“อยู่สนามแข่งXXXจะมาทำไมไม่บอกกันก่อนล่ะ”
ณัฐนิชาถึงกับทำหน้าเซ็งที่ป๋อมแป๋มจะมาก็ไม่บอกไม่กล่าวกันก่อน
“ก็อยากจะเซอร์ไพรซ์นี่นาโอเคอีกไม่ถึงสิบนาทีเจอกันเดี่ยวไปหา”
ป๋อมแป๋มเห็นว่าตอนนี้เธอก็ไม่ได้อยู่ไกลกับสนามแข่งที่ณัฐนิชาบอกมากก็เลยนัดไปเจอกันที่นั่นทีเดียว
10 นาทีต่อมา
“เป็นไงพี่ฝีมือผม”
ซ้อมรอบแรกวายุทำเวลาได้ดีก็อดมาอวดความเก่งกับคนที่นั่งดูอยู่ไม่ได้ตอนนี้เขาขอเวลาพักสักสิบนาทีเพื่อการซ้อมรอบต่อไปต่อ
“ขอให้รักษาระดับนี้ไว้ให้ดีก็แล้วกัน”
เมฆาเห็นฝีมือการขับรถของน้องเขาดีขึ้นก็ยิ้มออกดีใจกับวายุที่ทำในสิ่งที่ตัวเองรักออกมาได้ดีเขาเองก็เอาใจช่วยให้น้องชายของเขารักษามาตรฐานแบบนี้และพยายามทำให้มันดีขึ้นตลอดก็แล้วกัน
“สวัสดีค่ะทุกคน”
ป๋อมแป๋มเดินจอดรถที่ลานจอดเมื่อมองเห็นไกลๆจำได้ว่าเป็นรินทร์ธารานั่งอยู่จึงเดินเข้ามาหาพร้อมกับทักทายทุกคนที่กำลังคุยกันอยู่
“อ้าวคุณแป๋ม”
วายุเห็นเป็นป๋อมแป๋มก็ทักขึ้นเขาคิดว่าเธอจะอยู่ที่เกาะเสียอีกเลยแปลกใจเมื่อเห็นเธออยู่ที่นี่
“พี่แป๋มหวานนึกว่าอยู่ที่เกาะซะอีก”
รินทร์ธาราเองก็คิดเช่นเดียวกับวายุเพราะรู้ว่าป๋อมแป๋มต้องพาทีมไปทำงานที่เกาะ
“พอดีแวะมาดูงานที่นี่แค่วันสองวันเท่านั้นแหละค่ะแล้วนี่นิชาอยู่ไหนคะเนี่ย”
ป๋อมแป๋มเคลียร์งานที่เกาะแทบจะเรียบร้อยทุกอย่างแล้วไม่มีอะไรน่าห่วงเธอจึงแวบหายกลับมาดูงานที่นี่ได้และวันนี้ก็ว่าจะมาหาณัฐนิชากับเจ้าสองแสบด้วย
“อยู่ด้านล่างครับเฝ้าเด็กๆหลับอยู่”
เมฆาชี้มือบอกหญิงสาวว่าณัฐนิชากับลูกๆของเขาอยู่ที่ห้องด้านล่าง
“ค่ะเดี่ยวแป๋มขอตัวไปหายัยนิก่อนนะคะ”
ป๋อมแป๋มรู้ว่าเพื่อนเธอกับหลานๆของเธออยู่ที่ไหนก็รีบเดินออกไปหาเพื่อนเธอทันทีเพราะว่ามีงานบางอย่างที่อยากจะปรึกษากับเพื่อนเธอด้วยอยู่พอดี
“เดี๋ยวผมต้องเตรียมตัวแข่งรอบต่อๆไปแล้วหละ”
“อืมไปเถอะ...”
เมื่อพักจนโอเคแล้ววายุเห็นว่าทางทีมของเขาก็เตรียมรถไว้ให้พร้อมแล้วกับการซ้อมอีกรอบเขาอยากจะทำเวลาให้มันดีขึ้นเรื่อยๆทุกรอบไปเพราะเขาก็หวังว่าการแข่งครั้งหน้าเขาจะทำเวลาได้ดีและได้รางวัลที่ดีที่สุดด้วย
“มาแล้วเหรอ”
ณัฐนิชาเห็นป๋อมแป๋มเปิดประตูเข้ามาก็รีบเขยิบที่นั่งบนโซฟาให้เพื่อนเธอนั่ง
“เสียดายเจ้าสองแสบหลับว่าจะฟัดให้หายคิดถึงซะหน่อย”
ป๋อมแป๋มมองเห็นหลานๆทั้งสองของเธอหลับอุตุก็ทำหน้าเซ็งเพราะเธอกะว่าจะกอดรัดฟัดเหวี่ยงให้หายคิดถึงเสียหน่อย
“ตื่นมาค่อยฟัดก็ได้แล้วนี่งานทางนั้นเรียบร้อยแล้วหนอถึงปลีกตัวออกมาได้”
ณัฐนิชาอยากรู้ว่าความคืบหน้าของงานที่บ้านบนเกาะไปถึงไหนแล้วเพื่อนเธอถึงได้ปลีกตัวมาอยู่ที่นี่ได้
“เกือบร้อยเปอร์เซ็นแล้วหละ...ไม่อยากไปดูผลงานบ้างเหรอ”
ป๋อมแป๋มตอบณัฐนิชาและยังไม่วายที่จะมีแอบหยอกเพื่อนรักให้ไปดูงาน
“เอ่อ...คงไม่หรอกหมดหน้าที่ฉันแล้วนี่”
ณัฐนิชาหลบหน้าป๋อมแป๋มเธอพูดปัดไปว่าหมดหน้าที่แล้วไม่จำเป็นที่จะต้องไปยุ่งเกี่ยวกับบ้านหลังนั้นอีก
เมฆาเดินมาเข้าห้องน้ำด้านในเมื่อเห็นชายแปลกหน้าคนหนึ่งท่าทางไม่น่าไว้ใจกำลังคุยกับทีมงานที่ดูแลรถให้น้องชายของเขาอยู่เมื่อเห็นเช่นนั้นจึงหลบแอบฟังทั้งสามก่อนเพื่อให้แน่ใจว่าทั้งสามกำลังคุยเรื่องอะไรอยู่กันแน่
“มันจะเกิดเมื่อไร”
ชายแปลกหน้าถามทีมงานทั้งสองของน้องชายเขาด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด
“ผมรับรองไม่เกินสามรอบ”
ทีมงานหนึ่งคนนั้นเมฆาจำหน้าได้ดีเพราะน้องชายของเขาบอกว่าพึ่งรับมาทำงานใหม่และเขาก็มั่นใจว่าเรื่องที่ทั้งสามกำลังคุยกันอยู่นั้นต้องไม่ใช่เรื่องที่ดีกับตัววายุเป็นแน่
“อืม...นี่เงินครึ่งแรกเอาไปก่อนถ้าหากมันเจ็บหนักแกค่อยมารับก้อนหลังที่ฉันอีกที”
“ครับ...รอดูได้เลยรอบหน้ามันลงแข่งไม่ได้แน่”
“พวกแกทำอะไรกัน”
เมฆาตัดสินใจเดินดุ่มๆเข้าไปหาชายทั้งสามเพราะรู้สึกหัวร้อนขึ้นมาทันทีเมื่อรู้ว่าทั้งสามร่วมมือกันจะทำให้น้องชายของเขาลงแข่งไม่ได้ในสนามแข่งครั้งหน้า
ปลั้ก
“โอ้ยยย...”
เมฆารู้สึกว่ามีของแข็งฟาดที่ท้ายทอยของเขาจากด้านหลังไม่นานสติของเขาก็ดับวูบไป
“แส่หาเรื่องก็ต้องโดนแบบนี้...ไป...มีคนเห็นแล้วต้องรีบไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด”
ชายชุดดำร่างใหญ่คนนี้เห็นว่าชายหนุ่มยืนแอบฟังแต่แรกแล้วจึงต้องหาวิธีกำจัดชายหนุ่มให้พูดไม่ได้ก่อนที่อุบัติเหตุจะเกิดขึ้นกับวายุไม่เช่นนั้นแผนที่วางมาทั้งหมดจะเสียเปล่าพร้อมพากันออกไปจากที่นี่อย่างรวดเร็ว
“ว้ายย”
รินทร์ธาราถึงกับกรี๊ดลั่นตัวชาวาบที่จู่ๆรถของวายุก็เกิดอุบัติเหตุต่อหน้าต่อตาด้วยความเร็วของรถพอชายหนุ่มล้มตัวของเขากระเด็นไปข้างสนามมิหน้ำซ้ำรถยังกระแทกกับตัววายุจนตอนนี้เขานอนแน่นิ่งไปอีกด้วยตอนนี้เธอเบลอไปหมดภาพตรงหน้าที่มีคนกรูเข้าไปช่วยชายหนุ่มช่างเลือนลางเพราะตอนนี้น้ำตาเธอคลอเบ้า
“คุณไวท์..!!.”
เมื่อมีสติขึ้นมาได้หญิงสาวก็รีบวิ่งรนรานไปดูว่าชายหนุ่มเป็นอย่างไรบ้างทันที
“ข้างนอกเค้ามีอะไรกันอะแก”
ด้วยความที่ห้องด้านในค่อนข้างเงียบป๋อมแป๋มเลยได้ยินเสียงเอะอะโวยวายด้านนอกค่อนข้างที่จะชัด
“นั่นคุณไวท์เกิดอุบัติเหตุนี่”
ณัฐนิชาเหลือบไปดูที่ด้านนอกห้องกระจกเมื่อเห็นว่าทีมงานที่ดูแลทีมของวายุเริ่มวิ่งกรูกันออกไปก็เห็นเต็มๆตาว่าตอนนี้วายุได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุเป็นแน่เพราะนอนแน่นิ่งอยู่กับที่จึงกวักมือเรียกป๋อมแป๋มมาดู
“จริงด้วยเดี่ยวฉันไปดูข้างนอกก่อนนะแก”“คุณผู้หญิงครับคือ...มีผู้ชายนอนจมกองเลือดอยู่ในห้องน้ำไม่ทราบว่ามากับพวกคุณหรือเปล่ารบกวนไปดูหน่อยครับ”ป๋อมแป๋มกำลังจะปิดประตูเดินออกไปแต่ก็มี ร.ป.ภ เปิดประตูเข้ามาเสียก่อนด้วยสีหน้าที่หน้าตาตื่นตกใจอย่างเห็นได้ชัดเรื่องที่ ร.ป.ภ แจ้งนั้นทำเอาทั้งสองสาวที่ใจเสียอยู่แล้วตอนนี้ใจเหมือนหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มเพราะมันมีแต่เรื่องที่ไม่ดีเกิดขึ้นทั้งสองสาวภาวนาอยู่ในใจว่าอย่าเป็นคนที่เธอทั้งสองรู้จักเลย“เราไปดูกันแป๋มหวังว่าจะไม่ใช่คนที่เรารู้จักนะ”ณัฐนิชาชักจะใจไม่ดีแล้วคิดว่ายังไงเธอก็จะต้องไปดูด้วยตัวเองให้เห็นกับตาหากไม่ใช่คนที่รู้จักก็จะได้ไม่ต้องกังวลอีกเรื่องเธอจึงปล่อยให้ลูกทั้งสองของเธออยู่ในห้องนี้ก่อนเพราะคิดว่าไม่นานเธอก็จะกลับมาอยู่แล้วคงไม่เป็นอะไร“ทางนี้เลยครับ” ร.ป.ภ. เดินนำหน้าสองสาวมาอย่างรวดเร็วตอนนี้สองสาวเกาะกุมมือกันแน่นเพราะใจไม่ดีเท่าไรตอนนี้ณัฐนิชาสังเกตเห็นว่าที่หน้าห้องน้ำชายตอนนี้มี ร.ป.ภ ของที่นี่อีกสองสามคนกำลังยืนคุมสถานการณ์อยู่และกำลังโทรเรียกตำรวจและพยาบาลกันเจ้าละหวั่นเพราะเหตุเกิดถึงสองที่ในคราเดียวกัน“คุณเมฆ!!!..
20 นาทีต่อมา“สองคนเป็นยังไงบ้าง”มัทนารู้ข่าวก็รีบบินมาที่เชียงใหม่อย่างเร่งด่วนคราแรกพอรู้ข่าวก็แทบลมจับแต่เมื่อรู้ว่าลูกทั้งสองของเธอปลอดภัยก็โล่งใจขึ้นมาอีกเปราะ“สวัสดีค่ะคุณมัทคุณรงค์ตอนนี้คุณเมฆยังไม่ฟื้นค่ะส่วนคุณไวท์ตอนนี้เข้าเฝือกอ่อนไว้อยู่ค่ะเย็นๆหมอน่าจะผ่าตัดให้ค่ะ”ป๋อมแป๋มยืนลูบหลังให้กำลังใจณัฐนิชาที่นั่งน้าตาไหลไม่เหือดแห้งเอาแต่จับมือม่านเมฆไม่วาง เมื่อเห็นมัทนาและธำมรงค์เปิดประตูเข้ามาก็ยกมือสวัสดีท่านทั้งสองพร้อมบอกอาการของชายหนุ่มทั้งสองให้คนเป็นพ่อกับแม่ของพวกเขาได้รับรู้“นี่เจ้าลูกชายเรามันไปเหยียบหางใครเค้ามาหรือเปล่าถึงได้โดนแบบนี้”ธำมรงค์พอจะมองเหตุการณ์ออกว่าเกิดอะไรขึ้นเหมือนที่ทุกคนสงสัยเพียงแค่ตอนนี้เขาก็เหลือแต่ปรึกษากับตำรวจให้แน่ใจอีกที“พวกเราก็คิดแบบนั้นเหมือนกันค่ะตอนนี้ก็ต้องรอทางตำรวจตรวจสอบอีกทีค่ะ”ป๋อมแป๋มพยักหน้าคือตอนนี้ใครๆก็พอจะมองออกว่ามันไม่ใช่อุบัติเหตุธรรมดาเพราะเป็นไปไม่ได้ที่จู่ๆรถของชายหนุ่มที่ใช้ซ้อมอยู่เป็นประจำและมีทีมงานที่มีฝีมือตรวจสอบอยู่ตลอดจะเกิดเหตุการณ์ขัดข้องกะทันหันจนเป็นสาเหตุให้วายุได้รับบาดเจ็บและจู่ๆเมฆาก็มาโดนทำร้
“เมื่อไรจะตื่นเนี่ยคุณรู้ไหมฉันเป็นห่วงคุณจนเสียการเสียงานแล้วนะ”รินทร์ธาราวางกระเป๋ากับกล่องข้าวที่เธอซื้อมาเผื่อพี่สาวของเธอที่โต๊ะวางของก่อนจะเดินไปจ้องที่ใบหน้าอันซีดเซียวของวายุพูดคุยกับคนที่นอนแน่นิ่งอยู่ด้วยอาการเป็นห่วงแต่คำพูดของเธอก็ดูจะวางฟอร์มเสียหน่อยตามแบบของเธอเอง“จะว่าไปคุณก็หล่อเหมือนกันนะตอนที่นอนนิ่งๆไม่กวนประสาทฉันน่ะ...จมูกก็โด่งคิ้วดกดำปากก็หนา...แต่ก็หัวเถิกไปนิด...หน้าแบบนี้สินะที่พวกสาวๆติดกันแจ...”หญิงสาวก้มลงมองใบหน้าของชายหนุ่มที่หลับตาพริ้มเมื่อได้ลองสังเกตใกล้ๆเธอก็รู้สึกว่าตอนที่เขานอนนิ่งๆแบบนี้มันน่าดูกว่าเยอะเลยพร้อมยิ้มเยาะเมื่อพูดถึงใบหน้าของเขาใบนี้ที่ทำให้สาวๆแทบจะทุกคนติดแจจนเป็นข่าวมาให้เห็นแทบทุกครั้งที่มีการลงแข่ง“อืม...ตัวหอมแล้วนี่นาสงสัยพยาบาลจะมาเช็ดตัวให้แล้วใช่ไหมล่ะ...นอนเป็นผักให้พยาบาลสาวๆดูแลแบบนี้คงจะทำให้คุณสดชื่นไม่น้อยเลยนะรีบๆตื่นมานะจะได้เห็นเวลาพยาบาลเค้าทำอะไรกับร่างกายคุณ...อิๆๆ”วันนี้ที่หญิงสาวพูดเล่นกับวายุและอารมณ์ดีได้ก็เพราะสบายใจที่การผ่าตัดของชายหนุ่มผ่านไปด้วยดีตอนนี้ก็รอแค่ให้ฟื้นตัวเท่านั้นเมื่อพูดคุยกับคนที่
“คุณพ่อนอนนานจังเลยค่ะ”ใยไหมเริ่มสงสัยเพาะเด็กหญิงจำได้ว่าคนเป็นพ่อของเธอนอนที่เตียงนี้มาตั้งแต่เมื่อวานแล้ววันนี้ก็ยังนอนเหมือนเดิมอยู่เลยจึงเอ่ยถามด้วยความไร้เดียงสา“แบบนี้คุณพ่อขี้เซาใช่ไหมคร้าบ”คนเป็นน้องชายก็มีทีท่าสงสัยพอๆกันพลางยืนคิดถึงคำพูดของคนเป็นแม่ที่เวลาตัวเองนอนตื่นสายคนเป็นแม่จะบอกว่าขี้เซาเด็กชายก็มีความคิดว่าคนเป็นพ่อก็คงจะขี้เซาเหมือนที่ตัวเองเคยเป็นเหมือนกันพร้อมเอ่ยถามคนเป็นแม่ด้วยท่าทีสงสัยตามพี่สาว“หืมม...ตอนนี้คุณพ่อไม่สบายค่ะเลยต้องนอนพักอีกไม่นานเดี๋ยวคุณพ่อก็ตื่นแล้วค่ะ”ณัฐนิชาฉีกยิ้มกว้างเอ็นดูกับคำพูดของเจ้าแฝดเหลือเกินก่อนจะบอกเหตุผลให้ลูกๆเธอได้เข้าใจว่าพ่อของพวกเขานั้นไม่ได้ขี้เซาอย่างที่คิด“จุ้บคุณพ่อค่ะ”“โอเคค่ะ.”ณัฐนิชาหันไปหาลูกสาวตัวกลมของเธอด้วยสีหน้าแปลกใจในคราแรกแต่เมื่อนึกขึ้นได้และรู้ว่าลูกของเธอจะทำอะไรก็รีบอุ้มลูกสาวตัวกลมของเธอให้โน้มตัวไปหอมแก้มคนเป็นพ่อที่นอนหลับอยู่ทันที“เดี๋ยวคุณพ่อก็หายแล้วค่ะ”ณัฐนิชาดีใจที่ลูกสาวของเธอนั้นจำพฤติกรรมของเธอได้เมื่อลูกทั้งสองของเธอป่วยเธอก็จะเข้าไปจูบที่แก้มแล้วอวยพรให้หายเร็วๆทุกครั้งแล้วลูกๆข
“โห...สายเปย์งั้นดิ..ฉันขอเข้าทำงานเลยค่ะคุณเจ้านาย”รินทร์ธาราไม่ปฏิเสธที่จะรับข้อเสนอของชายหนุ่มเพราะเรื่องดูแลคนที่ป่วยอยู่เธอก็ถนัดอยู่แล้วอีกอย่างหากเธอเป็นผู้จัดการให้เขาก็จะได้ช่วยคัดคนที่จะมาเข้าทีมของเขาอีกด้วยเพราะเธอไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับชายหนุ่มอีกหนึ่งวันมาแล้วที่เมฆารู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาเมื่อชายหนุ่มรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาวินาทีนั้นมันเหมือนยกภูเขาออกจากอกของณัฐนิชาเธอยิ้มกว้างต้อนรับเขาอย่างดีใจและหลังจากที่เขาตื่นเธอก็คอยดูแลถามไถ่อาการของเขาอยู่ไม่ห่างคอยอยู่ให้เขานั้นเห็นหน้าเธอตลอดเวลา“ทานยาก่อนนะคะ”หลังจากที่ชายหนุ่มทานข้าวต้มและผลไม้ที่พยาบาลนำมาให้เรียบร้อยแล้วหญิงสาวก็จัดการป้อนยาตามทันทีเธอดูแลเขาอย่างไม่ขาดตกบกพร่องเพราะอยากจะเห็นคนตรงหน้ากลับมาแข็งแรงโดยเร็ววัน“ขอบคุณครับ”“ถ้าปวดหัวหรือจะเข้าห้องน้ำเรียกนิได้ตลอดเลยนะคะ”“ครับ”“คุณเมฆอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมคะเดี๋ยวนิจะหามาให้คุณหมอบอกว่าตอนนี้คุณเมฆทานได้แทบทุกอย่างแล้วแต่นิว่าถ้าเป็นของหวานควรจะงดไว้ก่อนเพราะแผลยังไม่หายดีค่ะ”“ผมทานอะไรก็ได้ครับ”“ค่ะ”คำถามและท่าทีที่แสดงถึงความเป็นห่วงเป็นใย
“คือคุณไม่ได้เป็นภาระนิสักนิดเลยนะคะ...คุณอย่าไปเลยนะคะอยู่ที่นี่ช่วยนิดูแลลูกๆได้ไหมคะอยู่กันเป็นครอบครัวอย่างที่คุณเคยขอนิไงคะ...”ณัฐนิชานิ่งงันหลังจากที่ชายหนุ่มพูดจบประโยคเล็กน้อยตอนนี้เธอมีน้ำตาคลอออกมาก่อนจะเข้าไปสวมกอดที่ด้านหลังของชายหนุ่มพร้อมขอร้องให้เขาอยู่กับเธออย่างไม่สนศักดิ์ศรีอะไรทั้งนั้น“คุณนิไม่ลำบากใจแน่นะครับ”“ค่ะ”เมฆายังคงไม่หันหน้าไปหาหญิงสาวเขายังปล่อยให้เธอกอดเขาเอาไว้แบบนั้นก่อนจะถามหญิงสาวให้แน่ใจอีกทีว่าเธอนั้นคิดไม่ผิด“งั้นผมขอถามได้ไหมว่าทำไมเวลาที่ผ่านมาคุณถึงพยายามออกไปจากชีวิตผม”เมฆายังคงตั้งคำถามให้หญิงสาวได้ตอบเขาอยู่ไม่เลิกเมื่อมีโอกาสเคลียใจเขาก็อยากจะเคลียทันทั้งหมดกับเรื่องที่ยังค้างคาใจอยู่“นิแค่ยังกลัวกับเหตุการณ์ในวันนั้นแต่นิพยายามสลัดมันออกไปได้แล้วนะคะอีกอย่างก็คือนิรู้ว่าคุณเมฆไม่อยากมีครอบครัวหากนิกับลูกๆเข้ามาในชีวิตคุณในช่วงเวลาที่คุณเมฆไม่อยากมีพันธะนิคิดว่ามันคงทำให้ครอบครัวมีความสุขไม่ได้หรอกค่ะ...แต่ตอนนี้นิไม่สนอะไรแล้วค่ะจากเหตุการณ์ที่คุณเมฆเจ็บนิรู้ว่าควรใช้ชีวิตตามเสียงหัวใจโดยไม่มีทิฐิจะดีกว่า...เพราะเราไม่สามารถรู้ได้ว่
“อือ...อื้มม...”คนตัวโตก้มลงใช้จมูกสูดดมซอกซอนมาจนถึงพวงแก้มแล้วใช้ริมฝีปากหนาบดจูบริมฝีปากบางอวบอิ่มของเธออย่างดูดดื่มโหยหาส่งลิ้นร้ายเข้าไปตักตวงความหวานจากปากหญิงสาวอย่างไม่มีท่าทีที่จะอิ่มและพอใจกับมันเขายังคงบดจูบเร่าร้อนมากขึ้นเรื่อยๆจนสร้างอารมณ์วาบหวามให้หญิงสาวที่นอนอยู่ใต้ร่างได้ดีพอสมควรมือไม้เรียวของหญิงสาวหาที่เกาะยึดปัดป่ายไม่อยู่สุขจนมาจบอยู่ที่ลำแขนแกร่งเล็บบางจิกลงระบายอารมณ์จนกล้ามแขนแกร่งเป็นรอยบีบข่วนแทบเลือดซิบตอนนี้ทั้งสองเหลือแต่ร่างกายที่เปลือยเปล่าแนบชิดติดกันเพราะเมฆาพึ่งจะสลัดผ้าออกจากตัวเขาเมื่อครู่มือไม้ที่บีบคลึงอยู่ที่สองเต้างามพอดีมือก็สลับกับปากหนาดูดคลึงบีบเล่นไปมาเพื่อเรียกอารมณ์รักให้หญิงสาวนั้นมีความสุขเพลิดเพลินกับบทรักที่เขามอบให้มือเล็กเปลี่ยนที่ยึดเกาะจากลำแขนแกร่งของชายหนุ่มเป็นหมอนนุ่มของเธอบ้างหรือปัดป่ายมาจิกที่ไหล่กว้างของเขาบ้างเพราะอารมณ์วาบหวามเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนเริ่มไม่เป็นตัวของตัวเองชายหนุ่มไม่รอช้าเมื่อตัวตนของเขามันพร้อมแล้วก็ค่อยๆแทรกตัวเข้าไปที่ลำขาเรียวเล็กของหญิงสาวค่อยๆแทรกลำขาแกร่งเข้าไปจนตัวตนของทั้งสองแนบชิดติดกันจนหญ
30 นาทีต่อมา“เด็กๆ”“คุณพ่อขา/คุณแม่คร้าบบ”เมฆาเดินเข้าบ้านพักพ่อกับแม่ของเขาพร้อมกับณัฐนิชาเมื่อเห็นพ่อกับแม่ของเขานั่งเล่นอยู่กับเจ้าสองแสบที่สนามหญ้าหน้าบ้านก็รีบเดินเข้าไปหาทันทีเจ้าสองแสบเมื่อเห็นคนเป็นพ่อกับแม่มาหาก็รีบสิ่งเข้าไปโผกอดเป็นภาพสี่คนพ่อแม่ลูกที่ดูอบอุ่นต่อสายตาคนที่เห็นอย่างมาก“หายดีแล้วเหรอตาเมฆ”“ครับเมื่อเช้าพึ่งไปตัดไหมมาแล้วก็แวะมาที่นี่เลยครับคิดถึงเจ้าสองแสบแย่แล้ว”มัทนาถามไถ่อาการของลูกชายเธอด้วยรอยยิ้มเพราะตอนนี้หน้าตาของลูกชายเธอสดใสขึ้นมากคงเป็นเพราะมีคนดูแลดีอย่างที่สามีเธอบอกจริงๆนั่นแหละ“โอย..โอ้ยย..มัน.ร้อนน..นะคุณ”วายุแทบคายข้าวต้มออกจากปากเพราะรินทร์ธาราเล่นไม่ยอมเป่าให้มันเย็นก่อนที่จะป้อนเข้าปากของเขา“ก็ฉันบอกให้คุณทานเองก็ไม่อยากจะทานมืออีกข้างก็ยังใช้การได้อยู่นี่นา”รินทร์ธารานั่งหน้าเซ็งชายหนุ่มตื่นสายยังไม่พอยังชอบบังคับให้เธอป้อนข้าวอยู่ทุกวันอีกทั้งที่มืออีกข้างก็ใช้ได้“นั่นเสียงเอะอะอะไรกันเหรอคะคุณมัท”ณัฐนิชาที่กำลังกอดหอมเล่นกับลูกเธออยู่ที่หน้าบ้านจู่ๆก็ได้ยินเสียงโวยวายจากในบ้านออกมาเธอพอจะจำได้ว่าเสียงนั่นน่าจะมีเสียงของน้อง