ห้างสรรพสินค้า
เมื่อทั้งสี่คนพ่อแม่ลูกเดินทางมาถึงห้างสรรพสินค้าในตัวเมืองได้ก็เดินดิ่งตรงมาที่ร้านขายของใช้เด็กพร้อมเลือกของกันอยู่ร่วมชั่วโมงจนได้ของครบเกือบทุกอย่างแล้ว
“แบบนี้ใหญ่ที่สุดในร้านเลยค่ะ”
พนักงานสาวที่ร้านหยิบอ่างอาบน้ำของเด็กที่ใหญ่ที่สุดในร้านมาให้เมฆาดูพร้อมบอกว่าที่เธอเลือกมาก็ใหญ่สุดของในร้านแล้วเธอเหลือบมองเด็กทั้งสองเธอก็เข้าใจได้ว่าทำไมลูกค้าของเธอจึงต้องการอ่างอาบน้ำที่ใหญ่ที่สุดของเด็ก
“อืม...งั้นเอาสองใบนี้สีฟ้ากับชมพูครับ”
เมฆาเห็นว่าอ่างอาบน้ำที่พนักงานสาวหยิบมาให้เขาดูนั้นมันก็ใหญ่กว่าแบบเดิมที่ใช้อยู่ที่บ้านของหญิงสาวจริงแต่เมื่อเทียบกับตัวเด็กๆแล้วมันก็ยังดูใช้ได้ไม่นานเท่าไรแต่ก็มีแก้ขัดไปก่อนก็ยังดีจึงตัดสินใจซื้อของสองชิ้นสุดท้ายนี้แล้วออกมาจากร้านอย่างรวดเร็วเพราะเห็นว่าลูกๆของเขาทั้งสองจะเริ่มงอแงไม่อยากอยู่กับที่นานๆแล้ว
“เดี๋ยวนิขอพาเด็กๆไปเล่นตรงบ้านบอลก่อนนะคะดูท่าอยากจะเล่นแย่แล้ว”
“ไปค่าคุณแม่”
“อยากเล่นแล้วคร้าบ”
ณัฐนิชาเลือกซื้อของใช้เสร็จเรียบร้อยแล้วเธอจึงเดินออกมาจากร้านเพื่อพาเจ้าสองแสบไปเล่นตรงโซนเครื่องเล่นเด็กตามคำขอของลูกๆหากไม่พาไปตอนนี้คงฉุดรั้งเสื้อของเธอขาดวิ่นแน่
“งั้นเดี่ยวผมเอาของไปเก็บที่รถแล้วตามไปนะครับ”
“ค่ะ”
เมฆาเห็นอาการของเจ้าสองแสบก็พอจะรู้ว่าคงจะเล่นกันอีกนานเพราะช่วยกันดึงมือคนเป็นแม่ตัวโยนกันซะขนาดนั้นเขาคิดว่าควรเอาของไปเก็บก่อนจะดีกว่าจะได้ช่วยณัฐนิชาดูแลลูกๆอย่างคล่องตัวด้วย
“นี่คุณจะทานอะไรก็เลือกสักร้านสิฉันขี้เกียจเดินแล้วนะหิวมากแล้วด้วย”
รินทร์ธาราบ่นอุกเมื่อถึงห้างสรรพสินค้าแล้ววายุก็ไม่ยักจะเลือกร้านทานข้าวกลางวันได้เสียทีพาเธอเดินวนแล้ววนอีกเป็นครึ่งๆชั่วโมงได้จนตอนนี้ท้องเธอร้องออกมาด้วยความหิวหลายรอบแล้ว
“คุณอยากได้เสื้อผ้าหรือกระเป๋าอะไรแบบนี้ไหมเดี่ยวผมซื้อให้”
วายุยังคงไม่รู้สึกหิวเขาเพียงแค่อยากเดินเล่นกับเธอมากกว่าเขาพยายามเอาใจหญิงสาวเหมือนที่เขาเคยเอาใจผู้หญิงคนอื่นๆที่ผ่านมาแต่ไม่ยักเห็นว่าเธอจะสนใจสักนิดเขาล่ะแปลกใจกับผู้หญิงอย่างเธอจริงๆ
“ไม่อยากได้อะไรทั้งนั้นตอนนี้ฉันอยากทานข้าวถ้าคุณไม่เลือกฉันจะเลือกเองแล้วนะ”
หญิงสาวหยุดชะงักการเดินด้วยอาการหน้านิ่วคิ้วขมวดพร้อมพูดให้วายุรู้ว่าหากเขาไม่เลือกเสียทีเธอจะไม่สนใจแล้วและเธอก็จะหาอะไรทานเองด้วย
“อะ...โอเคๆ..ร้านนี้ก็ได้”
วายุถึงกับต้องยอมตามใจรินทร์ธาราก่อนจะชี้ไปที่ร้านอาหารตรงหน้าว่าเขาเลือกที่จะทานร้านนี้ก็ได้
“ซะที...หึ้ยยย”
รินทร์ธาราเดินส่ายหัวน้ำหน้าชายหนุ่มเข้าร้านไปด้วยอาการหงุดหงิดพร้อมพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอกที่เธอจะได้หาอะไรลงท้องเสียทีขืนเดินต่อเธอได้ประสาทกินเป็นแน่
“อ้าวพี่”
วายุเดินเข้ามาในร้านสายตาของเขาก็ดันเหลือบมองเห็นพี่ชายของเขากับหลานๆและณัฐนิชาจึงดึงมือรินทร์ธาราเดินเข้าไปหาทั้งสี่ที่นั่งอยู่ในโต๊ะอาหารก่อนแล้ว
“พี่นิ”
“หวาน..วันนี้ไม่ทำงานเหรอ”
ณัฐนิชาเห็นน้องสาวเดินอยู่ที่นี่ได้จึงแปลกใจพอสมควร
“ก็คุณไวท์น่ะสิลากหวานมาที่นี่แล้วก็จะพาไปดูเค้าซ้อมแข่งรถต่อ”
รินทร์ธาราตอบพี่สาวเธอด้วยสีหน้าที่แอบเซ็งเล็กน้อย
“หึ่”
เมฆารู้ว่าน้องชายตัวดีของนั้นกำลังคิดอะไรอยู่แต่แค่ไม่อยากจะก้าวก่ายอะไร
“อืม...งั้นก็นั่งทานข้าวด้วยกันเลย”
ณัฐนิชารู้ว่าทั้งสองคงจะกำลังจะทานอาหารกันเป็นแน่จึงถือโอกาสชวนนั่งด้วยกันเสียเลย
“วันนี้พี่ไปดูผมซ้อมแข่งไหมพักหลังมานี้ผมรู้สึกว่าผมทำเวลาได้ดีมากกว่าเก่าเยอะเลยน”
วายุอยากจะอวดฝีมือที่พัฒนาขึ้นมามากของเขาให้คนเป็นพี่ได้เห็นจึงถือโอกาสชวนพี่ตนเสียเลย
“ก็อยากไปอยู่นะแต่...ว่ายังไงครับคุณนิ”
ในใจเมฆานั้นก็อยากไปแต่ติดที่เขาเกรงใจณัฐนิชาเพราะไม่รู้ว่าเธออยากจะไปด้วยหรือไม่ด้วยวันนี้ก็มีลูกๆมาด้วยกลัวว่าเธอจะไม่สะดวก
“ไปก็ได้ค่ะไหนๆวันนี้นิก็ว่างแล้วอีกอย่างก็อยากเห็นฝีมือคุณไวท์ด้วย”
ณัฐนิชาเห็นว่าไหนๆวันนี้เธอก็ว่างแล้วอีกอย่างก็อยากเห็นฝีมือการแข่งรถของวายุเพราะเคยได้ยินความสามารถของชายหนุ่มจากปากคนอื่นวันนี้เธอก็จะได้เห็นด้วยตาเสียที
“ดีเลยครับงั้นทานข้าวเสร็จเดี๋ยวเราไปกันเลย”
วายุรู้สึกสนุกขึ้นมาอีกขั้นที่วันนี้คนในครอบครัวจะพากันไปดูฝีมือของเขาก่อนจะหันมาเหลือบมองพี่ชายด้วยสายตามีเลศนัยที่เดี่ยวนี้นั้นทำอะไรจะต้องขออนุญาตจากณัฐนิชาเสียก่อนดูออกเลยว่าอนาคตครอบครัวของพี่ชายเขาใครจะเป็นใหญ่
2 ชั่วโมงต่อมา
สนามแข่งXXX
เป็นเวลาบ่ายสองที่ทุกคนตางก็นั่งใจจดใจจ่อดูการซ้อมแข่งรถของวายุที่สนามตอนนี้เจ้าสองแสบหลับไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วณัฐนิชาจึงได้ดูวายุโชว์ฝีมือแค่รอบเดียวแล้วจึงต้องไปเฝ้าเด็กๆต่อที่ห้องพักนักกีฬา
Rrrrrrrrr
“ว่ายังไงแก”
ณัฐนิชาหยิบมือถือที่กำลังสั่นในกระเป๋าขึ้นมากดรับเพราะเห็นว่าเห็นเบอร์ของป๋อมแป๋มโทรมา
“นี่แกอยู่ไหนฉันมาหาที่บ้านไม่เห็นเจอ”
ป๋อมแป๋มกลับมาทำธุระที่เชียงใหม่เมื่อแวะมาหาณัฐนิชาที่บ้านแล้วไม่เห็นจะมีใครอยู่บ้านเลยต้องโทรหาเพราะไม่อยากแวะมาเสียเที่ยวยังไงวันนี้เธอก็จะต้องได้เจอณัฐนิชาให้ได้เพราะคิดถึงหลานๆของเธอด้วย
“อยู่สนามแข่งXXXจะมาทำไมไม่บอกกันก่อนล่ะ”ณัฐนิชาถึงกับทำหน้าเซ็งที่ป๋อมแป๋มจะมาก็ไม่บอกไม่กล่าวกันก่อน“ก็อยากจะเซอร์ไพรซ์นี่นาโอเคอีกไม่ถึงสิบนาทีเจอกันเดี่ยวไปหา”ป๋อมแป๋มเห็นว่าตอนนี้เธอก็ไม่ได้อยู่ไกลกับสนามแข่งที่ณัฐนิชาบอกมากก็เลยนัดไปเจอกันที่นั่นทีเดียว10 นาทีต่อมา“เป็นไงพี่ฝีมือผม”ซ้อมรอบแรกวายุทำเวลาได้ดีก็อดมาอวดความเก่งกับคนที่นั่งดูอยู่ไม่ได้ตอนนี้เขาขอเวลาพักสักสิบนาทีเพื่อการซ้อมรอบต่อไปต่อ“ขอให้รักษาระดับนี้ไว้ให้ดีก็แล้วกัน”เมฆาเห็นฝีมือการขับรถของน้องเขาดีขึ้นก็ยิ้มออกดีใจกับวายุที่ทำในสิ่งที่ตัวเองรักออกมาได้ดีเขาเองก็เอาใจช่วยให้น้องชายของเขารักษามาตรฐานแบบนี้และพยายามทำให้มันดีขึ้นตลอดก็แล้วกัน“สวัสดีค่ะทุกคน”ป๋อมแป๋มเดินจอดรถที่ลานจอดเมื่อมองเห็นไกลๆจำได้ว่าเป็นรินทร์ธารานั่งอยู่จึงเดินเข้ามาหาพร้อมกับทักทายทุกคนที่กำลังคุยกันอยู่“อ้าวคุณแป๋ม”วายุเห็นเป็นป๋อมแป๋มก็ทักขึ้นเขาคิดว่าเธอจะอยู่ที่เกาะเสียอีกเลยแปลกใจเมื่อเห็นเธออยู่ที่นี่“พี่แป๋มหวานนึกว่าอยู่ที่เกาะซะอีก”รินทร์ธาราเองก็คิดเช่นเดียวกับวายุเพราะรู้ว่าป๋อมแป๋มต้องพาทีมไปทำงานที่เกาะ“พอดีแวะ
“จริงด้วยเดี่ยวฉันไปดูข้างนอกก่อนนะแก”“คุณผู้หญิงครับคือ...มีผู้ชายนอนจมกองเลือดอยู่ในห้องน้ำไม่ทราบว่ามากับพวกคุณหรือเปล่ารบกวนไปดูหน่อยครับ”ป๋อมแป๋มกำลังจะปิดประตูเดินออกไปแต่ก็มี ร.ป.ภ เปิดประตูเข้ามาเสียก่อนด้วยสีหน้าที่หน้าตาตื่นตกใจอย่างเห็นได้ชัดเรื่องที่ ร.ป.ภ แจ้งนั้นทำเอาทั้งสองสาวที่ใจเสียอยู่แล้วตอนนี้ใจเหมือนหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มเพราะมันมีแต่เรื่องที่ไม่ดีเกิดขึ้นทั้งสองสาวภาวนาอยู่ในใจว่าอย่าเป็นคนที่เธอทั้งสองรู้จักเลย“เราไปดูกันแป๋มหวังว่าจะไม่ใช่คนที่เรารู้จักนะ”ณัฐนิชาชักจะใจไม่ดีแล้วคิดว่ายังไงเธอก็จะต้องไปดูด้วยตัวเองให้เห็นกับตาหากไม่ใช่คนที่รู้จักก็จะได้ไม่ต้องกังวลอีกเรื่องเธอจึงปล่อยให้ลูกทั้งสองของเธออยู่ในห้องนี้ก่อนเพราะคิดว่าไม่นานเธอก็จะกลับมาอยู่แล้วคงไม่เป็นอะไร“ทางนี้เลยครับ” ร.ป.ภ. เดินนำหน้าสองสาวมาอย่างรวดเร็วตอนนี้สองสาวเกาะกุมมือกันแน่นเพราะใจไม่ดีเท่าไรตอนนี้ณัฐนิชาสังเกตเห็นว่าที่หน้าห้องน้ำชายตอนนี้มี ร.ป.ภ ของที่นี่อีกสองสามคนกำลังยืนคุมสถานการณ์อยู่และกำลังโทรเรียกตำรวจและพยาบาลกันเจ้าละหวั่นเพราะเหตุเกิดถึงสองที่ในคราเดียวกัน“คุณเมฆ!!!..
20 นาทีต่อมา“สองคนเป็นยังไงบ้าง”มัทนารู้ข่าวก็รีบบินมาที่เชียงใหม่อย่างเร่งด่วนคราแรกพอรู้ข่าวก็แทบลมจับแต่เมื่อรู้ว่าลูกทั้งสองของเธอปลอดภัยก็โล่งใจขึ้นมาอีกเปราะ“สวัสดีค่ะคุณมัทคุณรงค์ตอนนี้คุณเมฆยังไม่ฟื้นค่ะส่วนคุณไวท์ตอนนี้เข้าเฝือกอ่อนไว้อยู่ค่ะเย็นๆหมอน่าจะผ่าตัดให้ค่ะ”ป๋อมแป๋มยืนลูบหลังให้กำลังใจณัฐนิชาที่นั่งน้าตาไหลไม่เหือดแห้งเอาแต่จับมือม่านเมฆไม่วาง เมื่อเห็นมัทนาและธำมรงค์เปิดประตูเข้ามาก็ยกมือสวัสดีท่านทั้งสองพร้อมบอกอาการของชายหนุ่มทั้งสองให้คนเป็นพ่อกับแม่ของพวกเขาได้รับรู้“นี่เจ้าลูกชายเรามันไปเหยียบหางใครเค้ามาหรือเปล่าถึงได้โดนแบบนี้”ธำมรงค์พอจะมองเหตุการณ์ออกว่าเกิดอะไรขึ้นเหมือนที่ทุกคนสงสัยเพียงแค่ตอนนี้เขาก็เหลือแต่ปรึกษากับตำรวจให้แน่ใจอีกที“พวกเราก็คิดแบบนั้นเหมือนกันค่ะตอนนี้ก็ต้องรอทางตำรวจตรวจสอบอีกทีค่ะ”ป๋อมแป๋มพยักหน้าคือตอนนี้ใครๆก็พอจะมองออกว่ามันไม่ใช่อุบัติเหตุธรรมดาเพราะเป็นไปไม่ได้ที่จู่ๆรถของชายหนุ่มที่ใช้ซ้อมอยู่เป็นประจำและมีทีมงานที่มีฝีมือตรวจสอบอยู่ตลอดจะเกิดเหตุการณ์ขัดข้องกะทันหันจนเป็นสาเหตุให้วายุได้รับบาดเจ็บและจู่ๆเมฆาก็มาโดนทำร้
“เมื่อไรจะตื่นเนี่ยคุณรู้ไหมฉันเป็นห่วงคุณจนเสียการเสียงานแล้วนะ”รินทร์ธาราวางกระเป๋ากับกล่องข้าวที่เธอซื้อมาเผื่อพี่สาวของเธอที่โต๊ะวางของก่อนจะเดินไปจ้องที่ใบหน้าอันซีดเซียวของวายุพูดคุยกับคนที่นอนแน่นิ่งอยู่ด้วยอาการเป็นห่วงแต่คำพูดของเธอก็ดูจะวางฟอร์มเสียหน่อยตามแบบของเธอเอง“จะว่าไปคุณก็หล่อเหมือนกันนะตอนที่นอนนิ่งๆไม่กวนประสาทฉันน่ะ...จมูกก็โด่งคิ้วดกดำปากก็หนา...แต่ก็หัวเถิกไปนิด...หน้าแบบนี้สินะที่พวกสาวๆติดกันแจ...”หญิงสาวก้มลงมองใบหน้าของชายหนุ่มที่หลับตาพริ้มเมื่อได้ลองสังเกตใกล้ๆเธอก็รู้สึกว่าตอนที่เขานอนนิ่งๆแบบนี้มันน่าดูกว่าเยอะเลยพร้อมยิ้มเยาะเมื่อพูดถึงใบหน้าของเขาใบนี้ที่ทำให้สาวๆแทบจะทุกคนติดแจจนเป็นข่าวมาให้เห็นแทบทุกครั้งที่มีการลงแข่ง“อืม...ตัวหอมแล้วนี่นาสงสัยพยาบาลจะมาเช็ดตัวให้แล้วใช่ไหมล่ะ...นอนเป็นผักให้พยาบาลสาวๆดูแลแบบนี้คงจะทำให้คุณสดชื่นไม่น้อยเลยนะรีบๆตื่นมานะจะได้เห็นเวลาพยาบาลเค้าทำอะไรกับร่างกายคุณ...อิๆๆ”วันนี้ที่หญิงสาวพูดเล่นกับวายุและอารมณ์ดีได้ก็เพราะสบายใจที่การผ่าตัดของชายหนุ่มผ่านไปด้วยดีตอนนี้ก็รอแค่ให้ฟื้นตัวเท่านั้นเมื่อพูดคุยกับคนที่
“คุณพ่อนอนนานจังเลยค่ะ”ใยไหมเริ่มสงสัยเพาะเด็กหญิงจำได้ว่าคนเป็นพ่อของเธอนอนที่เตียงนี้มาตั้งแต่เมื่อวานแล้ววันนี้ก็ยังนอนเหมือนเดิมอยู่เลยจึงเอ่ยถามด้วยความไร้เดียงสา“แบบนี้คุณพ่อขี้เซาใช่ไหมคร้าบ”คนเป็นน้องชายก็มีทีท่าสงสัยพอๆกันพลางยืนคิดถึงคำพูดของคนเป็นแม่ที่เวลาตัวเองนอนตื่นสายคนเป็นแม่จะบอกว่าขี้เซาเด็กชายก็มีความคิดว่าคนเป็นพ่อก็คงจะขี้เซาเหมือนที่ตัวเองเคยเป็นเหมือนกันพร้อมเอ่ยถามคนเป็นแม่ด้วยท่าทีสงสัยตามพี่สาว“หืมม...ตอนนี้คุณพ่อไม่สบายค่ะเลยต้องนอนพักอีกไม่นานเดี๋ยวคุณพ่อก็ตื่นแล้วค่ะ”ณัฐนิชาฉีกยิ้มกว้างเอ็นดูกับคำพูดของเจ้าแฝดเหลือเกินก่อนจะบอกเหตุผลให้ลูกๆเธอได้เข้าใจว่าพ่อของพวกเขานั้นไม่ได้ขี้เซาอย่างที่คิด“จุ้บคุณพ่อค่ะ”“โอเคค่ะ.”ณัฐนิชาหันไปหาลูกสาวตัวกลมของเธอด้วยสีหน้าแปลกใจในคราแรกแต่เมื่อนึกขึ้นได้และรู้ว่าลูกของเธอจะทำอะไรก็รีบอุ้มลูกสาวตัวกลมของเธอให้โน้มตัวไปหอมแก้มคนเป็นพ่อที่นอนหลับอยู่ทันที“เดี๋ยวคุณพ่อก็หายแล้วค่ะ”ณัฐนิชาดีใจที่ลูกสาวของเธอนั้นจำพฤติกรรมของเธอได้เมื่อลูกทั้งสองของเธอป่วยเธอก็จะเข้าไปจูบที่แก้มแล้วอวยพรให้หายเร็วๆทุกครั้งแล้วลูกๆข
“โห...สายเปย์งั้นดิ..ฉันขอเข้าทำงานเลยค่ะคุณเจ้านาย”รินทร์ธาราไม่ปฏิเสธที่จะรับข้อเสนอของชายหนุ่มเพราะเรื่องดูแลคนที่ป่วยอยู่เธอก็ถนัดอยู่แล้วอีกอย่างหากเธอเป็นผู้จัดการให้เขาก็จะได้ช่วยคัดคนที่จะมาเข้าทีมของเขาอีกด้วยเพราะเธอไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับชายหนุ่มอีกหนึ่งวันมาแล้วที่เมฆารู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาเมื่อชายหนุ่มรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาวินาทีนั้นมันเหมือนยกภูเขาออกจากอกของณัฐนิชาเธอยิ้มกว้างต้อนรับเขาอย่างดีใจและหลังจากที่เขาตื่นเธอก็คอยดูแลถามไถ่อาการของเขาอยู่ไม่ห่างคอยอยู่ให้เขานั้นเห็นหน้าเธอตลอดเวลา“ทานยาก่อนนะคะ”หลังจากที่ชายหนุ่มทานข้าวต้มและผลไม้ที่พยาบาลนำมาให้เรียบร้อยแล้วหญิงสาวก็จัดการป้อนยาตามทันทีเธอดูแลเขาอย่างไม่ขาดตกบกพร่องเพราะอยากจะเห็นคนตรงหน้ากลับมาแข็งแรงโดยเร็ววัน“ขอบคุณครับ”“ถ้าปวดหัวหรือจะเข้าห้องน้ำเรียกนิได้ตลอดเลยนะคะ”“ครับ”“คุณเมฆอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมคะเดี๋ยวนิจะหามาให้คุณหมอบอกว่าตอนนี้คุณเมฆทานได้แทบทุกอย่างแล้วแต่นิว่าถ้าเป็นของหวานควรจะงดไว้ก่อนเพราะแผลยังไม่หายดีค่ะ”“ผมทานอะไรก็ได้ครับ”“ค่ะ”คำถามและท่าทีที่แสดงถึงความเป็นห่วงเป็นใย
“คือคุณไม่ได้เป็นภาระนิสักนิดเลยนะคะ...คุณอย่าไปเลยนะคะอยู่ที่นี่ช่วยนิดูแลลูกๆได้ไหมคะอยู่กันเป็นครอบครัวอย่างที่คุณเคยขอนิไงคะ...”ณัฐนิชานิ่งงันหลังจากที่ชายหนุ่มพูดจบประโยคเล็กน้อยตอนนี้เธอมีน้ำตาคลอออกมาก่อนจะเข้าไปสวมกอดที่ด้านหลังของชายหนุ่มพร้อมขอร้องให้เขาอยู่กับเธออย่างไม่สนศักดิ์ศรีอะไรทั้งนั้น“คุณนิไม่ลำบากใจแน่นะครับ”“ค่ะ”เมฆายังคงไม่หันหน้าไปหาหญิงสาวเขายังปล่อยให้เธอกอดเขาเอาไว้แบบนั้นก่อนจะถามหญิงสาวให้แน่ใจอีกทีว่าเธอนั้นคิดไม่ผิด“งั้นผมขอถามได้ไหมว่าทำไมเวลาที่ผ่านมาคุณถึงพยายามออกไปจากชีวิตผม”เมฆายังคงตั้งคำถามให้หญิงสาวได้ตอบเขาอยู่ไม่เลิกเมื่อมีโอกาสเคลียใจเขาก็อยากจะเคลียทันทั้งหมดกับเรื่องที่ยังค้างคาใจอยู่“นิแค่ยังกลัวกับเหตุการณ์ในวันนั้นแต่นิพยายามสลัดมันออกไปได้แล้วนะคะอีกอย่างก็คือนิรู้ว่าคุณเมฆไม่อยากมีครอบครัวหากนิกับลูกๆเข้ามาในชีวิตคุณในช่วงเวลาที่คุณเมฆไม่อยากมีพันธะนิคิดว่ามันคงทำให้ครอบครัวมีความสุขไม่ได้หรอกค่ะ...แต่ตอนนี้นิไม่สนอะไรแล้วค่ะจากเหตุการณ์ที่คุณเมฆเจ็บนิรู้ว่าควรใช้ชีวิตตามเสียงหัวใจโดยไม่มีทิฐิจะดีกว่า...เพราะเราไม่สามารถรู้ได้ว่
“อือ...อื้มม...”คนตัวโตก้มลงใช้จมูกสูดดมซอกซอนมาจนถึงพวงแก้มแล้วใช้ริมฝีปากหนาบดจูบริมฝีปากบางอวบอิ่มของเธออย่างดูดดื่มโหยหาส่งลิ้นร้ายเข้าไปตักตวงความหวานจากปากหญิงสาวอย่างไม่มีท่าทีที่จะอิ่มและพอใจกับมันเขายังคงบดจูบเร่าร้อนมากขึ้นเรื่อยๆจนสร้างอารมณ์วาบหวามให้หญิงสาวที่นอนอยู่ใต้ร่างได้ดีพอสมควรมือไม้เรียวของหญิงสาวหาที่เกาะยึดปัดป่ายไม่อยู่สุขจนมาจบอยู่ที่ลำแขนแกร่งเล็บบางจิกลงระบายอารมณ์จนกล้ามแขนแกร่งเป็นรอยบีบข่วนแทบเลือดซิบตอนนี้ทั้งสองเหลือแต่ร่างกายที่เปลือยเปล่าแนบชิดติดกันเพราะเมฆาพึ่งจะสลัดผ้าออกจากตัวเขาเมื่อครู่มือไม้ที่บีบคลึงอยู่ที่สองเต้างามพอดีมือก็สลับกับปากหนาดูดคลึงบีบเล่นไปมาเพื่อเรียกอารมณ์รักให้หญิงสาวนั้นมีความสุขเพลิดเพลินกับบทรักที่เขามอบให้มือเล็กเปลี่ยนที่ยึดเกาะจากลำแขนแกร่งของชายหนุ่มเป็นหมอนนุ่มของเธอบ้างหรือปัดป่ายมาจิกที่ไหล่กว้างของเขาบ้างเพราะอารมณ์วาบหวามเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนเริ่มไม่เป็นตัวของตัวเองชายหนุ่มไม่รอช้าเมื่อตัวตนของเขามันพร้อมแล้วก็ค่อยๆแทรกตัวเข้าไปที่ลำขาเรียวเล็กของหญิงสาวค่อยๆแทรกลำขาแกร่งเข้าไปจนตัวตนของทั้งสองแนบชิดติดกันจนหญ