกว่าตัวเองเป็นก้างขวางคอของคนแถวนี้อยู่จึงเดินตามหญิงสาวไปช่วยอาบน้ำให้เด็กๆอีกคน
“มันบวมมากเลยคุณเจ็บมากไหมคะ”ณัฐนิชามองมือเมฆาก็คิ้วขมวดเป็นปมเพราะเมื่อครู่มือของเขาที่ว่าบวมแดงแล้วตอนนี้มันก็ยังบวมเพิ่มขึ้นไปอีก“ไม่ค่อยเท่าไรครับ”เมฆาไม่ได้สนความเจ็บที่มือของเขาแล้วตอนนี้เขาสนในการจับจ้องไปที่ใบหน้าหญิงสาวที่กำลังง่วนกับการทายาที่มือของเขาอยู่ต่างหากผู้หญิงอะไรขนาดหน้างอยังดูน่ารักเขาต้องขอบคุณน้ำซุปหม้อนั้นจริงๆที่ทำให้รู้ว่าหญิงสาวก็ยังใจดีเป็นห่วงเขาอยู่บ้าง“เดี๋ยวทานข้าวเสร็จแล้วคุณทานยาเลยนะคะนิกลัวว่าคืนนี้คุณจะนอนปวด”“ครับ”ณัฐนิชาทายาให้ชายหนุ่มเรียบร้อยแล้วเธอจึงเดินเข้าไปจัดการอาหารในครัวต่อเพราะตอนนี้ทุกคนก็กลับมากันแล้วเธอจะได้จัดโต๊ะอาหารเย็นเลย30 นาทีต่อมา“พี่ทานได้ไหมมาเดี๋ยวผมช่วย”วายุเห็นพี่ชายของเขานั่งจ้องจานข้าวก็พอจะเดาออกว่าคงจะจับช้อนทานไม่ได้จึงอาสาจะช่วย“ไม่ต้อง”เมฆาถึงกับต้องรีบปฏิเสธน้องชายของเขาโดยทันทีจะให้น้องชายเขามาทำแบบนี้ต่อหน้าคนอื่นมันดูยังไงๆชอบกล“ไม่ให้ช่วยแล้วจะทานยังไง”วายุถึงกับตั้งจ้องหน้าพี่ชายเขาเขม็งถ้าปฏิเสธไม่ให้เขาช่วยจะทานยังไงนั่งมองจานข้าวมันคงจะอิ่มอยู่หรอก“เอ่อ...คุณไวท์ทานข้าวเถอะค่ะเดี๋ยวนิป้อนค
“ไม่ต้องกลัวอันตรายหรอกคุณจะได้ถึงเร็วๆไงไม่ชอบเหรอ”วายุหันมาฉีกยิ้มให้หญิงสาวอย่างหน้าชื่นตาบานที่เห็นเธอหน้าเสียเพราะความที่เขาเร่งความเร็วเขามั่นใจว่าความเร็วระดับนี้เขาเอาอยู่และไม่ได้ประมาทจนเกินไปด้วยดูท่าหญิงสาวจะตื่นกลัวเกินเหตุ“หึ่ยยย”รินทร์ธาราเห็นว่าชายหนุ่มคงจะไม่ลดอัตราความเร็วลดลงแน่จึงหลับตาปี๋หาที่ยึดเกาะให้มั่นคงและนั่งภาวนาว่าให้ถึงที่หมายโดยรวดเร็วด้วยเถอะไม่อย่างนั้นเธออาจจะหยุดหายใจเพราะตื่นเต้นตรงนี้ก็เป็นได้เกิดมาก็พึ่งจะมาเคยนั่งบนรถที่มีความเร็วแบบนี้“หอมจังเลยครับ”เมฆาเดินออกจากห้องมาถึงห้องครัวก็ได้กลิ่นอาหารหอมฟุ้งเตะจมูกตั้งแต่เช้าชายหนุ่มร่างสูงยืนพิงขอบประตูมองหญิงสาวที่ใส่ผ้ากันเปื้อนอยู่ด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้มเล็กน้อยที่เธอดูจะเป็นแม่บ้านศรีเรือนที่ทำอะไรคล่องแคล่วเสียจริงงานนอกก็ดีงานในบ้านยังไม่ขาดตกบกพร่องอีกแบบนี้เขาไม่ปล่อยให้เธอหลุดมือไปแน่“เด็กๆล่ะคะ”ณัฐนิชาได้ยินเสียงของชายหนุ่มจึงหันไปมองร่างสูงครู่หนึ่งแล้วหันมาคนหม้อพะโล้ต่อพร้อมถามหาเด็กๆ“ยังไม่ตื่นเลยครับ”เมฆาเดินเข้าไปคุยกับหญิงสาวใกล้ๆเพราะอยากจะเห็นว่ากับข้าวที่หอมเตะจมูกเขาขนา
2 อาทิตย์ผ่านไปเมฆายังคงคอยตามติดหญิงสาวอยู่ไม่ห่างแทบจะทุกย่างก้าวช่วยทำโน่นทำนี่จนตอนนี้สามารถดูแลลูกๆของเขาได้อย่างคล่องแคล่วอีกด้วย“เด็กๆมาอาบน้ำกันครับ”“คร้าบ/ค่า”พักหลังที่มือของเมฆาหายดีแล้วช่วงเช้าในเวลาที่ณัฐนิชายุ่งๆเขาก็จะเป็นคนที่ดูแลเด็กๆแทนหญิงสาวแทบทุกอย่างอย่างเช่นการอาบน้ำให้ลูกๆของเขาก็ทำได้ดีเพราะเรียนรู้วิธีมาจากหญิงสาวโดยการสังเกตสิ่งที่เธอทำมาทุกอย่างแล้ว“เป็นอะไรคะ”เมฆาเห็นลูกสาวของเขาก้าวขาที่เป็นปล้องๆลงอ่างอาบน้ำแต่เมื่อเท้าแตะน้ำก็ดึงเท้ากลับทันทีเขาจึงต้องหันไปถามใยไหมด้วยความเป็นห่วง“เย็นค่ะ”เด็กหญิงตอบคนเป็นพ่อคิ้วขมวดปากติดจมูกนิดหน่อยว่าน้ำในอ่างอาบน้ำสีชมพูหวานของเธอมันเย็นจนไม่กล้าลง“น้ำเย็นคร้าบคุณพ่อ”ใบหม่อนก็มีอาการแบบเดียวกับพี่สาวและส่งเสียงบอกคนเป็นพ่อให้รู้ว่าเขาไม่ชอบน้ำเย็นแบบนี้“จริงด้วย”เมฆาใช้มือวัดอุณหภูมิดูเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเด็กๆถึงกับรีบยกเท้าออกเมื่อสัมผัสกับน้ำเขาส่ายหัวให้ตัวเองที่ลืมเปิดเครื่องทำน้ำอุ่นอีกจนได้“ลืมเปิดเครื่องทำน้ำอุ่นหรือเปล่าคะคุณเมฆ”ณัฐนิชาที่เตรียมอาหารเช้าและจัดการงานบ้านเสร็จสรรพแล้วเธอจึงเดิน
“ฮ่าๆๆคุณแม่กัดหูเลย”ใยไหมที่คิดว่าคนเป็นพ่อและคนเป็นแม่แกล้งกันเฉยๆเหมือนที่เธอก็เคยแกล้งกับน้องชายของเธอจึงหัวเราะร่าเมื่อเห็นคนเป็นพ่อร้องออกมา“คุณพ่อเจ็บไหมครับ”ใบหม่อนเด็กชายผู้อ่อนโยนเมื่อเห็นคนเป็นพ่อร้องก็เลยหันมาถามด้วยความสงสัยว่าคุณพ่อของเขานั้นเจ็บมากหรือเปล่าต่างจากคนเป็นพี่ที่เอาแต่หัวเราะร่า“ไม่เจ็บเลยครับให้คุณแม่กัดอีกก็ยังได้”เมฆายังมีกะใจหันไปพูดเล่นกับเด็กๆทั้งที่ยังรู้สึกเจ็บจี๊ดๆที่ใบหูของเขาอยู่เมื่อเห็นสีหน้าของหญิงสาวที่กำลังแดงระเรื่อเป็นลูกตำลึงก็คิดว่าการเจ็บตัวครั้งนี้มันคุ้มค่ากันแล้วณัฐนิชาปั้นสีหน้าไม่ถูเพราะยังเขินอายกับวินาทีที่ใบหน้าใกล้กันกับชายหนุ่มเธอได้แต่ใช้สายตามองค้อนคนฉวยโอกาสเล็กน้อยที่ดูคำพูดที่เขาพูดกับลูกๆเป็นการเอ่ยแซวเธอให้รู้ตัวครู่ต่อมา“คุณเมฆไม่ต้องกลับไปทำงานบ้างหรือไงคะ”ณัฐนิชานั่งอยู่ที่โต๊ะทานข้าวกับเด็กๆและเมฆาเธอค่อนข้างที่จะเกรงใจเขาอยู่มากที่มาอยู่ที่นี่ช่วยเธอดูแลลูกๆและยังไม่เห็นมีวี่แววว่าเขาจะกลับไปทำงานของเขาเสียทีเหมือนที่เธอคิดไว้คราแรก“อืม...นี่ไล่ผมหรือเปล่าครับ”เมฆาวางช้อนลงอย่างเบามือชายหนุ่มใจเสียเล็กน้
ห้างสรรพสินค้าเมื่อทั้งสี่คนพ่อแม่ลูกเดินทางมาถึงห้างสรรพสินค้าในตัวเมืองได้ก็เดินดิ่งตรงมาที่ร้านขายของใช้เด็กพร้อมเลือกของกันอยู่ร่วมชั่วโมงจนได้ของครบเกือบทุกอย่างแล้ว“แบบนี้ใหญ่ที่สุดในร้านเลยค่ะ”พนักงานสาวที่ร้านหยิบอ่างอาบน้ำของเด็กที่ใหญ่ที่สุดในร้านมาให้เมฆาดูพร้อมบอกว่าที่เธอเลือกมาก็ใหญ่สุดของในร้านแล้วเธอเหลือบมองเด็กทั้งสองเธอก็เข้าใจได้ว่าทำไมลูกค้าของเธอจึงต้องการอ่างอาบน้ำที่ใหญ่ที่สุดของเด็ก“อืม...งั้นเอาสองใบนี้สีฟ้ากับชมพูครับ”เมฆาเห็นว่าอ่างอาบน้ำที่พนักงานสาวหยิบมาให้เขาดูนั้นมันก็ใหญ่กว่าแบบเดิมที่ใช้อยู่ที่บ้านของหญิงสาวจริงแต่เมื่อเทียบกับตัวเด็กๆแล้วมันก็ยังดูใช้ได้ไม่นานเท่าไรแต่ก็มีแก้ขัดไปก่อนก็ยังดีจึงตัดสินใจซื้อของสองชิ้นสุดท้ายนี้แล้วออกมาจากร้านอย่างรวดเร็วเพราะเห็นว่าลูกๆของเขาทั้งสองจะเริ่มงอแงไม่อยากอยู่กับที่นานๆแล้ว“เดี๋ยวนิขอพาเด็กๆไปเล่นตรงบ้านบอลก่อนนะคะดูท่าอยากจะเล่นแย่แล้ว”“ไปค่าคุณแม่”“อยากเล่นแล้วคร้าบ”ณัฐนิชาเลือกซื้อของใช้เสร็จเรียบร้อยแล้วเธอจึงเดินออกมาจากร้านเพื่อพาเจ้าสองแสบไปเล่นตรงโซนเครื่องเล่นเด็กตามคำขอของลูกๆหากไม่พาไปต
“อยู่สนามแข่งXXXจะมาทำไมไม่บอกกันก่อนล่ะ”ณัฐนิชาถึงกับทำหน้าเซ็งที่ป๋อมแป๋มจะมาก็ไม่บอกไม่กล่าวกันก่อน“ก็อยากจะเซอร์ไพรซ์นี่นาโอเคอีกไม่ถึงสิบนาทีเจอกันเดี่ยวไปหา”ป๋อมแป๋มเห็นว่าตอนนี้เธอก็ไม่ได้อยู่ไกลกับสนามแข่งที่ณัฐนิชาบอกมากก็เลยนัดไปเจอกันที่นั่นทีเดียว10 นาทีต่อมา“เป็นไงพี่ฝีมือผม”ซ้อมรอบแรกวายุทำเวลาได้ดีก็อดมาอวดความเก่งกับคนที่นั่งดูอยู่ไม่ได้ตอนนี้เขาขอเวลาพักสักสิบนาทีเพื่อการซ้อมรอบต่อไปต่อ“ขอให้รักษาระดับนี้ไว้ให้ดีก็แล้วกัน”เมฆาเห็นฝีมือการขับรถของน้องเขาดีขึ้นก็ยิ้มออกดีใจกับวายุที่ทำในสิ่งที่ตัวเองรักออกมาได้ดีเขาเองก็เอาใจช่วยให้น้องชายของเขารักษามาตรฐานแบบนี้และพยายามทำให้มันดีขึ้นตลอดก็แล้วกัน“สวัสดีค่ะทุกคน”ป๋อมแป๋มเดินจอดรถที่ลานจอดเมื่อมองเห็นไกลๆจำได้ว่าเป็นรินทร์ธารานั่งอยู่จึงเดินเข้ามาหาพร้อมกับทักทายทุกคนที่กำลังคุยกันอยู่“อ้าวคุณแป๋ม”วายุเห็นเป็นป๋อมแป๋มก็ทักขึ้นเขาคิดว่าเธอจะอยู่ที่เกาะเสียอีกเลยแปลกใจเมื่อเห็นเธออยู่ที่นี่“พี่แป๋มหวานนึกว่าอยู่ที่เกาะซะอีก”รินทร์ธาราเองก็คิดเช่นเดียวกับวายุเพราะรู้ว่าป๋อมแป๋มต้องพาทีมไปทำงานที่เกาะ“พอดีแวะ
“จริงด้วยเดี่ยวฉันไปดูข้างนอกก่อนนะแก”“คุณผู้หญิงครับคือ...มีผู้ชายนอนจมกองเลือดอยู่ในห้องน้ำไม่ทราบว่ามากับพวกคุณหรือเปล่ารบกวนไปดูหน่อยครับ”ป๋อมแป๋มกำลังจะปิดประตูเดินออกไปแต่ก็มี ร.ป.ภ เปิดประตูเข้ามาเสียก่อนด้วยสีหน้าที่หน้าตาตื่นตกใจอย่างเห็นได้ชัดเรื่องที่ ร.ป.ภ แจ้งนั้นทำเอาทั้งสองสาวที่ใจเสียอยู่แล้วตอนนี้ใจเหมือนหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มเพราะมันมีแต่เรื่องที่ไม่ดีเกิดขึ้นทั้งสองสาวภาวนาอยู่ในใจว่าอย่าเป็นคนที่เธอทั้งสองรู้จักเลย“เราไปดูกันแป๋มหวังว่าจะไม่ใช่คนที่เรารู้จักนะ”ณัฐนิชาชักจะใจไม่ดีแล้วคิดว่ายังไงเธอก็จะต้องไปดูด้วยตัวเองให้เห็นกับตาหากไม่ใช่คนที่รู้จักก็จะได้ไม่ต้องกังวลอีกเรื่องเธอจึงปล่อยให้ลูกทั้งสองของเธออยู่ในห้องนี้ก่อนเพราะคิดว่าไม่นานเธอก็จะกลับมาอยู่แล้วคงไม่เป็นอะไร“ทางนี้เลยครับ” ร.ป.ภ. เดินนำหน้าสองสาวมาอย่างรวดเร็วตอนนี้สองสาวเกาะกุมมือกันแน่นเพราะใจไม่ดีเท่าไรตอนนี้ณัฐนิชาสังเกตเห็นว่าที่หน้าห้องน้ำชายตอนนี้มี ร.ป.ภ ของที่นี่อีกสองสามคนกำลังยืนคุมสถานการณ์อยู่และกำลังโทรเรียกตำรวจและพยาบาลกันเจ้าละหวั่นเพราะเหตุเกิดถึงสองที่ในคราเดียวกัน“คุณเมฆ!!!..
20 นาทีต่อมา“สองคนเป็นยังไงบ้าง”มัทนารู้ข่าวก็รีบบินมาที่เชียงใหม่อย่างเร่งด่วนคราแรกพอรู้ข่าวก็แทบลมจับแต่เมื่อรู้ว่าลูกทั้งสองของเธอปลอดภัยก็โล่งใจขึ้นมาอีกเปราะ“สวัสดีค่ะคุณมัทคุณรงค์ตอนนี้คุณเมฆยังไม่ฟื้นค่ะส่วนคุณไวท์ตอนนี้เข้าเฝือกอ่อนไว้อยู่ค่ะเย็นๆหมอน่าจะผ่าตัดให้ค่ะ”ป๋อมแป๋มยืนลูบหลังให้กำลังใจณัฐนิชาที่นั่งน้าตาไหลไม่เหือดแห้งเอาแต่จับมือม่านเมฆไม่วาง เมื่อเห็นมัทนาและธำมรงค์เปิดประตูเข้ามาก็ยกมือสวัสดีท่านทั้งสองพร้อมบอกอาการของชายหนุ่มทั้งสองให้คนเป็นพ่อกับแม่ของพวกเขาได้รับรู้“นี่เจ้าลูกชายเรามันไปเหยียบหางใครเค้ามาหรือเปล่าถึงได้โดนแบบนี้”ธำมรงค์พอจะมองเหตุการณ์ออกว่าเกิดอะไรขึ้นเหมือนที่ทุกคนสงสัยเพียงแค่ตอนนี้เขาก็เหลือแต่ปรึกษากับตำรวจให้แน่ใจอีกที“พวกเราก็คิดแบบนั้นเหมือนกันค่ะตอนนี้ก็ต้องรอทางตำรวจตรวจสอบอีกทีค่ะ”ป๋อมแป๋มพยักหน้าคือตอนนี้ใครๆก็พอจะมองออกว่ามันไม่ใช่อุบัติเหตุธรรมดาเพราะเป็นไปไม่ได้ที่จู่ๆรถของชายหนุ่มที่ใช้ซ้อมอยู่เป็นประจำและมีทีมงานที่มีฝีมือตรวจสอบอยู่ตลอดจะเกิดเหตุการณ์ขัดข้องกะทันหันจนเป็นสาเหตุให้วายุได้รับบาดเจ็บและจู่ๆเมฆาก็มาโดนทำร้